ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #16 : DOUBLE LOVE : BAEKCHENHYUN I

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.91K
      44
      15 ต.ค. 60


      

     

     

    Tile : Double Love I

    Pairing : BAEKCHENHYUN

     

     

     

     

    คิมจงแด คือชื่อของเด็กเนิร์ดตัวผอมๆที่มักจะหอบหนังสือเล่มหนาไม่น้อยกว่า 1 นิ้วในอ้อมแขนแทบจะตลอดเวลา (ยกเว้นตอนนั่งเรียน และนั่งกินข้าว) คุณสามารถพบคิมจงแดได้ที่ห้องสมุดชั้น 3 ตรงหมวดวรรณกรรมแปล ซึ่งเป็นมุมที่เงียบที่สุดของห้องสมุด ตรงนั้นจะมีโต๊ะสี่เหลี่ยมสีขาว เพียงโต๊ะเดียววางอยู่ติดมุมห้อง และมันกลายเป็นที่ประจำของคิมจงแดไปแล้ว ทุกคนในคลาสรู้จักคิมจงแดในชื่อ เด็กเฉิ่ม/ติ๋ม หรือเด็กเนิร์ด มากกว่าชื่อจริงของเจ้าตัว (ความจริงเรื่องนี้เขาชินไปเสียแล้ว) คนที่เรียกชื่อจงแดถูกมีเพียงไม่กี่คน คือป้าแม่บ้าน/น้ายามประจำคณะ เจ้าหน้าที่ห้องสมุด  พี่รหัสอย่างพี่จุนมยอน และคนสุดท้าย พยอนแพคฮยอน คนๆนั้นที่ใจดีอย่างที่จงแดไม่เคยเจอมาก่อน คนที่แค่เรียกชื่อเขาก็ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คนที่หลายๆคนในคณะและนอกคณะเรียกกันสั้นๆว่าฮยอน()

     

    ฟังจากการออกเสียงแล้วดูคล้ายคลึงกับคำว่า พยอล (: ดวงดาว) อย่างบอกไม่ถูก แต่มันก็คล้ายกันจริงๆนั่นแหละ ทั้งชื่อ ทั้งสถานะ ในเมื่อฮยอนคนนั้นน่ะ ตรงข้ามกับเขาแทบทุกอย่าง...

    มีสังคมและเจิดจรัสราวกับแสงดาวในคนหมู่มาก...

    ส่วนเขามืดมนจนเหมือนถูกกลืนหายไปกับอากาศ...

     

    ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนแบบนั้นจะมองเห็นเขาด้วย

    ซ้ำยังใจดีกับเขาแบบที่ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนในชั้นปีทำมาก่อน

     

     

    จงแด ข้างนอกฝนกำลังจะตกได้เอาร่มมาหรือเปล่าลูก?”

    คะ ครับ?”ร่างผอมหลุดจากภวังค์ หันขวับไปก็เจอป้าซอนมินยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง รอยยิ้มใจดีถูกส่งมาให้คนที่เหมือนฟังประโยคเมื่อครู่ไม่ทัน

    คนอายุมากกว่าอมยิ้มอย่างเอ็นดู ป้าบอกว่าฝนกำลังจะตก เรามีร่มหรือเปล่า?”

    อ่า มีครับๆ ขอบคุณที่มาเตือนนะครับป้า อ่านี่ก็จะได้เวลากลับบ้านแล้วนี่นาตากลมเบิกกว้างเมื่อมองนาฬิกาข้อมือ

    นี่เขามัวแต่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนานขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

     

    งั้นป้ากลับก่อนนะ เราก็กลับดีๆล่ะคุณป้าใจดียิ้มก่อนจะบอกลา จงแดโค้งให้ก่อนจะหันกลับมาปิดหนังสือเล่มหนาลง ถอนหายใจออกมาเมื่อหน้ากระดาษยังอยู่ที่หน้าเดิมตั้งแต่มานั่งอยู่ที่นี่ เขาปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆแบบนี้ได้ยังไงนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนหนังสือคือสิ่งเดียวที่แทบจะดึงความสนใจทุกอย่างของเขาแท้ๆ

    แต่ พยอนแพคฮยอนคนนั้น...

