ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HunHan's Bakery [SF/OS]

    ลำดับตอนที่ #3 : เค้กชิ้นที่ 3 :: If You Don't Love [1/2]

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 60




    If You Don’t Love





    151025

    Couple : HunHan

    Theme song : The Way I Loved You – Selena Gomez





     

    “นอนหลับฝันดีนะครับที่รัก ...เดี๋ยวอีกสามวันเราเจอกันนะ” จุมพิตแผ่วเบาแนบชิดกับหน้าผากลาดเนียนก่อนผละออก ความอบอุ่นยังคงทิ้งไว้ให้แม่ตาหวานได้คิดถึง


    “อื้อ รีบๆกลับมานะเซฮุน เดินทางปลอดภัยนะ” ร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงยันตัวขึ้นมาหอมแก้มสากกลับเบาๆ แล้วนั่งมองอีกฝ่ายเดินจากไปจนกระทั่งประตูห้องปิดสนิทถึงยอมหลับตาลงท่ามกลางความเหงาที่ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าเจ้าตัวยังไม่คุ้นชินกับมันสักที


    ลู่หาน ก็เป็นแค่คนที่ทำได้แค่นั่งรอเท่านั้นแหละ ในเมื่อแฟนหนุ่มรูปหล่อหุ่นดีของเขาอย่าง โอเซฮุน มีอาชีพเป็นนักบินของสายการบินชื่อดัง คิวงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสายทำให้เวลาที่เจอกันมีน้อยมาก และมันยิ่งน้อยลงไปอีกในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากพ่อหนุ่มได้เลื่อนขั้นสูงขึ้น ผู้ใหญ่ไว้ใจให้ทำงานมากกว่าเด็กเพิ่งทดลองงาน


    เขาและเซฮุนคบกันมาเกือบสามปีได้แล้ว แต่จีบกันตั้งแต่ตอนลู่หานเพิ่งจบใหม่ๆ โดยเซฮุนมีอายุน้อยกว่าถึงสองปี ในตอนแรกร่างเล็กก็ทำงานอยู่ในร้านขนมแห่งหนึ่ง ทว่าเมื่อเซฮุนหางานที่มั่นคงได้แล้วเขากลับให้คนรักของตนออกจากงานทันทีเพื่อไม่ให้ลำบาก ทั้งสองอาศัยอยู่ในคอนโดของเซฮุน แต่จะมีบ้างที่ลู่หานกลับไปยังบ้านเดี่ยวของตนเองซึ่งเคยเป็นบ้านของป้าเขามาก่อน เนื่องจากเป็นคนจีนแต่ย้ายมาอยู่กับท่านตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเพราะสอบชิงทุนได้


    บางทีเขาก็อยากไปเที่ยวกับเซฮุนบ้าง เพราะนักบินจะได้ที่สิทธิพิเศษในเที่ยวบินของตน พอไปถึงจุดหมายก็ได้พักแล้ว ...ซึ่งถ้ามันมีหลายวันแสดงว่ามีโอกาสเที่ยวได้มากเท่านั้น แต่ติดที่ว่าลู่หานเป็นคนกลัวความสูงเอามากๆ ตามไปได้ไม่กี่ครั้งเขาก็รู้สึกเพลียเพราะต้องกินยานอนหลับหรือไม่ก็ยาแก้เมาเสียหลายครั้ง จนเปลี่ยนเป็นขอของฝากแทนแล้วปล่อยให้พ่อรูปหล่อฉายเดี่ยวคนเดียว


    ...ความจริงลู่หานรู้ ว่าเซฮุนไม่เคยฉายเดี่ยว

    ก็กลิ่นน้ำหอมที่เปลี่ยนไปทุกคราที่เขากลับมาหามันเป็นเครื่องยืนยันได้ดีนี่นา


    แพขนตางอนยาวชุ่มไปด้วยน้ำใสปิดลงไปนานแล้ว ใบหน้าหวานราวสตรีเพศซุกซบอยู่กับหมอนใบโตที่อีกคนใช้หนุนนอน ลู่หานย่อมทนได้ ...ตราบใดที่สาวๆเหล่านั้นแค่ผ่านมาและผ่านไป เขาเข้าใจว่าบางทีตนก็ไม่ได้มีอะไรถูกอกถูกใจเขาเหมือนผู้หญิง

     

    ถ้าใจของเซฮุนยังคงเป็นของเขา ...ลู่หานจะยอมให้เซฮุนสวมเขาให้ก็ได้

     

    ลู่หานไม่ต่างจากภรรยาหน้าโง่ ที่ปล่อยให้สามีของตัวเองหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเลือดเย็น ผิดก็แค่พวกเขายังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้ป่าวประกาศให้ใครต่อใครรับรู้อย่างเป็นทางการก็เท่านั้นเอง

    .

    .

    .


    “นี่ แล้วเมื่อไหร่แกจะเลิกทนสักทีฮะยัยลู่!” เสียงตวาดดังออกจากปากกระจับสวย ทว่าถ้อยคำเหล่านั้นไม่ได้สวยงามเลยสักนิดเดียว  


    “เรายังโอเคน่าแบค ตราบใดที่เซฮุนยังรักเราอยู่” อ้อมแอ้มตอบไปด้วยประโยคเดิมๆจนคนบล็อกตาแน่นกลอกตามองเพดานขาว


