ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inter high สาวคลั่งวาย(Y)กับนายหน้าหวาน

    ลำดับตอนที่ #2 : inter high......ผู้ชายในจินตนาการ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 767
      6
      30 มี.ค. 54

     

              ตอนที่1 ผู้ชายในจินตนาการ

              ฉันกริ๊ดแทบสลบตอนที่ได้รับโทรศัพท์

              จริงเหรอพี่ซู! พี่ซูไม่ได้โกหกใช่มั้ย! นิยายของนาจะได้ทำเป็นภาพยนตร์จริงๆเหรอ!”

              จริงย่ะ

                กรี๊ดดดดดด

              ต๊ายคุณน้องนานา กริ๊ดกร๊าดไม่สมเป็นกุลสตรีเลยนะคะ

              ฮ่าๆๆ ก็มันดีใจนี่คะ 

    นาทีนี้ฉันไม่สนสายตาคนรอบข้างที่กำลังมองมาอย่างตำหนิ  การที่ผู้หญิงในชุดนักศึกษาอย่างฉันมายืนกรี๊ดกร๊าดใส่โทรศัพท์ในมหาลัยอย่างนี้ ไม่ว่าใครก็คงมองอย่างตำหนิทั้งนั้น แต่จะทำยังไงได้ ก็มันดีใจนี่นา ความฝันของฉันเป็นจริงทั้งสองเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งที่นิยายออนไลน์ได้ตีพิมพ์ แล้วจู่ๆก็กำลังจะได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อีก เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดได้ง่ายๆสำหรับพวกกิ๊กก๊อกอย่างฉัน

    และแน่นอน สำหรับนิยายประเภทฉันด้วย

    ขอบคุณน้าพี่ซู

    ไม่ต้องซาบซึ้งมากมายหรอกคะคุณน้อง คุณพี่ก็แค่เห็นว่านิยายคุณน้องน่าสนใจก็เลยเสนอเจ้านายดู และเผอิญว่าเจ้านายพี่กำลังคิดจะทำหนังที่มันสวนกระแสดูบ้าง  แต่ที่จริงกระแสนี้มันก็มาแรงอยู่นะ เท่าที่พี่สำรวจดูเพียงแต่ไม่ค่อยมีใครกล้าหยิบมาทำเป็นหนัง เพราะทำแล้วมันขายได้แค่คนบางกลุ่ม แต่สำหรับนิยายของคุณน้อง พี่คิดว่ามันตีตลาดวัยรุ่นได้ด้วย เนื้อหาก็ไม่หนักจนคาวโลกีย์มากเกินไป  แล้วก็อีกอย่าง ขอให้เชื่อว่านิยายเรื่องนี้ได้ทำหนังเพราะฝีมือเธอจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าเธอมีพี่ซูซี่คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้อง โอเคมั้ยย่ะ

    ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย

    เธอมันคนคิดมาก ทำไมฉันจะไม่รู้นิสัยละยะ

    ฮ่าๆๆๆ จะยังไงก็เถอะ...ขอบคุณนะคะพี่ซู

    คุณน้องนี่สอนไม่จำ บอกให้เรียกคุณพี่ว่าไงค่ะ  ซูซี่ยะ ไม่ใช่ซู โอเคมั้ยค่ะ 

    ฉันก็เรียกแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนี่

    ฝึกสิคะคุณน้อง ฝึกเรียกซะใหม่ให้คล่องปาก ซู -ซี่

    ก็ได้ๆ  ซูซึ่ก็ซูซี่

    ค่า อย่างนั้นแหละดี  อ่อ บอกข่าวดีไปแล้ว ทีนี้มาที่ข่าวร้ายบ้าง

    ข่าวร้าย เรื่องอะไรอ่ะ 

    หนังเรื่องนี้จะเปิดกล้องหรือดำเนินการอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ตัวเอกของเรื่อง แล้วก็ทางเจ้านายพี่ คุณผู้กำกับมือทองคนนี้ก็ให้โจทย์มาว่า คุณน้องนานาผู้เป็นเจ้าของงานเขียน จะต้องหาตัวละครเอก ชายผู้ที่จะเดินเรื่องนี้มาด้วยตัวเอง

    ห๊ะ  แต่ว่าแบบนั้นต้องแคสติ้งหานักแสดงเอาไม่ใช่เหรอ แล้วหน้าที่ของฉันก็...

