คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Rule 04 : เข้าชมรม
จังหวะเพลงของนักร้องหญิงชาวต่างชาติสุดเซ็กซี่ดังขึ้นผมจึงเหลือบตาไปมองไอ้คีตะที่ดูท่าว่าคงจะยืนนิ่งเหมือนผม...
เอิ่ม...ใครก็ได้บอกผมทีว่านั่นคือไอ้ขี้เก๊กคีตะ!!
คือว่า...พอเพลงเริ่มไอ้บ้าคีตะก็เริ่มดึงคอเสื้อของตัวเองลงพร้อมกับกัดริมฝีปาก อ๊ากกกก เซ็กซี่ชะมัด!! เฮ้ย!! ไม่ใช่! ไอ้คีตะเดินวนเสาอย่างเป็นจังหวะก่อนจะจับเสาแล้วก็เต้น!! อ๊อกกกกก!!
ผมถึงกับสำลักน้ำลายเลยทีเดียว ไอ้คีตะไม่ได้เต้นยั่วแบบโคโยตี้แต่มันเต้นเซ็กซี่แบบผู้ชาย ใครเคยดูท่าเต้นเพลง Love song ของพี่เรนนะฮะ นั่นแหละ ใช่เลย!! ใครไม่เคยดู Youtube ช่วยคุณได้
ไอ้เวรคีตะมันเอวดีเนอะ สงสัยบริหารบ่อย
“ฮึๆ กระจอกว่ะ” ไอ้คิทย่างก้าวมาหาผมที่ยืนกอดเสาอยู่ตามจังหวะเพลงพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไล้คางผมเบาๆ
“ไอ้ควาย” ผมทำปากบู้อย่างหมั่นไส้
“ถ้าไม่อยากโดนรุมโทรมก็ทำตามฉันซะ บอกไว้ก่อนว่าพวกนั้นมันเอาจริง” ไอ้คีตะก้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูผม อึ๋ย สยิววุ้ย
ไอ้คีตะเดินอ้อมไปด้านหลังของผมก่อนจะตบกลางหลังผมเบาๆ ผมสะดุ้งยืดตัวขึ้นมันจึงจับข้อมือของผมพร้อมกับออกแรงตวัดร่างผมจนหมุนติ้วจวนเจียนจะล้มแต่มันก็ใช้มืออีกข้างยึดข้อมือผมไว้ทัน นี่ผม...กำลังเต้นไปกับมันใช่ไหม!?!
แปะๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นพวกเราจะหยุดการเต้นลงแต่เพียงเท่านั้น ไอ้คีตะสะบัดมือที่จับข้อมือผมออกก่อนจะเดินเก๊กๆ ไปยืนข้างๆ พี่รองประธานหอ
แว้บหนึ่ง...ผมรู้สึกสนุกไปกับมัน
แต่ก็ต้องกลับมาอารมณ์เสียเพราะหน้าตาขี้เก๊กของมันนี่แหละ เออ กูรู้ว่าหล่อ อย่าเก๊กให้มากนัก ไอ้สลัดผัก!
ไอ้คีตะกระซิบกระซาบกับพี่รองประธานหอก่อนจะเดินออกจากโรงยิมไป เออไปเลย!! หมั่นไส้ว้อย!!
