คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : DOUBLE LOVE : BAEKCHENHYUN II
Tile
: Double Love II
Pairing
: BAEKCHENHYUN
ตระกูลพยอนมีลูกชายอยู่ 2 คน
แน่นอนพวกเค้าทั้งคู่เป็นฝาแฝดเกิดห่างกันเพียงแค่ 5 นาที
เมื่อก่อนชื่อของแฝดคนพี่คือ พยอนแพคอา ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็นพยอนแพคยอลในตอนหลัง
มันมีที่มาที่ไปนะ ไม่ใช่จู่ๆก็อยากมาเปลี่ยนให้เรียกยาก
มันเป็นเพราะว่าเมื่อตอนที่แพคอาอายุได้เพียง 3 เดือน แฝดพี่ป่วยหนัก
ติดเชื้อทางเดินหายใจจนเกือบจะเสียชีวิต
คุณย่าที่อยู่คยองกีโดผู้ชื่นชอบเรื่องดวงชะตาจึงเดินทางขึ้นเขาไปหานักพรตที่อยู่ในป่า?
แล้วเปลี่ยนชื่อให้คล้ายคลึงกับชื่อของแฝดคนน้อง
เพื่อเป็นเคล็ดให้เหมือนกับว่าเป็นคนๆเดียวกันแล้วจะรอด
นั่นแหละตอนนั้นคุณนายพยอนที่แทบจะไม่มองไม่เห็นหนทางช่วยลูกชายจึงทำตาม
มันน่าแปลกที่แพคอาหายดีตั้งแต่วันนั้น จึงได้ชื่อนี้มา ส่วนแฝดน้องชื่อ
พยอนแพคฮยอน นั่นแหละชื่อมันเลยอาจจะเรียกยากสักหน่อย พวกเขาจึงมีชื่อเล่น
แฝดพี่คือ แพคอา และแฝดน้องคือ ฮยอน ในเรื่องรูปร่างหน้าตา
แพคอาสูงกว่าแพคฮยอนอยู่นิดหน่อย ส่วนหน้าตาพวกเขาแทบไม่มีส่วนไหนที่ต่างกัน
แต่ถ้าจะให้เห็นชัดๆสิ่งที่ต่างกันมากๆ ก็คงจะเป็นนิสัยนั่นแหละ
แถมยังเป็นนิสัยแบบไม่ดีเด่ซะด้วย...
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ”ท่าทางร้อนรนของคนที่หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะทำเอาแพคอาเบ้หน้า
มือเรียวยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบก่อนจะนั่งมองน้องชายไม่วางตา เหล่มองไปรอบๆก็เห็นว่าเพื่อนๆของหมอนี่น่าจะมากันครบแล้ว
เพราะส่วนมากก็รู้จักหน้าค่าตากันดี หรือว่ายังมีใครที่เขาไม่รู้จักอีกงั้นหรอ?
จู่ๆใบหน้าของใครบางคนที่เจอตรงหน้าประตูบ้านก็ผุดขึ้นมา
มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สัมผัสกับวัตถุเย็นๆที่แน่นิ่งอยู่ในนั้น
นี่คงไม่ใช่ว่าโทรหาเด็กเฉิ่มๆที่วิ่งหน้าตั้งหนีเขาไปนั่นหรอกนะ...
“ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้นายชอบแบบเฉิ่มๆ”ก็แค่พูดขึ้นมาลอยๆแต่ดูเหมือนหูพยอนคนน้องจะดีเหลือเกิน
ตาคมนั่นตวัดมายังคนพูดแทบจะทันที คิ้วของแพคฮยอนขมวดเข้าหากันจนเป็นปม
ไอ้พี่ชายที่เกิดก่อนเขาแค่ห้านาทีทำไมจู่ๆถึงพูดอะไรแปลกๆ หรือว่า...
“แพคอา นายทำอะไรจงแด”
“ชื่อจงแดหรอ?”ประโยคแรกเหมือนพึมพำกับตัวเอง
ก่อนจะยกมือโบกเป็นพัลวัน เมื่อน้องชายตัวดีมองมาอย่างคาดคั้น “ฉันไม่ได้ทำอะไร คนเพิ่งเจอกันจะไปทำอะไรได้ยังไงวะ”
“ใครจะไปรู้ หน้าอย่างนายทำได้ทั้งนั้นแหละ
ไอ้เรื่องที่คนอื่นเขาไม่ทำกันน่ะ”
“อ้าว ไอ้นี่ หน้าเราก็เหมือนกันไหมวะ?”
