ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #9 : Rule 8 : รักน้องต้องร่วมเตียง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22.59K
      89
      19 มิ.ย. 61

    Rule 8 : รักน้องต้องร่วมเตียง

    ผมหยุดยืนอยู่หน้าร้านเหล้าก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเตรียมใจโดนโขกสับ  มือกระชับเสื้อช็อปเพื่อความเรียบร้อยก่อนเท้าจะค่อยๆ ก้าวผ่านประตูไป  ไอ้พี่สายรหัสผมมาซะพร้อมเพรียงกันเลยทีเดียวครับ  T^T  กูสาย...กูโดนแน่

    “มาสาย!” นั่นไง  คำทักทายของไอ้พี่ลุกซ์เล่นซะผมสะดุ้ง

    “ก็ไม่ได้นัดเวลาที่แน่นอน  จะไปว่าน้องมันทำไม” ไอ้พี่เปอร์เถียงให้  กราบตีนเลยครับพี่  ขอบคุณครับ “ไอ  ไปนั่งข้างพี่ลันสิ” ไอ้พี่เปอร์พูดพลางผายมือไปที่ว่างข้างพี่ลัน  ตอนนี้คนที่นั่งตรงกลางทำตัวกร่างเป็นนักเลงคุมซอยคือไอ้พี่ลุกซ์โดยข้างกายของแกมีสาวสวยและถัดจากสาวสวยเป็นพี่เปอร์ที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่  พี่เปอร์กับไอ้พี่ลุกซ์มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าวะ  ไอ้พี่ลุกซ์นี่ก็ศัตรูเยอะเหลือเกิน ทั้งไอ้พี่ลันและไอ้พี่เปอร์  อีกไม่นานคงจะรวมผมเข้าไปด้วย(น้องรหัสทั้งนั้น)

    “ขอโทษนะครับที่มาสาย” ผมก้มหน้าก้มตาขอโทษขอโพย

    “ซ่อม” ไอ้พี่ลุกซ์เลื่อนแก้วเหล้าสีอำพันมาไว้ตรงหน้าผม  โดนมอมอีกแล้วกู

    “ครับ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบแต่เมื่อเห็นสายตาดุๆ ของไอ้พี่ลุกซ์ผมจึงจำใจกรอกเหล้าลงคออย่างรวดเร็ว  ผมหลับตาปี๋กับความขมของเหล้าก่อนจะพ่นลมออกจากปากเบาๆ อ่าห์...ดื่มรวดเดียวแบบนี้มันก็สะใจไม่หยอกแฮะ

    “สนใจสาวซักคนไหม?  คุณชื่ออะไรนะ?” ไอ้พี่ลุกซ์ซุกไซ้คอสาวข้างกายก่อนจะหันมาถามผม  เป็นรุ่นพี่ที่ดีเหลือเกินที่มาเล่นฉากเลิฟซีนให้น้องดู

    “เอ่อ...ผมชื่อไอครับ  ส่วนผู้หญิง...ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมพูดอย่างเกรงใจ  ไม่ได้เกรงใจอะไรหรอก  ผมยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่อยากเปื้อนมลทินตอนนี้  ถ้าจะให้ผมพาผู้หญิงเข้าโรงแรมผมขอพาผู้หญิงที่ผมรักเข้าดีกว่า  แต่มันก็...น่าเสียดายแฮะ  เด็กนั่งดริ๊งค์ที่ร้านนี้แจ่มๆ ทั้งนั้น

    “อ้อ  มีไอ้ลันอยู่แล้วเลยไม่จำเป็นต้องมีสาวสินะ ฮึๆ” หนอย...ไอ้พี่ลุกซ์! ที่กูจูบกับไอ้พี่ลันก็เพราะมึงนั่นแหละที่อุตริสั่งให้กูจูบคนให้ดูต่อหน้า!

