ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO SNSD] EMPIRE LOVE

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1 [100% Complete]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 56


                

      CHAPTER 1

    ตอนที่ 1

     

     

    สาวเจสสิก้าแห่ง EMPIRE มีข่าวฉาวกับหนุ่มนายแบบชาวมะกันสุดฮอตไม่ซ้ำหน้ากันแต่ละวัน โดยที่ไม่แคร์ว่าที่คู่หมั้นอย่างเคลวินแห่ง EMPIRE เลยสักนิด มันยังไงกันแน่นะ แล้วทำไมเคลวินถึงยังได้ใจเย็นอยู่ได้นะ..

    จะเป็นยังไงต้องรอติดตามต่อไปคะ

     

                Paris, France

                ฉันนั่งอ่านข่าวในทวิตเตอร์จาก i-pad สีขาวของตัวเองอย่างพึงพอใจ ก่อนจะโยนมันลงที่โซฟาตัวกว้างสีพาสเทล และฉันก็นั่งลงตามก่อนจะหยิบ i-phone 5 สีดำวาวที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาเล่นเกมไปพลางๆ ไม่นานก็ปลายสายที่ฉันรอคอยก็โทรเข้ามาสักที ฉันยิ้มอย่างมีชัยก่อนจะกดรับสาย

    Rrrrr

    Kelvin W.

    “ฮัลโหล..”

    [เธออยู่ที่ไหน!? เธอคิดจะไปไหนก็ไปได้ตามใจอย่างนั้นเหรอ!?]

    “ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้..นายจะอยากรู้ที่อยู่ฉันไปทำไมกัน? ปกติ..นายก็ไม่เห็นสนใจว่าฉันจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนอยู่แล้วหนิ..”

    [อย่ากวนประสาทฉัน..เจสซี่! ตอบมา! ฉันขอเตือนว่าอย่าให้ฉันได้ออกตามหาเธอ..ไม่งั้นเธอจะไม่มีทางได้หนีไปที่ไหนอีกแน่นอน!]

    “ตามหาฉันให้เจอสิที่รัก..ฉันจะรอ..จุ๊บ!

    ฉันพูดจบก็กดวางสายไปทันที ตามหาฉันให้เจอสิเคลวิน ฉันจะทำให้บ้าคลั่งจนทำอะไรไม่ถูกเพราะฉันคนนี้นี่แหละ..คอยดูแล้วกันเคลวินสุดที่รัก..สุดที่รักที่สุดแสนจะน่ารังเกียจของฉัน!

    ก๊อก ก๊อก

    “เจสซี่ออกไปทำช้อปปิ้งกันเถอะ วันนี้คอลเล็กชั่นรองเท้าใหม่ของ Chanel ออกนะเธอรู้ไหมว่ามันสวยมาก ฉันว่าเราไปดูกันเถอะ..ที่สำคัญฉันเริ่มเบื่อสีเล็บของฉันแล้วด้วย เราออกไปทำเล็บแล้วก็ไปที่ช็อปของ Chanel กันเถอะ”

    “ไปก็ไป  สิ ‘จีน่าช่วงนี้ฉันก็เบื่อๆ     หมือนกัน”

    ฉันยิ้มให้นังแพศยาที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความเสแสร้งว่าฉันจริงใจ เหมือนกับพฤติกรรมของเธอที่ทำไว้กับฉัน หล่อนทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่! ใช่..และหล่อนก็เสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไร! หล่อนมันโกหกหลอกลวงทั้งเพ!

    ยัยเพื่อนทรยศ!!

    “งั้นไปกันเถอะ เอ่อ..วันนี้ฉันขอยืมเครดิตการ์ดเธอก่อนนะ พอดีฉันลืมเอากระเป๋าเงินมาจากคอนโดน่ะ” จีน่าตบที่ไหล่ของฉันเบาๆ ก่อนจะเดินนำออกไป

    ..หล่อนลืมเอากระเป๋าเงินมาหรือกำลังถังแตกกันแน่..

     

    .

    .

    .

