คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Rule 7 : รักน้องต้องเป็นพี่รหัส
ผมเดินกลับไปหาไอ้เมฆที่เปลี่ยนจากเสื้อช็อปเป็นชุดพละก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับพวกบีกินเนอร์โดยมีครูฝึกมีฝึกให้
ไอ้ครูฝึกที่ว่าผมก็นึกว่าจะเป็นชายวัยกลางคนตัวบึ้กๆ
แต่ที่จริงกลับเป็นหนุ่มหล่อรูปร่างดีที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเหลียวหลัง ไอ้พี่ลันนั่นเอง
“ผม...นายรุจิกรจะมาเป็นครูฝึกชั่วคราวให้กับพวกคุณเนื่องจากครูฝึกท่านไม่สบาย ผมบอกไว้ก่อนว่าตลอดเวลาที่ผมเป็นครูฝึกทุกคนจะต้องตั้งใจไม่อย่างนั้นผมจะลงโทษ
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์คงจะรู้ดีว่าผมจะลงโทษอย่างไร”
ไอ้พี่ลันยืนท่าตามระเบียบพักก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดสมเป็นพี่ว้าก ผมว่ากล่องเสียงไอ้พี่ลันต้องอักเสบบ่อยแน่ๆ
เพราะพี่แกชอบว้ากสดกับคนหลายสิบคน
ตอนนี้เสียงหล่อๆ ของแกก็เริ่มแหบแห้งอีกแล้วล่ะครับ
“ส่วนผมรุจิภาสเป็นครูฝึกชั่วคราวเหมือนกัน ผมเป็นประธานปกครองปี่สี่คณะวิศวะ คงจะรู้ดีว่าถ้าไม่ตั้งใจฝึกจะเกิดอะไรขึ้น”
ไอ้สองพี่นี่มันขู่เก่งจังวะ
แต่จะว่าไป...ไอ้สองพี่นี่มันเป็นพี่น้องกันแน่เลย ผมรู้สึกทะแม่งๆ
มาตั้งแต่ที่เห็นหน้าของไอ้พี่ลุกซ์แล้วล่ะครับ
หน้าไอ้พี่ลุกซ์คล้ายๆ กับไอ้พี่ลันตงิดๆ
ยิ่งรู้ชื่อจริงแล้วผมยิ่งมั่นใจแล้วล่ะครับว่าไอ้สองพี่นี่เป็นพี่น้องกัน นิสัยดุๆ ยังเหมือนกันอีกต่างหาก
“แม่ง ซวยว่ะ” ไอ้เมฆเอียงหน้ามากระซิบบ่นกับผมเบาๆ
ผมจึงรีบผลักหน้ามันออก นี่มึงยังไม่เข็ดอีกเหรอวะว่าถ้ากระซิบกันต่อหน้าไอ้พี่ลุกซ์มันจะเกิดอะไรขึ้น
“เอาล่ะครับ ให้พวกคุณจับคู่กันเพื่อซ้อมเตะคนละร้อยครั้งสำหรับผู้ชาย
ห้าสิบครั้งสำหรับผู้หญิง
ผมจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง” ไอ้พี่ลันพูดก่อนจะโยนเป้าล่อตีนให้ไอ้พี่ลุกซ์ถือ หน้าพี่ลันดูสะใจๆ อย่างไรก็ไม่รู้แฮะ แกจะทำอะไรของแกกันแน่เนี่ย
ตุบ! ตุบ! ไอ้พี่ลันเงื้อขาสูงเตะเข้าที่เป้าที่ไอ้พี่ลุกซ์ถือไว้ในระดับใบหน้าและเนื่องจากไอ้พี่ลันใส่แรงเข้าไปเต็มเหนี่ยวเป้าที่ไอ้พี่ลุกซ์ถือจึงหลุดออกจากมือไปกระทบใบหน้าไอ้พี่ลุกซ์เข้าอย่างจัง มิน่าล่ะ...หน้าไอ้พี่ลันก่อนเตะมันดูมีเลศนัยอย่างไรก็ไม่รู้
“แบบนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะครับ คนที่ถือเป้าจะต้องถือให้มั่นๆ อย่าถือเหลาะแหละไม่อย่างนั้นคุณจะเจ็บตัว”
ไอ้พี่ลันพูดหลังจากทำแสบเอาไว้
พวกผมอึ้งอยู่สักพัก
อยากจะหัวเราะอยู่หรอกแต่กลัวว่าไอ้ประธานปกครองปีสี่จะลงโทษเอา หน้าไอ้พี่ลุกซ์ตอนนี้เหมือนคนพร้อมที่จะทำการฆาตกรรมอย่างไรอย่างนั้น
ผมว่านะ...ถ้าตอนนี้สองคนนี้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าพวกผมมันคงต่อยกันไปแล้ว
หลังจากดูตัวอย่างผมก็ลุกขึ้นไปเอาเป้ามาล่อตีนไอ้เมฆมัน
ผมจะให้มันเตะก่อนเพราะผมจะดูฟอร์มการเล่นของมันถ้ามีอะไรไม่เข้าทีผมจะได้แก้ให้มันได้
“ดูคล่องแคล่วดีนี่”
เสียงทุ้มต่ำมุดดินดังขึ้นข้างหลังผมจึงรีบหันไปมองส่วนไอ้เมฆก็รีบไหว้สวัสดีไอ้พี่ครูฝึกชั่วคราวทันที พอไอ้เมฆไหว้เสร็จมันก็กระดึ๊บๆ
มาอยู่ข้างหลังผมด้วยความหวาดผวา
“อ่า สวัสดีครับ”
ผมยกมือไหว้ไอ้พี่ลุกซ์เมื่อหันไปป๊ะกับแก
ทำไมต้องเข้ามาทักด้วยวะ
กูไม่อยากยุ่งกับอิทธิพล(มืด)
“ไม่คิดว่าพวกนายจะเข้าชมรมนี้กันนะ ดูเหมือนจะยังไม่เป็นกันเลยนี่”
ไอ้พี่ลุกซ์มองพวกผมเหยียดๆ
ก่อนจะก้มลงมองสายคาดเอวที่ผมคาดอยู่ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นมือใหม่ส่วนไอ้เมฆไม่ต้องมองสายก็รู้ว่าใหม่
จะให้มองสายที่ไหนล่ะครับในเมื่อมันใส่ชุดพละอยู่ เหอๆ
“ก็ต้องขอความกรุณาจากรุ่นพี่ด้วยนะครับ”
ผมยิ้มนิดๆ แสดงความอวดดีหน่อยๆ
ไอ้พี่ลุกซ์สายดำก็จริงแต่จะเก่งซักแค่ไหนกันเชียว
ผมอยากล้มไอ้พี่บ้านี่ต่อหน้าทุกคนให้มันอับอายขายขี้หน้าจริงๆ หมั่นไส้
“อวดดีเหมือนเดิม ลองวิ่งรอบโรงยิมซักสิบรอบเป็นไง?”
ไอ้พี่ลุกซ์กอดอกจ้องหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ
สายตาเหมือนไอ้พี่ลันไม่มีผิดแต่ของไอ้พี่ลุกซ์ดูน่ากลัวกว่าหน่อย
ผมหันไปมองหน้าไอ้เมฆเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า พวกเราค่อยๆ
ออกวิ่งด้วยกันท่ามกลางสายตาคนทั้งยิม
คงจะมองเด็กใหม่อย่างพวกผม ทั้งๆ
ที่เพิ่งเข้ามาก็ถูกสั่งทำโทษเสียแล้ว
กวนตีนใส่ไอ้พี่ลุกซ์ไม่ได้เลยจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย เอะอะอะไรก็สั่งทำโทษอย่างเดียว
“ทำไมพี่แกโหดจังวะ ถ้าไม่ชอบใจพวกเราแล้วเข้ามาทักตั้งแต่แรกทำไม
แฮ่ก!” ไอ้เมฆวิ่งไปบ่นไปพลางหอบหายใจถี่รัวเพราะความเหนื่อย
วิ่งได้เพียงสองรอบไอ้เมฆก็หอบแล้วล่ะครับ
