คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : 17 CHANGE | 520's room
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
17 | ห้อง 520
*เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน
มันเป็นเรื่องแปลก. . .
ที่ในหลายครั้งเรารู้สึกมีความสุขเพราะคนหนึ่งคน
และรู้สึกทุกข์เพราะคนๆเดียว
และที่น่าแปลกไปกว่านั้น คนหนึ่งคนกับคนๆเดียวนั่น
บังเอิญเป็น “คนๆเดียวกัน”
ภายในห้องแคบ ๆ และการดำเนินกิจวัตรประจำวันเดิม ๆ ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน สิ่งที่ผมทำในทุก ๆ บ่าย ก็คือ การนั่งฟังเพลงไปเรื่อย ๆ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย. . .เท่านั้น
ชีวิตของผมในช่วงนี้. . .ไม่รู้สิ มันค่อนข้างที่จะน่าเบื่อ ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น หรืออะไรที่อยากจะทำเลยซักอย่าง
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเรียกสติของผมให้กลับมา ผมหันขวับไปมองที่ประตู เสียงเคาะประตูแบบนี้ไม่ได้ยินมานานแค่ไหนแล้วนะ ?
“คร้าบบบบ”
ผมลุกขึ้น ตะโกนตอบรับกลับไป ก่อนที่จะเดินดุ่ม ๆ ไปที่หน้าประตูห้อง มือเอื้อมจับลูกบิด ก่อนที่จะเปิดประตูออก
“. . .”
“พี่คยองซู ?”
เมื่อประตูเปิดออก สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของผมก็คือ ‘รุ่นพี่’ ที่ผมรู้จัก เขามีชื่อว่า โด คยองซู ทั้งผมและเขาอาศัยอยู่ที่หอพักเดียวกัน แต่พี่คยองซูอเช่าห้องอยู่ที่อีกชั้นหนึ่ง
ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อสายตาของผมกวาดมองสำรวจไปทั่วใบหน้าของเขา
รอยพลาสเตอร์ที่แปะที่แก้มขวา แถมสภาพของพี่เขาตอนนี้ดูไม่ค่อยจะโอเคซักเท่าไหร่
และที่สำคัญ. . .เขาสะพายธนูของเขาไว้กับตัว
หรือว่าเขาจะมาชวนผมไปยิงธนู ?
“พี่มีอะไรบางอย่างจะมาบอก”
พี่คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามสไตล์ของเขา แต่แวตาที่เขามองมาที่ผมมันไม่เหมือนเดิม มันไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย
“ค. . .ครับ”
ผมตอบรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คือ ตอนนี้หัวใจของผมมันเต้นแรงมาก ๆ รู้สึกตื่นเต้นไปหมด
แต่แล้วสายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่คยองซู ตัวของเขาก็พอ ๆ กับผม น่าจะอายุเท่า ๆ กันด้วย แต่ผิวของเขาค่อนข้างคล้ำ. . .เออช่างเถอะ ว่าแต่
เขาคือใคร ? แฟนพี่คยองซูหรอ ? ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย
“เซฮุน. . .นายต้องรีบออกไปจากที่นี่”
พี่คยองซูพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาจับบ่าของผมทั้งสองข้าง อีกแล้ว. . .เขาส่งแววตาที่ทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ กลับมาอีกแล้ว
“ท. . .ทำไมหรอครับ ?,เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ ?”
คิ้วของผมขมวดเข้าหากัน ก่อนที่ผมจะเอ่ยถามออกไป
ทำไมผมถึงรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
“รีบเก็บของซะ เอาของที่นายคิดว่าจำเป็นที่สุดไป เสื้อผ้าซัก 2 3 ชุด,เราจะต้องรีบออกไปจากที่นี่นะ เซฮุน”
“อ. . .เอ่อ. . .”
“อ้าว ! หนูคยองซู หนูเซฮุน ! ไม่ได้เจอกันตั้งนานสบายดีมั้ยจ๊ะ ?”