    พยอนแบคฮยอน เป็นเพื่อนสนิทของลู่หาน ด้วยความที่มีอาชีพเป็นเมกอัพอาร์ตทิสซึ่งมีความเป็นอาร์ตตัวแม่ค่อนข้างสูง ทำให้เพื่อนคนนี้ทั้งโผงผาง ตรงไปตรงมาและไม่เคยยอมให้ใคร เขาตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนคนนี้ฟังมาโดยตลอด แน่นอนว่าแบคฮยอนไม่เคยยอมให้เขาตกเป็นเบี้ยล่าง ถึงขั้นบอกว่าจะสู้หน้ากับโอเซฮุนเองด้วยซ้ำ แต่ลู่หานไม่ยอมเอง


    “โอ๊ย ความรักมันบังตาแกไปหมดแล้วรู้ไหม แกรู้ได้ไงว่ามันรักแกขนาดนั้น ...ถ้ารักจริงๆมันจะไม่กล้าแม้แต่นอกใจหรอกนะ” บ่นปากเปียกปากแฉะขณะที่มือยังสาละวนกับกล่องเครื่องสำอาง


    “เขาก็แค่นอกกายเรา ใจเขายังอยู่กับเรานะแบค” เสียงที่ควรตอบอย่างมั่นใจเริ่มสั่นเบาๆ


    “ฉันละเบื่อแกจริงๆ โลกสวยไปแล้วนะแกอะ” ผลักหัวเพื่อนไปเต็มแรง


    “เราเปล่าสักหน่อย”


    “ดูซิเนี่ย หน้าตาแกออกจะสวยขนาดนี้ ฉันบอกให้แต่งเริดๆแรดๆก็ไม่เชื่อกัน ...ทำตัวจืดชืดแบบนี้มันจะไปสนใจอะไร” ว่าพลางเชยคางมนขึ้นมาหมุนซ้ายหมุนขวา


    “เราไม่อยากแรดหรอกแบค”


    “เออรู้! แค่แว่นที่แกใส่ฉันก็เข้าใจแล้ว ...เพราะหัวอ่อนแบบนี้ไง เซฮุนถึงได้ชอบใจแล้วไปหลงระเริงอยู่กับคนอื่นอะ”


    “...”


    “แรงไปสินะ ฉันขอโทษๆๆ”


    รีบหันกลับมาขอโทษทันทีเมื่อมีน้ำคลออยู่ที่เบ้าตาของเพื่อนคนสวย เกือบลืมไปว่าลู่หานนั้นอ่อนไหวมากแค่ไหนกับเรื่องของเซฮุน ลำพังที่มาเล่ามาปรึกษากับเขาก็น่าจะเครียดพอตัวอยู่แล้ว ทำได้แค่กอดปลอบแล้วลูบหัวเพื่อนตัวเองเบาๆ


    “เราเองก็กลัวแบค ...วันหนึ่งใจเขาต้องไม่อยู่กับเรา”


    “บอกแล้วไง ว่าถ้าเทคคอร์สกับฉันแค่แป๊บเดียวแกก็จะเป็นคนใหม่จนโอเซฮุนของแกแทบคลานเข่าเข้ามาหาแน่นอน” เอาทิชชู่มาซับน้ำตาและปัดแป้งปกปิดรอยให้เสร็จสรรพ


    “เราไม่เอาหรอกแบค....”


    “อะไรกันยะ ฟรีเลยนะ ค่าตัวฉันแพงนะเว้ย ...อย่างแกถ้าย้อมผมสีใหม่ จัดทรงใหม่แล้วแต่งหน้าเฉี่ยวๆแบบฉันก็แทบจะกลายร่างเป็นนางพญาได้แล้ว”


    “ไม่หรอก ฉันจะไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร เพราะถ้าเราต้องลำบากทำขนาดนั้น...”

     

    “...”

     

    “มันก็คงไม่ใช่ความรักแล้วล่ะ”

     

     

     

    ------------------------------------------- If you don’t love ------------------------------------------

     


     

    “อืม ...อ๊ะ” เสียงครางหวานของสาวร่างสวยยิ่งฟังยิ่งยั่วยวนอารมณ์เป็นไหนๆ โอเซฮุนผละจูบจากสาวไซส์นางแบบชุดว่ายน้ำ ก่อนจะต้องปล่อยให้เธอขึ้นห้องไปอย่างแสนเสียดายไม่ต่างจากเธอคนนั้น


    “ฉันจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่กันคะ ...เมื่อไหร่ตั๋วพิเศษนั่นจะถูกส่งมา” เธอลูบไล้แผ่นอกกำยำผ่านเชิ้ตสีขาวไปมาพลางซุกอกออดอ้อน


    “เมื่อผมต้องการ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกครั้งแน่นอนครับ”


    “น้ำผึ้งพระจันทร์ของคุณหวานเหลือเกินค่ะเซฮุน ฉันจะเฝ้ารอวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะค่ะ”


    เธอเดินกรีดกรายออกไปจากรถยนต์คันหรูแล้วไม่วายหันมาส่งจูบให้สารถีรูปหล่อดีกรีกัปตันมือหนึ่ง แม้รู้ดีว่าเป็นแค่หนึ่งในสต็อกของเขา แต่ไม่ว่าใครก็ยังคงทะเยอทะยานอยากเป็นที่หนึ่งเสมอ


    เซฮุนถอนหายใจแล้วลบคราบลิปสติกตามตัวออกไปพลางออกรถมุ่งหน้าไปที่คอนโดของตัวเอง จริงอยู่ว่างานนักบินทำให้ห้องเครื่องเสมือนเป็นบ้านของเขา แต่สำหรับที่ที่มีลู่หานแล้ว


    ...เขาถึงจะเรียกมันว่า บ้าน ได้อย่างแท้จริง


     

     

    “กลับมาแล้วครับที่รัก” เสียงทุ้มกระซิบแนบหูบางอย่างอบอุ่นพร้อมกับอ้อมกอดที่ลูกกวางโหยหา ลู่หานยังคงหลับใหลในยามวิกาลทำให้เซฮุนอดแสดงความเอ็นดูด้วยการหอมแก้มนิ่มนั่นไม่ได้ เขาผละออกไปอาบน้ำและแยกเสื้อผ้าใส่ตะกร้า ทิ้งให้คนที่คิดว่าหลับไปแล้วไว้บนเตียง


    ตาหวานลืมขึ้นท่ามกลางความมืดมิดแล้วกอดหมอนแน่นขึ้นไปอีก ...เมื่อกี้ก็ยังมีกลิ่นน้ำหอมกลิ่นใหม่


    คนที่เท่าไหร่กันแล้วนะ?