ไอ้นี่มันร่างกายอ่อนแอจริงๆ ให้ตายเถอะ
“กูว่างั้นแหละ
สงสัยหน้าพวกเราเหมือนแฟนใหม่ของแฟนเก่ามันมั้ง” ผมพูดลอยๆ ไอ้เมฆหันมามองหน้าผมงงๆ ก่อนจะยิ้มนิดๆ
กับมุขควายงงของผม
“ไอ
ย้ายออกตอนนี้ทันไหมมึง?” ไอ้เมฆหันมาถามด้วยหน้าตาหมาหงอย
“ไม่ทันแล้ว เอาเป็นว่าจนกว่าครูฝึกจะหายดีเราก็ต้องทนต่อไป คงอีกไม่นานหรอกน่า” ผมพูดปลอบใจ
มึงเสียค่าลงทะบียนเรียนไปแล้วมึงก็ต้องเอาให้มันคุ้มสิวะ
ดูเหมือนไอ้เมฆจะกลัวไอ้พี่ลุกซ์มากเหลือเกิน
ก็ไอ้พี่ลุกซ์มันทำให้ไอ้เมฆร้องไห้ต่อหน้าประชาชีทั้งหลายในร้านเหล้านี่หว่า
“ฮู่ว แม่งเหนื่อยว่ะ” ไอ้เมฆบ่น ตอนนี้หน้าของไอ้เมฆเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
แล้วครับ
ถ้าให้วิ่งอีกสักสองรอบผมว่าหน้าไอ้หมอนี่ระเบิดแน่ๆ
“เอางี้ไหมเมฆ มึงแกล้งเป็นลมจะได้ไปพัก” ผมบอก สำหรับคนถึกๆ
อย่างผมวิ่งสิบรอบมันไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไอ้เมฆนี่น่าสงสาร
“ไม่เอา กูอายผู้หญิง”
ไอ้เมฆมองดูผู้หญิงที่ส่งเสียงฮึฮะพลางเตะเป้าล่ออย่างขยันขันแข็งด้วยท่าทีที่ห้าวหาญจนผู้ชายอย่างผมถึงกับอายอยากมุดกระโปรงนักศึกษาหนีจริงๆ
(มีจุดประสงค์อื่นภายใต้เงื่อนไขมุดกระโปรง เหอๆ)
“งั้น...แกล้งเป็นหอบหืดก็ได้ เอาให้เนียนนะมึง” ผมเสนอ ที่จริงผมอยากจะพักเหมือนกันนั่นแหละวะก็แค่อยากเกาะไอ้เมฆพักด้วยเท่านั้นเอง
(กูนี่มันเด็กเปรตจริงๆ)
“ไม่ต้องแกล้งหรอก กูเป็นจริงๆ” ไอ้เมฆยิ้มแหยๆ เหี้ย!! นอกจากจะตัวเล็กแล้วยังมีโรคประจำตัวแบบนี้อีก เมฆเอ๊ย กูว่ามึงไปเกิดเป็นผู้หญิงเหอะ ถึงตอนนั้นกูจะจีบมึงเองนะเพื่อน
“งั้นมึงแกล้งเป็นตอนนี้เลย ขืนวิ่งถึงสิบรอบถึงไม่ต้องแกล้งกูว่าหอบมึงขึ้นจริงๆ
แน่” ผมรีบพูด
ก็หน้าไอ้เมฆตอนนี้เริ่มไปแล้วครับ
แดงก่ำจนผมรู้สึกร้อนแทนอีกทั้งตามันยังปรือๆ เหมือนคนจะหลับอีก คงจะเหนื่อยแทบดิ้นแล้วล่ะสิ
“ถ้าถูกจับได้ล่ะมึง”
ไอ้เมฆทำหน้าแหยๆ
“เออน่า เดี๋ยวกูจัดการเอง”
ผมยกยิ้ม
ไอ้เมฆในตอนนี้ถึงไม่ชักก็คงมีคนเชื่อว่ามันป่วย
หลังจากหาตำแหน่งเหมาะๆ
ในการชักกระตุกแล้วพวกเราก็ตัดสินใจให้ไอ้เมฆไปชักตรงหน้าไอ้พี่ลุกซ์ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ไอ้เมฆแกล้งล้มลงก่อนจะเบิกตากว้างทำท่าทางทรมาน
ผมก็แสร้งทำเป็นตกใจก่อนจะรีบไปพยุงไอ้เมฆและส่งเสียงดังๆ
เพื่อเรียกร้องความสนใจ
“ช่วยด้วยครับ!
