คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Rule 10 : ความรู้สึกแปลกๆ
หลังจากนั้นเหตุการณ์ชุลมุนในห้องน้ำก็เริ่มขึ้น พี่จิ้นและพวกพี่นักบาสที่อยู่หอเดียวกันมาอาบน้ำด้วย ต่างคนก็ต่างแกล้งกันจนอับอายขายขี้หน้า ผมกะไอ้พีทถูกโลมเลียทางสายตาแต่ก็ไม่ได้หวั่น เพราะดูเหมือนว่าพวกพี่ๆ นักบาสจะจ้องจิกไอ้พวกโรคจิตทั้งหลายจนพวกมันหงอ แหม...พวกพี่ๆ นี่ก็นิสัยดีเนอะ รู้จักปกป้องรุ่นน้อง ฮ่าๆๆ
การแกล้งกันอย่างสนุกสนานของพวกเราหยุดลงเมื่อเสียงกรี๊ดกร๊าดพวกตุ๊ดเกย์ดังขึ้น พวกมึงจะสะดิ้งไปถึงไหนวะ ให้ตาย
แล้วไอ้ต้นเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้คีตะนั่นเองที่ดึงจิตวิญญาณตุ๊ดของเหล่าผู้ชายให้ออกมาหลั่นล้า เชี่ยนี่เดินเข้ามาพร้อมกับร่างสูงๆ และหุ่นดีๆ ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ไขมันส่วนเกิน ไอ้พวกผู้ชายวิปริตที่ชอบไอ้คีตะก็ต่างทำเป็นเหนียมอายและแอบเนียนไปยืนใกล้ๆ ส่วนไอ้พวกผู้ชายหัวใจเมะก็กัดฟันอิจฉากันยกใหญ่ หนึ่งในผู้คนที่อิจฉามันมีผมรวมอยู่ด้วยแน่นอนครับ
“โห ไอ้โหดมันเรียกเรตติ้งอีกละ” พี่จิ้นพูด
“ก็ดูเฮียแกสิ หล่อซะ ขนาดพวกผู้ชายที่ชอบผู้หญิงโนตมๆ ยังพูดไว้ว่า ถ้าเป็นพี่คิทล่ะก็ ฉันยอมพลีกาย เลย” ไอ้วาพูด เฮ้ย ขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เป็นฉัน ฉันก็ยอมว่ะ” พี่นักบาสบางคนพูดขึ้น ไม่รู้ว่าแกพูดเล่นหรือพูดจริงแหละ
“แต่ไอ้คิทโหดมันชอบผู้หญิงนี่เนอะ ยังไงพวกนั้นก็ไม่มีหวังหรอก” พี่จิ้นพูด
“ใช่ๆ เฮียแกชอบซาลาเปาลูกโตๆ คิกๆ” ไอ้วาหัวเราะ นั่นสินะ...หมอนั่นคงไม่มีทางหันมาชอบผู้ชายด้วยกันได้หรอก
ไอ้คีตะพยายามเบียดคนที่แอบเนียนไปยืนรุมล้อมแล้วเดินมาหาพวกผมที่ยืนเล่นกันเป็นกลุ่มใหญ่
“เชี่ยจิ้น ทำไมมึงไม่รอกูเลยวะ พวกมึงเหมือนกัน” ไอ้คีตะขมวดคิ้วพลางชี้หน้าพวกพี่นักบาสเกือบทุกคน เออว่ะ พวกพี่นักบาสหลายคนก็เรียนอยู่ห้องเดียวกันกะไอ้คีตะนี่นา
“ถ้ามากับมึงกูอาจจะโดนตุ๊ดแต๊ะอั๋งก็ได้” พี่จิ้นยักไหล่ตอบ พวกเขาสองคนสนิทกันสินะ ผมเพิ่งเคยเห็นคนอื่นนอกจากกรรมการนักเรียนสนิทกับหมอนี่นี่แหละ
