ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อำนาจมืดที่คอยบงการบุคคลระดับสูงทั่วโลก

    ลำดับตอนที่ #3 : Time Line

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 54


    โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่ไม่อยากเขียนครับ ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า แต่ ผมจะเขียนเพื่อเตือนเพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ อังกฤษ แคนาดา และแม๊กซิโก โดยเฉพาะคนที่ยังอยู่ในสหรัฐตอนนี้ สถานการณ์เหมือนอยู่บนเส้นด้าย หรือเหมือนกับเหมือนฟางเส้นสุดท้ายแล้วครับ อ่านเรื่องนี้แล้วทำความเข้าใจนะครับ หาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตรึกตรอง จะเชื่อหรือหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นครับ ผมมีหน้าที่มาเตือนเพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น การตัดสินใจอะไร หรือเมื่อไหร่ให้เป็นเรื่องของคุณ และเหตุผลของตัวคุณเองครับ 

    ผม เป็นคนนึงที่รักอเมริกาเหมือนบ้านครับ เป็นบ้านหลังที่ 2 แต่ตอนนี้ผมอยู่เมืองไทยแล้วครับ และไม่มีความคิดจะไปอเมริกาอีก ผมทิ้ง Green Card ครับ ทิ้งธุรกิจที่วางโครงสร้างไว้อย่างดี เพราะเอาชนะคู่แข่งที่เป็นฝรั่งต่างชาติไปมากแล้ว แล้วปีที่แล้วมีโครงการจะซื้อบ้านครับ ขอวงเงินจาก BofA ไว้แล้ว อนุมัติมาแล้ว แต่ไปเจออีกหลังนึงครึ่งครึ่งเอเคอร์ มีที่เปล่าพอจะสร้างได้อีกหลังไว้กินค่าเช่าได้สบายเลยครับ ทั้งราคาที่ถูกลงมากๆและทุกอย่างน่าสนใจมาก และกำลังจะวางแผนเข้าซื้อครับ ก็คืออยู่ในระหว่างความพยายามเข้าซื้อครับ ทั้ง Realtor ทุกอย่างก็มาหมดแล้ว 

    แต่ มีเพื่อนคนนึงที่เป็น Realtor เค้าแนะว่าควรชลอก่อน เค้าก็อธิบายเหตุผลมาครับ ฟังขึ้นครับก็เลยชลอ แต่ก็ตัดใจไม่ลงครับ เพราะวางแผนไปเยอะแล้ว จนวันนึงผมก็เจอเรื่องนึงเข้าโดยบังเอิญ แต่สุดท้ายผมก็เชื่อว่ามีใครบางคนมาบอกอะไรเราบางอย่างครับ ด้วยวิธีไหนเรื่องมันเหนือธรรมชาติและยาวครับ เอาไว้จะเล่าให้ฟังวันหลังครับ

    ระหว่าง ที่ผมกำลังหาวิธีเพื่อประหยัดภาษีจากการทำธุระกิจ ถ้าใครอยู่ที่นั่นจะเข้าใจครับว่าภาษีน่ะโหดขนาดไหน แล้วถ้ายิ่งมีกำไรเยอะด้วย ตายสถานเดียวครับ จ่ายแค่ภาษีกับค่าประกันสารพัดก็หน้ามืดแล้ว ยิ่ง เป็นธุรกิจก่อสร้างที่ผมทำมันเป็น Labor Base รายจ่ายมันต่ำครับแต่กำไรมันสูง แล้วถ้าบริหารดีๆ ประหยัดอีกนะ กำไรเยอะครับ แต่ไม่ใช่ว่าดีครับ ภาษีครับ หนักมาก นี่แหละครับที่เรียกว่า Consumer Base Economy คือเค้าต้องการให้คุณใช้เงินครับ ให้เงินหมุนต่อไป ถ้าประหยัดและไม่ใช้ แต่หาได้มาก อาจตายเพราะภาษีได้ครับ ที่ผมทำมันเปิดเผยหมดครับ เลยหนีไม่ออกครับเพราะรับแต่งานใหญ่ๆ ทำไม่ถูกต้องก็ไม่ได้อีก มันล๊อคไปหมดครับ ก็เลยต้องเล่นแบบตรงไปตรงมาเท่านั้น 

    เลย หาวิธีใหม่ เลยส่งคุณภรรยาไปศึกษาเรื่องภาษีทั้งพื้นฐานและชั้นสูงเลยครับ แล้วเปิดอีกธุรกิจนึงคือรับทำภาษี หรือ File Tax Return นั่นแหละครับ และรับวางแผนภาษีไปด้วย ไม่ได้คิดว่าจะทำเงินจากตรงนี้หรอกครับ เอาไว้ช่วยคนมากกว่า คนที่ให้ช่วยบางทีเห็นเค้าลำบากก็ไม่เก็บเงินเค้าอีก บางทีก็เก็บนิดนึงเพื่อเป็นค่าโปรแกรมเท่านั้นเอง แต่ที่ได้จริงๆ คือมาประหยัดภาษีในธุรกิจหลักคือก่อสร้างครับ 

    สรุป ได้ว้าต้องซื้อเท่านั้นครับซื้อบ้าน ซื้อ IRA ซื้ออะไรก็ตามเพื่อเอามาหักภาษีได้ ดีกว่าจ่ายครับเพราะมันไปแล้วไปเลย แล้วถ้าฐานภาษีมันใหญ่ ปีหน้าจ่ายน้อยโดน IRS มาเล่นอีก แต่ระหว่างการศึกษาเรื่องภาษีเราไปเจอเรื่องนึงครับ คือเรื่อง IRS ที่ก่อตั้งโดย FED และอีกทั้ง CIA ยิ่งงครับมันเกี่ยวอะไรกันฟ่ะ เกิดคำถามครับ เลยต้องหาคำตอบ

    วันนี้ ได้คำตอบแล้วครับคิดว่าเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ต้นคือกลับไปในประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ชีวิตเลยเปลี่ยนไปหมดเลยครับ เปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง แค่ภาษาอังกฤษ 3 ตัวเนี่ย " FED " ครับ จำไว้ อย่าเข้าไปใกล้มันครับ อานุภาพมันร้ายแรงมากๆ มาเข้าเรื่องเลยครับว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นบ้างในอเมริกาในอีกไม่ช้านี้ ขอย้ำว่า 

