ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #17 : DOUBLE LOVE : BAEKCHENHYUN II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      41
      15 ต.ค. 60




    Tile : Double Love II

    Pairing : BAEKCHENHYUN

     

     

    ตระกูลพยอนมีลูกชายอยู่ 2 คน แน่นอนพวกเค้าทั้งคู่เป็นฝาแฝดเกิดห่างกันเพียงแค่ 5 นาที เมื่อก่อนชื่อของแฝดคนพี่คือ พยอนแพคอา ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็นพยอนแพคยอลในตอนหลัง มันมีที่มาที่ไปนะ ไม่ใช่จู่ๆก็อยากมาเปลี่ยนให้เรียกยาก มันเป็นเพราะว่าเมื่อตอนที่แพคอาอายุได้เพียง 3 เดือน แฝดพี่ป่วยหนัก ติดเชื้อทางเดินหายใจจนเกือบจะเสียชีวิต คุณย่าที่อยู่คยองกีโดผู้ชื่นชอบเรื่องดวงชะตาจึงเดินทางขึ้นเขาไปหานักพรตที่อยู่ในป่า? แล้วเปลี่ยนชื่อให้คล้ายคลึงกับชื่อของแฝดคนน้อง เพื่อเป็นเคล็ดให้เหมือนกับว่าเป็นคนๆเดียวกันแล้วจะรอด นั่นแหละตอนนั้นคุณนายพยอนที่แทบจะไม่มองไม่เห็นหนทางช่วยลูกชายจึงทำตาม มันน่าแปลกที่แพคอาหายดีตั้งแต่วันนั้น จึงได้ชื่อนี้มา ส่วนแฝดน้องชื่อ พยอนแพคฮยอน นั่นแหละชื่อมันเลยอาจจะเรียกยากสักหน่อย พวกเขาจึงมีชื่อเล่น แฝดพี่คือ แพคอา และแฝดน้องคือ ฮยอน ในเรื่องรูปร่างหน้าตา แพคอาสูงกว่าแพคฮยอนอยู่นิดหน่อย ส่วนหน้าตาพวกเขาแทบไม่มีส่วนไหนที่ต่างกัน แต่ถ้าจะให้เห็นชัดๆสิ่งที่ต่างกันมากๆ ก็คงจะเป็นนิสัยนั่นแหละ

    แถมยังเป็นนิสัยแบบไม่ดีเด่ซะด้วย...

     

     

    ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะท่าทางร้อนรนของคนที่หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะทำเอาแพคอาเบ้หน้า มือเรียวยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบก่อนจะนั่งมองน้องชายไม่วางตา เหล่มองไปรอบๆก็เห็นว่าเพื่อนๆของหมอนี่น่าจะมากันครบแล้ว เพราะส่วนมากก็รู้จักหน้าค่าตากันดี หรือว่ายังมีใครที่เขาไม่รู้จักอีกงั้นหรอ?

     

    จู่ๆใบหน้าของใครบางคนที่เจอตรงหน้าประตูบ้านก็ผุดขึ้นมา มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สัมผัสกับวัตถุเย็นๆที่แน่นิ่งอยู่ในนั้น

    นี่คงไม่ใช่ว่าโทรหาเด็กเฉิ่มๆที่วิ่งหน้าตั้งหนีเขาไปนั่นหรอกนะ...

     

     

    ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้นายชอบแบบเฉิ่มๆก็แค่พูดขึ้นมาลอยๆแต่ดูเหมือนหูพยอนคนน้องจะดีเหลือเกิน ตาคมนั่นตวัดมายังคนพูดแทบจะทันที คิ้วของแพคฮยอนขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ไอ้พี่ชายที่เกิดก่อนเขาแค่ห้านาทีทำไมจู่ๆถึงพูดอะไรแปลกๆ หรือว่า...

     

    แพคอา นายทำอะไรจงแด

    ชื่อจงแดหรอ?”ประโยคแรกเหมือนพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกมือโบกเป็นพัลวัน เมื่อน้องชายตัวดีมองมาอย่างคาดคั้นฉันไม่ได้ทำอะไร คนเพิ่งเจอกันจะไปทำอะไรได้ยังไงวะ

    ใครจะไปรู้ หน้าอย่างนายทำได้ทั้งนั้นแหละ ไอ้เรื่องที่คนอื่นเขาไม่ทำกันน่ะ

    อ้าว ไอ้นี่ หน้าเราก็เหมือนกันไหมวะ?”

