คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #52 : Forbidden rule 3: [TK] เกรียนงอนโหด
Special Tai’s part
ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้อารมณ์ผมมันพลุ่งพล่านแปลกๆ ยิ่งเห็นหน้าหล่อๆ ของไอ้เด็กวัยละอ่อนอารมณ์ผมยิ่งพุ่งพรวดๆ ผมยังแปลกใจตัวเองอยู่เลยครับว่าผมเป็นอะไร ไอ้คนอย่างผมไม่น่าจะมีอารมณ์ทางเพศกับผู้ชายได้เลยแต่ยิ่งนึกถึงหน้าหล่อๆ ของไอ้หมอนั่นตอนที่ผมอยู่ในตัวมันนะ...ฮึ่ม! อยากได้อีกชะมัดเลย
“ไอ้ดำ! พี่ไอมาไหม?” ผมหลุดออกจากภวังค์เมื่อไอ้เด็กคิมที่ผมกำลังนึกถึงเดินเข้ามาตบไหล่ ไอ้เวรนี่มาหาสุดที่รักทุกวันก่อนไปโรงเรียนเลยล่ะครับ มึงมาได้ถูกจังหวะมากไอ้หนู ฮึๆ “ทำหน้าอะไรของมึงน่ะ สยองว่ะ” ไอ้เด็กทำหน้าแหยงๆ เมื่อผมแสยะยิ้มมองหน้ามัน
“คืนนี้ไปกินเหล้าไหม? กูเลี้ยงเอง” ผมเอ่ยชวน กะจะมอมเหล้าเด็กครับ
“ไม่โว้ย! นี่ มึงมีจุดประสงค์เลวๆ ใช่ไหม มึงจะมอมเหล้ากูใช่ไหมฮะ?” มันขมวดคิ้วทำหน้าหาเรื่อง รู้ทันกูอีก กูแค่อยากเห็นหน้าตอนมีอารมณ์ของมึงแล้วก็อยากได้ยินเสียงมึงครางแค่นั้นเอ๊ง ไม่ได้หื่นเล้ย!
“บลูเลเบิล” ผมเอาชื่อเหล้าราคาแพงมาล่อมัน นักเรียนอย่างมันไม่มีปัญญาซื้อดื่มเองหรอกครับ
“ห้ามมอมกูนะมึง ถึงกูเมาก็ห้ามยุ่งกับกูโอเคมะ?” รีบตกลงทันทีเลยนะไอ้เด็กเปรต
“กลัวอะไรนักหนา ตุ๊ดว่ะ” ผมหลอกด่า ถ้าผมเป็นมันผมก็กลัวครับ ฮ่าๆ
“มึงสิตุ๊ด แล้วนี่พี่ไอของกูมาเรียนไหม?” ไอ้เด็กนั่นทำหน้าหงุดหงิดนิดๆ ก่อนจะถามคำถามที่ผมไม่ได้ตอบมันซ้ำอีกครั้ง
“มา แต่ตอนนี้ไปกับไอ้ลัน ชัดไหม?” ผมยักคิ้ว ไอ้เด็กคิมทำหน้าหงุดหงิดนิดๆ ก่อนจะกอดอก
“แล้วนี่น้องมึงอ่ะ ถามถึงกูบ้างไหม?” มันถาม ผมไม่อยากจะบอกเลยว่าน้องผมถามถึงมันทุกวัน ถามว่าพี่คิมจะมาอีกไหม พอผมบอกว่าไม่มายัยนั่นก็อ้อนขอให้ผมพาไอ้คิมมาอีกจนผมรำคาญ จะปลื้มอะไรหนักหนา อย่างไอ้หมอนี่มีอะไรให้ปลื้ม โอเค ยอมรับว่ามันวาดรูปสวยมาก
ผมแอบเข้าไปดูเพจมันหลังจากที่สืบข้อมูลมาจากยัยทิวา ภาพทุกภาพที่มันเอาลงให้แฟนเพจดูสวยมากเลยล่ะครับ ผมเห็นยังอึ้ง ไม่คิดว่าท่าทางอย่างมันจะละเอียดอ่อนขนาดนี้
“เออ” ผมตอบสั้นๆ
“เย็นนี้น้องมึงอยู่ป่ะ? เดี๋ยวกูเข้าไปหา สัญญาว่าจะไปหาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้ไปซักที” ไอ้คิมพูด
