ความเชื่อเรื่องเลข 13
ประวัติความเชื่อเรื่องเลข 13
ผู้เข้าชมรวม
10,732
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
>>เลข13<<
ในยุคต้นๆ ที่กล่าวกันว่าอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ที่เรียกกันว่า "The Last Supper" นั้นมีผู้ร่วม
โต๊ะพร้อมกัน 13 คน
และมีความเชื่อว่าวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันแห่งความโชคร้ายนั้นก็เพราะว่าเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขนและ เป็นวันที่อดัมกับอีฟว์ละเมิดกัดแอปเปิ้ลต้องห้ามของพระผู้เป็นเจ้าในสวนเอเดนจนต้องถูกขับไล่ออกมา และยังเชื่อว่าเป็นวันที่ทั้งอดัมกับอีฟว์ตายอีกด้วย
ดังนั้นเมื่อวันศุกร์มาตรงกับวันที่ 13 จึงเหมือนเป็นวันมหาอัปมงคล แต่เหล่านี้เป็นเรื่องราวของความเชื่อในโชคลางเท่านั้น ซึ่งยากที่จะตรวจสอบถึงต้นตอของความจริง
แต่คนก็ยังเชื่อกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก เช่น นักเดินเรือจะไม่ยอมออกเรือในวันที่ 13 หรือห้องพักตามโรงแรมต่างๆ ในบางประเทศไม่ค่อยมีห้องเบอร์ 13 หรือไม่มีชั้น 13 และที่แปลกก็คือ ประเทศตุรกีตัดเลข 13 ออกจากสารบบตัวเลข...
>>" ศุกร์ 13 " วันแห่งความโชคร้าย? << | ||
ไม่มีใครรู้ว่าต้นกำเนิดความเชื่อเรื่องศุกร์อาถรรพ์ “ศุกร์ 13” นั้นมาจากไหน ไม่ว่าจะด้วยอิทธิพลทางศาสนา หรือการประชาสัมพันธ์ของฮอลลีวูด แต่ทุกวันนี้หลายคนในโลกตะวันตกเลือกที่จะลาหยุดงานในวันศุกร์ที่ 13 ไม่ออกจากบ้านไปไหน และที่แน่ ๆ คือ ไม่คิดจัดงานแต่งงานในวันนี้ การศึกษาชิ้นหนึ่ง ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ บริติช เมดิคัล เจอร์นัล ปี 1993 ตั้งหัวข้อไว้ว่า "ศุกร์ 13 เป็นอันตรายต่อสุขภาพคุณหรือไม่?" นักวิจัยพยายามหาความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพ พฤติกรรม และความเชื่อเกี่ยวกับวันศุกร์ที่ 13 ในอังกฤษ โดยเปรียบเทียบสัดส่วนความคับคั่งของการจราจรต่อจำนวนอุบัติเหตุ ในวันศุกร์สองศุกร์ คือศุกร์ที่ 6 และศุกร์ที่ 13 ตลอดช่วงหนึ่งปี น่าประหลาดที่การศึกษาพบว่า ในวันศุกร์อาถรรพ์ที่ 13 นั้น คนอังกฤษขับรถออกนอกบ้านกันน้อยกว่าวันศุกร์ปกติ แต่กลับกลายเป็นว่าจำนวนคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากประสบอุบัติเหตุนั้น มีมากกว่าวันศุกร์ทั่วๆ ไปเสียอีก ผู้ทำการวิจัยเลยสรุปว่า "วันศุกร์ที่ 13 นั้นเป็นวันโชคร้ายสำหรับบางคน ความเสี่ยงที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุท้องถนนนั้นเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 52% ฉะนั้นขอแนะนำให้อยู่บ้านดีกว่า" โลกตะวันตกมีความเชื่อเรื่องโชคร้ายในวันศุกร์ที่ 13 มานาน บางคนไม่ไปทำงานในวันศุกร์ที่ 13 บางคนไม่ไปกินอาหารนอกบ้าน ที่แน่ ๆ หลายคนไม่คิดจะจัดงานแต่งงานวันนี้ ดร.โดนัลด์ ดอสซีย์ นักจิตศาสตร์ที่ชำนาญด้านการรักษาอาการกลัวบอกว่า เฉพาะในสหรัฐฯ ประเทศเดียวมีคนเป็นโรคผวาศุกร์ที่ 13 มากถึง 21 ล้านคน แม้จะไม่มีใครบอกได้ว่าต้นกำเนิดของความเชื่อนี้มาจากไหน แต่ก็ยืนยันได้ว่าความสำคัญของวันศุกร์ และเลข 13 นั้นย้อนหลังไปได้ไกลมาก ภาพลักษณ์เลวร้ายของวันศุกร์ น่าจะเริ่มจากความเชื่อที่ว่า มันเป็นวันที่อีฟยั่วให้อดัมกินผลไม้ต้องห้ามในสวนอีเดน คัมภีร์ไบเบิลระบุว่าวันศุกร์เป็นวันแรกที่เกิดน้ำท่วมโลกและที่สำคัญวันศุกร์เป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขน นอกจากนี้วันศุกร์ยังเป็นวันประหารนักโทษ ตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ
เมื่อคริสต์ศาสนาเริ่มเข้ามามีอิทธิพล ภาพลักษณ์ของเทพธิดาวันศุกร์ถูกเปลี่ยน กลายเป็นแม่มดผู้ชั่วร้าย วันศุกร์จึงกลายเป็นวันแห่งความชั่วร้ายไปในที่สุด >>เลข 13<< เลข 13 เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง และเคยถูกยกย่องในวัฒนธรรมการบูชาเทพธิดาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เพราะเมื่อดูปฏิทินตามจันทรคติแล้ว มันตรงกับรอบของดวงจันทร์ และการมีระดูของผู้หญิงในหนึ่งปี (13x28 = 364 วัน) แต่เมื่อปฏิทินตามระบบสุริยะ ถูกนำมาใช้แทนดวงจันทร์ ตามวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ เลข 12 ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์ ขณะที่เลข 13 กลายเป็นความโชคร้าย ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด ว่าทัศนคติอันเลวร้ายต่อวันศุกร์ที่ 13 นั้น เป็นการผสมผสานความโชคร้ายของวันศุกร์ และเลข 13 ไว้ด้วยกันหรือไม่ และเหตุใดความหมายของวันศุกร์ และเลข 13 ที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีกลับแปรเปลี่ยน อย่างไรก็ตามความเชื่อนี้กำลังแพร่หลาย จากสังคมตะวันตกไปทั่วโลก แม้แต่ในประเทศจีนเอง ซึ่งสมัยก่อนนั้นถือว่าเลข 4 เป็นเลขแห่งความโชคร้ายมากที่สุด เดี๋ยวนี้ก็จัดให้เลข 13 เข้ากลุ่มเลขโชคร้ายไปด้วย และแทบไม่มีอาคารสมัยใหม่อาคารไหนที่มีชั้น 13 ขณะเดียวกันโรงแรมส่วนใหญ่ก็หลีกเลี่ยงที่จะทำห้องพักหมายเลข 13 ด้วย |
ผลงานอื่นๆ ของ zuli ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ zuli
ความคิดเห็น