ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inter high สาวคลั่งวาย(Y)กับนายหน้าหวาน

    ลำดับตอนที่ #1 : inter high......บทนำ ฝนตกพบรัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 960
      12
      30 มี.ค. 54

                                   

                บทนำ ฝนตก...พบรัก

                ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน กระทั่งอายุสิบแปด แต่ผมก็ยังไม่เคยตกหลุมรัก บ่อยครั้งที่เห็นคู่รักหนุ่มสาวเดินกุมมือกันตามห้าง นั่งทานข้าวสองต่อสอง มอบช่อดอกไม้ ออกเดต ซื้อของขวัญให้กัน

                ผมมองคนพวกนั้นแล้วได้แต่นึกอิจฉา และในบางครั้งก็แอบสงสัย

                ทำไมความรัก จึงสามารถทำให้คนบางคนเปลี่ยนไปได้ แม้กระทั่งซองฮุนเพื่อนของผม หนึ่งในห้าหนุ่มอินเตอร์ไฮ ก็ยังเปลี่ยนไปเพราะความรัก จากที่เคยเย็นชาแข็งกระด้าง กลายเป็นอ่อนโยนขึ้น ยิ้มมากขึ้น โซดาเองก็ดูมีความสุข หลังจากที่ก่อนหน้านี้ความรักของเธอมีแต่อุปสรรคนานับประการ แต่ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็ผ่านพ้นมันมาจนได้

                อานุภาพแห่งรักงั้นหรือ?

              บอกตามตรงว่าผมยังไม่เข้าใจ ทั้งที่ในสายตาเพื่อนคนอื่นๆผมเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนนุ่มนวลที่สุดเมื่อเทียบกับพวกเขา แต่เมื่อวิเคราะห์กันดีๆแล้ว พวกเขาทั้งสี่คนล้วนเคยมีประสบการด้านความรักมาทั้งนั้น อย่างที่พวกคุณรู้ ซองฮุนกับโซดาเป็นคู่รักกัน แต่อึนยองก็แอบชอบโซดามาก่อน (จริงอยู่ที่หมอนี่ตัดใจแล้วใช้ชีวิตเยี่ยงมาเฟียอยู่ที่โซล แต่ยังไงก็เถอะ อย่างน้อยเขาก็มีประสบการณ์จูบมาแล้วนะ แล้วผมละ...) ฮันจุนโซ  รายนี้ไม่ต้องพูดถึง คนที่เข้าขั้นบ้าผู้หญิงอย่างเขาผ่านประสบการณ์รักมาอย่างโชกโชน ครั้งหนึ่งเขาเคยหลงรักพี่สาวของเรียวอย่างหัวปรักหัวปรำ และก่อนหน้าที่พวกเขาจะแห่มาเที่ยวที่เมืองไทย จุนโซได้เข้าพิธีวิวาห์กับเพื่อนสมัยเด็กที่หลงรักเขายิ่งกว่าชีวิต (เป็นสาวสวยขาโหด ดูเหมือนเธอจะเหมาะกับฉายานี้แฮะ) แต่หลังจากแต่งงานได้ไม่กี่เดือน ในที่สุดหมอนั่นก็หนีกลับมาเมืองไทยใน นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็สามสิบวันพอดี  แน่นอนว่าหลังจากนี้... ช่างเถอะครับ ผมว่ารอดูดีกว่า ว่าจางโบราจะตามมาอาละวาดเมื่อไหร่

    แน่นอนว่าคนสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือเรียว ถึงแม้เขาจะไม่เคยแสดงท่าทีคลั่งไคล้สาวๆคนไหน หรือมีประวัติว่าเคยมีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่จะยังไง หมอนี่ก็เคยเสียจูบแรกไปแล้ว ซึ่งถ้าลองเทียบพวกเขาทั้งสี่คนกับผม...

                เรียกว่าไก่อ่อนเลยน่าจะง่ายกว่า

                บางครั้งผมก็ชักสับสนตัวเอง ถึงแม้ในรั้วมหาลัยแห่งนี้ ผมจะถูกสารภาพรักจากเพื่อนผู้หญิงนับครั้งไม่ถ้วน และหลายต่อหลายครั้งที่ได้รับโทรศัพท์แปลกๆจากพวกผู้ชาย (คงไม่ต้องบอกมั้งครับว่าเป็นโทรศัพท์ประเภทไหน ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าเจ้าพวกนั้นกำลังคิดว่าผมเป็นทอมแล้วพยายามจะทำให้กลับไปเป็นผู้หญิงหรือเปล่า)

                เออ...จะว่าไป ผมก็ไม่เคยตกลงปลงใจกับผู้หญิงคนไหนสักที หรือว่าที่จริงแล้วผมจะไม่ได้ชอบผู้หญิงกันนะ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็คงจะเป็นพวก...