เพื่อนผมเป็นอะไรก็ไม่รู้!?!” ผมตะโกนหาคนช่วยก่อนจะแอบเหลือบตามองไอ้พี่ลุกซ์ที่ทำหน้าตื่นๆ
“เป็นอะไร!?!” ไอ้พี่ลุกซ์ที่อยู่ใกล้สุดพุ่งเข้ามาหาพวกเราเป็นคนแรก
“เมฆ...กัดลิ้นนะมึง”
ผมก้มลงไปกระซิบกับไอ้เมฆระหว่างที่คนชุลมุนมาเป็นไทยมุง
“ถอยออกไปก่อน!! อย่ามุง!!”
เป็นไอ้พี่ลันนั่นเองที่มาเคลียร์สถานการณ์วุ่นวาย พอมีคนมามุงใกล้ๆ แบบนี้ผมก็ชักจะอึดอัด ต้องขอบคุณไอ้พี่ลันจริงๆ ที่มาช่วยระบายอากาศ
“ไอ้เมฆจะกัดลิ้นตัวเองแล้วครับ ทำไงดีอ่ะ!?!”
ผมแสร้งทำหน้าตื่นกลัวพลางลนลานทำอะไรไม่ถูก
“หาอะไรให้กัดก่อนสิ เร็วๆ”
ไอ้พี่ลันตบหัวไอ้พี่ลุกซ์ที่เอาแต่นั่งมองไอ้เมฆก่อนจะสั่ง ไอ้พี่ลุกซ์เห็นทำหน้าตานิ่งๆ
แบบนี้ผมว่าคงจะลนลานไม่แพ้กันแน่
“เมฆ...กัดแรงๆ นะมึง”
ผมแสยะยิ้มนิดหน่อยเมื่อมองไปที่มือของไอ้พี่ลุกซ์ ฮึๆ
แผนการร้ายเกิดขึ้นในสมองเท่าเม็ดถั่วของผม
ก่อนที่ไอ้พี่ลุกซ์จะไปหาอะไรมาให้ไอ้เมฆกัดผมก็รีบดึงมือของพี่แกมายัดใส่ปากของไอ้เมฆทันที
“อ๊ากกกกกก!!!” ไอ้พี่ลุกซ์ร้องโหยหวนทันทีเมื่อมือของตัวเองถูกฝังเขี้ยวจมอย่างไม่ทันตั้งตัว
ส่วนผมก็เอาแต่กลั้นขำจนน้ำตาเล็ดเมื่อเห็นหน้าหล่อๆ
อ้าปากกรีดร้องระบายความเจ็บ
ไอ้เมฆเองก็คงจะสะใจไม่น้อยเพราะมันกัดมือพี่ลุกซ์ไม่ปล่อยเลย ฮ่าๆๆๆๆ โอย
กูอยากจะหัวเราะออกมาให้ดังๆ ซะจริง!
พรืด! ผมรีบหันขวับไปตามเสียงหัวเราะที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูทันที
ผมเห็นไอ้พี่ลันแกยกมือปิดปากก่อนจะหันหน้าไปทางที่ไม่มีคน ไหล่พี่แกห่อเล็กน้อยและสั่นเครือ
ยิ่งเห็นว่าไอ้พี่ลันมันขำผมก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปหัวเราะระบายความอึดอัด ไอ้พี่ลุกซ์มันคงไม่ทันสังเกตหรอกครับว่าตอนนี้พวกผมกำลังหัวเราะเยาะมันอยู่ ส่วนไทยมุงที่มุงอยู่ห่างๆ
หัวเราะไม่ออกครับเพราะพวกเขาคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกำลังซีเครียด
“อ้าว! ถอยหน่อยๆ เปลมาแล้ว! พวกคุณช่วยพยุงเพื่อนมานอนเปลเร็วจะได้พาส่งโรงพยาบาล” เสียงอาจารย์ดังแทรกขึ้นมาขณะที่ผมกำลังปล่อยก๊าก เฮ่ย! ซวยล่ะ อาจารย์มาง่ะ
ทำไงดี
แบบนี้คงรู้กันหมดว่าพวกผมแกล้ง
“อะ...เอ่อ ผมดีขึ้นแล้วครับ” เชี่ยเมฆ!! มึงลุกขึ้นมาทำไม? มึงลุกมาแบบนี้แผนกูแตกระแหงหมด ผมหุบยิ้มก่อนจะค่อยๆ มองไปที่ไอ้พี่ลุกซ์ที่ตอนนี้มันคงจะลืมความเจ็บที่มือแล้วหันมาจ้องผมด้วยสายตาอาฆาตแค้น กูโดนเล่นแน่ครับ T^T ไอ้เมฆ! มึงนะมึง! ค่อยไปอาการดีขึ้นตอนถึงโรงพยาบาลได้ไหมจะได้ไม่มีใครสงสัย จากที่แกล้งหอบคราวนี้มึงได้หอบจริงแน่ ไอ้ซื่อบื้อเอ๊ย!!
