คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : chapter1 - Promise。
วันที่ 15 เวลา 18.30 ณ กรุงโซล
ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอคนสำคัญอยู่ที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในกรุงโซล แสงของไฟรถยนต์ที่แล่นอยู่เต็มถนนอย่างไม่ขาดสายคันแล้วคันเล่า แต่ก็ผมยังนั่งรอใครบางคนอยู่ที่ป้ายรถเมล์แม้ขณะนี้ฝนกำลังตกอย่างไม่ขาดสาย ผมพร้อมที่จะรอ คนสำคัญคนนั้นไม่ว่าจะให้รอนานแค่ไหน ผมก็จะรอ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผมก็ยังนั่งรออยู่ที่เดิมแม้ว่า รถยนต์ที่แล่นอยู่กลางถนนจะเหลือไม่กี่คัน ในตอนนี้ผมขอเพียงให้เขาโทรมาบอกว่าไม่ว่าง หรือ อะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้ความรู้สึก ของผมจะดีขึ้น
.
.
.
“เลขหมายที่ท่านเรียนไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ” ผมพยายามกดโทรศัพท์ของผมไปยังเขาคนนั้น แต่ก็ยังไม่มีแววว่าเขาจะรับโทรศัพท์สักที ผมจึงตัดสินใจวางโทรศัพท์ไว้ตรงที่นั่ง แล้วยิบกระเป๋าสตางค์หลุยส์สีน้ำตาลใบโปรดขึ้นมา ผมได้แต่จ้องมองรูปในกระเป๋าสตางค์ ในกระเป๋าเฃเป็นรูปคู่ของผมกับเขาอยู่อย่างนั้น ลางสังหรณ์กำลังบอกว่ามีอันตรายเกิดขึ้นกับคนที่ผมรัก ถ้าผมขออะไรสักอย่างได้ ผมอยากขอให้ฟ้าไม่ใจร้ายกับผมเกินไป ...
แสงไฟในป้ายโฆษณาขนาดยักษ์กำลังเลื่อนโชว์เวลาในตอนนี้เป็นเวลา 21.00
เมื่อความกังวลของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บทสนาเมื่อวันก่อนก็โพล่งขึ้นมาในหัว
“ไปเที่ยวกัน เดี๋ยวไปรับตอนหกโมงครึ่งนะห้ามมาช้าด้วยนะรู้เปล่าเจ้าตัวเล็ก”
“ถ้าเกิดพ่อฉันรู้ละ เราจะทำยังไง”
“ฉันก็จะปกป้องเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องเธอแบคฮยอนฉันสัญญา”
“แต่ว่าถ้าท่านรู้ ท่าจะทำร้ายนายนะคริสยังไงซะฉันก็ไม่ไป ฉันไม่อยากให้นายเป็นอะไรไป”
“ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไปรับนะ ตอนหกโมงครึ่งที่เดิมนะ”
“เดี๋ยวก่...”
“ตู้ด ตู้ด ตู้ด ตู้ด”
........................................................................................................................................................................
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ หนึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัด
“วันนี้แต่งตัวดีนะเรา จะไปไหนหรอลูก” เสียงของพ่อเอ่ยทักขึ้นทันทีที่ผมเลื่อนเก้าอี้เพื่อนั่งทานข้าวรวมกับครอบครัวของผม ท่ามกลางบอดี้การ์ดและแม่บ้าน
“ออกไปเที่ยวกับเพื่อนครับคุณพ่อ”
“แหม ลูกชายของแม่โตเป็นหนุ่มแล้วสินะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณแม่”
“อย่ากลับดึกนะเรา วันนี้คุณพ่อไปประชุมที่บริษัทหนูอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงนะแบคฮยอน”
“ท่านครับได้เวลาแล้ว” เสียงของบอดี้การ์ดคนนึงดังขึ้นอยู่ข้างหลังคุณพ่อ
“โชคดีนะครับคุณพ่อ”
“อย่าให้รู้ว่าหนีไปกับพวกกุ๊ย นั้นอีกนะแบคฮยอนคราวนี้พ่อไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่”คุณพ่อพูดจบท่านก็รีบสาวเท้าไปยังรถยนต์ที่สตาร์ทรอท่านอยู่
“แม่รู้ว่าลูกไปกับคนที่ชื่อคริส”
“….”
