คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ความเจ็บปวดในสองมุม
ทุกๆปีของวันวาเลนไทน์ เมื่อเวลาที่เรามองไปรอบๆตัว สิ่งแรกที่ทุกคนจะเห็น ก็คงเป็นดอกกุหลาบสีแดงที่สื่อความหมายความรักกำลังบานอย่างสะพรั่ง เหมือนดั่งความรักของ ลู่หาน ที่มีต่อ คนรักของเขา...
ลู่หานยิ้มออกมาจางๆเมื่อสายตาหันไปมองช่อกุหลาบเล็กๆที่อยู่ในกำมือ ซึ่งเจ้าของร่างเล็กได้จัดสั่งทำจากร้านดอกไม้ชื่อดังโดยเฉพาะ เพื่อเป็นของขวัญพิเศษแด่คนที่เขารัก เนื่องในโอกาสคบรอบของพวกเขาทั้งสองที่คบกันได้สิบเดือน
ลู่หานกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งเดินทางไปหาคนที่นัดหมายไว้ในร้านอาหารประจำของทั้งสอง ซึ่งที่นั่น เป็นที่ๆทำให้ทั้งสองได้พบกันเป็นครั้งแรก ก่อนจะสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนก่อตัวขึ้นเป็นความรัก
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบร่วมครึ่งชั่วโมง ตรงเป๊ะกับเวลานัดพอดิบพอดี ลู่หานก็รีบก้าวเขาลงจากรถ โดยที่ไม่ลืมจะถือดอกไม้ที่เตรียมมาด้วยจะเดินเข้าไปข้างในร้าน พลางสำรวจหาคนพิเศษสักพัก แล้วจึงสังเกตเห็นหญิงสาว ร่างบาง ผิวขาว อยู่ในเดรสสีชมพูอ่อนๆเข้ากับใบหน้าหวานๆที่ตราตรึงหัวใจของลู่หานตลอดมา...
คนรักของเขากำลังนั่งหันหลังใกล้ๆตรงบริเวณกระจกหน้าร้าน เมื่อลู่หานมั่นใจทุกอย่าง ลู่หานจึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าไปหาเธอโดยทันที
“รอลู่นานมั้ย” ลู่หานเอ่ยทักทายพร้อมทั้งรอยยิ้มหวานๆ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งต่อหน้าเธอ
“ก็ไม่หรอก" แต่เธอกลับตอบด้วยเสียงราบเรียบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึกดีใจเมื่อพบกับชายหนุ่มคนรัก
“สุขสันต์วันคบรอบสิบเดือนของเรา” ลู่หานมอบดอกไม้พร้อมทั้งรอยยิ้มเช่นเดิม หญิงสาวยื่นมือไปรับก่อนจะวางทิ้งลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี พลอยทำให้คนตัวเล็กรู้สึกหน้าเสียนิดๆ
“ลู่หาน เรามีอะไรจะบอก” เธอพูดขึ้นแบบเรียบๆ
“อะไรหรอ”
“เราเลิกกันเหอะ ลู่หาน!” แกรนด์พูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ เพียงแค่ประโยคสั้นๆเท่านั้น ก็ทำให้ลู่หานนิ่งเงียบเหมือนถูกสาป ใบหน้าเรียวหวานกำลังร้อนผ่าวขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะตามมาด้วยหลายคำถาม
“แกรนด์ ไม่ได้ล้อลู่เล่นใช่ไหม แกรนด์พูดโกหกใช่มั้ย!”
“ลู่ แกรนด์ไม่ได้ล้อลู่หานเล่นแน่นอน!”
“ทำไม! แกรนด์ ทำไม!” ลู่หานลุกขึ้นกระชากเสียงดังๆอย่างไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังหันมามอง ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นจนค่อยๆปล่อยน้ำในตาไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้าง
“เพราะว่าแกรนด์มีคนใหม่แล้วนะสิ!” แกรนด์ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะจ้องมองหน้าแบบไม่ละสายตา คำพูดของเธอมันช่างบาดลึกถึงใจของลู่หานเหลือเกิน “ลู่ ลาก่อนนะ”
“ไม่นะ แกรนด์ อย่าไป”
“ผลัก!!” แกรนด์ลงมือผลักลู่หานจะลงไปกองกับพื้น
“ลู่ห้ามแกรนด์ไม่ได้อีก เราจากกันด้วยดีนะ”
เมื่อไร้ซึ่งคำพูดใดๆอีก เธอก็รีบหมุนตัวเดินหนีออกจากร้านไปในทันที ปล่อยให้ลู่หานค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ความเจ็บปวดเริ่มเกาะกินหัวใจลึกเข้าไปเรื่อยๆจนมันจุกทั่วทั้งตัว...