“แม่ง ไม่รักกูเลย” ไอ้คีตะกอดอกก่อนจะสบัดหน้าไปด้านอื่น นี่งอนเหรอ?? ตัวเท่าควายเสือกงอนเป็นเด็ก น่ารักโคตรเลยมึง
“แล้วนี่ไอ้ขิมไม่มาอาบน้ำที่หอเราเหรอวะ เห็นมันบ่นอยากมานักหนา ไม่รู้จะอยากมาทำด๋อยอะไร” พี่จิ้นบ่น ผมเชื่อว่าประโยคที่พี่จิ้นพูดเมื่อกี้จะจี้ใจดำไอ้มินทร์เต็มๆ มันจึงหันมามองจิกพี่จิ้น แต่ดูเหมือนพี่จิ้นจะรู้ตัวจึงจิกกลับอย่างไม่ลดละ
“เหตุผลเดียว” ไอ้คีตะหรี่ตามองไอ้พีทนิดๆ ก่อนจะยักไหล่แล้วเดินไปแย่งฝักบัวคนอื่นอาบน้ำ นิสัยดีจริงๆ ทีผมยังใช้แค่ขันตักน้ำอาบเลยเพราะฝักบัวถูกคนอื่นใช้หมดแล้ว
ห้องอาบน้ำรวมของที่นี่ดูหรูหราจริงๆ มีอ่างบรรจุน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและมีก๊อกน้ำกว่าร้อยเรียงกันเป็นตับ ฝาหนังก็มีฝักบัวประมาณหนึ่งร้อยอันเรียงไว้ให้ใช้พร้อมกับอ่างล้างหน้าที่อยู่ข้างๆ ดูดีจริงๆ แต่เพราะพวกเราเข้ามาทีหลังจึงไม่มีฝักบัวใช้เพราะมันไม่พอ น่าเสียดายๆ
เมื่ออาบน้ำเสร็จพวกเราก็นัดรวมตัวกันอยู่ที่ห้องพี่จิ้นแต่ไอ้พีทไอ้มินทร์แล้วก็ไอ้ลิซไม่มาด้วยเพราะมันไม่ค่อยสนิทกับพวกพี่ๆ แต่ทำไมไอ้เชี่ยวาเสือกเสร่อมาด้วยล่ะเนี่ย
“มีอะไรสนุกๆ เล่นกันเหรอครับ” ผมถามเมื่อเข้าไปในห้องของพี่จิ้น
เตียงสองเตียงถูกขยับมาชิดกันจนกลายเป็นเตียงขนาดใหญ่ บนเตียงก็มีผู้ชายร่างยักษ์ห้าคนนั่งล้อมวงกันซึ่งในมือของแต่ละคนไม่พ้นมีไพ่กันเต็มมือ อะไรสนุกๆ ที่ว่านี่คือเล่นไพ่หรอกเหรอ?
“มาๆ มาเล่นกัน ไอ้จิ้นเป็นเจ้า” รุ่นพี่นักบาสที่อยู่ม.หกพูดขึ้น ดูจากหน้าพี่จิ้นแล้วสงสัยจะเสียไปเยอะ
“พวกพี่กล้ามากนะครับเนี่ย ถ้าเฮียคิทมาหาจะทำไงครับ?” ไอ้วาถาม
“น่าๆ เราเล่นเสียงเบาๆ ถ้าเสียงดังไอ้คิทมันมาแน่ เชี่ยนี่หูดียิ่งกว่าหมา” พี่นักบาสอีกคนพูด
“แย่จังนะครับที่ได้มาอยู่ห้องข้างกันกับเฮียคิท อันตรายๆ” ไอ้วาพูดพลางล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อเอากระเป๋าตังค์พร้อมกับเดินไปร่วมวง ตอนแรกเราก็นึกว่ามันจะห้าม ที่ไหนได้เตรียมเงินมาซะพร้อม
“อ่า งั้นเดี๋ยวผมไปเอาตังค์ก่อนละกัน ไม่ได้ถือมาด้วย” ผมพูดพลางจะเดินออกไปแต่ไอ้วารั้งไว้เพราะมันจะให้ผมกู้ก่อน แหม...ไม่ค่อยจะสนับสนุนกูเลยนะมึง
