ไดอารี่หน้าฝน - ไดอารี่หน้าฝน นิยาย ไดอารี่หน้าฝน : Dek-D.com - Writer

    ไดอารี่หน้าฝน

    ผู้เข้าชมรวม

    123

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    123

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ค. 56 / 21:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ไดอารี่หน้าฝน

       

      .เธอยังคิดถึงฉันทุกเวลาอยู่หรือป่าว เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่

      เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียวยังรอฉันแค่คนเดียว เธอยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช้ไหม.. ช่วยบอกให้รู้ที

      เสียงเพลงที่ดังอยู่ในหัว มันช่างชวนให้ฉันนึกถึงฤดูๆหนึ่งที่ฉันไม่เคยคิดที่ชอบเลย ฤดูที่ทำให้ฉันได้เจอกับคนคนหนึ่ง มีความทรงจำดีๆด้วยกัน ถึงแม้ความทรงจำเหล่านั้น จะเป็นสิ่งที่เค้าพยายามจะลืมก็ตาม..

       

      เดือนมิถุนายนปี55

       

      ฉันเกลียดหน้าฝน.. มันเป็นฤดูที่ชื้นแฉะแถมยังดูหดหู่ และทำให้เหนียวตัวนี่ยังไม่นับเรื่องที่ฉันอยู่ติดทะเลอีกนะยิง่ไปกันใหญ่เลย  ฉันย้ายมาที่หัวหินเพื่อที่จะเรียนต่อ แล้วฉันเป็นคนที่ไหนนะหรอ? ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าฉันเป็นคนที่ไหนกันแน่ ฉันย้ายไปโนน่นี้ไปเรื่อยได้เห็นเรื่องราวต่างๆมากมาย แต่ที่หนักที่สุดก็เห็นจะเป็นการย้ายมาเรียนที่เมืองเล็กเมืองหนึ่งที่เรียกว่าหัวหินเนี่ยแหละ เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจึงทำให้ฉันไม่ค่อยมีเพื่อน สนิดจริงๆมากนักแต่ก็ยังมีอยู่คนนึงที่เรียกได้ว่าไปไหนไปกัน พร้อมที่จะไปกับฉันทุกเมื่อซึ่งฉันอยากที่จะตั้งชื่อให้ว่า เนยและเพราะมันเนี่ยแหละที่ทำให้ความเกลียดหน้าฝนของฉันลดน้อยลง

      มึงไปขี่รถเล่นกัน  อยู่ๆไอ้เนยก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมชวนฉันออกไปข้างนอกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งก็ดีอย่างน้อยๆก็คงจะดีกว่าอยู่ในห้องที่แสนจะจืดชืดไร้ชีวิตชีวาอย่างนี้ เพราะคนส่วนมากที่อยู่ห้องด้วยกันจะมาจากคนละที่ทำให้ความสัมพันธ์ค่อนข้างที่จะมีปัญหา

      ฝนปรอยๆตกลงมาไม่ขาดสาย ฉันสวนเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงยีนส์ขาสั้นสบายๆ เราสองคนออกเงินค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์คนละครึ่งแล้วออกตัวไปตามถนนเรื่อยๆเหมือนคนไม่มีจุดหมาย  เกลียดหน้าฝนๆๆๆ  คำนี้ผุดขึ้นในหัวฉันตลอดทาง ฉันมองออกไปข้างทาง ทุกอย่างดูแปลกตาไม่คุ้นกับที่เคยเจอ ทะเล หาดทราย เต้นทผ้าใบสีสด,,  เราขี่ผ่านลานกว้างๆที่คนที่นี้เรียกกันว่าจุดชมวิว กลุ่มหมู่คณะที่มาพร้อมจักรยานยืนเป็นกลุ่มอยู่ข้างทาง พร้อมแซวพวกเราที่ขี่รถผ่านไป

