ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I'm not gay!! แต่คนที่ชอบบังเอิญเป็นผู้ชาย (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : Rule 00 : Intro*

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 56


     

    edit 07/01/13
     

    Rule 00 : Intro*
     


                    การเกิดมาเป็นผู้ชายหน้าตาเหมือนผู้หญิงเป็นสิ่งผิดพลาดที่สุดในชีวิตผมเลยล่ะ  นอกจากจะหาแฟนสาวๆ สวยๆ ได้ยากแล้วปัญหาที่เกิดจากหน้าตาแบบนี้ของผมก็คือ...การถูกผู้ชายด้วยกันมาจีบ!!
     

                    ชีวิตอันแสนอาภัพของผมได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากถูกพ่อส่งเข้าโรงเรียนมัธยมปลายชายล้วนแถมยังเป็นโรงเรียนประจำที่แพงหูฉี่  ผมสงสัยเหลือเกินว่าพ่อไปเอาเงินมาจากไหนมากมายมาส่งผมเรียนที่โรงเรียนไฮโซแบบนั้นอีกทั้งค่าหอพักอย่างกับค่าโรงแรม  ทั้งๆ ที่พ่อเป็นแค่นักเขียนเกี่ยวกับสารคดีและการท่องเที่ยวแท้ๆ ผมไม่คิดหรอกนะว่าพ่อจะได้เงินเยอะ
     

                    จะว่าไปแล้วผมเกลียดโรงเรียนชายล้วนแบบสุดๆ เลยล่ะครับเพราะหน้าตาของผมมันเป็นแบบนี้ไง! น่าหงุดหงิดชะมัดแถมยังไม่ได้หลีหญิงอีก  อะไรจะซวยซ้ำกรรมซัดขนาดนั้นกันนะ
     

                    “อะไรจะน่ารักปานนั้น  นายเป็นผู้ชายแน่เหรอ” แค่วันปฐมนิเทศผมยังโดนทักแบบนี้อยู่ไม่ต่ำกว่าสิบรอบ  แต่ผมบอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้ามีใครมันบังอาจมาลวนลามล่ะก็...มันได้ด่าวดิ้นแน่!
     

                    “เฮ้ย! ถ้ารุ่นพี่ยังไม่หุบปากเน่าๆ ล่ะก็อย่าหาว่าผมไม่เตือน” ผมหันไปจ้องหน้ารุ่นพี่ม.6สามคนที่ยืนล้อมผมไว้อย่างเอาเรื่อง  พวกนี้มันลากผมมาที่สวนหลังโรงเรียนด้วยล่ะ  มันมีจุดประสงค์แปลกๆ แน่ๆ
     

                    โรงเรียนนี้มีหลักเกณฑ์การแบ่งช่วงชั้นโดยการใช้สีของเน็คไท ของม.4อย่างพวกผมจะเป็นสีน้ำเงิน ม.5จะเป็นสีเขียวส่วนม.6เป็นสีแดงแถมยังมีเข็มกลัดประจำหออีกด้วยแต่ตอนนี้พวกผมยังไม่ได้รับเพราะเพิ่งเข้ามา  หลังจากปฐมนิเทศเสร็จพวกผมจึงจะรู้ว่าได้อยู่หอไหน  เพราะงั้นสัมภาระของนักเรียนม.4ที่ขนมามากมายก่ายกองจึงกองเป็นภูเขาอยู่โรงยิม2
     

                    “เห? เป็นแค่เด็กใหม่กล้าอวดดีเหลือเกินนะ  อย่างนายคงไม่ได้มาจากสาขาม.ต้นสินะเพราะไม่เห็นจะคุ้นหน้าเลย” ไอ้รุ่นพี่มันจ้องหน้าผมกลับ  หมั่นไส้ชะมัดเลย  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโรงเรียนคุณหนูผู้ดีแบบนี้จะมีพวกนักเลงหัวไม้อยู่ด้วย
     

                    “แล้วมันจะเป็นอย่างไงล่ะครับ  เป็นเด็กใหม่ที่ไม่ได้มาจากม.ต้นของโรงเรียนนี้แล้วมันผิดตรงไหน  อย่ามาทำให้หงุดหงิดได้มั้ย  เดี๋ยวพ่อซัดให้ดิ้นเลยนี่” ผมยกกำปั้นขึ้นขู่แต่แทนที่พวกนั้นจะกลัวแต่กลับทำหน้างงก่อนจะหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง  ไอ้พวกรุ่นพี่บ้า!
     

