เธอคนนั้นในคืนเดือนเพ็ญ
เมื่อบังเอิญพบ แต่ไม่ได้บังเอิญรัก หญิงสาวปริศนาที่เธอพบในคืนเดือนเพ็ญคนนั้น จะทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างไร
ผู้เข้าชมรวม
121
ผู้เข้าชมเดือนนี้
16
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แสงสีทองยามเย็นสาดทอดยาวไปตามถนนเส้นหลักมุ่งตรงสู่ดินแดนฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ รถเก๋งสีดำเงาถูกขับมาด้วยความเร็วที่พอเหมาะ ไอยราเธอเป็นคนที่ค่อนข้างระมัดระวังในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนท้องถนน พ่อกับแม่ของเธอจากเธอไปตั้งแต่เธออายุเพียงแค่แปดขวบ และสาเหตุก็เกิดจากความประมาทของผู้ใช้ถนนร่วมกัน รถบรรทุกหลับในพุ่งข้ามเลนชนเข้ากับรถของทั้งสองท่านอย่างจังจนสิ้นใจคาที่ มันเป็นความทรงจำเลวร้ายที่คอยย้ำเตือนเธอให้มีสติอยู่เสมอ
ไอยรากำลังเดินทางไปที่จังหวัดอุดรธานีเพื่อจะไปเยี่ยมคุณยาย เธอทำแบบนี้ทุกปีในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป สิ้นปีนี้เธอมีธุระจำเป็นที่จะต้องทำ ไอยราจึงเลือกเดินทางก่อนสิ้นปี วันที่เธอเลือกคือวันนี้ มันเป็นวันลอยกระทง ใครหลายคนอาจจะกำลังเตรียมกระทงเพื่อไปขอขมาแม่คงคากันอยู่ แต่เธอกลับกำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปตามถนนเส้นคุ้นเคย เธอคาดการณ์พรุ่งนี้สายๆ อาจจะถึงบ้านยายอย่างที่หวัง
ล่วงเลยมาหลายชั่วโมง ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแสงไฟสองฝั่งถนนก็เริ่มห่างออกเพราะเริ่มออกสู่ชนบททุกที ดีหน่อยที่คืนนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญ แสงจากพระจันทร์ที่เต็มดวงจึงพอจะส่องสว่างอยู่บ้าง
จนกระทั้งนาฬิกาบนจอหน้ารถแสดงเวลาห้าทุ่มตรง เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ท้องฟ้าที่เปิดกว้างแต่งแต้มด้วยสีทองนวลของดวงจันทร์เมื่อครู่ก็พลันเปลี่ยนเป็นเมฆฝนปั่นป่วนในชั่วพริบตา ก่อนสายฝนจะโปรยลงมาเม็ดใหญ่ กระทบตัวรถเก๋งเสียงดังสนั่นจนไอยรานึกแปลกใจ
“อะไรกันน่ะ อยู่ๆ ก็เทลงมาดื้อ ๆ แบบนี้เลยเหรอ”
ทัศนวิสัยโดยรอบเริ่มขุ่นมัว ไอยราจึงลดความเร็วลงอีกเพื่อความปลอดภัย ด้วยความเป็นชนบทไฟฟ้ารายทางจึงมีเพียงน้อยนิด ตอนนี้เธออาศัยเพียงไฟหน้ารถก็เท่านั้น ด้านเพื่อนร่วมถนนก็แทบจะไม่มีให้เห็น ซึ่งเธอเข้าใจดีเวลาดึกดื่นในชนบทจะให้มีรถราขวักไขว่เหมือนในเมืองก็คงไม่ใช่ ขนาดหมู่บ้านยังห่างกันเป็นกิโล
“ฝนบ้าอะไรมาตกตอนนี้ แปลกจริง ๆ เลย”
รถแล่นไปด้วยความระมัดระวังพร้อมกับความงงงวยของไอยรา เธอไม่คิดไม่ฝันว่าฝนจะมาตกหนักเอาตอนนี้ แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากจะต้องตั้งสติขับต่อไปให้ถึงบ้านยายอย่างปลอดภัย ความเร็วของรถลดลงไปมากอยู่ กว่าจะถึงที่หมายคงช้ากว่าเวลาปกติไปมาก
เสียงฝนกระทบรถด้านนอกดังซู่ซ่า พร้อมกับลมแรงที่มาเป็นละลอก อยู่ ๆ มันก็ทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงยายขึ้นมาแปลก ๆ ใจของเธอพะวงถึงยายจนเริ่มรู้สึกหวิวในอก ใจอยากยกโทรศัพท์โทรหา ตอนนี้ขอได้ยินแค่เสียงเธอก็จะดีใจมากๆ แต่เธอเองก็พยายามจะไม่คิดอะไร เพราะสภาพอากาศแบบนี้การหลุดโฟกัสจากการขับไปสนใจโทรศัพท์จะทำให้โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุมีเพิ่มมากขึ้น
แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกวูบหวิวในอกได้ ความรู้สึกของเธอคือ หากไม่ยอมยกหูโทรหาในตอนนี้ ฝีเท้าก็อาจจะเหยียบคันเร่งมิดเพื่อรีบถึงอุดรธานีเลยก็เป็นได้
