ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I'm not gay!! แต่คนที่ชอบบังเอิญเป็นผู้ชาย (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #8 : Rule 05 : (Special Khim x Pete) คนกะล่อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.37K
      15
      12 ม.ค. 56

    12/01/13
    Rule 05 : (Special Khim x Pete) คนกะล่อน

    Special : Pete Part
     

    ผมกับไอ้มินทร์แยกกับไอ้คิทเพื่อไปสมัครเข้าชมรมอื่น  ผมสนใจชมรมดูดาวมากและแน่นอนว่าไอ้มินทร์ต้องตามผมมาด้วย  ไอ้หมอนี่เป็นรูมเมทของผมเองและเป็นเพื่อนสนิทอีกคน  ผมก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมมันต้องตามติดผมแจขนาดนั้น  ผมไม่อยากจะคิดว่ามันชอบผมเพราะอย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกัน
     

    “พีท กูว่าเราเปลี่ยนชมรมเถอะ” ไอ้มินทร์ดึงผมไว้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องชมรมดูดาว
     

    “ทำไมวะ ชมรมนี้แหละดีแล้ว” ผมขมวดคิ้วพลางสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุม
     

    “กูว่าเปลี่ยนเถอะ  กูชักจะรู้สึกเบื่อหน้าคนในชมรมนี้แล้วว่ะ” อะไรของมัน? อยู่ดีๆ ก็เบื่อหน้าคนในชมรม  มันไปเจอคนรู้จักที่ไม่ชอบขี้หน้ารึไงกันวะ
     

    ผมไม่สนใจคำเรียกร้องของไอ้มินทร์แล้วเดินไปกรอกใบสมัครเข้าชมรมทันทีไอ้มินทร์จึงตามเข้ามาอย่างเสียมิได้
     

    “มินทร์ ถ้ามึงไม่ชอบมึงก็ไม่จำเป็นต้องเข้านะเว้ย” ผมพูดหลังจากที่ส่งใบสมัครไปเรียบร้อยแล้ว
     

    “นั่นสิครับ พี่ว่าถ้าน้องไม่ชอบก็ไม่ต้องมาเข้าสิครับ ไม่มีใครง้อ” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงคุ้นหูดังขึ้นด้านหลังก่อนวงแขนแข็งแกร่งของใครบางคนจะโอบรอบคอผม
     

    “เพราะมีรุ่นพี่บางคนนั่นแหละครับผมถึงไม่อยากเข้าแต่ถ้าเป็นความต้องการของเพื่อนผมผมก็ไม่ขัด  คนนอกอย่างรุ่นพี่อย่ามายุ่งเลยครับ” ไอ้มินทร์พูดเสียงแข็ง  ผมรู้แล้วล่ะครับว่าทำไมไอ้มินทร์มันถึงพยายามลากผมออกจากห้องชมรมจัง  และตอนนี้ผมก็ชักอยากจะออกจริงๆ แล้วล่ะสิ
     

    ผมเหล่ตามองวงแขนที่พาดรอบคออย่างเบื่อหน่ายก่อนจะปัดออกอย่างไม่ชอบใจ  ผมมั่นใจเลยว่าไอ้พี่ขิมบ้านี่พยายามจีบผม...แบบเล่นๆ  ดูหน้าตาพี่แกสิ ดูไม่จริงใจกับใครเลยแม้แต่นิด  ผมเคยเห็นพี่แกขายขนมจีบหนุ่มน่ารักๆ ตั้งหลายครั้ง  อย่าหวังว่าผมจะตกหลุมพรางพี่แกเลย!!
     

    “ใช่  คนนอกอย่ายุ่ง” ผมสนับสนุนคำพูดไอ้มินทร์

    “โทษทีที่ฉันเป็นคนนอก” พี่ขิมตีหน้าขรึมก่อนจะเดินกลับเข้าไปอยู่ในกลุ่มของพวกรุ่นพี่ในชมรม 
     

    นั่น...ยังมีหน้ามาทำหน้างอนผมด้วย  น่ารักตายห่า! แล้วใครจะง้อพี่ล่ะนั่น!
     