    สงสัยไปได้ไม่นานก็ต้องแสร้งหลับตาลงเพราะเสียงน้ำจากฝักบัวเงียบไป เตียงยวบอีกหนพร้อมกับร่างแข็งแรงที่ตามติดแนบชิดชนิดที่ว่าแผ่นอกชิดแผ่นหลัง อีกครึ่งชั่วโมงก็จะขึ้นวันใหม่... เซฮุนซบใบหน้าลงกับซอกคอหอมแล้วแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างเอาแต่ใจ


    ลู่หานหัวใจเต้นแรงขึ้นตอนที่ปลายจมูกนั้นเริ่มซุกไซ้ไปมาไม่หยุด ร่างสูงเริ่มขึ้นคร่อมแล้วโน้มใบหน้ามาสูดสมความหอมหวาน ลมหายใจร้อนผ่าวแตะแต้มทั่วใบหน้าหวานจนต้องร้องประท้วงออกมาเบาๆ


    “ฮื่อ...”


    “ว้า กวางน้อยตื่นซะแล้ว อดลักหลับเลย” ทำหน้าแสนเสียดายทั้งที่ในใจยังคงลิงโลด จนบางทีลู่หานก็อยากถาม ว่าที่ไปกกไปกินมาสามวันนั่นยังอิ่มไม่พอรึอย่างไร


    “กลับมาแล้วเหรอ” แต่เพราะนิสัยอย่างนี้ ถึงได้ไม่ยอมปริปากบอกออกไปสักที


    “อื้อ เลิกงานปุ๊บก็ตรงมาที่นี่เลยรู้ไหมครับ” หอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่ แล้วจ้องแก้วตาใสที่ลืมขึ้นมาเต็มตา


    “เราคิดถึง...อ๊ะ”  ริมฝีปากบางถูกฉกชิงความหวานอย่างตะกละตะกลามเมื่อมันถูกครอบครองจากอีกฝ่าย เซฮุนดูดดึงกลีบปากล่างของลู่หานเพื่อให้เจ้าตัวเล็กของเขายอมเปิดทางให้เข้าไปลิ้มรสร้อนภายใน จริงอยู่ว่าเซฮุนเคยจูบกับสาวสวยมามากมาย ...แต่ยังคงไม่มีใครหวานได้เท่าคนนี้อยู่ดี


    จากจูบอ่อนหวานเพราะความคิดถึง เริ่มกลายเป็นเร่าร้อนเมื่อสองลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดพันกันไม่ยอมใคร มือเรียวส่งไปนวดท้ายทอยของเซฮุนเบาๆ ก่อนที่เชิ้ตตัวเดียวที่ใช้ใส่นอนจะหลุดไปกองลงกับพื้นข้างเตียง เพียงไม่นานก็เหลือเพียงสองร่างกายเปลือยเปล่าที่กอดกันแนบแน่นชนิดเนื้อห่มเนื้อ


    มันไม่ใช่เซ็กส์ร้อนแรง ทว่าเป็นเมคเลิฟที่หวานที่สุดในโลก เสียงหวานร้องครางอย่างสุขสมเมื่อตัวตนอีกฝ่ายแทรกซึมเข้ามา กลายเป็นหนึ่งเป็นเดียวกัน อีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้งจวบจนรุ่งสาง จนเสียงเจ้านกน้อยดังแว่วมา ร่างบางก็สลบเหมือดคาอก


    ลู่หานไม่ได้มีมารยาร้อยเล่มเกวียน ไม่ได้มีทีท่าลีลาเด็ดอะไร ..แม้จะรักกันมาเสียหลายครั้ง ร่างเล็กของเขาก็ยังคงไร้เดียงสาและน่าทะนุถนอมเสมอ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เขายังคงอยู่ตรงนี้ก็ได้


    และร่างเล็กเองก็เช่นกัน ...ถ้าไม่ใช่เพราะรัก ลู่หานคงเดินจากไปแล้วอย่างไม่ลังเล เขายังเชื่อว่าเราจะยังคงเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขอแค่ยังคงเป็นที่หนึ่ง

     

    ...ลู่หานยอมเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียว

    แต่ใครจะรู้เล่าว่าเมื่อมีของเล่นชิ้นใหม่ที่น่าสนใจกว่าเอามากๆ

    ต่อให้เราจะอยากเก็บเงินในกระเป๋าไว้แค่ไหน สุดท้ายก็ต้องปล่อยมันออกไปแล้วซื้อของชิ้นนั้นมาเล่นอยู่ดี

     


     

     

    ------------------------------------------- If you don’t love ------------------------------------------

     

     

     

    ลู่หานพบว่าชีวิตคู่ของเขากับเซฮุนอาจกำลังสั่นคลอน  ความจริงมันก็ไม่ได้ดีมาตั้งนานแล้วแหละ ตั้งแต่ที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายนอกกายกันตลอด ...แต่ในตอนนี้ร่างเล็กชักไม่มั่นใจเสียแล้ว เพราะมันเหมือนกับว่าเซฮุนกำลังนอกใจ


