6 ข้อข้องใจทำไมคนมีรักมัก"นอกใจ"

เนื้อเรื่อง

ผิดหวัง

6 ข้อข้องใจทำไมคนมีรักมัก “นอกใจ”

เรื่องความรักไม่เคยเข้าใครออกใคร มันมักเกิดขึ้นแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ผิดที่ผิดเวลา บางคราผิดเพศเสียด้วยซ้ำไป กลายเป็น “คนที่ใช่ ในเวลาที่ผิด” ใครบางคนบอกไว้ ความรักออกแบบไม่ได้ฉันใด มันมักเลือกว่าจะเกิดขึ้นกับใครไม่ได้ก็ฉันนั้น ลองมาวิเคราะห์กันว่าสิ่งที่เรียกว่า ความรัก ที่มักจะเกิดขึ้น นอกหัวใจ ทุกวันนี้ นอกจากจะมีสารเคมีหลั่งจากสมองไหลลงความรู้สึกและสั่งการว่าเป็นความรักแล้ว ยังมีอะไรมากกว่านี้ที่ทั้งสนับสนุนและคัดค้านความรู้สึก “ความ (รัก) นอกใจ” อีกบ้าง


เหตุผลยอดนิยม ทำไมเขาหรือเธอถึงนอกใจ
- สิ่งแวดล้อมที่คนคนนั้นเติบโตมา
- มีแรงจูงใจจากเพื่อนฝูงคนรอบข้างที่มักจะมีกิ๊กกันง่ายดาย ไม่ยี่หระต่อหัวใจใคร ๆ
- รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ทำให้ต้องประชดเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม
- ประสบการณ์จากรักครั้งก่อน สอนให้เขาหรือเธอไม่อาจเผชิญกับความจริงได้ จนต้องหลอกตัวเองด้วยการมีรักนอกหัวใจไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความเคยชิน
- มั่นใจในตัวเองจนไร้สติ คิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก
- เลือกไม่ได้ เพราะใจมันพลาด มันเกิดขึ้นไปแล้วนี่นา

ผิดไหมที่รักเธอ (คนมีเจ้าของ)
หลายคนที่แอบรักคนมีเจ้าของ อาจไม่ได้เป็นปลื้มอยู่กับอารมณ์รักจนหูตาลืมไม่ขึ้น เหมือนรักธรรมดาทั่วไป ทว่าประหนึ่งความรักต้องห้าม การแอบรักคนมีเจ้าของมักมีความรู้สึกผิดแถมมาด้วยเป็นแจ๊กพอตที่ไม่อยากได้สักเท่าไหร่ ภายใต้จิตสำนึกของคนเราที่ไม่อยากครอบครองอะไรก็ตามที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ยกเว้นซะแต่คุณคือตัวร้ายในละคร ที่แค่อยากจะเอาชนะคนอื่นก็เท่านั้น เป็นกิ๊กของแฟนคนอื่นนั้น

นอกจากไม่สนุกแล้ว คุณยังต้องหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกที่ชอบพิพากษาตัวเองอยู่ตลอดเวลา และมักจะหาเหตุผลให้ความรักของคุณอยู่เสมอ ซึ่งหาอย่างไรก็หาไม่เจอ เพราะความรักมักไม่มีเหตุผลนั่นเอง ฉะนั้นหากสิ่งที่เกิดขึ้น มันคือความรักจริง ๆ แล้วละก็ เลิกหาคำตอบและเหตุผลเข้าข้างตัวเองเถิด รักก็คือรัก ไม่มีถูกหรือผิดเหมือนในตำรา เลิกพิพากษาและจมจ่อมกับความรู้สึกผิดนั้น เพียงแค่ต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวคุณเองให้...เข้าทาง


