ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HunHan's Bakery [SF/OS]

    ลำดับตอนที่ #5 : เค้กชิ้นที่ 3 :: If You Don't Love [special]

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 60





    If You Don’t Love

    special








    2 ปีผ่านไป


    “ลู่หานนน ดีใจด้วยนะที่ในที่สุดแกก็ได้รับตำแหน่งผู้จัดการร้านแล้วอะ” แบคฮยอนวิ่งหน้าตั้งมาหาเพื่อนตัวเองพร้อมดอกไม้ช่อเล็กน่ารักสมตัวเนื่องในโอกาสที่เพื่อนสนิทสุดรักมีตำแหน่งงานมั่นคงกับเขาสักที เห็นมันทำงานงกๆได้แล้วผลตอบแทนก็อดยินดีด้วยไม่ได้


    แต่ที่ทำงานหนักไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะหาเงิน หรือหาเรื่องทำให้ลืมคนคนนั้นไป


    “เห้ย! ไม่เห็นต้องมีอะไรมาให้เลย ไม่ได้จัดงานฉลองสักหน่อย พี่เขาก็ไม่ได้ยกทั้งร้านให้เรานะ”


    ผู้จัดการร้านกาแฟคนใหม่ถึงกับยิ้มขำ เนื่องจากพี่เจ้าของร้านเห็นว่ากิจการอยู่ตัวเลยต้องการกลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิดระยะยาว และวางแผนเปิดสาขาอื่นๆ ลู่หานที่ทำงานด้วยกันอย่างยาวนานจึงได้รับความไว้วางใจ


    “ไม่ยกให้ก็เหมือนยกอะ ตายละ ลูกค้าหนุ่มๆคงเยอะน่าดู  แกว่าฉันเลิกเป็นช่างแต่งหน้าแล้วมาช่วยอ่อย เอ้ย! ช่วยเสิร์ฟดีไหม”


    “พูดเป็นเล่นอีกแล้ว พนักงานเยอะแยะเต็มร้าน แกมาก็รกเปล่าๆ”


    “ปากคอเราะร้ายขึ้นเยอะเลยนะ ภายใต้อิหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมเนี่ย”


    ทั้งสองคนคุยกันไปสักพักก่อนลู่หานจะปิดร้านแล้วกลับบ้าน ตั้งแต่เซฮุนไปต่างประเทศ ลู่หานก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานมาตลอดเพื่อจะไม่ฟุ้งซ่าน ยอมรับว่าช่วงแรกๆเอาแต่ร้องไห้กับแบคฮยอนจนเพื่อนที่เกลียดเซฮุนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแทบจะเลิกเกลียดแล้วอยากให้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นกลับมาเพื่อนที่ไม่ให้เขาเสียใจ ...แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ


    ประมาณสามเดือนหลังจากที่เขาพอทำใจได้จึงทำงานหนัก ส่วนแบคฮยอนกับพี่เจ้าของร้านก็เอาแต่หาคู่เดทให้เขาซึ่งไปไม่รอดสักคน  แล้วจงอินหรือเทาที่เคยสัญญาว่าจะบอกข่าวคราวเซฮุนกับเขาบ้างก็เงียบหายไปเลยเหมือนกัน


    เขาเคยแอบกลับไปนอนที่คอนโดของเซฮุนอยู่ช่วงหนึ่ง เผื่อว่ามันจะลดทอนความคิดถึงลงไปได้บ้าง ในห้องมีผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ไว้อย่างดี ของใช้ส่วนมากยังคงวางอยู่ที่เดิมบ่งบอกว่าตอนนั้นที่ไปคงกะทันหันมาก หรือไม่อีกคนอาจตั้งใจกลับมาอีกครั้ง ของฝากมากมายที่เซฮุนซื้อให้แล้วเก็บไว้ทำเอาลู่หานน้ำตาไหลและรู้สึกผิด  ตอนนั้นเขารอแล้วรอเล่าแต่เซฮุนไม่เคยกลับมา


