คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : วันสุดทรหด (?)
วันสุดทรหด (?)
วันนี้เซซีล่าค่อนข้างตื่นเร็วมากเป็นพิเศษ (เพราะโดนปลุกโดยพี่ทั้งสาม) เพื่อไปโรงเรียนเวทย์ฟีโอไวท์ที่เธอสอบติดเมื่อหลายวันก่อนพร้อมกับพี่ๆที่สอบติดเมื่อปีก่อนๆ โดยทั้งสามให้เหตุผลตรงกันว่าแม้โรงเรียนจะมีคนแค่ไม่กี่ร้อยคน แต่บรรดาคณะญาติที่มาส่งลูกหลานเข้าเรียนได้สร้างความวุ่นวายให้เจ้าหน้าที่เวทย์สายตรวจ รวมถึงการจราจรเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทางบกหรืออากาศ ฉะนั้นการไปโรงเรียนตั้งหกโมงเช้าเป็นถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด นี่ขนาดข้าวเช้ายังต้องเสกขึ้นมาทานในรถม้า ดีนะไม่ต้องอาบน้ำแต่งตัวที่นี่ด้วย
แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้เข้าใจและประจักษ์ถึงสัจธรรมที่แท้จริงของพี่ชายทั้งสาม เพราะขณะนี้เวลา 6.05 น. การจราจรก็ติดขัดแบบไม่กระดิกเลยแม้ครึ่งมิลลิเมตร จึงเป็นเหตุที่เธอต้องเดินขาลากทั้งที่ใส่กระโปรงตั้งแต่ถนนใหญ่จนถึงทางเข้าโรงเรียนอันเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร แม้ทางจะไม่ได้กันดาลเป็นเป็นถนนดินลูกรังหรือถนนดินดูดทรายดูด แต่ต่อให้เดินตัวปลิวบนถนนปูพรมบนคอนกรีตแล้วต้องเดินขึ้นลงแบบเนินคล้ายภูเขา ทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมร่างกายมากก่อนมันก็เหนื่อยไม่ใช่เล่น ไหนจะยังมีกระเป๋าเสื้อผ้าสัมภาระหนังสือเรียนอีกหลายกิโลที่สะพายหลังอยู่ ต่อให้ยืนอดหลับอดนอนสองวันสองคืนยังไม่เหนื่อยเท่านี้เลย (แล้วเธอจะถอนคำพูด)
หลังจากเข้ามาพ้นประตูโรงเรียนตูรั้วโรงเรียน ก็จะได้ค้นพบบรรยากาศที่แตกต่าง เพราะถึงแม้ข้างนอกจะมีผู้คนมากมายมายืนอาลัยอาวรณ์ ส่งลูกหลานเข้าโรงเรียนกึ่งสถานทรมานบำบัดพัฒนาเวทย์ (?) แต่ภายในนั้นไม่ได้มีฝูงชนเดินวุ่นวายเหมือนวันสอบเมื่อหลายวันก่อน ออกจะบางตาจนแทบจะไม่มีคนเลย เสียงดังจอแจจากข้างนอกรั้วไม่ได้ถูกส่งเข้ามาในโรงเรียนให้ปวดหัว เพราะทุกอย่างดูเงียบสงบอาจจะปนสงัดเล็กน้อย ตอนนี้โรงเรียนที่ครั้งก่อนหันไปทางไหนก็เจอแต่อาคารเปล่าๆสีขาวสะอาด ยามนี้มีริบบิ้นสีทองประดับตกแต่งเต็มไปหมด แต่นั้นก็ไม่ได้รกหูรกตาแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีต้นไม้ดอกไม้หลากพันธุ์ในกระถางด้านหน้าอาคารเพื่อเพิ่มสีสันให้ดูร่มรื่นน่าอยู่น่าเรียนขึ้นไปอีกเป็นกอง สิ่งเดียวที่เธอเห็นว่าเคลื่อนไหวอย่างเป็นประโยชน์ในขณะก็คงเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดมากมายทั้งไม้กวาด ไม้ขนไก่ ไม้ถูพื้น ที่ถูกควบคุมด้วยภูตแม่บ้านร่างอวบ 2-3 ตน ที่บินวนไปวนมา