    “กูว่าพี่แกชอบมึงแน่เลยว่ะพีท” ไอ้มินทร์กระซิบกับผม
     

    “โอย กูชอบผู้หญิงเว้ย กูไม่สนใจผู้ชายหรอกมึงก็รู้นี่หว่ามินทร์” ผมส่ายหน้าไปมา  ผมมีความคิดเหมือนกับไอ้คิทนั่นแหละที่ว่าไม่ชอบพวกเกย์  ผู้หญิงดีๆ มีให้ชอบตั้งเยอะตั้งแยะเสือกมาชอบเพศเดียวกันซะงั้น
     

    “ก็ไอ้รุ่นพี่นั่นมันกะล่อนนี่หว่า  กูก็กลัวว่าซักวันมึงจะตกหลุมมัน  ดูดิ ถัดจากมึงก็ไปหยอดคนอื่นเฉยเลย” ไอ้มินทร์พูดพลางชี้ไปที่พี่ขิมที่กำลังหยอกล้ออยู่กับเด็กหน้าตาน่ารักที่อยู่ชั้นเดียวกันกับผม  อื้อหือ มีหยิกแก้มกันด้วยเว้ย! ไอ้เด็กนั่นก็ดันยอมให้มันหยิกให้มันจับ  น่ารังเกียจชะมัด
     

    “ไปเถอะว่ะมินทร์  กูอยู่ตรงนี้แล้วจะอ้วก  น่าเกลียดชะมัด” ผมทำท่าขยะแขยงก่อนจะรีบเดินออกจากห้องชมรม


     

     

    “เหี้ยคิท!!!  มึงเอาเรื่องมาให้กูอีกแล้วนะเว้ย ไอ้เหี้ย!!” ผมแหกปากโหวกเหวกโวยวายเมื่อโดนเรียกเข้าห้องกรรมการนักเรียนในเวลาเที่ยง  ก็เมื่อเช้าขณะที่ผมกับไอ้คิทและไอ้มินทร์เดินออกจากหอมาโรงเรียนก็มีคนมาบอกชอบผมและทำตัวรุ่มร่าม  ไอ้คิทมันโกรธก็เลยฟาดซะเลือดกบปาก
     

    “ก็ใครบอกให้ไอ้เหี้ยนั่นมาแต๊ะอั๋งมึงล่ะ แม่งเอ๊ย!” ไอ้คิทเตะกระป๋องที่เกะกะขวางทางระหว่างไปห้องกรรมการนักเรียนอย่างหงุดหงิด 
     

    “ยังไงก็ผู้ชายเหมือนกันก็ให้มันจับให้พอใจไปเลยสิวะ” ผมพูด  จับตูดผู้ชายมันรู้สึกดีตรงไหนวะ
     

    ผมคิดพลางบีบตูดตัวเองดูจนไอ้คิทหันมามองการกระทำของผมด้วยสีหน้าประมาณว่า มึงอย่าเข้ามาใกล้กูนะ พลางเอามือปิดก้นตัวเองไว้  ไอ้เหี้ย! กูไม่พิศวาสตูดเล็กๆ ของมึงหรอกเสร่อ  อย่างกูน่ะพิศวาสก้นสวยๆ นิ่มๆ ของสาวๆ มากกว่า ฮิ้ว!
     

    “พฤติกรรมแปลกขึ้นทุกวันนะมึง” คิททำท่าขนลุกขนพอง  มือที่ปิดตูดตัวเองยังไม่คลายออกจนกระทั่งถึงห้องกรรมการนักเรียน  กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้พิศวาสก้นมึง  ถ้ากูจะจับล่ะก็ถึงมึงใส่กางเกงในล็อคกุญแจกูก็จับได้เฟ้ย  ขนาดไอ้จู๋น้อยของมึงกูยังจับมาแล้วเลย


     

     

    “คิทคร้าบ” ไอ้คิทเคาะประตูห้องกรรมการนักเรียนพลางแหกปาก  การพูดแบบนี้ของมันบ่งบอกได้อย่างดีว่า  ไอ้เหี้ยนี่มาบ่อยเหลือเกิน
     

    พี่บอลที่ชื่อจริงของพี่แกคล้ายกับชื่อเล่นของผมเดินมาเปิดประตูให้พร้อมกับผายมือเข้าไปในห้องอย่างสุภาพแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องที่ไร้ความเป็นผู้ดีเหลือเกิน  ไอ้พี่ขิมนอนแคะขี้มูกอยู่บนเค้าน์เตอร์เนื่องจากโซฟาตัวใหญ่ถูกพี่คิทที่ตัวยาวอย่างกับอนาคอนดายึดไปเรียบร้อย แถมยังมีเสียงกรนเล็ดรอดออกมาอีกต่างหาก  เอิ่ม...ไม่เล็ดแล้วล่ะครับ  คร่อกออกมาอย่างกับจะเอาลูกกระเดือกออกมาจากคอด้วยอย่างนั้นแหละ  ส่วนพี่ดินก็กำลังนั่งซดก๋วยเตี๋ยวอย่างเอาเป็นเอาตาย  ท่าทางพี่แกจะทำงานหนักจนไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าล่ะมั้ง
     

    “มีอะไรพี่ รีบพูดนะผมยังไม่ได้กินข้าว” ไอ้คิทพูดพลางเดินตรงไปที่โซฟาที่มีอนาคอนดาเกยตื้นอยู่(?)
     