    จนถึงตอนนี้สายตาของลู่หานก็ไม่ได้มองไปที่ใครคนอื่น เพราะมันเฝ้ารอแต่คนที่อยู่ภายในหัวใจเพียงหนึ่งเดียวเสมอ


     






    ร่างสูงพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบโตหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่เขาทิ้งไปสองปีเต็ม ภายในห้องเหมือนเดิมแทบทุกประการยกเว้นห้องนอน คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อเห็นว่าเตียงใหญ่ไม่ได้ถูกคลุมไว้ และไหนจะของฝากของลู่หานที่วางบนโต๊ะซึ่งถูกเปลี่ยนที่ไปบ้าง ไม่ก็หายไปบางชิ้น


    มือใหญ่เปิดตู้เสื้อผ้าออกด้วยหัวใจเต้นแรง แต่กลับไม่มีเสื้อผ้าของลู่หานเหลืออยู่ในนั้น เหมือนหัวใจชุ่มน้ำมันแห้งเหี่ยวลงทันตา บางทีลู่หานอาจจะเคยมาที่นี่จริงๆก็ได้ ...เขาก็แค่หวังให้เป็นแบบนั้น


    หลังจากจัดการอะไรเรียบร้อยเซฮุนก็กะจะบินมาหาเพื่อนและก็ขอโทษเจ้านายเสียหน่อย นอกเหนือจากนั้นก็คงตามหาลู่หาน เผื่อว่าจะมีโอกาสอีกสักครั้ง


    ตลอดสองปีนั้นเซฮุนเริ่มไปบริหารงานรีสอร์ทของพ่อแม่ที่นั่น ท่านทั้งสองรู้ว่าเขากับลู่หานเลิกกันแล้ว แต่ยังคงบอกเสมอว่าให้กลับมาคืนดีกัน ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีใครที่ไหน คงเพราะเข็ดกับความรักมากกว่าและก็ยังรู้สึกอยากปรับความเข้าใจกับลู่หานมาโดยตลอด แต่กลัวว่าถ้าบอกตอนนั้นเรื่องราวจะแย่กว่าเดิม เลยต้องใช้เวลาเพื่อรักษาแผลของเราทั้งสองคน


    เขาไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่ที่เกาหลีถาวรอีกครั้งเพราะกิจการที่นั่นกำลังไปได้สวย และพ่อกับแม่ก็ต้องการให้เขาไปดูแลในส่วนนั้น พูดง่ายๆว่ามาเพื่อจากไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์เลยต่างหาก ...ถ้าพาลู่หานไปด้วยได้ก็คงดี


    กระเป๋าเดินทางของเขามีซองสีน้ำตาลขนาดเท่าเอสี่อยู่และมันค่อนข้างหนา มือทั้งสองแกะมันออกมาแล้วนั่งเรียงอย่างตั้งใจ รวมถึงใบใหม่ที่เขาซื้อทันทีที่มาถึงที่นี่ คาดว่าเซฮุนคงเดาที่อยู่ของผู้รับมันไม่ผิด เขาจ่าหน้าซองโดยเขียนชื่อของลู่หานไว้ แต่ไม่ได้ใส่ที่อยู่เพราะจะเป็นบุรษไปรษณีย์ที่ส่งจดหมายนี้ด้วยตนเอง


    เพราะทุกที่ที่เซฮุนไปเต็มไปด้วยความคิดถึงลู่หานเสมอ ...เขาแค่ไม่กล้าส่งมาเท่านั้นเอง


     


    เมื่อส่งจดหมายใส่ตู้หน้าบ้านเสร็จ เขาก็เดินมาที่ร้านขนมหน้าซอยซึ่งแม้สภาพร้านจะปรับปรุงไปบ้างแล้วเขาก็ยังจำได้ เสียงกริ่งกับกลิ่นกาแฟทำให้เซฮุนรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย เขาเดินไปสั่งออเดอร์ที่เคาน์เตอร์แล้วเจ้าของร้านก็ทำให้เขาพูดไม่ออก