ในขณะที่ผมกำลังอ้ำอึ้งอยู่นั้น คุณแม่ของลู่หาน. . .ที่เดินผ่านมาก็ทักทายผมกับพี่คยองซู คือ ผมกับครอบครัวของลู่หานเราพักอยู่ที่ชั้นเดียวกัน เพราะงั้นโอกาสที่ได้เจอกันก็มีมาก
“สบายดีครับ”
พี่คยองซูหันไปตอบพร้อมกับยิ้มบาง ๆ
“เอ๊ะ,หนูคยองซูหน้าไปโดนอะไรมาหรอจ๊ะ ?”
คำถามถูกยิงออกไป ผมสังเกตเห็นแววตากระตุกวูบของพี่คยองซู ก่อนที่พี่เขาจะยกมือขึ้นมาจับที่พลาสเตอร์ตรงแก้มขวานั่น
“หกล้มน่ะครับ”
และเขาก็ตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มเช่นเดิม
“อ๋อ. . .ทีหลังก็ระวังเนื้อระวังตัวกันหน่อยนะทั้งสองคน,ป้าขอตัวก่อนนะ”
คุณแม่ของลู่หาน กล่าวลาก่อนที่จะเดินผ่านห้องของผมไป
ถ้าจำไม่ผิดผมไม่ได้เจอครอบครัวของลู่หานเกือบเดือนกว่าแล้ว เห็นลุงคัง เจ้าของหอพักที่นี่บอกว่า พ่อกับแม่ของลู่หานไปดูอาการของลู่หาน
ผมรู้ว่าลู่หานเป็นนักเรียนนายร้อย และต้องไปทำการฝึกนอกสถานที่ที่เกาะเชจู ส่วนเรื่องการฝึกนั้นน่าจะเป็นเกี่ยวกับอาวุธและสงคราม. . .ผมแค่เดาเล่นๆ น่ะ
แต่หลังจากนั้นไม่นานลุงแกก็มาเล่าให้ผมฟังว่าลู่หานประสบอุบัติเหตุอะไรซักอย่าง ทำให้เขามีสภาพไม่ต่างจากเจ้าชายนิทรา. . .นั่นทำเอาผมแทบจะช็อคไปเลย
ถ้าแม่ของลู่หานกลับมาแล้ว งั้นก็แสดงว่า ลู่หานก็ต้องกลับมาด้วยแล้วน่ะสิ ? เขาฟื้นแล้วอย่างนั้นหรอ ? หรือว่าเขาจะตายแล้ว ?
ไม่สิ,โอ เซฮุน มองโลกในแง่ร้ายเกินไปป่าววะ ลู่หานจะต้องไม่เป็นอะไร
“เซฮุน”
“ห๊ะ ! ครับ ?”
ฝ่ามือเย็นเฉียบของพี่คยองซูเอื้อมมาจับที่ไหล่กว้างของผม ผมสะดุ้งพร้อมกับสติที่ถูกดึงกลับมาให้จดจ่อกับสถานการณ์ตรงหน้า
“นายเข้าใจที่พี่พูดมั้ย ?”
“เอ่อ. . .ขอโทษนะครับพี่คยองซู ผมไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่”
“พี่รู้ว่ามันเข้าใจยากนะ แต่นายรีบทำตามที่พี่บอกเถอะ แล้วพี่จะเล่าให้นายฟังทีหลัง”
และเป็นอีกครั้งที่สายตาน่าขนลุกของพี่คยองซูส่งมาให้ผม ผมกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ ก่อนที่สายตาจะกวาดมองไปทางด้านหลัง
ผู้ชายที่มากับพี่คยองซู สีหน้าของเขาก็ดูไม่ค่อยจะสู้ดีซักเท่าไหร่
“เอ่อคือ. . .”
“นี่โดคยองซู,ฉันไม่อยากจะมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้นานหรอกนะ”
ผู้ชายคนนั้นโผล่งขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ดูเหมือนว่าพี่คยองซูกับเขาจะรีบเอาการ
อะไรกัน. . .นี่ผมงงไปหมดแล้วนะ
“คิมจงอิน”
ผมคยองซูหันขวับไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก แววตาและสีหน้าของพี่คยองซูแสดงออกมาชัดเจนเลยว่าไม่พอใจสุด ๆ
“ไม่เป็นไรครับพี่คยองซู,พี่รีบไปเถอะครับ”
“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเซฮุน,เดี๋ยวซักพักที่นี่จะไม่ปลอดภัย !”