“พวกคุณ!!!” ไอ้พี่ลุกซ์คำรามเสียงต่ำก่อนจะลุกเดินมาหยุดยืนตรงหน้าผมที่กำลังนั่งคุกเข่าก้มหน้า
เอ่อ...มึงพูดว่าพวกคุณก็จริงแต่ทำไมกูรู้สึกว่ามึงเล็งกูคนเดียววะครับ?
“T________________T”
อยากจะร้องไห้แล้วกลับไปมุดกระโปรงนักศึกษาหญิงหนีจากไอ้โหดตรงหน้าจริงๆ ซวยจริงๆ กู TOT
“คุณแกล้งผมเหรอ?” กูไม่ได้แกล้งครับ ไอ้เมฆมันแกล้ง เห็นกันชัดๆ เลยว่ากูไม่ได้เป็นคนกัดมือมึงอ่ะ
“T___________T”
ผมยังก้มหน้าต่ำคิดหาทางเอาตัวรอดอยู่
คิดสิคิด สมองอันน้อยนิดของกูรีบคิดสิ ไอเอ๋ย มึงจะหนีจากไอ้โหดนี่อย่างไรมึงรีบคิดเร็วๆ
ก่อนจะได้คลานเป็นหมารอบตึกของคณะ เข่ากูยังช้ำไม่หายเลยครับเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งสั่งให้กูคลานนะ
ที่พึ่งสุดท้ายของผมที่ผมจะขอความช่วยเหลือได้...ไอ้พี่ลันครับ ช่วยเอาพี่มึงกลับเข้ากรงด่วนเลย
หน้าอย่างกับช้างตกมันที่พร้อมจะเหยียบกูให้จมดิน
ผมเหลือบตาไปมองไอ้พี่ลันเพื่อขอความช่วยเหลือซึ่งโชคดีมากที่ตอนนี้ไอ้พี่ลันก็กำลังมองผมอยู่
แต่สุดท้าย...ที่พึ่งของผมมันก็เบือนสายตาหนีไป ไอ้พี่ลัน!! มึงนะมึง! ถ้าไม่คิดจะช่วยแล้วมึงมองหน้ากูหาพระแสงของ้าวอะไรมิทราบ!?! ถ้าไม่คิดจะช่วยกูตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องส่งสายตาเวทนาปนสมเพชมาให้กู!! โฮ!!! แล้วกูจะพึ่งอำนาจใครได้อีกครับ?
“พี่ลุกซ์!!” และแล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น
ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเทวดาของผมด้วยใบหน้าหมาหงอย เฮ้ย!!
ภาพเทวดาที่มีออร่าวิ้งๆ ดับวูบเมื่อคนที่เข้ามาในโรงยิมเป็นไอ้พี่เปอร์
อย่างพี่เปอร์ที่ไร้อำนาจจะมาช่วยอะไรกูได้วะเพราะไอ้ที่ยืนค้ำหัวกูอยู่นี่เป็นถึงผู้มีอำนาจที่สุดในคณะเลยนะเฟ้ย
ไอ้พี่เปอร์ทำหน้ามึนตึงก่อนจะเดินดุ่มๆ
เข้ามายืนข้างๆ ผมและหันจ้องหน้าไอ้พี่ลุกซ์อย่างไม่หวั่นเกรง กูเห็นคนที่กล้าหือกับไอ้พี่ลุกซ์อีกคนแล้วครับ แต่ดูท่าทางพี่เปอร์ยังไงๆ
ก็ไม่น่าจะกล้าขึ้นเสียงกับประธานปกครองเลยนะเนี่ย
“นี่น้องรหัสผม!
และเป็นน้องสายรหัสของพี่ด้วย! แกล้งน้องแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน!!” ไอ้พี่เปอร์เท้าสะเอวพลางตวาดใส่หน้าไอ้พี่ลุกซ์ ไอ้พี่ลุกซ์ก้มลงมามองหน้าผมงงๆ
ซึ่งผมก็เงยหน้ามองแกงงๆ เหมือนกัน
.
