การรักษา และการดูแลเด็กที่สมาธิสั้น ให้สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้ - การรักษา และการดูแลเด็กที่สมาธิสั้น ให้สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้ นิยาย การรักษา และการดูแลเด็กที่สมาธิสั้น ให้สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้ : Dek-D.com - Writer

    การรักษา และการดูแลเด็กที่สมาธิสั้น ให้สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้

    ผู้เข้าชมรวม

    73

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    73

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 มิ.ย. 67 / 17:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

          

    โรคสมาธิสั้น (ADHD – Attention Deficit Hyperactivity Disorder) คือ ภาวะผิดปกติทางจิตเวชที่ส่งผลให้เด็กสมาธิสั้นกว่าปกติ ขาดการควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้มีอาการซุกซน วอกแวกง่าย ไม่อยู่นิ่ง หงุดหงิดง่าย เวลาที่พูดด้วยจะไม่ตั้งใจฟังและเก็บรายละเอียดไม่ค่อยได้ ขาดความรับผิดชอบ พบได้ค่อนข้างบ่อยในเด็กที่มีช่วงอายุระหว่าง 3 – 7 ปี โดยสาเหตุการเกิดโรคสมาธิสั้น มาจากหลายปัจจัย อย่างปัจจัยทางพันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคสมาธิสั้น เด็กจะมีโอกาสเป็นมากขึ้น 4-5 เท่า รวมถึงปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น มีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น คลอดก่อนกำหนด ได้รับสารตะกั่ว ควันบุหรี่ สุรา รวมถึงการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เช่น ให้เด็กดูโทรทัศน์หรือเล่นเกมเป็นเวลานาน แม้อาจไม่ใช่สาเหตุหลักโดยตรง แต่มีส่วนสำคัญที่ทำให้เด็กมีอาการสมาธิสั้นมากขึ้นได้

    การรักษาเด็กที่มีสมาธิสั้นหรือ ADHD 

    1.การบำบัดทางพฤติกรรม

    การบำบัดนี้มุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผ่านการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การตั้งเป้าหมาย, การใช้ระบบรางวัล, การสอนทักษะการจัดการกับอารมณ์ และการฝึกทักษะการจัดการกับเวลา

    2.การใช้ยา

    ยาบางชนิดสามารถช่วยในการจัดการกับอาการของ ADHD โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่เรียกว่า "stimulants" (เช่น เมทิลเฟนิเดต) ซึ่งช่วยในการเพิ่ม และปรับปรุงการสนใจ ความสม่ำเสมอของพฤติกรรม และการควบคุมอารมณ์ บางครั้งอาจใช้ยาประเภทอื่นเช่นยาต้านซึมเศร้า 

    3.การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม

    การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพื่อลดการรบกวน และเพิ่มการสนับสนุนจากครอบครัว โรงเรียนสามารถช่วยเสริมสร้างความสามารถในการจัดการกับ ADHD ได้ เช่น การจัดตารางการเรียนการสอนให้มีโครงสร้างและเสถียรภาพมากขึ้น การมีกิจกรรมที่กระตุ้นการเรียนรู้ผ่านการทำมือหรือการเคลื่อนไหว

    4.การฝึกสมาธิและการฝึกสติ

    กิจกรรมเช่น โยคะ, การทำสมาธิ, หรือการฝึกสติอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อและลดความกระวนกระวายได้

    5.การศึกษาพิเศษและการสนับสนุนทางการเรียน

    การได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษ หรือการมีแผนการเรียนการสอนที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเด็กๆ ที่เป็น ADHD อาจมีประโยชน์มาก

               เด็กสมาธิสั้น จำเป็นต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือจากครอบครัวเป็นพิเศษ ครอบครัวต้องเข้าใจ ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหานี้ คือ พ่อแม่ควรใช้ความพยามยามในการทำความเข้าใจกับเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นให้มากๆ หรือถ้าผู้ปกครองท่านไหนยังเริ่มจับจุดไม่ถูกว่าควรที่จะต้องทำยังไงก่อนดี แนะนำให้พาเด็กไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินอาการ และบอกวิธีในการปฏิบัติตนกับเด็กได้อย่างถูกต้อง บางโรงพยาบาลมีให้ปรึกษากับแพทย์ทางออนไลน์ได้ด้วย อย่างโรงพยาบาล นนทเวช เพื่อลดผลกระทบจากการดูแล และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ ส่งเสริมจุดเด่น ทำให้เด็กสามารถประสบความสำเร็จและปรับตัวอยู่ร่วมกับสังคมอย่างปกติได้ค่ะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×