    อย่ามาเล่นลิ้นแพคอา บอกมาพี่ทำอะไรจงแดเสียงของแพคฮยอนเริ่มเข้มขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายยังเล่นลิ้นไม่เลิก

    ไม่ได้ เฮ้ย!!ร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆน้องชายก็คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อแล้วดึงลาก สาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆแพคอาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อพยอนคนน้องส่งยิ้มเป็นเชิงขอโทษมาให้

    ผมขอตัวแพคอาแป๊บนึงนะ ยูรี

     

     

     

    เสียงเพลงที่ดังอยู่ด้านนอกของบ้านไม่ได้สร้างความหฤหรรษ์สำหรับสถานการณ์ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ หลังจากที่โดนลากคอเข้ามาในบ้าน ฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออกก็เอาแต่นั่งจ้องหน้ากันนิ่งๆ เหมือนจะรอให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ และเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาก่อน และแน่นอนสำหรับคนที่ใจเย็นน้อยกว่า(หลายเท่า) อย่างแพคอาพ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูปในด่านแรก

    เจ้าตัวจิ๊ปากก่อนจะเอนหลังพิงโซฟา

     

    ก็ได้ๆ แต่ขอถามก่อนได้มั้ยว่า เด็กเฉิ่มๆนั่นเป็นอะไรกับนาย?”

    อย่าเรียกจงแดแบบนั้นพยอนคนน้องเอ่ยเสียงแข็ง ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อพี่ชายตัวดีมันทำเสียงล้อเลียนประโยคเมื่อครู่ “...ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน

    นี่พูดเหมือนนายกำลังจะจีบ..เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่าชอบแบบนั้นน่ะ แบบเฉิ่มๆนั่นน่ะนะแพคอาตาโต ร้องเสียงหลง จ้องหน้าน้องชายอย่างไม่เชื่อสายตา เด็กตัวผอมๆเฉิ่มๆเชยๆนั่น มันน่าสนใจตรงไหนกันวะ!!

    ไม่ได้เด็ดขาด จะให้หน้าตาดีๆที่เหมือนเขาไปคบกับเด็กเฉิ่มๆแบบนั้นได้ยังไง เสียชื่อเสียงที่เขาอุตส่าห์สะสมมาตั้งนมตั้งนานหมด

     

    แพคฮยอนกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย นายไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ความชอบคนอื่น รีบๆตอบมา นายทำอะไรจงแด?

    “ไม่ได้ทำอะไร..”แพคอาหยุดชะงักเมื่อเจอสายตานิ่งๆของน้อง สายตาที่มองมาบ่งบอกว่าไม่เชื่อประโยคเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย เออๆ ยอมรับก็ได้ว่าแค่ตะคอกไปนิดหน่อย

    แพคฮยอนยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองไปทีนึง พร้อมกับถอนหายในแรงๆใส่คนเป็นพี่

     

    “แล้วจู่ๆ ไปตะคอกใส่เค้าทำไมวะ?”

    “ก็เด็กนั่นมาขัดจังหวะนี่หว่า...”

    “แพคอา นายนี่มัน..”

    “...คนกำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่เชียว...ย๊าส์ ฮยอนนี่พี่นะเว๊ย!!”มือเรียวของน้องตบลงบนหัวอย่างไม่ไว้หน้า แพคอาร้องลั่น ก่อนจะได้ยินคำพูดเรียบๆจากน้องชาย

    โอเค น้ำเสียงมันบีบบังคับด้วย

    “ไปขอโทษจงแดซะ”

     

     

    ~~~~~ DOUBLE LOVE ~~~~~

     

     

    เอาจริงๆจงแดก็ไม่ได้เสียใจ หรือผิดหวังในตัวแพคฮยอนอะไรขนาดนั้นหรอก

    เขาก็แค่ช็อก...แค่นั้นเอง

     

    คนตัวผอมขยับแว่นตาให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆเดินกอดหนังสือในอกแน่นก้มหน้าก้มตาเดินผ่านกลุ่มของแพคฮยอนที่เห็นอยู่ลิบๆตอนที่อยู่ตรงทางเข้าของคณะ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองว่าอีกฝ่ายจะเห็นเขาหรือเปล่า แน่ใจในระดับหนึ่งว่าตัวเองสามารถกลมกลืนกับเหล่านักศึกษาในคณะได้ดีพอที่แพคฮยอนจะไม่สนใจ หรือมองเห็นคนที่เหมือนจะเป็นแค่จุดเล็กๆในคณะอย่างเขา

    แต่จงแดนึกไม่ถึงหรอกว่า ตัวเองน่ะกลายเป็นจุดสนใจในสายตาของพยอนแพคฮยอนมาตั้งนานแล้ว

     

     

    ร่างผอมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเดินเข้ามาในตึก นาฬิกาข้อมือบอกว่ายังเหลือเวลาอีกสามสิบนาทีก่อนเข้าคลาสแรกของวัน ยังพอมีเวลาให้กินอาหารเช้าที่เตรียมมาจากบ้าน เขาเดินเลี่ยงลิฟต์ที่มีคนยืนรอไปยังบันไดหนีไฟที่ไม่ค่อยมีใครสนใจใช้งาน ขาเล็กก้าวช้าๆอย่างไม่รีบร้อน ไม่ทันได้สนใจเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่เดินตามมา และเพราะไม่สนใจอะไรรอบข้างเลยนั่นแหละคิมจงแดถึงไม่ทันเห็นว่าตรงชานพักบันไดระหว่างชั้นมีใครบางคนยืนอยู่ก่อนแล้ว

    กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่หัวชนเข้ากับอกแข็งๆของอีกฝ่ายนั่นแหละ

     

    “ขะ ขอโทษครับ”เสียงสั่นๆละล่ำละลักขอโทษออกมาเป็นอันดับแรกทั้งๆที่ยังคงก้มหน้า หนังสือในอ้อมแขนหล่นลงไปกองกับพื้น จงแดนึกโทษตัวเองที่ติดนิสัยเดินก้มหน้า แถมยังเอาแต่คิดว่าบันไดหนีไฟแห่งนี้ไม่ค่อยมีคนได้ใช้ ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังอะไรให้มาก เขาลืมคิดไปว่ามันเป็นที่สาธารณะ ไม่ใช่ว่าทุกวันจะไม่มีคนใช้นอกจากเขาเสียหน่อย

     

    มือเล็กเอื้อมไปจะหยิบเอาหนังสือแต่มันกลับลอยหวืดขึ้นจากพื้นไปต่อหน้าต่อตา จงแดตัวสั่นเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เขารู้สึกถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากล

    บางทีเขาอาจจะโดนแกล้งอีกแล้วก็ได้...

     

    “ผม..ขอ..”คำขอโทษถูกกลืนลงคอเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าใครอยู่ตรงหน้า “..ฮยอน”

    เมื่อกี้ยังนั่งอยู่ข้างหน้าคณะอยู่เลยไม่ใช่หรอ?

     

    “เรียกว่าไงนะ?”หนังสือเล่มหนาเมื่อครู่ถูกโยนมาใส่แทบไม่ทันตั้งตัว แต่จงแดก็เร็วพอที่จะรับลูกรักไว้ทันก่อนจะลงไปนอนแอ้งแม้งกับพื้นเสี่ยงเป็นรอย ตากลมเบิกกว้างอยู่แล้วเพราะความตกใจเมื่อครู่ยิ่งเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายยกแขนขึ้นกอดอกคิ้วขมวดจ้องมาที่เขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

    เหมือนวันนั้นเลย..วันเกิดที่เผลอไปเห็นตอนนั้น..

    .

    “ฉันถามว่าเมื่อกี้นายเรียกฉันว่ายังไงนะ แว่น”

    “ก็..ฮยอน อย่างที่แพคฮยอนบอกให้เราเรียก”ปลายเสียงแผ่วเบาเหมือนกับเริ่มไม่มั่นใจ บรรยากาศแปลกๆที่แผ่ออกมาจากอีกฝ่ายทำให้จงแดเริ่มรู้สึกอยากเดินหนี เขาเผลอสะดุ้งขยับถอยหลังเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ยื่นหน้าเข้ามาแทบจะชิด คนตรงหน้าหัวเราะหึๆในลำคอ ก่อนตาคมนั่นจะกวาดมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า จงแดกอดหนังสือในอกแน่น ถึงจะไม่ได้อะไรกับนิสัยจริงๆของแพคฮยอน แต่เขาก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนไปจนเหมือนคนละคนได้ในเวลารวดเร็วแบบนี้

     

    แค่เขาเห็นนิสัยจริงๆ ก็เลยปฏิบัติกับเขาต่างจากเมื่อก่อนงั้นหรอ

     

     

    “นายนี่มัน ขี้เหร่จริงๆ”

    “อ่ะ ...”แว่นสายตาถูกอีกฝ่ายดึงหลุดออกจากใบหน้าโดยที่ไม่ทันได้คว้าไว้ จงแดน้ำตารื้นเมื่อภาพด้านหน้าเรือนลาง เขาเห็นเพียงใบหน้าของฮยอนขยับใกล้เข้ามาเป็นภาพมัวๆ ขาเล็กก้าวถอยหลังอย่างไม่ทันได้คิด

    สุดท้าย ฮยอน ก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นหรอก...

     

    “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ เด็กแว่น!!

     

     

    จงแดได้ยินเสียงของฮยอนตอนที่ขาข้างหนึ่งหลุดจากชานพักบันได ร่างเขาทรงตัวไม่อยู่ ได้แต่หลับตาปล่อยหนังสือในมือให้ล่วงหล่นแล้วพยายามคว้าทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตามสัญชาตญาณ แต่มือของฮยอนที่ยื่นมามันไกลเกินไป

     

    หมับ!

     

    ร่างผอมบางถูกคว้าไว้อ้อมแขนของใครบางคนดึงรั้งจนร่างทั้งร่างถลาซุกอยู่กับอก จงแดได้ยินเสียงหอบหายใจดังข้างหู ดวงตาตื่นตระหนกจ้องหน้าของคนที่เข้ามาช่วยเขาให้หวิดจากการไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลก่อนจะเบิกกว้างเป็นครั้งที่สอง ถึงเขาจะสายตาสั้นแต่ในระยะห่างแค่นี้เขาเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน

     

    “ฮยอน..”