“อยากดื่มน้ำไหมเซย์ เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้” พี่วออันพูดขึ้นถึงแม้สภาพตัวเองจะไม่ได้ดูดีไปกว่าหญิงสาวมากนัก ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยหยดเหงื่อเม็ดเล็ก ผมสีน้ำตาลที่ถูกสไลด์ยาวประบ่าปลิวตามลมจนเสียทรง ชุดเครื่องแบบสีขาวแขนยาว ตอนนี้ก็เปียกชุ่มเหมือนพึ่งเอาไปจุ่มน้ำ ริมฝีปากในตอนนี้แห้งแตก ตาสีมรกตมองเธอด้วยความเหนื่อยหอบปนเป็นห่วง ถ้าเป็นคนอื่นที่มองภาพนี้อยู่คงเป็นลมล้มพับกับความหล่อเซ็กซี่สะท้านปฐพีของพี่ชายคนนี้แน่นอน แต่นั่นมันไม่ใช่กับเธอ
“เซย์คงไม่กล้าใช้องค์รัชทายาท หรือเจ้าชายองค์ไหนไปอีกนานเลยหละคะ” เซซีล่าพูดประชดประชันพี่ชายทั้งสามที่เดินมายืนเรียงแถวทำหน้าสำนึกผิดอย่างพร้อมเพรียง และเธอก็คงขยาดการทำดีแบบผิดปกติ การเอาอกเอาใจอย่างเกินความจำเป็น การตามใจแบบไม่มีเหตุผลจากคนรอบข้างไปอีกนาน ซึ่งต้นเหตุมันก็ไม่ได้เริ่มขึ้นจากใครที่ไหนถ้าไม่ใช่องค์ชายทั้งสามคนเบื้องหน้าเธอในขณะนี้นั่นเอง
ย้อนไปเมื่อวันก่อน
“เซย์พี่ขอร้องหละ ไม่งั้นต้องแย่จริงๆนะเซย์” เสียงเวอานยังคงดังอ้อนวอนน้องสาวต่างสายเลือดที่ตอนนี้นั่งทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะอยู่ดีๆจะให้เป็นละครว่าเป็นแฟนกับพี่เวอาน ถึงแม้พี่คนนี้ จะทั้งหล่อ ทั้งเท่ ทั้งดูดี บวกมีเสน่ห์ เอาใจเก่ง กับบ้านรวยอีกนิดหน่อย แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรไร้สาระ ถึงแม้จะไม่เคยปฎิเสธคำขอของพี่ๆเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ถ้าไม่มีเหตุผลดีๆเธอก็คงไม่ยอมเหมือนกัน
“ก็พี่ไม่ชอบเขานี่ แล้วถ้าพี่ไม่พาเซย์ไปหา เขายืนยันเลยนะว่าเขาจะบุกวัง แล้วพี่ก็อ้างชื่อเซย์ไปแล้ว ช่วยพี่หน่อยเถอะ ถือว่าตอบแทนที่พี่ทั้งคอยดูแลช่วยเหลือเซย์ทุกอย่าง สอนเวทย์ไปหลายบท ซื้อน้ำซื้อขนมให้ เซย์จะทิ้งพี่ลงเชียวหรอ” นั่นไง ไอ้เราก็ว่าแล้วว่ามันแปลกๆ เห็นทำดีประคมประหงมเช้าเย็น ปรนนิบัติพัดวีให้ไม่ขาด เอาอกใจสารพัด ที่แท้ก็มีจุดประสงค์แอบแฝงนี่เอง ก็คิดว่ารักน้อง คิดถึงน้อง ห่วงและหวงน้อง แล้วยังมีการมาทวงบุญคุณย้อนหลังซะอีก พี่อีกสองคนแทนที่จะห้ามกลับเห็นดีเห็นงามเห็นด้วยไปซะอย่างนั้น เดี๋ยวก็ใช้เวทย์เสกความธนูเข้าทองซะหรอก
“นั่นสิเซย์ช่วยเวอานมันหน่อย ได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ ลองคิดดูนะ เซย์ก็ไม่ต้องกลัวมีใครมาเกาะแกะ ส่วนเวอานก็ยังจะได้เป็นชายที่บริสุทธิ์ต่อไป” พี่วออันพูดเรื่องผลประโยชน์โดยการชักทั้งแม่น้ำทะเลภูเขาทั้งห้าหกสาย พร้อมตบไหล่พี่เวลาที่ตอนหน้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทำตาปริบๆ
