ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) AWAKE & ALIVE.

    ลำดับตอนที่ #11 : 10 CHANGE | Mystery of number 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.72K
      4
      18 พ.ค. 56

    DEAD,ALIVE or UNDEAD ?

    JUST CHOOSE

    10 | อาถรรพ์เลข 7 



    *เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
    ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน









     

     

     

    มันเป็นวันที่โคตรจะเฮงซวยที่สุดในชีวิต

    ผมเกลียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัว

    รวมถึงตัวผมเองด้วย

     

     

     

     

    “ชานยอลเป็นยังไงบ้างหรอ ?”

    เสียงใสที่ดังออกมาจากคนที่นั่งข้าง ๆ ทำเอาผมสะดุ้งโหยง เรียกสติของผมกลับมายังจุดๆนี้อีกครั้ง

     

    “เมื่อวานก็เพิ่งไปเยี่ยมมันมา ก็ยังนอนนิ่งเหมือนเดิม”

    ผมตอบกลับไปตามความเป็นจริงแต่พยายามพูดให้มันดูดีขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย ใช่ครับ เมื่อวานนี้ผมไปเยี่ยมชานยอลมา ชานยอลเป็นเพื่อนสนิทของผม มันถูกยิงเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้มันก็นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

    มันนอนนิ่งแบบนั้นมา 3 วันเต็ม ๆ

     

    “เดี๋ยวชานยอลก็ฟื้น นายไม่ต้องคิดมากนะ”

    ประโยคของคนข้าง ๆที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้น

     

    “ขอบคุณนะแทมิน

    ผมยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ พลางยกมือขึ้นมาขยี้ผมของคนที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าอย่างเอ็นดู

     

    “ได้เวลาหนังฉายแล้ว รีบไปก่อนเถอะจงอิน

    คนตัวเล็กลุกขึ้น ก่อนที่จะดึงแขนผมให้ลุกขึ้นตาม ขมวดคิ้วพลางจิกตาเร่งให้ผมลุกขึ้น ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืน ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในโรงหนังด้วยกัน

     

     

     

     

    “. . .”

    ท่ามกลางความมืดในโรงหนังขนาดใหญ่ มีเพียงแต่แสงไฟสว่างจากหน้าจอขนาดยักษ์ที่ฉายภาพออกมาพร้อมกับเสียงที่เล็ดลอดทางลำโพง ไม่มีเสียงของผู้คนเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะว่า ต่างคนต่างมีสมาธิจดจ่ออยู่กับหนังที่กำลังฉายอยู่ก็ได้

     

    แทมินที่นั่งดูหนังข้างๆผมอย่างเงียบๆใจจดใจจ่อกับหนังรักโรแมนติกน้ำตาคลอจอ

     

    กึก. . .กึก

    ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกที่ไหล่ด้านขวา ผมหันไปปรากฏว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนสัปหงกอย่างไร้การทรงตัว ผมจะไม่ว่าอะไรเลยซักคำถ้าหัวทุยของเขาไม่มาพิงอยู่ที่ไหล่ผมแบบนี้

     

    “. . .”

    ผมใช้นิ้วสะกิดไปที่หัวทุยที่พิงไหล่ผมเบา ๆ จนเจ้าตัวสะดุ้ง หันมาปรือตาใส่ผม ส่งยิ้มแห้งๆแทนคำขอโทษพร้อมกับก้มศีรษะ แล้วหันไปให้ความสนใจกับหนังรักบนหน้าจอขนาดยักษ์ต่อ

     

    ง่วง. . .