“อย่างต่ำยี่สิบบาทนะน้องๆ” พี่จิ้นพูด
“พี่จิ้น พี่เสียไปเท่าไหร่ละ?” ไอ้วาถามขึ้น ดูสนิทกันดีเนอะ
“อย่าถามมากน่า เล่นๆ เถอะ” พี่จิ้นขมวดคิ้วพลางรีบแจกไพ่ในมือ
“ใครจะอยากตอบว่าเสียไปสองพัน ฮ่าๆๆ” พวกพี่ๆ ในวงแซว ดูท่าคนอื่นๆ จะรวยเหลือเกินยกเว้นพี่จิ้นที่กำลังน้ำตาตกในเพราะเสียเงินไปเป็นพัน
“ป๊อกเก้าสองเด้ง!” เมื่อไพ่ส่งถึงมือผมครบสองใบผมก็โยนมันลงตรงหน้าทันที พี่จิ้นหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะปาดเหงื่อแล้วดูไพ่ตัวเอง ฮุๆๆ เล่นมาตั้งหลายรอบผมยังไม่เสียเงินซักกะบาทหนำซ้ำยังได้เงินมาเต็มสองมือ ฮ่าๆๆ
“โห ไรวะ!!” พี่จิ้นบ่นอย่างหัวเสียเมื่อเปิดไพ่ออกมาแล้วพบว่าตัวเองไอ้เพียงแต้มเดียวแม้จะจั่วเพิ่มไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่แต้มเดียวของพี่แกดันเป็นสามเด้งซะงั้น
“ขนาดกูได้สองแต้มกูยังได้กินมึงเลยว่ะจิ้น ฮ่าๆๆ” พวกพี่ๆ หัวเราะอย่างมีความสุข ได้ตังค์ก็มีความสุขเป็นธรรมดา
“พวกมึงได้ฝึกโหดแน่คอยดู!” พี่จิ้นคาดโทษ
“นี่ยังโหดไม่พออีกเหรอวะ!?!” พวกพี่นักบาสโอดครวญกันใหญ่แต่ยังบ่นกันได้ไม่นานก็มีใครบางคนมาเคาะประตูเสียก่อน
ก๊อกๆ
“เฮ้ย! ซวยละ เชี่ยคิทหรือเปล่าวะ” พวกพี่ๆ แตกตื่นรีบซ่อนไพ่
“รีบไปหลบในห้องน้ำไปเดี๋ยวกูไปดู” พี่คนที่เป็นรูมเมทกับพี่จิ้นพูดก่อนจะไปเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน
ห้องน้ำที่ผมคิดว่ากว้างบัดนี้แคบลงถนัดตาเมื่อมีเด็กหนุ่มวัยละอ่อนแต่ร่างอย่างกับควายอัดกันอยู่ด้านในถึงห้าคน จะมีแค่ผมนี่แหละที่กินเนื้อที่ไปเพียงจึ๋งเดียว
พวกผมต่างก็พยายามเอาหูแนบกับประตูเพื่อจะฟังเสียงของผู้มาเยือน อยากรู้อยากเห็นเหลือเกินว่าเสียงนั้นเป็นของใคร
“พวกมึงสองคน...” เสียงเย็นๆ ที่มั่นใจได้ว่าต้องเป็นเสียงของไอ้คีตะดังขึ้น น้ำเสียงของมันทำให้พวกผมถึงกับเสียวสันหลังวาบ
“อะ...อะไรของมึง มาดึกๆ ดื่นๆ” เสียงพี่จิ้นถาม
“พวกมึง...มียาแก้ไข้ไหม กูไม่อยากไปรบกวนผู้ดูแลตอนดึกๆ ว่ะ” แป่ว!! เสียงแม่งโคตรน่ากลัว ตอนแรกนึกว่าจะมาจับพวกเล่นไพ่ ที่แท้มาขอยาแก้ไข้ ให้ตาย!!
