คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ทำตามคำสั่งฉันซะ!
“อยู่นิ่งๆดิ หมูอ้วนไม่งั้นฉันทำแผลให้นายไม่ได้”ฮิมชานเลิกคิ้วขึ้นหลังจากที่อีกฝ่ายเอาแต่กระตุกเท้าที่เขากำลังพยายามพันผ้าเอาไว้อยู่นั่นแหละ
“ไม่ต้อง แค่มาส่งฉันที่ห้องพยาบาลก็พอแล้ว กลับไปได้แล้วเดี๋ยวฉันทำเอง”
“อย่าดื้อดิ - - หมูอ้วน”
“ไม่ได้ดื้อโว้ยยยยยย แล้วก็อย่ามาเรียกฉันว่าหมูอ้วนด้วย”
“หรอแล้วใครกันล่ะที่กระโดดกอดฉันใหญ่ตอนที่ตัวเองจะล้มลงไปอีกรอบอ่ะ”
“ไม่ใช่ฉัน”
“บอกไว้ก่อนนะขืนดื้ออีกฉันประจานนายแน่”
“นายจะมาประจานอะไรฉัน”ยองแจพองแก้มขึ้นแล้วเชิดหน้าไปทางอื่น ในสายตาฮิมชานแล้วยังไงก็น่ารักอยู่ดี เหมือนหมูกำลังโกรธมากกว่า
“อืมก็ เด็กที่พึ่งกลับมาจากโครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ แอบแต๊ะอั๋งรองประธานนักเรียน พอถูกจับได้ก็เลยแกล้งทำเป็นโวยวาย แบบนี้ดีไหม”คำพูดที่ออกมาจากปากสวยทำเอายองแจอยากตบซักรอบ
“ใครจะไปเชื่อคนอย่างนายกัน ฮึ”
“มีแล้วกันน่า อย่าดูถูกเครือข่ายกรรมการนักเรียนสิ”พริบตาเดียวที่รอยยิ้มเทวดาเหมือนเป็นรอยยิ้มซาตานปรากฎออกมา ทำเอายองแจไม่กล้าเถียงต่อ
“ชิ”
“นั่นแหละดีมาก อยู่เฉยๆแบบนั้นแหละ”แล้วก็กลับมาเป็นรอยยิ้มเทวดาเหมือนเดิม
ฮิมชานมองหน้าของอีกฝ่ายที่ตอนนี้ทำหน้าบึ้งแต่ขัดใจเขาไม่ได้อยู่แล้วลอบยิ้ม หึหึ ยองแจคงไม่รู้สินะว่าตอนแรกคำที่ฉันจะพูดน่ะ ไม่ใช่คำว่า ‘หนักเป็นบ้า’หรอก ตอนแรกตั้งใจจะพูดว่า ‘น่ารักเป็นบ้า’ ต่างหาก แต่ดูแล้วเจ้าตัวไม่น่าจะรู้ว่าเขาพูดคำนั้นออกมา ช่างเถอะ ปล่อยให้เอ๋อต่อไปแบบนี้แหละดีแล้ว ตัวเชาเองก็ไม่อยากให้มีคนรู้ว่าตัวเองพูดอะไรนย่าอายออกไปแบบนั้นเหมือนกัน
“ฉันว่านะนายไม่ต้องกลับห้องเรียนแล้วแหละ อีกไม่นานก็จะถึงเวลาเลิกเรียนแล้วนี่”ฮิมชานเงยหน้าขึ้นพูดในขณะที่มือกำลังพันผ้าพันแผลที่ข้อเท้าของอีกฝ่ายอยู่
“อะไรนะ!!! จริงอ่ะ”ยองแจทำตาโตแล้วเด้งตัวขึ้นจากเตียงในห้องของห้องพยาบาลอย่างรวดเร็วก่อนนั่งลงไปที่เตียงเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วเพราะเจ็บข้อเท้า
“อื้ม ทำใจซะเถอะไปตอนนี้ให้ตายนายก็ไปไม่ทันหรอก”เสียงจิจ๊ะถูกส่งออกมาจากร่างบนเตียงพอดีกับที่ฮิมชานพันผ้าเสร็จ
“ง้นกลับไปห้องฉันกันดีกว่านะ”
“ห้องนายไปทำบ้าอะไร”อยู่ๆยองแจก็หันมามองหน้าฮิมชานอย่างเหลือเชื่อพร้อมทั้งหน้าแดงขึ้นก่อนจะส่งสายตาเหลือเชื่อมาที่ชายหนุ่ม