“อย่ามาเล่นลิ้นแพคอา บอกมาพี่ทำอะไรจงแด”เสียงของแพคฮยอนเริ่มเข้มขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายยังเล่นลิ้นไม่เลิก
“ไม่ได้ เฮ้ย!!”ร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆน้องชายก็คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อแล้วดึงลาก
สาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆแพคอาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อพยอนคนน้องส่งยิ้มเป็นเชิงขอโทษมาให้
“ผมขอตัวแพคอาแป๊บนึงนะ ยูรี”
เสียงเพลงที่ดังอยู่ด้านนอกของบ้านไม่ได้สร้างความหฤหรรษ์สำหรับสถานการณ์ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
หลังจากที่โดนลากคอเข้ามาในบ้าน ฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออกก็เอาแต่นั่งจ้องหน้ากันนิ่งๆ
เหมือนจะรอให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ และเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาก่อน
และแน่นอนสำหรับคนที่ใจเย็นน้อยกว่า(หลายเท่า) อย่างแพคอาพ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูปในด่านแรก
เจ้าตัวจิ๊ปากก่อนจะเอนหลังพิงโซฟา
“ก็ได้ๆ แต่ขอถามก่อนได้มั้ยว่า
เด็กเฉิ่มๆนั่นเป็นอะไรกับนาย?”
“อย่าเรียกจงแดแบบนั้น”พยอนคนน้องเอ่ยเสียงแข็ง
ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อพี่ชายตัวดีมันทำเสียงล้อเลียนประโยคเมื่อครู่ “...ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“นี่พูดเหมือนนายกำลังจะจีบ..เฮ้ย
นี่อย่าบอกนะว่าชอบแบบนั้นน่ะ แบบเฉิ่มๆนั่นน่ะนะ”แพคอาตาโต
ร้องเสียงหลง จ้องหน้าน้องชายอย่างไม่เชื่อสายตา เด็กตัวผอมๆเฉิ่มๆเชยๆนั่น
มันน่าสนใจตรงไหนกันวะ!!
ไม่ได้เด็ดขาด
จะให้หน้าตาดีๆที่เหมือนเขาไปคบกับเด็กเฉิ่มๆแบบนั้นได้ยังไง
เสียชื่อเสียงที่เขาอุตส่าห์สะสมมาตั้งนมตั้งนานหมด
แพคฮยอนกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย “นายไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ความชอบคนอื่น รีบๆตอบมา นายทำอะไรจงแด?”
“ไม่ได้ทำอะไร..”แพคอาหยุดชะงักเมื่อเจอสายตานิ่งๆของน้อง
สายตาที่มองมาบ่งบอกว่าไม่เชื่อประโยคเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย “เออๆ ยอมรับก็ได้ว่าแค่ตะคอกไปนิดหน่อย”
แพคฮยอนยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองไปทีนึง พร้อมกับถอนหายในแรงๆใส่คนเป็นพี่
“แล้วจู่ๆ ไปตะคอกใส่เค้าทำไมวะ?”
“ก็เด็กนั่นมาขัดจังหวะนี่หว่า...”
“แพคอา นายนี่มัน..”
“...คนกำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่เชียว...ย๊าส์
ฮยอนนี่พี่นะเว๊ย!!”มือเรียวของน้องตบลงบนหัวอย่างไม่ไว้หน้า
แพคอาร้องลั่น ก่อนจะได้ยินคำพูดเรียบๆจากน้องชาย
โอเค น้ำเสียงมันบีบบังคับด้วย
“ไปขอโทษจงแดซะ”
~~~~~
DOUBLE
LOVE ~~~~~
เอาจริงๆจงแดก็ไม่ได้เสียใจ หรือผิดหวังในตัวแพคฮยอนอะไรขนาดนั้นหรอก
เขาก็แค่ช็อก...แค่นั้นเอง
คนตัวผอมขยับแว่นตาให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆเดินกอดหนังสือในอกแน่นก้มหน้าก้มตาเดินผ่านกลุ่มของแพคฮยอนที่เห็นอยู่ลิบๆตอนที่อยู่ตรงทางเข้าของคณะ
เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองว่าอีกฝ่ายจะเห็นเขาหรือเปล่า แน่ใจในระดับหนึ่งว่าตัวเองสามารถกลมกลืนกับเหล่านักศึกษาในคณะได้ดีพอที่แพคฮยอนจะไม่สนใจ
หรือมองเห็นคนที่เหมือนจะเป็นแค่จุดเล็กๆในคณะอย่างเขา
แต่จงแดนึกไม่ถึงหรอกว่า
ตัวเองน่ะกลายเป็นจุดสนใจในสายตาของพยอนแพคฮยอนมาตั้งนานแล้ว
ร่างผอมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเดินเข้ามาในตึก
นาฬิกาข้อมือบอกว่ายังเหลือเวลาอีกสามสิบนาทีก่อนเข้าคลาสแรกของวัน
ยังพอมีเวลาให้กินอาหารเช้าที่เตรียมมาจากบ้าน เขาเดินเลี่ยงลิฟต์ที่มีคนยืนรอไปยังบันไดหนีไฟที่ไม่ค่อยมีใครสนใจใช้งาน
ขาเล็กก้าวช้าๆอย่างไม่รีบร้อน ไม่ทันได้สนใจเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่เดินตามมา
และเพราะไม่สนใจอะไรรอบข้างเลยนั่นแหละคิมจงแดถึงไม่ทันเห็นว่าตรงชานพักบันไดระหว่างชั้นมีใครบางคนยืนอยู่ก่อนแล้ว
กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่หัวชนเข้ากับอกแข็งๆของอีกฝ่ายนั่นแหละ
“ขะ ขอโทษครับ”เสียงสั่นๆละล่ำละลักขอโทษออกมาเป็นอันดับแรกทั้งๆที่ยังคงก้มหน้า
หนังสือในอ้อมแขนหล่นลงไปกองกับพื้น จงแดนึกโทษตัวเองที่ติดนิสัยเดินก้มหน้า
แถมยังเอาแต่คิดว่าบันไดหนีไฟแห่งนี้ไม่ค่อยมีคนได้ใช้ ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังอะไรให้มาก
เขาลืมคิดไปว่ามันเป็นที่สาธารณะ ไม่ใช่ว่าทุกวันจะไม่มีคนใช้นอกจากเขาเสียหน่อย
มือเล็กเอื้อมไปจะหยิบเอาหนังสือแต่มันกลับลอยหวืดขึ้นจากพื้นไปต่อหน้าต่อตา
จงแดตัวสั่นเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เขารู้สึกถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากล
บางทีเขาอาจจะโดนแกล้งอีกแล้วก็ได้...
