: Register :
Skill Status : 200
ฉลาด - 70
ป้องกันตัว - 50
ความตื่นกลัว - 0
จิตใต้สำนึก - 30
จู่โจม - 20
ควบคุมสติ - 30
ชื่อ ทศวรรษ บริวารพิวัฒน์ (โทสต์ ) อายุ 18 ปี
ส่วนสูง 176 น้ำหนัก 63
เกิดวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2541
สิ่งที่ชอบ : หนังสือ, ดนตรี ,ชอบการอยู่นเดียว ,การใช้สมอง , ปริศนา
สิ่งที่เกลียด : คนเสียงดัง,คนใช้อารมณ์,ผู้หญิง
ความสามารถพิเศษ : เล่นดนตรีแซกโซโฟน , ความรอบรู้
ประวัติทางการแพทย์ : มีอาการทางประสาท จนต้องบำบัดอยู่ในโรงพยาบาลถึง 1 ปี ( แต่จริงๆแล้วไม่ได้มีนะ )
คำพูดติดปาก : งั้นหรอ , หึ , หึหึ
นิสัยคราวๆ : เป็นคนเงียบขรึม เป็นคนที่ภายนอกดูเย็นชา แต่ก็แฝงไปด้วยความโอนโยนผ่านทางแววตา อยู่ที่แต่ละคนจะสังเกตุเห็น ชอบการอยู่คนเดียวไม่สุงสิงกับใคร ยามเห็นคนเดือดร้อนก็จะเข้าไปช่วยเหลือเสมอ
**คติระจำตัวละคร : ถ้าการที่ชั้นสามารถผ่านอะไรชีวิตมาได้ในขนาดนี้แล้วชั้นยังมีความกลัวในจิตใจ ชั้นว่าชั้นสมควรไปตาย!!!
ความกลัว ความตาย ผี สัตว์อันตราย หรือแม้กระทั่ง ฆาตกร ไม่มีวันทำให้ชั้นกลัว เพราะถ้าความตายมันทำให้ชีวิตของชั้นจบสิ้น มันคงดีกว่าการที่ต้องทนทุกข์ทรมานที่จะอยู่!!!!
..............................................................................................................................
ประวัติส่วนตัว : ทศวรรษ บริวารพิวัฒน์ หรือโทสต์เค้ามีความสามารถในทุกๆด้าน เพราะครอบครัวส่งไปเรียนทั้งยิงปืน ยิงธนู กีฬาต่างๆที่สามารถจะใช้ป้องกันตัวได้ และเป็นลูกของเศรษฐี ที่มีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า พ่อของเค้าชื่อ สหัสวรรษ บริวารพิวัฒน์ (หัส) ส่วนแม่ของเค้าชื่อ ธณวรรณ บริวารพิวัฒน์ ครอบครัวของเค้าทำกิจการเกี่ยวกับการส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของจังหวัดกรุงเทพมหานคร แต่ต่อมา บริษัทของครอบครัวเค้าก็ต้องล้มละลายลงไป ไม่ใช่ความซบเซาของเศรษฐกิจ แต่เป็นเพราะ คนสนิทของคุณแม่เป็นคนยักยอกเงินในบริษัทไปหลายสิบล้านบาท ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงโดยฉับพลัน เป็นหนีมากมายมหาศาล ทำให้พ่อและแม่ของเค้าเครียด และสุดท้ายก็ได้ยิงตัวตายกันทั้งคู่ต่อน่าต่อตาของโทสต์ ที่กำลังเข้ามาบอกความจริงเกี่ยวกับคนที่โกงบริษัท และหลักฐานทั้งหมดที่โทสต์เก็บได้ ตอนนั้นโทษอายุได้ 15 ปี ก็ตกใจเป็นอย่างมาก ทั้งเสียใจทั้งผิดหวัง ทั้งแค้นคนที่โกงบริษัทของพ่อแม่ตน หวังจะคิดแก้แค้นให้พ่อแม่ที่ตายไป