    “ไม่เป็นไรใช่มั๊ย?”

     

    จงแดไม่ได้ตอบคำถามแต่ดวงหน้ากลับหันไปยังชานพักบันได เขาหรี่ตาลงแม้จะไม่ได้ทำให้ภาพตรงหน้าชัดขึ้น แต่จงแดก็เห็น ฮยอน อีกคนยืนอยู่ตรงนั้น

    นี่มันอะไรกัน ทำไม ฮยอน มีสองคน...

     

    “ทำไม...”จงแดเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้น ก็โดนคนที่ตระคองกอดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

     

    “ฉันบอกให้นายมาขอโทษจงแดไม่ใช่หรือไง แพคอา”

     

     

    ~~~~~ DOUBLE LOVE ~~~~~

     

     

    นั่นอะไรน่ะ!”

    ไอ้เฉิ่มนั่นทำไมไปเดินอยู่กับฝาแฝดพยอนแบบนั้น

    กรี้ด ทำไมพี่แพคอา กับพี่ฮยอน..

     

    เสียงซุบซิบนินทาแทบจะไม่ได้ทำให้จงแดหวาดกลัว แต่เขากลับรู้สึกเหมือนกับว่าหลุดมาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก โลกที่ทุกคนดูรู้กันหมดว่าฮยอนมีฝาแฝด...

    แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนมา..

     

    เสียงซุบซิบ ดังขึ้นในทุกที่ที่ก้าวเท้าผ่าน ชื่อของแฝดพี่และแฝดน้องดูเหมือนจะมีคนรู้จักกันทั่ว ทุกคนไม่ได้มีท่าทีตกใจเหมือนเขาที่เพิ่งรู้เรื่องครั้งแรก ไหล่เล็กของคนที่ตอนนี้เดินอยู่ตรงกลางถูกขนาบด้วยแฝดตระกูลพยอนห่อลง ใบหน้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นสายตาก้มต่ำจนคางแทบชิดอก แขนเรียวกอดหนังสือเล่มหนาในอ้อมแขนราวกับหาที่ยึดเหนี่ยว สำหรับคนที่ปกติกลมกลืนไปกับอากาศแทบจะไม่เคยเป็นจุดสนใจอย่างคิมจงแด มันไม่ชินเลย แถมหัวข้อที่พวกคนเหล่านั้นพูดถึงยังดูเหมือนว่าจะพากันหาคำตอบว่าทำไมจู่ๆเด็กแว่นเฉิ่มๆที่แทบไม่มีตัวตนอย่างเขาถึงได้มาเดินอยู่ข้างๆ ทั้งฮยอนและพี่ชายฮยอนแบบนี้

    เขาไม่ชอบเลย

     

    จงแด…”

    จะเดินก้มทำไมนักหนา!เสียงห้วนๆของแพคอาดังขึ้นก่อนที่ฮยอนจะทันพูดอะไรต่อ มือเรียวของแฝดน้องที่กำลังจะยื่นไปแตะบนไหล่สั่นๆนั่นชะงักค้างเมื่อจงแดสะดุ้งจนตัวโหยงเงยมองหน้าแพคอาด้วยสายตาหวาดๆ

     

    คะคือ..คนตัวผอมข้างกายละล่ำละลักจะตอบแต่แฝดน้องไวกว่า ชีทเรียนที่ถูกม้วนในมือฟาดใส่ไหล่แฝดพี่อย่างจัง จนคนที่กำลังทำหน้าดุๆใส่จงแดร้องเสียงหลง

     

    โอ้ย ฮยอนตีพี่ทำไมวะ

    แล้วนายเสียงดังใส่จงแดทำไมวะ

    ฉันพูดเสียงปกติ

    หูฉันไม่ได้หนวกนะแพคอาฮยอนเถียงกลับทันควันจ้องหน้าพี่ชายอย่างไม่สบอารมณ์ เรื่องเมื่อตอนเช้าที่บอกให้ไปขอโทษจงแดก็ยังไม่ทำ เกือบสร้างเรื่องเพิ่มให้จงแดเจ็บตัว แล้วตอนนี้ยังเอาแต่จะแกล้งจงแดอีก ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนักหนา...

     

    แพคอาทำเสียงเหอะในลำคอก่อนจะมองเด็กแว่นเฉิ่มๆที่ตัวลีบลงอย่างคาดโทษปกติถึงจะไม่ใช่พี่น้องที่พูดจากันดีเด่อะไรมากมาย แต่ก็ไม่เคยต้องมาเถียงเรื่องไร้สาระอะไรกันแบบนี้

    มองน้องชายที่กำลังลูบไหล่สั่นๆของเด็กแว่นแล้วก็ได้แต่กรอกตาถอนหายใจแรงๆ

     

    จ้องร่างผอมบางนั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า วนไปวนมาสามสี่รอบก็ยังได้ข้อสรุปเหมือนเดิม

    ขี้เหร่!