อุตส่าห์ทุ่มลงหมดทั้งใจ แต่ผลของการตอบแทนของคนที่รักและไว้ใจนั้น ก็คือการทำร้ายกันแบบไม่เหลือชิ้นดี
“ลู่หาน” เสียงของแบคเอ่ยขึ้นอย่างอนาทร เมื่อเห็นว่าลู่หานร้องไห้ราวกับเด็ก ก่อนจะเข้าไปประคองคนเป็นน้องไว้
“พี่แบค ฮึก ฮือออ” ลู่หาน คว้าแบคฮยอนเข้ามากอดกระชับไว้จนแน่น ไม่อายสายของใครอีกแล้วทั้งนั้น
“ลู่จ้า อย่าร้องเลยนะ เขาทิ้งเราไปแล้วก็ปล่อยเขาไปเถอะ เชื่อพี่” บ่อยครั้งที่แบคฮยอนจะกลายเป็นคนปลอบประโลมคนอื่น จึงอยากจะทำหน้าที่เดิมให้กับน้องชายสุดที่รักอีกครั้ง
“ทำไมเขาต้องทิ้งผมไปด้วย ทำไม ฮือๆ”
“เป็นเพราะนังนั่น คงชอบคนเลวมั้ง มันเลยทิ้งคนดีๆอย่างแกไป” จีซกพูดแทรกเหมือนเป็นการซ้ำเติม แต่ความจริงก็รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย
“ฉันก็ว่างั้นแหละ แต่ทางที่ดีเลิกคร่ำครวญถึงมันเถอะ คนอย่างมันไม่เหมาะกับแกหรอก สักวันมันต้องเจอเหมือนอย่างแก” ยุริก็เริ่มแค้นแทน แต่จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อเคยเตือนแล้วก็ไม่ฟัง พอมาเจอด้วยตัวเอง ถึงจะรู้สึก
“พี่ว่าเรากลับกันเถอะ ถ้าไม่ไหว พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานก็ได้นะ พี่อนุญาต”
“ผมไหวครับ แค่นี้เอง” ลู่หานฝืนยิ้มทั้งที่รู้สึกว่าเจ็บแค่ไหน หากถึงยังไงก็ยังมีพวกพี่ๆคอยอยู่ให้กำลังใจกัน
ลู่หานได้แค่กำมือแน่นเข้าจนหน้ากลัว เพราะเขาทั้งรักและทั้งแค้นในเวลาเดียวกัน เมื่อรักมาก ความขุ่นเคืองก็ยิ่งมากเท่านั้น.... เขาไม่มีทางปล่อยให้คนทั้งสองมีความสุขแน่ เขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อทำลายความรักของหญิงร้ายชายชั่วนั่นให้พินาศอย่างแน่นอน!
วันนี้เป็นวันจันทร์ คริสเลยต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าด้วยท่าทางสะลึมสะลือ เป็นเพราะเมื่อคืน ออกไปเที่ยวเล่นกับเลย์เสียจนดึกดื่น สภาพเหมือนยิ่งกว่าผ่านสงครามมาหมาดๆ จากนั้นก็เดินเข้าห้องห้อง อาบน้ำ แล้วจึงแต่งตัวในชุดนักธุรกิจมาดเท่ ก่อนจะเตรียมตัวออกจากห้องนอน....