                    “ฮุๆ คึๆๆ ดูหน้าของหนูน้อยสิ น่ากลัวเป็นบ้าเลย  ฮ่าๆๆๆ”
     

                    “หนวกหู!! ใครมาโหวกเหวกแถวนี้วะ!” ก่อนที่ผมจะทันได้ตอบโต้อะไรเสียงทุ้มเข้มก็ดังขึ้นอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับปรากฏร่างสูงชะลูด  ผมสีดำสนิทยาวประบ่าปลิวไสวเมื่อต้องลม  ใบหน้าคมคายหล่อเหลาอ้าปากหาวกว้างพลางเกาท้อง  โอ้ว! ไอ้หมอนี่  หน้าตาก็ออกจะหล่อบาดใจแต่ไหงทำท่าทุเรศๆ ไม่เข้ากับหน้าอย่างนั้นวะ
     

                    “อ้อรุ่นพี่นี่นา แล้วนี่นาย...เป็นเด็กปีหนึ่งทำไมไม่เข้าหอประชุมไปปฐมนิเทศฮะ!?!” ไอ้หน้าหล่อมองรุ่นพี่อย่างเหยียดๆ ก่อนจะหันมาจ้องผมเขม็ง  เป็นแค่เด็กม.5แท้ๆ แต่ทำไมถึงมองรุ่นพี่อย่างนั้นนะแถมไอ้พวกรุ่นพี่ดูหน้าเจื่อนๆ อย่างไงก็ไม่รู้แฮะ
     

                    “ก็ถูกรุ่นพี่เรียกออกมา  มันไม่มีทางเลือกนี่นา” ผมยักไหล่ตอบอย่างกวนลายรองเท้า  ผมหมั่นไส้หมอนี่จัง  มันหล่อจนน่าจับกดส้วมเลยทีเดียวจะได้หมดคู่แข่งหลีหญิง
     

                    “ไปเข้าห้องประชุมเดี๋ยวนี้เลยไอ้เปี๊ยก  ตัวกะเปี๊ยกเดียวยังจะมาทำท่าน่าหมั่นไส้เดี๋ยวเตะไส้แตกเลยนี่!” เฮ้ยๆ คำพูดมันชักจะเริ่มไปกันใหญ่แล้วนะไอ้หล่อ  ฉันไม่ได้ตัวเปี๊ยกเฟ้ยแต่แกมันสูงเกินมาตรฐานนักเรียนม.ปลายต่างหาก
     

                    “เฮ้ย ถึงจะเป็นรุ่นพี่แต่พูดอย่างนี้มันไม่เกินไปเหรอวะ” ผมเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อหลุดลุ่ยของหมอนั่นอย่างหาเรื่อง  เรื่องมีเรื่องผมถนัดนักแล  เห็นตัวแค่นี้แต่แรงเยอะอย่าบอกใครเชียวนะครับ
     

                    “แล้วจะทำไมวะไอ้เปี๊ยก  ปล่อยคอเสื้อฉันเดี๋ยวนี้เดี๋ยวมันก็ยับหมดหรอก” ไอ้หน้าหล่อหรี่ตาลงมามองผมอย่างเหยียดหยาม  เกลียดสายตาของมันจริงๆ
     

                    “มันยับมาแต่แรกแล้วเฟ้ย!! มาโรงเรียนยังไงไม่รู้จักรีดเสื้อผ้าให้มันเรียบร้อย  เป็นรุ่นพี่เสียเปล่าแต่ให้รุ่นน้องมาเตือนนี่น่าสมเพชชะมัดเลยว่ะ” ผมตะโกนใส่หน้ามันอย่างเดือดดาล
     

                    “รีดมาแล้วโว้ยแต่คนมันเพิ่งงีบไปเมื่อกี้จะไปรู้ได้ไงล่ะวะว่ามันจะยับแล้วหน้าอย่างฉันไม่จำเป็นต้องให้ไอ้หนูตัวเตี้ยอย่างนายมาเตือนหรอก” ขึ้นเลยๆ คำก็เตี้ย สองคำก็เปี๊ยก อยากจะจัดหมัดให้คนตัวสูงอย่างมันจริงๆ เลย!
     