“จะไปน่ะมึงขออนุญาตเจ้าของบ้านอย่างกูหรือยังวะ?” ผมเลิกคิ้วกวนตีน แต่มันมาที่บ้านผมก็ดี ถึงปกติผมจะไม่ได้พาผู้หญิงไปกกที่บ้านก็เถอะนะแต่ถ้ามันไปผมจะไม่ให้มันกลับเลยคอยดูสิ พูดแล้วอยากว่ะ อย่าหาว่าผมหื่นเลย ช่วงนี้ผมอดอยากปากแห้ง ไม่เหมือนไอ้ลันหรอกนะที่มีให้กินทุกวัน ส่วนไอ้ขลุ่ยเห็นอย่างนั้นแต่มันอ่อนด๋อยเรื่องแบบนี้เป็นบ้า ขนาดน้องชายมันยังกินผู้หญิงเป็นว่าเล่น แพ้น้องแล้วมึงเอ๊ย
“กูจะนัดน้องมึงออกมาข้างนอกต่างหาก กูไม่ไปบ้านมึงไอ้บ้า!” ไอ้เด็กคิมเบะปากใส่ผม เอาเข้าไป เดี๋ยวกูแม่งจูบให้ปากแตกจนมึงทำปากแบบนั้นใส่กูไม่ได้ซะหรอก ฮึ่ม! ขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้หื่นนะเออ
“นี่มึง อย่าริคิดจะล่อลวงน้องกูนะเว้ย ไม่งั้นมึงพรุนแน่” ผมชี้หน้าขู่
“อะ...ไอ้เหี้ย! กูไม่ใช่มึงนะที่จะคอยล่อลวงคนอื่นเขา น้องมึงน่ะนิสัยน่ารักจะตายทำไมมึงนิสัยเหียกแบบนี้วะ” มันกัดริมฝีปากก่อนจะชี้หน้าด่าผม ฮึๆ อายล่ะสิมึง
“มึงนี่ยังไงวะ? พูดออกมาแต่ละทีนี่กะจะจิกกูให้ได้ว่างั้นเถอะ?” ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน
“เออดิ กูไม่ชอบขี้หน้ามึงนี่” มันยักไหล่ใส่ผม
“แต่กูชอบว่ะ โดยเฉพาะหน้าตอนมึง...”
“หะ...หุบปากนะโว้ย! ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้...ไอ้...ไอ้ดำ!!” ไอ้เด็กคิมมันรีบพูดดักคำพูดของผม ฮะๆ ตลกชะมัด อายจนนึกคำด่าไม่ออกเลยรึไง แต่ทำไมคำที่มันนึกออกดันเป็นคำว่าดำวะเนี่ย วอนตีนจริงๆ
“พูดว่าดำอีกคำเดียวกูกดแม่งตรงนี้แหละ!” ผมขู่ ที่จริงก็อยากจะทำจริงๆ อ่ะนะ
ไอ้เด็กคิมหน้าแดงก่ำก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถของมันที่จอดอยู่ไม่ไกล ผมมองตามก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจ มองดีๆ ไอ้เด็กเวรนี่มันก็น่ารักแฮะ
“ขำอะไรวะมึง?” ไอ้ขลุ่ยที่เพิ่งกลับมาจากร้านค้าหอบขนมนมเนยมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะมองหน้าผมงงๆ
“เปล่า เมื่อกี้หยอกหมานิดหน่อย สงสัยกลัว วิ่งหางจุกตูดเลย” ผมหัวเราะนิดๆ ไอ้เด็กนั่นมองดีๆ ก็เหมือนหมาอวดดีแต่ขี้ขลาดแฮะ ถูกขู่เข้าหน่อยก็กลัวจนวิ่งหนี ฮึๆ
“ปกติเห็นชอบหมา ทำไมวันนี้แกล้งวะ” ไอ้ขลุ่ยถาม ที่จริงผมชอบหมาอ่ะนะ ผมว่ามันซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองดี ที่บ้านผมก็มีตัวหนึ่ง เป็นตัวผู้พันธุ์โกลเด้น รีทีฟเว่อร์ ทั้งๆ ที่เดิมทีหมาพันธุ์นี้เป็นหมาล่าเนื้อแต่พอกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงมันกลับเชื่องและน่ารักมากทีเดียว ที่สำคัญเจ้าโกลเด้นของผมน่ะมันขี้ตื่นเหมือนไอ้เด็กคิมเลย ชอบเห่าวางมาดว่าตัวเองเก่งแต่พอขู่มันกลับกลัวจนตัวสั่น ฮึๆ ผมเลี้ยงยังไงให้หมาล่าเนื้อกลายเป็นหมาขี้ขลาดได้เนี่ย