     

    “เธอว่าสีนี้เป็นยังไง? เหมาะกับเล็บฉันไหม?” จีน่ายื่นเล็บของเธอที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงสดและกลิตเตอร์มาให้ฉันดู

    “ก็ดูดีทีเดียว”

    ฉันไม่เห็นว่าจะมีอะไรแปลกใหม่ไปจากเล็บสีเดิมของหล่อนเลยด้วยซ้ำ สีเล็บเก่าของจีน่าคือสีแดงเหลือบส้ม สีเล็บใหม่ของหล่อนคือสีแดง..เพื่ออะไรกัน? รสนิยมทางด้านแฟชั่นของเธอนี้ต่ำจริงๆ เลย หล่อนคิดได้แค่นี้เหรอ?

    “เธอไม่เปลี่ยนสีเล็บบ้างเหรอ? เล็บของเธอสีก็ใกล้จะซีดแล้วหนิ”

    “ไม่ล่ะ..เพราะอีกสักหน่อยเล็บของฉันคงได้เปื้อนเลือดใครสักคน” จีน่ามีสีหน้าตาตื่นตกใจไปครู่หนึ่ง ก่อนจะชักสีหน้าให้กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม เล่นละครเก่งจังนะ..

    “...”

    “ฉันหมายถึง..สีแดงสดแบบเธอไงล่ะ..ฉันว่ามันดูสวยดีนะเวลาที่มันอยู่คู่กับผู้หญิงแรงๆ อย่างเธอน่ะ

    “อะ..เอ่อ ขะ..ขอบคุณนะที่ชม” ฉันแสยะยิ้มพอใจกับคำขอบคุณที่ตะกุกตะกักที่สุดในโลกเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลย

    “...”

    “ฉันว่าช่วงนี้เธอขยันสร้างข่าวฉาวจังเลยนะตั้งแต่มาที่นี้เนี่ย ไม่กลัวคู่หมั้นเธอว่ารึยังไง? เธอเล่นเปลี่ยนผู้ชายไปเดทกันแต่ละวันไม่ซ้ำหน้ากันเลย..เดี๋ยวเขาก็ตามมาจัดการเธอที่นี้หรอก”

    “ก็แค่..หาอะไรทำแก้เบื่อน่ะจะให้อยู่เฉยๆ มันก็ไม่มีความตื่นเต้นอะไรในชีวิตหรอก จริงไหม? ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นคนนัดนายแบบพวกนั้นเองสักหน่อย..ทำไมฉันต้องกลัวว่าเขาจะตามมาจัดการฉันด้วย”

    “...”

    “จะให้ฉันปฎิเสธไปมันก็คงจะเสียมารยาทแย่เลย..เพราะฉะนั้นฉันก็เลยเลือกที่จะไม่ปฎิเสธยังไงล่ะ”

    “...”

    “เราไป Chanel ช็อปกันเถอะ”

    ฉันพูดพร้อมยืนขึ้น ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้างตัวแล้วเดินนำออกไป และฉันก็ไม่ลืมที่จะทิ้งเครดิตการ์ดไว้ให้จีน่า

    เธอเสวยสุขบนกองเงินของฉันไปได้อีกไม่นานหรอก!!

     

    .

    .

    .

     

    Seoul, South Korea

    Kris’s part

     

     “โธ่เว้ย!!

    ผมปาโทรศัพท์ของผมลงที่พื้นหลังจากปลายสายตัดไปทันทีด้วยความหงุดหงิด เธอกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง อยู่ๆ บินจากเกาหลีแล้วหนีไปดื้อๆ ไม่มีแม้แต่การบอกกล่าวอะไรผมเลย เธอกำลังทำให้อารมณ์โกรธของผมปะทุขึ้น

    ..แถมเธอยังมีข่าวฉาวกับพวกนายแบบกล้ามโตแมร่งแทบทุกวันนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดที่สุด..

