หนุ่มกีต้าร์แสนซน กับ สาวไวโอลิน - นิยาย หนุ่มกีต้าร์แสนซน กับ สาวไวโอลิน : Dek-D.com - Writer
×

    หนุ่มกีต้าร์แสนซน กับ สาวไวโอลิน

    เรื่องรักของหนุ่มนักกีต้าร์ผู้ที่กลับใจจากนักเลงมาเป็นนักดนตรี กับสาวไวโอลินผู้เรียบร้อย เรื่องราวจะเป็นยังไง ต้องคอยเอาใจช่วยกันนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    164

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    164

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ค. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    หนุ่มกีต้าร์แสนซน กับ สาวไวโอลิน

    BNk แต่ก่อนเป็นเด็กเด็นประจำอำเภอแห่งหนึ่งในภาคอีสานของประเทศไทย และเป็นคัสโนวา ประจำโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในภาคอีสานด้วยบุคคลิกของเขาจึงทำให้มีสาวๆสนใจอยู่ไม่น้อย แต่เขาไม่เคยที่จะคุยกับใครสักคนเพราะคนในฝันที่เขาคิดไว้คือ “จะต้องเล่นดนตรีได้ ยิ้มหวาน ไม่อ้วน พูดเพราะ” จากที่เขาได้ทำตัวเลวมานานแสนนานในช่วง ม.ต้น และแล้วในช่วงมัธยมปลายแม่เขาก็ได้ให้เขาไปสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งใน และเขาก็สามารถสอบเข้าได้อย่างฉิวๆ ด้วยความที่เขารู้จักกับลูกสาว ผอ ของโรงเรียนนั้นจึงไม่ยากที่เขาจะเข้าได้ หลังจากที่เขาสอบเข้าได้แล้วแม่ของเขาก็ได้วางแผนชีวิตในอนาคตให้เขาว่าจะต้องเป็นไปแบบนั้นแบบนี้นะ หลังจากจบ ม.4 แม่เขาก็ได้ส่งเขาไปเรียนที่อเมริกาในภาคซัมเมอร์ของปีนั้น “BNk  เป็นเด็กนักเรียนใหม่ของโรงเรียน S.T.E ที่อเมริกา” เขามาเรียนภาษาในช่วงปิดเทอม เพราะแม่ของเขาอยากให้เรียนเพื่อเป็นหมอ จึงบังคับให้เขามาเรียนภาษาที่นี่ ซึ่งขัดกับความคิดของเขาซึ่งอยากเป็นนักดนตรี  นิสัยเขาเป็นหนุ่มมาดเข้มจำห้องโรงเรียน รักอิสระ เงียบขึม ชอบทำตามใจตนเอง และชอบการเล่นดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ…และแล้วการเรียนในอเมริกา
    ที่เขาคิดว่ามันน่าเบื่อเพราะการที่แม่ให้เขามาเรียนที่นี่เพื่อที่จะให้เขาเรียนคณะแพทย์ศาสตร์เอกชนแห่งหนึ่งในไทย ก็ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เมื่อเขาได้พบกับผู็หญิงคนหนึ่งคือ JYw นักเรียนจากโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในไทย ก็ได้มาเรียนภาษาที่เดียวกันกับเขา หลายต่อหลายครั่งที่ BNk พยายามมอง Jyw ด้วยสายตาที่เขาไม่เคยมองใครมาก่อน และในช่วงเย็นบ้านพักของ BNk ไกล้กับ JYw จึงง่ายที่จะได้พบกันทุกเช้าเย็น พอพวกเขาได้รู้จักกันมากขึ้น BNk ก็ได้รู้จักนิสัยที่แท้จริงของผู้หญิงคนนั้นและนั้นมันยิ่งทำให้เขารักผู้หญิงคนนั้นมากขึ้น ด้วยความที่เขาเคยตั้งเป้าไว้ว่าผู้หญิงในฝันของเขาจะต้องมีนิสัยเป็นแบบนั้น จะต้องแต่งตัวเป็นแบบนี้ หรืออะไรต่างๆนาๆที่เขาเคยคิดไว้ก็เริ่มที่จะกลายเป็นจริงขึ้นเรื่อย