คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 10 CHANGE | Mystery of number 7
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
10 | อาถรรพ์เลข 7
*เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน
มันเป็นวันที่โคตรจะเฮงซวยที่สุดในชีวิต
ผมเกลียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัว
รวมถึงตัวผมเองด้วย
“ชานยอลเป็นยังไงบ้างหรอ ?”
เสียงใสที่ดังออกมาจากคนที่นั่งข้าง ๆ ทำเอาผมสะดุ้งโหยง เรียกสติของผมกลับมายังจุดๆนี้อีกครั้ง
“เมื่อวานก็เพิ่งไปเยี่ยมมันมา ก็ยังนอนนิ่งเหมือนเดิม”
ผมตอบกลับไปตามความเป็นจริงแต่พยายามพูดให้มันดูดีขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย ใช่ครับ เมื่อวานนี้ผมไปเยี่ยมชานยอลมา ชานยอลเป็นเพื่อนสนิทของผม มันถูกยิงเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้มันก็นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
มันนอนนิ่งแบบนั้นมา 3 วันเต็ม ๆ
“เดี๋ยวชานยอลก็ฟื้น นายไม่ต้องคิดมากนะ”
ประโยคของคนข้าง ๆที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้น
“ขอบคุณนะแทมิน”
ผมยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ พลางยกมือขึ้นมาขยี้ผมของคนที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“ได้เวลาหนังฉายแล้ว รีบไปก่อนเถอะจงอิน”
คนตัวเล็กลุกขึ้น ก่อนที่จะดึงแขนผมให้ลุกขึ้นตาม ขมวดคิ้วพลางจิกตาเร่งให้ผมลุกขึ้น ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืน ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในโรงหนังด้วยกัน
“. . .”
ท่ามกลางความมืดในโรงหนังขนาดใหญ่ มีเพียงแต่แสงไฟสว่างจากหน้าจอขนาดยักษ์ที่ฉายภาพออกมาพร้อมกับเสียงที่เล็ดลอดทางลำโพง ไม่มีเสียงของผู้คนเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะว่า ต่างคนต่างมีสมาธิจดจ่ออยู่กับหนังที่กำลังฉายอยู่ก็ได้
แทมินที่นั่งดูหนังข้างๆผมอย่างเงียบๆใจจดใจจ่อกับหนังรักโรแมนติกน้ำตาคลอจอ
‘กึก. . .กึก’
ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกที่ไหล่ด้านขวา ผมหันไปปรากฏว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนสัปหงกอย่างไร้การทรงตัว ผมจะไม่ว่าอะไรเลยซักคำถ้าหัวทุยของเขาไม่มาพิงอยู่ที่ไหล่ผมแบบนี้
“. . .”
ผมใช้นิ้วสะกิดไปที่หัวทุยที่พิงไหล่ผมเบา ๆ จนเจ้าตัวสะดุ้ง หันมาปรือตาใส่ผม ส่งยิ้มแห้งๆแทนคำขอโทษพร้อมกับก้มศีรษะ แล้วหันไปให้ความสนใจกับหนังรักบนหน้าจอขนาดยักษ์ต่อ
ง่วง. . .
ผมคิดในใจพลางยกมือขึ้นมาเท้าคาง แอบชำเลืองมองคนหน้าหวานข้างๆที่ตาเป็นประกายกับสิ่งที่ได้ดู
เวลาผ่านไปได้นานพอควร ภาพยนตร์ก็จบลงพร้อมกับหน้าจอยักษ์ที่ดำมืดสนิท แสงสีส้มอ่อน ๆ รอบ ๆ โรงหนังสว่างขึ้น คนในโรงหนังลุกขึ้นกันอย่างพร้อมเพรียง มุ่งตรงไปยังทางออกของโรงหนังอย่างพร้อมหน้า
ผมกับแทมินยังคงนั่งอยู่ที่ ๆ เดิม ผมหันไปมองทางด้านขวามือ คน ๆ นั้นก็หายไปซะแล้ว
แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมนี่นา. . .ช่างเถอะ
“ไปกันเถอะจงอิน ออกไปหาอะไรกินกัน”
คนตัวเล็กข้าง ๆ เขย่าแขนผมพร้อมส่งสายตาออดอ้อน ผมหัวเราะพลางยกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลเบา ๆ แทมินลุกขึ้นก่อนที่จะดึงผมให้ลุกตาม
วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่ค่อนข้างพิเศษ. . .มาก
วันครบรอบที่ผมกับเขาคบกันได้ 7 ปีพอดี
พวกเราเลยตัดสินใจจะมาดูหนัง และไปทานอาหารกันซักมื้อ
“กินอะไรกันดีน้า. . .”
