รีวิสอบ CU-TEP และ TU-GET คับ

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

สวัสดีค่า วันนี้เราจะมารีวิวการไปสอบ TU-get กับ Cu-tep นะคะ

      อย่างที่ทราบกันว่าทั้งสองเป็นข้อสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี (หากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัย) โดยของ TU จะเป็นของธรรมศาสตร์ และ CU จะเป็นของจุฬานั่นเองค่ะ

      มาเริ่มจาก TU-Get กันก่อน

      ของเราเราไปสอบรอบเดือน มีนาคม 2561 มาค่ะว่ายังไงดี ก็เตรียมตัวมาอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ไม่ได้โหมอ่านหนักค่ะ อาศัยว่างหรือแม่ไล่ตอนไหนก็มาอ่าน เป็นคนพื้นฐานภาษาอังกฤษพอได้ค่ะ

      เราขอรีวิวบรรยากาศก่อนละกันนะคะ เราจำเวลาที่แน่นอนไม่ค่อยได้ถ้ากลับไปรื้อความทรงจำได้เมื่อไหร่จะมาทำการเปลี่ยนแปลงนะคะ เราเดินทางไปโดยผู้ปกครองไปส่งค่ะ ก็เลยตื่นเช้าหน่อยแล้วก็นั่งรถไปวนหาที่จอดค่อนข้างลำบากค่ะเพราะว่าเหมือนทุกคนก็เอารถไปกันหมด เราแนะนำให้นั่งรถไปเองและออกเช้าหน่อยดีกว่าค่ะ จะได้มีเวลาไปถามห้องสอบ หรือเตรียมตัวก่อน

      เราไปถึงตึกที่จัดสอบก็เจอคนเต็มเลยค่ะ จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาบอกเขาถึงจะเปิดประตูบันไดให้ขึ้นห้องสอบค่ะ สำหรับคนที่เรียนอยู่มัธยมปลายจริงๆไปรเวทมาก็ไม่มีปัญหานะคะ แต่ก็สมควรใส่ให้สุภาพหน่อย คนไหนขี้หนาวก็พกเสื้อกันหนาวมาหน่อยเนอะ พอดีห้องของเราเย็นๆแต่พอทนได้

     สิ่งที่ต้องเตรียมไป

- ดินสอ 2B ยางลบ

- บัตรประชาชน

- ปริ้นห้องสอบกับเลขที่ไปเผื่อดูจะได้ไม่ต้องวิ่งหา

- เสื้อหนาวกันหนาว (แต่ถ้าสมมติห้องเกิดไม่หนาวขึ้นมา ครูคุมสอบเขาจะบังคับว่าให้ใส่เลยไม่ก็ให้แขวนไว้ข้างหลัง)

      จะเล่าบรรยากาศห้องสอบนะคะ ตอนเดินไปห้องสอบ สมมติห้องของเราคือห้อง 210 ซึ่ง 2 หมายถึงชั้นสอง (แค่สมมตินะคะ) เราก็เดินไปตรง 110 แทนค่ะคิดว่าอ๋อ ขึ้นไปก็เจอเลย เปล่าค่ะขึ้นป้บเดินยาวเลยค่ะ ทางที่ดีก็ถามครูๆเขาก่อนก็ได้ ไม่ก็หาที่นั่งขึ้นไปแล้วเดินตามป้ายเอา หาไม่ยากค่ะ เวลาเหลือเฟือด้วย

      พอจะเข้าห้องสอบก็ดูรายชื่อเลขที่ตัวเองเช็คเสร็จแล้ว ก็ให้ครูดูบัตรประชาชนตรวจค่ะ ของเราเอากระเป๋าเข้าไปได้เลยค่ะ

      บรรยากาศห้องสอบไม่เครียดเลยค่ะ สบายๆไม่กดดัน คนวัยทำงานมาสอบกันเยอะมากค่ะ เขาจะให้เราปิดโทรศัพท์แล้วใส่กระเป๋าไว้เองค่ะไม่ก็ให้วางไว้ใต้โต๊ะเฉยๆเลย และเขาก็จะให้วางบัตรประชาชนไว้บ้างแล้วพอเริ่มสอบไปสักพักก็จะเอาใบรายชื่อมาให้เซ็น