    ผมคิดในใจพลางยกมือขึ้นมาเท้าคาง แอบชำเลืองมองคนหน้าหวานข้างๆที่ตาเป็นประกายกับสิ่งที่ได้ดู

     

     

    เวลาผ่านไปได้นานพอควร ภาพยนตร์ก็จบลงพร้อมกับหน้าจอยักษ์ที่ดำมืดสนิท แสงสีส้มอ่อน ๆ รอบ ๆ โรงหนังสว่างขึ้น คนในโรงหนังลุกขึ้นกันอย่างพร้อมเพรียง มุ่งตรงไปยังทางออกของโรงหนังอย่างพร้อมหน้า

    ผมกับแทมินยังคงนั่งอยู่ที่ ๆ เดิม ผมหันไปมองทางด้านขวามือ คน ๆ นั้นก็หายไปซะแล้ว

    แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมนี่นา. . .ช่างเถอะ

     

    “ไปกันเถอะจงอิน ออกไปหาอะไรกินกัน”

    คนตัวเล็กข้าง ๆ เขย่าแขนผมพร้อมส่งสายตาออดอ้อน ผมหัวเราะพลางยกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลเบา ๆ แทมินลุกขึ้นก่อนที่จะดึงผมให้ลุกตาม

    วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่ค่อนข้างพิเศษ. . .มาก

    วันครบรอบที่ผมกับเขาคบกันได้ 7 ปีพอดี

    พวกเราเลยตัดสินใจจะมาดูหนัง และไปทานอาหารกันซักมื้อ

     

    “กินอะไรกันดีน้า. . .”

    แทมินว่าพลางกระชับมือที่จับแขนของผมแน่นขึ้น

    “กลับไปต้มมาม่าใส่นมกินที่บ้านกันดีกว่ามั้ย ฮ่าฮ่า”

    ผมพูดติดตลก คนตัวเล็กพองลมในปาก มองค้อนผม พร้อมกับต่อยที่แขนเบา ๆ เราสองคนหัวเราะให้กันเหมือนทุกๆครั้งที่ได้คุยกัน

    แต่ดูเหมือนสิ่งแวดล้อมมันจะไม่ได้เหมือนทุกครั้ง

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !

    เสียงกรีดร้องดังมาจากด้านหน้าโรงหนัง ผู้คนมากมายที่เพิ่งออกจากโรงหนังตื่นตระหนก สถานการณ์ดูชุนลมุนมากขึ้นเมื่อเสียงกรีดร้องดังลากยาว

     

    ผมกับแทมินรีบวิ่งไปทางต้นเสียง ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำเอาผมค้าง

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกก !

    ผู้ชายคนหนึ่งกำลังล้มลงไปนอนจมกองเลือดกับพื้น พร้อมกับเอามือจับประคบบริเวณต้นคอที่ตอนนี้มีเลือดสีแดงสดพุ่งกระเซ็นเป็นสาย ข้าง ๆ เขาปรากฏร่างของชายคนนึงที่กำลังนั่งยอง ๆ ท่ามกลางกองเลือด

     

    “คุณเป็นอะไรมั้ยครับ ?!

    เจ้าหน้าที่ของโรงหนังรีบวิ่งเข้าไปหาผู้ชายที่กำลังนั่งยองๆคนนั้น พร้อมกับแตะมือที่ไหล่ของเขา

    ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าหน้าที่ด้วยแววตา. . .

    แววตาที่ผมรู้สึกแปลก ๆ

     

    “อืออออออออออออ !

    ผู้ชายคนนั้นครางในลำคอดังระงม ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังยืนห้อมล้อม

     

    “จงอิน...”

    แทมินจับมือผมแน่นขึ้น น้ำเสียงของเขาดูหวาดกลัว

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !

    และแล้วภาพที่ผมได้เห็นก็ทำเอาแทบช็อค ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้น ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปใช้ริมฝีปากกับฟันซี่คมกัดเข้าไปที่ไหล่ของเจ้าหน้าที่คนนั้น แล้วกระชากเนื้อสด ๆ ออกมาเคี้ยวเล่น เจ้าหน้าที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดกระเซ็นเป็นสายพุ่งออกมาจากปากแผลกระจายไปทั่วทิศทาง ก่อนที่เขาจะล้มลง

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด !

    ผู้คนต่างแตกตื่น และวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง เมื่อผู้ชายคนนั้นเริ่มวิ่งเข้ามาทางพวกเรา

     

    “แทมิน !