                    “อ่า...น้องคิทครับ พวกพี่ผิดเองที่เรียกน้องเขาออกมา อย่ามีเรื่องกันเลยนะครับ เดี๋ยวพี่จะไปส่งน้องเขาที่ห้องประชุมเองนะ” พวกรุ่นพี่พูดกับหมอนั่นอย่างนอบน้อม  เฮ้ย ตกลงไอ้หมอนี่มันเป็นใครกันเนี่ย
     

                    “เออ” ไอ้ตัวสูงทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับเข้าไปทางที่ตัวเองเดินออกมา  อย่าบอกนะว่ามันคิดจะเข้าไปนอนอีกน่ะ  ไอ้ขี้เซาเอ๊ย!
     

                    “นี่ไอ้หนู อย่าไปมีเรื่องกับคนคนนั้นเลย  พวกฉันเตือนนายแล้วนะ  ป่ะ รีบไปห้องประชุมเถอะ” ไอ้รุ่นพี่สามคนพูดพลางรุนหลังผมให้เดินกลับเข้าหอประชุมโดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ถามอะไร
     

                    อะไรวะ!! เรียกออกไปแล้วก็ลากกลับมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่อง  เสียเวลาชะมัดเลย


     

     

                    “ไปไหนมาวะคิท  กูอยู่คนเดียวแล้วแม่งเสียวว่ะ  ดูสิ สายตาที่มองมาที่กูแต่ละคนอย่างกับพร้อมที่จะกระเดือกกูได้ทุกเวลา” ไอ้พีทเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมพูด  หน้าตามันโทนเดียวกันกับผมเลยล่ะครับและเราก็เพิ่งเข้าโรงเรียนชายล้วนมาพร้อมกัน  ด้วยมันสมองของไอ้พีททำให้มันสอบเข้าได้ในอันดับที่แปดจึงได้อยู่ห้องหนึ่งหรือห้องคิงนั่นเอง  ผมที่หัวไม่ค่อยจะดีก็เลยได้อยู่แค่ห้องควีน
     

                    “ถูกไอ้พวกรุ่นพี่หน้าเหียกเรียกออกไปอ่ะดิ  ตั้งแต่มาสมัครเข้าโรงเรียนก็ถูกแทะโลมทางสายตาหลายครั้งจนสะอิดสะเอียนจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย” ผมกอดอกพลางกระแทกก้นลงนั่งบนเก้าอี้อย่างแรง  สงสารไอ้พีทเหมือนกันที่ผมปล่อยให้มันนั่งฟัง ผอ. สวดอยู่นานสองนาน
     

                    “แล้วรุ่นพี่ทำอะไรมึงไหมวะ” ไอ้พีทถามอย่างเป็นห่วง   ผมว่ามันควรห่วงตัวมันเองดีกว่าเพราะนอกจากจะตัวเล็กแล้วแรงมันก็ไม่ค่อยจะมีเสียด้วยผิดจากผมที่มีแรงผิดกับขนาดตัวแถมยังช่ำชองเรื่องการตีกันสุดๆ ด้วย  ใครมันกล้าแหยมกับไอ้คิทมันตายร้อยเปอร์เซ็นต์
     

                    “ต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำกรรมการนักเรียนให้รู้จักนะครับ” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งพูดหลังจากที่ ผอ. สวดเสร็จแล้ว  ได้ฟังเสียงทุ้มๆ ก็ยังดีกว่าฟังเสียงแก่ๆ ล่ะวะ  ที่จริงผมยังไม่เห็นผอ.เลย ฮ่าๆๆ  อนุมานไปเองว่าผอ.ต้องเป็นคนอ้วนๆ หัวหงอกๆ