     

    ช่างเถอะ...

    คนตัวผอมสั่นหัวแรงๆก่อนจะกวาดเอาทุกอย่างลงกระเป๋า หนังสือเล่มหนาถูกนำกลับไปใส่คืนไว้ที่ชั้นดังเดิม วันนี้เขาคงเอามันกลับไปอ่านด้วยไม่ได้

     

     

     

    เสียงฟ้าร้องที่ดังลั่นด้านนอกเผลอทำไหล่บางสะดุ้งโหยง ตากลมมองออกไปบนท้องฟ้าก็พบมวลก้อนเมฆสีดำกำลังเริ่มเคลื่อนที่มาปกคลุมไปทั่วบริเวณ คนตัวผอมมองนาฬิกาสลับกับบรรยากาศด้านนอกเพียงชั่วครู่ คิ้วของเจ้าตัวขมวดเข้าหากันยามใช้ความคิด ถ้ากลับบ้านช้ากว่าเวลาที่เจ้าตัวแสบโทรมาเขาต้องได้ฟังโวยวายจนหูชาแน่ๆ แต่ถ้ารีบเดินอาจจะถึงบ้านก่อนฝนจะตก

    จงแดคิดอย่างนั้นก่อนจะรีบออกจากหอสมุด แต่ก็นั่นแหละ

    มันทันซะที่ไหนล่ะ!!

     

    ซ่า!

     

    จู่ๆก็เทลงมาแบบไม่ให้ตั้งตัวทั้งๆที่อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงป้ายรถเมล์แล้วแท้ๆ มือเล็กกางร่มเป็นพัลวัน ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อตัวเองไม่ได้เปียกมาก ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆใครบางคนก็แทรกเข้ามาในร่ม

    ไม่สิ แค่ยื่นส่วนหัวเข้ามาในร่มคันเล็กๆนี่กับเขาต่างหาก!

     

    คุณ!จงแดเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็เพียงแค่นั้นเมื่ออีกฝ่ายส่งยิ้มมา

    คนๆนี้...

     “ขอไปติดร่มไปด้วยคนนะจงแดมือเล็กเผลอเอียงร่มไปทางอีกฝั่งก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อแพคฮยอนเอื้อมมือข้างหนึ่งจับทับมือที่ถือคันร่ม ดันร่มคันเล็กที่ไม่เหมาะสำหรับคนมากกว่าหนึ่งไปทางเจ้าของร่ม มืออีกข้างดึงรั้งไหล่เล็กรั้งเข้ามาแนบชิดอย่างถือวิสาสะ ไหล่ของจงแดเกยกับอกของแพคฮยอนแต่คนตัวผอมกลับทำได้แค่ยืนนิ่งๆ เหมือนสมองคิดอะไรไม่ออก ก่อนจะโดนบังคับให้วิ่งไปยังป้ายรถเมล์

     

    หัวใจจงแดเต้นตึกตักแข่งกับเสียงฝนจนน่ากลัว

     

    ดวงตาพร่ามัวเพราะละอองฝนเกาะเป็นฝ้าขาวทั่วเลนส์แว่นตา แต่จงแดก็ยังเห็นรอยยิ้มที่สดใสนั่น

     

    คงเป็นดวงดาวจริงๆสินะ ขนาดท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ยังส่งยิ้มได้สดใสขนาดนี้เลย

     

     

    ร่มในมือเล็กถูกหุบและพิงไว้กับที่นั่งเมื่อทั้งคู่ยืนอยู่ใต้ป้ายรถเมล์เรียบร้อย จงแดก้มปัดละอองฝนที่เกาะตามแขนอย่างขะมักเขม้นเกินจริง ก่อนจะเกร็งขึ้นสิบระดับเมื่อเสียงนุ่มดังขึ้นแข่งกับเสียงฝน

     

    นายเปียกมากหรือเปล่า?”