“เฮ้ยๆอย่าเข้าใจผิดดิ หมายถึงห้องประธานนักเรียนตั้งหาก”ฮิมชานเองก็ลนลานไม่ใช่น้อย เมื่อเห็นท่าทางที่ฮิมชานลนลานแล้วอยู่ๆยองแจก็สงสัยขึ้นมาว่า ‘หมอนี่เป็นพวกเจ้าเล่ห์ หน้ากลัวจริงๆน่ะเหรอ?’ ลองดูดีไหมนะ ว่าแล้วยองแจก็กวักมือเรียกฮิมชานเข้ามาไกล้ๆ
“อะไรเหรอ?”เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอียงหูขาวๆนั่เข้ามาไกล้ๆแล้วริมฝีปากของยองแจก็งับเข้าที่ติ่งหูนั่นอย่างรวดเร็ว ทำเอาฮิมชานตกใจจนร้องออกมาไม่เป็นภาษา
“เฮ้ย !@#$%^$*&^@#”สิ้นเสียงร่างของฮิมชานก็ผละออกไปจนล้มลงไปกับพื้นพร้อมด้วยสีหน้าแดงแจ๋บนหน้าขาวใสนั่น อะไรกันที่แท้หมอนี่ก็ไม่ได้เจ้าเล่ห์อะไรนี่นา ในสายตาผมแล้วตอนนี้ที่มันนั่งเอามือจับติ่งหูตัวเองอ้าปากเหวอแล้วยังหน้าแดงขนาดนี้ เหมือนเด็กออก ที่จริงผมทำแบบนั้นไม่ใช่ว่าผมจะไม่อายหรอกนะ
“ทำอะไรของนาย ยู ยองแจ!!!”
หลังจากที่ผมพาตัวมายังห้องกรรมการนักเรียนได้โดยมีฮิมชานเดินอยู่ข้างๆบันไดแต่ล่ะขั้นมันช่างยากลำบากเหรอเกิน ผมพยักหน้าให้หมอนั่นเปิดประตูเข้าไป บรรยากาศแห่งความครุกครุ่นและอึดอัดถาโถมใส่เราทั้งคู่จนแทบอยากปิดประตูแล้วเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะ แต่ติดว่าไอ้เพื่อนตัวดีผมมันอยู่ข้างในนั้นนี้สิ ผมผลักให้ฮิมชานเข้าไปก่อนแล้วผมถึงเดินเข้าไป แล้วผมก็เห็นร่างคนสองร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไอ้เด็กยักษ์นั่นนั่งกอดเข่าอยู่ พนันเลยว่ามันกำลังหลับอยู่ ส่วนประธานนักเรียนยงกุกนั่นก็นั่งนิ่งเหมือนตุ๊กตาไม่มีผิด
“เฮ้ยไอ้ยักษ์ตื่น”ผมเขย่าตัวของมันสองสามครั้ง ห้าหกครั้ง มันก็ไม่ยอมตื่นเลยซักนิดจนผมต้องเอื้อมมือตบหัวมันเข้า มันถึงเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสีหน้างัวเงีย แล้วมันก็เบิกตาโตขึ้น
“พี่ฮิมชาน รีบแก้กุญแจให้ผมซักทีดิเร็วๆ อยู่แบบนี้อึดอัดเป็นบ้า”สิ่งที่ตามมาคือสีหน้าเบื่อหน่ายของฮิมชาน ก่อนเจ้าตัวจะค่อยล่วงหากุญแจ(มั้ง)ในกระเป๋า แล้วก็เริ่มวกมือไปมาหลายรอบ จับที่กระเป๋าเสื้อลงไปที่กระเป๋ากางเกงด้วยสีที่เริ่มเหงื่อตก
“ฮิมชาน อย่าบอกนะว่านาย”นี่เสียงผม
“พี่ทำกุญแจหายเหรอ!!!!!”นี่คือเสียงของจุนฮง มันตะโกนเต็มที่ พร้อมกับปากหน้าเตรียมร้องไห้
“เฮ้ยฉันคิดว่าเอามาด้วยแล้วนะ อย่าพึ่งร้องดิวะจุนฮง”ผมยืนจุนฮงที่เริ่มจะร้องไห้เหมือนเด็กแบบงุงงนอะไรกัน ธรรมดาจุนฮงเป็นคนที่มีความอดทนสูงนี่นาแล้วทำไมคราวนี้ถึงขี้แยจัง
“อ๊ะ สงสัยพี่ซอนฮวาเอาไปแน่เลย”ว่าแล้วมือหนาก็คว้าโทรศัพท์โทรออก
‘อยู่กับพี่จริงๆด้วย ฮ่ะตอนนี้ไปเที่ยวอยู่กลับมาวันจันทร์ โธ่พี่อ่ะรีบกลีบมาเดี๋ยวนี้เลย เดี่ยวก่อนสิครับ อ๊ะ’ฮิมชานมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าซีดเผือกก่อนจะหันมายิ้มแหยๆให้อีกสามคนที่เหลือ