“นานแค่ไหนคะ” เซซีล่าถาม เพราะเรื่องผู้หญิงต้องยอมรับว่าพี่เวอานนั้นอ่อนหัดสุดๆ พูดปฏิเสธผู้ชายด้วยกันยังทำไม่เป็น ตัวเองก็เก่งเวทย์ใช่เล่น น่าจะใจกล้าหยิบคฑามาร่ายเวทย์สักบทสองบทลดเสน่ห์ตัวเองลง เรื่องมันก็อาจจะไม่ต้องลามมาถึงเธอ
“แค่ให้ผู้หญิงคนนั้นเลิกยุ่งกับพี่เวอานก็พอ” พี่วออันพูดโดยมีลูกคู่ข้างหลังพยักหน้ารับอย่างรู้การรู้งาน
“จะช่วยเท่าที่ทำได้นะคะ” และในที่สุดหญิงสาวก็ต้องจำใจตอบรับในที่สุดเพราะตอนนี้พี่ชายทั้งสามเริ่มจะเปลี่ยนจากยืนคุยเป็นนั่งคุกเข่าขอร้องซะงั้น ใจก็นึกสงสารพี่ชายที่อาจจะถูกกระทำชำราวจากหญิงสาวคนนั้น ซึ่งมันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง อีกอย่างถ้าเก็บเรื่องนี้ไปแบล็คเมทีหลังก็ยังเป็นผลดีกับเธออีก (ความคิดชั่วร้ายบังเกิด)
ขออนุญาตจบการย้อนอดีตเพียงเท่านี้...
“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนี้เลยนะคะ คิดแล้วยิ่งอารมณ์เสีย” เซซีล่าไล่ตามองพี่ชายที่ก้มหน้าสำนึกผิดแบบไม่พอใจเพื่อเป็นการแกล้งพี่วันละนิดจิตแจ่มใส (?) ก่อนจะเสกน้ำขึ้นมา โดยขวดแรกเป็นชามะนาวผสมน้ำผึ้งเดือนห้าของโปรดของพี่วออัน ขวดที่สองเป็นน้ำชารสจืดชืดแต่เป็นน้ำโอชะของเวอาน ขวดสุดท้ายเป็นน้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ของโปรดพี่วีอา ก่อนเสกน้ำเปล่าหนึ่งขวดให้ตัวเองก่อนแจกให้กับพี่ๆทำหน้าซึ้งอยู่
“เซย์มาเช้าจังเลย มากับใครหละเนี่ย” เสียงใสดังขึ้นทำให้สามหนุ่มหล่อและหนึ่งสาวงามต้องหันไปตามเสียงของสาวน้อยน่ารักแม้จะอยู่ในชุดเครื่องแบบสีเรียบของโรงเรียน ซึ่งนั่นก็คือ บลาว ที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนสาวอีกสามคนที่เซซีล่ารู้จักเมื่อไม่กี่วันก่อน
“สวัสดีบราว นี่พี่ที่สนิทในมิติของฉัน พี่วออัน พี่เวอา และก็พี่วีอา ส่วนพี่คะ นี่เพื่อนของเซย์ แรกบลาว ถัดไปคือ โนว่า บลู และจามีล”เซซีล่าแนะตัวพี่ชายต่างสายเลือดให้ทำความรู้จักกับเพื่อนสาวแต่ละคน ที่ถึงแม้จะได้สนิทมาก แต่เพราะแต่ละคนสวยน่ารักมีเอกลักษณ์โดดเด่นกันทั้งนั้น จึงใช่เรื่องยากที่จะจำชื่อได้
โนวาเน่ ฟีร์ เป็นสาวร่างเล็กสวมแว่นบังตาสีน้ำเงินเข้ม ผมสีทองยาวถูกมัดรวบไว้อย่างเป็นระเบียบ บลูบีส เครย์ทอน เป็นสาวสีน้ำเงินเพราะทั้งสีตาและสีผมยาวเป็นสีน้ำเงินตามชื่อเล่นของเธอ คนสุดท้ายคือ จามีล วาโรรี่ สาวหุ่นดีรักการแต่งตัว เพราะถึงแม้จะเป็นชุดเครื่องแบบแต่เธอก็ยังโดดเด่นด้วยผมสีม่วงสุดเก๋ไก๋ที่ถูกจัดทรงไว้อย่างดูดี บวกกับตาสีเปลือกไม้ที่ดูน่าค้นหาอยู่ตลอดเวลาทำให้เธอเป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง
เนื่องด้วยทุกคนนั้นนิสัยดี เป็นมิตรและเป็นกันเองซึ่งหาได้ยากยิ่งกว่าหารูเข็มในมหาสมุทรของฟีโอเล่ จึงทำให้ทั้งห้าสาวสนิทและเข้าหากันอย่างรวดเร็วราวกับรู้จักกันมาหลายสิบปี อีกทั้งยังมีนิสัยหลายอย่างที่คล้ายคลึงกันก็ยิ่งทำให้คุยกันถูกคอ พี่ชายทั้งสามตกลงปลงใจปล่อยน้องสาวทิ้งไว้กับเพื่อนกลุ่มแรกในชีวิต ก่อนตัวเองจะไปหาเพื่อนฝูงที่ถึงแม้จะมีน้อยอยู่ก็ตาม
หลังจากนั่งคุยกันได้พักใหญ่ๆก็มีการประกาศเรียกนักเรียนใหม่ให้เข้ารับการปฐมนิเทศจากทางบรรดามาสเตอร์และรุ่นพี่ทั้งสี่ปีในโดมกระจกจีเทน ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีเก้าอี้ โต๊ะสอบ หมึกหรือปากกาขนนกเหมือนครั้งก่อนที่เข้ามา แต่ถูกตกด้วยดอกไม้กลิ่นหอมหลากสีสัน ริบบิ้นและผ้าม่านสีสวย ประดับประดาไปด้วยมาสเตอร์ที่แต่งตัวเต็มยศ และรุ่นพี่ที่อยู่ในเครื่องแบบของโรงเรียนตั้งแต่ปี 2 - ปี 5 ที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว ทางเดินมีการปูพรมแดงเป็นทางยาวตั้งแต่หน้าประตูจนถึงตัวเวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับต้อนรับเด็กปีหนึ่งให้เดินเข้าไปอยู่หน้าเวทีอย่างเป็นระเบียบ
ซึ่งการปฐมนิเทศก็เป็นไปอย่างราบรื่นสะดวกสบาย โดยการให้นักเรียนทั้งหมดยืน ในขณะที่มาสเตอร์นั่งจิบชาบนโซฟายาว ฟังการบรรยายอธิบายเล่าเรื่องกึ่งไร้สาระของ ผอ. เกี่ยวกับประวัติเกียรติยศ ตลอด 2 ชั่วโมง ต่อด้วยการแนะนำบุคลากรทุกคนในโรงเรียนตั้งมาสเตอร์จนถึงแม่บ้านและคนจัดสวนกว่าอีกเกือบร้อยชีวิติ ตามมาติดๆด้วยการทักทายสั้นๆของหัวหน้าชั้นปีทั้งสี่คน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเธอจะรู้จักถึงสาม นั่นคือพี่วีอา หัวหน้าชั้นปี 2 พี่เวอาน หัวหน้าชั้นปี 3 พี่วออันหัวหน้าชั้นปี 4 ส่วนหัวหน้าชั้นปี 5 นั้นเป็นเจ้าหญิงหน้าตาใจดีของเขต East ชื่อ โลลีน่า ฮิวสัน ซึ่งแต่ละคนก็มีสคริปพูดไม่มากมายนักคือจำนวน 2 แผ่นหน้ากระดาษ A4 ปิดท้ายด้วยการอธิบายกฎระเบียบข้อบังคับของโรงเรียนกว่าอีกร้อยหรือสองร้อยข้อ (ซึ่งไรท์ไม่ขออธิบายจะดีกว่า) โดยไม่นึกถึงคนที่ยืนฟังขาแข็งเหน็บกินไปเรียบร้อย อ้อยกเว้นแต่คนข้างๆเซซีล่าที่ยืนนิ่งเป็นฟอสซิลมาแต่ไหนแต่ไร
“นี่ นายว่าคนพูดเขาไม่เมื่อยบ้างหรอ พูดกฎจะข้อสองร้อยแล้วนะนั่น” เซซีล่าเอ่ยถามเดรกีสที่ยืนข้างๆ หลังจากไม่ได้ขยับริมฝีปากเกือบสี่ชั่วโมง และผลที่รับกลับมาคือ