    " จะเชื่อหรือหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นครับ อ่านแล้วทำความเข้าใจนะครับ หาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตรึกตรอง ผมมีหน้าที่มาเตือนเพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น การตัดสินใจอะไร หรือเมื่อไหร่ให้เป็นเรื่องของคุณ และเหตุผลของตัวคุณเองครับ" 

    อย่าง ที่ผมบอกเสมอครับว่า สิ่งที่ผมเขียนมันเป็นจิ๊กซอแต่ละตัวของเหตุการณ์ครับ ถ้าอ่านแล้วไม่มีการเชื่อมโยงกันคุณก็จะไม่เห็นอะไร ถ้าจะเขียนให้สั้นๆ ก็รายละเอียดไม่พอ ไม่มีน้ำหนัก ก็ไม่รู้จะเขียนไปทำไมคงช่วยชีวิต อะไรใครไม่ได้ เลยออกมาในรูปแบบนี้ครับ ก็พยายามทำให้ดีที่สุดครับ และตรงนี้ผมจะโยงเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกันแล้วเสริมที่ขาดไปที่ไม่มีในโพสต์ที่ผ่านๆ มา ถ้าสงสัยให้กลับไปที่โพสต์นั้นๆ ครับเพื่ออ่านฉบับเต็มๆ 

    ลองดูจิ๊กซอตัวเหล่านี้ครับ:

    9.11.1991 จอร์จ บุ๊ชผู้พ่อ ประกาศเรื่อง New World Order หรือการจัดระเบียบโลกใหม่ ไม่ค่อยมีใครเข้าใจครับว่ามันคืออะไร แต่ฟังแล้วน่าจะดีครับ 

    9.11.2001 จอร์จ บุ๊ชตัวลูก และทีมงาน ก่อวินาศกรรมประเทศตัวเอง เอาเครืองบินชนตึกเวิลเทรดเซ็นเตอร์ แล้วพาประเทศเข้าสู่ส่งคราม ระดมเงินมหาศาลเพื่อไปลงการทหารหรือที่เรียกว่า Military Complex

    2001 CFR ซึ่งเป็นหน่วยงานมันสมองคอยวางแผน เทียบได้กับอีลูมินาติที่ทำเรื่องการทหาร วางแผนเพื่อล้มเศรษฐกิจของอเมริกาและเศรษกิจโลกครับ คือเอกสารที่เมลล์ให้ไปนนั่นแหละครับ 

    2001 เป็นต้นมาราคาทองพุ่งสูงขึ้นไม่หยุดมาตลอดต่อเนื่องจนถึงวันนี้ครับ 

    2002 จากเหตุการณ์เวิลด์เทรดเซนเตอร์ เศรษฐกิจสหรัฐใกล้ล้มเต็มที่ เนื่องจากฟองสบู่แนสแด๊กหรือตลาดหุ้นไฮเทค หรือด๊อตคอมต่างๆ ที่แตกไปก่อนหน้านั้นแล้ว ถ้าตอนนั้นเค้ายอมล้มวันนี้เค้าฟื้นไปแล้วครับ แต่ 2002 อลัน กรีนสแปน เลือกวิธีที่จะลากไปต่อ ด้วยการลดดอกเบี้ยลงต่ำติดดิน ทำให้เกิดฟองสบู่ลูกใหม่ที่ใหญ่มหึมา คือฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์และการเก็งกำไรราคาบ้านและที่ดิน แล้วเรียกว่าเป็น "American Dream" หรือการมีบ้านของตัวเองให้คือความฝันของคนอเมริกันนั่นเอง ทำอย่างเฟื่องฟูเพราะดอกเบี้ย 0% เต็มตลาดการเงินไปหมด ให้กู้แม้กระทั้งคนที่ให้ไม่ได้ เพราะเงินมันล้นระบบครับ หรือที่เรียกว่า Sub-Prime Loan นั่นเอง "ไม่มีเครดิต เครดิตเสีย เครดิตไม่ดี ไม่มีปัญหา เราซ่อมได้ ซื้อบ้านได้แม้แต่ไม่ใช่คนอเมริกัน" เละเลยครับทีนี้

    2007 ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกครับ กลุ่มแรกคือ Sub-Prime Loan นั่นแหละครับ เพราะอะไรถึงมาได้ตั้งหลายปี เพราะตอนซื้อทั้งลดทั้งแถมแบบยัดเยียดบ้านให้ ล๊อคดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีบ้าง 7 ปีบ้าง สารพัดการตลาดใส่ลงไปในระบบการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ครับ แล้วหลังจาก 5 ปี 7 ปีล่ะ แตกไงครับ จาก "American Dream" กลายมาเป็น "American Nightmare" หรือฝันร้ายของชาวอเมริกันครับ เพราะอะไร หลังจากที่ขายบ้านได้แล้ว ก็ขึ้นโครงการใหม่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ครับ ( เอ คุ้นๆ นะอันนี้ ) ส่วนธนาคารปล่อยกู้ได้แล้วเอาสัญญานั่นไปขายต่อกันเป็นทอดๆครับ แต่ก่อนขายมีการแยกระดับชั้นของหนี้ แล้วมีการจัดขั้นหนี้แล้วประทับรับรองโดยสถาบันจัดอันดับต่างๆ เช่นมูดี้ เป็นต้น ยังไม่พอคนซื้อถ้าไม่แน่ใจสามารถซื้อประกันค้ำไว้อีกได้ครับทุกกลุ่มชั้น หนี้เลย เรียกว่า CDS และ CDO แล้วเอาเอกสารนี่ไปขายกันเป็นทอดๆอีกทีนึงครับ 

    2008 Bearstern, Fanni Mae, Freddie Mac, Lehman Brother และอีกหลายบริษัทระดับโลกอายุเป็น 100 ปี ล้มครับ เพราะทนรับหนี้เสียไม่ไหว แล้วล้มเพิ่มจากการเข้าไปค้ำประกันหนี้เหล่านั้นครับ