                มะ ไม่มีทางหรอกน่า ผมไม่มีทางเป็นพวกอย่างว่าแน่นอน

                มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมจิตตกเอาแต่คิดวกวน ว่าตกลงผมเป็นพวกผิดปกติทางเพศหรือไม่ คำถามเหล่านี้หลอกหลอนจนผมคิดจริงๆจังๆว่า หรือควรจะเข้าพบจิตแพทย์ดี เพราะจะว่าไป ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงเลย ไม่รู้แม้กระทั่งสเปกผู้หญิงที่ตัวเองชอบด้วยซ้ำ

              และในวันนั้น วันที่ฝนตกหนักจนผมต้องติดอยู่ในตึกคณะนิเทศศาสตร์ ร่วมชั่วโมงที่เม็ดฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ปราณี เสียงฟ้าร้องคอยส่งเสียงดังครืนครานทำผมไม่กล้าขยับไปไหน แล้วในที่สุดเธอก็ปรากฏตัว หญิงสาวคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาในตัวอาคาร ผิวขาวของเธอซีดเซียวและเป็นรอยแดงจากการวิ่งผ่านห่าฝน ผมดำเป็นลอนยาวสยายเปียกลีบยู่กลางหลัง  เสื้อนักศึกษาสีขาวรัดรูปแนบกับลำตัวเผยให้เห็นทุกส่วนสัด ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้ง ทรวดทรงอกเอวหรือแม้แต่สีซับในที่เธอใส่

                บ้าจริง  คิดอะไรแบบนี้วะ

                ผมบังคับให้ตัวเองต้องเบือนหน้าหนี เป็นพอดีกับที่เธอวิ่งมาถึงแล้วก็ช่างบังเอิญเสียจริง ที่เธอเลือกมายืนข้างๆผม แทนที่จะเป็นตรงกลุ่มนักศึกษาชายสี่คนที่กำลังจ้องสรีสระของเธอตาเป็นมัน

                ที่จริง คงไม่ใช่แค่รูปร่างเย้ายวนของเธอเป็นแน่ที่สะกดสายตาเจ้าพวกนั้นไว้ แต่คิดว่าคงเป็นรูปหน้าสวยเฉี่ยวกับนัยน์ตาคมสีนิลแสนเซ็กซี่ ดูเหมาะเจาะเหลือเกินกับจมูกโด่งสวยรับกับริมฝีปากอิ่มแดงซึ่งกำลังสั่นระริก หยดน้ำไหลย้อยเกาะตามใบหน้าขาวเนียน ขนตาที่ทั้งหนาทั้งยาวเปียกชุ่ม ส่งผลให้ดวงตาของเธอฉ่ำน้ำ

              ช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและชวนมองชะมัด เชื่อเถอะว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยชอบอะไรแบบนี้  รูปร่างเย้ายวนชวนหลงใหล ผิวพรรณเนียนละเอียดไร้ตำหนิ อกอึ๋ม สะโพกผาย ปากอิ่ม จมูกโด่ง แม้แต่ร่างกายซึ่งสั่นเทิ้มด้วยความหนาวยังแลดูน่าปกป้อง เห็นแล้วมันชวนให้อยากทะนุถนอมจนถึงขั้นอยากจะครอบครองไว้

                บ้าจริง อะไรที่ทำให้ผมคิดน่าเกลียดแบบนี้ได้นะ ทำอย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับฮันจุนโซน่ะสิ!

                ผมพยายามดึงสามัญสำนึกกลับคืนมา แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่อาจยืนมองเฉยๆได้ และก็ไม่ขอปฏิเสธด้วยว่าผมรู้สึกแปลกๆและพลุ่งพล่านอย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมต้องหันมามองแล้วมองอีก ที่สำคัญ หัวใจที่มันไม่เคยทำงานหนักขนาดนี้ กำลังเต้นดังโครมครามแล้วก็สั่นไหวแบบแปลกๆซะด้วย

                เอาแล้วไง แบบนี้ เรียกว่างานเข้าได้มั้ยนะ

                อย่างไรก็ตาม ที่บอกว่าไม่อาจยืนมองเฉยๆได้ เพราะผมคิดว่าควรทำอะไรสักอย่าง นั่นเพราะอย่างแรกเลยคือท่าทางเธอคงจะกำลังหนาวมาก และเธอก็เริ่มจามติดๆกันหลายครั้งแล้วด้วย  อย่างที่สอง ซึ่งน่าเป็นห่วงกว่าอย่างแรก สายตาของเจ้าพวกนักศึกษาชายสี่คนนั้นชักส่อแววหื่นกระหายมากเกิน และพวกมันก็เริ่มขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้นทุกที  เจ้าตัวเองก็ดูเหมือนจะรู้สึกตัวเพราะเธอทำตัวลีบเล็กผิดปกติ