“มันอวดดีนิดหน่อย ฮึๆ” ผมแสยะยิ้มนิดๆ ไอ้ขลุ่ยจึงทำหน้าแหยงๆ แล้วกินขนมของมันต่อ ไอ้เวรนี่ก็เด็กเหลือเกิน ชอบกินขนม แล้วกินไม่แบ่งเพื่อนด้วยนะฮะ
วันนี้ผมเรียนเสร็จดึกไปหน่อยก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถแล้วไปที่ร้านเหล้าโดยไม่กลับเข้าบ้าน ไอ้ขลุ่ยเองก็ตามมาติดๆ ส่วนไอ้ลันมันขอบาย สงสัยวันนี้กะจะนอนกกสุดที่รักล่ะสิ ไอ้บ้านี่พอมีเมียแล้วทิ้งเพื่อนเลยเว้ย อย่านะมึง...อย่าให้กูมีบ้างนะ
ส่วนไอ้เด็กคิมที่สัญญาว่าจะมาด้วยไม่เห็นโผล่หัวมาเลยทั้งๆ ที่ผมเท็กซ์ไปบอกมันแล้วแท้ๆ ว่าให้มาที่นี่ตอนสองทุ่มแต่ตอนนี้มันเลยเวลานัดมาตั้งสามสิบนาทีละแต่ผมก็บอกมันอยู่นะครับว่าผมจะมาช้าหน่อยเพราะติดเรียน ส่วนเรื่องเบอร์มือถือมันผมได้มาเพราะแอบขโมยโทรศัพท์มันมากดเบอร์ผมแล้วโทรออกแถมเมมเบอร์ของผมให้มันด้วย
“มองหาใครวะไท? ตั้งแต่เมื่อกี้ละ?” ไอ้ขลุ่ยทักขึ้นพลางยกแก้วเหล้าขึ้นจ่อปาก ตอนนี้พวกเรามานั่งดื่มกันที่เคาน์เตอร์ครับเพราะว่ามากันไม่เยอะ แต่ปกติพวกผมสามคนรวมไอ้ลันก็มักมานั่งดื่มชิลล์ๆ กันที่เคาน์เตอร์นี่แหละเพราะที่โต๊ะมันวุ่นวาย พวกผู้หญิงชอบมาขอชนแก้วแล้วถือโอกาสนั่งด้วยซะเลยน่ะสิ บางทีมันก็รำคาญอ่ะครับ ทำไมน่ะเหรอ? ก็ผู้หญิงมานัวเนียกับผมไม่บ่อยเท่าไอ้สองคนนั้นนี่หว่า ทำไมวะ แค่ในผับมันมืดแล้วกูก็แค่ตัวดำนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“กูนัดคนมาน่ะ ตอนนี้ยังไม่เห็นมาเลย” ผมขมวดคิ้วนิดๆ
“งั้นก็โทรหาดิวะ” ไอ้ขลุ่ยพูด
“เออว่ะ” ผมทำท่านึกขึ้นได้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์ได้เด็กนั่นแล้วโทรออก
เสียงสัญญาณดังขึ้นสักพักก่อนจะมีคนกดรับ ผมย่นจมูกนิดๆ เมื่อปลายสายที่รับไม่ใช่ไอ้เด็กคิมแต่เป็นเสียงผู้หญิง ไม่ใช่ว่ามันไปกกผู้หญิงจนลืมนัดผมหรอกนะ
“นี่ใช่เบอร์คิมไหมครับ?” ผมถามเพื่อความแน่ใจ
“เอ่อ...คือพี่คิมเขาหลับอยู่น่ะค่ะ” เสียงใสๆ น่ารักๆ บอกอย่างเลิ่กลั่ก เสียงนั้นคุ้นๆ แฮะ หรือจะเป็นเสียงพี่สาวมัน แต่เมื่อกี้ปลายสายพูดว่า พี่คิม นี่นา
“แล้วนั่นใครพูดครับ?” ผมถามเสียงเย็น
“เอ่อ...คือว่า...ปะ...”