    ช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่างสูงไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนเดิม ทั้งจากกลิ่นน้ำหอมและพฤติกรรมการเที่ยวข้างนอกถี่มากขึ้นในวันหยุด ทั้งที่ควรใช้เวลาอยู่ด้วยกันแท้ๆ แต่เซฮุนกลับอ้างว่าต้องเข้าบริษัทแม้จะเป็นช่วงพักของตน ...โกหกเขาซึ่งๆหน้าแล้วออกไปดูหนัง กินข้าว คล้ายๆออกเดทกับหญิงสาวยุโรปหุ่นนางแบบคนนั้น


    คนเราย่อมมีความอดทนเป็นธรรมดา สำหรับลู่หานแล้วถือว่าเขาทนเป็นอย่างมาก ทว่า...ความอดทนของคนเราย่อมมีขีดจำกัดเสมอ แต่คนอายุมากกว่ายังคงพยายามใจเย็นด้วยการเอาใจเซฮุนเสียบ้างเช่นเย็นวันนี้  เพื่อไม่ให้ชีวิตรักของเรามันจืดจางจนเกินไป


    ...น่ากลัวว่าต่อไป อาจจะจางลงจนแทบมองไม่เห็นเลยก็เป็นได้


     

                “เซฮุนนา ออกมาทานข้าวด้วยกันสิ วันนี้มีแต่ของโปรดทั้งนั้นเลยนะ” ลู่หานเดินเข้ามาในห้องนอน เห็นร่างสูงกำลังส่งยิ้มมาให้พลางติดกระดุมเสื้อเชิ้ตราวกับว่าจะออกไปข้างนอก


                “ว้า...น่าเสียดายจัง จงอินมันนัดผมวันนี้น่ะลู่ เทาเองก็มาด้วยกัน” หันมาตอบพลางลูบแก้มนิ่มอย่างทะนุถนอม


                “แต่ว่า เซฮุนไม่อยู่ทานข้าวกับเรามาหลายวันแล้วนะ” จับมือหนาไว้แล้วมองเป็นเชิงตัดพ้อ “ทานกับเราหน่อยไม่ได้เหรอ แค่มื้อนี้มื้อเดียวก็ได้นี่นา เลื่อนนัดกับจงอินเถอะ นะๆ”


                “โธ่ ที่รักก็รู้ว่ามันไม่ได้มีเวรตรงกับฮุนแบบเทา โอกาสเจอกันน้อยมากๆเลยนี่นา” ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมลูกกวางน้อยต่อไป เซฮุนเข้าใจว่าลู่หานเป็นคนหัวอ่อน พูดนิดพูดหน่อยหลอกไปนิดเดียวเดี๋ยวอีกฝ่ายก็เชื่อ


    แต่ครั้งนี้ดูจะไม่ง่ายเช่นนั้นเมื่อเจ้าตัวเกิดพยศขึ้นมา


     

                “ทำไมกันล่ะเซฮุน! อย่างน้อยทานข้าวกับเราก่อนแล้วค่อยออกไปก็ได้นี่นา ยังไงไปกับเพื่อนก็ดื่มแค่เหล้าอยู่แล้ว” ลู่หานสะบัดหน้าหนีหลุดออกจากการกอบกุมของร่างตรงหน้า


                “ข้าวเมื่อไหร่ก็ทานได้น่า ฮุนไม่อยากให้เพื่อนรอนาน ลู่ก็รู้ว่ามันเสียมารยาท”


                “เพราะเซฮุนจะไปหาสาวยุโรปคนนั้นใช่ไหมล่ะ!” ขึ้นเสียงใส่จนเซฮุนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และไม่ได้หัวใจเต้นรัวเพราะเสียงนั่นอย่างเดียว แต่เพราะความผิดติดตัวเรื่องหญิงสาวที่เขาพัวพันอยู่ด้วย


                “ไปกันใหญ่แล้วลู่ แค่ไม่กินข้าวด้วยต้องใส่ร้ายกันขนาดนี้เลยรึไง... อย่าทำตัวงี่เง่านักจะได้ไหม” แม้จะไม่ได้สาดอารมณ์ใส่รุนแรงแบบที่ลู่หานทำ แต่คำพูดผ่านท่าทีเฉยชาแบบนั้นกลับทำให้เจ็บมากยิ่งกว่าโดนตบหน้าให้ชาเสียอีก


                “เราขอโทษเองที่เรางี่เง่า...” ก้มหน้าก้มตาซ่อนความอ่อนแอของตัวเองไว้เต็มที่ “งั้นเดี๋ยวเราเก็บกับข้าวไว้ อุ่นกินวันพรุ่งนี้นะ”


                “เอางั้นก็ได้ ...แต่ถ้าเมามาก ฮุนอาจจะกลับตอนเช้านะ คงไปค้างบ้านเทาเพราะจงอินมันมีบินสายๆ” ลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลราวกับเอ็นดูก่อนรีบคว้าแจ็กเก็ตเดินออกไปทันที ...จะไม่ให้รีบได้ยังไงในเมื่อแม่สาวคนสวยนั่นไลน์มาบ่นยิกๆว่ารอเขานานเกินไปแล้ว


                “ฮึก...ฮืออออ” และเมื่อบานประตูปิดแนบสนิท คนที่ทำใจกล้าต่อล้อต่อเถียงกับพ่อหนุ่มนักบินเมื่อครู่ก็ทรุดลงร้องไห้กับพื้นอย่างหมดสภาพ ลู่หานจะไปสู้ใครเขาได้ล่ะ...แค่ขอให้อยู่ด้วยยังทำไม่ได้เลย