แทมินว่าพลางกระชับมือที่จับแขนของผมแน่นขึ้น
“กลับไปต้มมาม่าใส่นมกินที่บ้านกันดีกว่ามั้ย ฮ่าฮ่า”
ผมพูดติดตลก คนตัวเล็กพองลมในปาก มองค้อนผม พร้อมกับต่อยที่แขนเบา ๆ เราสองคนหัวเราะให้กันเหมือนทุกๆครั้งที่ได้คุยกัน
แต่ดูเหมือนสิ่งแวดล้อมมันจะไม่ได้เหมือนทุกครั้ง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !”
เสียงกรีดร้องดังมาจากด้านหน้าโรงหนัง ผู้คนมากมายที่เพิ่งออกจากโรงหนังตื่นตระหนก สถานการณ์ดูชุนลมุนมากขึ้นเมื่อเสียงกรีดร้องดังลากยาว
ผมกับแทมินรีบวิ่งไปทางต้นเสียง ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำเอาผมค้าง
“อ๊ากกกกกกกกกกก !”
ผู้ชายคนหนึ่งกำลังล้มลงไปนอนจมกองเลือดกับพื้น พร้อมกับเอามือจับประคบบริเวณต้นคอที่ตอนนี้มีเลือดสีแดงสดพุ่งกระเซ็นเป็นสาย ข้าง ๆ เขาปรากฏร่างของชายคนนึงที่กำลังนั่งยอง ๆ ท่ามกลางกองเลือด
“คุณเป็นอะไรมั้ยครับ ?!”
เจ้าหน้าที่ของโรงหนังรีบวิ่งเข้าไปหาผู้ชายที่กำลังนั่งยองๆคนนั้น พร้อมกับแตะมือที่ไหล่ของเขา
ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าหน้าที่ด้วยแววตา. . .
แววตาที่ผมรู้สึกแปลก ๆ
“อืออออออออออออ !”
ผู้ชายคนนั้นครางในลำคอดังระงม ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังยืนห้อมล้อม
“จงอิน...”
แทมินจับมือผมแน่นขึ้น น้ำเสียงของเขาดูหวาดกลัว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !”
และแล้วภาพที่ผมได้เห็นก็ทำเอาแทบช็อค ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้น ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปใช้ริมฝีปากกับฟันซี่คมกัดเข้าไปที่ไหล่ของเจ้าหน้าที่คนนั้น แล้วกระชากเนื้อสด ๆ ออกมาเคี้ยวเล่น เจ้าหน้าที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดกระเซ็นเป็นสายพุ่งออกมาจากปากแผลกระจายไปทั่วทิศทาง ก่อนที่เขาจะล้มลง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด !”
ผู้คนต่างแตกตื่น และวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง เมื่อผู้ชายคนนั้นเริ่มวิ่งเข้ามาทางพวกเรา
“แทมิน !”
ผมกระชับมือแทมิน ก่อนที่จะดึงให้วิ่งออกมาจากบริเวณนั้น
“มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย !?”
“ไม่รู้. ..แต่ที่รู้ๆเราต้องออกไปจากที่นี่ ตอนนี้ !”
เหงื่อสีใสผุดขึ้นมาตามไรผม กับฝ่ามือของผม ความสับสน ตื่นกลัว พลุ่งพล่านไปทั่ว แต่หัวสมองของผมกลับว่างเปล่า
เสียงกรีดร้องยังคงดังเป็นระยะ ๆ พร้อมกับผู้คนที่วิ่งหนีตายกันอย่างบ้าคลั่ง
ผมตัดสินใจพาแทมินวิ่งกลับเข้าไปในโรงหนังอีกครั้งซึ่งตอนนี้ไม่น่าจะมีใครอยู่แล้ว วิ่งเข้าไปในห้องน้ำข้างในโรงหนัง ตัดสินใจเลือกห้องที่ลึกที่สุด
“แฮ่ก. ..แฮ่ก”
เราทั้งคู่ต่างหายใจหอบถี่. . .ผมล็อคประตูห้องน้ำไว้ ก่อนที่จะขังตัวเองกับคนอีกคนไว้ในนี้
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น
แต่เราควรจะหลบ. . .ก่อนจะดีกว่า
“เราต้องอยู่ในนี้เงียบ ๆ นะ โอเคมั้ย ?”
ผมพูดกับคนตรงหน้า เขาพยักหน้ารับ ๆ เบา แต่ใบหน้าของเขาตอนนี้กลับมีน้ำใส ๆ มาคลอที่เบ้าตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผมยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนที่จะดึงเขาเข้ามากอด ความรู้สึกชื้น ๆ ที่ไหล่ทำเอาใจผมสั่นวาบ แทมินกำลังร้องไห้
“ฮึก. . .”