     

    ทั้งๆที่เมื่อก่อนสเป็กก็ไม่ได้ต่างกันมาก เพราะเกิดจากไข่ใบเดียวกัน ความคิด ความชอบมันเลยคล้ายๆกัน ชอบคนเดียวกันมาก็เยอะ (แต่ก็ไม่เคยแย่งกันจนทะเลาะวุ่นวาย เพราะสำหรับพวกเขาเคารพการตัดสินใจของฝั่งนั้นเสมอ) แล้วคราวนี้ทำไมสเป็กน้องเขาถึงได้ลดลงฮวบฮาบจนรับไม่ได้ขนาดนี้ แถมยังทำท่ากางปีกปกป้องเสียจนออกหน้าออกตา แพคอาหรี่ตามองอีกครั้ง ก็ยังไม่เห็นด้วย

    คิมจงแดน่าปกป้องตรงไหน ดูยังไงก็น่าแกล้งชัดๆ!

     

     

    จงแดรู้สึกปวดหัวขึ้นมาตุบๆ แม้ฮยอนจะลูบหลัง พูดขอโทษแทนแพคอาแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกไม่สบายใจที่ตกเป็นเป้าสายตา และความหวาดกลัวจากแฝดพี่ลดลงสักนิด แววตาคู่นั้นที่เอาแต่มองเหมือนไม่ชอบหน้าเขามันน่ากลัวจริงๆ

    แถมเอาแต่ใช้น้ำเสียงดุๆ พูดกับเขา เหมือนเขาทำผิดตลอดเวลาด้วย

     

    ไปกินข้าวด้วยกันก่อนนะจงแด ฉันมีเรื่องที่ต้องอธิบายให้นายฟังหลายเรื่องเลย...”เสียงของแพคฮยอนอ่อนโยนตอนที่พูดกับจงแดก่อนจะปรับโทนเสียงเข้มขึ้นเป็นเชิงบังคับ “นายด้วยนะแพคอา

    “...”จงแดได้แต่มองหน้าฮยอนอย่างกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกตอนที่ได้ยินคำชวนนั่น อยากจะปฏิเสธแต่แววตาอ้อนๆของฮยอนก็ทำเอาปฏิเสธไม่ลง ถึงจะไม่อยากอยู่ใกล้แพคอาก็เถอะ แต่ถ้าฮยอนไปด้วยก็คง..ไม่เป็นไร

     

    คนตัวผอมพยักหน้ารับคำอย่างไม่มั่นใจแต่ก็เรียกรอยยิ้มกว้างจากฮยอนได้เป็นอย่างดี เสียงจิ้ปากของแพคอาดูจะทำลายรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้(ในความคิดของแพคอาคนเดียวอ่ะนะ)ไม่ได้เลย แต่แล้วอะไรๆก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อจู่ๆใครบางคนก็วิ่งหน้าตั้งพร้อมกับเรียกชื่อแฝดน้องมาแต่ไกล

     

    ฮยอน มีเรื่องแล้วว่ะแฝดน้องคิ้วขมวดมองเพื่อนร่วมชมรมที่ยังหอบแฮ่กจากการวิ่งพรวดพราดมาจากที่ไหนสักที่ไม่หาย ตาขวากระตุกอย่างไม่น่าไว้ใจ

     

    มีอะไร ค่อยๆพูดแฝดน้องละความสนใจจากคนตัวผอมชั่วครู่ ก่อนจุนมยอนจะค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ปกติ

    พวกในชมรมกำลังตีกัน เรื่องคัดเลือกตัวแทนแพคฮยอนตบหน้าผากตัวเองหลังจากได้ฟังประโยคนั้น เขาก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นวันนี้ ชมรมฮับกิโด้ที่เขาเพิ่งได้ขึ้นเป็นประธานกำลังจะมีการคัดตัวเพื่อเข้าแข่งขันระดับประเทศ และเรื่องที่ตามมาก็คือเรื่องภายใน ซึ่งเขาต้องเป็นคนจัดการ ตาคมหันกลับมาก็พบดวงตาใสแจ๋วภายใต้กรอบแว่นของจงแดมองมาอย่างงุนงง แพคฮยอนเผลอถอนหายใจ ยิ่งเมื่อมองเลยไปยังใบหน้าของแพคอาที่เหมือนกำลังกลั้นรอยยิ้มไว้แล้วด้วย

     

    แป๊บนึงนะ..เขาหันไปบอกเพื่อนก่อนจะหันกลับมาหาคนตัวผอมอีกครั้ง เขาคงต้องให้แพคอาเป็นคนอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนงานวันเกิดก่อน..

     

    จงแด งั้นวันนี้...

