ความทรงจำต่อ.........
วันนี้ไม่มีใครมาหาผม จริงสินะก็วันนี้เป็นวันพุธ  วันหยุดปิดร้านจะมีใครมาได้อย่างไร  แต่ผมเหงา..เหงาจังเลย  ทำไมถึงปล่อยผมไว้ให้อยู่ในร้านน่ากลัวที่นี่คนเดียว  สี่รอบด้านล้อมด้วยกระจกใส  แสงจากดวงอาทิตย์ผู้ยิ่งใหญ่กำลังเผาทังหัวใจและตัวผมละลายไม่แลเหลือ  พอตกดึก แสงจันทร์งามสบายตา  แต่คุณกระต่ายผู้มีเงาดำตัวใหญ่ก็ทำใจผมสั่นอีกครา  ผมรู้สึกเหมือนว่า บางครั้งโชคไม่ดี  มันจะตะครุบเข้าหาตัวผม(แต่แปลกที่ทุกครั้งไม่มีบาดแผลทิ้งไว้) ตัวมันเหมือนจะใหญ่ขึ้นทุกคืนๆ  พร้อมๆกับดวงจันทร์สีเหลืองนวลจากเสี้ยว คล้ายลูกซาละเปาที่ถูกกัดไปแล้วกวาครึ่ง....ลูกซาละเปา  หล่อนก็มีรูปหน้าซาละเปา  ผมคิดถึงหล่อนจัง 
  ทุกวันหล่อนจะเข้ามาที่นี่ตอนเช้าๆ  ด้วยชุดทะมัดทะแมงแต่ดูโดดเด่น  หล่อนผู้มีใบหน้ารูปแปลก  ดวงตาสวยดึงดูดใจผู้ได้เห็น  แลพปากอิ่มเอ่มสีชมพูถูกแต่งดวยลิปบางๆ  ดูสวยจับตาจับใจนัก  ทุกๆเช้าหล่อนจะนั่งเขียนอะไรสักอย่าง(ซึ่งผมไม่เข้าใจสักทีว่าหล่อนเขียนอะไรอยู่  แต่มันชช่างดูยุกยิกขลุกขลิกแปลกตาผมเหลือเกิน) พร้อมๆกับถือถ้วยกาแฟร้อนๆไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาล  หล่อนชอบกาแฟขมๆสินะ  ส่วนผมคู่กับกาแฟหวานๆ ที่ต้องคนหลายๆเที่ยว  ด้วยเหตุนี้ผมขาดนมและน้ำตาลไม่ได้  ไม่อย่างนั้นผมจะไม่กระปี้กระเป่ารับวันใหม่  ตัวผมจะขาดสิ่งที่เรียกว่า “งาน” ไป(หน้าที่สำคัญยิ่งในชีวิตผม)
  กาแฟหอมๆต้องดื่มช้าๆ  ค่อยๆละเมียดละมิดรสชาติกลมกล่อมทีละนิด  พร้อมๆกับผ่อนคลายทั้งสมองและร่างกาย  แน่นอนผมชอบให้หล่อนดื่มกาแฟช้าๆคนเดียว  เพราะผมอยากอยู่กับหล่อนตามลำพังนานๆ  แต่เมื่อกาแฟหยดสุดท้ายหมด  เวลาอันแสนสุขของผมก็จบลงด้วย  หลังจากดื่มกาแฟจนหมดถ้วย  หล่อนก็จะลุกขึ้น เช็คบิลที่เคาน์เตอร์  แล้วค่อยๆห่างผมไปออกไปยังหน้าประตู  พร้อมๆกับมีรถฮอนด้าสีกรมท่าไม่ใหม่ไม่เก่าที่จอดรอหล่อนอยู่  ฮึ่มฮ่ม..ถึงจะมีรถบังอยู่  ผมก็เห็นนายนะ (แอบมองเห็นตามประสาคนทำอะไรไม่ได้นอกจากแอบมอง) ก็ทุกๆเช้าในช่วงเวลานี้แสงสะท้อนเข้าตาผมพอดีอ่ะ  บุรุษร่างปกติกับหน้าตาปกติแบบพวกทำงานบริษัททั่วไป  และดูท่าทางนิสัยจะปกติด้วย (สู้ผม คนแปลก  ดึงดูดใจสาวๆก็ไม่ได้) นั่งอยู่ในรถฝั่งคนขับ  คนพิเศษอย่างหล่อนไม่ควรกับนายจืดชืดนั่นเลย  คบกับคนธรรมดาชีวิตก็จะราบเรียบน่าเบื่อ  ไม่โลดโผนตื่อนเต้นหรอก  หล่อนรู้ไหมน้า.....
