คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : 18 CHANGE | 2 Persons
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
18 | คน 2 คน
*เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน
ผมไม่เข้าใจ. . .
คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัว
ผมไม่ได้สนใจกับสิ่งที่กำลังเกิดกับตัวเองเลยซักนิดเดียว
สายตาของผมมันสนใจเพียงแค่
เขา
ในตอนนี้
เท่านั้น. . .
‘ปัง !’
ทันทีที่สิ้นเสียงปืนนั่นหัวใจของผมกระตุกวูบจนพยุงร่างตัวเองแทบไม่อยู่ ผมเห็นนิ้วเรียวของลู่หานเกี่ยวที่ไกปืนและเหนี่ยวไกไปแล้วจริง ๆ
สายตาของผมมันโคตรพร่าเลือน ผมมองเห็นเลือดสีแดงฉานที่เหมือนโดนเจาะให้ระเบิดออกมา
‘ตุบ !’
ปืนกระบอกในมือลู่หานค่อย ๆ ไหลลงมากระแทกพื้น พร้อม ๆ กับร่างของลู่หานที่ล้มลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น
“ลู่หาน !”
ผมตะโกนจนแทบจะกลายเป็นเสียงร้อง เหมือนกับอะดรีนารีนในร่างกายมันหลั่งจนเกินขอบเขต ผมผลักไอ้ร่างตรงหน้าให้ล้มลง ก่อนที่จะยกเท้าขึ้นกระทืบเข้าไปที่หัวของมัน จนกะโหลกและสมองแหลกเละคาฝ่าเท้า
“. . .”
แต่แล้วผมก็ต้องชะงัก เมื่อพบกับ ใครซักคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องส้วมอีกฝั่งตรงข้ามกับผม
แถมเขายังถือปืนอยู่ในมืออีกต่างหาก
เขาคือใครกัน. . .แต่ตอนนี้ช่างเหอะ
“ลู่หาน !”
ผมยังคงเรียกชื่อคนตรงหน้า ก่อนที่จะรีบเข้าไปหาเขา ผมทิ้งตัวลงนั่งยอง ๆ ก่อนที่จะจับเข้าที่ไหล่ของลู่หาน
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยิงตัวเอง
ผมรีบหยิบปืนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ลู่หานมาถือไว้เพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดจะยิงตัวเองอีกเป็นครั้งที่สอง ผมเช็คลูกกระสุนดู. . .มันไม่มีกระสุน
“. .อา”
ผมเหลือบสายตากลับไปมองที่ตรงหน้าลู่หาน มันเป็นร่างของพ่อของเขา กำลังนอนจมกองเลือดสด ๆ รอยถูกยิงที่หัวจากทางด้านข้าง. . .
ใครเป็นคน. . .
“ฉันเอง. . .”
เสียงเรียบๆดังขึ้นมาจากทางด้านข้าง ผมหันขวับไปมองตามต้นเสียง ก่อนที่จะพบว่าใครซักคนที่ยืนถือปืนคนนั้น เป็นคนยิง พ่อของลู่หาน
“ฮึก. . .”
มือของผมที่ยังคงจับอยู่ที่ไหล่ของลู่หานแน่นสั่นไปพร้อม ๆ กับไหล่ที่สั่นสะท้านของเขา ลู่หานสะอื้นเบา ๆ ปล่อยให้น้ำตามันไหล
ตอนนี้หัวสมองของผมมันว่างเปล่า. . .ผมไม่สามารถคิดอะไรที่มันมากกว่านี้ได้อีกแล้วจริง ๆ
“มินซอก. . . ?”
เสียงอีกเสียงหนึ่งที่ผมไม่คุ้นหูเอาซะเลยดังขึ้นมาจากในห้องส้วมที่คนๆนั้นยืนอยู่ข้างหน้า พร้อมกับประตูห้องที่ค่อย ๆ แง้มเปิดออกมา
“ไม่เป็นไร. . .จุนมยอน”
คนที่ยืนถือปืนอยู่ก่อนหน้าพูดอย่างใจเย็น ก่อนที่จะค่อย ๆ ย่องไปปิดประตูที่ถูกพังออกช้า ๆ ถึงมันจะไม่สามารถล็อคกลอนได้แล้วในตอนนี้ แต่โชคยังดีที่มันยังสามารถปิดได้
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเปิดโล่งโท่งไว้แบบนั้น. . .