“...” เงียบ เงียบจริงๆ เงียบแบบไม่ได้ยินอะไรเลย
และผลในขณะนี้ทำให้เซซีล่าเข้าใจทฤษฎีบทข้อหนึ่งอย่างท่องแท้ นั่นคือฟอสซิลไม่สามารถพูดได้นั่นเอง ซึ่งเธอก็ไม่นึกโทษใครนอกจากตัวเองที่ไม่ทันได้คิดเรื่องนี้ก่อนแต่แรก แต่หลังจากเข้าใจแล้ว หญิงสาวจึงยืนรับกรรมฟังไปเรื่อยๆจนในที่สุดเวลาที่เธอและอาจจะหมายถึงหลายคนรอคอยก็มาถึง เพราะ ผอ.ได้กล่าวจบการปฐมนิเทศและอวยพรให้นักเรียนมีความสุขกายสบายอกสบายใจ ได้ความรู้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่โรงเรียนนี้เป็นอันดับสุดท้าย(จริงๆ) ก่อนจะปล่อยให้นักเรียนแยกย้ายไปทานอาหารและพักผ่อนในตอนบ่ายก่อนจะเริ่มเรียนอีกทีในวันพรุ่งนี้ตามตารางที่แจกให้
“เซย์ไปทานข้าวกัน ชวนเพื่อนๆไปด้วยก็ได้นะ” พี่เวอานพูดขึ้นหลังจากเดินออกจากโดมฝึกความอดทน (จีเทน) ตามความคิดของเซซีล่า พร้อมกับพี่ชายสุดหล่ออีกสองคนที่เดินเข้ามาหาเธอและเพื่อนสาวอีกสี่คนที่ยืดคลายกล้ามเนื้ออยู่ใกล้โดม
“มีรุ่นพี่ประธานนักเรียนมาชวนอีกถึงสามคน เซย์กับเพื่อนจะปฏิเสธได้หรอคะ” หญิงสาวพูดหยอกเย้าพี่ชาย ก่อนที่เทพบุตรทั้งสามและสุภาพสตรีสุดสวยทั้งห้า จะเดินออกไปโรงอาหารพร้อมกัน ท่ามกลางสายตาแปลกใจของรุ่นพี่ อิจฉาของเพื่อนรุ่นเดียวกัน และสายตาอยากรู้อยากเห็นของมาสเตอร์ที่อยู่ในห้องอาหารก่อนแล้ว
ห้องอาหารของที่นี่ถือว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจเพราะค่อนข้างใหญ่โตหรูหรา จึงไม่ค่อยแออัดมากนักถึงแม้นักเรียนจะมาทานอาหารพร้อมกันทั้งโรงเรียน โต๊ะเก้าอี้มีจำนวนมากพอที่จะรองรับผู้คนที่เข้ามาหรืออาจจะมีมากเกินไป ห้องอาหารรอบด้านนั้นเป็นกระจกใสบานใหญ่ที่ทำให้เห็นสวนดอกไม้และอาคารเรียนที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเป็นฉากหลัง ส่วนเรื่องอาหารและเครื่องดื่มของที่นี้นั้นมาจากพ่อครัวแม่ครัวมือดีของหลากหลายมิติ จึงทำให้มีความหลากหลายและมีมากให้กินทิ้งกินขว้างจนหญิงสาวเริ่มนึกเสียดาย (โรคงกกำเริบ)
เซซีล่าและเพื่อนๆนั้นเลือกนั่งโต๊ะกระจกยาวด้านในสุดซึ่งเป็นที่ประจำของพี่ชายทั้งสามแต่ตอนนี้มีสาวหน้าตาดีห้าคนนั่งอยู่แทน เนื่องจากพี่วออันบอกว่าจะอาสาบริการอาหารและเครื่องดื่มให้ถึงที่ โดยมีพี่เวอานและพี่วีอาเป็นผู้ช่วย เพราะบอกว่าอยากให้เธอและเพื่อนนั่งพักหลังจากยืนมาหลายชั่วโมง ซึ่งก็ไม่มีใครคิดปฏิเสธหรือทักทวงแม้แต่น้อย ระหว่างนั่งรออาหารพวกเธอก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยเพื่อคั่นเวลา ทว่าความสงบสุขเมื่อครู่ก็ได้หายไป
ว้าย!