“เฮ้อ !”
ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากที่เพิ่งจะลงมือปิดประตูให้ไว้อย่างเดิม พี่คยองซูเขาเอาแต่บอกให้ผมเก็บของและออกไปจากที่นี่ โดยที่ไม่บอกผมซักคำว่ามันเกิดอะไรขึ้น ? ผมสุดท้ายก็จบลงตรงที่ผมให้พี่เขาไป โดยที่ไม่ต้องรอผม
เราตกลงกันว่าจะติดต่อกันทางโทรศัพท์มือถือ
และผมจะตามพี่เขาไป. . .ทีหลัง
ผมชักเริ่มสงสัยแล้วล่ะสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
หลังจากวันที่พี่คยองซูมาหาผมจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์แล้วและวันนี้ก็คงเป็นบ่ายอีกวันที่ผมเอาแต่นั่งฟังเพลงแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอีกตามเคย. . .
ผมตัดสินใจเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า ที่ ๆ ผมมักไปนอนเล่นเป็นประจำหลังจากที่ส่งหนังสือพิมพ์เสร็จ
วันนี้ท้องฟ้าสดใส. . .และอากาศก็ดีสุด ๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ อยู่บนดาดฟ้านี่มันทำให้ผมเห็นอะไรรอบๆ เมืองได้อย่างชัดเจน
“. . .”
สายตาของผมกวาดไปทั่วจนสุดท้ายก็ไปหมุดอยู่ที่สถานีตำรวจ. . .มันมีอะไรที่แปลกไม่เหมือนเดิม
ทำไม รถตำรวจถึงเยอะจัง ? ปกติสถานีตำรวจที่นี่เงียบๆสุด เงียบยิ่งกว่าป่าช้าซะอีก แต่ทำไม. . .
ผมยืนอยู่บนดาดฟ้าได้ซักพักใหญ่ก่อนที่จะเดินลงมากลับไปที่ระเบียงชั้นของตัวเอง ก่อนที่จะพบกับคุณนายคิม เพื่อนบ้ายห้องข้าง ๆ เธอเป็นสาวโสดอยู่ที่นี่ได้ 10 กว่าปีแล้ว เออ. . ช่างเถอะ ว่าแต่ป้าแกจะไปไหน ?
ผมสังเกตเห็นว่าคุณนายคิมกำลังถือกระเป๋า กับกระเป๋าลาก ข้าวของสัมภาระเยอะแยะไปหมดอย่างกับจะย้ายบ้านอย่างไงอย่างงั้น
“จะย้ายบ้าน หรือไปพักร้อนครับคุณนาย เอ๊ะ ! หรือว่าจะย้ายไปอยู่บ้านสามี เฮ้ยยยยย”
ผมพูดแซวขณะที่คุณนายคิมกำลังเดินออกมาจากห้องอย่างรีบร้อน
“นี่ไม่ใช่เวลามาตลกนะเซฮุน”
คุณนายเงยหน้ามองผม ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“อ่าว. . .”
“ว่าแต่เธอเถอะเซฮุน ทำไมยังไม่เก็บข้าวเก็บของล่ะ”
“เก็บของ ?”
“นี่เธอยังไม่เห็นข่าวอย่างงั้นหรอเซฮุน !”
ผมถามไปอย่างงงๆ จนสุดท้ายก็โดนคุณนายเหวี่ยงกลับมา
“คุณนายลืมไปรึเปล่าครับว่าผมไม่มีโทรทัศน์ วิทยุ ผมก็ไม่มี”
“แล้วข่าวในหนังสือพิมพ์น่ะเคยอ่านบ้างรึเปล่า ? เธอเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์นะ !”
“เออช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้เธอต้องรีบเก็บของออกไปจากที่นี่นะ ไปที่โซล”
“ก. . .เกิดอะไรขึ้นหรอครับ ?”
“ป้าเห็นข่าวฉุกเฉินที่รัฐบาลออกมาประกาศน่ะ เห็นเขาว่าตอนนี้เกาหลีใต้กำลังมีเชื้อแพร่ระบาดอยู่ ให้ประชาชนทุกคนอพยพไปที่โซล ทางรัฐบาลจะมีสวัสดิการและการป้องกันไว้ให้”
คุณนายคิมเล่าอย่างรวดเร็ว จนผมปะติปะต่อเรื่องแทบไม่ทัน
มันจะใช่เรื่องเดียวกันกับที่พี่คยองซูมาบอกผมรึเปล่านะ ?