“รีบบอกสิครับ!” ผมตะคอก อึกอักอยู่ได้
“แง้ ไลลาอ่ะ คนที่โทรมาดุมากเลย เค้าไม่กล้าคุยอ่า” เสียงแว่วๆ ดังขึ้นเหมือนกับปลายสายดึงโทรศัพท์ออกห่างหู พอได้ยินปลายสายพูดผมก็ช็อคสิครับเพราะนั่นน่ะยัยทิวา! ถึงว่าทำไมเสียงคุ้นๆ ไม่คิดว่ายัยทิวาจะเป็นคนรับโทรศัพท์ของไอ้คิม
“ทิวา! เฮียเอง!” ผมตะโกนบอก
“ฮะ!? เฮียไท?” ยัยทิวากลับมาพูดกับผมพลางถามย้ำว่าเป็นผมจริงหรือเปล่า
“ใช่น่ะสิ แล้วทำไมถึงได้มารับโทรศัพท์ของไอ้คิมฮะ!?” ผมถามเสียงดุๆ หวังว่าไอ้คิมคงจะไม่ได้ล่อลวงน้องผมจริงๆ หรอกนะ แต่ว่าน้องไลลาก็อยู่ด้วยนี่นา คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
“พี่คิมเขามาสอนวาดรูปที่บ้านน่ะแต่ว่าพี่เขาหลับไปแล้ว ตอนนี้ก็นอนอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นนี่แหละ ทิวาไม่กล้าปลุกอ่ะ” ยัยทิวาบอก เสียงหวาดกลัวเมื่อกี้หายไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อรู้ว่าปลายสายคือผม
“เออๆ เดี๋ยวเฮียรีบกลับ” ผมบอกก่อนจะวางสาย “ขลุ่ย กลับป่ะ กูติดธุระกับยัยทิวานิดหน่อย” ผมพูดรัวๆ ก่อนจะหันไปจ่ายเงินค่าเหล้า จ่ายให้ไอ้เชี่ยขลุ่ยด้วยเพราะผมรู้ว่ามันต้องแกล้งไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา มันทำอย่างนี้กับผมตลอดครับ
“เคๆ” พูดจบมันก็เดินตัวปลิวออกจากร้านอย่างชิลล์ๆ ก็มันไม่ได้จ่ายเงินนี่ครับ ยิ้มหน้าระรื่นเชียวนะมึง
ผมรับบึ่งรถกลับบ้านเพราะวันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ไปติดต่องานที่ต่างประเทศผมกลัวพวกยัยน้องทำอะไรไม่ถูกที่เห็นไอ้เด็กคิมมันนอนหลับ ฟังจากเสียงเมื่อกี้ก็พอจะเดาออกอยู่หรอกว่าเด็กสองคนนั้นลำบากใจจนทำอะไรไม่ถูก นี่มันก็ดึกแล้วคงไม่กล้าปลุกไอ้คิมด้วย แล้วทำไมมันนอนหลับลงไปได้วะ แล้วไหนมันบอกว่าจะนัดพวกน้องๆ ไปที่อื่นไงล่ะ
“ทิวา ไลลา ไหนล่ะไอ้คิม?” ผมวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะถามน้องทั้งสองที่นั่งค้ำคางอยู่บนโซฟา สองคนนั้นพร้อมใจกันชี้ไปที่โซฟาตัวยาวผมจึงเดินไปส่องดูทำให้เจอไอ้คิมนอนกอดหมอนอิงหลับปุ๋ยไปอย่างไร้เดียงสา แต่อย่าให้มันตื่นขึ้นมาเชียวเพราะความไร้เดียงสาของมันจะหายไปทันที