    “พูดเหี้ยอะไรของมึง?” ไอ้พี่ลันถามเสียงต่ำอย่างไม่พอใจ

    “อ้าว  พวกมึงไม่ได้คบกันเหรอ  เห็นจูบกันซะดูดดื่มขนาดนั้น” ไอ้พี่ลุกซ์พูดพลางหัวเราะร่าไปกับสาวข้างกายมัน  อิเจ๊นั่นรู้เรื่องกับเขาด้วยเหรอถึงหัวเราะไปกับเขาน่ะ ชิ!

    “ที่เป็นแบบนั้นเพราะใครล่ะไอ้ควาย!” ไอ้พี่ลันพูดลอดไรฟันเหมือนพยายามจะกลั้นอารมณ์โกรธที่ถูกล้อ

    “พูดดีๆ นะเว้ยลัน  กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ” ไอ้พี่ลุกซ์ถลึงตามองไอ้พี่ลันอย่างกวนตีน  สองคนนี้ต่างกันก็ตรงนี้แหละครับ  ไอ้พี่ลันจะเงียบๆ ไม่ค่อยเถียงคนแต่ไอ้พี่ลุกซ์มันใส่สุดใจขาดดิ้นเลยล่ะครับ  อะไรที่พี่มันเถียงได้มันเถียงหมดนั่นแหละถ้าเถียงไม่ได้ล่ะก็สั่งทำโทษลูกเดียวเลย  นิสัยแย่จริงๆ

    “รุ่นพี่อย่างมึงกูไม่อยากนับถือว่ะ!” ไอ้พี่ลันแสยะปากนิดๆ ก่อนจะจิบเหล้าต่อส่วนไอ้พี่ลุกซ์ก็ไม่สนใจไอ้พี่ลันอีก แล้วหันไปนัวเนียกับสาวข้างกาย

    ผมมองไอ้พี่ลุกซ์อย่างขยาดเล็กน้อยก่อนจะจิบเหล้าของตัวเองบ้าง  ผมหันไปมองไอ้พี่เปอร์ที่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดียกเหล้าซดไม่หยุดมือก่อนที่ผมจะซดบ้าง  เห็นคนกรึ๊บเหล้าหนักแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแบบนี้ผมก็อยากจะทำบ้าง  ไหนๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดผมขอเต็มที่บ้างละกัน 

    ผมเพิ่งมานึกได้เมื่อกี้นี่เองว่าพรุ่งนี้วันหยุด  วันนี้ผมอุตส่าห์เตรียมแผนแกล้งเมามาใช้แท้ๆ เชียว  สงสัยวันนี้แผนเราคงจะเป็นหมันเพราะเราเองก็อยากดื่มหนักๆ เหมือนกัน แฮะๆๆ

     

    “พี่เตี้ย  ทำไมชอบทำหน้านิ่งว้า  ยิ้มหน่อยนะยิ้มหน่อย คิกๆ” กูเมาแล้วครับ  อาการกวนตีนรุ่นพี่แบบนี้แสดงว่ากูเมาแถมยังไม่เมาคนเดียวนะฮะ  ผมยังมีไอ้พี่เปอร์เมาเป็นเพื่อนด้วย  รายนั้นเมาแล้วน่ากลัวกว่าผมเยอะเพราะรายนั้นเมาแล้วท้าคนต่อยครับ  และที่ไอ้พี่เปอร์มันท้าจะเป็นใครที่ไหนไปไม่ได้นอกจากไอ้พี่ลุกซ์ที่ตอนนี้ไร้สาวข้างกาย  พี่ลุกซ์เองก็มึนๆ เหมือนกันครับ จู่ๆ แกก็โวยวายแล้วไล่สาวไปไกลๆ เฉยเลย

    “อย่ามายุ่ง!” ไอ้พี่ลันที่หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้าปัดมือผมที่ดึงแก้มแกออก  ไอ้พี่ลันเองก็มึนๆ เหมือนกัน  ซวยเช็ดละ  เมาจนสติเหลือน้อยกันทุกคนแบบนี้แล้วจะกลับบ้านอย่างไรวะ

    “อะไรกัน  หน้าตาแบบนี้ถ้ายิ้มล่ะก็คงหล่อมากเลย   นะๆๆ ผมชอบหน้าพี่ตอนยิ้มที่สุดเลย” ผมพูดก่อนจะประคองหน้าไอ้พี่ลันเอาไว้   ตอนที่พี่ลันยิ้มแกคงไม่รู้ตัวหรอก  แต่เท่าที่ผมจำได้...พี่แกยิ้ม พี่แกหัวเราะก็เพราะการกระทำปะหลาดๆ ของผม  ผมไม่ได้หลงตัวเองใช่ไหมครับ?