“อย่าให้คุณพ่อรู้ล่ะ เราก็รีบกลับพ่อจะได้ไม่รู้ไม่งั้นเกิดปัญหาใหญ่แน่รู้หรือเปล่าแบคฮยอน”
“ครับ ผมจะไม่กลับดึกขอบคุณนะครับคุณแม่” ผมหันทางด้านซ้ายพร้อมกับหอมแก้มคุณแม่สุดที่รักหนึ่งที ท่านรู้มาตลอดว่าผมกับคริสกำลังรักกัน ท่านคอยให้ผมไปพบกับคริสบ่อยๆแต่ก็ต้องหลบคุณพ่ออยู่ทุกครั้ง
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
. KRIS PART
เวลา 18.00 ณ กรุงโซล
“ชิบหายและมึงไอคริสมึงอยู่ไหนว่ะมาหากูด่วน” มือยาวของผมกดรับโทรศัพท์อย่างสบายๆ ในขณะที่มืออีกข้างกำลังบังคับจักรยานยนต์สีดำคันโปรด ให้มาจอดพักที่ข้างทาง
“กูขับรถอยู่ จะออกไปรับแบคฮยอน”
“มึงอย่าพึ่งไปรับแบคฮยอนมาช่วยกูก่อน”
“เดี๋ยวดิมีไรเกิดขึ้นว่ะ”
“พวกมันกำลังพาพวกมาเล่นงานกู!!!!”
“เหี้ยละ ไอยอลมึงรอกูแปปเดียว” ผมรีบบังคับรถคันโปรด ไปยังจุดหมายคือ ท่าเรือขนาดใหญ่ในกรุงโซล ผมรีบขับรถไปโดยที่ผมไม่ลังเลใจสักนิด ว่าอีกแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงเวลานัด ในตอนนี้ผมคิดเพียงแค่ว่าต้องช่วยเพื่อนก่อน
ใช้เวลาไม่นานผมก็มายังจุดหมาย สายตาของผมเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังต่อสู้กับบอดี้การ์ดมากมาย แต่ไม่นานนักเพื่อนของผมก็ถูกชก ทำให้เสียหลักและบอดี้การ์ดนับสิบกำลังตรงไปยังเพื่อนเขา ผมตัดสินใจรีบวิ่งไปทางนั้นพร้อมกับวิ่งเข้าไปซัดหน้าพวกบอดี้การ์ดพวกนั้น
“ ปัง ปัง ปัง ปัง!!! ” หลังจากเสียงปืนดังขึ้น ประธานบีกรุ๊ปเดินตรงมายังที่ ที่พวกผมกำลังยืนกันอยู่ พร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคน
“ส่งยาในมือพวกนายมาให้ฉันเถอะถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“ทำไมกูต้องเอาให้มึง” เป็นชานยอลที่พูดขึ้นมา
“หึ ปากเก่งนักนะพวกมึงพูดดีๆแล้วทำไมไม่ฟัง จัดการพวกมันได้” ประธานบีกรุ๊ป สั่งบอดี้การ์ดสองคนให้เข้ามาจัดการ ผมกับชานยอล
.