    “รับอะไรดีคะ...ครับ” ลู่หานมองลูกค้าคนใหม่ด้วยตาเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้านี้คือเซฮุนจริงๆ


    “ลู่หาน ...เหรอ” ร่างสูงเหมือนคนกำลังเพ้อ ตลอดเวลาที่เขาเคยตามหาลู่หานในช่วงนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ ไม่รู้ว่าลู่หานทำงานที่นี่มานานแค่ไหน แต่ถ้าเป็นตั้งแต่ก่อนเขาจะไปก็ถือว่าอีกคนใจร้ายมาก แม้เขาจะสมควรโดนแล้วก็เถอะ


    “นี่นาย ตัวจริงเหรอเซฮุน”


    “เรา ออกไปคุยกันหน่อยได้ไหม” เขาเอ่ยปากชวนก่อนคุณผู้จัดการร้านจะพยักหน้าตกลงและฝากร้านไว้กับพนักงานคนอื่น


    .


    .


    .


    ทั้งสองเดินมาจนถึงม้านั่งข้างทางแถวสวนตรงทางเข้าไปซอยบ้านของลู่หาน ไม่มีใครพูดอะไรก่อนและไม่ได้จับมือกันหรืออะไรทั้งนั้น พวกเขาแค่นั่งหายใจข้างกันเฉยๆ


    “ไหนชวนเรามาคุยไม่ใช่เหรอ” สุดท้ายลู่หานก็ทนไม่ไหวจึงพูดมาก่อน


    “อืม... ก็ใช่” เขาหันมามองหน้าคู่สนทนา “นายสบายดีหรือเปล่า”


    “ก็ปกติอย่างที่เห็นนั่นแหละ แต่นายดูเหนื่อยกว่าเดิมนะ ทำงานหนักเหรอ”


    “มันยากนิดหน่อยสำหรับฉันที่เป็นนักบิน การเป็นผู้บริหารไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ตอนนี้มันเริ่มลงตัวแล้วล่ะ นายก็ดูก้าวหน้าในการงานดีนี่ เป็นถึงเจ้าของร้านแล้วไม่ใช่เหรอ ...เดาเอาน่ะนะ”
                “คล้ายๆแบบนั้นมั้ง...นายคงไม่ได้แค่มาถามความเป็นไปของเราหรอกใช่ไหม”


    “ไม่หรอก เอ่อ คือมันก็พูดยากนะ ฉันกลัวน่ะ” มือใหญ่เอามาถูกันแก้ความประหม่า และอากาศก็ดกำลังเย็นพอดีเลยไม่ดูน่าเกลียดจนเกิดไป


    “....”


    “ลู่หาน เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม” เขาถอนหายใจออกมาจนควันออกจากปาก “ไม่ต้องรีบตอบก็ได้นะ ฉันแค่อยากบอกไว้ว่าสองปีที่ผ่านมาฉันยังรักนายเหมือนเดิม”


    “....”


    “เดี๋ยวลูกค้านายจะหายซะก่อน ฉันไม่รบกวนแล้วกัน... ยังไงก็อยากให้นายตอบตกลงนะ”


    “ทำไมนายถึงกลับมาเหรอ” แต่แทนที่ลู่หานจะตอบคำถาม เขากลับสร้างคำถามใหม่แทน


    “นอกจากขอนายคืนดี ก็คงมาเพื่อบอกลาล่ะมั้ง ...รีบเข้าร้านเถอะอากาศเย็นมากแล้ว ไว้ฉันจะมาอุดหนุนโอกาสหน้าละกัน”


    บอกลา...งั้นเหรอ?