“ไม่เป็นไรๆ เราจะต้องไม่เป็นอะไร. . .ฉันจะปกป้องนายเอง,โอเคมั้ย ?”
ผมผละเข้าออกจากอ้อมกอด ยกนิ้วโป้งขึ้นมาปาดน้ำตาออกพร้อมกับยิ้มให้ แทมินพยักหน้าแล้วยิ้มตอบกลับมา
เราสองคนจะต้องไม่เป็นไรอะไร
ว่ากันว่าเลข 7 มักมีอาถรรพ์
คู่รักที่คบกันมาเป็นเวลา 7 ปีมักจะเลิกรากันด้วยอะไร ๆ หลายๆอย่างจากหลายสาเหตุ ผมไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ แต่ผมคิดไตร่ตรองดีแล้วว่าผมกับแทมินเราน่าจะข้ามผ่านเลข 7 ไปได้
“. . .”
ตอนนี้ผมกับแทมินเราอยู่ในห้องน้ำห้องที่อยู่ลึกที่สุด ผมกับเขาพยายามอยู่ให้เงียบที่สุด
เสียงกรีดร้องกับเสียงที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงปืนเงียบลงแล้ว หลังจากที่มันส่งเสียงดังกระหึ่มไปทั่ว
ผมดูเหมือนคนบ้าที่หวาดระแวงกับทุกๆเสียงที่ได้ยิน รอบๆตัวมองเห็นแต่ผนังสีขาวสะอาดตา กับชักโครกอีกหนึ่ง
“จงอิน. . .”
แทมินสะกิดผม พร้อมกับมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง
“เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ”
ขอร้องผมพลางเขย่าแขน เขาคงไม่อยากจะอดอู้อยู่ในนี้แล้วสินะ ?
“อื้ม”
ผมพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะนำไปค่อย ๆ ปลอดล็อกประตูห้องน้ำอย่างช้า ๆ พลางใช้มือหนาดันประตู
“ ! ”
หัวใจของผมหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อข้างหน้าผมปรากฏร่างของคนๆหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำที่ผมเพิ่งจะเปิดประตูออก
“. . .”
ใบหน้าของเขาคนนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด เขายืนหันหลังให้ผมอยู่ก็จริงแต่คงเป็นเพราะกระจกขนาดใหญ่ที่สะท้อนใบหน้าของเขา ทำให้ผมเห็นมันได้อย่างชัดเจน
“. . .”
เขาเสตามองผมกับแทมินผ่านทางกระจก ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเปิดก๊อกน้ำ วักน้ำสะอาดขึ้นมาล้างคราบเลือดบนใบหน้าออกอย่างลวก ๆ
“ค. ..ใครน่ะ”
แทมินชะเง้อหน้ามาเอ่ยถามผมเบา ๆ ผมส่ายหน้ากำลังชั่งใจอยู่ว่าควรจะออกไปดีมั้ย เขาคนนั้นจะทำอะไรผมกับแทมินรึเปล่า ?
“เราเคยเจอกันแล้วครับ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ”
เขาหันมายิ้มให้พร้อม ๆ กับก้มศีรษะให้เล็กน้อย พลางใช้หลังทือปาดคราบน้ำออกจากใบหน้า
ท่าทางของเขาคล้ายกับคนๆนั้น. . .ยังไงไม่รู้
“มันเกิดอะไรขึ้น ?”
“ผมก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะโอเคแล้วล่ะครับ คนที่บาดเจ็บก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ส่วนผู้ชายคนนั้นก็ถูกตำรวจ.. .”
เขาเล่าเรื่องแต่กลับหยุดประโยคไม่แค่นั้น
“ถูกตำรวจ ?”
แทมินขมวดคิ้ว พูดเรียกร้องให้เขาเล่าต่อ
“ปัง !..ปัง !”
เขายกมือขึ้นมา ทำนิ้วเป็นเหมือนปืน แล้วทำท่ายิงมาที่ผมกับแทมิน
“ยิงตายไปแล้วน่ะครับ”
พูดพลางฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย ช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาจริง ๆ แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับสิ่งเขาพูดออกมาเลยซักนิด
ผมตัดสินใจเดินออกมาจากห้องน้ำกับแทมิน โดยที่เขาคนนั้นยังคงจัดการกับตัวเองในห้องน้ำอยู่เพียงลำพัง
ได้ยินสิ่งที่เขาบอกมาเมื่อครู่ก็ทำให้ใจผมชื้นขึ้นมาเยอะ
“. . .”