“. . .”
ลู่หานยังคงนั่งนิ่งและเขาก็ยังคงสั่นอยู่แบบนั้น น้ำตาที่หยดลงพื้นเริ่มหยดรวมกับเลือดสีแดงสดที่ค่อย ๆ ไหลจากบาดแผลเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ
“ลู่หาน. . .”
ผมเอ่ยเรียกชื่อเขาเบา ๆ ผมคงทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
“คุณ. . .โอเคนะ ?”
คนๆนั้นลดปืนลง ก่อนที่จะเหน็บปืนไว้ที่เอว พร้อม ๆ กับค่อย ๆ เดินเข้ามาทางพวกผมอย่างใจเย็น
“พวกคุณเป็นใคร ?”
ผมเงยหน้าขึ้นปะทะกับคน ๆ นั้น เราสองคนมองหน้ากันอยู่ได้พักใหญ่ เขาค่อย ๆ อ้าปากและดูเหมือนว่ากำลังจะพูด
‘ปึงงงงง !’
สายตาผมหันขวับไปมองเมื่อพบกับอะไรบางอย่างที่หน้าประตู
และก็ต้องพบกับเหตุการณ์แบบเดิม. . .
และมันก็กำลังจะดันประตูเข้ามา ! แต่ครั้งนี้มันง่ายกว่าครั้งที่แล้ว
“เฮ้ยยย !”
ผมรีบพุ่งถลาไปที่ประตูพร้อมๆกับใช้ร่างกายของตัวเองดันประตูเอาไว้ไม่ให้เปิดออก
แต่ดูเหมือนแรงของผมมันจะไม่มากพอ
“อือออออออ”
มือของไอ้ร่างหิวโซนี่ลอดผ่านมาตรงช่องว่างของประตูที่ถูกแง้มออก ไม่ว่าผมจะพยายามดันมากเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ผลเลยซักนิด
และดูเหมือนว่าช่องว่างที่ว่านั่นก็กำลังจะมากขึ้นเรื่อย ๆ
ให้ตายเถอะ. . .
“แม่งเอ๊ย. . .”
ผมกัดฟันกรอดพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีดันประตูเอาไว้ ในขณะที่ร่างไร้วิญญาณต่างก็มายืนออที่ประตูกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
“อึก. . .ลู่หานรีบหนีไปเร็วเข้า !,พวกคุณช่วยพาเพื่อนของผมไปที ทางช่องระบายอากาศน่าจะพอออกไปจากที่นี่ได้”
ผมตะโกนบอก คนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องส้วมข้าง ๆ ลู่หาน เขาพยักหน้ารับหงึกหงัก พร้อมกับลากลู่หานที่ตอนนี้สติสตางค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตามเขาไปด้วย
ผมกัดฟันแน่น ขาของมันเริ่มจะล้า ผมหันหน้าไปมองที่กระจกใสตรงประตู เห็นร่างหิวโซมากมายที่กำลังอ้าปากเตรียมรับอาหารอันโอชะของมัน
“ปึง !”
ในขณะที่ผมกำลังอ่อนแรง คนที่ยิงพ่อลู่หานในตอนแรกก็รีบเข้ามาช่วยผมดันประตูไว้อีกแรง
“นายดันไว้คนเดียว ไม่ไหวแน่ ๆ”
เขาพูดทั้งที่ ๆ ฟันก็ขบเข้าหากันแน่น
ผมหันหลังกับไปมองลู่หานและเห็นว่าเขากำลังปืนขึ้นไปในช่องระบายอากาศพร้อมกับคนอีกคน
มันน่าจะโอเค. . .ลู่หานจะต้องรอด
“มินซอกเร็วเข้า !”
เสียงของอีกคนดังมาจากทางช่องระบายอากาศ คนที่ดูเหมือนว่าจะชื่อมินซอก หันมามองหน้าผมในขณะที่มือทั้งสองข้างของเขากำลังดันประตูอยู่
เหมือนเขาพยายามจะถามว่า จะให้เขาปล่อยมั้ย ?