“ผม..ขอ..”คำขอโทษถูกกลืนลงคอเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าใครอยู่ตรงหน้า
“..ฮยอน”
เมื่อกี้ยังนั่งอยู่ข้างหน้าคณะอยู่เลยไม่ใช่หรอ?
“เรียกว่าไงนะ?”หนังสือเล่มหนาเมื่อครู่ถูกโยนมาใส่แทบไม่ทันตั้งตัว
แต่จงแดก็เร็วพอที่จะรับลูกรักไว้ทันก่อนจะลงไปนอนแอ้งแม้งกับพื้นเสี่ยงเป็นรอย
ตากลมเบิกกว้างอยู่แล้วเพราะความตกใจเมื่อครู่ยิ่งเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายยกแขนขึ้นกอดอกคิ้วขมวดจ้องมาที่เขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เหมือนวันนั้นเลย..วันเกิดที่เผลอไปเห็นตอนนั้น..
.
“ฉันถามว่าเมื่อกี้นายเรียกฉันว่ายังไงนะ แว่น”
“ก็..ฮยอน
อย่างที่แพคฮยอนบอกให้เราเรียก”ปลายเสียงแผ่วเบาเหมือนกับเริ่มไม่มั่นใจ บรรยากาศแปลกๆที่แผ่ออกมาจากอีกฝ่ายทำให้จงแดเริ่มรู้สึกอยากเดินหนี
เขาเผลอสะดุ้งขยับถอยหลังเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ยื่นหน้าเข้ามาแทบจะชิด
คนตรงหน้าหัวเราะหึๆในลำคอ ก่อนตาคมนั่นจะกวาดมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
จงแดกอดหนังสือในอกแน่น ถึงจะไม่ได้อะไรกับนิสัยจริงๆของแพคฮยอน
แต่เขาก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนไปจนเหมือนคนละคนได้ในเวลารวดเร็วแบบนี้
แค่เขาเห็นนิสัยจริงๆ ก็เลยปฏิบัติกับเขาต่างจากเมื่อก่อนงั้นหรอ
“นายนี่มัน ขี้เหร่จริงๆ”
“อ่ะ
...”แว่นสายตาถูกอีกฝ่ายดึงหลุดออกจากใบหน้าโดยที่ไม่ทันได้คว้าไว้
จงแดน้ำตารื้นเมื่อภาพด้านหน้าเรือนลาง
เขาเห็นเพียงใบหน้าของฮยอนขยับใกล้เข้ามาเป็นภาพมัวๆ ขาเล็กก้าวถอยหลังอย่างไม่ทันได้คิด
สุดท้าย ฮยอน ก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นหรอก...
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ เด็กแว่น!!”
จงแดได้ยินเสียงของฮยอนตอนที่ขาข้างหนึ่งหลุดจากชานพักบันได
ร่างเขาทรงตัวไม่อยู่ ได้แต่หลับตาปล่อยหนังสือในมือให้ล่วงหล่นแล้วพยายามคว้าทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตามสัญชาตญาณ
แต่มือของฮยอนที่ยื่นมามันไกลเกินไป
หมับ!
ร่างผอมบางถูกคว้าไว้อ้อมแขนของใครบางคนดึงรั้งจนร่างทั้งร่างถลาซุกอยู่กับอก
จงแดได้ยินเสียงหอบหายใจดังข้างหู ดวงตาตื่นตระหนกจ้องหน้าของคนที่เข้ามาช่วยเขาให้หวิดจากการไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลก่อนจะเบิกกว้างเป็นครั้งที่สอง
ถึงเขาจะสายตาสั้นแต่ในระยะห่างแค่นี้เขาเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน
“ฮยอน..”