ผมเดินออกมาจากภายในโรงหนัง ณ จุดๆเดิมที่เกิดเหตุ เลือดสีสดยังคงมีให้เห็น แต่ไม่ใช่แค่จุดนั้นจุดเดียว ยังมีอยู่ตามจุดอื่นอีก
ตำรวจอยู่เต็มพื้นที่ต่างกำลังจัดการเก็บ ศพ ของผู้ชายคนเดิมและเจ้าหน้าที่คนนั้นอย่างระมัดระวัง บางคนก็จัดการรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปกันอย่างจ้าละหวั่น บางคนก็กำลังพยายามเก็บหลักฐาน
“ขอความกรุณาช่วยออกไปจากพื้นที่นี้ก่อนนะครับ ตอนนี้เราจำเป็นต้องสอบปากคำทุก ๆ คนที่อยู่ ณ ที่นี้ทุกคน กรุณาไปรวมกับคนอื่น ๆ ที่ชั้นล่างด้วยนะครับ”
ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาบอกผมกับแทมินด้วยน้ำเสียงใจเย็น ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย
มันคงไม่มีอะไรแล้วต่อจากนี้
“. . .”
ผมกับแทมินกำลังนั่งอยู่ ณ ที่ที่ตำรวจจัดไว้ให้รวมกับผู้คนอื่น ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าตำรวจจะกำลังกักผู้คนที่อยู่ที่ห้างสรรพสินค้านี้ไว้สอบปากคำก่อน สังเกตจากประตูห้างที่ปิดอย่างสนิท ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้ามาทำข่าว แถมยังมีการคุ้มกันจากด้านนอกอีกต่างหาก
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
“. . .”
ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเห็นเขาคนนั้น เด็กผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ ผมในโรงหนัง และเป็นคนเดียวกันกับที่เจอในห้องน้ำ กำลังเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับตำรวจและดูเหมือนกำลังให้ปากคำ
“เราจะปลอดภัยใช่มั้ยจงอิน ?”
“แน่นอน,ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วล่ะแทมิน มันจบแล้ว”
“ฉันขอโทษนะ. . .”
“ขอโทษทำไม ? หืม ?”
“ดีกว่า ฉันชวนนายมาเจอเรื่องแย่ ๆ. . รู้งี้ฉันว่าเราน่าจะไปดูหนังที่บ้านนายแล้วต้มมาม่ากินกันน่าจะดีกว่า. . .”
คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด พลางก้มหน้าลงต่ำ
“ไม่หรอกไม่ใช่ความผิดของนายหรอกนะ มันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายหรอก ไว้ให้ปากคำเสร็จแล้วเราไปต้มมาม่ากินกันเนอะ”
“เชิญท่านต่อไปครับ”
ตำรวจท่านหนึ่งเดินเข้ามาทางพวกผม ก่อนที่แทมินจะพยักหน้ารับแล้วเดินไปให้ปากคำ รวมถึงผมที่ไปให้ปากคำที่อีกมุมหนึ่งด้วย
“ขอทราบชื่อหน่อยครับ”
ตำรวจคนที่นั่งตรงข้ามผม วางกระดาษลงพร้อม ๆ กับถือปากกาไว้ในมือ
“คิม จงอินครับ”
“โอเคครับ คุณคิม ช่วยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่คุณทราบให้ทางเราฟังหน่อยครับ”
“. . .ผมมาดูหนังกับแฟนครับ หลังจากที่เราออกมาจากโรงหนัง เราก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้อง ผมเลยวิ่งไปดูปรากฏว่าเป็นผู้ชายคนนึงกำลังนอนจมกองเลือดข้างๆกับผ้ชายอีกคน พอเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยผู้ชายคนนั้นก็วิ่งเข้าไปกัดเจ้าหน้าที่. .น่ะครับ”
“อืม. . .เหมือนกัน”
เจ้าหน้าที่ยกปากกาขึ้นมากดถี่ ๆ ทำท่าใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อ
“แล้วจากนั้น ?”
“ผมกับแฟนเลยไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำน่ะครับ. . .”
“โอเค. . .ทางเราคงจะยังปล่อยคุณกลับบ้านไม่ได้ในตอนนี้นะครับ เชิญคุณกลับไปนั่งที่เดิมก่อน อีกประมาณ 10 นาทีเราจะเชิญคุณไปเจาะเลือดนะครับ”
“เจาะเลือดหรอครับ ?”
“ใช่แล้วครับ”
“. . .”