                เห็นอย่างนี้แล้วผมคงอยู่เฉยไม่ได้

                ผมตัดสินใจถอดเสื้อคลุมแบบมีฮู้ดออก และตอนที่ผมเอาฮู้ดออกจากศีรษะ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เธอหันมาสบตาพอดี ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเราประสานสายตากัน ดูเธอจะพินิจมองผมนานมากเป็นพิเศษ ซ้ำยังมองตั้งแต่หัวจรดเท้าเสียด้วย ดวงตาของเธอ... ให้ตายสิ  ดวงตาของเธอดำสนิทและมันให้ความรู้สึกมีเสน่ห์ลึกล้ำอย่างบอกไม่ถูก เจ้าตัวคงไม่รู้ว่ากำลังทำให้ผมเขินเพราะว่าเธอดันเอาแต่จ้องตาไม่กระพริบ แต่ถึงยังไงก็ตาม ในที่สุดผมก็ส่งเสื้อคลุมสีแดงสดให้เธอ

                เอ่อ...เธอคงหนาว  แล้วก็ มันคงดูไม่ดีถ้าปล่อยให้เธอเปียกอยู่ในชุดนี้  พูดแล้วผมก็พยักพเยิดหน้าไปทางเจ้าสี่คนนั้น

                อ๊ะ...อืมเธอตอบรับด้วยใบหน้าที่แดงจัด (หรือผมจะคิดไปเอง) ก่อนจะยื่นมือมารับไว้

                ผมไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากยิ้มเล็กน้อย เธอเองก็ดูเคอะเขินไม่แพ้กัน แต่หลังจากนั้น เธอก็ขยับยิ้มออกมาจนได้ มันทำให้ผมอึ้งไปเลย หัวใจของผมราวกับถูกกระชากออกจากอกอย่างไรอย่างนั้น

                ถ้าในสถานการณ์นี้ คนที่ยืนอยู่ที่นี้ตรงนี้คือจุนโซ หมอนั่นจะทำยังไงนะ

                อาจจะขอเบอร์ หรือไม่ก็อาสาไปส่งเธอถึงบ้าน หรือไม่ก็... อืม  บางทีเจ้าบ้านั่นอาจจะทำมากกว่าที่ผมคิดก็ได้... ช่างเถอะ อย่าพยายามคิดอะไรที่มันน่ากลัวและเป็นภัยต่อสังคมท่าจะดีกว่า

                ไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลย  แต่ว่า ขอบคุณสำหรับเสื้อนะ

              หัวใจผมเต้นแรงอีกครั้งกับคำพูดด้วยรอยยิ้มเขินๆนั่น  เสื้อคลุมที่ผมใส่ประจำตัวนี้ ปกติก็ว่าใหญ่อยู่แล้ว แต่มันกลับใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อถูกสวมลงบนร่างของเธอ  ยิ่งทำให้เธอดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก

                ผมชักจะเข้าขั้นโรคจิตเข้าไปทุกทีแล้ว

              “…”

              “…”

              เงียบ... ในฐานะที่เป็นผู้ชายผมควรจะชวนเธอคุยดีมั้ยนะ แต่ว่า ให้ตายสิ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ผมควรจะพูดหรือคุยอะไร

                เพิ่งเห็นว่าฮันจุนโซมีความสำคัญก็วันนี้เอง

                ว่าแต่ ทำไมในเวลาแบบนี้ ผมต้องนึกถึงแต่เจ้าเพื่อนบ้านั่นด้วยนะ

                นี่  ขอเบอร์หน่อยได้มั้ย

              ห๊ะ?”

              นะ!  เบอร์โทรของนาย  ขอฉันหน่อยเถอะ!”

              คราวนี้เธอกระชากหัวใจผมไปแล้วจริงๆ เพราะนอกจากคำพูดนั้นบวกกับสีหน้าอ้อนแกมขอร้องแล้ว เธอยังคว้ามือผมไปกุมไว้ ดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับมีใครจุดไฟบางอย่างให้เธอ

                ถึงจะทั้งตื่นเต้นและตกใจ แต่ในที่สุดผมก็

                ครับ



    ++++++++++++++++++++++++++++++
    อ่านจบแล้วก็คอมเมนต์ติ-ชม แสดงความคิดเห็นกันได้นะค่า
    จะตอบทุกคอมเมนต์แน่นอนค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×