“ไม่เป็นไรใช่มั๊ย?”
จงแดไม่ได้ตอบคำถามแต่ดวงหน้ากลับหันไปยังชานพักบันได เขาหรี่ตาลงแม้จะไม่ได้ทำให้ภาพตรงหน้าชัดขึ้น
แต่จงแดก็เห็น ‘ฮยอน’
อีกคนยืนอยู่ตรงนั้น
นี่มันอะไรกัน ทำไม ฮยอน มีสองคน...
“ทำไม...”จงแดเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้น
ก็โดนคนที่ตระคองกอดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ฉันบอกให้นายมาขอโทษจงแดไม่ใช่หรือไง แพคอา”
~~~~~
DOUBLE
LOVE ~~~~~
“นั่นอะไรน่ะ!”
“ไอ้เฉิ่มนั่นทำไมไปเดินอยู่กับฝาแฝดพยอนแบบนั้น”
“กรี้ด ทำไมพี่แพคอา กับพี่ฮยอน..”
เสียงซุบซิบนินทาแทบจะไม่ได้ทำให้จงแดหวาดกลัว
แต่เขากลับรู้สึกเหมือนกับว่าหลุดมาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก โลกที่ทุกคนดูรู้กันหมดว่าฮยอนมีฝาแฝด...
แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนมา..
เสียงซุบซิบ ดังขึ้นในทุกที่ที่ก้าวเท้าผ่าน ชื่อของแฝดพี่และแฝดน้องดูเหมือนจะมีคนรู้จักกันทั่ว
ทุกคนไม่ได้มีท่าทีตกใจเหมือนเขาที่เพิ่งรู้เรื่องครั้งแรก ไหล่เล็กของคนที่ตอนนี้เดินอยู่ตรงกลางถูกขนาบด้วยแฝดตระกูลพยอนห่อลง
ใบหน้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นสายตาก้มต่ำจนคางแทบชิดอก
แขนเรียวกอดหนังสือเล่มหนาในอ้อมแขนราวกับหาที่ยึดเหนี่ยว
สำหรับคนที่ปกติกลมกลืนไปกับอากาศแทบจะไม่เคยเป็นจุดสนใจอย่างคิมจงแด มันไม่ชินเลย
แถมหัวข้อที่พวกคนเหล่านั้นพูดถึงยังดูเหมือนว่าจะพากันหาคำตอบว่าทำไมจู่ๆเด็กแว่นเฉิ่มๆที่แทบไม่มีตัวตนอย่างเขาถึงได้มาเดินอยู่ข้างๆ
ทั้งฮยอนและพี่ชายฮยอนแบบนี้
เขาไม่ชอบเลย…
“จงแด…”
“จะเดินก้มทำไมนักหนา!”เสียงห้วนๆของแพคอาดังขึ้นก่อนที่ฮยอนจะทันพูดอะไรต่อ
มือเรียวของแฝดน้องที่กำลังจะยื่นไปแตะบนไหล่สั่นๆนั่นชะงักค้างเมื่อจงแดสะดุ้งจนตัวโหยงเงยมองหน้าแพคอาด้วยสายตาหวาดๆ
“คะคือ..”คนตัวผอมข้างกายละล่ำละลักจะตอบแต่แฝดน้องไวกว่า
ชีทเรียนที่ถูกม้วนในมือฟาดใส่ไหล่แฝดพี่อย่างจัง
จนคนที่กำลังทำหน้าดุๆใส่จงแดร้องเสียงหลง
“โอ้ย ฮยอนตีพี่ทำไมวะ”
“แล้วนายเสียงดังใส่จงแดทำไมวะ”
“ฉันพูดเสียงปกติ”
“หูฉันไม่ได้หนวกนะแพคอา”ฮยอนเถียงกลับทันควันจ้องหน้าพี่ชายอย่างไม่สบอารมณ์
เรื่องเมื่อตอนเช้าที่บอกให้ไปขอโทษจงแดก็ยังไม่ทำ
เกือบสร้างเรื่องเพิ่มให้จงแดเจ็บตัว แล้วตอนนี้ยังเอาแต่จะแกล้งจงแดอีก
ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนักหนา...
แพคอาทำเสียงเหอะในลำคอก่อนจะมองเด็กแว่นเฉิ่มๆที่ตัวลีบลงอย่างคาดโทษปกติถึงจะไม่ใช่พี่น้องที่พูดจากันดีเด่อะไรมากมาย
แต่ก็ไม่เคยต้องมาเถียงเรื่องไร้สาระอะไรกันแบบนี้
มองน้องชายที่กำลังลูบไหล่สั่นๆของเด็กแว่นแล้วก็ได้แต่กรอกตาถอนหายใจแรงๆ
จ้องร่างผอมบางนั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า
วนไปวนมาสามสี่รอบก็ยังได้ข้อสรุปเหมือนเดิม
ขี้เหร่!