กิ๊ก หรือชู้ มีอะไรกั้นอยู่ระหว่างสองคำนี้
นักจิตวิทยาท่านหนึ่งเคยยกตัวอย่างความสัมพันธ์ฉัน ชู้ แบบเป็นรูปธรรมขึ้นมาว่า “ขึ้นชื่อว่าเป็นชู้ ไม่ต้องถึงกับมีเซ็กซ์กัน เพียงแค่เล่นหูเล่นตา หรือว่าจูบ ก็ถือว่าเป็นชู้ทางใจได้แล้ว” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ผิดกฎหมาย หากแต่เป็นการลืมโฟกัสเรื่องจริยธรรมไปชั่วขณะ อารมณ์พลุ่งพล่านนั้นเกิดขึ้นได้ในเสี้ยววินาที

แต่นั่นไม่ใช่ความรัก เป็นเพียงแค่ความพึงพอใจเท่านั้น คำว่า ชู้ จึงต้องมีอารมณ์พิศวาสหลงใหลใส่ลงไปด้วย ทว่า กิ๊ก นั้น เป็นเพียงที่พึ่งทางใจ พึ่งพาอาศัยความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน รักกันน่ะรักอยู่ แต่ไม่มีเป้าหมายร่วมกัน โดยที่ไม่ต้องยอมรับเงื่อนไขใด ๆ ของฝ่ายตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นสองคำนี้ต่างกันตรงความสัมพันธ์ที่มีเพียงเส้นบาง ๆ กั้นอยู่ และแหม ฟากนู้นก็งามล่อตาอยากชะเง้อหน้าข้ามเส้นไปสัมผัส ใกล้ ๆ จัง

ใครบางคนกล่าวประโยคนี้ไว้ ทว่าความจริงไม่เป็นอย่างนั้น คนเราเริ่มใหม่ได้เสมอ ความรักออกแบบไม่ได้จริง ๆ ครั้งหนึ่งคุณอาจตกหลุมรักคนมีเจ้าของด้วยความไม่ทันตั้ง (หัว) ใจ แต่ครั้งหน้าฟ้าใหม่เมื่อหัวใจหายช้ำ คุณอาจจะไปพบรักกับใครที่ไร้มลทินก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการและชะตาลิขิตอีกครึ่งหนึ่ง


จริงหรือไม่?? ผู้ชายมักเป็นฝ่ายนอกใจ (ก่อน) เสมอ
ใครหนอบังอาจมาปลูกฝังค่านิยมนี้ใส่ทัศนคติผู้หญิงทั้งโลก ถ้าไม่ใช่การกระทำของผู้ชายซะเอง มีผลสำรวจออกมาแล้วว่า.... “ไม่เสมอไป” มีบ้างเหมือนกันที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายนอกใจก่อน ส่วนหนึ่งมาจากรูปลักษณ์ และทางเลือกที่มีเข้ามาในชีวิตของเธอมากมาย แต่สำหรับผู้ชายนั้น ชอบใช้สัญชาตญาณความเป็นชายอวดอ้าง ต่างเพศก็ต่างเหตุผล ตราบใดที่ยังมีคำถามแบ่งเพศแบบนี้เกิดขึ้น


“สัญญาณนอกใจ” สังเกตได้จากเขาหรือเธอมีอาการ....
- ใส่ใจตัวเองมากขึ้นจนผิดสังเกต (แม้จะใช้ไม่ได้กับทุกกรณี แต่ก็เป็นส่วนหนึ่ง)
- ใส่ใจกับคำพูดลอย ๆ ของคุณมากเกินเหตุ
- ผิดเวลาเกินกว่าปกติ ทำลับ ๆ ล่อ ๆ- และ...คุณเองก็รู้แก่ใจว่าอะไร ๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว ลองตั้งข้อสังเกตด้วยตัวเองด้วยความไม่หวาดระแวง
- และอื่น ๆ อีกมากมาย

ไม่ว่ารักจะเกิดขึ้นแบบไหน ข้างนอกหรือข้างในใจ ก็คือความรักเสมอ เพียงเลือกจะจัดการให้เข้าที่เข้าทาง อยู่ในที่ที่ควรอยู่ และเรียบเรียงไม่ให้ไปเกะกะหัวใจใครต่อใคร ความรักก็ไม่เคยคิดจะเที่ยวไปทำร้ายใครอยู่แล้ว.

จากsanook.com