พวกมันเดินมาต่อยที่ท้องผม ผมไม่สามารถหลบได้ทัน บอดี้การ์ดอีกคนกำลังชกต่อยกับชานยอลอยู่อีกด้าน ผมพยายามสู้พวกมัน จนผมสามารถรู้จุดละจัดการมันได้ ใช้เวลาพอสมควรจนบอดี้การ์ดที่ผมจัดการจะสลบไป
“ตายซะเถอะมึง” บอดี้การ์ดอีกคน ฟาดไม้แข็งๆ เขาที่หัวผมอย่างจัง เลือดสีแดงสดกำลังไหลลงมาเปื้อนหน้าของผม ไหลไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
“มะ มะ มึง”
“ไอเหี้ยคริสอย่าเป็นไรนะมึง” ผมหัวเราะฝืดๆไปให้เพื่อนที่กำลังเอาไม้มาจัดการกับบอดี้การ์ดนับหลายคน
“แฮ่ก แฮ่ก เล่นเอาซะกูแย่เหมือนกันนะเนี้ย”
“กะกะเก่งเหมือนกันนะมึง”
“เออแน่นอน พวกมันหนีไปละ เห้ยมึงมีกระเป๋าตังค์ตกว่ะ” ชานยอลวิ่งไปยิบกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้น คาดว่าน่าจะเป็นของประธานบีกรุ๊ปแน่
“ไอเหี้ยคริส ประธานบีกรุ๊ปน่าจะเป็นพ่อของแบคฮยอนว่ะ”
“!!!!!!!!!!!!!” ผมได้ยินสิ่งที่ชานยอลพูดมา ทำให้นึกอะไรบางอย่างได้ นั่นก็คือนัดของแบคฮยอน ผมรีบพาร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสไปยังรถจักรยานยันต์คันโปรด
“กะกะกูไปก่อนนะ”
.
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมประคองรถมายังถนนที่มีรถผ่านไม่มากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที รถของผมกำลังจะถึงจุดหมายและในขณะที่สติของผมกำลังจะเลือนลาง แต่แล้วก็มีรถยนต์อีกคันที่ขับด้วยความเร็วสูงวิ่งตรงเข้ามาชนรถจักรยานยนต์ของผมอย่างจัง
“เอี๊ยดดดดดดดดด ตู้ม”
“บะบะแบคฮยอน” ตอนนี้ร่างของผมถูกชนกระเด็นมายังหน้าป้ายรถเมล์ที่นัดแบคฮยอนเอาไว้ ในขณะที่สติของผมกำลังจะหายไป ผมพยายามฝืนตัวเองเอาไว้ เพราะร่างเล็กที่ผมรักกำลังวิ่งมายังตรงนี้
“ฮืออออออออออ คริสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เขาร้องไห้อย่างหนักพร้อมกับประคองร่างของผมไว้ในอ้อมกอด
“ขะขะขะขอโทษ”
“ไม่เป็นไรๆๆๆ อย่าเป็นอะไรไปนะไหนบอกว่าจะไม่ทิ้งกันไงคริส”
“ฉะฉะฉะฉันอาจจะปกป้องนายไม่ได้แล้ว ปะเป็นผู้ชายที่แย่จังเลยนะ”
“ห้ามทิ้งกันไปแบบนี้ ไหนบอกจะดูแลแบคฮยอนไงอย่าหลับนะคริสฟื้นมาหาเจ้าตัวเล็กของนายเดี๋ยวนี้นะ” น้ำตาของแบคฮยอนไหลมาโดนยังหน้าของผม พร้อมกับแบคฮยอนที่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“คริส นายฟื้นสิฟื้นฉันบอกให้ตื่นได้ยินไหม”
“ฉะฉันรักนายแบคฮยอน” ผมรวบรวมสติเฮือกสุดท้ายเพื่อพูดคำนี้ออกมาให้คนที่ผมรักได้รับรู้ พร้อมกับสติสุดท้ายของผมที่ดับลงไป
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
BAEK PART.
“ฉะฉันรักนายแบคฮยอน”
อยากให้ฉันได้คุยกับคุณอีกสักครู่
I wish I could talk to you for a while
อยากให้ฉันหาวิธีที่จะไม่ร้องไห้ได้
I wish I could find a way try not to cry
มันยากมากที่จะต้องยอมรับว่าคุณจากไปแล้วตลอดกาล
the hardest thing to do is say bye
“อย่าทิ้งฉันไปแบบนี้ ตื่นมาเดี๋ยวนี้นะพี่คริสอย่าทิ้งแบคฮยอนไป” ผมร้องไห้ครวญครางราวกับคนเสียสติ ผมพูดกับร่างในอ้อมกอดซ้ำไปซ้ำมา ผมหวังว่าเขาอาจจะฟื้นคืนมา แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วสินะ ..