“เออ มีๆ เชี่ยจิ้นเป็นไข้บ่อยเลยต้องมีติดไว้” พี่รูมเมทพูดก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าพี่แกวิ่งวุ่นหายา
“มึงเป็นไร ไม่สบายเหรอ?” พี่จิ้นถาม
“เออ รู้สึกมึนๆ เลยกะจะกินยาดักไว้ก่อน” ไอ้คีตะพูดเสียงอ่อนลง
“มึงทำงานหนักไปแล้วนะเชี่ยคิท พักบ้างละกัน ถ้ามึงเป็นอะไรขึ้นมาหมาตัวไหนจะจับพวกสูบบุหรี่ที่ดาดฟ้าวะ” พี่จิ้นพูดกวนๆ
“เออน่า กูไม่เป็นไรหรอก ให้กูต่อยกับมึงตอนนี้กูยังสู้ได้สบาย”
“เฮ้ยๆ ขืนกูต่อยกะมึงกูก็ตายดิวะไอ้โหด มึงรีบกลับห้องไปได้แล้วไป” พี่จิ้นพูดพลางไล่และคาดว่าน่าจะไล่ไปได้แล้วเพราะผมได้ยินเสียงประตูปิดดังปัง
“เฮ้อ เกือบซวย” พวกผมเปิดประตูห้องน้ำออกไปเจอร่างพี่จิ้นไหลลงกับพื้นเหมือนกับคนเหนื่อยมาก
“โอย โคตรร้อนเลยเหอะ!” ไอ้วาบ่นหลังจากหลุดออกมาจากห้องน้ำ ผู้ชายหลายคนเข้าไปอัดกันในห้องน้ำเล็กๆ ไม่ร้อนก็ให้มันรู้ไปสิวะ
“เชี่ยคิทแม่งน่ากลัว เล่นเอาใจหายใจคว่ำกลัวมันจับได้ชะมัด” พี่จิ้นถอนหายใจเบาๆ
“ผมว่าเราแยกย้ายกันกลับก่อนดีไหมครับ กลัวไอ้คีตะวกกลับมาอีก ไหนๆ เราทุกคนก็ได้เงินเยอะแล้ว” ผมพูดพลางแอบลอบยิ้มแล้วเหล่ตามองพี่จิ้น
“ใช่สิ ได้เงินแล้วก็ทิ้ง” พี่จิ้นค้อนขวับ ฮ่าๆๆ ผมได้เงินพี่แกตั้งเจ็ดร้อยกว่าบาท มีเงินกินข้าวไปอีกหลายวันเลย เล่นไพ่กับคนไม่มีดวงนี่มีแต่ได้กับได้เว้ย ฮ่าๆๆ
พวกผมบอกลาเจ้าของห้องทั้งสองก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ขณะที่กำลังจะเดินลงบันไดผมก็ชะงักแล้วหันไปบอกให้ไอ้วามันกลับห้องไปก่อน
“วา มึงกลับไปก่อนนะเดี๋ยวกูทำธุระก่อนแป๊บ” ผมหยุดเดิน
“ทำอะไร เดี๋ยวฉันไปด้วย” ไอ้วายิ้ม
“เออน่า เดี๋ยวกูตามลงไป” ผมไล่พลางดันหลังมันให้เดินลงไป มันมองผมงงๆ แต่ก็ยอมเดินลงจากชั้นสามแต่โดยดี (พวกม.ห้าอยู่ชั้นสาม พวกผมอยู่ชั้นสอง)
ผมหันไปมองห้องที่อยู่ตรงข้ามกับบันไดอย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจเดินไปเคาะห้องที่มีป้ายชื่อติดไว้ว่า คีตกวี ก็แค่เห็นว่าหมอนั่นไม่สบายเลยจะไปดูอาการเท่านั้นเอง
ก๊อกๆ
ผมเคาะประตูก่อนที่เจ้าของห้องจะออกมาเปิดให้
“นาย...”
ฮวบ!!!