    เดี๋ยวฉันพาไปเลี้ยงข้าวไถ่โทษเองเสียงที่แทรกขึ้นมาทำเอาพยอนคนน้องหรี่ตาจับผิดแทบจะทันที แต่แพคอาก็ทำหน้าปกติไร้พิษภัยจนน่าหมั่นไส้อะไร ก็จะไถ่โทษไง

    คือ..ไม่จงแดส่ายหน้าจนผมกระจายแม้จะปฏิเสธไม่ได้เต็มปาก  ตากลมจ้องมองฮยอนอย่างอ้อนวอนโดนไม่รู้ตัว จนคนมองนึกเอ็นดู มือเรียวของพยอนคนน้องวางแหมะลงบนกลุ่มผมนุ่มของจงแด ก่อนจะโยกเบาๆ

    ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าแพคอาทำอะไรนาย ฉันจะจัดการให้เอง

     

    คำขอไม่เป็นผล เมื่อมือถือของจุนมยอนดังขึ้น ฮยอนก็ถูกเพื่อนลากไปต่อหน้าต่อตา จงแดเผลอรู้สึกเย็นวาบที่ไขสันหลังเมื่อรู้สึกได้ถึงแผงอกของอีกฝ่ายที่ขยับเข้ามาจนชิดแผ่นหลังของเขาเกินพอดี จะขยับหนีก็ไม่ทันแล้ว

     

    แพคอากระตุกยิ้ม แขนยาวคล้องเข้าที่คอของคนที่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกไว้ ขยิบตาให้น้องชายที่แม้จะมองมาอย่างไม่ไว้ใจแต่ก็ยอมเดินตามแรงลากของเพื่อนร่วมชมรมไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก้มลงกระซิบข้างหูคนที่กำลังเกร็งในอ้อมแขนอย่างเห็นได้ชัด แววตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นกำลังฉายแววชอบใจ

     

    หึ เสร็จฉันล่ะ เด็กแว่น

     

     

     

    “คุณจะ..ไปไหน”เสียงสั่นๆเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจหลังจากที่ปล่อยให้อีกฝ่ายลากออกมาได้สักพัก ตากลมมองทัศนียภาพรอบๆก่อนจะขืนตัวไว้เมื่อแพคอาทำท่าจะไม่ตอบแถมยังออกแรงดึงข้อมือเขาเพิ่มขึ้นอีก

    “ก็พาไปกินข้าวไง”อีกฝ่ายตวัดสายตามามองอย่างดุๆ ก่อนจะกระตุกข้อมือเล็กอีกครั้ง แต่คิมจงแดก็ขืนตัวไว้อีกรอบ

    “แต่ฟู้ดเซ็นฯ อยู่ทางนั้น”มืออีกข้างชี้ไปยังทิศที่ตั้งของศูนย์อาหาร ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายหันขวับมาจ้องหน้าซะชิด

    “ฉันบอกหรือไงว่าจะพาไปกินที่นั่น”จงแดเผลอส่ายหัว ก้มหน้าหลบสายตาของอีกฝ่ายแทบจะทันที ถึงจะหน้าตาเหมือนกัน แต่แพคอากับแพคฮยอนไม่เหมือนกันเลย ไม่เหมือนกันเลยสักนิด

     

    แพคอาถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะออกแรงดึงข้อมือของอีกฝ่ายให้เดินตาม โชคดีที่เด็กแว่นสงบปากสงบคำแล้วเดินตามแรงลากมาเงียบๆ เอาจริงๆเขาก็ไม่ได้ใจดีขนาดที่ว่าจะพามาเลี้ยงข้าวแล้วขอโทษปรับความเข้าใจอะไรเทือกนั้น แบบที่น้องชายบังเกิดเกล้ามันคิดเอาไว้หรอก ที่พามาน่ะ เพราะว่าเขามีเรื่องที่ต้องเคลียร์ต่างหาก

    ถึงได้พามาแหล่งของเขากันน้องรักมันโผล่เข้ามาขัดก่อนจะคุยกันรู้เรื่องไง..

     

     

     

    “แพคอา มึงหายไปไหนมาวะ อ้าวเฮ้ยแล้วนี่..”คิมจงอินเงยหน้าขึ้นมาจากมือถือเมื่อเสียงเปิดประตูห้องชมรมดังขึ้น ก่อนจะเห็นหน้าเพื่อนที่หายหัวไปตั้งแต่คาบเช้า ข้างๆแพคอามีร่างผอมๆของใครอีกคนเดินก้มหน้างุดอยู่

    “กูฝากหน่อย เฝ้าให้ด้วย ถ้ากลับมาแล้วหายไป มึงโดน”จับคนตัวผอมนั่งลงบนโซฟาตัวยาวข้างๆจงอิน ก่อนจะหุนหันออกไปจากห้อง จงอินได้แต่จิ๊ปากตามหลังเพื่อนที่เข้ามาถึงก็สั่งๆๆ ก่อนจะหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเต็มๆตา

     

    ผมสีดำยาวจนปิดคิ้ว แว่นตากรอบโตๆ เสื้อเชิ้ตใหญ่กว่าตัวหนึ่งไซส์ เป้สีขาวสะอาดตาที่มีหนังสือเล่มหนาๆยัดใส่จนพองออก

    แถมท่าทางเหมือนไม่สุงสิงกับคนรอบข้าง

    โอว้ นี่มันเด็กเนิร์ด ฉบับออริจินอล เลยนี่หว่า

     

     

    นั่งอยู่นานก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นมาสนอกสนใจอะไรรอบข้างเลย สิ่งที่เคลื่อนไหวมีเพียงมือเล็กๆที่ลูบข้อมือที่ขึ้นรอยสีแดงของตัวเองเท่านั้น บรรยากาศในห้องเงียบเสียจนกลายเป็นจงอินที่อดทนนั่งเงียบๆไม่ไหว

     

    “นี่!