    “ใจเย็นสิวะ”

    ไอ้ ‘ไคตบที่บ่าของผมเบาๆ ก่อนจะเดินมาลงที่ข้างผม พร้อมกับยื่นแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันอยู่ครึ่งค่อนแก้วมาให้ผม     

    “จะให้ฉันเย็นอยู่ได้ยังไง คู่หมั้นฉันหายไปทั้งคนนะเว้ย!” ผมกระดกน้ำสีอำพันหรือที่เรียกอีกอย่างว่า เหล้าเข้าคอไปรวดเดียวจนหมด

    “ทียัยนั้นอยู่ฉันก็ไม่เห็นว่านายก็ไม่เห็นว่าจะสนใจอะไร ทีเขาหายไปทำมาเป็นห่วง” คำพูดของไคทำให้ผมย้อนกลับไปคิด มันก็จริง..ตอนที่เจสซี่อยู่ที่นี้กับผม ผมกลับไม่สนใจเธอ พอเธอไปผมก็กลับคิดถึงเธอ..ผมต้องบ้าไปแล้วแน่เลย

    “...”

    “เงินนายก็มีตั้งมากมาย..แค่นายใช้เศษเงินเพียงเล็กน้อยของนายจ้างนักสืบตามหาคู่หมั้นตัวเอง มันจะยากตรงไหนวะ?”

    “จริงวะ..ขอบคุณที่บอกเว้ย”

    ผมเพิ่งรู้ว่าไคมันพูดให้เข้าหูคนก็เป็นเหมือนกัน เพราะปกติไคมันมักจะชอบพูดไม่เข้าหูใคร แล้วมันก็เลยมีการใช้กำลังเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง..มันเป็นพวกชอบใช้กำลังมากกว่าสมองน่ะครับ เพราะอย่างนี้ไงมันถึงได้ติดอันดับผู้ที่มีอิทธิพลที่อายุน้อยที่สุด..แล้วผมจะมาสาธยายเรื่องความฮอตไอ้ไคทำไมเนี่ย ผมไม่รอช้าผมหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาก่อนจะต่อสายหาเลขาส่วนตัวของผม

    [สวัสดีครับคุณเคลวิน มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ?]

     

     “ส่งคนตามหาเจสซี่ซะ ฉันต้องได้ที่อยู่ของเจสซี่กับไฟล์ทบินไปที่นั้นไม่เกินวันศุกร์นี้ หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ.. ‘อี้ชิง

     

     [ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ..ทุกอย่างจะเตรียมพร้อมในวันศุกร์ครับ]

    เรื่องแค่นี้ทำไมผมถึงคิดไม่ได้นะ อีกไม่นานเราก็จะได้เจอกันแล้วยัยตัวแสบเจสซี่ เธอคิดว่าจะปั่นหัวคนอย่างฉันได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ..ฝันไปเถอะ เจสสิก้า 

    “ฉันไปหาเธอแน่ยัยตัวแสบเอ้ย"                                                                                                                                                                                    

     

    End Kris’s part

     

    .

    .

    .

     

      

    “ขอดูตัวนั้นหน่อยสิคะ..” จีน่าชี้ไปที่เดรสแขนยาวชีฟองสีครีมที่ห้อยอยู่ พนักงานสาวยิ้มรับก่อนจะเดินไปหยิบชุดเดรสนั้นมายื่นให้เธอ ราคาก็ดูท่าจะธรรมดาซะที่ไหนกัน

    ..ทำไมเวลาหล่อนจะเลือกซื้ออะไรทำไมหล่อนถึงไม่ประมาณเงินที่อยู่ในกระเป๋าตัวเองบ้างนะ..

    “เธอว่าเป็นยังไงบ้าง? มันดูสวยเหมาะกับช่วง Spring   ไหม?” 

      

     “ก็สวยดี..เอาสิเธออยากซื้ออะไรก็ซื้อตามใจเธอเลย ฉันจะไปนั่งจิบชารอแล้วกัน” ฉันพูดก่อนจะเดินแยกออกมานั่งรอแถวโซนลูกค้าวีไอพีที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้

    “Bonjour [1] รับอะไรดีคะ? มาดามเจสซี่” บริกรเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับค้อมตัวให้ฉันอย่างสุภาพตามมารยาทที่ถูกอบรมมา  

    “ขอชาอังกฤษร้อนกับ Vogue เล่มล่าสุดให้ฉันก็พอ”

    “อีกสักครู่ทุกอย่างจะเสิร์ฟลงที่โต๊ะคะ มาดาม” ฉันพยักหน้ารับก่อนที่จะมองที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง อีกไม่นานก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องทำตามแผนแล้วสินะ..ฉันยิ้มร้ายก่อนจะมองจีน่าที่กำลังมีความสุขกับการช้อปปิ้งอยู่

    ..ไม่นานหรอกความสุขของหล่อนก็จะหายไป..