พยาบาลพร้อมกับเจ้าหน้าที่จากทางโรงพยาบาลกำลังวิ่งพร้อมกับที่เข็นพูดป่วยมายังจุดที่ผมกำลังกอดร่างของคนที่ผมรักที่สุดอยู่ พวกเขาวิ่งมาที่นี้พร้อมกับนำร่างของพี่คริสขึ้นไปยังรถของโรงพยาบาลผมตัดสินใจวิ่งตามไปยังรถพยาบาล
“เสียใจด้วยนะคะ คนไข้เสียชีวิตแล้วค่ะ”
“ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ยครับฮรึก” ผมปล่อยโฮลงมาอย่างหนักราวกับคนบ้า ร้องให้ตายยังไงผมไม่วันได้คนที่รักกลับคืนมาอีกแล้ว … ผมเดินไปยังร่างของพี่คริสที่นอนนิ่งอยู่บนรถเข็นในรถพยาบาล
ฉันก็จะปกป้องเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องเธอแบคฮยอนฉันสัญญา
“คนนิสัยไม่ดี ไม่รักษาสัญญา เกลียดพี่คริสที่สุด ฮรือ” ผมบรรจงทุบไปที่ร่างสูงตรงหน้า แล้วก้มลงกอดร่างของเขาเอาไว้
“ฮรึก”
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
วันที่ 15 เวลา 18.30 ณ กรุงโซล
ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอคนสำคัญอยู่ที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในกรุงโซล แสงของไฟรถยนต์ที่แล่นอยู่เต็มถนนอย่างไม่ขาดสายคันแล้วคันเล่า แต่ก็ผมยังนั่งรอใครบางคนอยู่ที่ป้ายรถเมล์แม้ขณะนี้ฝนกำลังตกอย่างไม่ขาดสาย ผมพร้อมที่จะรอ คนสำคัญคนนั้นไม่ว่าจะให้รอนานแค่ไหน ผมก็จะรอ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผมก็ยังนั่งรออยู่ที่เดิมแม้ว่า รถยนต์ที่แล่นอยู่กลางถนนจะเหลือไม่กี่คัน ในตอนนี้ผมขอเพียงให้เขาโทรมาบอกว่าไม่ว่าง หรือ อะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้ความรู้สึก ของผมจะดีขึ้น
.
.
.
“เลขหมายที่ท่านเรียนไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ” ผมพยายามกดโทรศัพท์ของผมไปยังเขาคนนั้น แต่ก็ยังไม่มีแววว่าเขาจะรับโทรศัพท์สักที ผมจึงตัดสินใจวางโทรศัพท์ไว้ตรงที่นั่ง แล้วยิบกระเป๋าสตางค์หลุยส์สีน้ำตาลใบโปรดขึ้นมา ผมได้แต่จ้องมองรูปในกระเป๋าสตางค์ ในกระเป๋าเฃเป็นรูปคู่ของผมกับเขาอยู่อย่างนั้น ลางสังหรณ์กำลังบอกว่ามีอันตรายเกิดขึ้นกับคนที่ผมรัก ถ้าผมขออะไรสักอย่างได้ ผมอยากขอให้ฟ้าไม่ใจร้ายกับผมเกินไป ...
แสงไฟในป้ายโฆษณาขนาดยักษ์กำลังเลื่อนโชว์เวลาในตอนนี้เป็นเวลา 21.00
เมื่อความกังวลของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บทสนาเมื่อวันก่อนก็โพล่งขึ้นมาในหัว
“ไปเที่ยวกัน เดี๋ยวไปรับตอนหกโมงครึ่งนะห้ามมาช้าด้วยนะรู้เปล่าเจ้าตัวเล็ก”
“ถ้าเกิดพ่อฉันรู้ละ เราจะทำยังไง”
“ฉันก็จะปกป้องเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องเธอแบคฮยอนฉันสัญญา”
“แต่ว่าถ้าท่านรู้ ท่าจะทำร้ายนายนะคริสยังไงซะฉันก็ไม่ไป ฉันไม่อยากให้นายเป็นอะไรไป”
“ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไปรับนะ ตอนหกโมงครึ่งที่เดิมนะ”
“เดี๋ยวก่...”