เสียงสาวทั้งห้าดังอย่างพร้อมเพรียงราวกันนัดแนะกันมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะตอนนี้เซซีล่าและเพื่อนอีกสี่คนกำลังอยู่ในสภาพที่เปียกโชกเหมือนพึ่งเล่นสงกรานมาหมาดๆ ซึ่งผู้ที่ทำให้พวกเธอมีสภาพอย่างนี้นั้น กำลังยืนประจันหน้ากับพวกเธอ มือหนึ่งถือถังน้ำ มืออีกข้างกำลังม้วนผมสีคาราเมลเล่นอย่างสบายใจไร้ความสำนึก ตาสีมรกตของเจ้าหล่อนกำลังจ้องไล่ลำดับหัวจรดเท้าของพวกเธอทีละคน ซึ่งดูรวมๆแล้วก็เป็นรุ่นพี่ที่หน้าตาดีใช้ได้ แต่กริยานี่ไม่น่าเคารพเอาซะเลย
...เธอคือใคร... ห้าสาวคิดพร้อมกัน
“โนริ ทำอะไรของเธอ” และผู้ที่ใครข้อข้องใจของทั้งห้าคนรวมถึงเหล่าผู้ร่วมเหตุการณ์ทั้งหลายคือพี่เวอาน ที่เดินมาพร้อมกับพี่วีอาและพี่วออัน นั่นเอง
“คนไหนหละ แฟนเวย์ โนริแค่อยากทักทายเท่านั้นเอง” น้ำเสียงฉบับตัวร้ายไร้อาการสำนึกของโนริทำเซซีล่าและเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันอีกสี่คนถึงบางอ้อทันที
“ฉันเจ้าหญิงเซซีล่า เพลย์ทาย์บีช ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เซซีล่ายกริมฝีปากหรือเรียกง่ายๆว่าแสยะยิ้มให้โนริก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆเวอานที่ตอนนี้กำลังถอดเสื้อกักเพื่อคุ้มให้เธอ พร้อมกับขยับมือทำให้ควันสีชมพูที่เธอเสกว่าเมื่อครู่เป็นชื่อตัวเองอย่างนำเสนอ
“เธอกล้าดียังไงมายุ่งกับเวอานของฉัน!” โนริใช้เสียงสิบแปดหลอดพูดกับคู่กรณีที่ตัวเองก่อขึ้น
“ก็ไม่ได้กล้าดียังไง? ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ฉันกับพี่เวอานรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะอยู่มิติเดียวกัน ทานข้าวด้วยกันเกือบทุกวัน รู้จักนิสัยใจคอกันดีกว่าที่คุณคิดซะอีก แต่ถึงแม้พี่เวอานจะไม่รู้จักฉัน พี่เวอานก็ไม่มีทางเลือกคุณหรอกคะ เพราะพี่เวอานคงไม่เอาผู้หญิงที่ทำตัวไร้สาระ ไม่มีหัวคิดและจิตสำนึก ส่วนเรื่องนิสัยก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดฉันเจอคุณไม่ถึงชั่วโมงยังแทบจะทนไม่ได้ ถ้าให้พี่เวอานอยู่กับคุณทั้งชีวิต พี่เวอานคงชิงฆ่าตัวตายไปซะก่อน...อ๊ะ! อย่ากรี๊ดนะคะมันไม่ใช่มารยาทของผู้ที่ได้รับการสั่งสอนมาดี” เซซีล่าร่ายยาวบทเดียวจบโดยมีการโกหกแม้แต่ประโยคเดียว สายตากดดันปนสะใจถูกส่งไปให้โนริที่ยืนโกรธเป็นฟืนเป็นฟืนเป็นไฟแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เจ้าหล่อนจึงหันหลังกลับวิ่งออกไปจนพ้นรัศมีสายตาของเซซีล่าในที่สุด