      

     

    .

    .

    .

     

    1 ชั่วโมงผ่านไป

     

     “เอาทั้งหมดนี้แหละคะ..” จีน่าพูดพร้อมกับยิ้มให้พนักงานที่มีกองชุดเดรสมากมายอยู่ในมือ ถึงเวลาแล้วสินะที่ฉันจะได้ทำตามแผนสักที

    “เลือกเสร็จแล้วเหรอ? ทำไมเลือกแค่นี้เองละ?”

    “ฉันกลัวว่าจะรบกวนเงินในบัตรของเธอมากเกินไป..”

    แหม..ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนฉันมากเกินไปหรอก เพราะเท่านี้หล่อนก็รบกวนฉันเกินไปมากแล้ว  และบัญชีที่เธอติดค้างเอาไว้ฉันก็กำลังจะสะสางมัน! 

      

     “ไปคิดเงินกันเถอะ..”

    Rrrrr

    “อ๊ะ! ฉันขอคุยโทรศัพท์ก่อนนะ” ฉันพูดก่อนจะปลีกตัวออกมา ที่จริงไม่มีเรื่องด่วนอะไรหรอก..มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนที่ฉันวางไว้เท่านั้นเอง

     

     “ทั้งหมดสองหมื่นดอลล่าร์คะ” พนักงานหอบถุงช้อปปิ้งพะรุงพะรังมากมายมายื่นให้จีน่า สองหมื่นเชียวเหรอ..ลืมไปแล้วรึไงว่าเธอกำลังถังแตกจีน่า.. 

     

    “อะ..อะไรนะ! 'Lila' ลูกสาวฉันช็อคเหรอ? เธอดูแลลูกสาวฉันยังไงถึงได้ปล่อยให้ลูกสาวฉันเป็นแบบนี้ไปได้..ฉันจะกลับไปที่นั้นเดี๋ยวนี้!!” 

      

     อันที่จริง Lila ลูกสาวพันธุ์ชิสุขนปุกปุยของฉันยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่โซลกับเลขาส่วนตัวของฉัน ถ้าเกิด Lila เป็นอะไรไปนิดเดียวฉันไม่มายืนช้อปปิ้งอยู่ตรงนี้หรอก ที่ฉันพูดออกไปมันก็เป็นแค่เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ฉันวางไว้เท่านั้นเอง

     

     “กะ..เกิดอะไรขึ้นเหรอ? Lila เป็นอะไรไป?” จีน่าก็มีสีหน้าเหวอไปเหมือนกัน เพราะเธอรู้ว่าถ้าเกิดอะไรกับลูกรักของฉัน ไม่ว่าฉันจะทำงานอะไรอยู่ฉันจะทิ้งงานที่ทำอยู่แล้วรีบไปหา Lila ทันที  

      

    “ฉันขอโทษนะจีน่า..พอดีฉันต้องรีบไปจริงๆ อะนี้เครดิตการ์ดของฉัน” ฉันพูดพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตการ์ดทให้จีน่าไป

     

     “งั้นเธอรีบไปเถอะ..เดี๋ยวบัตรนี้ฉันจะคืนให้วันหลังละกัน” จีน่าพูดพร้อมกับทำสีหน้ามีความสุข ฉันแอบยิ้มในใจที่เห็นว่ายัยเพื่อนคนนี้ติดกับของฉันแล้ว เธอช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย..

    “ฉันไปก่อนนะ..แล้วเจอกัน”

    ฉันพูดก่อนจะปลีกตัวเดินออกมา จีน่า..เธอช่างไม่รู้อะไรซะบ้างเลย..ว่าเครดิตการ์ดใบนั้น..ไม่มียอดเงินคงเหลืออยู่เลย..อยากโง่เองนะ! คิดว่าฉันหน้าซื่อขนาดนั้นเลยเหรอ! 

     

     

    [1] = คำทักทายภาษาฝรั่งเศส  

      

                                                                             

      
     
        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×