    “...”สิ่งที่จงแดตอบกลับเป็นเพียงการส่ายหน้าและยิ้มน้อยๆอย่างทำตัวไม่ถูก แพคฮยอนยิ้มอย่างไม่ถือสาเพราะปกติในชั้นเรียนก็แทบจะไม่เคยเห็นจงแดพูดคุยกับใครอยู่แล้ว ก่อนจะถือโอกาสมองสภาพของอีกฝ่ายลวกๆ มีแค่ตรงไหล่ด้านขวาที่เปียกหน่อยๆเพราะตอนที่เอียงร่มมาฝั่งเขาเท่านั้น แต่ความจริงคนที่เปียกมากก็เขานี่แหละ...

     

    แว่นตานาย..

    อ่า…”อีกฝ่ายตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะจับขาแว่นตาที่ขึ้นฝ้าสีขาวถอดออกมาอย่างเก้ๆกังๆ แพคฮยอนยกยิ้มละสายตาจากคนที่กำลังควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า ไปยังภาพเบื้องหน้า สายลมที่พัดมาทำเอาเสื้อที่เปียกชุ่มเมื่อครู่แนบกับผิวกายจนรู้สึกเย็นๆ มือเรียวเปิดกระเป๋าก่อนจะดึงเอาแจ็กเก็ตสีดำที่อยู่ในกระเป๋าออกมา ยื่นไปตรงหน้าคนที่กำลังเช็ดแว่น

     

    เอาไปใส่สิ จะได้ไม่หนาว..

    มะ..ไม่เป็นไรครับ ผมไม่..ใบหน้าของอีกฝ่ายเงยขึ้นมาปฏิเสธทันควัน ดวงตากลมที่ปราศจากแว่นกรอบดำ เผลอทำเอาแพคฮยอนหยุดชะงัก เขากระแอมไอเหมือนเรียกสติตัวเอง ก่อนแจ็คเก็ตในมือจะถูกคลุมไปบนหัวกลมๆนั่นอย่างไม่ฟังคำปฏิเสธ แพคฮยอนถอยออกมาทิ้งตัวนั่งลงบนม้านั่งเลยไม่ทันได้เห็นปากยู่ๆพร้อมกับตากลมที่กรอกไปมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง จงแดสวมแว่นกลับ ดึงเสื้อคลุมลงจากหัวก่อนจะขยับมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ แพคฮยอนมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตาเมื่อมือเล็กยังคงจับเสื้อเขาไว้แน่นจนสุดท้ายมือเล็กก็กระชับเสื้อคลุมนั่นเข้ากับไหล่ พร้อมๆกับประโยคเบาๆที่แทบจะกลืนหายไปกับเสียงฝน

     

    ขอบคุณครับ

     

     

    เกือบครึ่งชั่วโมงฝนด้านนอกถึงได้ซาลง แพคฮยอนเหลือบมองคนที่นั่งเงียบก่อนผุดลุกขึ้น

    บ้านนายอยู่ไกลไหม? ให้เดินไปส่งหรือเปล่า?”

    จงแดส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน ไม่ต้องครับ ผม..ผมกลับเองได้ ขอบคุณคุณแพคฮยอนมากนะครับ คือ..

    ประโยคของจงแดยังไม่ทันจะจบดี แพคฮยอนก็แทรกขึ้นมาเสียงเข้ม

    ทำไมไม่เรียกเหมือนคนอื่นล่ะ..”

    “ครับ?”

    “เรียก คุณ.เคิน อะไร เรียกแบบนี้ดูทางการมากเกินไปนะ เรารุ่นเดียวกันนี่จงแดแพคฮยอนแกล้งทำเสียงดุ แต่คนที่ไม่รู้ว่าโดนแกล้งหน้าเสียไปเสียแล้ว

    ก็ผม..

    เรียกฮยอนสิ เรียกแบบนี้เหมือนนายกลัวฉันยังไงไม่รู้ ฉันน่ากลัวหรือไง?”

     

    “ไม่ใช่นะครับ! ผมแค่..ก็เราไม่ได้สนิทกันแบบนั้นนี่ครับจงแดก้มหน้ากัดริมฝีปากอย่างไม่รู้ทางออก จะให้เรียกชื่อเหมือนสนิทกันแบบที่อีกฝ่ายเรียกชื่อเขาน่ะ มันไม่ได้ง่ายเลยนะ

    จะให้ทำตัวสนิทสนมได้ยังไง เขาทำไม่ได้หรอก

     

    แพคฮยอนมองไหล่ที่ลู่ลงของอีกฝ่ายด้วยแววตาอบอุ่น เขาขยับตัวเข้าไปใกล้จงแด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

    งั้นก็มาสนิทกันสิ ฉันอยากสนิทกับนายนะ ถ้านายไม่รังเกียจ..