      มันสนุกเวลาที่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมันทำให้ฉันหัวเราะทุกครั้งทั้งๆฉันเองกไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันตลกตรงไหน เราขี่ผ่านจุดชมวิวแล้วย้อนกลับมาอีกรอบ พวกเราตัดสินใจแวะจอดตรงจุดชมวิวเพื่อดูวิวทะเล ฝนก็ยังตกเหมือนเดิมแต่ไม่ได้ทำให้เราทั้งคู่สะท้านได้เลย เราสองคนเดินผ่านกลุ่มจักรยานอีกกลุ่มหนี่งที่นั่งเรียงอยู่บนราว ผ่านแอ่งน้ำเป็นวง ผ่านป้ายอะไรไม่รู้ที่เหมือนจะบอกเรื่องราวความเป็นมาของที่นั้น ซึ่งฉันกับเนยไม่ได้สนใจจะอ่านเลยสักนิด แล้วมายืนดูวิวกันสองคน ทุกอย่างดูน่าหดหู่ ทะเลดูนิ่งสงบ ฟ้าอึมครึม ลมเหนียวๆ คงจะนึกภาพออกนะว่ามันไม่ได้ทำให้จิตใจปลอดโปร่งเลยสักนิด เราสองคนยืนดูวิวสักพักก็อยากที่จะไปที่อื่นต่อ ตอนนี้กลุ่มที่นั่งตรงราวได้เดินออกไปหมดแล้ว กลับมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เค้ามาขอให้เนยถ่ายรูปให้กลุ่มที่เคยนั่งอยู่ตรงราวเดินกลับเข้ามาสมทบพร้อมกับอีกหลายๆคน ฉันเดินกลับไปยืนอยู่ที่เดิม มองดูคนกลุ่มนั้นถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คิดว่าคงไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าฉันมาด้วย สายตาฉันไปหยุดอยู่ที่คนคนหนึ่ง..

      เค้ามองฉันอยู่หรอ?สายตาคู่หนึ่งหันมามองฉันพร้อมยิ้มกว้าง ไม่ใช้หรอก ฉันคิด คงแค่หันมาคุยกับเพื่อนแล้วเห็นฉันพอดี ใช้ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ

      ผ่านมาสักพักผู้คนเริ่มถยอยออกไป เราสองคนยทนดูคนพวกนั้นสักพักก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาที่เรา เค้าเข้ามาขอไลน์ของไอ้เนย

      พี่ชายเราที่ใส่หมวกสีเหลืองเค้าชอบเธอ ฝากเรามาขอไลน์เธอนะเด็กคนนั้นพูดกับเนยอย่างมั่นใจ ไอ้เนยก็ตอบกลับไปอย่างมั่นใจอีกเหมือนกัน

      ถ้าอยากได้ ก็ให้พี่นายมาขอเองซิ จะขอไลน์แค่นี้ยังไม่กล้าเลยฉันหัวเราะอย่างชอบใจ พลางคิดสงสารพี่ที่ชอบไอ้เนย เพราะพวกพี่เค้าไม่รู้เลยว่า ไอ้เนยไม่ชอบผู้ชายเข้าขั้นเกลียดเลยด้วยซ้ำ เด็กคนนั้นมองหน้าไอ้เนยสักพักก็หันมาทางฉัน

      งั้นขอพินคนนี้แทน,,จบคำพูดฉันก็อ้าปากค้างกับพูดของเด็กคนนั้นอย่างงงๆ

      ไลน์นะพี่เราขอ แต่พินเธอนะเราขอเองฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ทำอะไรไม่ถูกเลยให้ไปแบบงงๆ

      ฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นจะใช้คนเดียวกับที่หันมามองฉันหรือป่าว?

      ฉันไม่รู้ว่าเด็กจะใช้คนเดียวกันกับคนที่ฉันรู้จักในตอนนี้ไหม? เพราะถ้าเป็นคนเดียวกัน มันก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของฉันที่คิดผิด

      ตกดึกของวันนั้นฉันกับเพื่อนเลือกที่จะขี่รถฝ่าฝนที่ตกลงมาหลังจากได้รับคำเชิญให้ไปกินเหล้ากับคนที่เจอเมื่อตอนเย็น  ฉันตอนนี้ที่นั่งพิมพ์เรื่องนี้อยู่เพิ่งจะคิดได้เป็นครั้งแรกว่าฉันกับเพื่อนคิดอะไรถึงกล้าไปหาคนที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกตอนกลางคืน  แต่มันก็คงมาคิดไม่ทันแล้วละ