เพราะถ้าเขาปล่อยแล้ววิ่งไปปืนขึ้นช่องระบายอากาศ
มีโอกาสที่เป็นไปได้ 2 ทาง นั่นก็คือ ผมจะไม่สามารถต้านประตูไว้ได้ไหวและผมก็อาจจะตาย หรือไม่ผมก็อาจจะรอดถ้าผมไวมากพอ
“. . .ผมโอเค”
และผมก็เลือกทางเลือกที่สอง ผมพยักหน้ายืนยัน ผมสังเกตเห็นมินซอกกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนที่แรงต้านประตูจะลดลง
มินซอกวิ่งไปที่สุดห้องน้ำ ก่อนที่จะปืนเข้าไปในช่องระบายอากาศ มันค่อนข้างจะสูงอยู่ซักหน่อย แต่คงเพราะคนรู้จักของเขาอีกคนช่วยดึงเขาขึ้นไปมันเลยทำได้ง่ายกว่าเก่า
“อึก. . .แม่งเอ๊ย”
ผมกัดฟันกรอดในขณะที่ช่องว่างของประตูก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมันแทบจะแทรกตัวเข้ามาได้อยู่แล้ว
“นี่คุณ ! รีบมาเร็วเข้า !”
มินซอกโผล่หน้าออกมาจากช่างระบายอากาศ ผมพยักหน้ารับช้า ๆ
ผมจะต้องรีบวิ่ง กระโดดขึ้น แล้วทุกอย่างจะโอเค. . .ผมต้องทำได้
ผมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ ข่มตาหลับแน่น เหงื่อสีใสไหลลงมาจรดคอ ผมรู้สึกกดดันไปหมด
เอาล่ะโอเซฮุนนายต้องทำได้. . .
3
.
.
.
2
.
.
.
1
!
ผมปล่อยมือออกจากประตูบานนั้น ใช้แรงทั้งหมดที่มีวิ่งออกจากจุดนั้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมรีบกระโดดขึ้นไปคว้าขอบของช่องระบายอากาศ ก่อนที่มือของมินซอกจะคว้าข้อมือของผมแล้วช่วยดึงผมขึ้นไปอีกแรง
“แฮ่ก. . .แฮ่ก”
ผมหอบหายใจถี่ในขณะที่กำลังพยุงตัวขึ้นไป ตัวของผมเข้าไปในช่องระบายอากาศแคบ ๆ นี่ได้เกือบครึ่งแล้ว
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย !!!!!!”
แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีใครซักคนมาจับขาผม แล้วจัดการดึงให้กลับลงข้างล่างดั่งเดิม ผมตกใจสุดขีดและมือของผมที่ชุ่มด้วยเหงื่อมันก็ลื่นเอาซะมาก ๆ ร่างของผมที่ถูกดึง ถลาออกไปนอกช่องระบายอากาศ มือของครูดไปกับพื้นช่อง ก่อนที่จะจับแน่นอยู่ที่ขอบช่องระบายอากาศ
“อึก. . .”
ผมใช้เล็บจิกขอบแน่น ในขณะที่ขาของผมถูกแรงดึงของมันฉุดให้ลง ร่างของผมกำลังลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ โดยที่มีพวกมันกำลังยืนรออยู่ข้างล่าง บ้างก็พยายามใช้มือไขว้คว้า บ้างก็ยืนขบฟันไปมาอย่างหิวโหย
“ไม่ไหวแล้ว. . .”
ความรู้สึกเจ็บปวดที่นิ้วมือมันทำให้ผมแทบจะจับขอบช่องระบายอากาศไม่อยู่ ไหนจะความลื่นที่มาจากเหงื่อตรงฝ่ามือนั่นอีก
มือของผมมันกำลังจะหลุด. . .
‘หมับ !’
ในขณะที่ผมกำลังจะร่วงลงไป มือของมินซอกก็มาคว้าผมเอาไว้ได้ทัน
‘ปัง ! ปัง ! ปัง !’
ก่อนที่เขาจะชักปืนออกมา ยิงไอ้ร่างหิวโซที่กำลังจับขาของผมอยู่ จนแรงบีบที่ข้อเท้าของผมคลายออก เสียงของปืนมันดังมากซะจนหูของผมอื้อไปเลย
“ขึ้นมาเร็ว !”
มินซอกรีบออกแรงดึงผมขึ้น ผมสะบัดเท้าก่อนที่จะดันตัวเองขึ้นมา
“ขอบคุณ. . .”