ตอนนี้เขากำลังจะทำหน้าที่เป็นท่านประธานของบริษัทต่อจากบิดา แน่นอนเขาเป็นที่หมายปองของสาวๆมากหน้าหลายตา ในเมื่อคริส มีรูปร่างสูง หน้าตาหล่อเหลายิ่งกว่าเทพบุตร ฐานะร่ำรวย มีบ้านหลังใหญ่ราวกับวัง
แต่ทว่าตอนนี้ เขาไม่คิดจะสนใจพวกผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาจนหัวกระไดไม่แห้งพวกนั้นอีกแล้ว ในเมื่อ หลายวันก่อน เขาได้พบกับหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่ง ที่ทำตราตรึงในหัวใจเขามากเหลือเกิน และหลับตาลงทีไรใบหน้าคนที่ชื่อว่าเลย์ก็ลอยวนเวียนอยู่ในหัวเขาทุกครั้ง
“เพี๊ยะ!” แต่เมื่อขายาวๆของคริสลงบันไดขั้นสุดท้ายไปไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงฝามือตบใบหน้าของผู้เป็นน้องชายจนหันไปตามความแรง ซึ่งคนที่ถูกตบก็ยังคงยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง ปล่อยให้พ่อของตัวเองกระทำตามอย่างอำเภอใจ
เอาอีกแล้ว เกิดเรื่องอะไรกับสองคนนั้นอีกนะ
“ชั้นบอกแกแล้วใช่มั้ย ห้ะ ว่าห้ามออกไปเล่นดนตรีตอนกลางคืนแบบนี้ นี่ชั้นไม่มีแรงจะสั่งสอนแกจนแก่ตายนะเว้ย!”สุดความ คังอินหรือผู้เป็นพ่อของทั้งสอง จะเงื้อมือขึ้นหวังจะตบหน้าของลูกชายตัวเองอีกครั้ง แต่คริสก็รีบร้องห้ามไว้เสียก่อน เลยทำให้มือใหญ่หนานั้นหยุดค้างบนอากาศในทันที ก่อนจะหันหน้าไปหาคนมาใหม่แทน
“เดี๋ยวพ่อ! จะไปตบหน้ามันทำไม” ร่างสูงพูดก่อนจะเดินเข้าไปตรงจุดเกิดเหตุ
“ก็น้องชายของแก มันขัดคำสั่งของชั้น! บอกกี่ครั้งว่าไม่ให้มันออกไปเที่ยวกลางคืน แต่มันก็ยังแอบหนีไปได้”
“แต่ผมแค่ออกไปเล่นดนตรีเฉยๆ ผมไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย” ชานยอลอธิบายทั้งที่เลือดยังไหลออกจากมุมปาก ส่วนผู้เป็นพี่ชายก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะเขาเองเนี่ยแหละที่พาน้องออกไปเที่ยวเอง
“ก็ถูกของมันแหละ พ่อ.... มันก็ไม่ได้ทำตัวเสียหาย ไม่ได้ติดยา หรือฆ่าคนตายสักหน่อย” คริสรีบอธิบายความดีของชานยอลให้ผู้เป็นบิดาฟัง
“แกก็เข้าข้างมันตลอด เดี๋ยวสักวันมันจะเสียคน ฮึย! ...พวกแกสองคนจะรีบไปไหนก็ไป ไป! ฉันไม่อยากเห็นหน้า!” คนเป็นพ่อโบกมือไล่อย่างหัวเสีย
“ครับ ผมกับพาน้องมันไปเรียนก่อนนะครับ”
เมื่อจัดการเรื่องราวเสร็จเรียบร้อย คริสก็รีบลากคอชานยอลออกจากบ้านไป เพราะหมดหน้าที่ยืนเป็นหุ่นขี้ผึ้งแล้ว....
ครอบครัวของคริสมีเรื่องแบบนี้ประจำ ไม่ว่าชานยอลจะทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตาของพ่อตัวเองตลอด... แล้วเรื่องมันก็เป็นเพราะ คังอินเคยมีภรรยาสองคน คริสเป็นลูกภรรยาคนแรก ส่วนชานยอลนั้นเป็นลูกของภรรยาคนรอง เมื่อก่อนพ่อของพวกเขารักลูกๆและภรรยาเท่าๆกัน...
แต่มีอยู่มาวันหนึ่ง ก็มีคนใส่ร้ายแม่ของชานยอลแอบมีชู้ทั้งที่มันไม่ได้เป็นความจริง... ซึ่งผู้เป็นพ่อกลับปักใจเชื่อและยังปฏิเสธคำอธิบายของผู้เป็นภรรยา เลยทำให้แม่ของชานยอล ทุกข์ใจอย่างหนัก และล้มป่วย อาการก็เริ่มทรุดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดแม่ของชานยอลก็จากไปแบบไม่มีวันกลับมา... พอหลังจากนั้น ผู้เป็นพ่อก็เลยพลอยเกลียดลูกชายคนเล็กตั้งแต่นั้นมา
ส่วนมารดาของคริส อีกไม่นานจากเหตุการณ์ร้ายๆ ก็เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำจนทำให้เสียชีวิตคาที่... ตอนนั้น คริสกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเวลาหลายวัน ได้แต่โทษโชคชะตาที่กลั่นแกล้งทำให้ชีวิตของเขาน้ำเน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าว.....