“เหมือนพี่คิมเขารอเฮียนะ เห็นบอกว่าเฮียจะเลี้ยงอะไรสักอย่างก็เลยจะอยู่รอ” ยัยทิวาบอก ผมมองไอ้คิมก่อนจะตบหน้าผากดังแป๊ะ ไอ้เวรนี่มันไม่เปิดดูโทรศัพท์มันเลยรึไงนะ ก็บอกว่าให้ไปรอที่ร้านไม่ใช่ให้มารอที่บ้าน
“งั้นเดี๋ยวให้มันค้างที่นี่แหละ เฮียจะพามันไปนอนเอง ไลลา พี่ไปส่งป่ะ” ผมบอกยัยทิวาก่อนจะหันไปหาไลลา ต้องส่งให้ถึงบ้านโดยสวัสดิ์ภาพครับไม่งั้นตีนสองคู่ได้กระทืบผมไส้ไหลแน่ ยังไงๆ ผมก็สู้พี่ชายทั้งสองคนของน้องไลลาไม่ไหว พวกนั้นเขามีระดับการต่อสู้ส่วนผมมันมวยวัดครับ เหอๆ
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวพี่ลุกซ์มารับ” น้องไลลาบอก
“โอเค ว่าแต่กินข้าวกันหรือยัง?” ผมถาม
“พวกเรากินแล้วแต่พี่คิมยังไม่กินเลย” ยัยทิวาตอบ
“ทำไมไม่เรียกมันไปกินด้วยล่ะ?” ผมถามต่อ ไอ้เด็กคิมเห็นภายนอกดูตัวใหญ่ก็จริงแต่ที่จริงมันผอมพอสมควรเลยล่ะ ถึงตัวไม่เบามากแต่ก็ถือว่าเบาในระดับของคนที่ตัวสูงขนาดมัน
“เรียกแล้วแต่พี่เขาบอกว่าไม่กินนี่นา” ยัยทิวาย่นจมูก ผมขยี้หัวมันเบาๆ ก่อนจะเดินไปอุ้มไอ้คิมไว้ในอ้อมแขน
“กรี๊ดดด!” ผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของน้องสาวทั้งสองคน มันกรี๊ดอะไรกันวะเนี่ย
“อะไร? เกิดอะไรขึ้น?” ผมหันกลับไปถามอย่างสงสัย
“พี่ไทอ่ะ! หนูชอบนะแบบนี้ คิกๆ” น้องไลลายิ้มเขินๆ ก่อนจะจิ้มแขนผมเบาๆ นอกจากน้องไลลาจะเขินแล้วยัยทิวาก็ยังเขินตามไปอีกด้วย อะไรวะเนี่ย จะหน้าแดงกันทำไมวะฮะ!?
“ชอบอะไรไลลา?” ผมขมวดคิ้วถามงงๆ
“ก็แบบ...เหมือนพี่ลันกับพี่ไอไง คิกๆ ชอบบบบ” น้องไลลาหัวเราะคิกคักกับยัยทิวาอย่างสนุกสนานผมจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วอุ้มไอ้คิมเดินขึ้นไปบนห้อง
“งืมมมม” พอผมวางไอ้เด็กคิมไว้บนที่นอนมันก็ดิ้นไปมาแล้วกลิ้งหลุนๆ ไปกอดหมอนข้างที่ผมกอดทุกวันทันที
“ไอ้คิม ไอ้คิม!” ผมตบแก้มเรียกมันเบาๆ เพื่อจะให้มันไปอาบน้ำก่อน
“อือ อย่าปลุกน่าแม่” คิ้วผมกระตุกทันทีที่มันเรียกผมว่าแม่ ไอ้เด็กเวรนี่ เสียงแม่มึงเป็นอย่างนี้หรือไงวะ
“ไอ้คิม! กูไม่ใช่แม่มึง ถ้ามึงไม่ลุกขึ้นมาดีๆ กูจะปล้ำมึง!” ผมขู่เสียงดัง
พรึ่บ!