ทั้งๆที่เมื่อก่อนสเป็กก็ไม่ได้ต่างกันมาก
เพราะเกิดจากไข่ใบเดียวกัน ความคิด ความชอบมันเลยคล้ายๆกัน ชอบคนเดียวกันมาก็เยอะ
(แต่ก็ไม่เคยแย่งกันจนทะเลาะวุ่นวาย เพราะสำหรับพวกเขาเคารพการตัดสินใจของฝั่งนั้นเสมอ)
แล้วคราวนี้ทำไมสเป็กน้องเขาถึงได้ลดลงฮวบฮาบจนรับไม่ได้ขนาดนี้ แถมยังทำท่ากางปีกปกป้องเสียจนออกหน้าออกตา
แพคอาหรี่ตามองอีกครั้ง ก็ยังไม่เห็นด้วย
คิมจงแดน่าปกป้องตรงไหน ดูยังไงก็น่าแกล้งชัดๆ!
จงแดรู้สึกปวดหัวขึ้นมาตุบๆ แม้ฮยอนจะลูบหลัง
พูดขอโทษแทนแพคอาแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกไม่สบายใจที่ตกเป็นเป้าสายตา และความหวาดกลัวจากแฝดพี่ลดลงสักนิด
แววตาคู่นั้นที่เอาแต่มองเหมือนไม่ชอบหน้าเขามันน่ากลัวจริงๆ
แถมเอาแต่ใช้น้ำเสียงดุๆ พูดกับเขา เหมือนเขาทำผิดตลอดเวลาด้วย
“ไปกินข้าวด้วยกันก่อนนะจงแด
ฉันมีเรื่องที่ต้องอธิบายให้นายฟังหลายเรื่องเลย...”เสียงของแพคฮยอนอ่อนโยนตอนที่พูดกับจงแดก่อนจะปรับโทนเสียงเข้มขึ้นเป็นเชิงบังคับ
“นายด้วยนะแพคอา”
“...”จงแดได้แต่มองหน้าฮยอนอย่างกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกตอนที่ได้ยินคำชวนนั่น
อยากจะปฏิเสธแต่แววตาอ้อนๆของฮยอนก็ทำเอาปฏิเสธไม่ลง
ถึงจะไม่อยากอยู่ใกล้แพคอาก็เถอะ แต่ถ้าฮยอนไปด้วยก็คง..ไม่เป็นไร
คนตัวผอมพยักหน้ารับคำอย่างไม่มั่นใจแต่ก็เรียกรอยยิ้มกว้างจากฮยอนได้เป็นอย่างดี
เสียงจิ้ปากของแพคอาดูจะทำลายรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้(ในความคิดของแพคอาคนเดียวอ่ะนะ)ไม่ได้เลย
แต่แล้วอะไรๆก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด
เมื่อจู่ๆใครบางคนก็วิ่งหน้าตั้งพร้อมกับเรียกชื่อแฝดน้องมาแต่ไกล
“ฮยอน มีเรื่องแล้วว่ะ”แฝดน้องคิ้วขมวดมองเพื่อนร่วมชมรมที่ยังหอบแฮ่กจากการวิ่งพรวดพราดมาจากที่ไหนสักที่ไม่หาย
ตาขวากระตุกอย่างไม่น่าไว้ใจ
“มีอะไร ค่อยๆพูด”แฝดน้องละความสนใจจากคนตัวผอมชั่วครู่
ก่อนจุนมยอนจะค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ปกติ
“พวกในชมรมกำลังตีกัน เรื่องคัดเลือกตัวแทน” แพคฮยอนตบหน้าผากตัวเองหลังจากได้ฟังประโยคนั้น
เขาก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นวันนี้
ชมรมฮับกิโด้ที่เขาเพิ่งได้ขึ้นเป็นประธานกำลังจะมีการคัดตัวเพื่อเข้าแข่งขันระดับประเทศ
และเรื่องที่ตามมาก็คือเรื่องภายใน ซึ่งเขาต้องเป็นคนจัดการ
ตาคมหันกลับมาก็พบดวงตาใสแจ๋วภายใต้กรอบแว่นของจงแดมองมาอย่างงุนงง
แพคฮยอนเผลอถอนหายใจ ยิ่งเมื่อมองเลยไปยังใบหน้าของแพคอาที่เหมือนกำลังกลั้นรอยยิ้มไว้แล้วด้วย
“แป๊บนึงนะ..”เขาหันไปบอกเพื่อนก่อนจะหันกลับมาหาคนตัวผอมอีกครั้ง
เขาคงต้องให้แพคอาเป็นคนอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนงานวันเกิดก่อน..
“จงแด งั้นวันนี้...”