    “นายเมาแล้ว  กลับเถอะ” ไอ้พี่ลันปรือตามองผมก่อนจะลุกขึ้นยืนและหิ้วคอเสื้อผมไปด้วย

    “ไม่ไปๆ อยากกินเหล้าต่อ ไม่เอาไม่ไป” ผมงอแงก่อนจะดิ้นจนพี่ลันต้องปล่อยคอเสื้อผม

    “ไป!” ไอ้พี่ลันขู่ ผมจึงยอมเดินตามพี่แกต้อยๆ  ผมจะรอดไหมเนี่ย?  ไอ้พี่ลันก็ดูมึนๆ เมาๆ แล้วจะขับรถไหวเหรอ?  ถ้าไม่ติดว่าไอ้พี่ลันบังคับให้ผมไปด้วยล่ะก็ผมจะเดินกลับหอด้วยตัวผมเอง

     

    แสงแดดยามสายที่ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาเลียใบหน้าทำให้ผมค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาและรีบเอามือปิดหน้าไว้เพราะรู้สึกแสบจากการถูกแดดเผา  ผมกะพริบตาถี่ๆ ไล่ความมึนงงก่อนจะค่อยๆ สำรวจดูตัวเอง...

    เอ๊ะ! เกิดอะไรขึ้นกับตัวของผม? แล้วห้องที่ผมอยู่มันคือห้องของใคร?  แล้วไอ้ที่นอนกอดผมอยู่มันคือใคร?  แล้วทำไม...

    ...ผมถึงไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!!!!!!!!

                ผมที่เปิดผ้าห่มเพื่อส่องดูสภาพของตัวเองก็ต้องช็อคเมื่อไม่มีอะไรอยู่บนร่างกายของผมเลยแม้แต่อย่างเดียว  ผมส่องไปดูร่างกายส่วนล่างของคนที่นอนอยู่ข้างๆ บ้างก็พบว่าไอ้หมอนี่มันยังใส่กางเกงอยู่(แล้วทำไมกูไม่ได้ใส่วะครับ)  ที่ผมรู้ว่าคนที่นอนข้างๆ ผมเป็นผู้ชายก็เพราะแขนที่มันก่ายลงบนลำตัวของผมมันล่ำเกินกว่าจะเป็นแขนผู้หญิงได้  แต่เอ๊ะ!?! หรือว่าผมจะถูกสาวนักกล้ามลากมาข่มขืน? โอ้! ไม่นะ!!!!

                ผมทำหน้าแขยงนิดๆ ก่อนจะค่อยๆ เขี่ยแขนล่ำๆ นั่นออกจากตัวและคลานลงเตียง  แต่แม่ง!! ไอ้แขนที่ผมเขี่ยออกเมื่อกี้มันดันขยับมาโอบรอบเอวของผมเอาไว้ทำให้ผมลุกไปไหนไม่ได้  พระเจ้า!! กูอยากร้องไห้ TOT

                ผมค่อยๆ หันไปมองคนที่กำลังกอดเอวผมอยู่ก่อนจะค่อยๆ แกะมือมันออกเมื่อเห็นว่ามันแค่ละเมอมากอดผมเท่านั้น

                และทันทีที่ผมก้าวลงจากเตียงร่างผมก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเย็นๆ  ผมเพิ่งสำเหนียกได้ว่า...แข้งขาผมมันอ่อนแรงแถมยังปวดหนึบๆ ที่สะโพก  เอื๊อก!! ไอ้ล่ำนี่มันทำอะไรกับร่างกายของกู!!  ไม่จริงใช่ไหม...ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ(โป๊)นะว่าสำหรับคนที่มีอะไรครั้งแรกมันจะปวดสะโพกจนแทบเดินไม่ไหว  แต่ว่าผมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง  ผมต้องเป็นฝ่ายทำให้ผู้หญิงเจ็บจนเดินไม่ไหวสิแล้วทำไมผมถึงเป็นฝ่ายเจ็บซะเอง  แต่ว่า...ไอ้ที่มันนอนกกผมอยู่มันก็ผู้ชายนี่หว่า  ว็อทเดอะฟ้ากกกกกก!!!