     




                        ------------------------------------------- If you don’t love ------------------------------------------






    “ลู่หาน มีจดหมายมาส่งน่ะลูก แต่ป้าว่ามันแปลกๆ” เมื่อเข้ามาถึงบ้านป้าก็ทักทายเขาเป็นปกติ บางวันป้าก็อยู่บ้าน บางวันก็ไม่อยู่แล้วแต่งาน


    ร่างเล็กขึ้นมาบนห้องตัวเองแล้วแกะจดหมายที่ไม่มีที่อยู่แปะไว้ด้วยความเร่งรีบ เพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นของใคร โปสการ์ดนับยี่สิบฉบับบรรจุอยู่ในนั้นและมีข้อความกำกับทั้งหมด และมันก็เป็นของโอเซฮุนจริงๆที่เขียนถึงเขา


    ลู่หานเกลียดผู้ชายคนนั้นเพิ่มอีกแล้วทั้งๆที่ไม่อยากเกลียด


    เกลียดที่ทำให้เขารู้สึกผิดและคิดถึงจนเจ็บหัวใจ!


    โปสการ์ดแผ่นสุดท้ายเป็นรูปประเทศเกาหลีซึ่งซื้อมาเมื่อวาน ข้อความที่เขียนไว้ทำให้ลู่หานอยากให้วันพรุ่งนี้มาถึงไวๆ


    ถ้านายพร้อมให้โอกาสกันอีกครั้ง มาหาที่ห้องได้เสมอนะ ฉันจะรอ ...


    เขาไม่อยากให้เซฮุนรอนาน และเขาก็ไม่อยากรอนานกว่านี้แล้วเหมือนกัน เพราะสองปีก็เจ็บเกินพอแล้ว


     


    ก๊อก ก๊อก


    สาบานได้ว่าเซฮุนไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นกับเสียงเคาะประตูมากเท่าครั้งนี้ และลู่หานเองก็ไม่เคยเคาะประตูเพราะเค้ามีคีย์การ์ดของที่นี่ แต่วันนี้มันพิเศษออกไป


    “นาย..”


    “พร้อมจะขอโทษเราดีๆหรือยังโอเซฮุน” นิ้วเรียวดันแว่นที่ตัวเองใส่ทำท่ามาดเนี้ยบขำๆ


    “พร้อมแล้วครับลู่หาน ยอมหมดทุกอย่างเลย” เซฮุนคุกเข่าลงทันทีแม้จะยังไม่ได้ปิดประตูห้องจนลู่หานตกใจแล้วฟาดไหล่กว้างไปเต็มแรง


    “ลู่หาน ฉันรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดต่อนายมากที่นอกกายนอกใจในตอนนั้น แม้ว่ามันจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้วก็ตาม แต่ฉันขอสัญญาว่าจากนี้จะรักและถนอมนายให้ดีที่สุด จะมีนายแค่คนเดียว เวลาสองปีที่ผ่านมามันคงทรมานมากทั้งฉันทั้งนาย”


    “...”


    “ฉันว่ามือของเราควรจะจับกันอีกครั้งได้แล้ว” เขายื่นมือไปข้างหน้าทั้งที่ยังคุกเขากับพื้น “ลู่หาน นายพร้อมจะเดินไปกับฉันอีกครั้งไหม”


    “ไม่พร้อม” แต่มือเล็กกลับจับมืออีกคนแน่น “ไม่พร้อมก็บ้าแล้ว”


    “ฉันรักนายนะลู่หาน รักที่สุด รักนายคนเดียว” พูดไปก็จูบมือเล็กนั่นไม่ปล่อย เซฮุนหยิบแหวนที่เตรียมไว้ใส่ให้กับลู่หานอีกครั้งก่อนจะลูกขึ้นกอดคนตัวเล็กจนจมอก


    “เราก็รักนายเซฮุน ขอบคุณที่กลับมาหากันนะ”