    ผมกระชับมือแทมิน ก่อนที่จะดึงให้วิ่งออกมาจากบริเวณนั้น

    “มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย !?

    “ไม่รู้. ..แต่ที่รู้ๆเราต้องออกไปจากที่นี่ ตอนนี้ !

    เหงื่อสีใสผุดขึ้นมาตามไรผม กับฝ่ามือของผม ความสับสน ตื่นกลัว พลุ่งพล่านไปทั่ว แต่หัวสมองของผมกลับว่างเปล่า

    เสียงกรีดร้องยังคงดังเป็นระยะ ๆ พร้อมกับผู้คนที่วิ่งหนีตายกันอย่างบ้าคลั่ง

     

    ผมตัดสินใจพาแทมินวิ่งกลับเข้าไปในโรงหนังอีกครั้งซึ่งตอนนี้ไม่น่าจะมีใครอยู่แล้ว วิ่งเข้าไปในห้องน้ำข้างในโรงหนัง ตัดสินใจเลือกห้องที่ลึกที่สุด

     

    “แฮ่ก. ..แฮ่ก”

    เราทั้งคู่ต่างหายใจหอบถี่. . .ผมล็อคประตูห้องน้ำไว้ ก่อนที่จะขังตัวเองกับคนอีกคนไว้ในนี้

    ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น

    แต่เราควรจะหลบ. . .ก่อนจะดีกว่า

     

    “เราต้องอยู่ในนี้เงียบ ๆ นะ โอเคมั้ย ?”

    ผมพูดกับคนตรงหน้า เขาพยักหน้ารับ ๆ เบา แต่ใบหน้าของเขาตอนนี้กลับมีน้ำใส ๆ มาคลอที่เบ้าตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ผมยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนที่จะดึงเขาเข้ามากอด ความรู้สึกชื้น ๆ ที่ไหล่ทำเอาใจผมสั่นวาบ แทมินกำลังร้องไห้

     

    “ฮึก. . .”

    “ไม่เป็นไรๆ เราจะต้องไม่เป็นอะไร. . .ฉันจะปกป้องนายเอง,โอเคมั้ย ?”

    ผมผละเข้าออกจากอ้อมกอด ยกนิ้วโป้งขึ้นมาปาดน้ำตาออกพร้อมกับยิ้มให้ แทมินพยักหน้าแล้วยิ้มตอบกลับมา

     

    เราสองคนจะต้องไม่เป็นไรอะไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ว่ากันว่าเลข 7 มักมีอาถรรพ์

    คู่รักที่คบกันมาเป็นเวลา 7 ปีมักจะเลิกรากันด้วยอะไร ๆ หลายๆอย่างจากหลายสาเหตุ ผมไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ แต่ผมคิดไตร่ตรองดีแล้วว่าผมกับแทมินเราน่าจะข้ามผ่านเลข 7 ไปได้

     

    “. . .”

    ตอนนี้ผมกับแทมินเราอยู่ในห้องน้ำห้องที่อยู่ลึกที่สุด ผมกับเขาพยายามอยู่ให้เงียบที่สุด

    เสียงกรีดร้องกับเสียงที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงปืนเงียบลงแล้ว หลังจากที่มันส่งเสียงดังกระหึ่มไปทั่ว

    ผมดูเหมือนคนบ้าที่หวาดระแวงกับทุกๆเสียงที่ได้ยิน รอบๆตัวมองเห็นแต่ผนังสีขาวสะอาดตา กับชักโครกอีกหนึ่ง

     

    “จงอิน. . .”

    แทมินสะกิดผม พร้อมกับมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง

    “เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ”

    ขอร้องผมพลางเขย่าแขน เขาคงไม่อยากจะอดอู้อยู่ในนี้แล้วสินะ ?

     

    “อื้ม”

    ผมพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะนำไปค่อย ๆ ปลอดล็อกประตูห้องน้ำอย่างช้า ๆ พลางใช้มือหนาดันประตู

     

    !

    หัวใจของผมหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อข้างหน้าผมปรากฏร่างของคนๆหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำที่ผมเพิ่งจะเปิดประตูออก

     

    “. . .”

    ใบหน้าของเขาคนนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด เขายืนหันหลังให้ผมอยู่ก็จริงแต่คงเป็นเพราะกระจกขนาดใหญ่ที่สะท้อนใบหน้าของเขา ทำให้ผมเห็นมันได้อย่างชัดเจน

     

    “. . .”

    เขาเสตามองผมกับแทมินผ่านทางกระจก ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเปิดก๊อกน้ำ วักน้ำสะอาดขึ้นมาล้างคราบเลือดบนใบหน้าออกอย่างลวก ๆ

     

    “ค. ..ใครน่ะ”

    แทมินชะเง้อหน้ามาเอ่ยถามผมเบา ๆ ผมส่ายหน้ากำลังชั่งใจอยู่ว่าควรจะออกไปดีมั้ย เขาคนนั้นจะทำอะไรผมกับแทมินรึเปล่า ?

     

    “เราเคยเจอกันแล้วครับ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ”

    เขาหันมายิ้มให้พร้อม ๆ กับก้มศีรษะให้เล็กน้อย พลางใช้หลังทือปาดคราบน้ำออกจากใบหน้า

    ท่าทางของเขาคล้ายกับคนๆนั้น. . .ยังไงไม่รู้

     

    “มันเกิดอะไรขึ้น ?”

    “ผมก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะโอเคแล้วล่ะครับ คนที่บาดเจ็บก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ส่วนผู้ชายคนนั้นก็ถูกตำรวจ.. .”

    เขาเล่าเรื่องแต่กลับหยุดประโยคไม่แค่นั้น

     

    “ถูกตำรวจ ?”

    แทมินขมวดคิ้ว พูดเรียกร้องให้เขาเล่าต่อ

     

    “ปัง !..ปัง !

    เขายกมือขึ้นมา ทำนิ้วเป็นเหมือนปืน แล้วทำท่ายิงมาที่ผมกับแทมิน

    ยิงตายไปแล้วน่ะครับ”

    พูดพลางฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย ช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาจริง ๆ แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับสิ่งเขาพูดออกมาเลยซักนิด

     

     

    ผมตัดสินใจเดินออกมาจากห้องน้ำกับแทมิน โดยที่เขาคนนั้นยังคงจัดการกับตัวเองในห้องน้ำอยู่เพียงลำพัง

    ได้ยินสิ่งที่เขาบอกมาเมื่อครู่ก็ทำให้ใจผมชื้นขึ้นมาเยอะ

     

    “. . .”

    ผมเดินออกมาจากภายในโรงหนัง ณ จุดๆเดิมที่เกิดเหตุ เลือดสีสดยังคงมีให้เห็น แต่ไม่ใช่แค่จุดนั้นจุดเดียว ยังมีอยู่ตามจุดอื่นอีก

     

    ตำรวจอยู่เต็มพื้นที่ต่างกำลังจัดการเก็บ ศพ ของผู้ชายคนเดิมและเจ้าหน้าที่คนนั้นอย่างระมัดระวัง บางคนก็จัดการรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปกันอย่างจ้าละหวั่น บางคนก็กำลังพยายามเก็บหลักฐาน

     

    “ขอความกรุณาช่วยออกไปจากพื้นที่นี้ก่อนนะครับ ตอนนี้เราจำเป็นต้องสอบปากคำทุก ๆ คนที่อยู่ ณ ที่นี้ทุกคน กรุณาไปรวมกับคนอื่น ๆ ที่ชั้นล่างด้วยนะครับ”

    ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาบอกผมกับแทมินด้วยน้ำเสียงใจเย็น ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย

    มันคงไม่มีอะไรแล้วต่อจากนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “. . .”