    ตุบ!!
     

    “โอ๊กกกกก!” ทันทีที่มันพูดจบก้นเล็กๆ ของมันก็ทิ้งดิ่งลงบนหน้าท้องของอนาคอนดาจนอนาคอนดาตัวนั้นสะดุ้งพร้อมกับรัดเหยื่อ!! ผมหมายถึงล็อคตัวไอ้คิทไว้อ่ะนะ
     

    “ปล่อยนะเว้ยไอ้อนาคอนดาเกยตื้น!!” เชี่ยคิท  มึงอ่านใจกูได้ป่ะเนี่ย
     

    “ใครบอกให้นายมาปลุกฉันล่ะ  รัดให้ตายไปเลยดีมั้ยเนี่ย” พี่คิทกดหน้าไอ้คิทลงไปซบอกตัวเองก่อนจะบีบแขนเข้าหาตัว  น่าสงสารไอ้คิทเนอะ  โดนอนาคอนดารัดจนได้
     

    ดูไปดูมา...เหมือนผัวเมียทะเลาะกันยังไงก็ไม่รู้  หรือเหมือนยักษ์กับคนแคระนะ?
     

    “กูงอนคน!” อ้าว เชี่ยนี่มาจากไหนฟะ! เรียกร้องความสนใจเห็นๆ เลยนี่หว่าพี่ขิม
     

    “งอนเหี้ยอะไรมึง” พี่ดินถามทั้งๆ ที่เส้นก๋วยเตี๋ยวยังคาปาก  เอิ่ม...พี่ดินครับ ผมอยากจะบอกพี่เหลือเกินว่า...พูดใส่หน้าพี่ขิมอย่างนั้นพี่คายเส้นใส่หน้าพี่แกเลยเหอะ  กรรมการนักเรียนชุดนี้ทั้งหล่อทั้งซกมกสุดๆ ไปเลยทีเดียว  ใครมาเห็นคงอยากผูกคอตาย
     

    “งอนคนที่หาว่ากูเป็นคนนอก” มีค้อนใส่ผมด้วย  เดี๋ยวมีแจกค้อนฟาดหน้าหล่อๆ นั่นให้ยุบไปเลยดีไหม?
     

    “ผมไม่ได้พูดนะครับ ไอ้มินทร์มันพูดก่อนต่างหาก” ผมทำเป็นพูดลอยๆ
     

    “งั้นพี่ก็เป็นคนในใจของน้องพีทได้ใช่ไหมครับ” พี่ขิมพูดพลางเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นกะล่อนปลิ้นปล้อนเหมือนเดิมแถมยังกระโดดลงจากเคาน์เตอร์มาจับมือผมอีกต่างหาก
     

    อ้วกกก  แคะขี้มูกแล้วเอามาจับมือกู  ไอ้รุ่นพี่เฮงซวย!!
     

    “ไอ้กะล่อน!” พี่ดินพูดจิก  อยากจะต่อเหลือเกินว่า ตอแหล ด้วย
     

    “หุบปากเลยไอ้ประธาน”พี่ขิมหันไปแลบลิ้นใส่พี่ดินก่อนจะรวบมือผมไปจับอีกครั้งหลังจากที่ถูกสะบัดออก
     

    “พี่  ผมรังเกียจ” ผมพูดพลางสะบัดมือออกอีกครั้งทำเอาพี่ขิมหน้าเสียไปเลย 
     

    พี่ขิมทำหน้าจ๋อยก่อนจะผละจากผมแล้วไปค้นอะไรซักอย่างอยู่ตรงลิ้นชักเคาน์เตอร์  ไอ้ที่พี่แกไปค้นมานั่นก็คือเจลล้างมือนั่นเอง  ลงทุนเนอะ! =[]=
     

    “คราวนี้ไม่รังเกียจพี่แล้วนะ”
     

    “พี่ขิมครับ  ที่ผมเข้ามาก็เพราะมาคุยเรื่องที่ไอ้คิทมันไปซัดคนปากแตกนะครับไม่ได้มายืนให้พี่จับมือ” ผมตีหน้าเครียด
     