.
.
ไอ้...ไอ้พี่ลุกซ์คือปู่รหัสกูหรือนี่ พระเจ้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผมควรดีใจหรือเสียใจดีครับที่ผมมีปู่รหัสเป็นผู้มีอำนาจ?
ไอ้เราก็อุตส่าห์ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับผู้มีอิทธิพลแท้ๆ เชียว
ไอ้พี่เปอร์นะไอ้พี่เปอร์ดันไปมีพี่สายรหัสเป็นไอ้พี่ลุกซ์ซะงั้น
แล้วพี่รหัสปีสามของผมจะเป็นใครกันนะ? ขอเถอะ...ขอที...อย่าให้พี่คนนั้นเป็นประธานปกครองปีสามเลยเถิด
(โชคดีที่ไอ้พี่เปอร์เป็นแค่นักศึกษาธรรมดาไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด)
“ไอ้เด็กนี่เนี่ยนะหลานรหัสกู!?!”
ไอ้พี่ลุกซ์มองหน้าผมกับไอ้พี่เปอร์สลับกันก่อนจะชี้หน้าผมด้วยท่าทางวอนตีน ไม่ต้องมาชี้หน้ากูเลยไอ้โหด!
“เออ!”
ไอ้พี่เปอร์กระแทกเสียงใส่ ทำไมกูรู้จักแต่คนที่ชอบเล่นของสูงวะ(แค่สองคน)
“ดี! คืนนี้ร้านเดิม! กูจะเลี้ยงน้องสายรหัส”
ไอ้พี่ลุกซ์แสยะยิ้มก่อนจะหันไปสั่งไอ้พี่เปอร์ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ
“ผมไม่ไป ผมมีสอน” ไอ้พี่เปอร์ตอบทันที นี่พี่กล้าปฏิเสธประธานปกครองเลยเหรอครับ T^T
กูอยากใจกล้าบ้างจังแต่ตอนนี้กูเป็นแค่เด็กใหม่ ซ่ามากไม่ได้เดี๋ยวโดนตื้บ
“ห้ามเบี้ยว ไม่งั้นกูเล่นน้องมึงยับแน่”
น้องที่ว่านี่...กูใช่มิ T_______T
“แต่ว่าผม...” มาเถอะพี่เปอร์ กูไม่อยากยับว่ะ
“สอนเสร็จกี่โมงก็ต้องมา ถ้าถึงสี่ทุ่มกูยังไม่เห็นหนังหน้ามึงโผล่มาล่ะก็มึงเตรียมตัวโดนลงโทษได้เลย”
ไอ้พี่ลุกซ์ชี้หน้าคาดโทษ ไอ้พี่เปอร์จึงได้แต่กระทืบเท้าปึงปังอย่างขัดใจ พี่เปอร์หันมามองผมด้วยสายตาประมาณว่า
กูไม่น่ามาช่วยมึงเลย ก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกจากโรงยิมไป
“ส่วนมึงไปวิ่งสิบห้ารอบ
ถ้าเดินกูจะให้คลาน!”
มึงอารมณ์เสียพี่เปอร์แล้วมึงมาลงกูทำไมครับ(ที่จริงมันก็โมโหผมด้วยนั่นแหละ)
แต่พอรู้ว่าผมเป็นน้องในสังกัดมันไอ้พี่ลุกซ์ก็เปลี่ยนสรรพนามกับผมทันที หรือไม่มันอาจจะติดพันมาจากการคุยกับพี่เปอร์เมื่อกี้ก็ได้
T______T
ซวยแดกจริงกู
“ลุกซ์ กูไปด้วย” เสียงแหบๆ
ของไอ้พี่ลันดังขึ้น
“มึงเสือกไร?”
ไอ้พี่ลุกซ์หันไปมองไอ้พี่ลันอย่างอารมณ์เสีย
“กู-เป็น-น้อง-รหัส-มึง!!” ไอ้พี่ลันย้ำ พระเจ้า...ลากกูไปทำการฆาตกรรมที
พี่รหัสปีสามของผมก็คือไอ้พี่ลันสุดโหดคนนี้เองหรือเนี่ย ทำไมกูต้องไปเกี่ยวพันกับพวกที่มีอำนาจมืดด้วยวะ
TOT
ถึงไอ้พี่ลันจะไม่ใช่ประธานปกครองปีสามแต่พี่แกก็น่ากลัวอยู่ดี
เดี๋ยวนะ...ผมรู้ได้ไงว่าไอ้พี่ลันไม่ใช่ประธานปกครอง?