               

     

    ร่างเล็กใช้เวลานานเกือบชั่วโมงเพื่อจัดการกับน้ำตาของตัวเอง เดินเข้าห้องครัวไปเก็บอาหารที่ตั้งใจทำเต็มที่ไว้ในตู้เย็น เพราะรู้ดีว่ายังไงเช้าวันพรุ่งนี้เซฮุนคงไม่กลับมา ...คงกกผู้หญิงคนนั้นจนอิ่มเอมใจ


                ลู่หานคว้าเสื้อผ้าสองสามชุดใส่กระเป๋า ล็อกห้องแน่นหนาก่อนออกเดินทางไปยังบ้านของเพื่อนรักที่เธอไว้ใจที่สุด บางทีการหายหน้าไปอาจจะทำให้เซฮุนสำนึกได้และเพื่อนของเขาคงปลอบใจ รวมถึงให้คำแนะนำได้มากโข ดีกว่านั่งฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวในห้องให้จิตใจหดหู่ยิ่งกว่าเก่า


    .

    .

    .

                “แกไปยอมมันทำไมฮะ! ทำไมไม่เถียงกลับ ด่ากลับแล้วเอาหลักฐานที่แกบินตามมันตอนเที่ยวบินล่าสุดให้ดูซะล่ะ หึย... ถ้าเป็นฉันนะคงถีบยอดหน้ามันตั้งแต่เห็น” แบคฮยอนพูดแบบมีอินเนอร์สุดฤทธิ์ก่อนจะผลักหัวเพื่อนตัวเองที่โง่เง่า ไม่เด็ดขาด ทำตัวราวกับนางเอกละครหลังข่าว


                “เราไม่ทำหรอกแบคเพราะแค่นี้เขายังเหนื่อยใจกับเราเลย” นิ้วเล็กกำหมอนที่กอดอยู่แน่นจนแทบฉีกขาด “เราหายไปสองสามวันเดี๋ยวเซฮุนก็ต้องรู้สึกเองแหละ”


                “ฉันว่ามันยิ่งหลงระเริงกับแม่สาวอกสะบึ้มนั่นมากกว่าน่ะสิ แกจะทนทำไมวะลู่ เลิกๆกันไปเลยสิ ฉันเบื่อที่จะเห็นแกร้องไห้แล้ววิ่งมาให้ฉันปลอบทุกทีๆแล้วนะ”


                “...” ขนาดแบคฮยอนยังเบื่อเขาที่แสนจืดชืดสินะ


                “ไม่ใช่ว่าฉันรำคาญแกนะ แต่เป็นเพื่อนมันก็มีแต่ความหวังดีให้ป่ะวะ ...มันไม่สำนึกหรอกรู้ไว้ซะ อย่าถลำลึกไปมากกว่านี้เลย แค่นี้แกก็เจ็บมากพอแล้ว” สองหนุ่มร่างเล็กกอดปลอบกันแน่นเมื่อคนมีปัญหาความรักปล่อยน้ำตาออกมาอีกระลอกใหญ่


                “ฮึก ..เราตัดสินใจ ..ฮือ..แล้วแหละ”


                “...”


                “พะ...พรุ่งนี้ ฮึก ...คงถึงจุดจบของรักเรา ...สักที”


                ความอดทนเส้นสุดท้ายของลู่หานกำลังขาดลงแล้วจริงๆ ...อย่างนั้นสินะ?


     

     

     

    ------------------------------------------- If you don’t love ------------------------------------------

     


     

                ประตูห้องถูกเสียบคีย์การ์ดก่อนจะเปิดออก สองร่างรัดพันกันแนบแน่นตามแรงอารมณ์และความมึนเมาจากสุรา แล้วเตียงที่เคยใช้หนุนนอนกับคนที่เคยพร่ำบอกว่ารัก... ก็กลายเป็นสมรภูมิรักร่วมกับหญิงสาวคนใหม่ที่ตนกำลังคลั่งไคล้อย่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี


                กิจกรรมเสียเหงื่อนั่นดำเนินมาจนเข้าสู่วันใหม่ สองร่างหลับใหลไม่รู้เรื่องราวด้วยสภาพเปลือยเปล่า เสื้อผ้าแต่ละชิ้นซึ่งกระจัดกระจายตามจุดต่างๆของห้องบ่งบอกได้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันร้อนแรงขนาดไหน


    บางทีคงร้อน ...จนแทบเผาจิตใจคนที่มองมันให้สลายเป็นเถ้าธุลี


     

                ลู่หานพาร่างอันสั่นเทาเดินเข้ามาในห้องนอนอย่างยากลำบาก มันยากหากต้องพยายามนำพาสายตาตัวเองหลีกหนีจากภาพบาดตาเหล่านั้น มือเล็กสั่นระริกยกขึ้นปิดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นกลั้นเสียงสะอื้น กระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่ไม่เล็กถูกดึงออกจากตู้เสื้อผ้าอย่างเงียบเชียบ เขาพับเสื้อผ้าตนเองลงกระเป๋าและเก็บทุกอย่างที่เป็นความทรงจำของเราอย่างไร้เสียง


                เขาควรรีบออกไปจากที่นี่ เพราะคงทนไม่ไหวหากต้องเผชิญหน้ากัน


                ทว่าพระเจ้ากลับจงใจกลั่นแกล้ง เนื่องจากจังหวะที่ลู่หานเดินไปหยิบกรอบรูปที่หัวเตียงนั้น สายตาคมกริบที่เคยคิดว่ามันอบอุ่นก็ลืมขึ้นมาสบตากันพอดิบพอดี คนแฮงก์ยังคงมึนหัวและเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ถูก แต่เมื่อมองไปรอบๆห้องถึงได้เข้าใจและสะดุ้งสุดตัว