“ว้ากกกกก!!” ทันทีที่สิ้นสุดเสียงขู่ของผมไอ้คิมก็เบิกตากว้างก่อนจะแหกปากร้องออกมาทันที
“จุ๊บ!!” ผมยื่นหน้าไปจูบปากมันทันทีเพราะไม่อยากให้พวกเด็กๆ ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของมัน
“อะ...ไอ้...ไอ้...ไอ้ดำ!! มึงจูบกูทำไม!?!” ไอ้คิมผลักผมออกห่างก่อนจะถูปากของตัวเองไปมา ทำเป็นหวง ปัดโธ่! แค่จูบแค่นี้เองนะมึง มากกว่านี้กูก็ทำมาแล้วแท้ๆ
“แล้วมึงจะแหกปากให้คนทั้งบ้านกูตื่นหรือไงฮะ!?” ผมตะคอกใส่มัน
“ละ...แล้วมึงเข้ามาในห้องกูได้ไงวะ?” อ้าวไอ้เวร เมื่อกี้ก็ก็บอกอยู่แหมบๆ ว่านี่บ้านกูไม่ใช่บ้านมึง ฝันว่าตัวเองได้กลับบ้านรึไงวะเนี่ย
“สัตว์! มึงดูดีๆ ดิ๊ว่านี่ห้องใคร?” ผมเท้าสะเอวก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องของตัวเอง
“เออว่ะ งั้นกูไปละ” มันพูดก่อนจะรีบปีนลงจากเตียง ผมดึงแขนมันเอาไว้ก่อนจะเหวี่ยงมันลงไปที่เตียงอีกรอบ หน้าตาของมันตอนที่ร่างนอนราบลงบนเตียงโคตรจี้เลยครับ มันทำหน้าตื่นกลัวเหมือนกับว่าผมกำลังจะทำอะไรมันอย่างนั้นแหละ แต่มันอาจจะคิดถูกก็ได้ ฮึๆ
“จะไปไหน? รอกูไม่ใช่เหรอ?” ผมยิ้มที่มุมปากก่อนจะคลานขึ้นเตียง เด็กคิมเบิกตากว้างก่อนจะถอยกรูดชิดผนัง เห็นหน้ามันตอนนี้แล้วอยากจะปล่อยก๊ากออกมาให้ลั่น หลังจากเสียประตูชัยไปรู้สึกจะทำตัวแต๋วขึ้นแฮะ ฮ่าๆ
“ก็มึงบอกว่าจะเลี้ยงเหล้ากู” มันพูดพลางหยิบหมอนมากันไม่ให้ผมเข้าไปใกล้มัน
“กูไปรอมึงที่ร้าน มึงไม่ไปเอง” ผมยักไหล่นิดๆ ก่อนจะยื้อแย่งหมอนกับมัน
“อ้าว? ก็มึงไม่ได้บอกกูนี่ว่าให้กูไปรอที่ร้านไหนกูก็เลยมารอที่บ้านมึงไง” มันพูดพลางคว้าหมอนข้างมากันไว้เมื่อผมกระชากหมอนใบนั้นหลุดออกจากมือมัน ดูมันลนลานมากเลยล่ะครับ ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง
“กูเท็กซ์มาบอกมึงแล้ว ทำไมไม่ดู?” ผมขมวดคิ้วนิดๆ
“มึงเท็กซ์มาเหรอ? กูไม่รู้ ไม่ได้ดูโทรศัพท์” มันรีบบอก
“ไม่รู้ล่ะ มึงผิดนัดกู เพราะงั้นวันนี้มึงมาอยู่กับกูซะดีๆ” ผมโยนหมอนข้างทิ้งไปก่อนจะดึงข้อเท้าไอ้เด็กคิมเข้าหาตัวเองจนร่างมันไถลเข้ามาแนบร่างผม
“เหวอออ พ่อกูดุ ถ้ากูกลับดึกเดี๋ยวถูกด่า นี่ไง! โทรมาพอดีเลย แฮะๆ” ไอ้คิมพูดเสียงลนๆ ก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้น ผมจับขามันแยกก่อนแทรกตัวเองเข้าไปตรงกลางระหว่างขาของมัน มันทำหน้าตื่นกลัวพลางขยับตัวหนีแต่ผมรั้งไว้
“พ่อมึงโทรมาก็รับสิ” ผมเลิกคิ้วกวนๆ มันทำปากยื่นใส่ผมก่อนจะกดรับสาย
“ครับพ่อ...เหวอ ไอ้ดำ! ทำอะไรน่ะ!?” พอมันกดรับผมก็แย่งโทรศัพท์มันมาพูดเอง
“สวัสดีครับ ผมชื่อไทเป็นรุ่นพี่ของน้องคิมครับผม” ผมกรอกเสียงลงไปก่อนจะเอื้อมมือไปปิดปากไอ้คิมไม่ให้มันโวยวาย
“นี่อยู่ที่ไหนกัน?” พ่อของไอ้คิมถามเสียงดุๆ
“อยู่ที่บ้านของผมครับ พอดีว่าน้องคิมเขามาสอนน้องของผมวาดภาพ ผมเห็นว่ามันดึกแล้วไม่อยากให้น้องเขาขับรถกลับน่ะครับมันอันตรายผมก็เลยให้น้องเขาอยู่ค้างกับผมที่นี่” ผมพูดยิ้มๆ
“ใครบอกว่ากูจะค้างกับมึง...” ไอ้คิมดิ้นก่อนจะโวยวายผมจึงรีบเอามืออุดปากมันเอาไว้เพราะเดี๋ยวพ่อมันจะสงสัย
“แล้วไป พ่อกลัวว่ามันจะโกหกแล้วไปเที่ยวนอนกับผู้หญิง” พ่อมันถอนหายใจ ผมยกยิ้มก่อนจะหรี่ตามองมัน ฮึๆ มันไม่นอนกับผู้หญิงหรอกครับเพราะมันจะต้องนอนกับผมที่เป็นผู้ชาย ฮึๆ ถ้าผมบอกพ่อมันออกไปอย่างที่คิดพ่อมันจะช็อคไหมนะ น่าสนใจจริงๆ
“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจะดูแลน้องเองนะครับ พรุ่งนี้จะไปส่งให้ถึงมือคุณพ่อเลยครับ” ผมพูดพลางหัวเราะ ไอ้คิมถลึงตามองผมก่อนจะทุบตีผมอย่างหมั่นไส้ผมจึงถลึงตาขู่ ขืนมันตีผมอีกครั้งผมจะจัดการมันต่อหน้าพ่อมันนี่แหละ ลองดูสิ!