    “คะ ครับ”อีกฝ่ายสะดุ้งโหยงจนเขาเผลอสะดุ้งตาม ก่อนจะรู้สึกผิดเมื่อดวงหน้าที่ถูกปิดบังไปด้วยกรอบแว่นอันใหญ่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทีหวาดๆ

     

    “ชื่ออะไร”จงอินกระแอมไอไล่คามรู้สึกผิดเล็กๆน้อยๆนั่นออกไปก่อนจะเอนพิงพนักโซฟาทำท่าชิคๆ? ใส่ และหาเรื่องชวนคุย

    “คิม จงแดครับ”

    “อ่าฮะ จงแด”เขาเดาะลิ้น มองสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายอย่างเนียนๆ ก่อนจะถามต่อ “แล้วมาเป็นเด็กไอ้แพคอาได้ยังไง?”

    “ครับ?”อีกฝ่ายตาโต หัวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยท่าทีเหมือนไม่เข้าใจคำถาม จงอินเลยขยับตัวหันมาจ้องหน้า พร้อมกับย้ำถามไปอีกรอบ

     

    “ฉันถามว่า แพคอามันไปจีบอีท่าไหนถึงได้ มาเป็นเด็ก..”

    “มะ ไม่ใช่นะครับ!!”เจ้าตัวแทรกขึ้นทันควันมือเล็กๆนั่นโบกปฏิเสธเป็นพัลวันเมื่อเข้าใจความหมายที่เขาสื่อ ใบหน้าเหยเกยเหมือนโลกกำลังจะถล่มปรากฏอยู่ตรงหน้าจนจงอินเผลอยิ้มขำ คิดเองเสร็จสรรพ ว่าสงสัยอีกฝ่ายจะเขิน? แม้ในใจจะอดทึ่งกับเด็กใหม่ของเพื่อนสนิทไม่ได้ ร้อยวันพันปี แพคอามันควงใครมันก็พามาเปิดตัวที่ชมรมตลอด เหมือนตอนนี้

    ถึงครั้งนี้จะดูต่างจากคนก่อนๆมากโขก็เถอะ

     

    “ถ้าไม่ใช่แล้วแพคอาจะลากนายมาเปิดตัวทำไม?”

    “ผมไม่..”จงแดเอนตัวหนี เมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้ามาจ้องคล้ายกำลังจับผิด ทั้งๆที่เขาไม่มีอะไรให้ต้องจับผิดเสียหน่อย ใบหน้าจงแดเริ่มเหยเก เหมือนจะร้องไห้อยู่มอรอมมอร่อ ถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้าโดนอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หน้าผากอย่างจังจนได้ยินเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นเสียก่อน

     

    “มันเจ็บนะเว๊ย แพคอา”ขวดนมรสช็อกโกแล็ตกลิ้งหลุนๆอยู่บนพื้น ก่อนเจ้าของชื่อจะวางของที่หอบในอ้อมแขนลงบนโต๊ะตัวเตี้ยที่อยู่ไม่ไกลเมินเสียงร้องของเพื่อนสนิทที่มองมาอย่างคาดโทษ ก่อนจะหันไปเรียกเด็กแว่นที่นั่งทำอะไรไม่ถูกด้วยน้ำเสียงเข้มๆ

     

    “นายน่ะ มานั่งนี่”จงแดก้มลงเก็บขวดนมบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นอย่างว่าง่าย อดไม่ได้ที่จะมองคนตัวสูงที่ยังคงเอามือกุมหน้าผากด้วยท่าทีเจ็บปวด ทำท่าจะถามว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า จนแพคอาต้องเรียกอีกรอบ

     

    “กูไม่ได้จะจีบเด็กมึง”จงอินว่าพลางลุกขึ้นยืน แต่แพคอานี่คิ้วกระตุกยกใหญ่ ใครนะ ไอ้เด็กแว่นเฉิ่มๆนี่น่ะนะ เด็กเขา

    ไอ้จงอิน ไอ้เพื่อนตาถั่ว

     

    “ใครบอกมึงว่าเด็กกู”เถียงไปทันควัน พลางเหล่มองคนที่นั่งนิ่งๆตรงโต๊ะข้างๆ

    “ถ้าไม่ใช่แล้วมึงควงมาให้คนเห็นกันทำไม” แพคอาตบหน้าผากเมื่อได้ยินคำพูดเพื่อน ไอ้ตอนที่ลากเด็กแว่นมานี่ไม่ได้คิดอะไร เพิ่งมาคิดได้ก็ตอนที่ไอ้จงอินมันพูดนี่แหละ

    “กูไม่ได้..”