      มาถึงตัวข้อสอบ

      ข้อสอบ TU-get จะเป็นการจัดแบ่งเวลาด้วยตัวเราเองโดยจะให้เวลามา 3 ชั่วโมงค่ะเต็มที่เลย ให้บริหารจัดการเอง

·      PART แรก writing หรือ error  (250 คะแนน)

เดี๋ยวค่ะ ใจเย็นๆอย่าพึ่งช็อคว่าทำไมคะแนนโดดไปหลักร้อย มีแค่ 100 ข้อเองค่ะแต่ปรับคะแนนจาก 100 ข้อเท่ากับ 1000 คะแนน โดยในพารท์นี้จะมี

-         Sentence completion 10 ข้อ

-         Error 15 ข้อค่ะ

อยากเตือนทุกคนว่าอย่าตื่นเต้นอย่าลนลาน ค่อยๆตั้งสติ ค่อยๆทำ ค่อยๆดูคือเราเข้าไปตอนแรกลนลานมาก สำหรับเราว่ายากค่ะ แต่ก็ฝึกบ่อยๆไปเดี๋ยวจะเริ่มจับจุดได้

·      PART สอง Vocabulary (250 คะแนน)

ที่เขาลือกันว่าศัพท์ยากศัพท์โหด ต้องท่องเยอะขอพูดว่า เป็นความจริงค่ะ555555 แต่อย่าพึ่งท้ออย่าพึ่งเท คือพอเราเข้าไปในห้องเวลาอ่านแล้วต้องแปลประโยคเราจะพอเดาคำได้ค่ะ เช่น คราวนี้ที่จำได้คือคำว่า scheme แปลว่า โครงการ ในรูปประโยคเขาจะแปลออกมาโดยรวมว่า รัฐบาลต้องการที่จะระดุมทุนเพื่อจัดตั้งโครงการนี้เพื่อช่วยชาวบ้านอะไรประมาณนี้นะคะ นี่ก็ไม่รู้เลยค่ะ scheme แปลว่าอะไรแต่พอแปลประโยคก็เลยเอาไปเทียบดูความหมายกับช็อยส์แล้วตัดๆเอา

Vocab ลองเสิรช์ในเน็ตดูนะคะ คำศัพท์ TU-get Cu-tep เขาจะมีรวมมาให้เลยไม่ก็ท่องศัพท์สี่หน้าสีฟ้าของครูสมศรีค่ะ แน่น

·      READING (500 คะแนน)

หลายๆคนก็ใช้พารท์นี้เป็นพารท์อัพคะแนน ความยากง่ายปะปนกันไปค่ะ ของเราเจอ passage เกี่ยวกับแร่ค่ะ vocab ในนี้ยากจริงค่ะ ที่จะถามว่าตัวนี้เหมือนข้อใดต่อไปนี้ แต่มีบ้างที่ออกมาง่ายค่ะ แนะนำให้ไปดู phrasal verb มาด้วยนะคะ

คะแนนเราออกมาผ่านครึ่งมานิดนึงค่ะ สำหรับเราเราว่าพอใจนะคะ เพราะเราไม่ได้ฝึกของตรง TU ไปแต่ทำฝึกรวมไปพร้อมกับ CU โดยยึด CU ค่ะ แล้วเราว่าข้อสอบยากด้วย ;--; เราเป็นคนไม่เก่งนะ

มีการเปิดสอบทุกเดือนค่ะ ลองทำข้อสอบเก่ามากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้

ส่วน CU-tep พึ่งมาสอบวันนี้ไปตอนเช้าสดๆร้อนๆเลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

      - บัตรประชาชน**

      - ปริ้นบัตรสอบไปเผื่อ

      ที่จุฬาจะเป็นคนจัดเตรียมดินสอ 2B กับปากกาให้ค่ะไม่ต้องพกไป

      เราไม่แน่ใจว่าสนามสอบเขาแน่นอนเป็นที่นี่ตลอดไหม แต่วันนี้เราไปสอบที่ตึกแพทย์ อปร. ค่ะ ตึกอยู่ติดถนนใหญ่เลย เราไปถึงที่นั่นประมาณเจ็ดโมงครึ่งกว่าๆค่ะ คนเยอะมากๆ และร้อนด้วย บางคนก็นั่งอยู่ตึกตรงข้าม บางคนก็นั่งกับพื้นโถงไปเลย

      เราก็ไปดูเลขที่ของตัวเอง ชั้นที่สอบกับเบอร์ห้อง บนบอรด์รายชื่อแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำทำธุระ เสร็จแล้ว

