ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #52 : Forbidden rule 3: [TK] เกรียนงอนโหด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.45K
      69
      19 มี.ค. 56

    19/01/13




    Special Tai’s part

     

                    ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้อารมณ์ผมมันพลุ่งพล่านแปลกๆ ยิ่งเห็นหน้าหล่อๆ ของไอ้เด็กวัยละอ่อนอารมณ์ผมยิ่งพุ่งพรวดๆ  ผมยังแปลกใจตัวเองอยู่เลยครับว่าผมเป็นอะไร  ไอ้คนอย่างผมไม่น่าจะมีอารมณ์ทางเพศกับผู้ชายได้เลยแต่ยิ่งนึกถึงหน้าหล่อๆ ของไอ้หมอนั่นตอนที่ผมอยู่ในตัวมันนะ...ฮึ่ม! อยากได้อีกชะมัดเลย

                    “ไอ้ดำ! พี่ไอมาไหม?” ผมหลุดออกจากภวังค์เมื่อไอ้เด็กคิมที่ผมกำลังนึกถึงเดินเข้ามาตบไหล่  ไอ้เวรนี่มาหาสุดที่รักทุกวันก่อนไปโรงเรียนเลยล่ะครับ  มึงมาได้ถูกจังหวะมากไอ้หนู ฮึๆ “ทำหน้าอะไรของมึงน่ะ  สยองว่ะ” ไอ้เด็กทำหน้าแหยงๆ เมื่อผมแสยะยิ้มมองหน้ามัน

                    “คืนนี้ไปกินเหล้าไหม? กูเลี้ยงเอง” ผมเอ่ยชวน กะจะมอมเหล้าเด็กครับ

                    “ไม่โว้ย! นี่ มึงมีจุดประสงค์เลวๆ ใช่ไหม  มึงจะมอมเหล้ากูใช่ไหมฮะ?” มันขมวดคิ้วทำหน้าหาเรื่อง  รู้ทันกูอีก  กูแค่อยากเห็นหน้าตอนมีอารมณ์ของมึงแล้วก็อยากได้ยินเสียงมึงครางแค่นั้นเอ๊ง ไม่ได้หื่นเล้ย!

                    “บลูเลเบิล” ผมเอาชื่อเหล้าราคาแพงมาล่อมัน  นักเรียนอย่างมันไม่มีปัญญาซื้อดื่มเองหรอกครับ

                    “ห้ามมอมกูนะมึง  ถึงกูเมาก็ห้ามยุ่งกับกูโอเคมะ?” รีบตกลงทันทีเลยนะไอ้เด็กเปรต

                    “กลัวอะไรนักหนา  ตุ๊ดว่ะ” ผมหลอกด่า  ถ้าผมเป็นมันผมก็กลัวครับ ฮ่าๆ

                    “มึงสิตุ๊ด  แล้วนี่พี่ไอของกูมาเรียนไหม?” ไอ้เด็กนั่นทำหน้าหงุดหงิดนิดๆ ก่อนจะถามคำถามที่ผมไม่ได้ตอบมันซ้ำอีกครั้ง

                    “มา แต่ตอนนี้ไปกับไอ้ลัน  ชัดไหม?” ผมยักคิ้ว  ไอ้เด็กคิมทำหน้าหงุดหงิดนิดๆ ก่อนจะกอดอก

                    “แล้วนี่น้องมึงอ่ะ  ถามถึงกูบ้างไหม?” มันถาม  ผมไม่อยากจะบอกเลยว่าน้องผมถามถึงมันทุกวัน  ถามว่าพี่คิมจะมาอีกไหม  พอผมบอกว่าไม่มายัยนั่นก็อ้อนขอให้ผมพาไอ้คิมมาอีกจนผมรำคาญ  จะปลื้มอะไรหนักหนา  อย่างไอ้หมอนี่มีอะไรให้ปลื้ม  โอเค ยอมรับว่ามันวาดรูปสวยมาก

                    ผมแอบเข้าไปดูเพจมันหลังจากที่สืบข้อมูลมาจากยัยทิวา  ภาพทุกภาพที่มันเอาลงให้แฟนเพจดูสวยมากเลยล่ะครับ  ผมเห็นยังอึ้ง  ไม่คิดว่าท่าทางอย่างมันจะละเอียดอ่อนขนาดนี้

                    “เออ” ผมตอบสั้นๆ

                    “เย็นนี้น้องมึงอยู่ป่ะ? เดี๋ยวกูเข้าไปหา  สัญญาว่าจะไปหาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้ไปซักที” ไอ้คิมพูด