    “ถึงจะดูแปลกไปหน่อยกับสเป็กครั้งนี้ของมึง แต่ก็นะ จงแดก็น่ารักดี ยังไงมึงก็ถนอมหน่อยล่ะ”

    “จงอิน”

    “ขี้ตกใจขนาดนี้มึงก็อ่อนโยนกับเขาบ้าง”

     

    “ไอ้จงอินมึงเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”

    แพคอาพูดกับประตู

    นั่นเพราะจงอินมันชิงเปิดประตูออกไปตั้งแต่มันพูดยังไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ หันกลับมาก็พบกับใบหน้าเหมือนจะร้องไห้ของเด็กแว่นนี่อีก

    น่าหงุดหงิดจริงๆโว้ย

     

    “เอ้า มัวแต่มองหน้าอยู่นั่นแหละ รีบๆกิน จะได้คุยกันสักที”

     

     

     

    “นายน่ะ ชอบฮยอนมันสินะ?”ทันทีที่น้ำดื่มอึกสุดท้ายหลังบรรยากาศกินข้าวที่แสนกดดันและโคตรจะอึดอัดหมดลงเสียงเข้มๆนั่นก็ถามประโยคที่ชวนเข้าใจยากทันที

    “ป่าวนะครับ”จงแดตอบไปตามความจริงหลังจากที่แทบจะสำลักน้ำไปเมื่อสักครู่ เขารู้สึกดีเวลาที่ฮยอนมาทำดีด้วยก็จริง แต่ถึงขนาดที่ว่าชอบ หรือรักมันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก

     

    “งั้นไอ้ที่ทำหน้าตาแบ๊วๆเวลาฮยอนมันทำดีด้วยนี่คืออะไร”

    “ผม เนี่ยนะครับ”ไอ้คำว่าหน้าตาแบ๊วๆ เหมือนยิ่งเพิ่มความงุนงงให้กับจงแดเป็นการใหญ่ นิ้วเล็กชี้เข้าหาตัวเองแล้วมองแพคอาตาโต

     

    ตาแบ๊วๆปรากฏอยู่ตรงหน้าแพคอาทันที..

    “นี่ไม่รู้ตัวหรือไง เหอะคิดจะจับน้องชายฉันน่ะ มันไม่ง่ายหรอกนะ”

    “...”จงแดหน้าตึงทันทีที่ได้ยินประโยคเหล่านั้น ปกติเขาแทบจะชินกับคำพูดจาถากถาง ว่าเขาเป็นพวกเด็กเนิร์ด เด็กแว่น เด็กเฉิ่ม เขาไม่เคยสนใจ แต่ประโยคที่พูดเหมือนยัดเยียดให้เขาเป็นเหมือนอะไรสักอย่างที่ไม่มีศักดิ์ศรีแบบนี้ มันมากเกินไป

    ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักมักจี่ ไม่เคยรู้ถึงนิสัยจริงๆของเขาด้วยซ้ำ

     

    มือเล็กกำเข้าหากัน หน้าร้อนขึ้นเพราะความรู้สึกโกรธ ในขณะที่แพคอาหรี่ตามองท่าทางเหล่านั้นอย่างไม่สนใจปากยังคงพูดต่อไป

    “ไม่รู้หรือไง ว่าตัวเองขี้เหร่ขนาดไหน? ฮยอนมันอาจจะสงสาร ก็เลยทำดีด้วย แต่ถ้าให้รักให้ชอบมันคงไม่..เฮ้ย!!

    ซ่า!

     

    น้ำในแก้วที่วางอยู่ถูกสาดเข้าใส่เต็มใบหน้า แพคอาผุดลุกขึ้นปาดหยดน้ำออก เขาเห็นเพียงอีกฝ่ายยืนจ้องมา ก่อนจะแผดเสียงลั่น

    “ผมรู้ว่าผมขี้เหร่ แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าผมแบบนี้!

     

    แพคอาคิ้วกระตุกขยับสาวเท้าเข้าไปใกล้หวังจะลากมาฟาดก้นสักทีสองทีข้อหาที่ทำให้เขาโมโห แต่แก้วพลาสติกกลับถูกโยนมากระแทกใส่อกอีกรอบ พร้อมกับร่างผอมๆที่วิ่งไปกระชากประตูเปิดออก

     

     “คุณไม่เหมือน ฮยอน เลยสักนิด”

    ประโยคส่งท้ายเหมือนตรึงเท้าแพคอาไว้กับที่ ก่อนจะได้สติเมื่อประตูห้องชมรมถูกปิดดังปัง

     

    “ก็คนละคนกันไงวะ ย๊าส์ หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ เด็กแว่น!!

     

     

     

     

    TBC….

    #แฝดพยอน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×