    หน้าที่ขอองคุณน้องนานาคือต้องจัดการแคสติ้งหาตัวละครเอกที่อยู่ในอิมเมจิ้นของคุณน้องด้วยตัวเองไงคะ

    “…”

    ฉันอึ้ง เพราะพูดอะไรไม่ออก หน้าที่ของฉันคือสร้างสรรค์จินตนาการเป็นตัวหนังสือ แต่พี่ซูกำลังบอกให้ฉันหานักแสดงเองเนี่ยนะ  แล้วถ้าฉันหาไม่ได้ หรือหาได้ไม่ดีไม่ตรงกับคาแรคเตอร์ตัวละครละ

    แล้ว  แล้วถ้าฉันหาไม่ได้ละ

    ก็จะมีข่าวร้ายเพิ่มอีกข้อ นั่นคือนิยายของคุณน้องก็จะยังเป็นแค่นิยายต่อไป

    “…”

    คิดให้ดีๆนะคะ คุณน้องนานา โอกาสอย่างนี้ไม่ได้วิ่งเข้าหาทุกคน เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้หลุดลอยไปละ อ่อ อีกอย่าง ผู้กำกับต้องการทราบผลภายในหนึ่งเดือนนับจากวินาทีนี้คุณน้องควรจะรีบเร่งตามหาพ่อหนุ่มในจินตนาการให้เจอ ก่อนที่โครงการนี้จะถูกพับไปนะจ๊ะ

    “…”

    โทรศัพท์ถูกตัดสายไปแล้ว แต่ฉันยังแนบมือถือไว้ข้างหู

    ภายในหนึ่งเดือน ต้องหาผู้ชายในจินตนาการให้เจอ...

    อ๊ากกกกก บ้าเอ๊ย!  แล้วฉันจะไปหาคนแบบนั้นได้ที่ไหนย้า!  ผู้หญิงที่วันๆนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอม เวลาว่างก็จะขลุกอยู่กับกองหนังสือและฟิควายอย่างฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปทำความรู้จักกับผู้คน จริงอยู่ที่ฉันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย แต่ฉันมันพวกโลกส่วนตัวสูงจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เพื่อนสนิทชิดเชื้อก็ไม่มี รุ่นพี่ก็ไม่รัก ซ้ำกิจกรรมก็ไม่เอาไหน ยิ่งกีฬายิ่งแล้วใหญ่ ฉันมันไม่เอาอ่าวกับอะไรทั้งสิ้น ดังนั้น ไอ้หนทางที่จะทำให้ฉันสนิทสนมคุ้ยเคยกับคนอื่นๆจนถึงขั้นขอร้องให้มาช่วยค้นหาพระเอกอะไรนั่นน่ะ ยากยิ่งกว่าเข็นครกลงอเวจีอีกนะยะ!

    ฮึ อย่าว่าแต่คนรู้จักในมหาลัยอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้เลย แม้แต่คนที่จะเข้ามาทักหรือพูดคุยกับฉันยังแทบไม่มี เท่าที่รู้ฉันก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ทำไมถึงไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมก็ไม่รู้

    ผลก็คือ ฉันมันแสนโดดเดี่ยวเดียวดาย สิ่งเดียวที่จะเป็นเพื่อนกับฉันได้ก็คืออีกโลกที่ฉันสร้างขึ้น

    ชีวิตฉันช่างน่าสงสาร สาวสวยผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย (กระซิก)

    แล้วอย่างนี้ ฉันจะทำยังไงกับหนึ่งเดือนที่เหลือดีเล่า อ๊าก เครียดว้อย!

    ...

    เป็นเวลาแปดวันมาแล้วที่ฉันเคร่งเครียดอยู่กับความคิดนี้ ผู้ชายที่ตรงตามอิมเมจตัวละครในนิยายของฉัน ชายหนุ่มผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบนั้นคงหาได้แค่ในการ์ตูนตาหวานหรือไม่ก็ในนิยายน้ำเน่า เพราะในชีวิตจริงจะมีคนที่แสนดีและรูปร่างหน้าตาเพอร์เฟคแบบนั้นได้ยังไง ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมที่สะกดสายตาได้ทั้งชายและหญิง คนที่เพียงแค่คลี่ยิ้มก็ทำให้ไม่อาจละสายตาได้ คนแบบนั้น...