“ตู้ด ตู้ด ตู้ด ตู้ด”
........................................................................................................................................................................
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ หนึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัด
“วันนี้แต่งตัวดีนะเรา จะไปไหนหรอลูก” เสียงของพ่อเอ่ยทักขึ้นทันทีที่ผมเลื่อนเก้าอี้เพื่อนั่งทานข้าวรวมกับครอบครัวของผม ท่ามกลางบอดี้การ์ดและแม่บ้าน
“ออกไปเที่ยวกับเพื่อนครับคุณพ่อ”
“แหม ลูกชายของแม่โตเป็นหนุ่มแล้วสินะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณแม่”
“อย่ากลับดึกนะเรา วันนี้คุณพ่อไปประชุมที่บริษัทหนูอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงนะแบคฮยอน”
“ท่านครับได้เวลาแล้ว” เสียงของบอดี้การ์ดคนนึงดังขึ้นอยู่ข้างหลังคุณพ่อ
“โชคดีนะครับคุณพ่อ”
“อย่าให้รู้ว่าหนีไปกับพวกกุ๊ย นั้นอีกนะแบคฮยอนคราวนี้พ่อไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่”คุณพ่อพูดจบท่านก็รีบสาวเท้าไปยังรถยนต์ที่สตาร์ทรอท่านอยู่
“แม่รู้ว่าลูกไปกับคนที่ชื่อคริส”
“….”
“อย่าให้คุณพ่อรู้ล่ะ เราก็รีบกลับพ่อจะได้ไม่รู้ไม่งั้นเกิดปัญหาใหญ่แน่รู้หรือเปล่าแบคฮยอน”
“ครับ ผมจะไม่กลับดึกขอบคุณนะครับคุณแม่” ผมหันทางด้านซ้ายพร้อมกับหอมแก้มคุณแม่สุดที่รักหนึ่งที ท่านรู้มาตลอดว่าผมกับคริสกำลังรักกัน ท่านคอยให้ผมไปพบกับคริสบ่อยๆแต่ก็ต้องหลบคุณพ่ออยู่ทุกครั้ง
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
. KRIS PART
เวลา 18.00 ณ กรุงโซล
“ชิบหายและมึงไอคริสมึงอยู่ไหนว่ะมาหากูด่วน” มือยาวของผมกดรับโทรศัพท์อย่างสบายๆ ในขณะที่มืออีกข้างกำลังบังคับจักรยานยนต์สีดำคันโปรด ให้มาจอดพักที่ข้างทาง
“กูขับรถอยู่ จะออกไปรับแบคฮยอน”
“มึงอย่าพึ่งไปรับแบคฮยอนมาช่วยกูก่อน”
“เดี๋ยวดิมีไรเกิดขึ้นว่ะ”
“พวกมันกำลังพาพวกมาเล่นงานกู!!!!”
“เหี้ยละ ไอยอลมึงรอกูแปปเดียว” ผมรีบบังคับรถคันโปรด ไปยังจุดหมายคือ ท่าเรือขนาดใหญ่ในกรุงโซล ผมรีบขับรถไปโดยที่ผมไม่ลังเลใจสักนิด ว่าอีกแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงเวลานัด ในตอนนี้ผมคิดเพียงแค่ว่าต้องช่วยเพื่อนก่อน
ใช้เวลาไม่นานผมก็มายังจุดหมาย สายตาของผมเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังต่อสู้กับบอดี้การ์ดมากมาย แต่ไม่นานนักเพื่อนของผมก็ถูกชก ทำให้เสียหลักและบอดี้การ์ดนับสิบกำลังตรงไปยังเพื่อนเขา ผมตัดสินใจรีบวิ่งไปทางนั้นพร้อมกับวิ่งเข้าไปซัดหน้าพวกบอดี้การ์ดพวกนั้น
“ ปัง ปัง ปัง ปัง!!! ” หลังจากเสียงปืนดังขึ้น ประธานบีกรุ๊ปเดินตรงมายังที่ ที่พวกผมกำลังยืนกันอยู่ พร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคน
“ส่งยาในมือพวกนายมาให้ฉันเถอะถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“ทำไมกูต้องเอาให้มึง” เป็นชานยอลที่พูดขึ้นมา
“หึ ปากเก่งนักนะพวกมึงพูดดีๆแล้วทำไมไม่ฟัง จัดการพวกมันได้” ประธานบีกรุ๊ป สั่งบอดี้การ์ดสองคนให้เข้ามาจัดการ ผมกับชานยอล
.