  ผมคิดห้ามไม่ให้ไปเท่าไร  สุดท้ายรถก็จะแล่นจากออกไป  พร้อมๆกับล่อนที่นั่งอยู่ในนั้น  และทุกๆเช้าก็เป็นเช่นเคย  เหลือผมคนเดียวในร้าน  ถึงผมจะมีช่วงเวลาแห่งความสุจเท่าใด  ก็เป็นแค่สุขฝ่ายเดียว(ล่ะมั้ง?) แล้วเธอก็จากผมไป...
  เวลาผ่านไป  เธอเริ่มมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้บ่อยน้อยลง จากทุกวันเป็นวันเว้นวัน  เป็นเดือนละครั้ง  จากไม่ค่อยเป็นห่างหาย จากห่างหายเป็นไร้ซึ่งวี่แวว  เฝ้ารอแล้วรออีก  หล่อนก็ไม่ปรากฎตัว  ใช่สิ ก็มันความคิดฝ่ายเดียว  ผมไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับหรอก  (และผมก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาเธอได้ยังไงด้วย) เฝ้าคิดเช่นนั้น หนักขึ้นเร่อยๆ  จนตัวผมติดกับดักให้เข้ากับความเศร้า  ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรม  ตัวผมไม่สะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนแต่ก่อนแล้ว  ตอนนี้ตัวปมเต็มไปด้วยรอยคราบเก่าและรอยเร้าจากหล่อน      แต่ผมก็ยังเฝ้ารอต่อไปไม่เคยย่อท้อ  การได้เจอหล่อนแม้จะเป็นการแอบมองฝ่ายเดียวนั้นคือความสุขที่สุดของผมแล้ว  แค่ได้มีประโยชน์กับเธอสักนิดก็ยังดี
  จนวันหนึ่ง  ขณะที่ผมกำลังเฝ้ารอคอยการมาของหล่อนเหมือนเช่นเคย  ผู้ชายหน้าปกติกับเด็กน้อยอายุราวๆ5ขวบคนหนึ่งก็เข้ามาในร้าน  แต่ไม่มีร่างของหล่อน.... ผมอยากจะฉุดกระชากนายคนนั้นมาถามเหลือเกินว่า เอาหล่อนไปซ่อนไว้ไหน  รู้ไหมผมปวดร้าวใจเพียงใด  ที่เอาหล่อนของผมไป  รู้ไหม สิ่งที่มีค่าเพียงอย่างเดียวในชีวิตของผมคือช่วงเวลาที่ได้เห็นหล่อนทุกๆเช้า อยู่ใกล้ผมเท่านั้น
  ผมมองหน้าเด็กน้อยที่เดินเข้ามาด้วย  เจ้าหนูหน้าเหมือนหล่อนจัง  ใบหน้ารูปซาละเปา ดวงตาคู่สวยมีเสน่ห์ คู่นั้น  ทำให้ผมคิดถึงหล่อนเหลือเกิน  เอ๊ะ แต่ทำไมเด็กน้อยกำลังร้องไห้  โอ๋ๆไม่เอานะ  ใครรังแกหนูหรือ?  บอกอาสิ นายธรรมดาพ่อของหนูใช่ไหมที่รังแกหนู?
  ด้วยความโมโหและเจ็บใจ  ผมตั้งใจจะพุ่งชนเข้าใส่หน้านาบธรรมดานั่น(เพื่อแก้แค้นให้เด็กน้อยกับเพื่อตัวเองที่แย่งหล่อนไปจากผม)  แต่แล้วก็ต้องเลิกล้มความตั้งใจ  ทำไมนายดูหน้าตาเศร้าหมองจัง  เกิดอะไรขึ้นเหรอ? นายธรรมดากำลังพูดอะไรสักอย่างกับเจ้าของร้าน
  ผมไม่ใช่คนเดียวที่กำลังเศร้า  นายธรรมดา เด็กน้อย  และเจ้าของร้านรวมทั้งพนักงานคนอื่นในร้านก็กำลังเศร้า.....