ผมเอ่ยขอบคุณอย่างเหนื่อยหอบ มินซอกพยักหน้ารับช้า ๆ ก่อนที่จะหันกลับไป
“แล้วเพื่อนของคุณกับเพื่อนของผมล่ะ ?”
ผมเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นลู่หานกับเพื่อนของมินซอกแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่ในช่องระบายอากาศ ที่น่าจะเชื่อมกับทางที่จะพาเราออกไปจากสนามกีฬานี่ได้
“จุนมยอนพาลู่หานไปแล้วน่ะ. . .คือจะว่ายังไงดี พวกเราค่อนข้างเชี่ยวทางพวกนี้ไว้ค่อยคุยกันอีกทีจะดีกว่า”
มินซอกค่อยๆ คลานนำหน้าผมไป ผมได้แต่ฟังเงียบๆ แล้วคลานตามเขาไปเท่านั้น
ผมสังเกตเห็นว่าในช่องระบายอากาศนี้มันมืดมาก แต่ข้างหน้ากลับมีแสงสว่าง เหมือนมันจะเป็นแสงของทางออก
ผมกับมินซอกเราคลานมาเรื่อย ๆ จนแสงสว่างที่ผมพูดถึงก็เข้ามใกล้มากขึ้น มากขึ้น และสุดท้ายพวกเราก็หยุดอยู่ที่ทางออก
“มินซอก !”
คนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของมินซอก ตะโกนเรียกพลางโบกมือไปมาเมื่อมินซอกโผล่หน้าออกมาจากช่องระบายอากาศ ผมชะเง้อมองผ่านหลังของมินซอกไปก็เห็นว่าข้างนอก มันยังคงเงียบ. . .เหมือนเดิม
“. . .”
มินซอกค่อย ๆ กระโดดลงไป และผมก็ตามเขาไปติด ๆ ทันทีที่เท้าทั้งสองข้างเหยียบเต็มพื้น ผมรีบมองหาลู่หาน และเห็นว่าเขากำลังยืนอยู่นิ่ง ๆ ข้าง ๆ เพื่อนของมินซอก
“นาย. . .โอเคมั้ย ?”
ผมเดินเข้าไปหาลู่หาน เอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาเบา ๆ คิ้วทั้งสองข้างของผมมันขมวดเข้าหากันอัตโนมัติ
“อื้ม. . .ขอโทษทีทำให้ต้องลำบากนะ ฉันโอเค. . .”
ดูเหมือนว่าเขาพอที่จะมีสติขึ้นมาบ้างแล้ว ลู่หานหันมายิ้มให้ผมจาง มันเป็นรอยยิ้มที่เศร้าที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น. . .
“พวกคุณโอเคนะ ?”
มินซอกกับเพื่อนของเขาเดินเข้ามาหาผมกับลู่หาน ผมพยักหน้ารับแทนคำตอบ
แต่ดูเหมือนว่าผมจะลืม. . .
ว่าพี่ชานยอลกับพี่แบคฮยอนยังอยู่ในนั้น !
“ชิบหาย. . .”
ผมขบริมฝีปากเข้าหากัน ก่อนที่จะวิ่งกลับไป ผมคิดว่าผมจะต้องกลับไปพาพวกพี่เขาออกมา
“เฮ้ยเดี๋ยวคุณ ! จะไปไหนน่ะ”
“เพื่อนของผมอีก 2 คนยังอยู่ในนั้น ผมต้องไปพาพวกเขาออกมา”
มินซอกวิ่งตามผมมา ก่อนที่จะกระชากเสื้อของผม เหมือนกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
“พวกนายเข้าไปในสนามกีฬาทางประตูทิศใต้ใช่มั้ย ?”
“ใช่. . .แต่เหมือนประตูมันจะล็อค”
“. . .”
“ทำไมคุณถึงรู้. . .ล่ะ ?”
ผมขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย ในขณะที่เราสองคนกำลังจะวิ่งไปที่ประตูทางทิศใต้ เพราะผมคิดว่ามันจะต้องถูกล็อคจากทางด้านนอกแน่ ๆ เพราะงั้น ผมจะต้องไปปลดล็อค ประตูแล้วพาพวกพี่ชานยอลกับพี่แบคฮยอนออกมาจากทางนั้น มันน่าจะเป็นทางที่ดีและง่ายที่สุด
“คือ. . .ความจริงแล้ว. . .