    ผมกับแทมินกำลังนั่งอยู่ ณ ที่ที่ตำรวจจัดไว้ให้รวมกับผู้คนอื่น ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าตำรวจจะกำลังกักผู้คนที่อยู่ที่ห้างสรรพสินค้านี้ไว้สอบปากคำก่อน สังเกตจากประตูห้างที่ปิดอย่างสนิท ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้ามาทำข่าว แถมยังมีการคุ้มกันจากด้านนอกอีกต่างหาก

    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

     

    “. . .”

    ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเห็นเขาคนนั้น เด็กผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ ผมในโรงหนัง และเป็นคนเดียวกันกับที่เจอในห้องน้ำ กำลังเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับตำรวจและดูเหมือนกำลังให้ปากคำ

     

    “เราจะปลอดภัยใช่มั้ยจงอิน ?”

    “แน่นอน,ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วล่ะแทมิน มันจบแล้ว”

    “ฉันขอโทษนะ. . .”

    “ขอโทษทำไม ? หืม ?”

    “ดีกว่า ฉันชวนนายมาเจอเรื่องแย่ ๆ. . รู้งี้ฉันว่าเราน่าจะไปดูหนังที่บ้านนายแล้วต้มมาม่ากินกันน่าจะดีกว่า. . .”

    คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด พลางก้มหน้าลงต่ำ

    “ไม่หรอกไม่ใช่ความผิดของนายหรอกนะ มันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายหรอก ไว้ให้ปากคำเสร็จแล้วเราไปต้มมาม่ากินกันเนอะ”

     

     

    “เชิญท่านต่อไปครับ”

    ตำรวจท่านหนึ่งเดินเข้ามาทางพวกผม ก่อนที่แทมินจะพยักหน้ารับแล้วเดินไปให้ปากคำ รวมถึงผมที่ไปให้ปากคำที่อีกมุมหนึ่งด้วย

     

    “ขอทราบชื่อหน่อยครับ”

    ตำรวจคนที่นั่งตรงข้ามผม วางกระดาษลงพร้อม ๆ กับถือปากกาไว้ในมือ

    “คิม จงอินครับ”

    “โอเคครับ คุณคิม ช่วยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่คุณทราบให้ทางเราฟังหน่อยครับ”

    “. . .ผมมาดูหนังกับแฟนครับ หลังจากที่เราออกมาจากโรงหนัง เราก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้อง ผมเลยวิ่งไปดูปรากฏว่าเป็นผู้ชายคนนึงกำลังนอนจมกองเลือดข้างๆกับผ้ชายอีกคน พอเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยผู้ชายคนนั้นก็วิ่งเข้าไปกัดเจ้าหน้าที่. .น่ะครับ”

    “อืม. . .เหมือนกัน”

    เจ้าหน้าที่ยกปากกาขึ้นมากดถี่ ๆ ทำท่าใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อ

    “แล้วจากนั้น ?”

    “ผมกับแฟนเลยไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำน่ะครับ. . .”

    “โอเค. . .ทางเราคงจะยังปล่อยคุณกลับบ้านไม่ได้ในตอนนี้นะครับ เชิญคุณกลับไปนั่งที่เดิมก่อน อีกประมาณ 10 นาทีเราจะเชิญคุณไปเจาะเลือดนะครับ”

    “เจาะเลือดหรอครับ ?”

    “ใช่แล้วครับ”

    “. . .”

    ผมไม่พูดอะไรตอบกลับไป แต่ก็ถูกสายตาของเจ้าหน้าที่มองกลับมา จนต้องตัดสินใจตอบกลับไป “ครับ”

    “ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะครับ”

     

    ผมเดินออกมาจากจุด ๆ นั้น ก่อนที่จะเห็นแทมินนั่งรออยู่ที่เดิม

    “เป็นไงบ้าง ?”