                ผมคว้าเสื้อผ้าของตัวเองที่หล่นอยู่บนพื้นก่อนจะกระดึ๊บๆ เข้าไปในห้องน้ำ  ปวดเอวฉิบหาย  จะกลับหอไหวไหมเนี่ย?  นอกจากจะปวดเอวแล้วผมยังปวดหัวอีกด้วย  เมื่อคืนดื่มหนักไปจริงๆ แต่โชคดีเหลือเกินที่วันนี้ไม่มีเรียนผมจะได้พักผ่อน

                ผมเบิกตาโตส่องกระจกมองภาพตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ  ไอ้รอยจุดแดงๆ ช้ำๆ ที่มีอยู่เต็มตัวผมนี่มันคืออะไรวะครับ?  รอยนี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า...คิสมาร์ก? TOT  กูอยากตายอีกแล้วครับ

                แกรกๆ แอ๊ด  เหี้ย!!!  ผมว่าผมล็อคประตูห้องน้ำแล้วนะครับแต่ว่าทำไมประตูมันเปิดออกมาได้ล่ะ  แล้วสภาพผมตอนนี้มันอุบาทว์สุดตีน  เสื้อผ้าก็ยังไม่ใส่แถมท่ายืนยังยืนหนีบเป็นเป็ดก้นโด่งอีก  พระเจ้า!!

                “อะไรวะเนี่ย!?!” ไอ้คนที่เปิดประตูเข้ามามองผมอย่างตกใจก่อนที่มันจะแหกปากโวยวาย  กูนี่...กูต่างหากที่ต้องโวยวายเพราะกูเป็นผู้เสียหาย  โฮ!!!

                “พี่เตี้ย!!!!??” ผมมองคนที่เปิดประตูห้องน้ำเข้ามาอย่างตกใจ  นี่กูเสียเอกราชให้ลุงรหัสตัวเองเหรอเนี่ย  เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ

                “ไอ้สูง!?! มาอยู่นี่ได้ไง? แล้วสภาพนั่นมันอะไรวะ?” ไอ้พี่ลันมองผมตั้งแต่เท้าจรดหัวด้วยสีหน้าปะหลาดๆ

                “ผมต่างหากที่ควรถาม! พี่ทำอะไรกับผม? ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้!?!” ผมรีบใส่กางเกงก่อนจะเดินกะเผลกๆ ไปถามพี่แกใกล้ๆ  ก็แบบ...ยืนใกล้ๆ แล้วมันวีนได้สะใจดี

                “...ไม่รู้ว่ะ” ไอ้พี่ลันมองผมนิดหน่อยก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วตอบ

                “อ๊ากกกก!!! อยากจะกรีดร้อง! ทำไมพี่พูดแบบไม่รับผิดชอบแบบนี้! พี่ลากผมมาที่นี่พอผมรู้ตัวอีกทีผมก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า  แถมปวดเอวโคตรเลย!!” ตอนนี้ผมทั้งโกรธทั้งงงจึงกล้าว้ากใส่ไอ้พี่ลันอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจมืด  ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะกล้าหรอก =..=

                “ก็จะให้ทำอย่างไรล่ะวะ  ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปนี่หว่า! เมื่อคืนมันเมา” พี่ลันตะคอกกลับแต่ผมกลับไม่หดหัวเหมือนเมื่อก่อน  ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติที่ผมถูกพี่ลันตะคอกล่ะก็ป่านนี้หัวผมคงลงไปมุดอยู่ในกระโปรงนักศึกษาแล้วล่ะครับ