“เอาเป็นว่าเธอรีบเก็บของแล้วไปโซลซะนะเซฮุน ป้าไปก่อนล่ะ”
คุณป้าจับไหล่ผมก่อนที่จะออกแรงบีบมันเบา ๆ แล้วเดินหอบสัมภาระลงบันไดไป ผมยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องของป้าเขา ยกมือขึ้นมาเกาหัว
ผมตัดสินใจกลับเข้าไปในห้องของตัวเองอีกครั้ง แต่ผมไม่ปิดประตูห้อง ห้องของเป็นห้องที่อยู่ใกล้กับบันได เพราะงั้นถ้ามีคนจะเดินลงก็จะต้องเดินผ่านห้องผมไปก่อน เผื่ออย่างน้อยเราจะได้ออกไปพร้อม ๆ กัน
ผมมองหาของที่คิดว่าจำเป็นเก็บเข้ากระเป๋าสะพายใบเดียวที่ตัวเองมีอยู่ เวลาผ่านไปเนิ่นนานพอสมควร
ผมเดินออกไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของตัวเอง จัดการปิดประตูและกำลังจะล็อกประตูห้อง แต่แล้วผมก็ต้องไปสะดุดตาเข้ากับพ่อกับแม่ของลู่หานที่กำลังเดินผ่านหน้าห้องของผมไป
ไม่มีคำทักทายหรืออะไรปรากฏมาทั้งสิ้น
“เอ่อ. . . คุณป้าครับ”
ผมอ้ำๆ อึ้งๆ เรียกออกไป คุณแม่ของลู่หานหันมามองหน้าผม ผมสังเกตเห็นใบหน้าของเธอดูไม่ดีเอาซะเลย ดวงตาบวมแถมยังแดงก่ำอีกด้วย คุณพ่อของลู่หานก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีเล่นกัน
เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ?
“. . .”
ผมเงียบความรู้สึกมันเหมือนมีก้อนบ้าอะไรไม่รู้มาจุกอยู่ที่คอ ไม่มีอะไรหลุดออกไปจากปากของผมเลย จนสุดท้ายพ่อและแม่ของลู่หานก็เดินลงบันไดไปพร้อมกับข้าวของของพวกเขา
แล้ว. . .ลู่หานล่ะ ?
ผมยืนค้างอยู่ที่หน้าห้องพร้อมกับคำถามมากมายในหัว
เออ. . .ช่างมันเถอะน่าโอเซฮุน นายต้องรีบออกไปจากที่นี่นะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
มันจะดีหรอโอเซฮุน ถ้าเกิดลู่หานยังอยู่ในห้องล่ะ ?
เขาตายแล้วไม่ใช่รึไง ?
ทำไมแกถึงได้คิดอะไรอัปมงคลแบบนี้กันล่ะโอเซฮุน บางทีลู่หานอาจจะนอนอยู่ในห้องก็ได้
แล้วจะไปยุ่งกับลู่หานทำไมวะ ?
ก็แกรู้สึก. . .
“โอ้ยยย ! แม่ง ปวดหัว !”
ผมสบถพร้อมกับขยี้หัวไปมาจนมันฟูฟ่องไปหมด ก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปที่ห้องพักของลู่หาน
มือของผมเอื้อมจับเข้าที่ลูกบิดประตู
ประตูล็อค. . .
เอาไงดีวะ
“อ่าวเฮ้ย ! เซฮุน ยังไม่ออกไปอีกหรือไง ?”
ขณะที่ผมกำลังคิด ลุงคัง เจ้าของหอพักแห่งนี้ก็วิ่งเข้ามาหาผม ดูเหมือนว่าลุงแกกำลังจะตรวจเช็คหอพักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปจากที่นี่
“อ้าวลุงคัง !”
“รีบออกไปจากที่นี่ได้แล้วนะเซฮุน”
“ลุง ลุงมีกุญแจของแต่ละห้องใช่มั้ย ?”