“สวัสดีตอนเที่ยงครับทุกคน ผมกลับมาอีกแล้วนะครับ จะเจอกับผมทุกๆ เที่ยงแบบนี้อย่าเบื่อกันล่ะครับ โฮะๆ” มาแล้วๆ เสียงที่ผมรอคอย
“วันนี้ผมอยู่ได้ไม่นานนักนะครับเพราะวันนี้เป็นวันรับน้องของทุกคน ผมไม่อยากรบกวนความสนุกของพวกคุณน่ะครับ แน่นอนว่าวันนี้ผมมีเพลงมาฝาก เป็นบทเพลงของนักดนตรีชื่อดังก้องโลกอย่างเบโธเฟนนะครับ บทเพลงซิมโฟนีหมายเลขสิบเอ็ด” คุณนักดนตรีลึกลับพูดพลางลองเสียงไวโอลินเล็กน้อยก่อนจะเริ่มบรรเลง
ด้วยความพิเรนทร์ในกมลสันดานผมจึงค่อยๆ แอบย่องออกจากโรงยิมโดยไม่ลืมที่จะลากไอ้พีทกับไอ้มินทร์ออกมาด้วยและมุ่งตรงไปที่ห้องกระจายเสียงทันที
“เชี่ยคิท มึงจะลากพวกกูออกมาทำด๋อยอะไรวะ” ไอ้พีทบ่นแต่ก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี
“เออน่า”
“แล้วมึงจะไปไหน” ไอ้มินทร์ถาม
“ไปห้องกระจายเสียง กูอยากรู้จักคุณนักดนตรีลึกลับ” ผมพูด
“แล้วที่ลากพวกกูไปเนี่ย มึงรู้จักห้องกระจายเสียงหรือไงวะ ขนาดทางไปห้องน้ำมึงยังจำไม่ค่อยจะได้เลย” ไอ้มินทร์กอดอกมองหน้าผม ผมชะงักฝีเท้าก่อนจะหันไปมองหน้ามันบ้าง
“เออว่ะ”
“ไอ้โง่! เฮ้อ กูรู้จักเดี๋ยวกูจะเดินนำไปเอง บ้าจริงๆ เดินมาคนละทางกับห้องกระจายเสียงเลยนะเนี่ย” ไอ้มินทร์ส่ายหน้าอย่างระอาพร้อมกับหันหลังและเดินนำ
“มึงจะหลงใหลอะไรขนาดนั้นวะคิท ถ้าชอบขนาดนั้นก็ไปอัดเสียงเขามานอนฟังซะเลยสิ” ไอ้พีทพูด
“ถ้ากูทำได้กูทำไปนานแล้ว”
“แต่กูว่าถ้ามึงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขามึงอาจจะไม่อยากฟังเสียงเขาตลอดไปเลยก็ได้นะคิท” ไอ้มินทร์เปรยขึ้น
“ทำไมวะ มึงไปรู้อะไรมา” ผมถามเสียงจริงจัง
“เขาลือกันให้แซ่ดว่าคุณนักดนตรีลึกลับน่ะคือพี่คิทที่มึงเกลียดนักเกลียดหนานั่นแหละคิท” ไอ้มินทร์พูดแต่แทนที่ผมจะเครียดผมกลับหัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น
“จะเป็นไปได้อย่างไรกันวะ เสียงก็คนละเสียงกันแล้วแถมหน้าอย่างไอ้คีตะเนี่ยนะจะเล่นดนตรีเป็น” ผมหัวเราะขำๆ แล้วหน้าตาอย่างมันไม่มีทางพูดแบบคุณนักดนตรีลึกลับได้หรอก
“คิท มึงลองฟังเสียงของพี่คิทดีๆ สิ ตอนพี่เค้าจริงจังเสียงก็เป็นอีกแบบตอนพูดเล่นๆ ก็เป็นอีกแบบ ถ้าพี่เขาดัดเสียงนิดๆ หน่อยๆ ก็คงแยกไม่ออกแล้วล่ะ ได้ยินเขาก็ลือกันด้วยนะว่าคุณนักดนตรีลึกลับเป็นลูกครึ่ง แล้วชื่อจริงๆ ของพี่คิทน่ะคือ คีตกวี ครอยล์ พิบูลวงศ์สวัสดิ์” ไอ้มินทร์พูดเสียงเรียบ ผมนิ่งเงียบและคิดตาม
ลูกครึ่ง...น้ำเสียงปรับเปลี่ยนได้...ชื่อของหมอนั่นก็เกี่ยวกับดนตรี...และที่สำคัญ...หมอนั่นชอบหายไปตอนเที่ยงๆ ที่มีการกระจายเสียงของคุณนักดนตรีลึกลับ แต่...ยังไงผมก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นมันหรอก
“บังเอิญล่ะมั้ง ลูกครึ่งในโรงเรียนนี้มีคนเดียวซะที่ไหน อีกอย่างพวกพี่ๆ กรรมการนักเรียนบอกว่าคุณนักดนตรีลึกลับน่ะมีผมสีทองตาสีฟ้าเทาแต่ไอ้คีตะไม่ใช่ ผมก็สีดำตาก็ไม่ใช่สีฟ้าเทาซักหน่อย” ผมเถียง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน หน้าตาของไอ้หมอนั่นก็ออกจะดูดีในแบบไทยๆ แค่ผิวขาวกับจมูกโด่งมากก็เท่านั้น
“ไม่รู้ล่ะ ก็เขาว่ากันมาอย่างเงี้ย แต่ยังไงมันก็เป็นแค่ข่าวลือนั่นแหละ คนคนนั้นอาจจะไม่ใช่พี่เขาก็ได้” ไอ้มินทร์พูดพลางตบไหล่ผมเบาๆ
ถึงมันจะพูดว่าอาจจะไม่ใช่ในตอนสุดท้ายแต่ท้ายที่สุดผมก็กังวลอยู่ดี ถ้าคนคนนั้นคือไอ้คีตะจริงๆ ผมคงช็อค!