                    “จะไปน่ะมึงขออนุญาตเจ้าของบ้านอย่างกูหรือยังวะ?” ผมเลิกคิ้วกวนตีน  แต่มันมาที่บ้านผมก็ดี  ถึงปกติผมจะไม่ได้พาผู้หญิงไปกกที่บ้านก็เถอะนะแต่ถ้ามันไปผมจะไม่ให้มันกลับเลยคอยดูสิ  พูดแล้วอยากว่ะ  อย่าหาว่าผมหื่นเลย  ช่วงนี้ผมอดอยากปากแห้ง  ไม่เหมือนไอ้ลันหรอกนะที่มีให้กินทุกวัน ส่วนไอ้ขลุ่ยเห็นอย่างนั้นแต่มันอ่อนด๋อยเรื่องแบบนี้เป็นบ้า  ขนาดน้องชายมันยังกินผู้หญิงเป็นว่าเล่น  แพ้น้องแล้วมึงเอ๊ย

                    “กูจะนัดน้องมึงออกมาข้างนอกต่างหาก  กูไม่ไปบ้านมึงไอ้บ้า!” ไอ้เด็กคิมเบะปากใส่ผม   เอาเข้าไป  เดี๋ยวกูแม่งจูบให้ปากแตกจนมึงทำปากแบบนั้นใส่กูไม่ได้ซะหรอก ฮึ่ม! ขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้หื่นนะเออ

                    “นี่มึง อย่าริคิดจะล่อลวงน้องกูนะเว้ย  ไม่งั้นมึงพรุนแน่” ผมชี้หน้าขู่

                    “อะ...ไอ้เหี้ย! กูไม่ใช่มึงนะที่จะคอยล่อลวงคนอื่นเขา  น้องมึงน่ะนิสัยน่ารักจะตายทำไมมึงนิสัยเหียกแบบนี้วะ” มันกัดริมฝีปากก่อนจะชี้หน้าด่าผม  ฮึๆ อายล่ะสิมึง

                    “มึงนี่ยังไงวะ? พูดออกมาแต่ละทีนี่กะจะจิกกูให้ได้ว่างั้นเถอะ?” ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน

                    “เออดิ กูไม่ชอบขี้หน้ามึงนี่” มันยักไหล่ใส่ผม

                    “แต่กูชอบว่ะ  โดยเฉพาะหน้าตอนมึง...”

                    “หะ...หุบปากนะโว้ย! ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้...ไอ้...ไอ้ดำ!!” ไอ้เด็กคิมมันรีบพูดดักคำพูดของผม  ฮะๆ ตลกชะมัด  อายจนนึกคำด่าไม่ออกเลยรึไง  แต่ทำไมคำที่มันนึกออกดันเป็นคำว่าดำวะเนี่ย  วอนตีนจริงๆ

                    “พูดว่าดำอีกคำเดียวกูกดแม่งตรงนี้แหละ!” ผมขู่  ที่จริงก็อยากจะทำจริงๆ อ่ะนะ

                    ไอ้เด็กคิมหน้าแดงก่ำก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถของมันที่จอดอยู่ไม่ไกล  ผมมองตามก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจ  มองดีๆ ไอ้เด็กเวรนี่มันก็น่ารักแฮะ

                    “ขำอะไรวะมึง?” ไอ้ขลุ่ยที่เพิ่งกลับมาจากร้านค้าหอบขนมนมเนยมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะมองหน้าผมงงๆ

                    “เปล่า เมื่อกี้หยอกหมานิดหน่อย  สงสัยกลัว วิ่งหางจุกตูดเลย” ผมหัวเราะนิดๆ ไอ้เด็กนั่นมองดีๆ ก็เหมือนหมาอวดดีแต่ขี้ขลาดแฮะ  ถูกขู่เข้าหน่อยก็กลัวจนวิ่งหนี ฮึๆ

                    “ปกติเห็นชอบหมา ทำไมวันนี้แกล้งวะ” ไอ้ขลุ่ยถาม  ที่จริงผมชอบหมาอ่ะนะ  ผมว่ามันซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองดี  ที่บ้านผมก็มีตัวหนึ่ง เป็นตัวผู้พันธุ์โกลเด้น รีทีฟเว่อร์  ทั้งๆ ที่เดิมทีหมาพันธุ์นี้เป็นหมาล่าเนื้อแต่พอกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงมันกลับเชื่องและน่ารักมากทีเดียว  ที่สำคัญเจ้าโกลเด้นของผมน่ะมันขี้ตื่นเหมือนไอ้เด็กคิมเลย  ชอบเห่าวางมาดว่าตัวเองเก่งแต่พอขู่มันกลับกลัวจนตัวสั่น ฮึๆ  ผมเลี้ยงยังไงให้หมาล่าเนื้อกลายเป็นหมาขี้ขลาดได้เนี่ย