.
.
.
ฉันกับจุนมยอนเป็นคนล็อคมันเอง”
ห. . .ห๊ะ ?
“ชานยอล. . .”
“อือ. . .”
“นายได้ยินแบบที่ฉันได้ยินใช่มั้ย ?”
“อา. . .ได้ยินสิ”
ผมพยักหน้ารับให้กับคำถามของคนตัวเล็กข้าง ๆ ใช่. . .ผมได้ยินมันอย่างชัดเจน และเสียงของมันยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผมในตอนนี้อยู่เลย
ความกังวลมากมายพรั่งพรูออกมาจากในหัว เหงื่อเม็ดใสเริ่มขึ้นมาตามไรผม
มันเป็นความรู้สึกที่กดดัน. . .
เพราะอะไรน่ะหรอ. . .
ถ้าเสียงปืนดังมันสามารถสรุปได้ 2 อย่าง,อย่างแรกก็คือ เซฮุนกับลู่หานยังมีชีวิตอยู่ และอย่างที่สองก็คือตอนนี้ทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในอันตราย
และอีกอย่างที่ผมรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยก็คือ. . .
เสียงปืนมันดังมากกว่าครั้งเดียว และตอนนี้มันก็เงียบไปแล้วด้วย. . .
“เรารีบไปกันเถอะชานยอล. . .”
“อืม. . .”
ผมพยักหน้า ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินนำแบคฮยอนไป. . .เราต่างฝ่ายต่างระวังหน้าระแวงหลังให้กัน ตอนนี้ทางเดินที่จะเชื่อมกับโถงทางเดินที่พวกผมวิ่งหนีมา มันเงียบมาก. . .และมันก็ไม่มีอะไรเลย
คงเป็นเพราะเสียงปืนของเซฮุนกับลู่หานละมั้ง. . .มันดึงดูดความสนใจของพวกมันให้ไปรวมกันที่นั่นจนหมด
ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยซักนิด
“แบคฮยอนหยุดก่อน. . .”
ผมยกมือขึ้นมาขวางหน้าไว้ แผ่นหลังของแบคฮยอนกระแทกกับมือของผม ก่อนที่เจ้าตัวจะหันขวับกลับมา
“มีอะไร ?”
น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยถาม ผมเงียบและพยายามเพ่งสายตามองไปข้างหน้า โถงทางเดินที่พวกผมเดินเข้ามากันในตอนแรก ไม่มีอะไรเลย แต่ทางที่เชื่อมกับห้องน้ำมันกลับมีร่างไร้วิญญาณกำลังเดินกันอยู่ให้ว่อน พวกมันเยอะมากจนปิดทางไปหมด
ผมควรจะทำยังไง . . .
แค่จะเข้าไปยังเข้าไม่ได้เลย ทางถูกปิดไว้หมด
“ทางมันถูกปิดแล้วน่ะ”
ผมพูดเบาๆ แบคฮยอนขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เขาเม้มปากจนเป็นเส้นตรงดูเหมือนกำลังพยายามใช้ความคิด
“เอาไงดี. . .”
“เฮ้ย. . .เดี๋ยว”
ทันใดนั้นเองที่ผมมองเห็นแสงสว่างที่ลอดออกมา มันไม่ใช่แสงของหลอดไฟ แต่มันเป็นเหมือนแสงจากข้างนอก ถึงมันจะไม่สว่างมาก เพราะมันเป็นเวลาโพล้เพล้ แต่แสงสีส้มอ่อน ๆ นั่นมันต้องเป็นแสงจากข้างนอกแน่ ๆ
“. . .”
ผมกับแบคฮยอนค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้โถงทางเชื่อมมากยิ่งขึ้น และเสียงที่ลอดออกมาก็ใกล้มากขึ้น
ผมหยุด ก่อนที่จะพยายามเพ่งสายตาไปที่แสงนั่น. . .มันเป็นประตู ประตูทางเข้าทิศใต้ที่ถูกล็อคไว้ในตอนแรก ตอนนี้มันถูกแง้มอยู่
“. . .”
ใบหน้าของใครบางคนแว่บผ่านช่องว่างที่ถูกแง้มนั่น ก่อนที่ประตูจะถูกดันให้เปิดแง้มออกมายิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมๆกับใบหน้าคุ้นเคยที่ทำเอาใจผมสั่นไปหมด
“. . .”