“คุณจำภรรยาผม ผู้หญิงที่มีรูปหน้ากลมคล้ายลูกซาละเปาได้ไหมครับ?” นายธรรมดาเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ
“แน่นอน ได้สิคะ สักเมื่อ5ปีที่แล้วได้คุณผู้หญิง ที่สวยแปลก  แต่งตัวทะมัดทแมง  ที่ทุกๆเช้าจะเข้ามาดื่มกาแฟเพรียวๆไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาลที่นี่ทุกวันก่อนไปทำงาน”เจ้าของร้านตอบเด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“ระยะหลังๆมานี้  คุณผู้หญิงหายไปไหนเสียแล้วคะ ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลย  ตั้งแต่แต่งงานมีลูกแล้วคงจะยุ่งๆสิท่า”
......เงียบ.นายธรรมดาก้มหน้า
สักพัก  เด็กน้อยก็เอ่ยตอบแทน
“คุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไปอยู่บนสวรรค์แล้วค่ะ” เด็กน้อยตอบเสียงใส
  ท่าทางจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ไปสวรรค์เท่าใดนัก 
“คุณแม่ไปสวรรค์  ที่นั่นสวยมากใช่ไหมตะ? คุณพ่อบอกค่ะ”เด็กน้อยพูดอย่างชะฉานต่อ
“เอ๋” เจ้าของร้านผู้รอฟังคำตอบอยู่นาน ตั้งตัวรับไม่ทัน
“คุณแม่ป่วย  ป่วยหนักมากเลยค่ะ  ตั้งแต่คลอดหนู  ต้องอยู่ในโรงพยาบาลตลอดเลย  แต่ไม่ไม่หาย
  จึงต้องไปรักษาตัวบนสวรรค์  แต่มีกฏอยู่ว่า  คนที่ขึ้นไปบนสวรรค์แล้วจะกลับลงมาไม่ได้อีกค่ะ  คุณแม่ต้องอยู่บนสวรรค์กับนางฟ้าเทวดาตลอดไป” เด็กน้อยอธิบายเสียงซื่อ “แต่คุณแม่ไปถึงสวรรค์แล้ว  ก็ยังเลิกดื่มกาแฟตอนเช้าไม่ได้เลยค่ะ ก็เลย..”
“ที่จริง ผมอยากมาขอซื้อช้อกาแฟที่ภรรยาผมเคยใช้ทุกวันครับ  มันเป็นคำขอครั้งสุดท้ายชองเธอ”นายธรรมดาพูด
พนักงานในร้านนี้ทุกคนยังตั้งตัวรับเรื่องที่ไม่คาดฝันนี้ไม่ทัน  มีแต่เจ้าของร้านที่ตั้งสติได้  เดินไปหยิบช้อนกาแฟคันนั้นมายื่นให้นายธรรมดา
  “ตั้งแต่ภรรยาของคุณไม่มาที่นี่  ช้อนกาแฟคันนี้ก็เริ่มมีคราบติด  ล้างขัดเท่าใดก็ไม่ยอมออก  ใช้มาตั้งนานไม่เคยเป็นอย่างนี้แท้ๆนะคะ”
ช้อนกาแฟคันนั้นดูเก่าแก่  แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์สะกดผู้ใช้  สมกับเป็นช้อนที่ทำมาจากช้อนเก่าขององค์ราชา
  นายธรรมดารับช้อนคันนี้ด้วยท่าทางทั้งเศร้าคิดถึงภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว และดีใจที่สามารถทำตามคำขอครั้งสุดท้ายของเธอได้  ก่อนที่นายธรรมดาจะได้ถามอะไ  เจ้าของร้ายก็เอ่ยขึ้น
“ดิฉันไม่กล้ารับเงินแขกประจำเก่าได้หรอกค่ะ  รับช้อนคันนี้ไว้เถอะนะคะ”
  นายธรรมดารู้สึกตื้นตันเหลือเกิน  แล้วพร้อมกับน้ำตา  นายธรรมดาหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านให้มุกคนฟัง  เรื่องเริ่มต้นที่
“วันนี้ไม่มีใครมาหาผมเลย  จริงสินะ  ก็วันนี้เป็นวันพุธ.......................................”
  นายธรรมดากล่าวต่อ “เป็นสมุดที่ภรรยาผมนั่งเขียนขณะดื่มกาแฟทุกเช้าครับ  ชื่อเรื่อง ความทรงจำต่อช้อนกาแฟ.......”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น