                “โอ๊ย!! ผมอยากจะร้องไห้จริงๆ” ผมขมวดคิ้วก่อนจะทรุดลงนั่งบนพื้นห้องน้ำอย่างไม่นึกรังเกียจ  จังหวะที่ก้นกระแทกลงพื้นผมต้องนิ่วหน้าแบบสุดๆ เลยเพราะมันเจ็บบรรลัย

                “แล้วนี่...มีอาการอะไรบ้าง?” ไอ้พี่ลันถอนหายใจหนักๆ หนึ่งเฮือกก่อนจะถามขึ้น

                “เจ็บก้น!” ผมตอบประชดๆ

                “ชัวร์เลย” ไอ้พี่ลันตบหน้าผากตัวเองดังแป๊ะอย่างเครียดๆ “ชาตินี้ทั้งชาติไม่คิดเลยว่าจะซั่มผู้ชายได้ลง” อ๊ากกกก!! ดูคำพูดคำจาสิ!!  ชาตินี้ทั้งชาติกูก็ไม่คิดว่ากูจะถูกเข้าข้างหลังเหมือนกันนั่นแหละเว้ย!!! โคตรแม่ง!!

                “โอ๊ย!! อยากจะบ้าตายจริงๆ” ผมกุมขมับอย่างเครียดๆ

                “ช่างมันเถอะน่า  มันเกิดจากความเมา”

                “ช่างได้ที่ไหนเล่า!! พี่อาจจะช่ำชองกับเรื่องแบบนี้แต่ผมไม่ใช่นี่!” ผมโวยวาย  อยากร้องไห้จริงๆ  ครั้งแรกของผมอะไรๆ ก็เป็นของผู้ชายไปซะหมด  ไม่ว่าจะจูบครั้งแรก หรือ ซั่มครั้งแรก  โอย! อยากตาย!

                “แล้วจะให้ทำยังไง? ให้คบนายเป็นแฟนเหรอ?” ไอ้พี่ลันตะคอกถาม  ผมสะอึกพูดไม่ออก  นั่นสินะ ผมโวยวายแล้วมันได้อะไรขึ้นมากันนะ  โวยวายแล้วพี่ลันจะรับผิดชอบอย่างไรในเมื่อผมไม่ใช่ผู้หญิง “เอาเถอะ  นายไปอาบน้ำก่อน  แล้วค่อยมาคุยกันอีกที” ไอ้พี่ลันเงียบไปสักพักก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ผมและปิดประตูห้องน้ำให้

                ผมถอนหายใจก่อนจะไปอาบน้ำแต่โดยดี  นี่ผมจะต้องทำความสะอาดข้างหลังด้วยใช่ไหม?  ทันทีที่ผมสัมผัสผมก็แทบร้องจ๊ากเมื่อมันเจ็บแปลบๆ  มันบวมมากเลยทีเดียว T^T แถมพอผมชักมือกลับมาดูผมก็พบคราบเลือดจากสิ่งที่ผมสัมผัส  ฮือ เจ็บโว้ย!!

                พอผมอาบน้ำเสร็จผมก็ออกไปนั่งเจี๋ยมเจี้ยมในห้องนั่งเล่นเพื่อรอให้พี่ลันอาบน้ำบ้าง  ตอนนี้ผมไม่กล้ามองหน้าพี่ลันเลยว่ะ   เมื่อคืนผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าผมรู้สึกอย่างไร แต่ที่มันออกมาเป็นแบบนี้แสดงว่ามันคงจะแย่สุดๆ  รู้สึกอึดอัดเป็นบ้าเลย

     

                “ที่นี่คอนโดของฉันเอง” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ไอ้พี่ลันก็พูดขึ้น  ออกมาตอนไหนวะ  ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย

                “อ่าครับ” ผมพยักหน้าตอบรับ

                “หิวไหม?” พี่แกถาม  ผมจึงพยักหน้า  ท่าทางเมื่อคืนจะใช้แรงไปเยอะพอควรพอตื่นมาท้องผมถึงร้องประท้วงโครกครากขนาดนี้  “กินพิซซ่าไหม?”