“เดี๋ยวฉันพาไปเลี้ยงข้าวไถ่โทษเอง”เสียงที่แทรกขึ้นมาทำเอาพยอนคนน้องหรี่ตาจับผิดแทบจะทันที
แต่แพคอาก็ทำหน้าปกติไร้พิษภัยจนน่าหมั่นไส้ “อะไร
ก็จะไถ่โทษไง”
“คือ..ไม่”จงแดส่ายหน้าจนผมกระจายแม้จะปฏิเสธไม่ได้เต็มปาก
ตากลมจ้องมองฮยอนอย่างอ้อนวอนโดนไม่รู้ตัว จนคนมองนึกเอ็นดู
มือเรียวของพยอนคนน้องวางแหมะลงบนกลุ่มผมนุ่มของจงแด ก่อนจะโยกเบาๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าแพคอาทำอะไรนาย ฉันจะจัดการให้เอง”
คำขอไม่เป็นผล เมื่อมือถือของจุนมยอนดังขึ้น
ฮยอนก็ถูกเพื่อนลากไปต่อหน้าต่อตา
จงแดเผลอรู้สึกเย็นวาบที่ไขสันหลังเมื่อรู้สึกได้ถึงแผงอกของอีกฝ่ายที่ขยับเข้ามาจนชิดแผ่นหลังของเขาเกินพอดี
จะขยับหนีก็ไม่ทันแล้ว
แพคอากระตุกยิ้ม
แขนยาวคล้องเข้าที่คอของคนที่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกไว้
ขยิบตาให้น้องชายที่แม้จะมองมาอย่างไม่ไว้ใจแต่ก็ยอมเดินตามแรงลากของเพื่อนร่วมชมรมไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก้มลงกระซิบข้างหูคนที่กำลังเกร็งในอ้อมแขนอย่างเห็นได้ชัด แววตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นกำลังฉายแววชอบใจ
“หึ เสร็จฉันล่ะ เด็กแว่น”
“คุณจะ..ไปไหน”เสียงสั่นๆเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจหลังจากที่ปล่อยให้อีกฝ่ายลากออกมาได้สักพัก
ตากลมมองทัศนียภาพรอบๆก่อนจะขืนตัวไว้เมื่อแพคอาทำท่าจะไม่ตอบแถมยังออกแรงดึงข้อมือเขาเพิ่มขึ้นอีก
“ก็พาไปกินข้าวไง”อีกฝ่ายตวัดสายตามามองอย่างดุๆ
ก่อนจะกระตุกข้อมือเล็กอีกครั้ง แต่คิมจงแดก็ขืนตัวไว้อีกรอบ
“แต่ฟู้ดเซ็นฯ
อยู่ทางนั้น”มืออีกข้างชี้ไปยังทิศที่ตั้งของศูนย์อาหาร ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายหันขวับมาจ้องหน้าซะชิด
“ฉันบอกหรือไงว่าจะพาไปกินที่นั่น”จงแดเผลอส่ายหัว
ก้มหน้าหลบสายตาของอีกฝ่ายแทบจะทันที ถึงจะหน้าตาเหมือนกัน แต่แพคอากับแพคฮยอนไม่เหมือนกันเลย
ไม่เหมือนกันเลยสักนิด
แพคอาถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะออกแรงดึงข้อมือของอีกฝ่ายให้เดินตาม
โชคดีที่เด็กแว่นสงบปากสงบคำแล้วเดินตามแรงลากมาเงียบๆ
เอาจริงๆเขาก็ไม่ได้ใจดีขนาดที่ว่าจะพามาเลี้ยงข้าวแล้วขอโทษปรับความเข้าใจอะไรเทือกนั้น
แบบที่น้องชายบังเกิดเกล้ามันคิดเอาไว้หรอก ที่พามาน่ะ
เพราะว่าเขามีเรื่องที่ต้องเคลียร์ต่างหาก
ถึงได้พามาแหล่งของเขากันน้องรักมันโผล่เข้ามาขัดก่อนจะคุยกันรู้เรื่องไง..
“แพคอา มึงหายไปไหนมาวะ
อ้าวเฮ้ยแล้วนี่..”คิมจงอินเงยหน้าขึ้นมาจากมือถือเมื่อเสียงเปิดประตูห้องชมรมดังขึ้น
ก่อนจะเห็นหน้าเพื่อนที่หายหัวไปตั้งแต่คาบเช้า
ข้างๆแพคอามีร่างผอมๆของใครอีกคนเดินก้มหน้างุดอยู่
“กูฝากหน่อย เฝ้าให้ด้วย ถ้ากลับมาแล้วหายไป
มึงโดน”จับคนตัวผอมนั่งลงบนโซฟาตัวยาวข้างๆจงอิน ก่อนจะหุนหันออกไปจากห้อง
จงอินได้แต่จิ๊ปากตามหลังเพื่อนที่เข้ามาถึงก็สั่งๆๆ
ก่อนจะหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเต็มๆตา
ผมสีดำยาวจนปิดคิ้ว แว่นตากรอบโตๆ เสื้อเชิ้ตใหญ่กว่าตัวหนึ่งไซส์
เป้สีขาวสะอาดตาที่มีหนังสือเล่มหนาๆยัดใส่จนพองออก
แถมท่าทางเหมือนไม่สุงสิงกับคนรอบข้าง
โอว้ นี่มันเด็กเนิร์ด ฉบับออริจินอล เลยนี่หว่า
นั่งอยู่นานก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นมาสนอกสนใจอะไรรอบข้างเลย
สิ่งที่เคลื่อนไหวมีเพียงมือเล็กๆที่ลูบข้อมือที่ขึ้นรอยสีแดงของตัวเองเท่านั้น บรรยากาศในห้องเงียบเสียจนกลายเป็นจงอินที่อดทนนั่งเงียบๆไม่ไหว
“นี่!”