“โทรหาพ่อของพี่สิครับ”จุนฮงรู้จักกับพ่อของฮิมชานดี ท่านเป็นตำรวจอยู่จึงไม่แปลกว่าทำไมฮิมชานถึงมีกุญแจมือ
“จะบ้ารึไง ถ้าพ่อรู้ว่าฉันเอากุญแจมือออกมาใช้เล่นโดนทำโทษแหงแซะ”
“เรื่องของพี่สิครับ พี่ทำตัวเองอ่ะ”ท่าทางสำนึกผิดของฮิมชานไม่ได้ทำให้จุนฮงเห็นใจซักนิด
“พูดอย่างนี้คิดว่าดีแล้วรึไง”เสียงเย็นเรียบถูกส่งออกมาจากร่างของผู้ชายคนเมื่อกี้ เอาแล้วไง โหมดดาร์กออกมาแล้ว จุนฮงรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่ฮิมชานออกโหมดนี้มาตนไม่สามารถเถียงอะไรได้แน่นอน จึงได้แต่ทำหน้าหงอยเหมือนกระต่ายไม่ได้กินแครอท
“พี่อ่า พี่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ วันนี้ก็วันศุกร์กว่าจะวันจันทร์ก็อีกสองวันเชียวนะ”
“งั้นแกก็ไปอยู่กับยงกุกมันก่อนดิ”
“ห้ะ ไม่ ไม่มีทางเด็ดขาด”
“อย่าเถียง”หลังจากฮิมชานพูดเสร็จจุนฮงก็ทำสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เอานะ T_T~ ”
“ก็ได้ แต่ถ้าแกจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อฉันล่ะก็เตรียมบอกลา ไอ้กบเขียว แมงป่องแล้วก็จิ้งจกในห้องแกไปได้เลย” คราวนี้ฮิมชานสามารถปราบจุนฮงได้อย่างสิ้นฤทธิ์
“แต่ว่าให้คนอื่นหาที่ตัดกุญแจให้ก็ได้นี่ครับ”
“นายก็รู้นี่ว่าพ่อฉันละเอียดยังกับอะไร ถ้ารู้ว่ากุญแจมีร่องรอยหรือพังไปเนี่ย ต้องสงสัยฉันคนแรกชัวร์ๆ”
“พี่ฮิมช้านนนนนนนนน”
“เออน่าขอแค่สองวันนะ เดี๋ยวฉันซื้อกบให้แกเพิ่มด้วย”
“จริงนะ *0* ”จากท่าทางงอแงของจุนฮงเมื่อกี้กลายมาเป็นสีหน้าของเด็กน้อยเต็มที่ ในเมื่อยังไงก็คงแข็งข้อกับฮิมชานไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยได้อะไรมาเป็นรางวัลก็ยังดี
“เออดิ แล้วแกล่ะมีปัญหารึเปล่ายงกุก”
“ไม่ ยังไงบ้านฉันก็ไม่มีคนอยู่อยู่แล้ว”
“โอเค ดีมากงั้นเดี๋ยวเรื่องแดฮยอนฉันจัดการให้เอง”ว่าแล้วฮิมชานก็ดึงโทรศัพท์มือถือจากมือจุนฮงไปแล้วแกะซิมออกมาจากเครื่องหลังจากนั้นก็ส่งเครื่องให้เจ้าตัวคืน
“เรื่องนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด”ถ้าถามว่าทำไมฮิมชานถึงต้องเคร่งเครียดขนาดนี้ก็เพราะการลงโทษของพ่อฮิมชานคือการกักบริเวณลูกชายดีๆนี่เอง
“เฮ้อ Y_Y ”เอาวะอย่างน้อยก็ได้กบปลอบใจอ่ะ
หลังจากที่ฮิมชานมาส่งทั้งคู่ที่บ้านของยงกุกด้วยรถสปอตหรูสีแดง ก็เตรียมขับรถออกไปต่อ แต่โดนจุนฮงจับขอบหน้าต่างเอาไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวดิพี่ฮิมชาน”
“อะไร?”