                    “เฮ้ย ไอ้คิท รีบแต่งตัวให้มันเรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย  เป็นกรรมการนักเรียนประสาอะไรวะเสือกสายตั้งแต่วันปฐมนิเทศ” เสียงหนึ่งแว่วเข้าหูผมทำให้ผมหันไปสนใจตรงประตูทางเข้าหอประชุมด้านหลังสุด  ผมกับไอ้พีทนั่งหลังสุดน่ะครับ
     

                    “ก็มีไอ้เด็กบ้าที่ไหนก็ไม่รู้มารบกวนการนอนก็เลยนอนนานกว่าปกติ” เสียงคุ้นๆ หูดังขึ้นอย่างหงุดหงิดก่อนร่างสูงผมสีดำขลับยาวประบ่ารวบไว้ด้านหลังลวกๆ จะโผล่เข้ามาในโสตประสาทตาของผม  เฮ้ย!!! นั่นมันไอ้ตัวสูงที่มันด่าผมว่าเตี้ยนี่หว่า!! อย่าบอกนะว่ามัน...
     

                    “กูไม่น่าหลงเข้ามาเป็นกรรมการนักเรียนกับพวกมึงเลย  ยุ่งยากกับชีวิตกูชะมัด” ไอ้สูงพูดอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินผ่านหลังผมไปเพื่ออ้อมไปด้านหน้าหอประชุม
     

                    อ๊าก!!! มันเป็นกรรมการนักเรียน!!!
     

                    “สวัสดีครับผมชื่อบดินทร์อยู่ม.5/1นะครับเป็นประธานนักเรียน  ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่และนักเรียนเก่าทุกคน  ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า...” พี่ประธานนักเรียนแนะนำตัวก่อนจะร่ายยาวโดยไม่สะดุดอย่างกับมีสคริปต์ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรอยู่ในมือเลยนอกจากไมโครโฟน
     

                    “พี่ชื่อขจรนะครับ จะเรียกว่าพี่ขิมก็ได้อยู่ฝ่ายบัญชี  ถ้าน้องๆ คนไหนมีปัญหาอะไรก็มาให้พี่ช่วยได้เลยนะครับ” พี่หน้าตาทะเล้นตัดผมทรงสกินเฮดพูดขึ้นต่อจากพี่ประธานนักเรียน
     

                    ผมก็เข้าใจอยู่หรอกนะครับว่าโรงเรียนนี้มันโรงเรียนผู้ดีเป็นธรรมดาที่จะมีแต่คนหน้าตาดีแต่...ไอ้กรรมการนักเรียนกลุ่มนี้นี่มันอะไรกัน!!! มันจะไม่หล่อเกินหน้าเกินตาไปหน่อยเหรอ!?! หล่อแม่งทุกคนเลย!!  จับฆ่าหมกส้วมซะทุกคนซะดีไหมจะได้หมดคู่แข่งจีบหญิง
     

                    “พี่ชื่อพิชญ์ชื่อเล่นชื่อบอลครับอยู่ฝ่ายกิจกรรม” โอ้ว ไอ้พี่คนนี้ชื่อเล่นยังจะยาวกว่าชื่อจริงด้วยซ้ำ  หน้าตาพี่แกดูใจดีและอ่อนโยนสุดๆ ผิดกับไอ้คนตัวสูงลิ่วที่ยืนอยู่ข้างๆ

                    “ผมชื่อคีตกวีชื่อเล่นคิท อยู่ฝ่ายปกครอง” ไอ้สูงพูดเสียงเย็น
     

                    =[ ]=!!  ให้ตายเถอะ!! ชื่อเล่นผมดันไปเหมือนกับมันซะได้  แถมเมื่อกี้หน้าโหดมันมองมาที่ผมด้วย  อยู่ฝ่ายปกครองงั้นรึ!?! เล็งตูอยู่ชัวร์เลยเพราะเพิ่งไปแผลงฤทธิ์ใส่
     

                    “พี่คนนั้นชื่อเหมือนมึงเลยว่ะคิท” ไอ้พีทสะกิดผมที่ทำหน้าเหวอยิกๆ  กูก็ไม่ได้อยากจะเหมือนกับมันหรอกนะ ให้ตาย
     