                    “มันอวดดีนิดหน่อย ฮึๆ” ผมแสยะยิ้มนิดๆ ไอ้ขลุ่ยจึงทำหน้าแหยงๆ แล้วกินขนมของมันต่อ ไอ้เวรนี่ก็เด็กเหลือเกิน  ชอบกินขนม  แล้วกินไม่แบ่งเพื่อนด้วยนะฮะ

     

                    วันนี้ผมเรียนเสร็จดึกไปหน่อยก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถแล้วไปที่ร้านเหล้าโดยไม่กลับเข้าบ้าน  ไอ้ขลุ่ยเองก็ตามมาติดๆ ส่วนไอ้ลันมันขอบาย  สงสัยวันนี้กะจะนอนกกสุดที่รักล่ะสิ  ไอ้บ้านี่พอมีเมียแล้วทิ้งเพื่อนเลยเว้ย  อย่านะมึง...อย่าให้กูมีบ้างนะ

                    ส่วนไอ้เด็กคิมที่สัญญาว่าจะมาด้วยไม่เห็นโผล่หัวมาเลยทั้งๆ ที่ผมเท็กซ์ไปบอกมันแล้วแท้ๆ ว่าให้มาที่นี่ตอนสองทุ่มแต่ตอนนี้มันเลยเวลานัดมาตั้งสามสิบนาทีละแต่ผมก็บอกมันอยู่นะครับว่าผมจะมาช้าหน่อยเพราะติดเรียน  ส่วนเรื่องเบอร์มือถือมันผมได้มาเพราะแอบขโมยโทรศัพท์มันมากดเบอร์ผมแล้วโทรออกแถมเมมเบอร์ของผมให้มันด้วย

                    “มองหาใครวะไท? ตั้งแต่เมื่อกี้ละ?” ไอ้ขลุ่ยทักขึ้นพลางยกแก้วเหล้าขึ้นจ่อปาก  ตอนนี้พวกเรามานั่งดื่มกันที่เคาน์เตอร์ครับเพราะว่ามากันไม่เยอะ  แต่ปกติพวกผมสามคนรวมไอ้ลันก็มักมานั่งดื่มชิลล์ๆ กันที่เคาน์เตอร์นี่แหละเพราะที่โต๊ะมันวุ่นวาย  พวกผู้หญิงชอบมาขอชนแก้วแล้วถือโอกาสนั่งด้วยซะเลยน่ะสิ  บางทีมันก็รำคาญอ่ะครับ  ทำไมน่ะเหรอ? ก็ผู้หญิงมานัวเนียกับผมไม่บ่อยเท่าไอ้สองคนนั้นนี่หว่า  ทำไมวะ แค่ในผับมันมืดแล้วกูก็แค่ตัวดำนิดหน่อยเท่านั้นเอง

                    “กูนัดคนมาน่ะ  ตอนนี้ยังไม่เห็นมาเลย” ผมขมวดคิ้วนิดๆ

                    “งั้นก็โทรหาดิวะ” ไอ้ขลุ่ยพูด

                    “เออว่ะ” ผมทำท่านึกขึ้นได้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์ได้เด็กนั่นแล้วโทรออก

                    เสียงสัญญาณดังขึ้นสักพักก่อนจะมีคนกดรับ  ผมย่นจมูกนิดๆ เมื่อปลายสายที่รับไม่ใช่ไอ้เด็กคิมแต่เป็นเสียงผู้หญิง  ไม่ใช่ว่ามันไปกกผู้หญิงจนลืมนัดผมหรอกนะ

                    “นี่ใช่เบอร์คิมไหมครับ?” ผมถามเพื่อความแน่ใจ

                    “เอ่อ...คือพี่คิมเขาหลับอยู่น่ะค่ะ” เสียงใสๆ น่ารักๆ บอกอย่างเลิ่กลั่ก  เสียงนั้นคุ้นๆ แฮะ  หรือจะเป็นเสียงพี่สาวมัน  แต่เมื่อกี้ปลายสายพูดว่า พี่คิม นี่นา

                    “แล้วนั่นใครพูดครับ?” ผมถามเสียงเย็น

                    “เอ่อ...คือว่า...ปะ...”