    “คร้าบ” ผมขิมทำปากจู๋ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม
     

    “เอิ้ก! เออนี่คิทตี้  เรื่องที่ตีคนปากแตกพี่เข้าใจนะว่าเพราะอะไรแต่ว่านายทำมาหลายรายแล้ว  อาจารย์ก็เลยสั่งมาว่าให้หักคะแนนความประพฤตของนายและถ้ามีอีกจะต้องเข้าห้องปกครองพร้อมกับไอ้อนาคอนดา เอ่อ ไอ้คีตะ  เนื่องจากมันเป็นกรรมการนักเรียนฝ่ายปกครองอาจารย์ก็เลยมอบหมายให้มันจับตาดูความประพฤติของนาย  ถ้าเข้าห้องปกครองแล้วนายยังทำอีกคงต้องเรียกผู้ปกครอง” พี่ดินพูดอย่างเป็นการเป็นงานแต่การเรอเปิดฉากนี่มันจะส่อนิสัยของพี่เกินไปหน่อยไหมครับ
     

    แต่ถึงจะเรียกผู้ปกครองของไอ้คิทมาก็คงไม่มีใครมาล่ะนะเพราะแม่ของไอ้คิทก็เสียไปแล้วส่วนพ่อก็มักจะไปทำงานนอกบ้านเสมอ  กลับบ้านในปีหนึ่งเนี่ยนับครั้งได้เชียวล่ะไอ้คิทก็เลยถูกเฉดหัวมาโรงเรียนประจำนี่ไงล่ะ  แต่ไม่ใช่ว่าพ่อมันจะไม่ดูแลมันนะ  พ่อมันน่ะดูแลมันอย่างอบอุ่นเลยทีเดียวแม้เวลาที่มีให้จะไม่มากก็ตามที
     

    “แต่ที่ไอ้คิททำไปเพราะไอ้หมอนั่นมันจะลวนลามผมนะครับ  ถ้าจะทำโทษไอ้คิทก็ทำโทษผมดีกว่าเพราะผมเป็นต้นเหตุ” ผมออกตัวรับ
     

    “ถ้ามีใครลวนลามน้องพีทบอกพี่ก็ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้” ไอ้พี่ขิมกะล่อน! ผมว่าถ้าจะมีใครลวนลามผมคงเป็นพี่แกนั่นแหละ!!
     

    “พูดดีไปเถอะ  มึงนั่นแหละจะลวนลามน้องเค้าคนแรก” พี่คิทที่กำลังตีกันกับไอ้คิทหันมาพูด  โอ้ว!! พี่พูดได้โดนใจผมมากเลย
     

    “เฮ้ย พูดดีๆ นะเว้ยคิท  กูออกจะสุภาพบุรุษไม่ทำรุ่มร่ามกับใคร”
     

    “ไม่รุ่มร่ามหรอกแต่ลากเข้าห้องเลย” พี่คิทสวนขึ้นทันที
     

    “จุ๊ๆ เดี๋ยวไก่ตื่น” พี่ขิมจุ๊ปากพลางพูดเบาๆ  เสียใจนะพี่...กูตื่นตั้งนานแล้ว
     

    “พวกมึงนี่ก็พูดเล่นกันอยู่ได้  ขิม...มึงไปจัดการเรื่องงบประมาณของงานรับน้องที่เสียไปเลยไป  ส่วนคิทมึงเลิกตีกับน้องได้แล้ว มึงไปตรวจตราพวกนักเรียนอยู่บนดาดฟ้ารึยัง  ไม่รู้ไม่มั่วสุมกันอีกหรือเปล่าส่วนเรื่องของน้องเค้ากูจัดการเอง  พวกมึงอยู่กูทำงานลำบาก” พี่ดินกอดอกพูดอย่างเป็นงานเป็นการ
     

    พี่ขิมจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะเดินไปประจำโต๊ะของตัวเองแล้วหยิบเอกสารออกมาอย่างเคร่งเครียด  อืม...มีมุมแบบนี้กับเขาด้วยเหรอ?
     