ผมไม่พูดอะไรตอบกลับไป แต่ก็ถูกสายตาของเจ้าหน้าที่มองกลับมา จนต้องตัดสินใจตอบกลับไป “ครับ”
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะครับ”
ผมเดินออกมาจากจุด ๆ นั้น ก่อนที่จะเห็นแทมินนั่งรออยู่ที่เดิม
“เป็นไงบ้าง ?”
“ก็ตอบไปตามตรง”
“เขาบอกว่าจะต้องเจาะเลือดด้วย,ฉันไม่อยากเจาะเลือด”
“ทำตามที่เขาบอกไปก่อนเถอะเนอะ มันต้องผ่านไปได้ด้วยดี”
ผมพูดเป็นเชิงให้กำลังใจ พลางลูบผมของคนที่นั่งทำหน้าวิตก
ผมเหลือบไปมองเห็นประตูทางเข้าของห้างสรรพสินค้าถูกเปิดออกพร้อมกับ ๆ ทีมหมอและพยาบาลเข้ามาตั้งโต๊ะอีกโต๊ะหนึ่งข้าง ๆ โต๊ะสอบปากคำ พวกเขาต่างหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นออกมาเตรียมตั้งไว้
รถอีกคันจอดเทียบอยู่ที่หน้าห้าง มันเป็นรถของทหาร. . .
ทหารจำนวนหนึ่งประมาณ 40 นายค่อย ๆ ทยอยลงมาพร้อมกับอาวุธปืนที่มีติดตัว เดินเข้ามาในห้างก่อนที่จะเดินกระจายไปรอบ ๆ บริเวณ
“. . .”
สายตาของผมยังคงกวาดไปทั่วจนไปสะดุดเข้ากับบันได้เลื่อนที่มีบุรุษพยาบาล 2 คนกำลังหามเปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงมาจากชั้นสอง
บนเปลมีเจ้าหน้าที่คนที่ถูกกัดกำลังนอนอยู่ซึ่งเขา ตาย แล้ว เลือดไหลโชกตัวแผลที่โดนกัดเหวอะหวะจนน่าสะอิดสะเอียน
ศพของเขาถูกหามและดูเหมือนจะกำลังถูกส่งไปที่ชันสูตรอีกรอบที่โรงพยาบาล ผมยังคงจ้องมองศพของเขาอย่างไม่ติดใจอะไร ใบหน้าของศพเปื้อนไปด้วยเลือด เปลือกตาปิดสนิท
“. . .”
ขณะที่ศพกำลังถูกเคลื่อนย้ายผ่านผมไปอยู่ดี ๆ สิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเห็นกลับปรากฏ
“ ! ”
ดวงตาของศพเจ้าหน้าที่คนนั้นลืมตาขึ้นมา ดวงตาเบิกโพลง และกำลังจ้องมองมาที่ผม
ผมรีบสะบัดหน้า กระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะเพ่งไปอีกรอบ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเมื่อเปลถูกยกเข้าไปอยู่ในรถพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับประตูของรถที่ปิดสนิท
“จงอิน เป็นอะไรรึเปล่า ?”
แทมินเอื้อมมือมาแตะบ่าของผม พร้อมกับเอ่ยถามอย่างห่วงใย
“ป. . .เปล่า”
ผมยิ้มพร้อมกับเอ่ยปฏิเสธ
บางที
ผมอาจจะแค่ตาฝาดไปก็ได้
ขอบคุณธีมสวย ๆ จาก △ C R A Z E ˊ
ตอนนี้เป็นพาร์ทของจงอินนะ ขออย่างงกันล่ะ
ตอนนี้ก็เปิดเทอมแล้ว เรื่องการอัพอาจจะนานพอสมควร
เพราะเราก็มีงานมีการบ้านเยอะ เวลาปั่นอาจจะไม่ค่อยมี
อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะจ๊ะ ; ^ ;
ตอบคอมเม้นที่ 440 นะเออ
- ไรท์เตอร์เรื่องนี้กับดฮปท.คนละคนกันนะ 555555 แต่ใช้ยูสเดียวกันลง ^^
ฝากติดตามกันทั้งสองเรื่องเลยนะ ดฮปท << สนุกมาก อย่าลืมไปเชียร์ให้เจ้แกรวมเล่มล่ะ #พยายามเชียร์อยู่
ส่วนรูปบนสุด มันเป็น สถานะ ของแต่ละคน ลองเอาไปคิดกันเล่นๆนะ 55555
คอมเม้นเพิ่มเติม เวิ่น ได้ในทวิตติดแท็ก #อวออล ไว้นะจะแอบไปส่อง ; ^ ;
ความคิดเห็น