                    “รีบบอกสิครับ!” ผมตะคอก  อึกอักอยู่ได้

                    “แง้ ไลลาอ่ะ คนที่โทรมาดุมากเลย เค้าไม่กล้าคุยอ่า” เสียงแว่วๆ ดังขึ้นเหมือนกับปลายสายดึงโทรศัพท์ออกห่างหู  พอได้ยินปลายสายพูดผมก็ช็อคสิครับเพราะนั่นน่ะยัยทิวา! ถึงว่าทำไมเสียงคุ้นๆ ไม่คิดว่ายัยทิวาจะเป็นคนรับโทรศัพท์ของไอ้คิม

                    “ทิวา! เฮียเอง!” ผมตะโกนบอก

                    “ฮะ!? เฮียไท?” ยัยทิวากลับมาพูดกับผมพลางถามย้ำว่าเป็นผมจริงหรือเปล่า

                    “ใช่น่ะสิ  แล้วทำไมถึงได้มารับโทรศัพท์ของไอ้คิมฮะ!?” ผมถามเสียงดุๆ  หวังว่าไอ้คิมคงจะไม่ได้ล่อลวงน้องผมจริงๆ หรอกนะ  แต่ว่าน้องไลลาก็อยู่ด้วยนี่นา คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

                    “พี่คิมเขามาสอนวาดรูปที่บ้านน่ะแต่ว่าพี่เขาหลับไปแล้ว  ตอนนี้ก็นอนอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นนี่แหละ  ทิวาไม่กล้าปลุกอ่ะ” ยัยทิวาบอก  เสียงหวาดกลัวเมื่อกี้หายไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อรู้ว่าปลายสายคือผม

                    “เออๆ เดี๋ยวเฮียรีบกลับ” ผมบอกก่อนจะวางสาย “ขลุ่ย กลับป่ะ  กูติดธุระกับยัยทิวานิดหน่อย” ผมพูดรัวๆ ก่อนจะหันไปจ่ายเงินค่าเหล้า  จ่ายให้ไอ้เชี่ยขลุ่ยด้วยเพราะผมรู้ว่ามันต้องแกล้งไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา  มันทำอย่างนี้กับผมตลอดครับ

                    “เคๆ” พูดจบมันก็เดินตัวปลิวออกจากร้านอย่างชิลล์ๆ ก็มันไม่ได้จ่ายเงินนี่ครับ  ยิ้มหน้าระรื่นเชียวนะมึง

     

                    ผมรับบึ่งรถกลับบ้านเพราะวันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ไปติดต่องานที่ต่างประเทศผมกลัวพวกยัยน้องทำอะไรไม่ถูกที่เห็นไอ้เด็กคิมมันนอนหลับ  ฟังจากเสียงเมื่อกี้ก็พอจะเดาออกอยู่หรอกว่าเด็กสองคนนั้นลำบากใจจนทำอะไรไม่ถูก  นี่มันก็ดึกแล้วคงไม่กล้าปลุกไอ้คิมด้วย  แล้วทำไมมันนอนหลับลงไปได้วะ  แล้วไหนมันบอกว่าจะนัดพวกน้องๆ ไปที่อื่นไงล่ะ

                    “ทิวา ไลลา ไหนล่ะไอ้คิม?” ผมวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะถามน้องทั้งสองที่นั่งค้ำคางอยู่บนโซฟา  สองคนนั้นพร้อมใจกันชี้ไปที่โซฟาตัวยาวผมจึงเดินไปส่องดูทำให้เจอไอ้คิมนอนกอดหมอนอิงหลับปุ๋ยไปอย่างไร้เดียงสา แต่อย่าให้มันตื่นขึ้นมาเชียวเพราะความไร้เดียงสาของมันจะหายไปทันที

                    “เหมือนพี่คิมเขารอเฮียนะ  เห็นบอกว่าเฮียจะเลี้ยงอะไรสักอย่างก็เลยจะอยู่รอ” ยัยทิวาบอก  ผมมองไอ้คิมก่อนจะตบหน้าผากดังแป๊ะ  ไอ้เวรนี่มันไม่เปิดดูโทรศัพท์มันเลยรึไงนะ  ก็บอกว่าให้ไปรอที่ร้านไม่ใช่ให้มารอที่บ้าน