“เซย์ เนียนมากเลย” พี่วีอากระซิบพร้อมมองน้องสาวอย่างอึ้งๆเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
“เซย์ขอตัวก่อนนะคะ รู้สึกไม่อยากทานอาหารขึ้นมาซะแล้ว” หญิงสาวพูดพร้อมเดินออกไปจากห้องอาหารทันที เพราะอยากนั่งพักเงียบๆคนเดียวเพื่อหาที่สงบให้ตัวเองหลังจากผ่านเหตุอันวุ่นวาย ซึ่งก็คือสวนหย่อมเล็กๆที่มีอาคารบังอยู่จึงไร้ซึ่งผู้คนและเสียงรบกวน เซซีล่าค่อยๆนอนลงบนหญ้าเขียวที่ตัดกับหินสีเทารอบๆ ตาค่อยๆปิดหลงเพื่อซึมซับความเงียบสงบที่เธอต้องการมากที่สุดในขณะนี้ แต่เธอก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังอยู่ข้างๆเธอ
“จำได้ว่ามาตอนแรกไม่ได้มีหินขนาดใหญ่วางอยู่บนสนาม” เซซีล่าพูดขึ้นเมื่อเห็นเดรกีสนั่งอยู่ด้านข้าง
“กินซะ เดี๋ยวจะไปเป็นลมล้มพับทับคนอื่น”เดรกีสพูดเสียงราบเรียบเป็นเอกลักษณ์พร้อมวางแซนด์วิชและน้ำข้างๆตัวเซซีล่าก่อนจะลุกออกไปทันทีเมื่อเห็นเซซีล่าทำท่าจะปฏิเสธ จำกัดความง่ายๆว่า มาเร็วแล้วก็ไปเร็วนั่นเอง
...หิมะตกแน่งานนี้ ฟอสซิวพูดได้...
เซซีล่าคิดพร้อมอดยิ้มเล็กๆเมื่อตาเหลือบไปเห็นอาหารว่างที่เจ้าชายรูปหล่อวางทิ้งไว้ และหยิบมาทานในที่สุด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แอบมาอัพแล้วนะคะรีดเดอร์ทุกคน จบไปอีกหนึ่งตอนสุดแสนจะทรหดอดทด
คืออ่านเองไรท์นั่งขำเองว่าเมื่อก่อนไรท์นั่นบ้าบอได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ
คือตอนนี้ทุกอาจจะเริ่มรู้สึกได้ว่า เซซีล่าคล้าย เกรเนย่า อยู่ตรงที่โกหกหน้าตายมากใช่ไหม
ที่จริงก็คล้ายกันหลายอย่างแหละ เพราะนางเอกคือผู้หญิงในอุดมคติของไรท์เองไง ฮุๆๆๆๆ
ไรท์แอบแทรกความมุ้งมิ้ง ? ของพระเอกลงไปด้วย น่ารักเนอะพระเอกคนนี้ 555+
ตอนนี้ไม่มีอะไรนอกจากนำเสนอความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับนางเอกค่ะ
หวังว่ารีดเดอร์จะอ่านกันอย่างสบายอกสบายใจ ?
มีอะไรอยากทักทายอยากบอกกล่าว ทักทาย ติชม ยืมเงิน (ไม่ใช่แหละ) เอาเป็นว่าเม้นท์ข้างล่างได้เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับการเปิดใจให้นิยายเรื่องนี้ แล้วเจอกันใหม่ค้า
ความคิดเห็น