ก็เลยโทรศัพท์บอกตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ และเล่าเหตุการ์ณต่างๆให้ จนท. ฟัง รวมทั้งหลักฐานการโกงบริษัทด้วย แต่โชคร้ายที่ตำรวจและใครๆต่างก็ไม่เชื่อในหลักฐานนั้น มิหน่ำซ้ำยังถูกคนอื่นกล่าวหาว่าบ้าอีก ทำให้โทสต์ที่ไม่มีญาติที่ไหนเลยต้องไปยังสถานบำบัดเด็กกำพร้า ทำให้เค้ารู้สึกโดดเดี่ยว เหงา เศร้า และใช้ชีวิตอยุ่ในนั้นก่อนที่จะโดนปล่อยตัวออกมาให้ใช้ชีวิตบนโลกภายนอก ตอนที่อยุ่ในสถานบำบัดนั้นโทสต์ก็สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ถึงยังโดนแกล้งจากเด็กคนอื่นๆ แต่ก็ยังมีเพื่อนผู้ชายขี่ม้าขาวมาช่วย โทสต์รู้สึกดีกับเพื่อนคนนั้นมาก เค้าเป็ยนคนที่เข้าใจโทสต์ และรู้ว่าโทสต์ไม่ได้บ้า แต่สุดท้ายหลังที่ออกมาจากสถานบำบัดนั้นก็ไม่ได้บอกคงามรู้สึกออกไป พอโทสต์ออกมาก็ตรงไปบ้านย่าของคุณแม่ที่เป็นบ้านหลังเล็กๆที่ไม่โดนยึดทรัพย์(สมบัติของคุณย่า) เพื่อเป็นี่พักผิง รอบบริเวณเต็มไปด้วยธรรมชาติแม่น้ำสายเล็กๆต้นไม้น้อยใหญ่ ที่โทสต์ไม่คิดว่าจะมีในเมืองหลวงแบบนี้ แต่เมื่อโทสต์นึกได้ว่าตอนนี้เค้าอยุ่คนเดียว ยังไงเค้าก็ต้องหางาน สุดท้ายเค้าก็ได้งานที่บาร์แห่งหนึ่ง ช่วงหัวค่ำเค้าเป็นนักดนตรีแซกโซโฟน ช่วงดึกๆเค้าจะเป็นบาร์เทนเดอร์ งานทั้งสองและสมบัติที่เค้าพอจะเหลืออยุ่ ก็พอประทังชีวิตเค้าไปได้แบบไม่ลำบากมากนัก แต่ด้วยความที่เค้ายังเรียนไม่จบ เค้าจึงต้องสมัครเรียน และเผอิญไปเห็นใบปลิวของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โทสต์จึงลองสมัครไปดู....
..........................................................................................
เหตุผลที่สมัครร่วมโครงการนี้ : จะเรียนต้องมีเหตุผลด้วย งั้นหรอ..... เอาเป็นว่า ค่าเทอมมันถูกละกัน
บ้านที่อยากอยุ่พร้อมเหตุผล : บ้านม่านดวงจันทร์ เห็นในใบปลิวบอกว่าสงบ ก็ตามนั้นล่ะ
คิดว่าโฮสต์แต่ละคนเป็นอย่....อย่า ...ง : ไม่รู้ !(ตอบตัดบท)
.........................................................................................................
รับได้มั้ยถ้าลูกๆต้องตาย : พ่อแม่ชั้นตายไปแล้ว
อะ.. เอ่อ.... งั้นเปลี่ยนคำถามใหม่
รับได้มั้ยถ้าตัวเองต้องตาย : ยังไงสักวันก็ต้องตาย จะตายเร็วตายช้าไม่เห็นจะเป็นไร
ถ้าได้รับเลือก สามารถเข้ากรุ๊ปไลน์ของบ้านแต่ละหลังได้ไหม : ไม่มีปัญหา
มีเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงใน 1 อาทิตย์เพื่อเข้ามาส่งงานใช่ไหมอ่า : ชั้นว่างตลอดเวลา ตกลงจะรับเข้าเรียนได้หรือยัง ?
ความคิดเห็น