ผมถามออกไป ลุงคังพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่จะหยิบพวงกุญแจที่มีกุญแจอยู่นับสิบมาให้
“ขอบคุณครับ ?”
“จะเอาไปทำอะไรน่ะ ? นี่อย่าบอกนะว่าเธอจะเปิดห้องนี้ เจ้าของห้องนี้ออกไปแล้วนะ”
“ขอโทษครับ แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาลืมของเอาไว้”
ผมไล่นิ้วหาพวงกุญแจที่มีเลขห้องติดไว้ ห้องของลู่หานเป็นห้องหมายเลข 520
เจอล่ะ. . .
‘ประกาศ ๆ ขอให้ประชาชานทุกท่านออกจากที่พักของท่านเวลานี้โดยด่วน’
ทันทีที่ผมกำลังจะเอากุญแจเสียบเข้าที่ประตู เสียงประกาศเตือนก็ดังขึ้น ผมบิดกุญแจไขล็อคประตูก่อนที่จะรีบผลักประตูให้เปิดออก
“เซฮุน ! เร็วเข้าสิ !”
คุณลุงคังตะโกนเร่งผมด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“อย่าเร่งเร้าผมสิ !”
ผมตะโกนกลับไป ก่อนที่จะตรงดิ่งไปที่ห้องนอน ผมเปิดประตูอย่างแรง ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำเอาผมช็อคไปเลย
มีคน. . .นอนหลับอยู่บนเตียง. ..
“ล. . .ลู่หาน !”
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาร่างของลู่หานที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ก่อนที่จะเขย่าร่างของเขาอย่างแรง
เขายังหายใจ. . .
“ลู่หาน ตื่น !”
“ลู่หาน !”
“เซฮุนเร็วๆเข้าสิ !”
“ลุงไปก่อนเลย !”
เสียงของลุงคังดังมาจากหน้าห้อง ผมตะโกนตอบกลับไปพร้อม ๆ กับช้อนร่างที่สลบเหมือดของลู่หานขึ้นมา
“โธ่เว้ย !”
ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อร่างของเขามันถูกโยงยางด้วยสายบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่รู้มากมายไปหมด มันลำบากต่อการเคลื่อนย้ายมาก จนสุดท้ายผมก็ทิ้งเขาไว้บนเตียงเหมือนเดิม
“. . .”
ผมหันกลับไปมองลู่หานด้วยความรู้สึกมากมายเต็มไปหมด ผมกำลังเศร้า กำลังแตกตื่น หรือกำลังรู้สึกอะไรกันแน่ ?
“ขอโทษนะลู่หาน. . .”
ผมจับมือที่ยังอุ่น ๆ ของลู่หานมากำไว้แน่น เอ่ยขอโทษ ก่อนที่จะวางมือของเขาไว้ข้างลำตัวอย่างเดิม และรีบจ้ำอ้าวออกจากห้อง ๆ นี้
ผมวิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว จนไปถึงหน้าหอพักที่มีลุงคังยืนรออยู่ ดูเหมือนว่ากำลังจะมีรถของทางตำรวจมารับพวกเราออกไปจากที่นี่
ผมแหงนหน้าขึ้นมาหน้าต่างห้องพักของลู่หาน. . .
ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงได้รู้สึกกระวนกระวายใจแบบนี้กันนะ ?
“ไปเร็วเซฮุน !”
ทันทีที่รถเคลื่อนย้ายนักโทษที่ถูกเอามาใช้ในสถานการณ์แบบนี้มาถึง ลุงคังก็รีบตะโกนเรียกผม ก่อนที่ลุงคังจะกระโดดขึ้นไปบนรถ
“ลุง. . .”
“รีบเข้ามาเร็วเข้าเซฮุน !”
“ไปเลยครับลุง ! ผมจะอยู่ที่นี่ !”
“ว่าไงนะ ?
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับลุง ผมจะอยู่ที่นี่ !”
ผมตะโกนไล่หลังไป ในขณะที่รถเคลื่อนย้ายนักโทษก็เคลื่อนที่ออกห่างจากหอพักแห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จะมันลับสายตาไป
“. . .”