     

    “...”จงแดอึ้งไปชั่วครู่ ตากลมภายใต้กรอบแว่นเงยขึ้นจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างงุนงง รอยยิ้มของแพคฮยอนยังคงประดับอยู่บนใบหน้า ท่าทางของแพคฮยอนไม่ได้มีอะไรน่าสงสัย ไม่ได้มีท่าทางเหมือนกำลังกลั่นแกล้ง หรือหลอกล่อให้เขาดีใจ ในขณะที่เขามีแต่ความสับสนที่ตีกันอยู่ภายในหัว

    เขาไม่เข้าใจจู่ๆก็เข้ามาพูดด้วย เข้ามาชวนคุย ทั้งเรื่องเมื่อเช้าที่จู่ๆก็เดินเข้ามาชวนเขาไปงานวันเกิดที่บ้านนั่นอีก

    ไม่เข้าใจเลย เขากับแพคฮยอนน่ะ ไม่ควรเฉียดใกล้กันเลยด้วยซ้ำแท้ๆ แล้วทำไมจู่ๆคนๆนี้ถึงได้..

     

    “...แล้วก็ปาร์ตี้วันเกิดเสาร์นี้น่ะ ฉันอยากให้นายมาจริงๆนะ

     

    แพคฮยอน..คือเรื่องปาร์ตี้วันเกิดน่ะ ฉันคง..จงแดยังพูดไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำ แพคฮยอนก็ชิงส่ายหน้าทั้งที่ยังส่งรอยยิ้มมาให้ มือเรียวยื่นออกไปด้านนอกตัดบทสนทนาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ก่อนจะเดินถอยหลังออกไปท่ามกลางหยาดฝนที่ตกปรอยๆ จงแดได้ยินเพียงประโยคเดียวจากอีกฝ่าย

    ประโยคธรรมดาแถมยังเอาแต่ใจ แต่ทำไมต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้

     

    ฉันจะรอของขวัญจากนายนะ จงแด

    “แพคฮยอน..”

    “แล้วครั้งหน้าฉันจะรอฟังนายเรียกฉันว่า ฮยอน”

     

     

    ~~~~~ DOUBLE LOVE ~~~~~

     

     

    จงแดต้องชอบเค้าแน่ๆ

    นี่คือประโยคสรุปจากเจ้าตัวแสบที่อยู่จีนหลังจากที่เขาวิดีโอคอลเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง จงแดถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าไปมากับหมอนเมื่อรอยยิ้มของแพคฮยอนผุดขึ้นมาในหัว เสื้อแจ็คเก็ตสีดำแขนอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าพาลให้คิดไปถึงเจ้าของเสียดื้อๆ

     

    ชอบหรอ?

     

    ไม่รู้สิ เขาไม่เคยชอบใครมาก่อน เลยไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่คืออะไร บางทีอาจจะเพราะแพคฮยอนใจดีกับคนที่แทบจะไม่มีตัวตนอย่างเขา ก็เลยรู้สึกดี มันเป็นความรู้สึกประมาณว่าหัวใจพองโต หัวใจเต้นแรง แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่รู้หรอก กับคนที่แทบไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครอย่างเขาจะไปเข้าใจพวกความรู้สึกแบบนั้นได้ยังไงกัน

     

    เพียงแต่ตอนนี้เขารู้เพียงอย่างเดียวว่าวันเสาร์นี้เขาปฏิเสธคำชวนของแพคฮยอนไม่ได้แล้ว..