เดินไปคุยไปในที่สุดพวกเราก็มาถึงห้องกระจายเสียง หัวใจผมเต้นโครมครามราวกับตื่นเต้นในสิ่งที่กำลังจะรับรู้
“ไง ทำไมถึงมาที่นี่กันล่ะ” ความหวังผมดับวูบเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู มือที่จับลูกบิดประตูถูกชักกลับมาวางข้างลำตัวเหมือนเดิม
“พี่...พี่บอล” ผมอุทานเบาๆ ทำไมพี่บอลถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ อย่าบอกนะว่ามาเฝ้าประตู
“คิทตี้มาทำอะไรที่นี่ฮึ? ห้องนี้ห้ามใครเข้านะรู้ไหม?” เฮ้ย! พี่ดินกับพี่ขิมก็อยู่ด้วยว่ะเฮ้ย เสาต้นแค่นี้ไหงบังผู้ชายตัวเป้งได้ตั้งสามคนล่ะเนี่ย
“ผมมาดูว่าคุณนักดนตรีลึกลับคือใคร” ผมตอบไปตรงๆ
“คงจะให้ดูไม่ได้หรอกเพราะเขามาช่วยงานตรงนี้แค่เที่ยงและแน่นอนว่าเขาไม่อยากให้ใครรู้จัก” พี่ขิมพูดสีหน้าจริงจัง ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นพี่ขิมทำหน้าจริงจังเสียที
“จะปิดบังไปทำไมก็ไม่รู้ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหนเลย” ไอ้พีทพูดทำขิมจึงยิ้มและเดินอ้อมไปด้านหลังไอ้พีท
“แล้วน้องๆ จะอยากรู้ไปทำไมล่ะครับ หืม?” เฮ้ย! ทีพูดกับผมทำไมทำเสียงแข็งแต่เวลาพูดกับไอ้พีทไหงทำเสียงหวานอย่างนั้นล่ะ!?!
“ก็แค่อยากจะรู้เฉยๆ ครับว่าทำไมต้องปิดบังกันด้วยทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อีกอย่างคนที่ชื่นชมคุณนักดนตรีลึกลับอะไรนั่นก็มีออกจะเยอะ เปิดเผยให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยสิครับ” ไอ้มินทร์ชักสีหน้าไม่พอใจพลางดึงไม่พีทไปหลบด้านหลัง
นับวันพวกมึงยิ่งเหมือนผัวเมียเข้าไปเรื่อยๆ เลยนะครับเพื่อน
ผมบ่นในใจพลางสอดส่องสายตาหาใครบางคนที่ควรจะอยู่ในกลุ่มกรรมการนักเรียนด้วยแต่กลับไม่มีแม้แต่เงา และนั่นมันยิ่งทำให้ผมสงสัยมากกว่าเดิม
“เอ้า! ถ้าไม่ทำให้เป็นความลับก็ไม่สนุกน่ะสิ อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกนายแม้แต่น้อยเพราะฉะนั้นกลับกันไปได้แล้วไป” พี่ขิมหันไปพูดกับไอ้มินทร์เสียงเขียว เอาแล้วไง...ศึกชิงนางรึไงกันเนี่ย
“กลับกันเถอะพีท คิท” ไอ้มินทร์ทำเสียงเขียวไม่แพ้กัน ผมว่า...อีกไม่นานสองคนนี้ได้ตีกันแน่ แต่ไอ้มินทร์จะสู้ได้เหรอ มันตัวเตี้ยกว่าพี่ขิมพอสมควรเลยล่ะ
“เฮ้ย เมื่อกี้ใครมาวะ เอะอะเชียว” ชายหนุ่มร่างสูงเดินมาที่หน้าห้องกระจายเสียงหลังจากเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์เรียบร้อยแล้ว
“พวกน้องคิทตี้น่ะ อยากรู้จักนักดนตรีลึกลับ” บดินทร์ส่ายหน้าอย่างระอา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาแอบดูนักดนตรีลึกลับ และยิ่งข่าวลือที่ว่าคีตกวีคือนักดนตรีลึกลับแพร่ออกไป เหล่านักเรียนที่ชื่นชอบทั้งคีตกวีและนักดนตรีลึกลับก็แห่กันมาจนกรรมการนักเรียนรับมือแทบไม่ไหว
“ไร้สาระจริงๆ อุก! ข้าศึกบุกอีกแล้ว” คีตกวีหน้าเสียเมื่อสิ่งแปลกปลอมอยากจะออกจากร่างกาย
