เล่ห์กลสาวงาม - นิยาย เล่ห์กลสาวงาม : Dek-D.com - Writer
×

    เล่ห์กลสาวงาม

    นางเป็นโฉมงามล่มเมือง เป็นประมุขพรรคจันทรา ลอบเข้าไปแคว้นฉีเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เขาเป็นจักรพรรดิแห่งแคว้นฉี ฉายาทรราชผู้โหดเหี้ยม ส่วนนาง เขาเห็นนางเป็นเพียงตัวแทนของสตรีอีกคน สตรีที่เขารัก

    ผู้เข้าชมรวม

    2,840

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    2.84K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    73
    จำนวนตอน :  25 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ค. 67 / 20:24 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เล่ห์กลสาวงาม

    นางเป็นโฉมงามล่มเมือง เป็นประมุของพรรคจันทรา

    ลอบข้าไปแคว้นฉีเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง

     

    เขาเป็นจักรพรรดิแห่งแคว้นฉี ฉายาทรราชผู้โหดเหี้ยม

     

    ส่วนนาง เขาเห็นนางเป็นเพียงตัวแทนของสตรีอีกคน

    สตรีที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกเห็น

     

    และนาง สตรีที่อยู่ข้างกายเขามาเนิ่นนาน

    ทว่าความรักกลับจืดจางตามกาลเวลา

     

    หมายเหตุ เรื่องนี้ค่อนข้างหวาบหวิวนะคะ ไรท์เตือนแล้วนะ!

    และไรท์มีตัดฉาก nc เพื่อให้เหมาะกับ Dek-D นะคะ 

    1 comment = 100 กำลังใจ!

    เครดิตรูปภาพ www.pinterest.com

     

     

    วันงานเฉลิมฉลององค์จักพรรดิ

    เหล่าสาวงามต่างร่ายรำอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ พวกนางล้วนแต่งกายงดงามหวาบหวิวแนบเนื้อและมีท่วงท่างดงามอ่อนช้อย พวกนางร่ายรำพร้อมกับโปรยกลีบดอกกุหลาบ เวลาหมุนตัวพวกนางก็โปรยรอยยิ้มแจกจ่ายให้กับแขกเรื่อที่มาร่วมงาน เมื่อการแสดงจบลงทั่วท้องพระโรงก็เต็มไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ

    แล้วก็ตามมาด้วยการแสดงชุดที่สอง เป็นระบำตีกลอง เหล่าสาวงามต่างตีกลองด้วยท่วงท่างดงามพร้อมเพรียง แรกเริ่มนั้นเป็นจังหวะช้าโศกเศร้า แต่ไม่นานจังหวะกลองก็เปลี่ยนไปกลายเป็นรัวเร็วขึ้นทุกขณะและยังแฝงไปด้วยความหึกเฮิม อยู่ในที

    แล้วก็มาถึงการแสดงสุดท้าย เป็นการดีดพิณจากสาวงาม

    แรกเริ่มนั้นนางล่องลอยมาจากเบื้องบนราวกับอยู่บนสวงสวรรค์ก็ไม่ปานก่อนจะค่อยๆ ลอยลงมายังกลางเวที เมื่อสายตานางสบตาเข้ากับโอรสสวรรค์ นางก็เริ่มบรรเลงพิณทันที

    การแสดงของนางให้ความรู้สึกราวกับกำลังดูนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ดีดพิณให้ฟัง เพียงค่สบตานางก็รู้สึกราวกับต้องมนต์ ตกลงไปในหลุมดำมืด ไม่อาจหาทางออกได้ และตลอดเวลาที่นางดีดพิณ องค์เหนือหัวไม่ได้ละสายตาไปจากนางแม้แต่น้อย... 

    เมื่อการแสดงจบลง

    องค์เหนือหัวทรงตบรางวัลให้นางเป็นทองคำหลายหีบ อีกทั้งยั้งเชื้อเชิญนางให้เข้าไปแสดงการร่ายรำต่อที่ตำหนักของพระองค์อีกด้วย

    เหล่าขุนนนางเมื่อได้ยินต่างก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ทันที

    บ้างก็คิดว่าสตรีนางนี้โชคดียิ่งนัก เพียงแค่ได้พบพระพักตร์ครั้งแรกก็ทำให้พระองค์ทรงลุ่มหลงถึงเพียงนี้ แล้วถ้านางได้ถวายตัวให้องค์เหนือหัวอีกเล่าจะเป็นเช่นไร

    บ้างก็คิดเตลิดไปไกลถึงยามที่ได้กดสตรีนางนี้ไว้ใต้ร่างจะเป็นเช่นไรหนอ...