                    “ต่อไปนี้เราจะทำการประกาศชื่อนักเรียนในแต่ละหอนะครับ  หอพักของโรงเรียนเรียนเรามีอยู่สี่หอด้วยกัน  ประกอบด้วย หอเอ หอบี หอซี และหอดีซึ่งประธานหอแต่ละหอก็คือพวกพี่ทั้งสี่คนนั่นเอง  สำหรับคนที่ไม่ได้นั่งอยู่ในแถวห้องของตัวเองขอให้ไปนั่งด้วยนะครับเพราะเราแบ่งหอตามห้อง” พูดจบผมก็ลุกขึ้นยืนทันทีและนั่นก็ทำให้ผมตกเป็นเป้าสายตา  ชะอ้าว!! มีผมคนเดียวหรอกหรือที่นั่งผิดแถว  แต่ช่างเถอะ  ผมหน้าด้านอยู่แล้ว แค่สายตาร้อยสองร้อย ไม่สะเทือนหรอก
     

                    กระดาษสีขาวที่เขียนรายชื่อสมาชิกม.4/2ถูกส่งมาให้ผมที่นั่งอยู่หลังสุดของแถว  ผมกวาดตาดูรายชื่อของตัวเองปรากฏว่าผมได้อยู่หอดีห้อง202 โดยมีรูมเมทชื่อ วัชระ  ใครวะ?
     

                    “หลังจากนี้ประธานหอของแต่ละหอก็จะพบปะกับเด็กหอนะครับและพี่ประธานเขาก็จะพาน้องๆ เข้าหอกัน” พี่ประธานนักเรียนพูดจากนั้นกรรมการทั้งสี่คนก็เดินลงจากเวทีเพื่อมาพบปะกับเด็กหอที่อยู่ใต้โอวาทของตน  ผมเห็น...เห็น...เห็นว่าไอ้สูงมันกำลังเดินมาแถวๆ ห้องผม  ขอเถอะ! ขอให้มันเดินผ่านไป!
     

                    “ม.4 ห้องหนึ่ง สอง และสามได้อยู่หอ D ซึ่งมีผมเป็นหัวหน้าหอ!” ซวยเช็ด!! ไอ้สูงเดินมาหยุดที่หน้าห้องของผมซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างห้องหนึ่งกับห้องสามพลางพูดเสียงเย็นและเก๊กหน้านิ่ง  หน้ามันตายด้านสิ้นดี
     

                    “สำหรับหอนี้ซึ่งมีผมคุมอยู่จะเคร่งเรื่องกฎมาก  ผมเป็นกรรมการนักเรียนฝ่ายปกครองเพราะฉะนั้นใครที่ฝ่าฝืนกฎผมไม่เอาไว้แน่  ผมบอกไว้ก่อนว่าผมเอาจริง  การลงโทษสำหรับคนทำผิดผมจะพิจารณาตามความผิด  หอจะปิดก่อนสี่ทุ่มและหากใครจะออกไปไหนหลังจากโรงเรียนเลิกจะต้องมาแจ้งกับผมโดยตรง  ในวันธรรมดาไม่อนุญาตให้ออกไปค้างข้างนอก  ผมบอกไปแล้ว ถือว่ารับทราบทุกคน” ไอ้สูงกอดอกพูดอย่างวางอำนาจ  ผมแอบได้ยินไอ้คนข้างหน้าผมซุบซิบกันประมาณว่า ไม่อยากอยู่หอนี้เลยว่ะ  หัวหน้าหอแม่งโคตรน่ากลัว  ซึ่งผมก็โคตรจะเห็นด้วย

                    “ผมให้เวลาหนึ่งนาทีในการหารูมเมทของตัวเอง  นักเรียนเก่าที่ย้ายจากแผนกม.ต้นคงคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บ้างและรู้จักโรงเรียนนี้ดีเพราะฉะนั้นช่วยแนะนำเพื่อนที่เข้าใหม่ด้วย”
     