    2008 ปลายปีจอร์จ บูชตัวลูก บอกว่าต้องอุ้มครับ บริษัทเหล่านี้ ไม่อุ้มไม่ได้ประชาชนจะเสียหาย เศรษฐกิจจะล้มละลายกันทั้งหมด ยังไงก็ต้องอุ้มครับ เลยผ่านกฏหมายอัดฉีดเงินเข้าระบบเป็นมูลค่า 700 Billion ครับ เงินตรงนี้มาจากไหน "อากาศครับ" ปั๊มใส่เข้าไปก่อนแล้วค่อยทยอยเอาเงินภาษีขอประชาชน ในอีก 3-4 ชั่วอายุคนข้างหน้าไปทยอยจ่าย จึงเกิดคำว่า " Too Big Too Fail " หรือใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้มได้ 

    2009 โอบาม่าเข้ารับตำแหน่งก็บอกว่า เอ้า ธนาคารและบริษัทประกัน (ของพวกเรากันเอง) ที่มีส่วนในการปล่อยกู้และค้ำประกันก็จะล้มด้วย ไม่ได้ต้องอุ้มเหมือนกัน ผ่านกฏหมายใส่ไปอีกกว่า 700 Billion ครับ เข้าไปอุ้ม แบงค์ใหญ่ๆ บริษัทประกัน และบริษัทการเงิน ( ที่เป็นผู้ให้เงินสนับสนุนรัฐบาลในการเลือกต้ังและยังเป็นผู้ถือหุ้น FED อีกต่างหาก ) 

    2010 มกราคม มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะนี้โดยการปั๊มและอัดเงิน จำนวนมหาศาลเข้าไปอุ้มบริษัทต่างๆที่เป็นของพวกเค้าเอง เป็นรอบที่ 2 หรือที่เรียกว่า Stimilus II ครับ แต่ครั้งนี้คงไม่ง่ายแล้วครับ 

    นั่น เป็น Time Line และการเริ่มต้นของเหตุการณในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาครับ ตั้งแต่โพสต์นี้จะว่ากันตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2012 ครับ ตอนนี้โอบาม่าประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องไข้หวัด 2009 มันคืออะไรครับ แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ มีผลทางกฏหมายอย่างไรบ้าง ถ้าคุณตอบว่า "รู้" ยังอยู่ในสหรัฐต่อไปได้ครับแต่ต้องหูตาไวแล้ว ถ้า "พอรู้บ้าง" ก็เตรียมพร้อมมากหน่อยครับ ถึงเวลาค่อยกลับ ถ้า "ไม่รู้อะไรเลย" หรือ "ไม่อยากรู้" หรือเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นหรืออยู่ในความฝันต่อเถอะครับ ถ้ากลับทันก็ทัน ไม่ทันก็ขอให้โชคดีครับ 

    ก่อน ที่โอบาม่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เกิดอะไรขึ้นครับ 3 ประธานาธิบดีคนก่อนไม่รวมโอบาม่า เค้าออกกฏหมายต่างๆในเรื่องนี้ไว้ เป็นพันๆ ฉบับ ตั้งแต่สมัยบู๊ชผู้พ่อครับ แต่มาหนักๆ ในสมัยตัวลูกนี่เอง รวมทั้งการตั้งหน่วยงานต่างๆ หลังเหตุการณ์ 911 และเฮอริเคนแคทลีน่าที่นิว ออรีนครับ ทั้งที่เหตุการณ์ 911 เค้าก็ทำกันเอง แต่ทำไมขยายผลขนาดนั้น บุกอิรัค ได้น้ำมัน สร้าง Military Complex หรือฐานที่มั่นทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก อ้างสงครามก่อการร้ายตามหาบิน ลาเด็น "คนเดียว" ใช้เงินไปเท่าไหร่ครับ แล้ววันนี้เผยใต๋อีแล้ว จะเล่นอิหร่านต่อแล้วครับ แล้วต่อไปล่ะซีเรีย แล้วต่อด้วยใครครับ โดยมีอิสราเอลเป็นตัวเดินเกมส์ ใครตั้งรัฐอิสราเอลครับ ก็เค้านี่แหละครับด้วยมือของ UN ก็ของเค้าอีก

    แค ทลีน่าก็ HAARP ครับ ก็ทำเองอีก มีหลักฐานไม๊ มีครับ หนังฮอลลีวูดครับ เค้าบอกไว้ก่อนนานแล้ว ทุกอย่างอยู่ในหนังที่เค้าสร้างออกมาบอกก่อนหน้าหลายปีครับ เรื่องที่ชัดเจนที่สุดคือ "Eye of Storm" ก่อนหน้าเฮอริเคนแคทลีน่าเข้าได้ 2 เดือนมั๊งครับ ทุกอย่างในหนังเกิดขึ้นจริงทั้งหมด แล้วเมือง New Orlean ทั้งเมืองก็อยู่ใน "Eye of Storm" หรือจุดศูนย์กลางของพายุจริงๆ ครับ 

    หลังจากนั้นเค้าก็ขยายผลตั้งหน่วยกองกำลัง ต่างๆ ขี้นมาอีก แล้วมีอำนาจสูงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกว่าทหารและตำรวจอีกครับ เพราะอ้างเรื่องความฉุกเฉิน หรือ Emergency เป็นหลัก ฟังแล้วมันก็มีเหตุผลครับ แต่มันคือปลายเหตุ ต้นเหตุคือเค้าสร้างสถานการณ์ให้คุณปฏิเสธไม่ได้ แล้วต้องทำ ต้องมีอย่างนั้นอย่างนี้ ทุกอย่างถูก Set Up หรือ จัดฉากขึ้นมาทั้งหมดครับ หน่วยงานที่เห็นชัดเจนและมีอำนาจล้นฟ้า ทั้งยังขึ้นตรงกับ 2 หน่วยงานเท่านั้นคือประธานาธบดี และ สภาความมั่นคงแห่งชาติเท่านั้น 


    1.FEMA ( Federal Emergency Management Agent ) เป็นหน่วยงานกองกำลังอิสระที่เข้าควบคุม สั่งการทั้งตำรวจและทหารได้ทันทีมีสถานการณ์ฉุกเฉินครับ ประมาณว่าเข้าคุมได้ทั้งเมืองด้วยอำนาจสิทธิ์ขาด เพราะเค้าออกกฏหมายรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว 

    หนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือคำสั่งที่เรียกว่า Executive Order ที่เซ็นโดย ปธน. เท่านั้นครับ

    Executive Order No. 11002 ให้อำนาจ FEMA ในการสั่งการสำนักงานไปรษณีย์ท้องถิ่นให้ทำการลงทะเบียนในเขตนั้นๆ ใช้ในกรณีที่ต้องทำการเคลื่อนย้ายประชาชนทั้งหมด รวมไปถึงข้าราชการจนไปถึงนายกเทศมนตรี

    Executive Order No. 10995 ให้อำนาจ FEMA ในการควบคุมกิจการวิทยุ และโทรทั้ศน์ทั้งหมด

    Executive Order No. 10997 ให้อำนาจ FEMA ในการควบคุมสถานีบริการน้ำมันและโรงไฟฟ้าทั้งหมด

    Executive Order No. 10998 ให้อำนาจ FEMA ในการควบคุมซุปเปอร์มาเก็ต ร้านชำ ตลาดและฟาร์มทั้งหมด

    Executive Order No. 10999 ให้อำนาจ FEMA ในการจราจรทั้งทางบกและทางน้ำ

    Executive Order No. 11000 ให้อำนาจ FEMA ในการหยุดบังคับใช้กฏหมายแรงงานแล้วโดยสามารถใช้แรงงานของประชาชนได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างแรงงาน

    Executive Order No. 11001 ให้อำนาจ FEMA ในการควบคุมโรงพยาบาลและโรงเรียน

    ทุก ข้อเป็นเอกสารทางราชการครับ เข้าไปดูได้เลยด้วย GG (Google) แล้วพิมพ์ Executive no. 11002 เป็นต้นครับ เค้าอธิบายละเอียดเลย ผมเอาเฉพาะที่มันแรงๆ แต่ถ้าเจออันไหนแรงๆ อีก ก็เอามาโพสต์ไว้ด้วยนะครับ


    FEMA ได้สร้างค่ายกักกันหรือที่เรียกกันว่า FEMA Camp เอาไว้ 800 แห่งทั่วประเทศครับ ตามชานเมืองของเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศครับ ค่ายนึงสามารถกักกันคนได้ เป็นหมื่นถึงหลักแสนคนครับ ที่หน้าสังเกตุมากๆ คือ "ลวดหนามที่รั้วทั้งหมดหันเข้าด้านในคือกันคนหนีออกครับ" ไม่ได้เอาไว้เพื่อป้องกันการบุกรุกแต่ประการใดครับ คนที่เซ็นคำสั่งสร้างคือจอร์จ บู๊ชตัวลูก แล้วผู้รับเหมาเป็นใครครับบริษัท Harriburton Corp. เจ้าของคือรองปธน.ชื่อดิ๊ก เชนี่ย์ ครับ กำหนดการสร้าง 4-5 ปี โดยเริ่มในปี 2004 ถึงวันนี้คงเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานแล้วครับ (GG: harriburton fema camp)


    http://www.youtube.com/watch?v=0P-hvPJPTi4&feature=player_embedded

    ยิ่ง กว่านั้น เมื่อ 2 เดือนที่แล้วมีเปิดรับสมัครคนเข้าไปทำงานใน FEMA Camp ครับ ทุกอย่างพร้อมหมดแล้วครับ หน่วยงาน American Police Force ( APF ) คอยทำหน้าที่จับคนที่ต่อต้านการฉีดวัคซีนเข้าค่ายนี้ครับ ตัวอย่างดูได้ที่เมือง Hardin รัฐ Montana เค้าเปิดใช้เป็นทางการเป็นที่แรกครับ (YT: APF Hardin)


    ทุกค่ายจะมีรถไฟระบบรางเข้าถึงทั้งหมดที่เรียกว่า FEMA Train ครับ 

    FEMA สั่งทำโลงศพชนิดพิเศษเป็นพลาสติดแบบมีฝาปิด จดสิทธิบัตรโดย FEMA ครับ โลงนี้สามารถใส่ได้พร้อมกัน 2-3 ศพครับ สามารถวางซ้อนกันได้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บครับ ยิ่งกว่านั้น แต่ละค่ายสั่งผลิตโลงชนิดนี้ไว้ 200,000-500,000 ใบครับ ประเมิณคร่าวๆ คงมีจำนวนทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านใบในอเมริกาตอนนี้ครับ 

    ล่าสุดเพิ่งมีการเปิดเผยออกมาว่าโลงศพทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นของ FEMA ครับ แต่เป็นของ CDC ( Center for Desease Control ) กรมควบคุมโรคติดต่อที่เป็นผู้ดูแลเรื่องไข้หวัด 2009 ทั้งหมดครับ เค้าออกมาเปิดเผยว่าเผื่อไว้เท่านั้นเอง แล้วที่ต้องสั่งจำนวนมากเพราะราคาถูกกว่า??? CDC เตรียมโลงเหล่านี้ไว้ทำไม??? แล้วรู้ได้ยังไง??? นั่นคือคำถามครับ.......


    http://www.youtube.com/watch?v=9wV3vc9kDEM&feature=player_embedded


    FEMA ในบริเวณรอบๆ ค่ายยังมี Mass Grave หรือสร้างหลุมฝังศพแบบประหยัดพื้นที่ หล่อและฉาบด้วยปูนอย่างดีครับ เป็นจำนวหลายพันหลุมต่อค่ายครับ 


    http://www.youtube.com/watch?v=tJBwIWsAZRQ&feature=player_embedded


    วิธี พิสูจน์คือเปิด Google แล้ว พิมพ์ "FEMA Camp, ชื่อเมือง ( หรือรัฐที่คุณอยู่ ) พอขึ้นมาแล้วลองดูใน Google Earth หรือถ้ามีที่อยู่ลองไปดูสถานที่จริงเลยครับ ตามชานเมืองของเมืองใหญ่ๆ จะมีอยู่ทั้งหมดครับ คงไม่ไกลจากเมืองมาก อยากให้ไปดูให้เห็นกับตาครับ แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยยิ่งดีเลยครับ