“ไปกินอะไรมาวะ” เพื่อนส่ายหน้าพลางโบกมือไล่ให้เพื่อนหนุ่มไปเข้าห้องน้ำขณะที่เสียงของนักดนตรีลุกลับยังคงดังต่อไป
พวกผมเดินไปที่สนามบาสกลางแจ้งอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน ผมหงุดหงิดที่ไม่ได้รู้ความจริงส่วนไอ้มินทร์ไม่รู้มันหงุดหงิดเรื่องเชี่ยอะไร
“โธ่เว้ย!!” ผมระบายอารมณ์โดยการกระโดดตบแป้นบาสอย่างรุนแรง
“โอ้ว! โดดสูงว่ะคิท” ไอ้มินทร์หันมามองผมอึ้งๆ ก็คนตัวเตี้ยๆ อย่างผมกระโดดถึงห่วงที่สูงชะลูดขนาดนั้นก็คงต้องมีอึ้งบ้างอะไรบ้าง
“มันเป็นนักบาสของโรงเรียนสมัยม.ต้นน่ะ” ไอ้พีทพูด
“งั้นมึงก็ไปเข้าชมรมบาสสิคิท กูว่ารุ่งว่ะ” ไอ้มินทร์ตบไหล่ผมเป็นเชิงยุยง
“อืม กูก็คิดอย่างนั้นแหละ แต่ไม่รู้ว่าจะไปสมัครเข้าชมรมอย่างไร” ผมถอนหายใจเบาๆ แต่ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามาหาและยื่นเอกสารซักอย่างมาให้
“เมื่อกี้น้องกระโดดสูงมากเลยนะ เตะตาพี่เลย พี่เป็นผู้จัดการชมรมบาสชื่อจิ้นนะครับ” รุ่นพี่ที่ยื่นเอกสารให้ผมเมื่อครู่แนะนำตัว พี่เขาหน้าตาดีพอสมควรอถวตัวก็สูงแต่ไม่มากเท่าไหร่ ตัวสูงเกือบๆ เท่าไอ้มินทร์เลยล่ะครับ คือ...ตั้งแต่ผมเข้ามาในโรงเรียนนี้ผมยังหาคนที่เตี้ยกว่าผมไม่เจอเลย ขนาดไอ้พีทยังตัวสูงกว่าผมเลยฮะ รันทดของแท้ พ่อมึงก็สูงอยู่นะคิท ฮือๆ
“ผมชื่อคิทครับอยู่ม.4ห้องสอง” ผมยื่นมือออกไปรับเอกสารการสมัครเข้าชมรม
“ถ้าน้องสนใจจะสมัครเข้าชมรมจริงๆ ก็มาหาพี่ได้ที่ห้องชมรมบาสที่อยู่ในโรงยิมสามนะครับ หลังเลิกเรียนพี่อยู่จนถึงหกโมงเย็น” พี่จิ้นพูดเสียงนุ่มน่าฟัง โรงเรียนนี้นี่มันอะไรก๊าน! มีแต่คนหน้าตาดีๆ เล่นเอาหนังหน้าอย่างผมหมองไปเลยทีเดียว เจ็บใจ!
“เอ๊ะ แล้วทำไมไม่อยู่ร่วมกิจกรรมรับน้องล่ะ ฮึ? หนีออกมาแบบนี้ไอ้โหดคิทไม่ว่าเอาเหรอ”
“ไม่ว่าหรอกครับเพราะหมอนั่นหนีออกมาก่อนพวกผมเสียอีก” ผมเบ้หน้าเบื่อหน่าย
“คงจะไปห้องกระจายเสียงล่ะสิ” พี่จิ้นบ่นพึมพำ
“อ๊ะ! รุ่นพี่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับดีเจคนนั้นเหรอครับ?” ผมรีบถามออกไปอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ไม่รู้สิ ถึงรู้พี่ก็พูดไม่ได้หรอกครับ เอาล่ะๆ ออกมานานแล้วกลับเข้าไปกันเถอะเพราะอีกเดี๋ยวไอ้กรรมการฝ่ายกครองที่โคตรจะดุคงจะกลับมาแล้วล่ะ” พี่จิ้นตัดบทพลางรุนหลังพวกผมทั้งสามให้เข้าไปที่โรงยิม
หลังจากวันรับน้องผมก็ไปสมัครเข้าชมรมบาสอย่างที่พี่จิ้นบอก ในวันรับน้องอย่าให้ผมพูดถึงเลยนะครับว่าผมโดนไปเยอะมากแค่ไหน กว่าผมจะล้างตัวให้สะอาดได้นี่ใช้เวลาไปนานทีเดียว
“วี้ดวิ้ว! ไม่นึกเลยว่านางฟ้าจะมาโปรดชมรมของเรา” เสียงพวกสมาชิกชมรมแซวผมไม่ขาดปากหลังจากที่ผมเดินเข้าไปในห้องชมรมเพื่อเอาของไปเก็บในล็อกเกอร์ที่พี่จิ้นเตรียมไว้ให้อยู่ก่อนแล้ว
“หุบปากไปเลยนะพวกมึงถ้ายังไม่อยากเดี้ยง อย่าทำให้เด็กน่ารักๆ ต้องหนีหายไปจากชมรมอีกเลยว่ะ เห็นแต่หน้าถึกๆ อย่างพวกมึงกูเบื่อจะตายอยู่แล้ว” พี่จิ้นตีหน้าขรึมชี้หน้าด่ากราด วะวุ้ย! สะใจเว้ย!