    ไอ้คนแบบนั้นจะไปหาได้ง่ายๆที่ไหนละว้อยยยย! (เริ่มสติแตกขึ้นมาจริงๆ)

    ฉันเริ่มคร่ำครวญ ขณะที่สายตายังสอดส่ายไปทั่ว พวกนักศึกษาชายหน้าตาดีๆมีเยอะแยะมากมาย แต่ไม่มีใครที่มองเห็นแล้วให้ความรู้สึกเหมือนถูกสะกดได้เลย ซ้ำบางคนก็มีดีแค่หน้าตา เพราะกิริยาท่าทางช่างตรงกันข้ามกับคำว่าสุภาพบุรุษ ไอ้ที่จะทำให้หัวใจดวงน้อยๆของหญิงสาวช่างฝันอย่างฉันสั่นไหวได้ คงไม่มีอยู่ละสินะ

    หรือฉันต้องเปลี่ยนแผน ทำตัวเยี่ยงแมวมองออกตะลุยตามหานักแสดง ตามแหล่งที่เด็กวัยรุ่นซ่องสุมกัน

    เมื่อในมหาลัยที่ฉันเรียนอยู่ไม่มี ก็คงต้องไปตามสถานที่เหล่านั้นสินะ ดีละ โทรหาพี่ซูดีกว่า เผื่อจะได้ความคิดดีๆบ้าง

    คิดแล้วฉันก็หาโทรศัพท์ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าฉันเอากระเป๋าไว้ในล๊อกเกอร์ (ส่วนตัวเองมานั่งปั้นจี้ปั้นเจ๋ออยู่หน้าตึกคณะ จุดประสงค์เหรอ แน่ละว่ามองหาหนุ่มๆที่ใช่ในบทพระเอกนิยายของฉัน) เมื่อรู้ว่ามือถือไม่อยู่ที่ตัวฉันจึงตัดสินใจจะเดินกลับเข้าไปในตึก แต่แล้วจู่ๆห่าฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีสัญญาณเตือน ฉันได้แต่ตกใจแล้วขยับเข้าใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะกรี๊ดแทบสลบกับเสียงฟ้าผ่า

    แง! ฟ้าจะถล่มลงมามั้ยอ่ะ ฝนตกฟ้าร้องครบสูตร น่ากลัวจริงๆ

    ฉันยืนตัวสั่นเพราะความหนาว พลางตัดสินใจว่าจะวิ่งลุยฝนไปดีหรือไม่ เพราะจากตรงนี้ไปถึงตัวอาคารก็หลายร้อยเมตรอยู่เหมือนกัน ซุ้มที่อยู่ใกล้ๆก็มีพวกนักศึกษายืนเบียดกันมากพออยู่แล้ว อีกอย่าง ฉันไม่ค่อยคุ้นกับการเข้าหากลุ่มคนเยอะๆ แต่ขืนยังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างนี้ นอกจากจะเปียกแน่ๆแล้ว ฉันอาจจะดำเป็นตอตะโกเพราะถูกผ่าเปรี้ยงได้เหมือนกัน

    อืม  เอาเป็นว่าวิ่งฝ่าฝนไปจะง่ายกว่าแฮะ เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็เปียกแน่ๆอยู่แล้ว ดังนั้นฉันจึงถอดแว่นออก (สายตาฉัน ทั้งสั้นและเอียง) ก่อนยกสองมือป้องศีรษะแล้ววิ่งออกไป

    กว่าจะถึงเป้าหมายฉันก็หอบแฮ่ก คุณจะว่าฉันเวอร์ก็ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายอย่างฉัน การวิ่งด้วยระยะทางสั้นๆก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายนั่นแหละ (เวอร์ไปสินะ ฮ่าๆๆ) และคงเพราะฝนฟ้าที่เป็นใจ ทำให้ฉันได้มาติดฝนที่นี่ กับชายผู้นี้

    หัวใจฉันแทบจะหยุดเต้นเลย ตอนที่หันมาสบตากับเขา ชายผู้มีใบหน้าสวยหวานอย่างกับภาพวาด ผิวขาวเนียนละเอียดอย่างกับรูปปั้น ผมสีฟางเส้นเล็กดุจใยไหม นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งฝัน ชวนให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด และทันทีที่เขาคลี่ยิ้มบางๆ ฉันก็มองเห็นแสงสีทองสว่างวาบ ปีกสีขาวของเทพบุตรโผล่ขึ้นจากกลางหลัง รอบๆตัวเขาราวกับทุ่งดอกไม้บาน กลิ่นหอมของมวลบุปผาชาติตลบอบอวล