    2.DHS ( Department of Homeland Security ) หรือหน่วยงานความมั่นคงภายใน หน่วยงานนี้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการควบคุมหน่วยงานทุกแขนงของรัฐในด้านการบริหารและความมั่นคงทั้งหมดเพื่อ ทำงานสอดประสานกับ FEMA ครับ 




    3.Northcom ( Northern Command ) ควบคุมกำลังทหารทั้งหมดทุกกองทัพ เพื่อสนับสนุนการทำงานทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศให้กับ FEMA ครับ คือ FEMA จะอยู่วงในและ Northcom จะอยู่วงนอกนั่นเอง 




    วันนี้โอบาม่าประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติไปแล้วครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีอีกกี่ขั้นตอนที่จะไปถึงการประกาศ "Martial Law" หรือกฏอัยการศึก แต่เท่าที่รู้แค่เค้าสั่งว่า " Do it " หรือลงมือ ทุกอย่างก็คงเริ่มต้นขึ้นครับ และทั้งหมดก็คือจะนำมาใช้ในเรื่องของไข้หวัด 2009 ครับ 



    หรือ สรุปง่ายๆ ก็คือ "กลุ่มทุนนี้จะอ้างเรื่องไข้หวัด 2009 แล้วประกาศกฏอัยการศึกเพื่อเข้ายึดครองอเมริกา ด้วยหน่วยงานที่เค้าตั้งขึ้นมานี่ไง เพราะเมื่อเค้าประกาศรัฐธรรมนูญจะสิ้นสภาพทันทีครับ" 


    " จะเชื่อหรือหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นครับ อ่านแล้วทำความเข้าใจ หาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตรึก ตรอง ผมมีหน้าที่มาเตือนเพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น การตัดสินใจอะไร หรือเมื่อไหร่ให้เป็นเรื่องของคุณ และเหตุผลของตัวคุณเองครับ " 


    เป็นเรื่องที่ไม่อยากเขียนจริงๆ ครับ จนเค้ามาประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ทั้งที่ทุกปีมีคนตาย 3-40,000 คนจากไข้หวัดตามฤดูกาล ไม่เห็นจะประกาศอะไรเลย แต่นี่ตายไป 1,000 คนทำซะขนาดนี้ ผมก็พอจะจับทางเค้าได้และรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้ เลยถึงเวลาต้องเขียนซะทีครับ





    เรา มาว่ากันต่อเรื่อง Time Line ครับ แต่ก่อนอื่นเรามาดูเนื้อหาของกฏอัยการศึก HR8791 ฉบับนี้ว่าเมื่อเค้าประกาศแล้ว เค้าให้อำนาจประธานาธิบดีและทหารทำอะไรได้บ้าง แล้วเรามาดูบรรยากาศการผ่านกฏหมายฉบับนี้ครับ เป็นกฏหมายที่ดำมืดฉบับหนึ่งของสหรัฐก็ว่าได้ แม้แต่ระหว่างการประชุมลงมติกฎหมายฉบับนี้ยังต้องใช้คำว่า " Classified " หรือเป็นความลับกว่า 20 คำครับ คือแทบจะมีการเปิดเผยเนื้อหาต่อสาธารณะเลยครับ??? ทำไมครับ??? 

    นี่คือบรรยากาศในสภาคองเกรสในขณะที่กำลัง เสนอให้ลงมติ ใน HR8791 หรือกฏอัยการศึกซึ่งเสนอโดยพรรคริพับลิกันในขณะนั้น และเสนอญัตติให้ลงคะแนนเสียงโดย นายจอห์น แฮลเลอร์ สส.จากพรรครีพับลิกัน จากรัฐเพนซิลวาเนียครับ 

    http://www.youtube.com/watch?v=LXfXuk6aWJc&feature=player_embedded



    สรุป เนื้อหาของกฏอัยการศึกก็คือ เค้าเตรียมพร้อมรับการล้มละลายของรัฐบาลกลางที่กำลังจะมาถึง การก่อวินาศกรรมและภัยพิบัติต่างๆ ทั้งยังให้อำนาจสิทธิขาดกับหน่วยงาน FEMA, DHS & Nortcom ในการเข้าควบคุมสถานการณ์ครับ แล้วให้จัดเตรียมที่หลบภัยฉุกเฉินไว้สำหรับ ประธานาธบดี คณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาครองเกรสทั้งหมด เพราะเค้าคาดว่าประชาชนจะลุกฮือ เข้ามารุมทำร้ายนักการเมืองในสภาด้วยความโกรธแค้นครับ รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณฉุกเฉินต่างๆ เช่น งบประมาณฉุกเฉินสำหรับการเดินทาง ยานพาหนะ และเชื้อเพลิงต่างๆ 




    มี การพูดถึงการจัดการกับศพผู้เสียชีวิต การทำลายศพ และเรื่องวิธีปฏิบัติกับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเช่นการก่อวินาศกรรม ระบาดของไข้หวัด และเหตุไม่คาดฝันต่างๆ 


    สรุป ได้ว่าหลังจากที่โอบาม่าประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในเรื่อง ไข้หวัด 2009 ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือรอการประกาศ " กฏอัยการศึกเรื่องไข้หวัด 2009 " แล้วจะเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นครับ 


    1.จะมีการบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu โดยจะเริ่มที่ เด็ก และหญิงมีครรภ์ คนสูงอายุ และคนปกติตามลำดับ (เค้าผ่านกฏหมายฉบับนี้แล้วใน Lower State 40 กว่ารัฐ) 

    2.ถ้าใครที่ "ไม่รู้ทัน" พอที่จะไปรับวัคซีนแล้ว เค้าจะให้สวม Bracelet หรือสายรัดข้อมือที่เป็นเหล็กและมีไมโครชิพฝังอยู่ซึ่งจะเก็บข้อมูลส่วนตัว ของคนๆ นั้นทั้งหมด 

