เจ้า บอดผู้น่าสงสาร - เจ้า บอดผู้น่าสงสาร นิยาย เจ้า บอดผู้น่าสงสาร : Dek-D.com - Writer

    เจ้า บอดผู้น่าสงสาร

    ไม่รู้จะอธิบายว่าอะไร

    ผู้เข้าชมรวม

    188

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    188

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 มิ.ย. 59 / 04:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    กรรมแต่หนไหน
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      กิจกรรมไปนา ยังคงมีเช่นทุกวัน แต่วันนี้ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าผู้ใหญ่จะไปขุดงูกัน แค่ได้ยินคำว่างู ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เราก็ไม่ไป ด้วยเด็ดขาด เพราะความกลัววิ่งไปถึงบนหัวแล้ว นอกจากไม่คิดที่จะไปแล้ว ก็ไม่คิดที่จะเห็นหรืออยากเห็น ประมาณบ่ายแก่ ก็เห็นญาติคนหนึ่ง ถือกระสอบปุ๋ยใบเขื่อง ๆ มา เราเองวิ่งตื๋อออกมาจากตรงนั้นทันที กลัวก็กลัว แต่ก็อยากไปดู ว่าถ้ามันรวมกันเยอะ ๆ จะเป็นอย่างไร จากนั้นเราก็เห็นเขาเอากระสอบเทลงไปในโอง ดินเผาทรงสูงใบหนึ่ง เราก็ค่อย ๆ เขย่งเท้าโผล่หน้าเข้าไปดู แล้วถามคนที่เอามาว่ามันคือ อะไร ได้รับคำตอบว่า มันคือ งูเห่าดำ
      เราก็ถามต่อว่าเอามาทำไม เขาก็บอกว่าจะเอามากิน สภาพตอนนั้น นึกไม่ออกว่าเขาจะทำอย่างไร

      แต่เราก็เห็นว่าหนึ่งในนั้น มีตาบอดอยู่หนึ่งตัว สักพักเราก็บอกว่า มันมีอยู่ตัวหนึ่งที่ตาบอดหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างหนึ่งเราไม่แน่ใจ เราก็เลยถามเขาว่า จะกินแม้แต่ตัวที่ตาบอดหรือ แล้วเราก็วิ่งไปบอกกับตาว่า ให้เอาเจ้าบอดไปปล่อยเถอะ ตาก็ไม่เชื่อ ถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าตามันบอดเราก็บอกว่าตามันเป็นสีขาวขุ่น ไม่เหมือนกับตัวอื่น ตาก็เลยมาดู จึงได้เห็นว่าตามันบอดจริง ๆ ก็เลยสั่งให้เขาเอาไม้จับงูมาจับใส่กระสอบ เพื่อที่จะเอาไปปล่อย

      เราก็อยากรู้อีก กลัวก็กลัว ขอเดินตามเขาไปดูด้วย อยากรู้ว่าเจ้าบอดจะมีชะตากรรมอย่างไร หลังจากที่เราเดินไปได้สักประมาณกลางทุ่งใกล้หนองน้ำ ช่วงนั้นนาบางผืนก็ทำการเกี่ยวข้าวไปแล้ว ก็จะมีซังข้าวยังคงอยู่ บ้างก็ถูกย่ำไปแล้วแต่บ้างก็ยังตั้งอยู่ ส่วนที่โดนย่ำไปแล้วก็จะราบลงกับพื้น คนปล่อยก็จัดการเปิดปากกระสอบ แล้วก็ใช้ไม้เขย่าก้นกระสอบให้มีเสียง จากนั้นเจ้าบอดก็เลื้อยออกมาจากปากกระสอบ แต่แทนที่เจ้าบอดจะเลื้อยไปข้างหน้า มันกลับเลื้อยมาทางด้านหลังทำให้เราต้องวิ่งกันกระจาย เพราะเราก็กลัวว่า เจ้าบอดจะแว้งมาเล่นงานมันหรือเปล่า

      จำได้ว่าก่อนทำการปล่อยเจ้าบอด ก็ได้มองแล้วว่า รอบบริเวณนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว และเจ้าบอดก็หน้าจะปลอดภัยเพราะทางเดินแนวหนองน้ำค่อนข้างรก เรามองกันแต่ข้างล่าง แล้วส่วนเจ้าบอดก็ดันไม่เลื้อยเข้าที่รก แต่มันกับเลื้อยไปตามรอยราบของซังข้าว ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินกลับนั้น ก็ได้ยินเสียง ดังพรึ่บตามมา จากนั้นก็ได้ยินเสียงดีปีกอีกพรึ่บพับตามมา พวกเราก็รีบออกวิ่่งแบบเอาตัวรอด คนละทิศคนละทาง ต่างคนได้แต่ตกตะลึงกัน เพราะภาพที่เห็นก็คือ เจ้าบอดอยู่ในกรงเล็บของเหยี่ยวสีน้ำตาล ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันบินมาจากไหน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเร็วมาก จนไม่ทันได้ตั้งตัว ความเป็นเด็กก็ทั้งตกใจและกลัว รวมกัน เราไม่ได้ยินเสียงเลยว่า มันบินมาจากทางไหน มาจากทางไหน และมันก็โจมตีเจ้าบอดอย่างรวดเร็ว 

      งานนี้เจ้าบอดเสียเปรียบเพราะเลื้อยไปในแนวราบของซังข้าวจึงตกเป็นเป้านิ่งของเหยี่ยวตัวนี้ น่าสงสารเจ้าบอดมาก ถึงแม้จะไม่ชอบงู และมองว่ามันเป็นสัตว์มีพิษ แต่พอเห็นสภาพนี้แล้ว น่าสงสารยิ่งนัก และ พวกเราก็ต้องรีบวิ่งให้ห่างจากเจ้าเหยี่ยวนี้ โดยเร็วเนื่องจากคนที่มาด้วย บอกให้รีบหนี เพราะมันอาจจะคิดว่า เราจะไปแย่งอาหารของมันหรือเปล่า เราก็ต้องยืนดูอยู่ห่าง เดี๋ยวจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย งานนี้เจ้าบอดไม่มีทางหนีได้เลย ได้เห็นว่ามันอยู่ในกรงเล็บของเจ้าเหยี่ยวตัวนี้ไปซะแล้ว รู้แล้วว่าเจ้าบอดจะเป็นอย่างไร อนิจจาเจ้าบอดผู้น่าสงสาร รอดจากการถูกฆ่า แต่ไม่สามารถหนีรอดจากกรงเล็บของพญาเหยี่ยวตัวนี้ได้เลย เคยเห็นแต่เหยี่ยวที่โฉบลูกไก่ แต่คราวนี้ จัดการกับงูตาบอดได้อย่างรวดเร็ว เราเดินคอตกกลับบ้าน และเศร้าใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และเป็นเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×