“คะ ครับ”อีกฝ่ายสะดุ้งโหยงจนเขาเผลอสะดุ้งตาม
ก่อนจะรู้สึกผิดเมื่อดวงหน้าที่ถูกปิดบังไปด้วยกรอบแว่นอันใหญ่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทีหวาดๆ
“ชื่ออะไร”จงอินกระแอมไอไล่คามรู้สึกผิดเล็กๆน้อยๆนั่นออกไปก่อนจะเอนพิงพนักโซฟาทำท่าชิคๆ?
ใส่ และหาเรื่องชวนคุย
“คิม จงแดครับ”
“อ่าฮะ จงแด”เขาเดาะลิ้น
มองสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายอย่างเนียนๆ ก่อนจะถามต่อ “แล้วมาเป็นเด็กไอ้แพคอาได้ยังไง?”
“ครับ?”อีกฝ่ายตาโต หัวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยท่าทีเหมือนไม่เข้าใจคำถาม
จงอินเลยขยับตัวหันมาจ้องหน้า พร้อมกับย้ำถามไปอีกรอบ
“ฉันถามว่า แพคอามันไปจีบอีท่าไหนถึงได้
มาเป็นเด็ก..”
“มะ ไม่ใช่นะครับ!!”เจ้าตัวแทรกขึ้นทันควันมือเล็กๆนั่นโบกปฏิเสธเป็นพัลวันเมื่อเข้าใจความหมายที่เขาสื่อ
ใบหน้าเหยเกยเหมือนโลกกำลังจะถล่มปรากฏอยู่ตรงหน้าจนจงอินเผลอยิ้มขำ คิดเองเสร็จสรรพ
ว่าสงสัยอีกฝ่ายจะเขิน? แม้ในใจจะอดทึ่งกับเด็กใหม่ของเพื่อนสนิทไม่ได้ ร้อยวันพันปี
แพคอามันควงใครมันก็พามาเปิดตัวที่ชมรมตลอด เหมือนตอนนี้
ถึงครั้งนี้จะดูต่างจากคนก่อนๆมากโขก็เถอะ
“ถ้าไม่ใช่แล้วแพคอาจะลากนายมาเปิดตัวทำไม?”
“ผมไม่..”จงแดเอนตัวหนี
เมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้ามาจ้องคล้ายกำลังจับผิด
ทั้งๆที่เขาไม่มีอะไรให้ต้องจับผิดเสียหน่อย ใบหน้าจงแดเริ่มเหยเก
เหมือนจะร้องไห้อยู่มอรอมมอร่อ
ถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้าโดนอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หน้าผากอย่างจังจนได้ยินเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นเสียก่อน
“มันเจ็บนะเว๊ย
แพคอา”ขวดนมรสช็อกโกแล็ตกลิ้งหลุนๆอยู่บนพื้น
ก่อนเจ้าของชื่อจะวางของที่หอบในอ้อมแขนลงบนโต๊ะตัวเตี้ยที่อยู่ไม่ไกลเมินเสียงร้องของเพื่อนสนิทที่มองมาอย่างคาดโทษ
ก่อนจะหันไปเรียกเด็กแว่นที่นั่งทำอะไรไม่ถูกด้วยน้ำเสียงเข้มๆ
“นายน่ะ มานั่งนี่”จงแดก้มลงเก็บขวดนมบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นอย่างว่าง่าย
อดไม่ได้ที่จะมองคนตัวสูงที่ยังคงเอามือกุมหน้าผากด้วยท่าทีเจ็บปวด ทำท่าจะถามว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า
จนแพคอาต้องเรียกอีกรอบ
“กูไม่ได้จะจีบเด็กมึง”จงอินว่าพลางลุกขึ้นยืน
แต่แพคอานี่คิ้วกระตุกยกใหญ่ ใครนะ ไอ้เด็กแว่นเฉิ่มๆนี่น่ะนะ เด็กเขา
ไอ้จงอิน ไอ้เพื่อนตาถั่ว
“ใครบอกมึงว่าเด็กกู”เถียงไปทันควัน
พลางเหล่มองคนที่นั่งนิ่งๆตรงโต๊ะข้างๆ
“ถ้าไม่ใช่แล้วมึงควงมาให้คนเห็นกันทำไม”
แพคอาตบหน้าผากเมื่อได้ยินคำพูดเพื่อน ไอ้ตอนที่ลากเด็กแว่นมานี่ไม่ได้คิดอะไร
เพิ่งมาคิดได้ก็ตอนที่ไอ้จงอินมันพูดนี่แหละ
“กูไม่ได้..”