“พี่จะไปไหน ไม่ได้จะอยู่ด้วยกันเหรอ”
“ใครบอกว่าฉันจะมาอยู่กับพวกแกฮ่ะ ฉันก็กลับบ้านล่ะดิ - -”ว่าแล้วฮิมชานก็เร่งรถแรงๆจนจุนฮงต้องปล่อยมือออกแล้วออกรถไปทั้งที่ยังมียองแจนั่งอยู่ข้างใน
โกหกน่า.......
อย่าบอกนะว่าสองวันที่เหลือนี่เขาต้องอยู่กับยงกุกกันสองคน!!! จุนฮงมองตามรถที่ขับออกไปด้วยสายตาละห้อย แล้วเดินตามเข้าไปในบ้านเพราะอีกฝ่ายเดินนำไปแล้ว
ไม่ได้มานานเหมือนกันนะบ้านหลังนี้ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า ก็ไม่ได้อยากมานักหรอก! รู้สึกเหมือนตำรวจกับโจรเลยแฮะ ระหว่างที่เดินเข้าไปข้างในร่างบางก็คิดไปเรื่อยเปื่อยมองนู่นมั่งนี่มั่ง ทั้งที่ข้าวของในบ้านหลังนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่ตัวเองมาเลยแม้แต่นิด
แล้วความเงียบก็เข้าครอบงำเมื่อพวกเขาพากันมานั่งที่โต๊ะในครัว ตอนแรกคิดว่าแค่สองวันหลับตาผ่านๆมันไปเดี๋ยวก็หมดวันไปเองแหละ ที่ไหนได้นี่ขนาดยังไม่ทันพ้นวันของวันศุกร์เขาเองก็ทำท่าว่าจะไปไม่รอดซะแล้ว
“ไปนั่งดูทีวีดีกว่าล่ะมั้ง”จุนฮงพยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนั้นก็ตามยงกุกที่เดินไปที่ตู้เย็น ก่อนที่ร่างบางจะเห็นอีกฝ่ายหยิบถังไอศรีมอันใหญ่ออกมาแล้วยื่นให้เขา ของโปรดอีกแล้ว ใบหน้าด้านข้างของยงกุกทำให้จุนฮงเหม่อมองไปซักพักนึงแล้วก็ค่อยเดินตามไปที่หน้าทีวีใหญ่
“อ๊ะ”ในขณะที่ของมือกำลังถือถังไอศรัมและกำลังจะหย่อนตัวนั่งลงที่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นนั้น อยู่ๆมือหนาก็มาเปลี่ยนทิศทางก้นของเขาโดยการจับมาไว้บนตักตัวเอง
“นั่งแบบนี้จะดีกว่ามั้ง”จุนฮงกอดถังไอศรีมไว้แนบตัวอย่างลืมตัว แต่ลมหายใจอุ่นๆของยงกุกที่มาจากด้านหลังวทำเอาร่างบางเริ่มหน้าขึ้นสีปากก็พะงาบเหมือนปลาไกล้ขาดน้ำ
“ฮยอง ปล่อยผมนะ อุ๊บ”จุนองยกมือที่ไม่ได้ใส่กุญแจมือขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว ทำเอายงกุกกระตุกยิ้มออกมา
“ยอมเรียกฉันว่าฮยองเหมือนเมื่อก่อนแล้วเหรอ”
ความคิดเห็น