    อา... คนนี้แหละ ผู้ชายคนนี้แหละที่ฉันมองเห็นมาโดยตลอด

    กรี๊ดดดดดด ในที่สุดก็เจอจนได้ สุดหล่อในฝัน เทพบุตรปีกขาวของช้านนนนนน

    เอ่อ...เธอคงหนาว  แล้วก็ มันคงดูไม่ดีถ้าปล่อยให้เธอเปียกอยู่ในชุดนี้

    อา... แม้แต่น้ำเสียงยังเพราะจับใจ เสียงของเขาทำให้ฉันนึกถึงนกไนติงเกล

    ขณะที่ฉันเอาแต่จ้อง เขาก็ยื่นเสื้อคลุมสีแดงให้ ฉันยื่นมือไปรับด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

    อ๊ะ...อืม

    สุภาพบุรุษ นอกจากรูปร่างหน้าตาที่แสนเพอร์เฟคแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษ อย่างที่หาได้ยากเต็มทีในบรรดาเพศชายยุคนี้

    ไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลย  แต่ว่าขอบคุณสำหรับเสื้อนะ  ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้จักใครในมหาลัยแห่งนี้ แต่ผู้ชายทุกคนทุกคณะล้วนผ่านสายตามหาเหยี่ยวของฉันมาแล้วทั้งสิ้น

    แล้วทำไม ทำไมผู้ชายแสนเพอร์เฟคขนาดนี้ถึงหลุดลอดสายตาฉันไปได้

    จะยังไงก็ตามเพื่อคลายความตื่นเต้นที่ประทุจนแน่นอก ฉันจัดแจงสวมเสื้อคลุมของเขา สีของมันแดงสดและกลิ่นก็ยังหอมมากๆด้วย

    อาจจะเป็นกลิ่นน้ำหอม หรือไม่ก็คงเป็นกลิ่นประจำตัวของเขา แต่จะกลิ่นอะไรก็เถอะ มันหอมเสียจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ

    “…”

    “…”

    เราสองคนต่างก็อยู่ในความเงียบ ท่ามกลางเสียงฟ้าฝนที่ยังตกกระหน่ำ บ่อยครั้งที่ฉันแอบชำเลืองมองเขา อา...แม้แต่ใบหน้าด้านข้างก็ยังเพอร์เฟค ทั้งจมูกโด่งเป็นสัน ทั้งริมฝีปากแดงนั่น แล้วยังจะคิ้วเข้มได้รูปกับดวงตาเป็นประกายคู่นั้นอีก ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้ฉันเครียด ไม่รู้แล้วว่าควรจะทำยังไงดี ฉันไม่ควรปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอย

    อ๊ากกกก เห็นเขาแล้วฉันอยากจะ  อยากจะ... อ๊า! ไม่ได้สิ ขืนพูดหรือทำแบบนั้นอีกละก็ ไก่ตื่นพอดี ทางที่ดีฉันควรจะทำความรู้จักเขาไว้ก่อนดีกว่า

    ใช่แล้ว เราต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อุตส่าห์มีโอกาสได้เจอทั้งที ฉันจะไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆในชีวิตไปหรอกนะ

    ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจ หันไปที่หนุ่มหน้าหวานข้างๆ

    นี่  ขอเบอร์หน่อยได้มั้ย

              ห๊ะ?”

              นะ!  เบอร์โทรของนาย  ขอฉันหน่อยเถอะ!”

              ดวงตาฉันเป็นประกายขณะเอ่ยออกไปอย่างนั้น ความกล้าบ้าบิ่นของฉันทำเอาเขาอึ้งกิมกี่

    หึ... ไม่เพียงแต่เอ่ยปากขอเบอร์โทรผู้ชายที่เพิ่งเจอหน้าไม่ถึงสิบนาที แต่ฉันยังอาจหาญไปคว้ามือเขามากุมไว้ซะแน่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงกล้าทำแบบนั้นกับคนที่ไม่รู้จัก ฉันเพียงแต่คิดตื้นๆว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เจอกับผู้ชายคนนี้อีกครั้งเท่านั้นเอง

              คนนี้แหละ... ผู้ชายคนนี้แหละที่ฉันมองเห็นมาโดยตลอด คนที่อยู่ในจินตนาการของฉัน ผู้ชายที่จะทำให้นิยายของฉันกลายเป็นภาพยนตร์

                พระเอกของฉัน  ต้องเป็นนายเท่านั้นนะพ่อนกไนติงเกล!




    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    มาอัพตอนที่ 2 อย่างรวดเร็ว 55
    แล้วจะรีบอัพเดทตอนต่อไปนะค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×