“พี่เตี้ย ไม่ได้เป็นประธานปกครองใช่ไหม?”
ผมรีบหันไปถามไอ้พี่ลัน
พี่แกพยักหน้าผมจึงยิ้มออก
“เป็น!” ฮ่วย!!! แล้วมึงพยักหน้าตอบรับคำกูหาหอยหลอดอะไรฟะ!!
มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอที่ไอ้พี่ลุกซ์ดันเป็นพี่รหัสของไอ้พี่ลันซึ่งเป็นน้อง(หรือเปล่า?)และไอ้พี่ลันก็ดันเป็นประธานปกครองเหมือนพี่ชายตัวเอง(หรือเปล่า?) แต่ก็สมเป็นพี่น้อง(หรือเปล่า?)กันจริงๆ เพราะไอ้สองพี่มันโคตรโหดเหมือนกันเด๊ะ! (ไอ้พี่ลุกซ์โหดกว่านิดหน่อย
จากที่ผมเคยสัมผัสมาด้วยตัวเอง)
“จะมองตากันอีกนานไหม ไปวิ่งได้แล้ว!!”
ผมที่กำลังทำหน้าเป็นหมาโดนยาเบื่อสะดุ้งและออกวิ่งเมื่อไอ้พี่ลุกซ์ตะคอกใส่
เชื่อเลยครับ...จากเหตุการณ์ในวันนี้ผมต้องเป็นที่รู้จักของคนในหลายๆ
คณะแน่นอน
“ไอ มึงไปไหวแน่นะ?”
ไอ้เมฆถามหลังจากเข้ามานอนเล่นเกมในห้องของผม
“ไม่ไหวก็ต้องไหวล่ะวะ”
ผมพูดพลางเอี้ยวตัวเอาแผ่นประคบไปประคบที่หลังเพื่อบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ วันนี้โดนซะน่วมเลยครับ
“ถ้าพรุ่งนี้มีเทสต์กะทันหันอีกมึงจะว่าไง?”
ไอ้เมฆถามอย่างเป็นห่วง
“ถ้ากูได้ตัวแดงจริงๆ
กูจะโทษว่าเป็นเพราะพี่สายรหัสกู
เป็นพี่รหัสประสาอะไรวะไม่ดูแลน้องเลย
ฮู้ว!!” ผมบ่นอย่างหงุดหงิด
ไอ้พี่เปอร์ก็ดีอยู่หรอกเพราะพี่แกอาสาเป็นติวเตอร์ให้ผม
แต่ไอ้พี่ลันกับไอ้พี่ลุกซ์นี่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เอาแต่สั่งทำโทษ เชอะ!
“ให้กูไปเป็นเพื่อนไหมมึง?” ไอ้เมฆถาม
“ไม่เป็นไร
ถ้ามึงไปกูคงจะปวดหัวกว่าเดิมเพราะต้องคอยดูแลมึงเนี่ยไอ้ซื่อบื้อ!”
ผมสวมเสื้อช็อปทับหลังจากประคบแผ่นบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินไปตบหัวไอ้เมฆเบาๆ
มันจึงทำปากยื่นใส่ผมอย่างงอนๆ
“ทำอย่างกับกูเป็นลูกมึงแน่ะ”
ไอ้เมฆเอื้อมมือมาตีแขนผมเบาๆ
“ก็ดูเหมือนดีนี่” ผมยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมให้ไอ้เมฆล็อกประตูห้องแทนผมด้วยเพราะดูมันกำลังมันกับเกมเพลย์สเตชั่นทรี(แต่มันเล่นคนเดียว)อยู่
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เห็นคำผิดรีบบอกเลยนะจ๊ะไรเตอร์จะได้แก้เนาะ
ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรรออ่านนะคะ ^O^ เพราะคราวนี้ไอ้น้องไอของเราเมาอ้วกแตกเลยทีเดียวนะคะ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับน้องไอที่เมาแอ๋!?!
ปล. เห็นคู่ไอ้พี่ลุกซ์จอมโหดผ่านมาแว้บๆ แล้วล่ะสิคะ อิ๊ๆ
ความคิดเห็น