                    “งั้นเดี๋ยวให้มันค้างที่นี่แหละ  เฮียจะพามันไปนอนเอง  ไลลา พี่ไปส่งป่ะ” ผมบอกยัยทิวาก่อนจะหันไปหาไลลา  ต้องส่งให้ถึงบ้านโดยสวัสดิ์ภาพครับไม่งั้นตีนสองคู่ได้กระทืบผมไส้ไหลแน่  ยังไงๆ ผมก็สู้พี่ชายทั้งสองคนของน้องไลลาไม่ไหว  พวกนั้นเขามีระดับการต่อสู้ส่วนผมมันมวยวัดครับ เหอๆ

                    “ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวพี่ลุกซ์มารับ” น้องไลลาบอก

                    “โอเค ว่าแต่กินข้าวกันหรือยัง?” ผมถาม

                    “พวกเรากินแล้วแต่พี่คิมยังไม่กินเลย” ยัยทิวาตอบ

                    “ทำไมไม่เรียกมันไปกินด้วยล่ะ?” ผมถามต่อ  ไอ้เด็กคิมเห็นภายนอกดูตัวใหญ่ก็จริงแต่ที่จริงมันผอมพอสมควรเลยล่ะ  ถึงตัวไม่เบามากแต่ก็ถือว่าเบาในระดับของคนที่ตัวสูงขนาดมัน

                    “เรียกแล้วแต่พี่เขาบอกว่าไม่กินนี่นา” ยัยทิวาย่นจมูก  ผมขยี้หัวมันเบาๆ ก่อนจะเดินไปอุ้มไอ้คิมไว้ในอ้อมแขน

                    “กรี๊ดดด!” ผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของน้องสาวทั้งสองคน  มันกรี๊ดอะไรกันวะเนี่ย

                    “อะไร? เกิดอะไรขึ้น?” ผมหันกลับไปถามอย่างสงสัย

                    “พี่ไทอ่ะ! หนูชอบนะแบบนี้ คิกๆ” น้องไลลายิ้มเขินๆ ก่อนจะจิ้มแขนผมเบาๆ นอกจากน้องไลลาจะเขินแล้วยัยทิวาก็ยังเขินตามไปอีกด้วย  อะไรวะเนี่ย  จะหน้าแดงกันทำไมวะฮะ!?

                    “ชอบอะไรไลลา?” ผมขมวดคิ้วถามงงๆ

                    “ก็แบบ...เหมือนพี่ลันกับพี่ไอไง คิกๆ ชอบบบบ” น้องไลลาหัวเราะคิกคักกับยัยทิวาอย่างสนุกสนานผมจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วอุ้มไอ้คิมเดินขึ้นไปบนห้อง

     

                    “งืมมมม” พอผมวางไอ้เด็กคิมไว้บนที่นอนมันก็ดิ้นไปมาแล้วกลิ้งหลุนๆ ไปกอดหมอนข้างที่ผมกอดทุกวันทันที

                    “ไอ้คิม  ไอ้คิม!” ผมตบแก้มเรียกมันเบาๆ เพื่อจะให้มันไปอาบน้ำก่อน

                    “อือ อย่าปลุกน่าแม่” คิ้วผมกระตุกทันทีที่มันเรียกผมว่าแม่  ไอ้เด็กเวรนี่  เสียงแม่มึงเป็นอย่างนี้หรือไงวะ

                    “ไอ้คิม! กูไม่ใช่แม่มึง  ถ้ามึงไม่ลุกขึ้นมาดีๆ กูจะปล้ำมึง!” ผมขู่เสียงดัง

                    พรึ่บ!

                    “ว้ากกกกก!!” ทันทีที่สิ้นสุดเสียงขู่ของผมไอ้คิมก็เบิกตากว้างก่อนจะแหกปากร้องออกมาทันที

                    “จุ๊บ!!” ผมยื่นหน้าไปจูบปากมันทันทีเพราะไม่อยากให้พวกเด็กๆ ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของมัน

                    “อะ...ไอ้...ไอ้...ไอ้ดำ!! มึงจูบกูทำไม!?!” ไอ้คิมผลักผมออกห่างก่อนจะถูปากของตัวเองไปมา  ทำเป็นหวง ปัดโธ่! แค่จูบแค่นี้เองนะมึง  มากกว่านี้กูก็ทำมาแล้วแท้ๆ

                    “แล้วมึงจะแหกปากให้คนทั้งบ้านกูตื่นหรือไงฮะ!?” ผมตะคอกใส่มัน

                    “ละ...แล้วมึงเข้ามาในห้องกูได้ไงวะ?” อ้าวไอ้เวร  เมื่อกี้ก็ก็บอกอยู่แหมบๆ ว่านี่บ้านกูไม่ใช่บ้านมึง  ฝันว่าตัวเองได้กลับบ้านรึไงวะเนี่ย