ผมเดินกลับเข้ามาในหอพักอีกครั้งจัดการล็อคประตูหน้าหอพักให้แน่นหนา ดึงลูกกรงเหล็กลงมาอีกปิด จัดการลากโซฟา หรืออะไรก็ตามที่ขวางประตูได้มาขวางประตูให้หมด
ผมไล่ปิดหน้าต่างทุกบานในหอพักแห่งนี้ และกลับสู่ห้องของตัวเองอีกครั้ง
ผมนั่งครุ่นคิดอยู่ได้ครู่ใหญ่ จนสุดท้ายก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องของคุณนายคิม
“คุณนายผมขออนุญาตดูโทรทัศน์ซักหน่อยนะครับ”
ว่าจบผมก็จัดการหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดู ภาพสีปรากฏขึ้นมาตามหน้าจอ ตอนนี้มันเป็นเวลาประจวบเหมาะกับรายการข่าว
‘รายงานข่าวสดจากสถานีโทรทัศน์โซล ตอนนี้สถานการณ์ความคืบหน้าจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไม่ทราบชนิดอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง. . .’
เชื้อไม่ทราบชนิดหรอ ?
และรูปภาพประกอบข่าวก็ถูกเผยแพร่ออกมา มันเป็นภาพของ. . .คนที่ไล่กินคน ? ให้ตายสิ. . .มันเหมือนกับพวกผีดิบ ซอมบี้ ? ในเกมอย่างไงอย่างงั้นเลย
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
ผมถึงคำถามคาใจไว้กับตัวเอง จัดการปิดโทรทัศน์แล้วเดินออกมาจากห้องของคุณนายคิม ขายาวทั้งสองข้างของผมก้าวสลับกันไปมา มารู้ตัวอีกที่ผมก็หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของลู่หานซะแล้ว
“. . .”
ผมยืนมองประตูไม้บานใหญ่ ก่อนที่มือหนาจะผลักมันเปิดออกอย่างใจเย็น ผมก้าวเท้าเข้ามาในห้อง สายตาของผมกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องที่ว่างเปล่า
จนสุดท้ายผมก็ไปสะดุดเข้ากับกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นวางของกับรูปโพลารอยด์ ดูเหมือนจะเป็นรูปของลู่หานตอนเด็ก ๆ
รอยยิ้มของเขามันสดใสมาก
ความอยากรู้อยากเห็นสั่งให้ผมหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านดู
‘ขอโทษ นี่อาจจะเป็นคำพูดเดียวที่จะบอกกับลูกในตอนนี้ พ่อกับแม่ไม่มีทางเลือกอีกแล้วนอกจากที่จะต้องปล่อย. . .ออก. . .หวังว่า. . .คง. . .ขอโทษ พ่อและแม่ขอโทษจริงๆนะ ล. . .’
ผมอ่านข้อความที่ถูกเขียนอย่างลวก ๆ ดูเหมือนว่าคนเขียนจะรีบร้อนเอาซะมาก ๆ แถมหมึกของมันยังจางหายไปเป็นบางจุดด้วย
แม่ลู่หานเป็นคนเขียนอย่างงั้นหรอ ?
ผมวางกระดาษแผ่นนั้นไว้ที่เดิม ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนของลู่หาน
เขายังคงหลับ. . .
ผมลากเก้าอี้ไม้ที่วางอยู่ตรงมุมห้องมาไว้ข้าง ๆ เตียง ทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างของเขา ก่อนที่มองเขาอย่างพิจารณา
“นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องอยู่ที่นี่ต่อรึเปล่า ?
.
.
.
ลู่หาน”
“ลู่หาน !”
“เซฮุนฉันบอกให้ปล่อย !”
ลู่หานตะโกนอย่างหงุดหงิดพร้อมกับฟาดท่อนแขนลงที่หลังของผมอย่างแรง ดูเหมือนตอนนี้สติของเขาจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไปแล้ว
“. . .”
ผมกัดฟันแน่น พยายามสกัดกั้นความเจ็บปวดไว้ ก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองข้างหลัง
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้พวกมันวิ่งตามพวกเรามามากแค่ไหน
แต่เสียงครางในลำคอกับเสียงฝีเท้าของพวกมันยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของผม
ผมวิ่งหักเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำ รีบปิดประตูห้องและล็อคกลอนอย่างรวดเร็ว
มันเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีไว้สำหรับนักกีฬา ฝักบัวเรียงรายอยู่ข้างผนัง และลึกเข้าไปเป็นส่วนของห้องส้วม. . .