เมื่อเป็นแบบนั้นมือขาวจึงละจากพวงมาลัยเอื้อมหาโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ ในขณะที่สายตาก็โฟกัสที่เส้นทางอย่างระมัดระวัง แต่เหมือนยิ่งควานหาก็ยิ่งไร้วี่แววจะสัมผัสถึงสิ่งที่ต้องการได้ทั้งๆ ที่ก็จำได้แม่นว่าวางโทรศัพท์มือถือไว้ตรงนั้น เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ทุกอย่างดูจะไม่เป็นไปดั่งใจของเธอเลยสักอย่าง สายตาจากที่จับจ้องเส้นทางก็หันขวับมายังจุดที่ตนคิดว่าวางโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ก่อนจะเห็นว่ามือถือเครื่องสวยได้หล่นไปตรงเบาะข้างๆ ไกลออกไปจากที่เดิมเล็กน้อย ไอยรายื่นมือเอื้อมหวังจะไปหยิบ แต่ทันใดนั้นสายตาคู่คมก็ไปจับจ้องเห็นคล้ายร่างหญิงสาววิ่งพรวดออกมาจากข้างถนน พุ่งตัดหน้ารถเธอ ด้วยความตกใจเธอจึงรีบเหยียบเบรคกระทันหัน แรงเบรคทำเอาเธอหัวทิ่มพวงมาลัย แตรรถดั่งระงมไปทั่วพื้นที่โดยรอบ
หัวใจเต้นราวกลองชุด ไอยราค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นจากพวงมาลัยเมื่อรู้สึกว่ารถได้หยุดนิ่งสนิท ภาพที่ปรากฏตรงหน้า ไม่ใช่ร่างที่นอนกองอยู่บนถนน แต่เป็นหญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าสีขาวยืนตากฝนหนาวสั่นอยู่ตรงหน้า เธอปลอดภัยดีไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
หญิงสาวคนนั้นดูเผินๆ ก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับไอยรา หญิงสาวยืนกอดอกตัวสั่นเทิ้มจ้องมองมาที่รถด้วยแววตาอ้อนวอน ไอยราถึงจะยังตกใจอยู่มาก แต่ก็รับรู้ได้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นคนจริงๆ และกำลังต้องการความช่วยเหลือ ชุดสีขาวที่เปียกปอนเมื่อมองผ่านแสงไฟรถก็แทบจะเห็นทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน ไอยราไม่อยากจะคิด ถ้าเป็นพวกผู้ชายหื่นกามมาเห็นเข้าจะเป็นอย่างไร
กระจกรถถูกลดลงเล็กน้อย ก่อนไอยราจะตะโกนถามออกไป
“คุณเป็นอะไรมากไหมคะ”
อีกฝ่ายส่ายหน้า แล้วตามมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ขอร้อง ช่วยฉันที รบกวนคุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ได้ไหมคะ”
“คุณหนีอะไรมา แล้วทำไมมาอยู่คนเดียวในสภาพแบบนี้”
“คุณคะ ได้โปรดช่วยฉันก่อน แล้วฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง”
ไอยรามีความลังเลเล็กน้อย ถึงจะเป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร แต่การรับใครขึ้นรถสุ่มสี่สุ่มห้าก็ดูจะไม่สมควรเท่าไหร่ เมื่อความเงียบเริ่มก่อตัวเพราะการพิจารณา อยู่ๆ อีกฝ่ายคุกเข่าลงตรงกลางถนนพร้อมก้มลงกราบอ้อนวอนไอยราอีกครั้ง
“คุณคะ ฉันขอร้อง ฉันกราบล่ะ ช่วยฉันที”
เห็นแบบนั้นไอยราก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก ฝนก็ตก ฟ้าก็ร้อง ไม่หนำซ้ำตั้งแต่ที่ฝนตกเพื่อนร่วมถนนก็ไม่มีผ่านมาสักคัน
“อะ เอ่อ ใจเย็นค่ะ คุณลุกขึ้นก่อนนะ”
“คุณแค่ไปส่งฉันไว้ในเมืองก็ได้ นะ นะคะคุณ”
“ได้ๆ โอเคค่ะ งั้นคุณขึ้นรถมาก่อนเลย”
ในที่สุดไอยราก็ไม่อาจจะใจไม้ไส้ระกำได้ เปิดประตูรถรับหญิงสาวแปลกหน้าที่วิ่งตัดหน้าให้ขึ้นมานั่งข้างๆ ตน
ร่างบางที่เปียกชื้นเมื่อเข้ามาในรถก็ยิ่งสั่นสะท้านเพราะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เธอกอดตัวเองแน่นแต่ก็ไม่วายเอ่ยขอบคุณผู้ให้ความช่วยเหลือ
“ขอบคุณค่ะ ฉันต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ”
ไอยราหันไปหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่ด้านหลังมายื่นให้หญิงสาว เพราะเธอดูหนาวจนตัวซีดไปหมด ไหนจะซวดทรงภายใต้อาภรณ์ที่ดูไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรนั่นอีก หากไอยราเป็นชายหนุ่มก็คงจะเก็บทรงไม่อยู่แน่ ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังใจหวิวได้เวลามอง
“สวมคลุมไว้หน่อย เดี๋ยวเป็นหวัดเอา”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”
“เอาล่ะ ระหว่างนั่งรถไปคุณก็ช่วยเล่าให้ฉันฟังทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“ได้ค่ะ..”
แปลกแต่จริง ทันทีที่รถออกตัว ฟ้าฝนที่คึกคะนองเมื่อครู่ก็พลันหายไป ท้องฟ้ากลับกลายเป็นสดใสภายใต้พระจันทร์เต็มดวงอีกครั้ง แสงคืนเดือนเพ็ญสาดสีทองไปทั่วทิศสมกับเป็นคืนลอยกระทง
ผลงานอื่นๆ ของ first writer ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ first writer
ความคิดเห็น