เซฮุน !
เซฮุนโผล่หน้าเข้ามา ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบ ผมค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้มากขึ้น จนเรามองเห็นซึ่งกันและกัน
เซฮุนถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง กวักมือเรียกผมกับแบคฮยอนให้รีบออกไปจากสนามกีฬาแห่งนี้
ผมหันไปพยักหน้าให้แบคฮยอนที่ยืนอยู่ข้างหลัง คนตัวเล็กก็พยักหน้าตอบพร้อม ๆ กับที่ผมกระชับกระเป๋าสะพายที่ไหล่ทั้งสองข้างในแน่นมากขึ้น
เอาล่ะ. . .
ผมค่อย ๆ ย่องจนไปสุดอยู่ที่ทางสี่แพร่ง ซึ่งทางข้างหน้าก็คือทางที่ถูกปิด ทางด้านซ้ายมือของผมคือ ทางเข้าสนามกีฬา และทางขวามือคือทางออก. . .
“พร้อมนะ”
ผมหันไปถามแบคฮยอนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แบคฮยอนพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่ผมจะวิ่งหักเลี้ยวไปทางขวามืออย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับแบคฮยอนที่วิ่งตามมาติด ๆ
‘เพล้ง !’
เสียงแก้วแตก ดั่งสนั่นไปทั่วทางโถง ผมรีบหันกลับไปมองทางด้านหลัง ก่อนที่จะพบว่ากระเป๋าสะพายที่ไว้ใส่ของใช้ทั่วไปของแบคฮยอนมันตกกระแทกพื้น และดูเหมือนขวดแก้วโคล่าจะกระแทกแรงจนมันแตกกระจาย
“แม่งเอ๊ย. . .”
แบคฮยอนสบถออกมาเบา ๆ ผมที่กำลังหันกลับไปมองทางด้านหลัง เห็นร่างไร้วิญญาณที่กำลังจะเดินออกมาจากสนามกีฬา อาจเป็นเพราะเสียงแก้วนั่น ทำให้พวกมันรู้ว่าพวกเราอยู่ในนี้
“แบคฮยอนเร็วเข้า !”
ผมคว้าท่อนแขนของแบคฮยอน ก่อนที่จะออกแรงดึงเข้าไปข้างหน้า
“อือออ. . .”
ร่างไร้วิญญาณนับสิบกำลังวิ่งออกมาจากสนามกีฬา และดูเหมือนมันก็ไวมากพอที่จะเข้าถึงตัวพวกเรา ผมรีบยกปืนขึ้นมาพยายามเล็ง. . .
‘ปัง !’
แต่ดูเหมือนความแม่นยำของผมจะมีไม่มากพอ ลูกกระสุนฝังลงไปที่ขาของมัน ก่อนที่มันจะล้มลง โชคยังดีที่อย่างน้อยก็พอจะถ่วงความเร็วของมันได้
ผมรีบวิ่งตามหลังแบคฮยอนไปติด ๆ พร้อมกับประตูบานใหญ่ที่เปิดออกโดยฝีมือของเซฮุน
แสงสว่างที่กำลังจะมืดแบบนี้ ถึงจะดูหม่นหมองแต่มันเป็นเหมือนความหวังเดียวในที่ๆ มืดมิดแบบนี้
พี่แบคฮยอน !”
แบคฮยอนที่วิ่งนำหน้าผม ตอนนี้พ้นออกจากประตูนี่ไปแล้ว พร้อม ๆ กับเซฮุนที่ยืนรอและกำลังจะปิดประตู
ผมรีบเร่งฝีเท้า และเท้าของผมก็เหยียบออกมานอกสนามกีฬา ความรู้สึกตอนนี้มันเอ่อล้นไปหมด เหมือนกับกำลังจะหลุดจากฝันร้ายที่แสนยาวนาน
รึเปล่า
‘หมับ !’
“เฮ้ย !”
ในขณะที่ผมกำลังจะออกมาจากสนามกีฬา ฝ่ามือเย็นเฉียบก็พุ่งจับเข้าที่ไหล่ของผม ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสหนักหน่วงที่ไหล่ข้างซ้าย
‘ฉึก !’
“อ้ากกกกกกกกก !”