    “ก็ตอบไปตามตรง”

    “เขาบอกว่าจะต้องเจาะเลือดด้วย,ฉันไม่อยากเจาะเลือด”

    “ทำตามที่เขาบอกไปก่อนเถอะเนอะ มันต้องผ่านไปได้ด้วยดี”

    ผมพูดเป็นเชิงให้กำลังใจ พลางลูบผมของคนที่นั่งทำหน้าวิตก

     

    ผมเหลือบไปมองเห็นประตูทางเข้าของห้างสรรพสินค้าถูกเปิดออกพร้อมกับ ๆ ทีมหมอและพยาบาลเข้ามาตั้งโต๊ะอีกโต๊ะหนึ่งข้าง ๆ โต๊ะสอบปากคำ พวกเขาต่างหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นออกมาเตรียมตั้งไว้

    รถอีกคันจอดเทียบอยู่ที่หน้าห้าง มันเป็นรถของทหาร. . .

    ทหารจำนวนหนึ่งประมาณ 40 นายค่อย ๆ ทยอยลงมาพร้อมกับอาวุธปืนที่มีติดตัว เดินเข้ามาในห้างก่อนที่จะเดินกระจายไปรอบ ๆ บริเวณ

     

    “. . .”

    สายตาของผมยังคงกวาดไปทั่วจนไปสะดุดเข้ากับบันได้เลื่อนที่มีบุรุษพยาบาล 2 คนกำลังหามเปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงมาจากชั้นสอง

    บนเปลมีเจ้าหน้าที่คนที่ถูกกัดกำลังนอนอยู่ซึ่งเขา ตาย แล้ว เลือดไหลโชกตัวแผลที่โดนกัดเหวอะหวะจนน่าสะอิดสะเอียน

    ศพของเขาถูกหามและดูเหมือนจะกำลังถูกส่งไปที่ชันสูตรอีกรอบที่โรงพยาบาล ผมยังคงจ้องมองศพของเขาอย่างไม่ติดใจอะไร ใบหน้าของศพเปื้อนไปด้วยเลือด เปลือกตาปิดสนิท

     

    “. . .”

    ขณะที่ศพกำลังถูกเคลื่อนย้ายผ่านผมไปอยู่ดี ๆ สิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเห็นกลับปรากฏ

     

    !

    ดวงตาของศพเจ้าหน้าที่คนนั้นลืมตาขึ้นมา ดวงตาเบิกโพลง และกำลังจ้องมองมาที่ผม

    ผมรีบสะบัดหน้า กระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะเพ่งไปอีกรอบ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเมื่อเปลถูกยกเข้าไปอยู่ในรถพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับประตูของรถที่ปิดสนิท

     

    “จงอิน เป็นอะไรรึเปล่า ?”

    แทมินเอื้อมมือมาแตะบ่าของผม พร้อมกับเอ่ยถามอย่างห่วงใย

    “ป. . .เปล่า”

    ผมยิ้มพร้อมกับเอ่ยปฏิเสธ

    บางที

    ผมอาจจะแค่ตาฝาดไปก็ได้

     

     

     

     

    LOADING. . .
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 
    ขอบคุณธีมสวย ๆ จาก △ C R A Z E  ˊ
    ตอนนี้เป็นพาร์ทของจงอินนะ ขออย่างงกันล่ะ
    ตอนนี้ก็เปิดเทอมแล้ว เรื่องการอัพอาจจะนานพอสมควร
    เพราะเราก็มีงานมีการบ้านเยอะ เวลาปั่นอาจจะไม่ค่อยมี 
    อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะจ๊ะ ; ^ ;

    ตอบคอมเม้นที่ 440 นะเออ
    - ไรท์เตอร์เรื่องนี้กับดฮปท.คนละคนกันนะ 555555 แต่ใช้ยูสเดียวกันลง ^^
    ฝากติดตามกันทั้งสองเรื่องเลยนะ ดฮปท << สนุกมาก อย่าลืมไปเชียร์ให้เจ้แกรวมเล่มล่ะ #พยายามเชียร์อยู่

    ส่วนรูปบนสุด มันเป็น สถานะ ของแต่ละคน ลองเอาไปคิดกันเล่นๆนะ 55555
    คอมเม้นเพิ่มเติม เวิ่น ได้ในทวิตติดแท็ก #อวออล ไว้นะจะแอบไปส่อง ; ^ ;

    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×