                “อะไรก็ได้ครับ” ผมตอบพี่แกจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรสั่งพิซซ่า  พอสั่งเรียบร้อยแกก็เดินมานั่งโซฟาตัวตรงข้ามกับผมด้วยใบหน้าเครียดๆ

                “จะให้จัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” พี่แกถามเสียงต่ำ  ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าไอ้พี่ลันนิดหน่อย

                “ผมมาคิดๆ ดูแล้วนะครับ  เรื่องนี้มันจะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้ในเมื่อเราก็เมากันทั้งคู่  อีกอย่างผมเป็นผู้ชายเรื่องแบบนี้คงไม่มีปัญหาเหมือนผู้หญิง” ผมพูด

                “อืม” ไอ้พี่ลันพยักหน้า

                “ในเมื่อพวกเราก็จำอะไรกันไม่ได้เลยผมเลยคิดว่าลืมๆ มันไปน่าจะง่ายกว่า” ถึงผมจะพูดไปอย่างนั้นแต่ผมกลับรู้สึกโหวงเหวงเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป  มันรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูกที่ครั้งแรกของผมเป็นผู้ชายอีกอย่างเป็นคนที่ผมไม่ได้รัก  ผมไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มันก็เลยรู้สึกแย่มากพอสมควร

                เฮ้อ! ปวดใจหนึบๆ เลยว่ะ

                “ฉันก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร  แต่นายคิดได้แบบนั้นก็ดีเพราะฉันเองก็ไม่รู้จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร” ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วนิดๆ

                “ครับ” ผมก้มหน้านิ่งๆ

                “นายโอเคแน่นะ?” ไอ้พี่ลันถามซ้ำเมื่อเห็นผมหน้าเสีย  เอาเถอะ เรื่องแบบนี้คงต้องทำใจกันนานหน่อย

                “ตอนนี้ยังแต่เดี๋ยวคงดีขึ้นเอง” ผมคลี่ยิ้มฝืนๆ

                แต่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้เสียงกริ่งก็ดังขึ้นซึ่งคนที่กดกริ่งก็คือคนส่งพิซซ่านั่นเอง

     

                หลังจากกินเสร็จผมก็คิดจะกลับแต่สภาพแบบนี้กลับไปไอ้เมฆคงจะสงสัยผมจึงอยู่ที่ห้องพี่ลันก่อน  วันนี้ทั้งวันไอ้พี่ลันเองก็ไม่ได้มีแพลนจะออกไปไหนเราก็เลยตัดสินใจนั่งดูหนังแผ่นของไอ้พี่ลันที่ห้องของแก  พี่ลันปิดม่านปิดไฟจนห้องมืดและเปิดลำโพงเสียงดังๆ จนให้บรรยากาศเหมือนโรงหนัง

                “ฮ่าๆๆๆ ก๊ากกกก” ผมหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเพราะหนังตลกที่กำลังดูอยู่  ให้ตายเถอะ...ผมขำจนน้ำตากับน้ำลายไหลกันเลยทีเดียวผิดกับไอ้พี่ลันที่นั่งหาวหวอดๆ อยู่ข้างๆ  นายคนนี้จะหน้าตายไปไหน  ขนาดหนังตลกยังไม่คิดจะหัวเราะออกมาสักแอะ “พี่เตี้ย  มันไม่ตลกเลยเหรอ” ผมหันไปถามพี่ลันอย่างสงสัย

                “เรื่องนี้...ดูหลายครั้งจนไม่ตลกแล้ว” ไอ้พี่ลันหาวอีกรอบก่อนจะตอบ  ผมอยากเห็นไอ้พี่ลันหัวเราะแบบเอาเป็นเอาตายสักครั้งจริงๆ  หน้าพี่แกจะเป็นแบบไหนนะ

                “งั้นเปลี่ยนเรื่องก็ได้นะ  ที่จริงเรื่องนี้ผมก็เคยดูแล้ว” ผมบอกก่อนจะลุกไปนั่งเลือกหนังที่ตั้งกองกันอย่างเป็นระเบียบอยู่หน้าเครื่องเล่น DVD