      รออยู่นานจากตรงจุดนัดพบ จนฝนตกมาอีกหลายรอบ จนเริ่มหนาว จนเริ่มเกิดความหงุดหงิดแล้วคิดอยากจะกลับไปหอเพื่ออาบน้ำแล้วซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนาๆ เด็กคนนั้นก็มาพร้อมกับคนในกลุ่ม เราคุยกันไม่กี่คำ ตัดสินใจอย่างสองอย่าง แล้วเลือกที่จะไปกินเหล้าที่ที่พักของพวกเค้า ฉันกับเพื่อนนั่งกินเบียร์จนดึกเลยตัดสินใจนอนค้างที่นั้น เมื่อปิดไฟทุกอย่างรอบตัวเกือบที่จะมืดสนิด แสงจากไฟนอกหน้าต่างส่องเข้ามาในห้อง เพราะห้องค่อนข้างเล็กเด็กคนนั้นยอมที่จะนั่งแล้วให้ฉันนอนในอ้อมแขน ฉันหันหน้าตรงมองหน้าของเค้าที่ก้มลงมาอย่างพินิจพิเคราะห์หน้าคมเข้ม จมูงโด่งรั้นๆเหมือนคนดื้อ ปากอวบอิ่มยาวๆอยู่ๆใบหน้าที่ก้มต่ำอยู่แล้วค่อยๆก้มลงมา ก้มลงมาทุกอย่างรอบตัวเงียบจนได้ยินเสียงหายใจไออุ่นจากริมฝีปาก ฉันรู้สึกได้ ใจฉันเต้นรัวคิดอะไรไม่ออก  

      เราจูบกันหรอ?,,

      รุ่งเช้าฉันตื่นขึ้นมาโดยที่หนุแขนของเด็กคนนั้น ฉันกับเนยขอแยกตัวออกมาแล้วบอกลา เด็กคนนั้นลงมาส่งฉันกับรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ฉันยิ้มให้ หันหลังขึ้นรถแล้วออกตัวไปตามถนน เราทั้งคู่ไม่ได้หันกับไปมองง มีแค่เรื่องซุบซิบนินทาที่ฉันกับเนยพูดกัน จนกระทั้งมาครึ่งทาง จนเราไม่มีอะไรที่จะพูดอีก จนเราย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันจะทำให้อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไป

       

      ฤดูฝนเดือนสิงหาคม ปี55

      เรื่องของเรื่องคือฉันจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งมันเป็นข้อเสียที่ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจแต่ไม่เคยแก้ไขมันได้เลย ฉันจำไม่ได้ว่าฉันกับเด็กคนนั้นเคยพูดเคยคุยหรือแม้แต่เคยโกรดกันเรื่องไหนบ้าง แต่เท่าที่ฉันรู้ เค้ายังชอบปั่นจักรยานเหมือนเดิม และฉันก็ยังคงชอบเที่ยวเหมือนเดิม เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันหวังเอาไว้ มีแต่เรื่องที่ทำร้ายจิตใจกันและกัน เราสองคนยังคลุมเครือ จนทุกอย่างเริ่มจะกระจ่าง เมื่อบีบีของเค้าเสีย

      เค้าหายไป

      ไม่มีข้อความใดๆ ไม่มีสายเรียกเข้า ไม่มีการติดต่อ จนมันยิ่งกระจ่างเมื่อเค้าบอกกับฉัน

       เราไม่ใช้แฟนกัน,, เราเป็นแค่คนรักกัน

      ฉันนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออก ไม่มีอะไรอยู่ในความคิด มีแค่คำไม่กี่คำที่วิ่งอยู่ในสมองเหมือนคอมที่ประมวนผลไม่ได้ เหมือนถูกของมีคมอะไรสักอย่างพุ่งมาปักอยู่กลางอก มันเป็นความสับสนที่สุด มันเรื่องจริงที่ฉันต้องยอมรับว่าเค้าไม่เคยขอเป็นแฟน แต่แล้วคำรักที่เคยบอกกันละ ความรู้สึกดีๆละ มันหายไปหมดแล้วใช้ไหม?ฉันยอมที่จะเดินจากไปทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่จะรู้อะไรที่ฟังแล้วปวดหัวใจ