“เฮ้ย!!” จู่ๆ ร่างยักษ์ๆ ที่มาเปิดประตูให้ก็ทรุดฮวบลงกับพื้นผมจึงใช้ร่างของตัวเองไปรับไว้ แต่เนื่องจากขนาดมันต่างกันเกินไปผมจึงล้มลงกับพื้นโดยมีไอ้คีตะล้มทับ
“นี่นาย!! ลุกขึ้นมาก่อนเซ่!” ผมเขย่าร่างยักษ์ๆ ของหมอนั่นแรงๆ อ่า...ตัวมันร้อนมาก
“ปวด...หัว” ไอ้หมอนั่นครางเบาๆ ก่อนจะคลานออกจากตัวผม
“ไปทำอะไรมา ทำไมถึงตัวร้อนได้ขนาดนี้วะ” ผมถามพลางลุกขึ้นและช่วยพยุงร่างหนักๆ ของหมอนั่นไปที่เตียง
“สงสัยไม่ได้นอนมาหลายวัน” ไอ้หมอนั่นนอนลงบนเตียงและหลับตาลงก่อนจะเอาแขนก่ายหน้าผากแล้วพูดขึ้น
“แล้วนั่นอะไร ห้องแม่งโคตรรกเลย ถ้าอยู่แล้วไม่ป่วยก็ให้มันรู้กันไป!” ผมมองไปรอบๆ ห้องแล้วถอนหายใจ เห็นหมอนี่โคตรเนี้ยบ เสื้อผ้าไม่ยอมให้ยับ เรียนก็แม่งเก่งไม่นึกเลยว่าจะไร้ระเบียบขนาดนี้
“ก็ฉันไม่ชอบจัดห้องนี่หว่า” ไอ้หมอนั่นพูด
“แล้วนี่ทำไมจู่ๆ ถึงป่วยล่ะ ตอนอาบน้ำก็ยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่รึไง” ผมถามอย่างสงสัย
“ไม่หรอก ฉันมีอาการมานานแล้วแหละ ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกก็ฝืนทั้งนั้นแหละ แค่ก” ไอ้หมอนั่นพูดก่อนจะไอเป็นเอฟเฟ็คท์ประกอบ ถึงมึงไม่ไอกูก็เชื่อว่ามึงป่วย
ระหว่างที่ให้หมอนั่นนอนพักผมก็เริ่มจัดการเก็บห้องให้มันซะ ห้องนี้เป็นพักของมันเพียงคนเดียวจึงมีเตียงเดียวและทำให้ห้องดูกว้างยิ่งขึ้น ขยะในห้องหมอนี่ส่วนมากเป็นกระดาษที่เขียนตัวโน้ตยึกยักยึกยือที่ผมไม่มีทางเข้าใจได้เพราะผมไม่เคยตั้งใจเรียนวิชาดนตรีเลยสักครั้ง แหม...ผิดคาดนะที่หมอนี่สนใจเรื่องดนตรี
ผมยัดกระดาษที่ทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้องลงถังขยะ ผมคิดว่าหมอนั่นคงไม่ใช้แล้วล่ะเพราะกระดาษถูกขยำจนยับยู่ยี่ นอกจากกระดาษโน้ตเพลงแล้วยังมีกระดาษที่เขียนเกี่ยวกับการจัดทีมบาสไว้อีกต่างหาก หมอนี่มันก็ฝักใฝ่เรื่องบาสนี่นา เสียอย่างเดียวไม่ยอมไปซ้อมที่ชมรมซักที
ผมจัดภายในตัวห้องเสร็จแล้วจึงเข้าไปจัดในห้องน้ำ
ฮุๆ หมอนี่ไม่มีทิชชู่หรือไงนะ สงสัยไม่เคยช่วยตัวเอง อ่อนหัดจริงๆ แต่น่าแปลกตรงที่ทั้งๆ ที่ห้องสกปรกโสโครกสุดๆ แต่ในห้องน้ำกลับสะอาดนิ้งจนน่าแปลกใจ
หืม? ตรงหน้ากระจกในห้องน้ำมีกล่องคอนแท็คเลนส์ด้วย หมอนี่สายตาสั้นเหรอ?? เอ๊ะ?! คอนแท็คเลนส์สีดำ มิน่าล่ะสีตาเข้มสุดๆ เพราะใส่คอนแท็คเลนส์ช่วยนี่เอง
ผมเก็บขยะมายัดใส่ถุงดำก่อนจะหันไปเปิดตูเสื้อผ้าเพื่อจะจัดให้ ห้องรกแบบนี้ตู้เสื้อผ้าก็ต้องรกไม่แพ้กันแน่ๆ
ก่อนที่ผมจะเปิดตู้เสื้อผ้าของหมอนั่นผมก็เหลือบไปเห็นกล่องเครื่องดนตรีสีดำๆ ที่ข้างตู้ ผมขมวดคิ้วก่อนจะเดินไปหยิบมันมาเปิดดู
วะ...ไวโอลิน!?! หมอนี่เล่นไวโอลิน?? คุณนักดนตรีลึกลับก็เล่นไวโอลิน?? ไม่นะ...คงไม่จริงใช่ไหม!?!
ผมหันไปมองร่างยาวๆ ที่นอนก่ายหน้าผากหลับตาอยู่บนเตียงอย่างตกใจ ไม่หรอก...พวกพี่ๆ กรรมการนักเรียนบอกว่าคุณนักดนตรีลึกลับผมสีทองตาสีฟ้าเป็นลูกครึ่งไม่ใช่รึไง แต่หมอนี่ทั้งผมสีดำ ตาก็สีดำ...??