เขาจะให้ขึ้นห้องสอบตอนประมาณ 8:15 ค่ะ ทุกคนก็ทยอยกันขึ้นไป ไปถึงก็ดูรายชื่อที่ห้อง ดูผังที่นั่งสอบกับเลขที่ตัวเองแล้วก็รับถุงจากครูเขาค่ะ เป็นถุงซองสีใสๆ ไว้ให้ใส่กระเป๋าตังค์เข้าห้องสอบค่ะ

ในห้องสอบจะฉายโปรเจกเตอร์แสดงเวลาไว้ให้อยู่แล้ว แต่ไม่อนุญาตให้นำนาฬิกากับโทรศัพท์เข้าไปเหมือนธรรมศาสตร์ค่ะ เข้มงวดหน่อย ครูดุหน่อย แต่ว่าไม่อึดอัดเลยค่ะ สองสิ่งที่สามารถเอาเข้าไปก็คือ เสื้อหนาว(ต้องสวม) บัตรประชาชน

เข้าไปครูก็จะเปิดกฎกติกาการสอบให้ฟังค่ะ เป็นฝรั่งพูดก็ฟังไปสักพักก็จะมีเวลาว่างค่ะเกือบครึ่งชั่วโมงเลย แนะนำว่าอย่าหงีบค่ะเพราะมันเป็น Junk sleep ทำให้ง่วงกว่าเดิมพอใหล้ถึงเวลา 9:00 ก็จะเริ่มแจกข้อสอบและให้ตรวจดูข้อสอบว่ามีปัญหาไหมเช่นหน้าว่าง ข้อหาย

Cu-tep จะต่างไปก็คือมีข้อสอบ 120 ข้อแบ่งเป็น 3 PART และแต่ละพารท์จะแบ่งเวลาในการทำมาให้แล้ว

PART แรก LISTENING 30 ข้อ 30 นาที

ลำโพงเสียงชัดเจนดีมากค่ะ ได้ยินชัด

พารท์นี้ถือเป็นพารท์อัพคะแนนมากๆ และเป็นบทสนทนาสั้นๆต่อหนึ่งข้อ แต่ระหว่างว่าจะโดนหลอกโดยการพูดไปครบหมด แล้วมาตอบตอนสุดท้าย

อันนี้วอนขอจริงๆนะคะ ไม่ว่าจะช่วงไหนของ listening ช่วงเสียงเบาๆกันด้วยค่ะ นี่คือมีคนสั่งน้ำมูก จาม และเปิดกระดาษเปลี่ยนหน้าดังมาก เข้าใจว่าสุดวิสัยแต่ก็หายไปอยู่หลายข้อเลยค่ะ

ลองฝึกฟังกันบ่อยๆนะคะ ไม่ยากค่ะ

PART สอง READING 60 ข้อ 70 นาที

มี CLOZE READING 15 ข้อ

และเป็นอ่าน PASSAGE 45 ข้อค่ะ

ก็ค่อยๆอ่าน อ่านใจเย็นๆส่วนตัวคิดว่าไม่ยากค่ะ แต่ cloze นี่หนักเอาเรื่องสำหรับเรา เราอ่อนเรื่องนี้ค่ะ

สุดท้ายคือ WRITING 30 คะแนน 30 ข้อ

ก็คือ error นั่นเองค่ะ สิ่งที่เข็ดในวันนี้คือพวก adj adv ค่ะ

วันนี้เจอคำว่า potentially deadly ตามด้วย N ไอเราก็ชัวร์ว่าผิดแน่นอนปรากฏว่ามันถูกนะจ๊ะ

โง่ไปเลยแงง

และก็เราคิดว่าส่วนนี้ง่ายอยู่แต่เสียสมาธิมากๆเพราะคนข้างๆนั่งเอารองเท้าหนังถูส่งเสียงรบกวนตลอดเวลาค่ะ รบกวนจริงๆนะคะ อย่ากระดิกเท้า อย่าตอกเท้าหรือเคาะปากกาค่ะ

สำหรับเรา เรารีวิวครั้งแรกอา ถ้าอยากถามไรทักมาถามได้นะคะ ยินดีตอบค่ะ ไว้คะแนน Cu ออกจะมาบอกนะคะ สู้ๆค่ะทุกคน