                “ลู่คือฉัน ...ขอโทษ” คว้ามือนุ่มไว้ก่อนรั้งไม่ให้ร่างเล็กไปไหนด้วยสองมือหนา แต่แทนที่ลู่หานจะดีใจที่อีกคนขอให้อยู่กลับไม่สามารถทำแบบนั้นได้เมื่อเห็นว่าบนนิ้วนางข้างซ้ายของเซฮุนไม่ได้สวมแหวนแทนใจกันและกันเสียแล้ว


                “เก็บคำขอโทษของนายไว้เถอะเซฮุน นายทำกับฉันมามากเกินไปแล้ว ...นายนอกกายฉันทุกครั้งที่มีตารางบิน พาผู้หญิงไปไม่ซ้ำหน้าฉันไม่เคยว่าเลย ตราบใดที่เธอพวกนั้นแค่ผ่านมาแล้วผ่านไป ตราบใดที่ฉันยังเป็นที่หนึ่งเสมอ ตราบใดที่มันยังมีที่ของเรา”


                “...”


                “แต่วันนี้...นายพาคนอื่นมานอนที่นี่ นายถอดแหวนนั่นออกอย่างไม่ใยดีเพราะผู้หญิงคนนี้ นายไปกับเธอมาถึงสามสี่ครั้งทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะเซฮุน ไหนจะช่วงพักของนายนี่อีกล่ะ ที่อ้างว่าไปทำงานไปหาเพื่อนแต่กลับมากกกับยัยสกปรกคนนี้...”


                “...”


                “นายไม่คิดว่าคำขอโทษมันน้อยไปรึไงเซฮุน”


                “นาย...รู้มาตลอดงั้นเหรอ” เสียงของร่างสูงคล้ายคนกำลังละเมอ ถึงจะพูดคุยกันอยู่ก็จริง ทว่าแต่ละถ้อยคำมันช่างบางเบาคล้ายคนหมดแรง จึงไม่น่าสงสัยว่าทำไมหญิงสาวซึ่งนอนทอดกายข้างเคียงถึงยังหลับได้ลง


                “หึ! ฉันคงดูใสซื่อและหัวอ่อน ว่าง่าย ใช่ไหมล่ะเซฮุน” ลู่หานแกะมือตัวเองออกจากการเกาะกุมแต่ยังคงไม่เป็นผล


                “ไม่ ลู่ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้นจริงๆนะ” แววตาตื่นตระหนกเริ่มฉายชัดในตาคม


                “มันหมดเวลาสำหรับคนแบบนั้นแล้วแหละเซฮุน”


                “ขอร้อง ...อย่า”


     

                “เราสองคนน่ะ ...เลิกกันเถอะนะ โอเซฮุน”


     

                จบสิ้นคำนั้น มือหนาก็ถูกทิ้งลงข้างตัวอย่างหมดเรี่ยวแรง เขาเหมือนคนน้ำท่วมปาก อยากพูดอะไรออกไปร้อยพันซึ่งคงไม่ต่างจากคำแก้ตัวแต่ลิ้นกลับแข็งจนพูดไม่ออก ชายหนุ่มเอาแต่นั่งนิ่งอึ้งมองคนรักลากกระเป๋าเดินจากไป กว่าจะคิดได้ว่าต้องคว้าตัวอีกคนเอาไว้ร่างทั้งร่างก็โดนคู่นอนดึงรั้งไว้กอดเสียแล้ว


                “อื้อ เมื่อกี้คุยอะไรเหรอคะเสียงดังจัง เซียยังง่วงอยู่เลย”


                สาบานได้... คำพูดเหล่านั้นไม่เข้าสู่ประสาทการรับรู้ของเซฮุนแม้แต่น้อย


                เพราะคำพูดที่วนเวียนในหัวเขาซ้ำไปซ้ำมา ก็มีแค่คำที่ลู่หานเพิ่งพูดออกมานั่นแหละ


     

                “เราสองคนน่ะ ...เลิกกันเถอะนะ โอเซฮุน”

     

     


     

    ------------------------------------------- If you don’t love ------------------------------------------

     


     

     

                หลังจากส่งสาวเจ้าไปทำงานที่กองถ่ายแล้ว เซฮุนก็รีบวนรถมาที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ได้เยี่ยมเยือนมานานพอสมควร เพราะมันคือบ้านที่เกาหลีของลู่หาน แฟนของเขาเคยอาศัยอยู่ที่นี่กับป้าของตนมาก่อนและตอนนี้ชายหนุ่มไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าป้าของลู่หานจะอยู่ในบ้านหรือเปล่า 


    เมื่อบ่ายตอนแต่งตัวเขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของร่างเล็กหายไปมากกว่าครึ่ง รวมถึงกระเป๋าเดินทางใบเก่งที่ลู่หานชอบนำไปใช้เดินทางทุกครั้งก็หายไปด้วย


                ลู่หานหนีออกจากห้องของเรา ....


                ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้มันไม่ใช่ห้องของเราอีกต่อไป

     

                ร่างสูงดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถ เดินวนรอบรถอยู่หลายหนเพราะไม่แน่ใจเลยว่าคนที่เขามาตามหาจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรพูดอะไรออกไปดี เซฮุนไม่ได้เตรียมตัวเลยด้วยซ้ำเนื่องจากแค่มาตามใจนึกเท่านั้น


                กริ๊ง!