    ส่วนพี่คิทผละออกจากไอ้คิทพลางหักนิ้วดังลั่นพร้อมกับแสยะยิ้มเหมือนกำลังจะไปทำอะไรสนุกๆ  หน้าตาเฮียแกโคตรจะซาดิสม์เลยให้ตายเหอะ  ทำหน้าอย่างกับจะไปทรมานใคร  เมื่อพี่คิทเดินออกจากห้องไปภายในห้องก็สงบลง
     

    “ก่อนพวกน้องจะไปพี่ขอฝากให้ลดเรื่องทำร้ายร่างกายลงนะ  ถ้าถูกหักคะแนนหมดพวกน้องอาจจะไม่ได้เลื่อนชั้น  ถ้ามีเรื่องพรรค์นั้นอีกให้มาบอกพวกพี่จะดีกว่าเพราะถ้าพวกพี่จัดการเรื่องมันจะเงียบกว่านี้” เอิ่ม...กรรมการนักเรียนก็ยมทูตดีๆ นี่เอง  แม่ง! หน้าพี่แกตอนพูดประโยคเมื่อกี้เหมือนพี่คิทเมื่อกี้เลย  โคตรจะซาดิสม์เลยอ่ะ
     

    “ถ้าผมขอร้องก็เสียศักดิ์ศรีหมดสิ  ผมไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับเรื่องของผมหรอกนะ” ไอ้เชี่ยคิท  มึงอยากถูกหักคะแนนจนบ๋อแบ๋ไปอวดพ่อมึงหรือไงไอ้ควาย!
     

    “ถ้าไม่ได้เลื่อนชั้นล่ะคิทตี้?” พี่บอลเปิดปากพูด  ตั้งแต่เข้ามาผมแทบจะไม่ได้ยินเสียงพี่แกเลย  นิ่งดีจริงๆ ต่างจากลิงตัวอื่นๆ
     

    “ผมจะไม่ใช้วิธีรุนแรงแบบนั้นก็ได้  ผมจะใจเย็น” ไอ้คิทถอนหายใจเบาๆ  ไอ้เชี่ย! กูเห็นมึงพูดแบบนี้มาตั้งแต่ประถมแต่แม่งไม่เคยทำได้
     

    “ถ้าคิทตี้สัญญาพี่ก็จะเชื่อ  แต่ถ้าไม่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาคิทตี้อย่าเสียใจทีหลังนะ  เงินที่พ่อแม่เสียให้มาเรียนไม่ใช่น้อยๆ เลย  ทำตามที่พูดให้ได้ก็แล้วกัน” จึ๊ก!! ผมเชื่อเลยว่าคำพูดของพี่บอลแทงใจไอ้คิทเต็มๆ  พ่อไอ้คิททำงานอาบเหงื่อต่างน้ำหาเงินมาให้มันเรียนขนาดนี้มีหรือที่มันจะไม่สำนึก
     

    “ครับ” ไอ้คิทหน้าเสียพลางพยักหน้าเบาๆและลากผมเดินออกจากห้อง


     

     

    “พีท  จนถึงตอนนี้กูก็ไม่รู้เลยว่าพ่อทำงานยังไงลำบากแค่ไหนกว่าจะหาเงินมาให้กูได้  ตั้งแต่ม.ต้นกูก็ได้เจอกับพ่อน้อยลง  ตอนนี้พ่อทำงานอยู่ที่ไหนอยู่กินอย่างไรกูก็ไม่รู้  จะโทรหาก็โทรไม่ได้  กูคิดถึงพ่อชะมัดเลยว่ะ” ไอ้คิทเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ใหญ่ระหว่างทางไปโรงอาหาร
     

    ผมเข้าใจความรู้สึกของมัน  ทุกครั้งที่พ่อของมันไม่อยู่บ้านมันก็มักจะมาหาผมที่อยู่บ้านข้างๆ มันเสมอ  มันไม่สามารถโทรหาพ่อได้เพราะพ่อมันมักตะลอนไปหาข้อมูลหลายประเทศจนไม่มีที่อยู่และเบอร์โทรที่แน่นอน  ผมล่ะนับถือไอ้คิทจริงๆ เพราะมันไม่เคยร้องไห้ให้ผมเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
     

    “กูว่าอีกไม่นานพ่อมึงก็คงกลับมา  ปีนี้พ่อมึงยังไม่กลับมาเลยไม่ใช่เหรอเพราะงั้นอีกไม่นานหรอกคิท  พ่อมึงก็คิดถึงมึงเหมือนกันนั่นแหละ” ผมตบไหล่ไอ้คิทเบาๆ
     

    และขณะที่พวกเรากำลังจะไปทานข้าวเสียงที่สามารถสงบใจไอ้คิทได้ก็ดังขึ้น  ถึงแม้ว่าเสียงนั้นอาจจะเป็นเสียงของพี่คิทที่มันไม่ชอบก็ตามที

     

     

    Special End

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    หลายคนเชียร์ มินทร์ พีท  แต่ไรเตอร์ขอขิมพีทละกันนะ  กร๊ากกกกกก


     

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×