“ฝากด้วยนะ อย่าให้มันไปเถลไถลที่ไหนล่ะ” พูดจบพ่อไอ้คิมก็วางสายไป ผมแสยะยิ้มก่อนจะโยนโทรศัพท์ของมันไปไว้ที่โซฟาแล้วคร่อมตัวของมันเอาไว้
“ไอ้ดำ อย่าทำแบบนี้นะเว้ย กูเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะเว้ย!” ไอ้คิมมันยกมือขึ้นมาดันหน้าของผมออกให้ห่างก่อนจะพยายามคลานหนีจากวงแขนของผม
“ก็รู้ ก็เมื่อกี้กูยังคุยกับพ่อมึงอยู่เลยนี่นา ฮึๆ” ผมรวบข้อมือของมันเอาก่อนจะตรึงไว้กับเตียงพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หน้ามัน มันหลบตาปี๋เม้มปากแน่น ผมมองขำๆ ก่อนจะผละออกไป “ถ้ากูอาบเสร็จมึงก็อาบต่อด้วยล่ะ ฮึๆ” ผมหัวเราะนิดๆ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เมื่อกี้มันคิดว่าผมจะจูบมันเหรอ? ตอนแรกก็ว่าจะทำอย่างนั้นแหละแต่พอเห็นหน้ามันแล้วผมแทบหลุดหัวเราะก็เลยต้องรีบผละออกมา และผมก็อยากแกล้งมันด้วยเพราะเมื่อกี้ที่ผมไม่จูบ มันแอบทำหน้าเสียดาย ผมเห็น ฮึๆ
ผมออกจากห้องน้ำโดยพันผ้าเช็ดตัวไว้ผืนเดียวที่ช่วงล่างทำให้ไอ้เด็กคิมมันด่าว่าผมทุเรศก่อนจะมันจะเดินไปค้นตู้เสื้อผ้าผมกระจุยเพื่อหาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่และชุดนอน ไอ้เด็กนรก! ผ้าเช็ดตัวมันแขวนอยู่ข้างนอก อีกอย่างชุดนอนก็แขวนอยู่ในตู้แล้วมึงจะค้นเสื้อผ้าที่พับไว้ทำห่าอะไรวะเนี่ย!? แกล้งกูชัดๆ
ผมมองตามหลังไอ้เด็กนั่นก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยปิดไฟที่ให้แสงสว่างหลักแล้วเปิดโคมไฟที่หัวเตียงแทน
หลังจากอาบน้ำเสร็จไอ้เด็กเวรนั่นก็ถีบผมที่นอนแผ่เต็มเตียงไปชิดมุมแล้วตัวเองก็กระโดดมานอนข้างๆ โดยตะแคงข้างหันหลังให้ผม ผมมองแผ่นหลังมันก่อนจะเหยียดแขนออกไปแล้วโอบรัดตัวมัน
“ไอ้ดำ! ทำอะไรของมึงน่ะ!?” มันโวยวายทันทีที่ตัวเองถูกกอดจากด้านหลัง
“มึงคิดว่ากูทำอะไรล่ะ?” ผมถามกลับ เห็นไอ้เด็กนี่โมโหแล้วสนุกดีครับ หน้าตาตอนโมโหของมันตลกดี
“มึงนอนดีๆ ไม่ได้หรือไงวะฮะ!?” มันดิ้นแด่วๆ ก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามาหาผมทำให้จมูกของเราแตะกันและนั่นก็ทำให้ไอ้เด็กคิมชะงักไป ผมกับมันจ้องตากันอยู่สักพักก่อนที่ผมจะจับหัวทุยๆ ของมันมาซุกที่อก มันนิ่งไปก่อนจะค่อยๆ ยื่นแขนออกมาพาดที่ช่วงเอวของผม