      ฉันหายไป,,

      ภาพทะเลนิ่ง เปลี่ยนเป็นภาพต้นไม้และรถยนต์ที่วิ่งสวนไปมา ภาพโรงแรมหนึ่งที่ดูคุ้นๆตาผ่านเข้ามาในสายตา ความทรงจำค่อยๆชัดเจนขึ้น เนยหันมายิ้มให้ฉันพร้อมพูดอะไรสักอย่างที่ฉันจำไม่ได้ จนภาพโรงแรมนั้นผ่านไปเหมือนความทรงจำที่ผ่านมาแล้วผ่านเลยไป

      ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปกี่เดือน ฉันยังเหมือนเดิม ยังคิดยังเป็นยังยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม และยังต้องเบือนหน้าหนีที่ที่เดิมที่ทำให้ฉันคิดถึงคนๆนึง

      วันหนึ่งฉันมองไปยืนอยู่ที่ที่เดิม ยืนอยู่ตรงที่เดิมที่เคยยืน คิดทำในสิ่งที่รูดีอยู่แก่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากจะลอกอีกสักครั้ง ลองโดนหลอกอีกสักครั้ง ในวันปิดชดเชยวันพ่อเพื่อเอาใจเด็กที่มาเรียนไกลบ้าน ฉันโกหกเพื่อนขอองฉันว่าตกรถ ทั้งๆที่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ฉันอยากเจอเค้า! อยากเห็นหน้า อยากจับมือ อยากมองหน้าเค้าอีกสักครั้ง ถึงแม้จะดูว่าหน้าด้านก็ตาม คิดอยู่นานจึงขึ้นรถแท็กซี่แล้วหาที่พัก โทรหาเค้า หวังให้เค้ามาอยู่เป็นเพื่อน ฉันข่มตานอนจนรู้สึกตัวในตอนสาย รีบอาบน้ำแต่งตัว รอให้เค้าคนนั้นมา จนการรอคอยจบลง เค้ายืนอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงบันได!คนที่ฉันไม่รู้ว่ามาหาเพื่ออะไร คนที่ฉันไม่รู้ว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ ฉันทำอะไรไม่ถูก พูดน้อยกว่าที่เคยเป็น เริ่มความสัมพันธ์อีกครั้งแต่ครั้งนี้มันถลำลึกกว่าเดิม มากกว่าเดิม เราออกไปเดินเล่นที่จัตุจัก เค้าเดิมจับมือฉัน หันมายิ้ม หันมาหัวเราะ แต่แทนที่ฉันจะรู้สึกดีใจ กลับกลายเป็นความกังวล ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง รู้ว่าฉันจะเป็นยังไง รู้ว่าเค้าจะเป็นยังไง รู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไง แล้วมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิด คำที่ฉันไม่อยากให้เค้าพูดออกมา คำที่ฉันไม่อยากฟัง

      เค้าว่าเราสองคนคบกันคงไปไม่รอดหรอกเชื่อซิ เค้าว่าเราสองคนจะคบกับใครก็ได้ แล้วค่อยแอบมาเจอกันดีกว่า

      ความรู้สึกเหมือนเดิม อาการที่ฉันเป็นเหมือนเดิม ทำอะไรไม่ถูก เงียบ ยิ้ม แกล้งหัวเราะแล้วรอจนเค้ากลับไปทรุดตัวลงข้างที่นอนช้าๆ กุมหน้าแล้วร้องไห้ เค้าไม่เคยรู้เลยว่าฉันไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากจะตะโกนออกมาดังๆว่าไม่อยากเป็นเหมือนชู้ ไม่อยากเป็นเหมือนของที่ซื้อมาแล้ววางลืมเอาไว้ ต้องรอให้เดินไปเจอร้านที่เคยไปซื้อเค้าถึงจะจำได้ว่าเคยมีเรา ทำอะไรไม่ได้ ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ ได้แค่หัวเราะเยาะตัวเองแล้วกลับมาอยู่คนเดียว