    “ไว้เราไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ด้วยกันนะ พ่อแม่คิดถึงลูกสะใภ้จะตายอยู่แล้วมั้ง”


    “งั้นต้องไปเยี่ยมพ่อแม่เราที่จีนด้วยนะ นายต้องเลี้ยงเรานะเซฮุน”


    “เลี้ยงทั้งชีวิตก็ยังไหว”


    เมื่อคนทั้งสองคนเข้าใจกันและกัน ยอมให้อภัยกันบ้าง ยอมลงให้อีกฝ่ายเสียบ้าง ความรักก็จะดำเนินต่อไปได้ ใครว่าการปล่อยมือไปครั้งหนึ่งจะหมายถึงการปล่อยมันทิ้งไว้ตลอดไป บางทีเขาอาจจะเมื่อยหรือว่ามีเหงื่อออกมากเกินไปจนอึดอัด พอถึงเวลามือคู่นั้นก็จะกลับมาจับกันอีกครั้งแล้วเดินบนถนนที่สร้างขึ้นมาจากความรักของทั้งสองคนไปด้วยกัน


     


     


     


     


    สวิตเซอร์แลนด์ (แถม)


    “เซฮุนตื่นได้แล้วนะ เดี๋ยวก็ไปประชุมสายหรอก”


    “...มอร์นิ่งคิสก่อน”


    “ยังจะมาล้อเล่นอีก ลุกมาได้แล้ว เร็ว”


    “...น่านะ ประชุมกี่โมงนะที่รัก ทำไมใส่แว่นแล้วน่ารักขนาดนี้นะ”


    “สิบโมงครึ่งไง อย่ามาเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ไหนจะต้องอาบน้ำอีก กินข้าวด้วย”


    “โห งั้นสบายเลย นี่เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเอง ...ลู่หานถอดแว่นหน่อยสิ”


    “อะไรของนายเนี่ย” ถึงจะว่าแบบนั้นแต่เขาก็ยังถอดมันออกตามใจอีกคนอยู่ดี “ถ้าเห็นตาเราชัดแล้วก็ควรจะรู้ว่าเราจะโมโหแล้วนะ บอกให้ลุกไง”


    “สบายเลยไง เอาเมียได้รอบนึงก่อนไปทำงาน รับรองว่าทัน”


    “ไอ้บ้า! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเซฮุน ...อื้อ!” ลู่หานถูกอีกฝ่ายตะครุบตัวลงมานอนข้างล่างแล้วบดจูบทันที แล้วอย่างนี้คนที่แพ้จูบของเซฮุนอย่างร่างเล็กจะทำอะไรได้ นอกจากนอนตัวอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ


    “สัญญานะที่รักว่าไม่เกินชั่วโมงเสร็จเลย”


    “ไม่เอานะ ฮื่อ อย่ากัดสิ”


    “โถ เมื่อคืนก็ไม่ได้แล้วนะลู่หาน ขอกำลังใจไปทำงานหน่อยไม่ได้เหรอ นะครับ”


    “กะ..ก็ได้ แต่อย่าเกินชั่วโมงนึงนะเซฮุน”


    ...สรุปแล้วคุณผู้บริหารสุดหล่อแอบเลื่อนนัดประชุมอย่างแนบเนียนไปก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ลู่หานแค่ไม่รู้แล้วตกหลุมพรางนี้ไปเต็มๆ สงสัยเช้านี่จะต้องกินเนื้อกวางเป็นอาหารแล้วสินะ


    เซฮุนก็ยังคงเป็นเซฮุน ไม่ทิ้งลายอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ!












    จบจริงๆแล้วนะคะทุกคนนนน ใครถูกใจที่เขาได้(เจอ)กันก็เม้นและแท็กได้นะคะ อิอิ

    ขอบคุณนะคะ แล้วเรื่องใหม่จะมาเร็วๆนี้ค่ะ



    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×