    นางกำนัลพาสตรีที่องค์เหนือหัวทรงหมายตาไปยังตำหนักส่วนพระองค์ หว่านอี้เดินตามนางไปอย่างว่าง่าย ทุกท่วงท่าของนางล้วนงดงามอ่อนช้อยสมกับเป็นนางรำอันดับหนึ่งโดยแท้ ก่อนนางกำนัลจากไปนางยังหันมากำชับกับหว่านอี้อีกว่า

    “ถ้าเจ้าทำให้ฝ่าบาททรงพอพระทัย ชั่วชีวิตนี้เจ้าก็จะสบาย”

    หว่านอี้หน้าแดงก่ำพร้อมกับก้มหน้าลงทันใด

    และองค์เหนือหัวก็ไม่ทรงปล่อยให้นางรอนาน เพราะพอนางกำนัลออกไป พระองค์ก็ทรงก้าวเข้ามาตำหนักทันที

    เสียงฝีเท้าของพระองค์ทั้งหนักแน่นและมั่นคง เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ก้าวมายืนเบื้องหน้านางแล้ว

    ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือคว้าท้ายทอยของนางพร้อมกับดึงนางเขามาจูบ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้สัมผัสริมฝีปากนาง นางก็พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า

    “เดี๋ยวก่อนเพคะ หม่อมฉันยังมีการร่ายรำอีกชุดจะถวาย”

    “เมื่อครู่เจ้าก็ร่ายรำให้เราดูแล้วมิใช่หรือ”

    “ไม่เหมือนกันเพคะ นี่เป็นการแสดงที่ไม่เคยร่ายรำที่ไหนมาก่อน และหม่อมฉันอยากถวายให้พระองค์ดูเพียงผู้เดียวเพคะ”

    “ได้ เราก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้าจะใช้วิธีไหนมาล่อลวงเราอีก”

    อู่ไท่พูดพร้อมกับปล่อยหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างแสนเสียดาย

    หญิงสาวเดินไปกลางห้องพร้อมกับเริ่มร่ายรำ นางเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าทว่างดงาม

    นางค่อยๆ ปลดเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเองออกช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือไปยังสายรัดเอวของตัวเองและปลดมันออกอย่างเบามือ และตามมาด้วยเสื้อคลุมชั้นถัดมา

    นี่นาง...

    นี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของชายหนุ่ม

    ทว่าเมื่อนางเสนอเช่นนี้ ไยเขาจะไม่สนองเล่า!

    แล้วจู่ๆ นางก็ก้าวขาพลาดกลายเป็นล้มลงกลางอากาศ 

    ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรับนางได้ทันก่อนที่นางจะล้มลงกับพื้น

    ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างเพียงเอื้อม ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวเลยก้มหน้าจุมพิตนางแรงๆ ทีหนึ่ง แต่ก่อนที่จะก้มลงจุมพิตนางอีกครั้ง สตรีในอ้อมกอดก็พูดขึ้นว่า 

    “ฝ่าบาททรงอยากดื่มสุราหรือไม่เพคะ”

    “ไม่อยาก ตอนนี้เราต้องการเพียงเจ้า”

    หว่านอี้ยกมือปิดปากก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

    “ฝ่าบาททรงเย็นพระทัยก่อนเพคะ คืนนี้เรายังมีเวลาสนุกด้วยกันอีกมาก หม่อมฉันแค่อยากรินเหล้าถวายให้พระองค์เท่านั้น”

    อู่ไท่มองสตรีในอ้อมกอดอย่างหลงใหล

    เขารู้สึกราวกับถูกสตรีนางนี้ล่อลวงมากขึ้นทุกที

    เขามองชุดบางเบาแนบเนื้อที่อยู่บนร่างของนางแล้วรู้สึกขัดใจยิ่งนัก

    เพียงแค่กระตุกชุดของนางก็จะคลายออกทันที นั่นยิ่งทำให้ดวงตาของชายหนุ่มดำมืดขึ้นทุกขณะ เพราะเขาอยากเห็นเรือนร่างนี้ที่ไร้อาภรณ์ปกปิดว่าจะงดงามเพียงไร

    หญิงสาวเห็นชายหนุ่มไม่บังคับจูบนางอีก นางเลยหมุนกายออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะรินเหล้าให้เขาและป้อนเขาถึงริมฝีปาก

    “เจ้าก็กินด้วยซิ”

    “หม่อมฉันไม่ชอบดื่มเหล้าเพคะ”

    “เราให้เจ้าดื่ม เจ้าก็ต้องดื่ม” 

    อู่ไท่พูดอย่างวางอำนาจก่อนจะก้มลงจุมพิตนางอีกครั้ง

    ริมฝีปากของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าราวกับต้องการมัวเมานางให้ลุ่มหลงเฉกเช่นเดียวกัน หญิงสาวส่งเสียงอู้อี้ประท้วงอยู่ในลำคอ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยนาง

    ลิ้นของเขาพัวพันเข้ากับลิ้นของนางอย่างแนบแน่น แต่เพียงไม่นานเขาก็ฟุบลงบนหน้าอกนาง!

     

     

    ไรท์มีช่อง Youtube แล้ว ฝากติดตามด้วยจ้า :)

    คลิกที่รูปด้านล่างได้เลย!

     

     

    นิยายเรื่องอื่นๆ ของไรท์จ้าา ฝากติดตามด้วยน้าา ^^

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น