    3.Martial Law จะทำการ bypass หรือระงับใช้รัฐธรรมนูญทั้งหมด คือลืมไปเลยเรื่องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน เค้าจะตั้งจุดตรวจของเค้าเรียกว่า Check Point ตามแยกต่างๆ ที่สำคัญทั่วทุกเมืองของอเมริกา โดยหน่วยงานของ CDC และตำรวจท้องถิ่น*** ถ้าไม่มีสายรัดข้อมือนี้จะเดินทางไม่ได้ในอเมริกาทั้งหมดครับ 

    4.เมื่อมาถึงจุดตรวจเค้าจะขอดูที่ข้อมือก่อน ถ้าใครไม่มีคือไม่ได้รับวัคซีน เค้าจะมีให้เลือก 2 ทาง คือรับวัคซีนเดี๋ยวนั้นเลย แล้วได้สายรัดข้อมือไป (แล้วค่อยๆ ล้มป่วยและตายในที่สุด) อีกทางเลือกนึงคือต้องขึ้นรถบัสไปเข้าค่ายกักกันเชื้อโรค หรือ FEMA CAMP 800 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วทุกเมืองใหญ่ในอเมริกาตอนนี้ ในค่ายนั้นมีอะไรหรือเป็นยังไง ก็ให้ไปดูที่พวกนาซีเยอรมันเคยทำ "ไม่ต่างกัน" ใครที่เคยเห็นวีดีโอแล้ว นั่นแหละที่เค้าเตรียมทั้งหมดก็เพื่อการนี้ 


    5.จากข้อ 4 ใครที่เข้าเมืองหรืออยู่อย่างผิดกฏหมาย ไม่มี ID หรือเอกสารแสดงตัวตนของคุณเอง เค้าคงเอาเข้า FEMA CAMP หรือค่ายกักกันเลย ไม่ต้องคุย ไม่ต้องหาทนาย หรือต่อรองอะไร เพราะคุณไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว หรือแม้แต่จะยืนอยู่ตรงนั้น ณ เวลานั้น 

    6.ส่วนใครที่คิดว่าจะหลบได้ตลอดก็ต้องอยู่ในบ้านอย่างเดียว ห้ามเดินทาง เค้ามีสิทธิ์ที่จะบุกรุกเข้าไปในบ้านของคุณโดยที่ไม่ต้องมี Search Warrant หรือ หมายค้นใดๆ และอย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเค้าประกาศ Martial Law อำนาจอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เค้าจะเป็นคนต้ดสินสถานภาพของคุณ คุณไม่มีสิทธ์เลือก เพราะคุณ "ฝ่าฝืนกฏหมายโดยการไม่รับวัคซีนและซ่อนตัว" 



    ข้อมูล จากการเปิดเผยของทหารหญิงรายนี้ ก่อนจะมีการบังคับใช้กฏอัยการศึก จะมีคำสั่งไปยังหน่วยทหารต่างๆ ให้เตรียมเข้ายึดพื้นที่ หรือเมืองที่คุณอยู่ เป็นเวลาล่วงหน้า 24 ชม. เท่านั้นครับ พูดง่ายๆ เมื่อว่ามีคำสั่งให้ "ลงมือ" ก็คือคุณมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงก่อนที่ระบบทุกอย่างจะถูกล๊อคครับ ทั้งสาธารณูประโภคเช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ การจราจร การสื่อสารโทรคมนาคมรวมทั้งสนามบิน แม้แต่อินเตอร์เนตก็ตาม เพราะ ฉะนั้นอาจจะมีวันนึงครับที่อินเตอร์เนตในประเทศสหรัฐจะ Down หรือหยุดการให้บริการทั้งหมดครับ ขอให้เป็นที่รู้กันนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว

    http://www.youtube.com/watch?v=bp0FEMEsNrQ&feature=player_embedded


    สรุป ก็คือคุณมี 24 ชั่วโมงครับ หลังจากที่มีคำสั่งลงไปที่กองกำลังทหาร ผมเชื่อว่าทหารหญิงคนนี้ และจะมีเจ้าหน้าที่ผู้หวังดีทั้งทหารและตำรวจอีกหลายๆ คนคงจะเจ้ามาโพสต์เตือนไว้ทั้ง Youtube และสื่ออินเตอร์เนตนี่ครับ เพราะแทบจะเป็นช่องทางเดียวที่เป็นอิสระจากรัฐบาลพอที่จะสื่อสารกันได้ แต่ ผมแนะนำว่าถ้าคุณมีทหารหรือตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่รู้จักกันเป็น การส่วนตัว ให้ใช้จากตรงนั้นดีกว่า จะเร็วกว่าครับ เพราะตรงนี้ต้องผ่านกันไปมา เวลามีน้อยครับ แค่ 24 เองครับ "ผมคงทำได้ดีที่สุดเท่านี้" ในการแจ้งเตือนทุกคนที่ยังอยู่ในอเมริกาครับ

    การบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu จะทำพร้อมกันทั้งที่สหรัฐและอังกฤษครับ ส่วนแคนาดาและแม๊กซิโกเป็นส่วนหนึ่งของแผนแต่ผมไม่กล้ายืนยัน 2 ประเทศหลังครับ เรามองกันว่าทั้งอังกฤษและอเมริกาคือคนละประเทศ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ เป็นเหมือนแขนซ้ายขวาขององค์กรนี้ครับ ผมแปลกใจครับว่าทำไมโอบาม่าชิงประกาศภาวะฉุกเฉินก่อน เพราะอังกฤษยังไม่เคลื่อนไหวมากเรื่องนี้ 

    ได้ยินมาบ้างครับและตามความเคลื่อนไหวเค้า ตลอด แต่ก็เพราะข่าวออกมาน้อยหรือมาไม่ค่อยถึงนั่นเอง หรือเค้าจะปรับเปลี่ยนแผนหรือไม่ อาจจะเป็นได้ว่ามีจำนวนผู้ที่ไม่ยอมไปรับวัคซีนสูงถึง 62% มันเลยทำให้ทุกอย่างไม่เข้าเป้าครับ เพราะคนอเมริกันน่าจะจัดการได้ง่ายกว่านี้มาก เพราะทั้งสื่อและอำนาจทุกอย่างอยู่ในมือเค้าแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดครับ นี่อาจจะเป็นสาเหตุของการชิงประกาศฉุกเฉินออกมา