“อะไรวะผู้จัดการ เห็นแต่หน้าผู้จัดการพวกูก็เบื่อเหมือนกันนั่นแหละ โด่ว!” พวกนักบาสทั้งหลายเริ่มส่งเสียงเป่าปากอีกระลอก
“ถ้าพวกมึงไม่หุบปากกูจะบอกไอ้โหดมาจัดการ” พี่จิ้นอ้างถึงใครบางคนพวกที่ส่งเสียงหนวกหูเมื่อซักครู่พลันเงียบไปทันที
“อย่าเอาเฮียโหดมาอ้างหน่อยเลยน่า เฮียแกไม่เข้าชมรมมาเป็นชาติแล้ว” ใครบางคนส่งเสียงกล้าๆ กลัวๆ ออกมา
“แต่นี่มันเริ่มมีการแข่งบ้างแล้วเดี๋ยวมันก็เข้ามาเองแหละ แล้วนี่กัปตันอยู่ไหนจะแนะนำสมาชิกใหม่อีกสิบคนให้รู้จัก” พี่จิ้นถามหากัปตัน
“ตั้งแต่เปิดเทอมมาก็ยังไม่เห็นเลยครับ...” พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นทำให้ผมรีบหันไปมองหน้ากัปตัน
“พี่บอล!” ผมพูดพลางกระโดดกอดคอพี่บอล ผมน่ะชอบอ้อนพี่บอลเพราะพี่แกทั้งใจดีและอ่อนโยนแถมยังไม่มีพิษมีภัยอีกด้วย
“มาสมัครเข้าชมรมบาสเหรอคิทตี้ ยินดีต้อนรับนะ” พี่บอลลูบหัวผมเบาๆ
“โด่ว!! ไม่ยุติธรรมเลยว่ะบอล ทีพวกกูน้องคิทเขาทำไมไม่เห็นวิ่งเข้ามากอดมั่งล่ะ” ใครบางคนส่งเสียงแซวและแน่นอนว่าต้องมีคนเสริม
“ก็พวกมึงมันไม่น่าไว้ใจนี่หว่า เนอะคิทตี้”
“ครับ แบร่!” ผมพยักหน้าพลางหันไปแลบลิ้นใส่พวกบ้า
และแล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่นห้องชมรมบาสอย่างสนุกสนาน พวกพี่ๆ ในชมรมเป็นพวกกวนส้นตีนแต่ก็ไม่ได้มีพิษมีภัย อาจจะมีแซวผมบ้างแต่พวกพี่ๆ ก็นิสัยดีไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวผมอย่างมีความหมาย
พวกที่พูดเล่นขำขันกับผมส่วนมากจะมีแต่พวกที่เป็นนักกีฬาซึ่งดูจากชุดบาสที่พวกเขาสวมส่วนสมาชิกชมรมอีกพวกหนึ่งไม่รู้มันโกรธแค้นผมมาตั้งแต่ชาติปางไหนถึงเอาแต่มองจิกจนผมรู้สึกได้แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร สงสัยพวกที่เขม่นผมจะเป็นแฟนคลับของพี่บอลล่ะมั้งเพราะรายนั้นเขาดูดีแถมใจดีขนาดผมยังรักและเคารพพี่บอลเลย
ผมสนิทกับพวกพี่นักบาสได้อย่างรวดเร็วเพราะพวกพี่ๆ นิสัยดีและคารมดีสุดๆ ถ้าได้อยู่โรงเรียนที่มีผู้หญิงพวกพี่ๆ ต้องป๊อบแน่แม้บางคนจะไม่ได้หน้าตาดีก็ตาม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
^+++++^
ความคิดเห็น