“. . .”
ลู่หานเงียบลงแล้ว ผมค่อย ๆ ปล่อยเขาลง เขายืนเต็มความสูงก่อนจะจ้องมองผมด้วยแววตาที่ว่างเปล่า
“ลู่หาน. . .”
“พ่อ. . .พ่อของฉัน”
ลู่หานก้มหน้าลงจนคางแทบจะชิดกับอก ผมเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของเขา จัดการบีบมันแรง ๆ จนลู่หานเงยหน้ากลับมามองผมอีกครั้ง
ผมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา มันไม่มีอะไรเลย. . .แววตาของเขามันไม่มีอะไรเลย
“นายต้องเข้มแข็ง”
“. . .”
“เข้าใจมั้ยลู่หาน ?”
“ฉันคิดว่าฉันไม่ควรจะฟื้นขึ้นมาเลย”
น้ำใส่ ๆ เริ่มมาคลอที่เบ้าตาของเขา ลู่หานเบือนหน้าหนี้ไปอีกทาง พลางยกหลังมือขึ้นมาปาดน้ำตาใส ๆ ออก
“. . .”
“ฉันไม่น่าฟื้นขึ้นมาเลย”
เขาพูดทั้ง ๆที่ยังสะอื้น ไหล่ของเขามันก็สั่นมาก ผมทำได้เพียงจ้องมองเขา ไม่มีคำพูดอะไรที่ผมอยากจะพูดออกไปเลยทั้งสิ้น
“. . .”
“ลู่หาน. . .”
‘ปึง ! ปึง !’
“เวรเอ๊ย !”
ผมสบถอย่างหัวเสียเมื่อพวกมันเดินตามมาทัน และกำลังจะพังประตูเข้ามา พวกมันยืนออกันอยู่ที่ประตูประมาณ 5 – 6 ตัว ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
ตอนนี้เราจะต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่
“พ่อ. . .”
และเป็นอีกครั้งที่ลู่หานเอ่ยเรียกคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘พ่อ’ เขาก็กำลังจะเดินเข้าไปใกล้ประตูอีกครั้ง
“ลู่หาน ! หยุด !”
ผมเอื้อมมือไปรั้งแขนของลู่หานเอาไว้ จัดการกระตุกมันอย่างแรงจนลู่หานเซกลับมายืนอยู่ที่เดิม ผมจับข้อมือเขาไว้แน่นและไม่คิดจะปล่อย
สติของลู่หานตอนนี้มันแทบจะกลายเป็น 0
ผมกวาดตามองไปที่ประตูใช่. . .ถ้าผมจำไม่ผิดนั่นต้องเป็นพ่อของลู่หานแน่ ๆ เขาตายแล้ว แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เขากำลังจะเข้ามากินพวกเรา !
“เอาล่ะ,ลู่หานฟังให้ดีนะ”
ผมหันไปพูดกับลู่หานด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลู่หานที่ตอนนี้มีสีหน้าที่ตื่นตระหนกหันมามองผมด้วยแววตาลุกลี้ลุกลน เหงื่อเม็ดใสปรากฏอยู่ทั่วใบหน้า
“พ่อของนายน่ะเขาเปลี่ยนไปแล้ว”
“. . .”
“เพราะงั้น. . .เราจะต้องปล่อยเขาไป และรีบออกไปจากที่นี่เข้าใจมั้ย ?”
“. . .”
ผมลดน้ำเสียงลงและพยายามพูดให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ลู่หานพยักหน้ารับ เบา ๆ
ผมกระชับกระเป๋าสะพายของลู่หาน ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง จนสุดท้ายผมก็ไปหยุดอยู่ที่ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่. . .มันใหญ่มากพอที่ผมจะปืนขึ้นไปและคลานเข้าไปได้
น่าจะใช้ได้. . .
‘ตึงงงงง !’