                แค่เสียงออดหน้าบ้านก็แทบจะทำให้ตกใจจนไม่เป็นอันทำงานทำการแล้ว ทว่าเมื่อไร้วี่แววเจ้าของบ้าน เขาจึงรัวจังหวะมือลงไปเสียหลายครั้ง


                กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!


                “รอสักครู่นะครับ” เสียงตะโกนคุ้นหูดังออกมาให้ได้ยิน เซฮุนพยายามแนบตัวลงข้างเสาบ้านสุดชีวิตเพราะกลัวว่าถ้าลู่หานเห็นหน้าละก็ คงไม่พ้นเดินหนีเข้าบ้านแล้วไล่ตะเพิดเขาเป็นแน่แท้


                สายตาคมมองเห็นร่างเล็กวิ่งเตาะแตะมาไขกุญแจประตู ก่อนที่ประตูเล็กจะเปิดออกเพราะว่าตนไม่เห็นใครยืนตามแนวรั้วสักคน


                “อะไรกัน เด็กแถวนี้ยังมากดออดเล่นกันอยู่อีกเหรอ” เสียงหวานบ่นอุบอิบเบาๆ และในจังหวะที่หันหลังเตรียมเข้าบ้านนั่นเอง


                หมับ...


                “เฮ้ย”


                “ขอโทษ...” เป็นเซฮุนเองที่เอ่ยออกไปหลังพุ่งไปกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังเสียเต็มรัก ลู่หานกำลังพยายามขัดขืนเขาอยู่แต่ยังคงสู้แรงไม่ไหวเช่นเคย


                “ปล่อยเรา ขอโทษทำไม ในเมื่อฉันกับนายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน” น้ำเสียงตอบยังเย็นชาจนน่าใจหาย แต่เขาหาได้ยอมแพ้...สองแขนรักเอวบางจนมันแทบจะหัก


                “ไม่เลิกหรอกนะ ฉันไม่ยอมเลิกกับนายแน่ๆ”


                “อะไรกัน ...มาบอกฉันเสียตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยหรือยังไงโอเซฮุน” ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามเย็นที่กลายเป็นสีม่วงคราม พยายามเหลือเกินที่จะห้ามน้ำตาซึ่งเอ่อคลอเอาไว้ให้มันไหลเพื่อผู้ชายคนนี้อีก


                “มันไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับคำว่ารักหรอก ลู่หาน”


                “รัก...อย่างนั้นเหรอ” คำนั้นแผ่วเบาคล้ายละเมอ ก่อนเสียงหัวเราะราวกับต้องการเย้ยหยันจะดังออกมาจากปากกระจับคู่นั้น


                “...”


    “นายยังมีหน้ามาพูดว่ารักฉันทั้งๆที่ทำกับฉันขนาดนั้นได้ยังไงกัน เซฮุน!” สองมือเรียวทุบตีคนที่โอบกอดตัวเองเอาไว้เหมือนกำลังคลุ้มคลั่ง ร่างสูงปล่อยกายอีกคนออกทันทีแล้วยอมให้ลู่หานทุบตีเขาจนพอใจ เพราะกลัวว่าลูกกวางตัวนี้จะบอบช้ำหากเขายังดื้อดึงกอดไว้แนบอก เนื่องจากอีกคนคงเผลอทุบโดนตัวเองไปบ้าง


    “ตอบมาสิว่าทำได้ยังไง!


    “นายทำร้ายฉันขนาดนั้นได้ยังไงกัน ...ฮือ”


    คนตัวเล็กเกือบทรุดลงกับพื้นหากไม่มีมือใหญ่ประคองกอดไว้ ลู่หานไม่ขัดขืนแต่ก็ไม่ไดตอบรับสัมผัสเขาเช่นกัน พวกเขาไม่ได้สนใจสักนิดว่ากำลังทะเลาะกันอยู่หน้าบ้านซึ่งอาจมีคนเห็นได้ทุกเมื่อ และน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าหวานกัดกร่อนหัวใจของเซฮุนได้อย่างไม่ยากเย็น


    “ทำไมล่ะ ...เพราะฉันไม่สวย ฮึก ไม่ดีเท่าเขาใช่ไหม”


    “ไม่มีใครดีเท่านายหรอก ฉันรักนายจริงๆนะ สาบานตรงนี้เลยก็ได้” นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาบนดวงหน้าหวานอ่อนโยนเท่าที่จะทำได้


    “นายไม่ได้รักฉันหรอกเซฮุน นายมันก็แค่หวงก้างเท่านั้นแหละ ฮึก... เราคงอยู่กันมานานจนเคยชิน และนายก็เบื่อฉันไปเอง”


    “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า...”


    “อย่าโกหกตัวเองเลย ช็อกโกแลตแสนหวาน ทิ้งไว้นานวันเข้ามันก็ขมปร่าไปเองนั่นแหละ ...เราสองคนก็คงไม่ต่างกับมันนักหรอก”


    “...”