                    “โด่เอ๊ย! นาทีเดียวจะไปพออะไรวะ  หน้าตายังไม่รู้จักเลย” ผมบ่นเสียงดังทำให้ทุกคนหันมาจับจ้องผมเป็นตาเดียว ประมาณว่า  มึงช่างกล้า 
     

                    “แทนที่คุณจะเอาเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับผมสู้คุณเอาเวลาไปหารูมเมทของตัวเองดีกว่า  ถ้ามีปัญหานักก็ไปตายซะ” เฮ้ย!! มันเลี้ยงหมาไว้ในปากกี่ตัวกันวะเนี่ย
     

                    “ไอ้โย่งปากเสีย  หัดให้อาหารหมาในปากหน่อยสิวะจะได้ไม่ส่งเสียงหนวกหู ทำเป็นวางก้ามโหด อย่าให้ฟอร์มหลุดทีหลังก็แล้วกัน” ผมกอดอกเบะปากใส่อย่างท้าทาย  ฮึ่ม!! เกลียดมันตั้งแต่ที่มันว่าผมว่าเตี้ยนั่นแหละ!
     

                    เมื่อผมพูดจบทางก็แหวกออกทันทีเป็นการเปิดทางให้ไอ้โย่งเข้ามาหาผมได้อย่างง่ายดาย  เออ เข้ามาดิ  กำลังอยากตั๊นหน้าหล่อๆ นั่นให้เสียโฉมพอดี
     

                    “ตัวเตี้ยๆ แต่ปากกล้าไม่เบาเลยนี่” เมื่อมันมายืนประชิดตัวผมทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมเตี้ยมาก  เพราะผมสูงไม่ถึงคางของมันด้วยซ้ำ!! มายก็อด!!
     

                    “แล้วจะทำไม!” ผมถามแล้วเงยหน้าพลางยักคิ้วกวนประสาท
     

                    “ก็ไม่ทำไมหรอก  แต่จะว่าไปนายคือคนที่ไปรบกวนการนอนของฉันนี่นา ฮึ! ตอนนั้นถูกรุ่นพี่เรียกตัวไปสินะ  คงเป็นเพราะมีหน้าตาแบบนี้ล่ะมั้ง” ไอ้หมอนั่นพูดพลางก้มลงมา  นิ้วเรียวยาวไล้คางผมเบาๆ มุมปากสีส้มอ่อนยกขึ้นยิ้มเหยียด  หนอย
     

                    ผลัวะ!! ผมบันดาลโทสะโดยการปล่อยหมัดเสยปลายคงจนหมอนั่นหน้าหงาย
     

                    “หน้าตาอย่างงี้แล้วมันจะทำไม!! อย่ามาดูถูกกูนะเว้ย!!” ผมถลึงตาด้วยความโกรธพลางชี้หน้ามันอย่างเดือดดาล
     

                    ผมเกลียด...เกลียดหน้าตาแบบนี้ของตัวเองที่สุดเลย!! เจ็บใจ...ไม่ได้อยากเกิดมามีหน้าตาเหมือนผู้หญิงหรอกนะเว้ย!!
     

                    ผมกำกำปั้นแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน  สายตาของผมแข็งกร้าวจนคนรอบตัวผมเริ่มถอยออกห่าง  เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นจนกลุ่มอื่นเริ่มหันมาสนใจ  พี่ประธานนักเรียนเดินเข้ามาตรงกลางระหว่างผมกับไอ้สูงพลางมองหน้าเราสลับกันเป็นเชิงถาม  ไอ้พีทที่อยู่หอเดียวกันเดินมาดึงแขนผมไว้ก่อนที่ผมจะเข้าไปตั๊นหน้าไอ้หมอนั่นอีกรอบ
     

                    “หลังจากที่เข้าหอและจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วมาพบผมที่ห้องกรรมการนักเรียนด้วยนะครับคุณชนินทร์” พี่ประธานนักเรียนเหลือบมองชื่อของผมที่อกเสื้อก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
     

                    ซวยแล้วกู!!

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตอนนี้แก้ไขคิดผิดนิดๆ หน่อยๆ จ้า

    เจอคำผิดบอกด้วยนะจ๊ะ

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×