เสียงดังขึ้น ผมรีบหันขวับไปทางต้นเสียง ก่อนที่จะพบว่าประตูถูกพังออก พร้อม ๆ กับร่างหิวโซที่เดินตรงดิ่งเข้ามาในห้อง
ผมรีบถอยหลังมาจากจุดนั้นตามสัญชาตญาณ แต่.. .ลู่หาน
ยังยืนนิ่ง. . .ให้ตายเถอะ !
“พ่อ. . .”
ลู่หานยืนนิ่งก่อนที่จะเอ่ยเรียกพ่อของเขา เสียงของเขาเบามากจนแทบจะกลายเป็นการกระซิบ
ร่างของพ่อลู่หานยังคงเดินตรงดิ่งมาที่เขา มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาตามสัญชาตญาณดิบ พร้อมกับอ้าปากให้เขี้ยวคมนั้นโผล่พ้นมารอรับกับอาหารที่ยืนรออยู่ตรงหน้า
“ลู่หาน !”
ผมรีบพยุงตัวเองเพื่อที่จะยิ่งไปกระชากลู่หานออกมา แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อร่างหิวโซร่างหนึ่งพุ่งถลาเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว
“โอ้ย !”
ผมโดนร่าง ๆ ในดันจนหลังชนเข้ากับประตูห้องส้วม มันกระแทกแรงมากจนผมจุกไปเลย
‘กึก กึก กึก กึก กึก’
ผมใช้ขาข้างหนึ่งยันร่างมันไว้ ในขณะที่มันก็กำลังโถมแรงเข้ามาทางผม ปากของมันอ้ากว้างและอยู่ห่างจากหน้าของผมไม่ถึงคีบ ฟันของมันขบไปมาอย่างหิวกระหาย ผมเบือนหน้าไปทางลู่หานที่ยังคงยืนนิ่ง
และร่างของพ่อเขาก็เข้ามาใกล้เขามากขึ้นไปอีก
ลู่หานได้สติซักทีสิ !
“พ่อ. . .จำได้มั้ยว่าใครเป็นคนสอนผมยิงปืน”
ลู่หานพูดออกมาเบา ๆ พร้อมกับมือที่เอื้อมไปด้านหลัง คว้าหยิบยกปืนที่เหน็ยบอยู่ที่กางเกงออกมา
“อืออออออ”
“พ่อสอนผมเสมอว่าให้เลือกยิงคนที่ทำผิด”
ลู่หานปลดเซฟตี้ และยังคงพูดไปเรื่อย ๆ
“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าใครที่ผิด. . .ผมขอโทษครับพ่อ”
ลู่หานยกปืนขึ้น ก่อนที่เขาจะจ่อมันเข้าที่. . .
หัวของเขา
นี่มันบ้าไปแล้ว !
“ลู่หานนายจะทำบ้าอะไรของนายน่ะ !!!!!”
ผมตะโกนสุดเสียง และกำลังจะวิ่งเข้าไปกระชากปืนออกมาจากมือเขา แต่ก็ถูกไอ้ร่างหิวโซนี่ดันติดกับประตู แรงของผมมันเหมือนถูกสูบออกไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะผมเหนื่อย หรือเป็นเพราะ สติที่กำลังจะขาดออกจากกันของผมกันแน่ ?
“ผมผิดไปแล้ว. . .ผมขอโทษ”
ลู่หานก้มหน้า มือที่จับปืนของเขามันก็สั่นระริก กระบอกปืนจ่อแนบที่ศีรษะของเขา และนิ้วเรียวของลู่หานก็เกี่ยวเข้าที่ไกปืน
อย่านะ. . .ลู่หาน
‘ปัง !’
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
โอเซฮุนพาร์ท
มาอัพแล้วจ้า ตอนนี้เป็นพาร์ทของโอเซฮุนนะ
อย่าลืมไปติดแท็กกันในทวิตเตอร์ #อวออล นะก๊ะ
จะตามไปส่อง ฟิ้วฝึ่บปิ้วปิ้ว
เม้นเถิดจะเกิดผล แท็กเถิดจะเกิดผล
พบกันใหม่โอกาสหน้าจ้า บายยยยยยยยยยยยยยยยย เลิฟฟฟฟฟ ><
ขอบคุณธีมสวยๆจาก △ C R A Z E ˊ
ความคิดเห็น