ผมอึ้งที่เห็นมันทำแบบนี้แต่ซักพักผมก็ยิ้มออกมาบางๆ อะไรกัน? จู่ๆ ก็ทำตัวน่ารักแบบนี้เดี๋ยวสัญชาตญาณสัตว์ป่ากูก็ตื่นหรอก แต่พอมันทำแบบนี้แล้วก็กดไม่ลงแฮะ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละเลงสีลงบนผ้าขาวแม้ว่าไอ้เด็กนี่มันจะห่างไกลคำว่าใสซื่อบริสุทธิ์ก็ตาม แต่พออยู่แบบนี้แล้วมันดูเหมือนเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งเลยแฮะ
“ถ้าง่วงก็นอน” ผมบอกพลางขยี้ผมของมันเบาๆ
“มึงน่ะ...ทำไมถึงเรียกพี่ไอว่าสุดที่รักล่ะ?” จู่ๆ มันก็ถามขึ้นมา มันไม่เงยหน้าขึ้นมาถาม ตรงกันข้ามมันกลับมุดหน้าลงมาที่อกผมมากกว่าเดิม
“ทำไม? หึงเหรอ?” ผมแกล้งถามกวนๆ
“เออ” ผมอึ้ง รู้สึกหน้าร้อนๆ แฮะ “กูสิต้องเรียกพี่ไอแบบนั้น” เลือดที่พลุ่งพล่านภายในกายชะงักลง ณ บัดดล ไอ้เหี้ย! หึงสุดที่รักก็ไม่บอกให้เคลียร์ตั้งแต่แรก ไอ้เด็กเวร
“มึงไม่มีสิทธิ” ผมพูดเสียงแข็ง บังอาจทำให้อารมณ์กูดร็อปนะมึง เออ ก็รู้ว่ามึงชอบสุดที่รักแต่ไม่ต้องมาแสดงอาการนั้นกับกูก็ได้ ชิ!!
“ทำไม?”
“กูเรียกชื่อนั้นได้แค่คนเดียว” ผมพูด ก็ไอ้ขลุ่ยเรียกสุดที่รักว่าฮันนี่ ไอ้ลันเรียกว่าสูง ส่วนคนอื่นๆ ก็เรียกว่าไอเพราะฉะนั้นคนที่เรียกสุดที่รักว่าสุดที่รักก็มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น (ถ้าไม่นับรวมอาจารย์อ่ะนะ)
ไอ้เด็กคิมนิ่งเงียบไปสักพักก่อนกำปั้นหนักๆ จะทุบลงที่อกของผมอย่างแรงจนผมจุกจากนั้นร่างที่นอนซบที่อกของผมก็กลิ้งออกไปแล้วนอนตะแคงข้างหันหลังให้ผมเหมือนเดิม นี่มันงอนอะไรของมันอีก อย่าบอกนะว่างอนที่ผมพูดไปอย่างนั้น แต่ว่านะ...ถึงมันจะชอบสุดที่รักมากแค่ไหนมันก็ไม่สมหวังหรอกเพราะสุดที่รักเป็นของไอ้ลันและไอ้ลันก็ทั้งรักทั้งหวงจนใครแตะต้องไม่ได้ ไอ้คิมมันน่าสงสารนะ ไปรักคนที่มีเจ้าของแถมเจ้าของคนที่มันรักก็เสือกดุยิ่งกว่าหมาสิบตัวรวมกันซะอีก
รักกูดีกว่าไหม...?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรุ่งนี้มีภารกิจ รีบลงก่อนที่จะไม่ได้ลง แล้วเดี๋ยวว่างๆ เค้ามาแก้น้า ><
แอบเขินประโยคสุดท้ายของอิพี่ไทอ่ะ คิๆ
ความคิดเห็น