“ถึงจะดูแปลกไปหน่อยกับสเป็กครั้งนี้ของมึง
แต่ก็นะ จงแดก็น่ารักดี ยังไงมึงก็ถนอมหน่อยล่ะ”
“จงอิน”
“ขี้ตกใจขนาดนี้มึงก็อ่อนโยนกับเขาบ้าง”
“ไอ้จงอินมึงเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”
แพคอาพูดกับประตู
นั่นเพราะจงอินมันชิงเปิดประตูออกไปตั้งแต่มันพูดยังไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ
หันกลับมาก็พบกับใบหน้าเหมือนจะร้องไห้ของเด็กแว่นนี่อีก
น่าหงุดหงิดจริงๆโว้ย
“เอ้า มัวแต่มองหน้าอยู่นั่นแหละ รีบๆกิน
จะได้คุยกันสักที”
“นายน่ะ
ชอบฮยอนมันสินะ?”ทันทีที่น้ำดื่มอึกสุดท้ายหลังบรรยากาศกินข้าวที่แสนกดดันและโคตรจะอึดอัดหมดลงเสียงเข้มๆนั่นก็ถามประโยคที่ชวนเข้าใจยากทันที
“ป่าวนะครับ”จงแดตอบไปตามความจริงหลังจากที่แทบจะสำลักน้ำไปเมื่อสักครู่
เขารู้สึกดีเวลาที่ฮยอนมาทำดีด้วยก็จริง แต่ถึงขนาดที่ว่าชอบ
หรือรักมันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก
“งั้นไอ้ที่ทำหน้าตาแบ๊วๆเวลาฮยอนมันทำดีด้วยนี่คืออะไร”
“ผม เนี่ยนะครับ”ไอ้คำว่าหน้าตาแบ๊วๆ เหมือนยิ่งเพิ่มความงุนงงให้กับจงแดเป็นการใหญ่
นิ้วเล็กชี้เข้าหาตัวเองแล้วมองแพคอาตาโต
ตาแบ๊วๆปรากฏอยู่ตรงหน้าแพคอาทันที..
“นี่ไม่รู้ตัวหรือไง เหอะคิดจะจับน้องชายฉันน่ะ
มันไม่ง่ายหรอกนะ”
“...”จงแดหน้าตึงทันทีที่ได้ยินประโยคเหล่านั้น
ปกติเขาแทบจะชินกับคำพูดจาถากถาง ว่าเขาเป็นพวกเด็กเนิร์ด เด็กแว่น เด็กเฉิ่ม
เขาไม่เคยสนใจ
แต่ประโยคที่พูดเหมือนยัดเยียดให้เขาเป็นเหมือนอะไรสักอย่างที่ไม่มีศักดิ์ศรีแบบนี้
มันมากเกินไป
ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักมักจี่
ไม่เคยรู้ถึงนิสัยจริงๆของเขาด้วยซ้ำ
มือเล็กกำเข้าหากัน หน้าร้อนขึ้นเพราะความรู้สึกโกรธ
ในขณะที่แพคอาหรี่ตามองท่าทางเหล่านั้นอย่างไม่สนใจปากยังคงพูดต่อไป
“ไม่รู้หรือไง ว่าตัวเองขี้เหร่ขนาดไหน?
ฮยอนมันอาจจะสงสาร ก็เลยทำดีด้วย แต่ถ้าให้รักให้ชอบมันคงไม่..เฮ้ย!!”
ซ่า!
น้ำในแก้วที่วางอยู่ถูกสาดเข้าใส่เต็มใบหน้า แพคอาผุดลุกขึ้นปาดหยดน้ำออก
เขาเห็นเพียงอีกฝ่ายยืนจ้องมา ก่อนจะแผดเสียงลั่น
“ผมรู้ว่าผมขี้เหร่
แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าผมแบบนี้!”
แพคอาคิ้วกระตุกขยับสาวเท้าเข้าไปใกล้หวังจะลากมาฟาดก้นสักทีสองทีข้อหาที่ทำให้เขาโมโห
แต่แก้วพลาสติกกลับถูกโยนมากระแทกใส่อกอีกรอบ พร้อมกับร่างผอมๆที่วิ่งไปกระชากประตูเปิดออก
“คุณไม่เหมือน
ฮยอน เลยสักนิด”
ประโยคส่งท้ายเหมือนตรึงเท้าแพคอาไว้กับที่
ก่อนจะได้สติเมื่อประตูห้องชมรมถูกปิดดังปัง
“ก็คนละคนกันไงวะ ย๊าส์ หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ
เด็กแว่น!!”
TBC….
#แฝดพยอน
ความคิดเห็น