ถึงแม้พวกเขาจะมีทุกอย่างทั้งฐานะ และหน้าตา แต่ยังไงซะ ทั้งสองก็ยังคงขาดความอบอุ่นจากคำว่าครอบครัวอยู่ดี
“แกเจ็บมากมั้ยวะ” คริสหันหน้าไปถามชานยอล ในขณะที่กำลังขับรถไปส่งน้องที่โรงเรียน
“โดนชกจนเลือดเต็มปากซะขนาดนี้ ยังมีหน้ามาถามอีกนะ”
“ชั้นก็แค่ถามเฉยๆ ถ้าแกไม่ไหว เดี๋ยวชั้นจะพาไปหาหมอ”
“ไม่ต้องหรอกครับ โดนจนชินแล้ว แค่นี้สบาย” ชานยอลยักไหล่ตอบอย่างไม่แคร์
“งั้นก็ดี แต่คราวหน้า ถ้าแกมีเรื่องอะไรกับพ่ออีก แกก็รีบเดินหนีออกมาทันทีเลยนะ ไม่ต้องยืนเถียงแบบวันนี้ ไม่งั้น แกก็จะเจ็บตัวเหมือนอย่างนี้อีก”
“ถึงจะหนียังไง พ่อก็ตามหาเรื่องผมยู่ดี”
เป็นอย่างที่ชานยอลพูดไว้จริงๆ.... ต่อให้ติดปีกหนีไปไกลสักแค่ไหนก็คนจะตามราวีหาเรื่องไปทุกที่ ยิ่งเมื่อน้องชายของคริสก็ชอบขัดสั่งของพ่ออยู่เรื่อย ส่วนเขาเองก็เข้าข้างน้องชายจนออกนอกหน้า
“งั้นแกก็ย้ายออกมาอยู่ที่คอนโดชั้นสิ พ่อไม่รู้ว่าชั้นมีคอนโด” คริสพูดเสนอ ซึ่งคอนโดนั้น เขาแอบซื้อไว้ และก็มักชอบพูดแอบอ้างกับชานยอลตลอดว่า ตนจะใช้มันในเวลาที่ทำงาน ที่นั้นมันสงบดี แถมยังใกล้บริษัทของตัวเอง แต่ความจริงเขาเอาไว้ใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่นเสียมากกว่า
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่อยากรบกวน และที่สำคัญไม่อยากได้ยินเสียงครางของพวกพี่”
“แกก็ พูดซะเสียหายหมด... ตอนนี้ฉันเลิกทำแบบนั้นแล้วนะ”
“หรอออออออ”
“เอออออออออ ว่าแต่แกเหอะ จะเอายังไงต่อไป”
“ก็อยู่มันแบบนั้นแหลพะครับ ถึงพ่อจะซ้อมให้ตายคามือยังไง ผมก็จะออกไปเที่ยวเล่นดนตรีอยู่ดี” คำตอบของชานยอล ยังคงหนักแน่นและจริงจัง
คริสได้แต่ส่ายหัวกับความดื้อด้านของน้องตัวเอง... ถึงแม้เจ้าตัวจะดื้อด้านยังไง แต่คริสก็รักอยู่ดี.... สำหรับเขา มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก ที่ทั้งสองรักกันจริงๆ ทั้งที่แต่ละคนก็มีคนละแม่ แถมพ่อของทั้งสองยังรักคริสมากกว่า หากชานยอลกลับไม่รู้สึกอิจฉาแต่อย่างใด
“เอ่อนี่ ว่าแต่แกเหอะ ทำไมไม่หาแฟนสวยๆมาให้ดูเลยวะ แกก็หน้าตาดีเท่าๆกับชั้นเลยนะเว้ย (พูดเข้าข้างตัวเองมากเลยนะเฮีย) แถมยังฮอตอีก เห็นหญิงตามกรี๊ดตลอด”
“ก็ไม่รู้สิ ไม่ได้รู้สึกกับใครเป็นพิเศษ”
“แกพูดอย่างกับไม่ชอบผู้หญิงอย่างงั้นแหละ”
“แล้วถ้าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนที่พี่พูดจริงๆ พี่จะรับได้ไหมครับ” ชานยอลถามด้วยเสียงจริงจัง เพราะตั้งแต่เขากับใครหนึ่งในคืนเมื่อวาน ก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นถี่รัวอย่างผิดปกติ
“รับได้สิ ยังไงแกก็เป็นน้องของชั้น แกรักใครชอบใครชั้นก็เห็นดีด้วยทั้งนั้น”
คริสพูดปลอบใจ เพราะเห็นว่าชานยอลมีสีหน้าเครียดไม่น้อย แล้วถ้าน้องชายของตัวเองชอบเพศเดียวกัน เขาก็รับได้อย่างที่พูดไว้จริงๆ
ขนาดกูยังชอบเลย
.
.
ลองมาดราม่าบ้าง เห็นตลกมาหลายฉากแล้วเน้อ
เพิ่งเอามาลงเรื่องนี้หลังจากห่างหายไปนานเลยทีเดียว
ฝากติดตามด้วยจ้า
ความคิดเห็น