                    “สัตว์! มึงดูดีๆ ดิ๊ว่านี่ห้องใคร?” ผมเท้าสะเอวก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องของตัวเอง

                    “เออว่ะ งั้นกูไปละ” มันพูดก่อนจะรีบปีนลงจากเตียง  ผมดึงแขนมันเอาไว้ก่อนจะเหวี่ยงมันลงไปที่เตียงอีกรอบ  หน้าตาของมันตอนที่ร่างนอนราบลงบนเตียงโคตรจี้เลยครับ  มันทำหน้าตื่นกลัวเหมือนกับว่าผมกำลังจะทำอะไรมันอย่างนั้นแหละ  แต่มันอาจจะคิดถูกก็ได้ ฮึๆ

                    “จะไปไหน? รอกูไม่ใช่เหรอ?” ผมยิ้มที่มุมปากก่อนจะคลานขึ้นเตียง  เด็กคิมเบิกตากว้างก่อนจะถอยกรูดชิดผนัง  เห็นหน้ามันตอนนี้แล้วอยากจะปล่อยก๊ากออกมาให้ลั่น  หลังจากเสียประตูชัยไปรู้สึกจะทำตัวแต๋วขึ้นแฮะ ฮ่าๆ

                    “ก็มึงบอกว่าจะเลี้ยงเหล้ากู” มันพูดพลางหยิบหมอนมากันไม่ให้ผมเข้าไปใกล้มัน

                    “กูไปรอมึงที่ร้าน  มึงไม่ไปเอง” ผมยักไหล่นิดๆ ก่อนจะยื้อแย่งหมอนกับมัน

                    “อ้าว? ก็มึงไม่ได้บอกกูนี่ว่าให้กูไปรอที่ร้านไหนกูก็เลยมารอที่บ้านมึงไง” มันพูดพลางคว้าหมอนข้างมากันไว้เมื่อผมกระชากหมอนใบนั้นหลุดออกจากมือมัน  ดูมันลนลานมากเลยล่ะครับ  ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง

                    “กูเท็กซ์มาบอกมึงแล้ว  ทำไมไม่ดู?” ผมขมวดคิ้วนิดๆ

                    “มึงเท็กซ์มาเหรอ? กูไม่รู้ ไม่ได้ดูโทรศัพท์” มันรีบบอก

                    “ไม่รู้ล่ะ  มึงผิดนัดกู  เพราะงั้นวันนี้มึงมาอยู่กับกูซะดีๆ” ผมโยนหมอนข้างทิ้งไปก่อนจะดึงข้อเท้าไอ้เด็กคิมเข้าหาตัวเองจนร่างมันไถลเข้ามาแนบร่างผม

                    “เหวอออ  พ่อกูดุ ถ้ากูกลับดึกเดี๋ยวถูกด่า  นี่ไง! โทรมาพอดีเลย แฮะๆ” ไอ้คิมพูดเสียงลนๆ ก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้น  ผมจับขามันแยกก่อนแทรกตัวเองเข้าไปตรงกลางระหว่างขาของมัน   มันทำหน้าตื่นกลัวพลางขยับตัวหนีแต่ผมรั้งไว้

                    “พ่อมึงโทรมาก็รับสิ” ผมเลิกคิ้วกวนๆ มันทำปากยื่นใส่ผมก่อนจะกดรับสาย

                    “ครับพ่อ...เหวอ ไอ้ดำ! ทำอะไรน่ะ!?” พอมันกดรับผมก็แย่งโทรศัพท์มันมาพูดเอง

                    “สวัสดีครับ  ผมชื่อไทเป็นรุ่นพี่ของน้องคิมครับผม” ผมกรอกเสียงลงไปก่อนจะเอื้อมมือไปปิดปากไอ้คิมไม่ให้มันโวยวาย

                    “นี่อยู่ที่ไหนกัน?” พ่อของไอ้คิมถามเสียงดุๆ

                    “อยู่ที่บ้านของผมครับ  พอดีว่าน้องคิมเขามาสอนน้องของผมวาดภาพ  ผมเห็นว่ามันดึกแล้วไม่อยากให้น้องเขาขับรถกลับน่ะครับมันอันตรายผมก็เลยให้น้องเขาอยู่ค้างกับผมที่นี่” ผมพูดยิ้มๆ