    เพื่อ สร้างและขายความกลัวครับ เพื่อที่จะ "เร่งให้ไปฉีดกัน" เพราะฉะนั้นถ้ามุขนี้เอามาใช้ที่นี่ ก็ให้รู้ทันไว้เลยนะครับ ไม่ต้องไปเต้นตาม เพราะ วัคซีนเราก็คงออกมาเร็วๆ นี้ สูตรทั้งหมดก็มาจากพวกเค้าครับ ลองกับหนูก็เกิดฝีที่ปอดไปเรียบร้อย ซึ่งเป็นตัวทำให้ปอดล่มครับ นักวิทยาศาสตร์ของเราบอกว่าไม่ใช่เพราะวัคซีน แต่ผลมันไปตรงกับแล๊บที่ผมตามดูเค้าอยู่ เค้ารู้ตรงนี้หรือไม่ว่าผลมันตรงกับต่างประเทศตรงหนูเกิดฝีที่ปอดนี่แหละ ครับ ก็เลยคิดว่าเค้าอาจจะไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบหรือเปล่า สรุปว่าใครอยากลอง เอาไปก่อนเลยครับ ไม่ไปแย่งแน่นอน 




    ถ้าถามว่าสหรัฐเค้าจะประกาศหรือไม่ และเมื่อไหร่ คำตอบคือต้องประกาศแน่นอนครับ เมื่อการระบาดและจำนวน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงจุดหนึ่ง ตอนนี้ในสหรัฐเป็นฤดูไม้ร่วง หรือ Fall หรือ Autumn ไปเข้าฤดูหนาวหรือ Winter ก็ 21 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคม ก็คืออีกเกือบ 5 เดือนเต็มครับที่จะหนาวจัดและแสงแดดน้อย หรือแทบไม่มีในช่วงวินเทอร์ ตอนนี้ก็ติดกันไปขนาดนี้แล้ว ประกาศฉุกเฉินไปแล้วด้วย




    ผม ไม่กล้าตอบเวลาที่แน่นอนครับ ผมรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ไหวถ้าไปบอกว่าตอนนั้น ตอนนี้ ผมถึงไม่อยู่รอไงครับ คือเค้าสามารถประกาศได้ทุกเมื่อครับ เพราะทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว อย่างที่โพสต์ไปทั้งหมดนั่นแหละครับ เพราะยังไม่ถึงจุดที่จะประกาศฉุกเฉินยังทำเลย น่าคิดครับ เพราะฉะนั้นเหมือนเดิมครับ




    "อ่าน เรื่องนี้แล้วทำความเข้าใจนะครับ หาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตรึกตรอง จะเชื่อหรือหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นครับ ผมมีหน้าที่มาเตือนเพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น การตัดสินใจอะไร หรือเมื่อไหร่ให้เป็นเรื่องของคุณ และเหตุผลของตัวคุณเองครับ" 




    ผม มีวีดีโอครับเป็นของ ผู้รู้ แพทย์ พยาบาล องค์กร และเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง มาพูดเรื่องหวัด 2009 อย่างละเอียดทั้งป้องกัน แก้ไขและแนวทางการรักษา วิตามินดี (D3) ที่จะเป็นพระเอกของเรื่องนี้ อาหารการกิน คำถามคำตอบอย่างละเอียดครับ ผมจะโพสต์วีดีโอและลิ๊งค์ไว้ให้มากที่สุดครับ



    David Ike ลึกๆ ว่ากันว่าเค้าเป็นอีลูมินาติที่กลับใจ และเป็นผู้ที่ติดตามเรื่อง NWO หรือ New World Order และรู้เบื้องลึกเบื้องหลังมากคนนึง ได้ออกมาพูดเรื่องไข้หวัด 2009 เค้าเน้นตลอดครับว่า "Don't have the vaccine"


    ไข้หวัด 2009 สร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาต์จากห้องแล๊บของสหรัฐเอง และมีหลักฐานเป็นเอกสารของ FBI เป็นตัวยืนยันครับ 

    http://www.youtube.com/watch?v=sGKA50Tk0qE&feature=player_embedded

    http://www.youtube.com/watch?v=I5pUftqEle0&feature=player_embedded

    เค้าหากินและทำกำไรจากไข้หวัด 2009 กันอย่างไร
    http://www.youtube.com/watch?v=-HcqTSG-9W0&feature=player_embedded

    แพทย์และพยาบาลออกมาพูดถึงอันตรายของวัคซีนครับ และเจ้าวัคซีนนี้จะฆ่าคนไม่ต่ำกว่า 60,000 คนในฝรั่งเศสครับ

    http://www.youtube.com/watch?v=JDxJgJRqPng&feature=player_embedded

    http://www.youtube.com/watch?v=dXAK_6iZbH0&feature=player_embedded

    http://www.youtube.com/watch?v=l1K74Tnrrok&feature=player_embedded
    ถ้า รับวัคซีนไปแล้วเกิดความเสียหาย อย่าหวังว่าใครจะช่วยคุณได้ครับ และการฉีดครั้งนี้ต้องมีการเซ็นยินยอมโดยตัวคุณเอง และจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลหรือบริษัทยาที่เป็นผู้ผลิต วัคซีนใดๆ ทั้งสิ้นครับ รัฐ บาลบุชและโอบาม่ายังอุตส่าห์ออกกฏหมายต่างๆ มาป้องกันการเรียกร้องค่าเสียหายเพื่อปกป้องรัฐบาล และ "บริษัทยาของพวกเค้าเอง" อีกด้วย เพราะเค้ามีประสบการณ์การโดนฟ้องร้องเมื่อปี 1978 และมีคดีความค้างอยู่ถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐครับ วีดีโอโดนาง Barbara Loe Fisher ประธานศูนย์ข้อมูลวัคซีนแห่งชาติครับ 