“นี่นาย ลืมตาซิ!!” ผมนึกถึงคอนแท็คเลนส์ในห้องน้ำก่อนจะรีบกระโจนไปเขย่าตัวหมอนั่น
“อะไรของนาย” หมอนั่นขมวดคิ้วแล้วลืมตาขึ้นพร้อมกับดันหน้าผมที่ยื่นไปใกล้ๆ เพื่อดูสีตาออกด้วยสีหน้ารำคาญ ก็คนจะนอนถ้าใครไปกวนก็ต้องรำคาญเป็นธรรมดา
โอ้วไม่!!! ไอ้บ้าเอ๊ย!!
“นาย!?! ตกลงนายคือดีเจนั่นใช่ไหม!?!” เมื่อผมเห็นสีตาของหมอนั่นผมก็แทบทรุด ให้ตายเถอะ!
“ชิ” หมอนั่นทำสีหน้าไม่พอใจก่อนจะเอามือกุมขมับตัวเอง
“นี่ ไอ้บ้านี่! นายจริงๆ ใช่ไหม!?! โอ๊ย! ไม่น่าเลย ฉันไม่น่าไปรู้สึกประทับใจดีเจนั่นเลยจริงๆ ถ้ารู้ว่าเป็นนายฉันคงไม่...ชิ!!” ผมทรุดลงนั่งกับพื้นสะอาดใสที่ผมบรรจงกวาดเองกับมือ
“ทำไม ถ้าเป็นฉันแล้วนายจะเกลียดใช่ไหม!? นั่นสินะ ฮึ!” ไอ้หมอนั่นหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะกระตุกยิ้มเหมือนสมเพชตัวเอง
“เอ่อ...ชะ...ฉันไม่ได้หมายความ...”
“นายออกไปเถอะ เกลียดฉันไม่ใช่เหรอ อ้อ คราวหน้าถ้ามีรายการนั้นนายก็ปิดหูซะนะ หรือไม่ก็ทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ไม่ได้ยินเสียงนั้น” หมอนั่นนั่นลุกขึ้นก่อนจะหันหลังให้ผม
“นาย...โกรธเหรอ??” ผมรู้สึกผิดที่พูดออกไปโดยไม่คิดจึงเอื้อมมือไปจิ้มไหล่กว้างๆ แข็งๆ ของหมอนั่น
“ฉันทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ?” น้ำเสียงแบบนี้งอนกูชัดๆ
“ฉันยังไม่ได้พูดซักคำว่าเกลียดนาย” ผมกระโดดขึ้นเตียงแล้วคลานไปนั่งข้างๆ กับหมอนั่น เมื่อเห็นผมไปนั่งข้างๆ มันก็หันไปทางอื่นทันที งอนเป็นเด็กเชียวนะมึง
“ฮึ! เมื่อก่อนนายเกลียดฉันไม่ใช่เหรอ จะเลิกเกลียดกันง่ายไปมั้ง”
“อยากให้ฉันเกลียดนายว่างั้น” ง้อยากนักเดี๋ยวแม่งเลิกง้อซะเลยนี่
“เออ”
“โอ๋ๆ อย่างอนเป็นเด็กดิ แค่นายไม่ล้อฉันเรื่องหน้าตาของฉันฉันก็ไม่เกลียดนายหรอกน่า ไอ้โหดอย่างนายมางอนฉันแบบนี้มันไม่ได้น่ารักเลยนะ” ผมเอาคางไปเกยไหล่หมอนั่น
“ฉันไม่ได้อยากน่ารักซัก...” หมอนั่นที่ดูเหมือนจะโกรธหันมาจะวีนใส่ผมแต่บังเอิญว่าผมเกยคางไว้บนไหล่ของมันอยู่พอมันเบี่ยงตัวมาผมก็หงายหลังล้มลงนอนบนเตียงทันที ส่วนมันพอหันมาเจอผมนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงมันก็ถึงกับเบิกตาแล้วหน้าแดง เฮ้ยๆๆ อย่ามาหน้าแดงใส่กูนะ กูเขินตามเลยไอ้เชี่ย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตัดฉับ!!! ฮ่าๆๆๆ
B B
ความคิดเห็น