                    “ใครบอกว่ากูจะค้างกับมึง...” ไอ้คิมดิ้นก่อนจะโวยวายผมจึงรีบเอามืออุดปากมันเอาไว้เพราะเดี๋ยวพ่อมันจะสงสัย

                    “แล้วไป  พ่อกลัวว่ามันจะโกหกแล้วไปเที่ยวนอนกับผู้หญิง” พ่อมันถอนหายใจ  ผมยกยิ้มก่อนจะหรี่ตามองมัน  ฮึๆ มันไม่นอนกับผู้หญิงหรอกครับเพราะมันจะต้องนอนกับผมที่เป็นผู้ชาย ฮึๆ  ถ้าผมบอกพ่อมันออกไปอย่างที่คิดพ่อมันจะช็อคไหมนะ  น่าสนใจจริงๆ

                    “ไม่ต้องห่วงครับ  เดี๋ยวผมจะดูแลน้องเองนะครับ  พรุ่งนี้จะไปส่งให้ถึงมือคุณพ่อเลยครับ” ผมพูดพลางหัวเราะ  ไอ้คิมถลึงตามองผมก่อนจะทุบตีผมอย่างหมั่นไส้ผมจึงถลึงตาขู่  ขืนมันตีผมอีกครั้งผมจะจัดการมันต่อหน้าพ่อมันนี่แหละ  ลองดูสิ!

                    “ฝากด้วยนะ  อย่าให้มันไปเถลไถลที่ไหนล่ะ” พูดจบพ่อไอ้คิมก็วางสายไป  ผมแสยะยิ้มก่อนจะโยนโทรศัพท์ของมันไปไว้ที่โซฟาแล้วคร่อมตัวของมันเอาไว้

                    “ไอ้ดำ อย่าทำแบบนี้นะเว้ย  กูเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะเว้ย!” ไอ้คิมมันยกมือขึ้นมาดันหน้าของผมออกให้ห่างก่อนจะพยายามคลานหนีจากวงแขนของผม

                    “ก็รู้ ก็เมื่อกี้กูยังคุยกับพ่อมึงอยู่เลยนี่นา ฮึๆ” ผมรวบข้อมือของมันเอาก่อนจะตรึงไว้กับเตียงพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หน้ามัน  มันหลบตาปี๋เม้มปากแน่น  ผมมองขำๆ ก่อนจะผละออกไป “ถ้ากูอาบเสร็จมึงก็อาบต่อด้วยล่ะ ฮึๆ” ผมหัวเราะนิดๆ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ  เมื่อกี้มันคิดว่าผมจะจูบมันเหรอ? ตอนแรกก็ว่าจะทำอย่างนั้นแหละแต่พอเห็นหน้ามันแล้วผมแทบหลุดหัวเราะก็เลยต้องรีบผละออกมา  และผมก็อยากแกล้งมันด้วยเพราะเมื่อกี้ที่ผมไม่จูบ มันแอบทำหน้าเสียดาย  ผมเห็น ฮึๆ

     

                    ผมออกจากห้องน้ำโดยพันผ้าเช็ดตัวไว้ผืนเดียวที่ช่วงล่างทำให้ไอ้เด็กคิมมันด่าว่าผมทุเรศก่อนจะมันจะเดินไปค้นตู้เสื้อผ้าผมกระจุยเพื่อหาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่และชุดนอน  ไอ้เด็กนรก! ผ้าเช็ดตัวมันแขวนอยู่ข้างนอก  อีกอย่างชุดนอนก็แขวนอยู่ในตู้แล้วมึงจะค้นเสื้อผ้าที่พับไว้ทำห่าอะไรวะเนี่ย!? แกล้งกูชัดๆ

                    ผมมองตามหลังไอ้เด็กนั่นก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยปิดไฟที่ให้แสงสว่างหลักแล้วเปิดโคมไฟที่หัวเตียงแทน

     

                    หลังจากอาบน้ำเสร็จไอ้เด็กเวรนั่นก็ถีบผมที่นอนแผ่เต็มเตียงไปชิดมุมแล้วตัวเองก็กระโดดมานอนข้างๆ โดยตะแคงข้างหันหลังให้ผม  ผมมองแผ่นหลังมันก่อนจะเหยียดแขนออกไปแล้วโอบรัดตัวมัน

                    “ไอ้ดำ! ทำอะไรของมึงน่ะ!?” มันโวยวายทันทีที่ตัวเองถูกกอดจากด้านหลัง

                    “มึงคิดว่ากูทำอะไรล่ะ?” ผมถามกลับ  เห็นไอ้เด็กนี่โมโหแล้วสนุกดีครับ  หน้าตาตอนโมโหของมันตลกดี