                “อืม แล้วแต่” ไอ้พี่ลันบอก

                “งั้นเอาเรื่องนี้ละกันผมยังไม่เคยดู” ผมพูดยิ้มๆ ก่อนจะยัดแผ่นหนังผีตลกใส่เครื่องและกลับไปนั่งข้างพี่ลันเหมือนเดิม

                พอหนังเริ่มเล่นที่ว่างระหว่างผมกับไอ้พี่ลันก็แคบลง  ผมหันไปมองไอ้พี่ลันที่ขยับเข้ามาใกล้อย่างงงๆ แต่พี่แกก็ยังทำหน้านิ่งๆ อยู่เหมือนเดิม

                “ชอบเหรอ?” ไอ้พี่ลันพาดแขนลงที่พนักพิงก่อนจะถาม

                “ใช่พี่  ผมชอบหนังผีนะ  มันหลอนดี ฮ่าๆ” ผมพูดพลางหัวเราะ  ผมไม่ได้โรคจิตนะแต่ผมชอบจริงๆ ก็ผมคิดว่าผีมันไม่มีจริงนี่นา  ผมชอบที่จะเห็นจินตนาการของคนที่ออกมาเป็นรูปร่างแบบนี้

                “บ้าจริง” ไอ้พี่ลันบ่นงุบงิบแต่ผมไม่ได้สนใจอะไรเพราะผมกำลังสนุกกับหนังที่ผมกำลังดู  แต่ระหว่างนั้นที่ว่างระหว่างผมกับไอ้พี่ลันก็แคบลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนตอนนี้ผมกับไอ้พี่ลันนั่งชิดกันแล้วครับ  ผมไม่ได้ขยับเข้าไปหานะ

                “พี่เตี้ย...เป็นอะไร?” ผมถาม  แสงจากจอทีวีขนาดใหญ่ส่องกระทบผิวหน้าทำให้ผมรู้ว่าหน้าพี่ลันตอนนี้กำลังซีดสนิทเลยทีเดียว

                “เปล่านี่  หนาวนิดหน่อย” ไอ้พี่ลันเบือนหน้าไปที่ประตูก่อนจะตอบ  พี่แกกำลังลังหลบตาผมอ่ะครับ  หลบทำไมครับพี่?

                “หนาวหรือกลัว?” ผมยิ้มแหย่ๆ หน้าซีดแบบนี้พี่แกกลัวแน่เลย ฮ่าๆๆ ไอ้โหดอย่างพี่ลันเนี่ยนะกลัวผี  โอ๊ย! ไอ้ไออยากจะหัวเราะให้ก้องโลกจริงๆ

                “พูดมากน่า” ไอ้พี่ลันหันมาขึงตาดุใส่ผมแต่แกก็ต้องผงะอย่างตกใจเพราะตอนนี้ผมกำลังทำหน้าเป็นผีใส่อยู่  ฮ่าๆๆ  ตลกอ่ะ  พี่ลันกลัวผี!!

                “โอ๋ๆ ไม่กลัวนะครับไม่กลัวนะ ฮ่าๆ” ผมลูบไหล่ไอ้พี่ลันอย่างปลอบประโลมก่อนจะหัวเราะอย่างขำขัน

                “นี่! ทำแบบนี้อยากโดนเหรอ?” ไอ้พี่ลันมองผมดุๆ ที่ผมไปล้อปมแก

                “ขอโทษครับ” ผมก้มหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะหันไปสนใจทีวีต่อ

     


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ไอผู้น่าสงสารเอ๋ย  ชาตินี้ทั้งชาติแกคงหาเมียไม่ได้แล้วล่ะ  ไปเป็นเมียเขาแทนดีกว่าเนอะ
    ใครเห็นด้วยกับไรเตอร์ยกมือขึ้นสองข้างด่วนๆ เลย >O<


    เห็นคำผิดตะโกนบอกเค้าดังๆ นะตัวเอง
     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×