     

    พรุ่งนี้คงต้องรีบไปซื้อของขวัญวันเกิดให้อีกฝ่ายซะแล้วล่ะ

     

     

     

    วันเสาร์มาเร็วกว่าที่คิด

     

    จงแดยืนหมุนตัวอยู่ตรงหน้ากระจก ก่อนจะถอนหายออกมาอีกรอบ ต่อให้แต่งตัวยังไง ตรงหน้าเขาก็มีเพียงแค่เด็กหนุ่มตัวผอมท่าทางเฉิ่มเชยเท่านั้น ตากลมมองกล่องของขวัญขนาดเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหัวเตียงด้วยดวงตาที่ฉายแววไม่มั่นใจ ในหัวผุดความคิดที่ว่าอยากจะยกเลิกเสียดื้อๆแต่เพียงแค่คิดว่าตอนที่เจอหน้า ฮยอน แล้วอีกฝ่ายจะทำหน้าตาผิดหวังใส่ เขาก็ต้องปัดความคิดที่ว่าไม่กล้าของตัวเองทิ้ง

     

    ตอนนี้ทุกอย่างมันประหลาดไปหมด ตอนไปเรียนอีกฝ่ายก็มักจะแวะเข้ามาทักทายเขาเสมอ แถมสามวันที่ผ่านมายังเอาแต่ทวงของขวัญด้วยใบหน้าเหมือนกับกำลังวาดหวังของขวัญจากเขาแบบนั้นอีก แพคฮยอนคงไม่รู้ตัวหรอกว่าท่าทางของเจ้าตัวน่ะทำใจเขาอ่อนยวบไปกี่ครั้ง

    ทำหน้ายุ่งตอนที่เขาไม่เรียกแทนอีกฝ่ายว่าฮยอน แล้วก็ยังทำท่าทางดีใจจนโอเวอร์ตอนที่เขาไม่ใช่คำสุภาพด้วย ท่าทางของเขามันต้องดูตลกมากแน่ๆในทุกครั้งที่อยู่กับอะไรที่ไม่เคยชิน แต่นั่นกลับทำให้รอยยิ้มค่อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างไม่เคยรู้เนื้อรู้ตัว

     

    แพคฮยอนทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังเป็นเพื่อน...

    จงแดรู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตเข้าใกล้การมีใครสักคนที่เห็นเขาอยู่ในสายตา...

     

     

    เสียงปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้น จงแดตบหน้าตัวเองเบาๆเหมือนเรียกสติก่อนจะเดินกลับไปคว้าเอากระเป๋าเป้สีดำสนิท มือเล็กหย่อนกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กลงในเป้กระชับมันไว้กับไหล่ก่อนจะเดินออกจากห้อง เดินเลยไปบอกพี่มินซอก (พี่ชายข้างบ้าน) ว่าจะออกไปข้างนอก ฟังพี่มินซอกบอกให้ระมัดระวังตัวเองประมาณสามรอบ ก่อนจะเดินไปตามถนนของหมู่บ้านที่ทอดยาวไปสู่ถนนหลัก

     

    มือเล็กเปิดดูข้อความในมือถืออีกครั้ง อ่านทวนที่อยู่ของแพคฮยอนให้ขึ้นใจ

     

    การไปเจอผู้คนที่ไม่รู้จักสำหรับเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่จงแดก็จะพยายาม..อย่างน้อยเขาก็อยากให้ความสัมพันธ์ของเขากับแพคฮยอนพัฒนาขึ้น เริ่มจากเพื่อน มันคงจะดี อาจจะไม่พัฒนาไปมากกว่านั้น.. แต่อย่างน้อยๆเขาก็อยากมีเพื่อนสนิทเหมือนคนอื่นบ้าง ไม่ใช่ตัวคนเดียวแบบนี้ไปเรื่อยๆ

     

     

    บ้านของแพคฮยอนอยู่ถัดจากป้ายรถเมล์ที่จงแดลงอีก 1 บล็อก คนตัวผอมเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อมือถือสั่นครืดแล้วพบว่าเป็นเบอร์ของเจ้าของวันเกิด เขาไม่ได้กดรับเพราะคิดว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะเดินไปถึงที่หมายแล้ว  คนตัวเล็กเร่งฝีเท้า เลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้านของแพคฮยอน กำแพงสีน้ำตาลที่เป็นสัญลักษณ์เห็นอยู่ลิบๆ มือเรียวควานหากล่องของขวัญ เกิดความกังวลใจขึ้นมาเสียดื้อๆว่าแพคฮยอนจะชอบหรือเปล่า จงแดมองกล่องของขวัญในมือนิ่งก่อนจะหลับตาลงเพื่อให้กำลังใจตัวเองสักพัก ขาเล็กก้าวไปข้างหน้าแม้จะหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