                    “มึงนอนดีๆ ไม่ได้หรือไงวะฮะ!?” มันดิ้นแด่วๆ ก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามาหาผมทำให้จมูกของเราแตะกันและนั่นก็ทำให้ไอ้เด็กคิมชะงักไป  ผมกับมันจ้องตากันอยู่สักพักก่อนที่ผมจะจับหัวทุยๆ ของมันมาซุกที่อก  มันนิ่งไปก่อนจะค่อยๆ ยื่นแขนออกมาพาดที่ช่วงเอวของผม

                    ผมอึ้งที่เห็นมันทำแบบนี้แต่ซักพักผมก็ยิ้มออกมาบางๆ  อะไรกัน? จู่ๆ ก็ทำตัวน่ารักแบบนี้เดี๋ยวสัญชาตญาณสัตว์ป่ากูก็ตื่นหรอก  แต่พอมันทำแบบนี้แล้วก็กดไม่ลงแฮะ  รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละเลงสีลงบนผ้าขาวแม้ว่าไอ้เด็กนี่มันจะห่างไกลคำว่าใสซื่อบริสุทธิ์ก็ตาม  แต่พออยู่แบบนี้แล้วมันดูเหมือนเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งเลยแฮะ

                    “ถ้าง่วงก็นอน” ผมบอกพลางขยี้ผมของมันเบาๆ

                    “มึงน่ะ...ทำไมถึงเรียกพี่ไอว่าสุดที่รักล่ะ?” จู่ๆ มันก็ถามขึ้นมา  มันไม่เงยหน้าขึ้นมาถาม ตรงกันข้ามมันกลับมุดหน้าลงมาที่อกผมมากกว่าเดิม

                    “ทำไม? หึงเหรอ?” ผมแกล้งถามกวนๆ

                    “เออ” ผมอึ้ง  รู้สึกหน้าร้อนๆ แฮะ “กูสิต้องเรียกพี่ไอแบบนั้น” เลือดที่พลุ่งพล่านภายในกายชะงักลง ณ บัดดล  ไอ้เหี้ย! หึงสุดที่รักก็ไม่บอกให้เคลียร์ตั้งแต่แรก  ไอ้เด็กเวร

                    “มึงไม่มีสิทธิ” ผมพูดเสียงแข็ง  บังอาจทำให้อารมณ์กูดร็อปนะมึง  เออ ก็รู้ว่ามึงชอบสุดที่รักแต่ไม่ต้องมาแสดงอาการนั้นกับกูก็ได้  ชิ!!

                    “ทำไม?”

                    “กูเรียกชื่อนั้นได้แค่คนเดียว” ผมพูด  ก็ไอ้ขลุ่ยเรียกสุดที่รักว่าฮันนี่ ไอ้ลันเรียกว่าสูง ส่วนคนอื่นๆ ก็เรียกว่าไอเพราะฉะนั้นคนที่เรียกสุดที่รักว่าสุดที่รักก็มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น  (ถ้าไม่นับรวมอาจารย์อ่ะนะ)

                    ไอ้เด็กคิมนิ่งเงียบไปสักพักก่อนกำปั้นหนักๆ จะทุบลงที่อกของผมอย่างแรงจนผมจุกจากนั้นร่างที่นอนซบที่อกของผมก็กลิ้งออกไปแล้วนอนตะแคงข้างหันหลังให้ผมเหมือนเดิม  นี่มันงอนอะไรของมันอีก  อย่าบอกนะว่างอนที่ผมพูดไปอย่างนั้น  แต่ว่านะ...ถึงมันจะชอบสุดที่รักมากแค่ไหนมันก็ไม่สมหวังหรอกเพราะสุดที่รักเป็นของไอ้ลันและไอ้ลันก็ทั้งรักทั้งหวงจนใครแตะต้องไม่ได้  ไอ้คิมมันน่าสงสารนะ  ไปรักคนที่มีเจ้าของแถมเจ้าของคนที่มันรักก็เสือกดุยิ่งกว่าหมาสิบตัวรวมกันซะอีก

                    รักกูดีกว่าไหม...?

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    พรุ่งนี้มีภารกิจ  รีบลงก่อนที่จะไม่ได้ลง  แล้วเดี๋ยวว่างๆ เค้ามาแก้น้า ><

    แอบเขินประโยคสุดท้ายของอิพี่ไทอ่ะ  คิๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×