จนมาวันหนึ่งพวกเขาได้มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกันกับเพื่อนในโรงเรียน ถึงแม้เขาสองคนจะไม่ได้อยู่ไกล้กันตลอดเวลา แต่สายตาของ BNk ก็ไม่เคยละหายไปจากเธอ ในความคิดของเขาต้องการแค่ให้ JYw รู้ว่ามีคนชอบเธออยู่ แต่มันก็ยากที่เขาจะฑุดออกไป ด้วยความที่เป็นคนไม่กล้าสู้หน้าผู้หญิง เพราะในชีวิตไม่เคยเจอคนที่ใช่ จนมาตอนนี้เขาได้เจอแล้ว เขาก็คิดหาทางอยู่หลายครั้งว่าจะต้องทำยังไงให้ JYw ได้รู้ว่าตอนนี้มีคนเธออยู่ เขาก็ได้แต่คิดไปคิดมา แล้วเขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้เพื่อนสนิทของเขาฟัง แล้วเพื่อนสนิทของเขาก็พยายามที่จะช่วย แต่เขากลับบอกว่าไม่ต้องช่วยฉัน...ฉันจะจัดการเอง และแล้วเขาก็ได้บอกเพื่อนสนิทของเขาให้ไปสืบข่าวของ JYw ให้เขาทุกๆวันเพราะ เพื่อนสนิทของ BNk มีแฟนที่เป็นเพื่อนกับ JYw ก็เลยไม่ยากที่จะเข้าไปถามไถ่ และทุกครั่งที่ JYw เล่นไวโอลิน BNk ก็จะไปนั่งฟังอยู่หลังบ้านเธอเสมอ เพราะ BNk คลั้งในเสียงของไวโอลิน เพราะไอดอลของเขาก็เล่นไวโอลิน ความสุขของเขาก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาจะเก็บเรื่องนี้ได้นานแค่ไหนเขายังไม่รู้ตัวเองเลย เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ชอบเก็บความลับ และไม่ชอบให้มีเรื่องที่ค้างคาในใจ เขาจึงคิดที่จะโทรไปขอคำปรึกษาจากเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกับเขาเพราะเขาไว้ใจเพื่อนคนนี้มาก
    เขาก็ได้แต่คิดว่าทำไมแค่บอกรักผู้หญิงคนหนึ่งมันช่างยากมากนัก แล้วเขาก็ได้โทรไปเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสาวที่โรงเรียนเดียวกันกับเขาให้เธอฟังและเธอก็บอก BNk ว่า “ที่แกเป็นแบบนี้เพราะว่าแต่ก่อน นายเป็นนักเลง ไม่ใช่นักรัก และนายไม่เคยที่จะใส่ใจเรื่องผู้หญิง” เมื่อ BNk ได้ฟังแล้วจึงถามต่อมาว่า “แล้วฉันควรทำยังไง” และเพื่อนของเขาก็ตอบกลับมาว่า “ให้แกถามใจแกดูว่าตอนนี้แกคิดยังไงกับเขา แล้วแกแน่ใจหรอว่าแกชอบเขาจริงๆ ไม่ใช่เพราะแกชอบเขาที่เขาเล่นดนตรี”  หลังจากที่เขาได้ยินคำตอบ เขาก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่คิดว่า เขาชอบเธอจรองหรอ? หรือว่าแค่ปลื้มที่เขาเล่นดนตรี หลายวันหลังจากนั้นมา เขาพยายามคิดแต่เรื่องนี้โดยลืมไปเลยว่าเขาก็เล่นดนตรีเหมือนกัน  พอเขาคิดแบบนั้นแล้วเขาก็ไม่รอช้าที่จะไปซื้อกีต้าร์มาสักอันเพื่อที่จะเล่นมันให้ดีที่สุดเพราะเขาก็เคยเล่นแม่เขาอายุ 10 ขวบ และแล้วเขาก็ได้ไปที่ Musicman Guitar Shop และได้สั่งทำกีต้าร์ในแบบที่เขาต้องการสักตัวหนึ่ง โดยการที่โทรไปถามแม่ว่าผมจะขอทำกีต้าร์สักตัว พอแม่เขาได้ฟังแล้วแม่เขาก็ตอบกลับไปว่า “แม่อนุญาติแต่ต้องใช้เงินเก็บของลูกซื้อนะแม่จะไม่แแกให้สักบาท”  พอแม่อนุญาตเขาก็ไม่รอช้า จากนนั้นเขาก็รีบศึกษาเรื่องไม้ที่จะเอามาทำกีต้าร์ และเรื่องต่างๆเกี่ยวกับทุกรายละเอียดของกีต้าร์ ในปีนั้นมันเป็นปี 2012 เขาก็ได้เลือกรุ่นท็อกที่สุดของร้าน นั้นก็คือ Musicman JPXI Custom โดยสีที่เขาสั่งทำนั้น เขาได้สั่งทำสีดำแบบมีลวดลายความประกายของไขมุกภายในตัวกีต้าร์ ในตอนั้นเขาคิดเพียงแค่ว่าบางที่มันอยากจะทำให้เธอหันมาสนใจเขาบ้าง หลังจากนนั้นพอได้กีต้าร์ตัวนั้นแล้ว เขาก็ได้เล่นเพลงที่ร็อคและยากที่สุดที่มนชีวิตเขาเคยเล่นมานั้นก็คือเพลงของวง Dream Theater และเพลง Cannon Rock แต่มันก็ไม่ทำให้เธอรู้ว่า BNk ทำกีต้าร์ตัวนี้มาเพื่อเขา  จนในที่สุดเมื่อหนุ่มนักเลงหมดความอดทนเขาจึงตัดสินใจแบบเด็ดขาดที่ว่าจะบอกรักเธอในวันรุ่นขึ้นหลังจากกลับมาจากไปเที่ยวด้วยกันกับเพื่อน  แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น ในขณะที่เขากำลังเดินทางกลับมายังที่พักนั้น หนุ่มรักที่ตื้นเต้นกับการที่กำลังจะบอกว่าชอบ JYw นั้น ก็เกิดเรื่องขึ้นระหว่างทาง  เพราะ JYw ได้ทำหนังสือเดินทางหาย และเมื่อหนุ่มนักรักได้ยินคำนั้นมันยิ่งทำให้เขาอารมเสียเพราะเขาได้บอกเพื่อนไว้ว่าจะบอกรักเธอที่บ้าน
    ของเธอ ภายในชั้วพริบตานั้นเหมือนมีซาตานมาเข้าสิงนักกีต้าร์แสนซน เขาจึงได้พูดออกไปว่า “แค่หนังสือเดินทางเล่มเดียวยังรักษาไม่ได้เลย แล้วอย่างอื่นจะรักษาได้ยังไง”  เขาพูดมันออกมาลอยๆๆ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าขณะนั้นจะมีใครได้ยินคำพูดของเขาบ้าง จากนนั้นเขาก็ได้เดินออกมาจากรถคนที่พวกเขาได้ไปเที่นวด้วยกัน  และเขากลับไปยังที่พักของเขาโดยรถประจำทาง โดยที่ในขณะนั้น JYw ก็ได้เดินทางกลับไปที่ๆเขาคิดว่าทำหนังสือเดินทางหาย โดยที่ต่างฝ่ายต่างไป    และอยู่ดีๆในหัวของหนุ่มกีต้าร์แสนซนก็คิดขึ้นมาว่า “ทำไมเราถึงไม่กลับไปช่วยเธอหาหนังสือเดินทางของเธอละ”  แต่เขาก็คิดช้าไปเพราะในขณะนั้นเขาได้ถึงที่พักเรียบร้อบแล้ว และเขาก็รีบกลับมา ณ ที่ๆแยกกันเพื่อที่จะมาช่วยเธอหาหนังสือเดินทางของเธอ แต่มันก็ช้าไปเสียแล้ว เพราะในระหว่างที่หนุ่มกีต้าร์ผู้ใจร้อนมาถึง เธอและเพื่อนของเธอก็ได้กลับมาแล้ว และในวันนั้นเป็นวันที่เขาเสียใจมากกกก  วันต่อมาเขาพยายามที่จะไปถามเธอว่า “เธอเจอหนังสือเดินทางหรือยัง”  แต่หนุ่มมือกีต้าร์ผู้น่าสงสารก็ไม่กล้าเข้าไปถามเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะโกรธเขา เขาได้แต่นั่งคิดิยู่คนเดียว จนวันต่อมาเธอก็ได้เดินทางกลับมาเมืองไทยเรียบร้อยแล้วโดยที่หนุ่งกีต้าร์ผู้ใจร้อนยังไม่ได้เอ่ยคำว่ารัก หรือคำบอกลาให้แก่เธอ หลังจากนั้นเขาก็นั่งเสียใจอยู่แต่ในห้องโดยไม่ออกไปสุงสิงกับใครข้างนอก แล้วไม่รับแม้กระทั้งโทรศัพท์ที่เขาเขาโทรมา เพราะเขาคิดแค่ว่า………..เขาได้ทำให้คนๆนั้นเสียใจ




    พิมพ์ผิดหรือตกหล่นก็ขออภัยด้วยครับ มือไหมครับ
    ติดตามเรื่องราวต่อในตอนต่อไปนะครับ  ​“เอาใจช่วยมือกีต้าร์ผู้อารมณ์ร้อนด้วยนะครับ”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น