ผมรู้สึกเหมือนโดนฟันคม ๆ กัดลงที่ไหล่อย่างหนักหน่วง ผมร้องตะโกนออกมาเหมือนสติกำลังจะหลุด แบคฮยอนที่วิ่งออกมาก่อนหน้ารีบหันกลับมา เบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ชานยอล อยู่นิ่ง ๆ !”
แบคฮยอนรีบวิ่งกลับมา มือข้างหนึ่งของเขาจับมือของผมเอาไว้ ในขณะที่ผมกำลังจะถูกลากให้กลับเข้าไป พร้อม ๆ กับมืออีกข้างที่หยิบปืนขึ้นมา
“แบคฮยอน !”
ผมตะโกนเรียกชื่อคนตรงหน้า จับฝ่ามือของเขาแน่น ผมยังรู้สึกถึงแรงหนักหน่วงที่ไหล่ซ้ายอยู่เลย
แบคฮยอนยกปืนขึ้นมาจ่อ ก่อนที่นิ้วเรียวของเขาจะเหนี่ยวไกอย่างรีบเร่ง
‘ปัง !’
ทันทีที่แบคฮยอนเหนี่ยวไก ลูกกระสุนพุ่งปักเข้าที่ศีรษะของร่างที่กำลังฝังเขี้ยวลงที่ไหล่ของผม แรงที่ไหล่ซ้ายของผมพลันหายไป พร้อม ๆ กับร่างของผมที่ถูกกระชากออกมา
เซฮุนที่ยืนอยู่ตรงประตูรีบ ปิดประตูและคนอีกคนที่ผมไม่รู้จักจะรีบยกแผ่นไม้หน้าขึ้นคั่นประตูเอาไว้
‘ปึง ! ปึง !’
ก่อนที่ประตูจะถูกกระแทกอย่างแรง. . .
“ชานยอล ! ชานยอล”
แบคฮยอนพยุงร่างของผมขึ้น มือทั้งสองข้างของเขาประคองใบหน้าของผมเอาไว้ ผมรู้สึกถึงของเหลวชื้น ๆ ที่แก้มข้างซ้าย แหงล่ะ ก็ไอ้เจ้าร่างไร้วิญญาณนั่นถูกแบคฮยอนระเบิดหัวซะขนาดนั้น ไม่แปลกที่เลือดจะกระเซ็นเข้าหน้าของผมเต็ม ๆ
“พี่ชานยอล !”
เซฮุนรีบวิ่งตามาอีกคน ก่อนที่หมอนั่นจะรีบดึงกระเป๋สะพายออกออกจากไหล่ของผม
“ต้องรีบดูว่าเขาโดนกัดรึเปล่า”
คนที่มากับเซฮุนพูดอย่างใจเย็น ก่อนที่เซฮุนจะยื่นกระเป๋าสะพายที่เพิ่งดึงออกจากผมไปให้เขา
“นายโอเคนะมั้ย ?”
แบคฮยอนเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ผมหอบหายใจไม่หยุด. . .นี่ผม
โดนกัดรึเปล่า ?
เฮลโล่เอวรี่บอดี้
มาอัพแล้วจ้า หลังจากที่หายไปไม่นาน55555
สรุปว่าพี่ลู่ไม่ตายนะคะทุกคน ขอโทษด้วยที่ไปบอกว่าตาย #หลอก #โดนตบรัว
เอาล่ะ สำหรับตอนนี้ใครเดา ๆ ทาย ๆ อะไรไว้ ถูกผิดไม่เป็นไรมาบอกกันด้วยนะเออ
และตอนนี้พิเศษตรงที่ 2 persons นั้นก็คือ พี่หมิน กับซูโฮ
ผู้ร่วมชะตากรรมใหม่ของพวกเรา คึคึคึ
ตอนหน้าจะเป็นยังไงต่อไป อย่าลืมติดตาม !
ปล.ช่วงนี้คำผิดเยอะมาก อย่าถือสากันเลยนะจ๊ะ T ^ T
เม้นเถิดจะเกิดผล เเท็กเถิดจะเกิดผล ! #อวออล
บุคคลใหม่ทำให้เรื่องเข้มข้นขึ้น
นะก๊ะ เลิฟฟฟฟ
ขอบคุณธีมสวยๆจาก△ C R A Z E ˊ
ความคิดเห็น