พวกมันเดินมาต่อยที่ท้องผม ผมไม่สามารถหลบได้ทัน บอดี้การ์ดอีกคนกำลังชกต่อยกับชานยอลอยู่อีกด้าน ผมพยายามสู้พวกมัน จนผมสามารถรู้จุดละจัดการมันได้ ใช้เวลาพอสมควรจนบอดี้การ์ดที่ผมจัดการจะสลบไป
“ตายซะเถอะมึง” บอดี้การ์ดอีกคน ฟาดไม้แข็งๆ เขาที่หัวผมอย่างจัง เลือดสีแดงสดกำลังไหลลงมาเปื้อนหน้าของผม ไหลไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
“มะ มะ มึง”
“ไอเหี้ยคริสอย่าเป็นไรนะมึง” ผมหัวเราะฝืดๆไปให้เพื่อนที่กำลังเอาไม้มาจัดการกับบอดี้การ์ดนับหลายคน
“แฮ่ก แฮ่ก เล่นเอาซะกูแย่เหมือนกันนะเนี้ย”
“กะกะเก่งเหมือนกันนะมึง”
“เออแน่นอน พวกมันหนีไปละ เห้ยมึงมีกระเป๋าตังค์ตกว่ะ” ชานยอลวิ่งไปยิบกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้น คาดว่าน่าจะเป็นของประธานบีกรุ๊ปแน่
“ไอเหี้ยคริส ประธานบีกรุ๊ปน่าจะเป็นพ่อของแบคฮยอนว่ะ”
“!!!!!!!!!!!!!” ผมได้ยินสิ่งที่ชานยอลพูดมา ทำให้นึกอะไรบางอย่างได้ นั่นก็คือนัดของแบคฮยอน ผมรีบพาร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสไปยังรถจักรยานยันต์คันโปรด
“กะกะกูไปก่อนนะ”
.
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมประคองรถมายังถนนที่มีรถผ่านไม่มากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที รถของผมกำลังจะถึงจุดหมายและในขณะที่สติของผมกำลังจะเลือนลาง แต่แล้วก็มีรถยนต์อีกคันที่ขับด้วยความเร็วสูงวิ่งตรงเข้ามาชนรถจักรยานยนต์ของผมอย่างจัง
“เอี๊ยดดดดดดดดด ตู้ม”
“บะบะแบคฮยอน” ตอนนี้ร่างของผมถูกชนกระเด็นมายังหน้าป้ายรถเมล์ที่นัดแบคฮยอนเอาไว้ ในขณะที่สติของผมกำลังจะหายไป ผมพยายามฝืนตัวเองเอาไว้ เพราะร่างเล็กที่ผมรักกำลังวิ่งมายังตรงนี้
“ฮืออออออออออ คริสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เขาร้องไห้อย่างหนักพร้อมกับประคองร่างของผมไว้ในอ้อมกอด
“ขะขะขะขอโทษ”
“ไม่เป็นไรๆๆๆ อย่าเป็นอะไรไปนะไหนบอกว่าจะไม่ทิ้งกันไงคริส”
“ฉะฉะฉะฉันอาจจะปกป้องนายไม่ได้แล้ว ปะเป็นผู้ชายที่แย่จังเลยนะ”
“ห้ามทิ้งกันไปแบบนี้ ไหนบอกจะดูแลแบคฮยอนไงอย่าหลับนะคริสฟื้นมาหาเจ้าตัวเล็กของนายเดี๋ยวนี้นะ” น้ำตาของแบคฮยอนไหลมาโดนยังหน้าของผม พร้อมกับแบคฮยอนที่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“คริส นายฟื้นสิฟื้นฉันบอกให้ตื่นได้ยินไหม”
“ฉะฉันรักนายแบคฮยอน” ผมรวบรวมสติเฮือกสุดท้ายเพื่อพูดคำนี้ออกมาให้คนที่ผมรักได้รับรู้ พร้อมกับสติสุดท้ายของผมที่ดับลงไป
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
BAEK PART.