    “นายมาหาฉันถึงที่นี่ กล้ามาบอกว่าจะไม่เลิกกันขนาดนี้” ดวงตาฉ่ำวาวไปด้วยน้ำเงยหน้ามองอีกฝ่ายแน่นิ่ง “ถามจริงๆเถอะ ...นายเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นแล้วหรือยัง”


    “เรื่องนั้นมัน ...ฉัน”


    เซฮุนไม่กล้าตอบไปตามตรง แต่ก็ไม่อยากจะโกหกซ้ำไปซ้ำมาเพราะเขายังตัดขาดจากลิตเซีย คู่ควงคนปัจจุบันของเขาไม่ได้สักที


    “เรื่องแค่นี้นายยังทำไม่ได้เลย ฉันอยากรู้จังเลย ว่าต้องหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนถึงกล้าบากหน้ามาขอคืนดีกับฉัน”


                “ฉันแค่อยากขอโอกาส ให้โทรไปบอกเลิกเธอเดี๋ยวนี้เลยยังได้”


                “อย่ามาทำตัวมักง่ายแถวนี้ ..มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเถอะ”


                “ขอร้องล่ะลู่หาน ให้ฉันทำอะไรก็ได้ นะๆ” นักบินหนุ่มที่ดูสง่าผ่าเผนกลับคุกเข่าลงพื้นหมดท่า กอดสองขาของอดีตคนรักไว้แนบแน่นพลางเงยหน้าขอความเห็นใจ


                “ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นน่ะเหรอ”


                “ใช่ ฉันยอมนายทุกอย่างเลยแค่เราไม่เลิกกัน”


                “....” ลู่หานนิ่งอึ้งไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความชื้นที่หน้าขาซึ่งอีกคนซุกซบใบหน้าอยู่


                “ขอร้องล่ะนะ”


                ร่างเล็กไม่เข้าใจเหตุผลเลยด้วยซ้ำว่าอีกคนจะรั้งเขาไว้ให้ทรมานไปทำไมทั้งที่ไม่รักกัน ...ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากลับไปแล้วจะรักกันได้เหมือนเดิม


     

                “ถ้ายอมทุกอย่างจริงๆ ก็ช่วยออกไปจากชีวิตฉันสักที”

     

                น้ำเสียงนั้นนิ่งสงบ... ทุกอย่างเงียบงันคล้ายคร่าชีวิตคนคนหนึ่งได้


                เซฮุนกอดขาคนที่เขาเคยรักก่อนร้องไห้อย่างไม่รู้จักอาย เพราะเขารู้ดีว่าต่อไปนี้คงจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว                    

    .

    .

    .


                เขาจะยอมให้มันจบอย่างนี้หรือ?


                ร่างสูงทุ่มถามตัวเองซ้ำๆตลอดทั้งวัน จริงที่ว่าแม้ตอนนี้ลู่หานจะไม่อยู่แล้ว แต่เซฮุนเองก็ไม่ได้เดียวดายอะไร แถมสาวๆยังเข้าหาเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำหลังจากทราบว่าเขาไม่มีชนักติดหลังอีกต่อไป ...เขาไม่ได้เป็นคนประกาศเองหรอก สาวคู่นอนคนนั้นแหละคาดคั้นและให้เขาบอกและไปบอกคนอื่นเสียทั่วไปหมดว่าเจ้าหล่อนจะได้เป็นแฟนของเขาตัวจริงเสียงจริง


                เซฮุนชอบสาวยุโรปคนนี้มากกว่าใครเรื่องนั้นต้องยอมรับโดยดุษฎี ทว่าการที่ลู่หานบอกเลิกนั้นออกจะอยู่นอกความคาดคิดไปเสียหน่อย ...


                ไม่หน่อยสิ เยอะมากเลยต่างหาก


    เลือกไม่ถูกเลยว่าควรหน้าด้านไปง้อต่อหรือให้อิสระกับนกน้อยในกรงทองของเขาดี


                ไม่ใช่ไม่ละอายต่อความผิดตัวเอง การปล่อยลู่หานไปอาจส่งผลดีต่ออีกคนก็ได้ที่ไม่ต้องทนเจ็บปวดกับสันดานผู้ชายเลวๆอย่างเขาซึ่งมักมากไม่รู้จักพอ ทั้งที่คนตัวเล็กยอมเขามากขนาดนั้นแท้ๆ ...ทำไมเขาถึงกล้าทำร้ายจิตใจอันแสนดีนั้นได้ลงคอกันนะ


                เพียงแต่การยอมรับว่าจะไม่มีอีกคนอยู่ข้างกายต่อไปแล้วก็ยากเกินจะทำ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เขาเอาคำพูดของอีกคนมาคิด ...เซฮุนไม่แน่ใจหรอกว่าที่เขาอยู่กับลู่หานนั้นเป็นเพราะความรักอันมากมายท่วมท้นเช่นแรกเจอเหมือนรสหวานของช็อกโกแลต หรือเพียงแค่ความเคยชินของคนที่อยู่อาศัยด้วยกันจนรสชาติมันขมขื่น


                เขาภาวนาขอให้เป็นเพียงความเคยชินและผูกพันเท่านั้น ...จะได้กล้าปล่อยลู่หานไปเสียที


     

                เซฮุนเลือกคำตอบออกมาในรูปแบบนั้น

     

    ลู่หานและโอเซฮุน คงเป็นได้เพียงแค่ความทรงจำ

     

     

     




     #ifyouhh

    ลู่หานฝากบอกว่า อยากจบแฮปปี้ ให้แท็กและคอมเมนต์ด้วย จะยอมใจอ่อนงับ






    100% - NEVER ENDING


    แก้คำผิดงับบบบบ - 09/12/58

    ในที่สุดเราก็ได้มาต่อแล้ว T^T ยังคงเป็นการแต่งที่รีบมากเช่นเคย ถ้ามีโอกาสเราจะรีไรท์แน่นอนค่ะ

    เรื่องสีตัวอักษรถ้าอ่านในเว็บมันจะสลับไปสลับมา เราขอโทษนะคะ ไว้อัพครบเมื่อไหร่จะแก้นะคะ

    เป็นฟิคที่แต่งขึ้นมาจากอารมณ์ชั่ววูบขณะอาบน้ำค่ะ ต้องการความดราม่าดูบ้าง

    แล้วอยากแบบว่า คิดแล้วแต่งเลย (อยากให้ลองอ่านกันนะ)




    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×