    ถ้าคุณอยู่ในสหรัฐและกำลังมีบุตรหลานกำลังอยู่ในวัยเรียน ต้องระวังการจับฉีดวัคซีนในเด็กโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาติจากผู้ปกครองครับ คุณจะต้องไปหาครูที่ปรึกษาหรือครูใหญ่แล้วบอกเค้าเรื่องนี้ไปเลย ว่าไม่มีความประสงค์จะรับวัคซีน Swine Flu หรือแม้แต่ Seasonal Flu ครับ เพราะตามโปรแกรมเค้าจะเริ่มฉีดในเดือนตุลานี้ครับ แต่มีการล่าช้าในการนำส่งวัคซีน ตรวจสอบเรื่องนี้ดูครับ วีดีโอโดนาง Barbara Loe Fisher ประธานศูนย์ข้อมูลวัคซีนแห่งชาติครับ









    กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัด 2009 และการฉีดวัคซีนในสหรัฐ วีดีโอโดนาง Barbara Loe Fisher ประธานศูนย์ข้อมูลวัคซีนแห่งชาติครับ










    ระบบ ภูมิคุ้มกันของร่างกายตามปรกติของเราสามารถต่อต้านเชื้อไวรัสหวัด 2009 ได้อยู่แล้ว และระบบภูมิคุ้มกันถูกควบคุมโดยปริมาณวิต D ในร่างกายซึ่งได้มาจากแสงแดด ตามธรรมชาติ การออกกำลังกายโดยได้รับแดดยามเช้าเพียง 1 ชั่วโมง ร่างกายสามารถสร้างวิต D โดยผ่านทางผิวหนังได้ถึง 1000 หน่วยต่อวันครับ และในกรณีที่ร่างกายเราอ่อนแอจากสาเหตุต่างๆ เช่นการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ปริมาณวิต D เราต่ำลงก็จะเป็นการเปิดช่องให้ไวรัสหวัดเข้าโจมตีได้ 




    เรามาดูมุมมองของแพทย์หลายๆ คนพูดถึงสรรพคุณของวิต D ในการป้องกันและฆ่าเชื้อหวัด 2009 ครับ และยัง เสริมในเรื่องของการนำวิตามิน D3 ที่เราหาซื้อได้ตามร้ายขายยาทั่วไป มาใช้ในกรณีร่างกายอยู่ในสภาวะวิต D ต่ำ และเสริมได้ด้วย D3 ครับ ใช้ทั้งในกรณีเพื่อป้องกัน หรือติดและมาอาการของไข้หวัด 2009 แล้วก็ตาม






















     



    คำถามที่ถูกถามบ่อย มีคำตอบรออยู่แล้วครับ โดย นาง Barbara Loe Fisher ประธานศูนย์ข้อมูลวัคซีนแห่งชาติครับ 






























    ใน ทุกวีดีโอ คุณสามารถดับเบิ้ลคลิกที่จอเพื่อจะเปิดเข้าไปดูใน Youtube แล้วไปที่ด้านขวาของจอ คลิก More Info เพื่อเรียกดูข้อมูลสนับสนุนต่างๆ ทั้งหมด ทั้งงานวิจัย ผลการทดลอง และลิ๊งข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อศึกษาต่อยอดหรือขยายผลเพิ่มเติมได้ในวีดีโอทุกชุดครับ


    American Sheeple ครับ คือเค้าเชื่อทุกอย่างที่รัฐบาลเค้าบอกครับ เหมือนกับฝูงแกะที่คนเลี้ยงแกะจะต้อนไปทางไหนก็ได้ครับ 

    ปัญหาของคนอเมริกันคือ เค้าอยู่ในฟองสบู่ขนาดยักษ์มาหลายสิบปี กินดี อยู่ดี เพราะในขณะที่รัฐบาลอิลูมินาติดูดทรัพยากร 30% จากทั่วโลกไปลงที่การทหาร คนเหล่านี้ก็ได้อนิสงค์ไปด้วยครับ เค้าคิดว่าเค้าเป็นมหาอำนาจ ยิ่งใหญ่ที่สุด หยิ่งผยอง เครดิตล้นกระเป๋า แต่ไม่มีเงินเก็บ ใช้เงินจากอนาคตทุกคน 70-80% Live Beyond Mean 

    จนมาถึงวันนี้ครับ "เค้าต้องชดใช้กรรมแล้ว" ผมเห็นแล้วสงสารนะ ตอนนี้ครอบครัวผมบางส่วนยังอยู่ที่นั่น ตอนเย็นฝรั่งมาขอข้าวกินทุกวัน เพราะคนไทยไปทำแล้วเก็บครับ ถ้าไม่เล่น หรือนอกลู่นอกทาง เหลือทุกคนครับ เพราะมันฟูฟ่องมากกกกกก มันเป็นแค่ภาพลวงตาจริงๆ แต่เห็นเค้าทำตัวกันอย่างนี้ ก็เลยเฉยๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องโครงสร้างครับ เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าศึกษาเรื่องนึงครับ ผมอ่านสังคมเค้าในหลายๆ มิติ คลุกคลีมาเยอะ 

    มันซับซ้อนมากครับ เพราะหลายเชื้อชาติ ปนเปกันไปหมด เจออิลูมินาติเข้าไป เค้าไม่ต้องการให้คนฉลาด เค้าเข้าไปปกครองครับ ไม่ต้องการคนฉลาดมาต่อต้าน คนอเมริกันเลยโง่ (ขออนุญาตใช้คำนี้ครับ ชัดเจน) กว่าที่เรารู้ครับ เพราะโดนมาตลอดและยาวนาน มันมีเรื่องที่ลึกมากๆ เหนือความเข้าใจ เค้าฆ่าและทำร้ายคนของเค้าเองตลอด เหมือนเป็นผักปลาครับ จนทำให้ 

    10% ของประชากรอ่านหนังสือไม่ออก 
    20% ของแม่บ้านอ่านนิทานให้ลูกฟังไม่ได้ 
    30%-40% ของนักศึกษาระดับปริญญาเรียนไม่จบ เพราะสู้ค่าเรียนไม่ไหวต้องออกไปทำงาน ก็มีครอบครัวไป ไม่มีแบบเราที่พ่อแม่ส่งไปถึงไหนๆเลยครับ 
    50%-60% ของประชากรจบแค่ High School เพราะสู้ค่าเรียนไม่ไหวต้องออกไปทำงานแข่งกับหน้าตาและสังคมแบบ Celebrity หรือดาราของเค้าครับ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×