“ฉะฉันรักนายแบคฮยอน”
อยากให้ฉันได้คุยกับคุณอีกสักครู่
I wish I could talk to you for a while
อยากให้ฉันหาวิธีที่จะไม่ร้องไห้ได้
I wish I could find a way try not to cry
มันยากมากที่จะต้องยอมรับว่าคุณจากไปแล้วตลอดกาล
the hardest thing to do is say bye
“อย่าทิ้งฉันไปแบบนี้ ตื่นมาเดี๋ยวนี้นะพี่คริสอย่าทิ้งแบคฮยอนไป” ผมร้องไห้ครวญครางราวกับคนเสียสติ ผมพูดกับร่างในอ้อมกอดซ้ำไปซ้ำมา ผมหวังว่าเขาอาจจะฟื้นคืนมา แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วสินะ ..
พยาบาลพร้อมกับเจ้าหน้าที่จากทางโรงพยาบาลกำลังวิ่งพร้อมกับที่เข็นพูดป่วยมายังจุดที่ผมกำลังกอดร่างของคนที่ผมรักที่สุดอยู่ พวกเขาวิ่งมาที่นี้พร้อมกับนำร่างของพี่คริสขึ้นไปยังรถของโรงพยาบาลผมตัดสินใจวิ่งตามไปยังรถพยาบาล
“เสียใจด้วยนะคะ คนไข้เสียชีวิตแล้วค่ะ”
“ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ยครับฮรึก” ผมปล่อยโฮลงมาอย่างหนักราวกับคนบ้า ร้องให้ตายยังไงผมไม่วันได้คนที่รักกลับคืนมาอีกแล้ว … ผมเดินไปยังร่างของพี่คริสที่นอนนิ่งอยู่บนรถเข็นในรถพยาบาล
ฉันก็จะปกป้องเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องเธอแบคฮยอนฉันสัญญา
“คนนิสัยไม่ดี ไม่รักษาสัญญา เกลียดพี่คริสที่สุด ฮรือ” ผมบรรจงทุบไปที่ร่างสูงตรงหน้า แล้วก้มลงกอดร่างของเขาเอาไว้
“ฮรึก”
แต่ยังไงผมก็จะรอคุณอยู่ตรงนี้ มันมีโอกาสบ้างไหม ที่วันพรุ่งนี้..คุณจะกลับมา..
불러보고 다시 불러봅니다 앵무새처럼 그대 이름
ผมจะร้องเรียกหาคุณอีก ซ้ำๆ เหมือนกับนกแก้วที่มันร้องเรียกแต่ชื่อคุณ
เฝ้ารอความรักจากคุณผู้เดียว..ตลอดไป
เรื่องที่สองของไรท์เตอร์ แต่ก็ยังแต่งได้ห่วยแตกมาก ใครร้องไห้กับตอนนี้บอกมาซะดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไรท์เมนพี่คริสนะ เมนกูวตายคนแรกเบยแง้ มิเป็นรายมิต้องเศร้า
ชานแบคจะรักกันได้ไงต้องรอดู ไม่มีความคิดว่าจะทำให้ไม่สมหวังเลย
ฝาก วันไทม์ วันไหนอ้อมอกอ้อมใจ เม้นเฟบ กันเยอะๆนะ
ซารางเฮ จ้วบ
ความคิดเห็น