     

    เสียงเพลงจังหวะหนักๆดังมาให้ได้ยิน จงแดเดินเลียบกำแพงบ้านสีน้ำตาลที่สูงเลยหัวมาเรื่อยๆ แสงไฟส่องออกมาจากรั้ว มันสะท้อนเข้าตาจนต้องหรี่ตา ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ยิ่งขยับเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่หัวใจจงแดก็ยิ่งเต้นรัว ความไม่มั่นใจเริ่มทำให้ฝีเท้าช้าลง แต่ในช่วงจังหวะที่เขาเลี้ยวหักมุมตรงประตูเหล็กของบ้านฝีเท้าที่ก้าวไปด้านหน้าอย่างเนิบนาบนั่นก็หยุดลง ร่างกายของจงแดแข็งทื่อ

    เรื่องราวสุดช็อกปรากฏต่อสายตา ชายหญิงคู่หนึ่งอยู่ตรงหน้าของเขา โอเคมันควรจะเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ

    ปากของทั้งคู่ประกบกับอยู่!!

     

    กล่องของขวัญในมือหล่นลงบนพื้น เมื่อฝ่ายชายถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง คราบลิปสติกสีแดงเปรอะเปื้อนรอบขอบปาก ตรงคอของอีกฝ่ายก็มีรอยลิปสติกชัดแจ๋ว แสงไฟจากในบ้านลอดประตูรั้วเหล็กมาพอให้ภาพตรงหน้าชัดเจน จงแดเบิกตากว้าง เมื่อเห็นใบหน้าของชายคนนั้นชัดๆ ชื่อของอีกฝ่ายหลุดออกจากริมฝีปากแผ่วเบา

     

    ฮยอน..

     

    อีกฝ่ายเสยผม ตาเรียวคมจ้องมองจงแดตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะคว้าเอาเอวของหญิงสาวเข้ามาแนบชิด คล้ายไม่ใส่ใจ จงแดทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นกับตาว่ามือของอีกฝ่ายลูบสะโพกของผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่อาย จงแดกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างฝืดเคือง เขากำลังช็อก

    ตัวจริงของแพคฮยอนเป็นแบบนี้งั้นหรอ!?...

     

    ย๊าส์!! จะยืนบื้อขัดจังหวะคนอื่นอีกนานมั้ย!

    เสียงแข็งๆของอีกฝ่ายดังขึ้นจนสะดุ้งโหยง จงแดละล่ำละลักขอโทษอย่างไม่เป็นภาษาก่อนจะหันหลังวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต

     

    จนลืมเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆนั่น..

     

     

    ร่างโปร่งปล่อยมือจากเอวของหญิงสาวกระซิบชิดใบหูให้เธอเข้าไปสนุกในงานวันเกิดของเขากับน้องชายฝาแฝด แล้วเขาจะตามเข้าไปทีหลัง ก่อนจะหันมาสนใจสิ่งที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น มือเรียวหยิบกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กขึ้นมา เสียงเพลงบีทจังหวะหนักๆดังคลอให้ได้ยินมาเป็นระยะ เช็ดมุมปากของตัวเองออกอย่างลวกๆ ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจเมื่อคิดไปถึงเด็กผู้ชายท่าทางเฉิ่มๆ ที่เพิ่งวิ่งจากไปเมื่อครู่ เขาแน่ใจว่าตัวเองไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จัก

     

    อีกอย่างเด็กเนิร์ดๆแบบนั้นมาทำอะไรที่นี่?

     

    มือเรียวถือวิสาสะดึงฝากล่องเปิดออก ก่อนริมฝีปากจะกระตุกยิ้มเมื่อเห็นการ์ดเล็กๆพี่พับอยู่ข้างในกล่อง

     

    สุขสันต์วันเกิดนะฮยอน

     

    เหอะ ที่แท้ก็เด็กไอ้ฮยอนนี่เอง

     

     

    TBC

    #แฝดพยอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×