       

      ฤดูฝนเดือนมิถุนายน ปี56

      ฉันไม่ได้ติดต่อเค้าไปอีกนอกจากตอนที่โทรไปตอนปีใหม่ จนผ่านมาสักพัก นั่งมองรูปดีสในไลน์ของเค้า คิดวงไปวนมาว่าจะทักไปดีไหม จนตัดสินใจได้ จนรู้ว่าเค้าจะมาที่ที่เราเคยจอกัน คิดอยู่หลายรอบ ตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัว ยืนมองตัวเองในกระจก หันไปมองสร้อยเส้นเดิมที่เคยเลือกซื้อด้วยกัน  มันยังวางอยู่ตรงนั้น ตรงที่ฉันเคยวางเอาไว้หลังจากที่คิดว่ามันไม่มีความหมายอะไรที่จะต้องใส่อีกต่อไป ฉันก็หันหลังเดินออกจากห้องทิ้งให้มันอยู่ในความมืดหลังจากที่ปิดประตู เดินไปหาอดีตที่ยังทิ้งไมได้ ฉันเดินไปยังจุดที่นัดกันไว้ สักพักเค้าก็มา หันมามอฉัน ยืนยิ้มแบบที่เคยทำ ไม่พูดอะไรนอกจากยืนยิ้ม

      สายตา ท่าทาง น้ำเสียง หรือคำพูดเค้ายังเหมือนเดิม ยังเหมือนวันแรกที่เคยเจอกัน เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ฉันยังมองเค้าจากด้านหลัง ยังคิดอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา ยังอยากให้คำที่พูดตอนที่เค้าขวนไปเดินหาดด้วยกันเป็นความจริง อยากให้ยิ้มนั้นมันเป็นของฉัน ความรู้สึก ไออุ่น สัมผัส อยากให้ฉันเป็นคนสำคัญ ยังกอดฉันเหมือนฉันจะหายไป ยังทำเหมือนฉันมีค่า ยังคอยเป็นห่วง ยังไม่อายที่จะเดินจูงมือฉัน  แต่มันก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่อยากจะพูดเลยว่าบทสุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม เค้ายังกลับไปก่อนเช้าเหมือนเดิม ยังมาพร้อมความรู้สึกดีๆ กลับไปพร้อมเอาความรู้สึกดีๆ ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะรู้แล้วว่าทำยังไงเค้าก็คงไม่เลือกฉันแน่ๆแต่ฉันก็ยังอยากให้เราสองคนเป็นเพื่อนกันยังพยายามที่จะเปลี่ยนสถานะที่เคยเป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช้แฟนยังอยากให้เรื่องนี้มันเดินต่อไป ไม่อยากให้มันจบแค่ปกหลังของหนังสือ ฉันไม่รู้เหตุผลว่าทำไมฉันกับเค้าถึงเดินมาเจอกันได้ ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงต้องรู้จักกัน ไม่รู้ว่าทำไมต้องมีความรู้สึกดีๆ ไม่รู้ว่าทำไมต้องรักเค้า

      แล้วเราต้องรู้ด้วยหรอ?


      ฤดูฝเดือนกรกฤาคม ปี56จากใจถึงใจ
       

      แล้วเธอ ก็เข้ามา เปลี่ยนหัวใจที่เคยอ่อนล้าให้มีหวัง

      ขอให้ค่ำคืนนี้มีแต่เราอยู่เคียงใต้แสงดาว

      และมีความรักให้กันและกัน

      ให้เธอเป็นดั่งเจ้าหญิงในใจฉันและจะมีเธอเท่านั้น,, ที่มีค่า

      มีเพลงมากมายที่ทำให้ฉันย้อนกลับไปนึกถึงอดีตที่ผ่านมา แต่ไม่เคยมีเพลงไหนเลยทีทำให้ฉันรู้สึกได้สองอารมย์ในเวลาเดียว เศร้าใจ และดีใจ ที่ได้ยิน

      เธอยังเป็นคนเดียวที่ฉันยอมให้อยู่ในหัวใจ ยังเป็นคนเดียวที่ฉันไม่ลืม ;)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×