คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 11 CHANGE | Mystery of number 7 (2)
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
11 | อาถรรพ์เลข 7 (2)
*เนื้อหาของตอนนี้ได้มาอย่างพรั่น
ผู้อ่านโปรดค่อยๆทำความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นอาจสัปดนได้
“ท่านต่อไปเชิญเลยค่ะ”
เสียงของนางพยาบาลดังขึ้น แทมินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม หันมามองผมอย่างหวาดระแวงเล็กน้อย ผมพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูด
“ไฟท์ติ้ง”
เขายิ้ม ก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะของโรงพยาบาลอย่างว่าง่าย
ผมลอบถอนหายใจเล็กน้อย สิ่งที่ผมเห็นเมื่อครู่ที่ผ่านมาผมเพียงแค่หวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความอุปทานหรือตาพร่าของผม
หลายอย่างวนเวียนตีกันในหัวของผมไปหมด. . .
“คิดอะไรอยู่หรอครับ ?”
เสียงที่ผมไม่คุ้นเคยดังขึ้นกระทบหู ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ผม ผมไม่เคยเจอเขามาก่อน. . .ผู้ชายร่างสันทัดกับเสื้อเชิ้ตสีดำไม่สิ...เขาใส่ชุดดำทั้งตัวเลย แบบนี้น่าจะถูกกว่า
“ป. . .เปล่านี่ครับ”
“หรอ”
ผมปฏิเสธเขาไป แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาเป็นคำสั้น ๆ แค่เพียงพยางค์เดียวเท่านั้น เขาเอียงคอพร้อมกับจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น
“แล้วคุณ ?”
“ผมคิดครับ”
“ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นแค่คดีฆาตรกรรมธรรมดาที่มีทั้งพยานและหลักฐานครบทุกอย่าง แต่ผมสงสัยว่าทำไมตำรวจถึงต้องกักกันพวกเราไว้ในที่หน้าอดอู้แบบนี้ คุณไม่สงสัยบ้างหรอครับ ?”
“. . .”
“แถมยังเรียกให้ไปตรวจเลือดอีกต่างหาก ห้ามนักข่าวมาทำข่าวตามหน้าที่อีกด้วย แล้วไหนจะทหารอีก. . .ไม่สิ ผมว่าตอนนี้รัฐบาลน่าจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ได้นะ”
เขายกยิ้มมุมปาก ทำเอาผมขนลุกซู่
หมายความว่าไง สิ่งที่เขาพูด. . .คืออะไรกันแน่ ?
“อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิครับ มันเป็นแค่ความคิดของผมเฉย ๆ น่ะครับ อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย”
พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูห่วงใย แต่ขอโทษ. . .มันทำให้ผมรู้สึกแย่ลงมากกว่าเดิม
“. . .”
“ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ ผมหวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก”
เขาลุกขึ้นจัดเสื้อเชิ้ตของตนเองให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะเอ่ยลา
“ครับ. . .”
“ผมคิม จงแด,ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“คิม จงอินครับ,ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
ผมลุกขึ้น เมื่อเขา ‘คิม จงแด’ เอื้อมมือมาอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ผมจะเชคแฮนด์กับเขาพร้อมกับเอ่ยแนะนำตัว
เขาส่งยิ้มกลับมาให้ผม ก่อนที่จะเดินเอามือล้วงกระเป๋าจากไป เพียงแค่ผมเผลอไปครู่เดียวเขาก็หายไปแล้ว
“เชิญท่านต่อไปค่ะ”
เสียงเรียกของนางพยาบาลทำผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นแล้วเดินสวนกับแทมิน
“เป็นไงบ้าง?”
“เจ็บนิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
คนตัวเล็กยิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนตัวผมก็มุ่งหน้าไปที่โต๊ะสีขาวสะอาดตาที่กระจัดกระจายด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ผมไม่ค่อยจะรู้จักซักเท่าไหร่
“ขอทราบชื่อด้วยค่ะ”
“คิม จงอินครับ”
นางพยาบาลท่านหนึ่งถามชื่อผมพร้อมกับจดมันลงในใบเอกสาร ส่วนนางพยาบาลอีกท่านน้ำเส้นที่เหมือนยางมารัดที่เหนือข้อพับ พร้อมกับเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดที่บริเวณข้อพับของผมอย่างเบามือ
“เจ็บนิดหน่อยนะคะ”
เธอพูดพร้อมกับเอาเข็มขนาดใหญ่มากดลึกลงไปที่ข้อพับของผม ความรู้สึกเจ็บทำเอาผมถึงกับจิ๊ปากอย่างบังคับไม่ได้ ก่อนที่นางพยาบาลท่านนั้นจะใช้เข็มดูดเลือดสีแดงสดของผมออกมา ใช้ผ้าก็อตแปะที่บริเวณนั้นพร้อมกับนำสก็อตเทปที่ใช้ทางการแพทย์มาแปะซ้ำอีกรอบ
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมชักมือกลับ ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินกลับไปหาแทมินที่นั่งรออยู่ที่เดิม
“อันยองครับพี่มินโฮ. . .”
ดูเหมือนว่าแทมินกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับลูกพี่ลูกน้องของเขา ที่ชื่อมินโฮ. . .
“ผมปลอดภัยดีครับ ไม่ต้องเป็นห่วง. .”
“อ. . .อะไรนะครับ”
“. . .”
“ครับ ๆ ไม่ต้องห่วงนะครับ ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าเดี๋ยวผมจะกลับไปหานะ”
แทมินจบบทสนทนาไว้แค่นั้น ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ผมนิด ๆ
“มีอะไรรึเปล่า ?”
“อ๋อ. . .พี่มินโฮโทรมาน่ะ,เขาถามว่าตอนนี้ยังปลอดภัยดีอยู่รึเปล่า”
“. . .”
“พี่เขาเห็นข่าวด่วนในทีวีน่ะเลยรีบโทรมาเช็ค”
“ข่าวด่วน ?”
“อื้อ. . .ข่าวเขารายงานว่า รถพยาบาลที่เดินทางจากที่นี่ไปโรงพยาบาลประสบอุบัติเหตุน่ะ”
“แล้วมีใคร. . .”
“รถคว่ำแล้วก็ระเบิดน่ะ. . .ไม่มีใครรอด”
อุบัติเหตุรถคว่ำงั้นหรอ ?
คิ้วของผมขมวดเข้าหากันก่อนที่จะผูกกันเป็นปม ผมเสตามองไปที่ทางโต๊ะของโรงพยาบาลที่เพิ่งจากมาเมื่อซักครู่ ก่อนที่จะเห็นแพทย์ท่านหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“อืม.. .นี่ไงๆ”
แทมินใช้นิ้วจิ้มลงไปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขา ก่อนที่จะสะกิดให้ผมดูภาพที่ปรากฏบนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดย่อม
มันเป็นภาพของรถพยาบาลสีขาวสะอาดที่เปื้อนไปด้วยเขม่าควันสีดำสนิท กับควันสีเทาปนสีดำที่พวยพุ่งออกมาพร้อมๆกับไฟเพลิงที่ลุกไหม้. . .ทั่วคัน
“จากการรายงานไม่มีใครรอดชีวิต. . .ศพของคนที่ตายก่อนหน้านี้ซึ่งจัดว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญถูกทำลายไม่เหลือซาก”
ผมกวาดสายตาไล่อ่านข้อความที่พิมพ์อยู่ข้างใต้รูปภาพอย่างจดจ่อ
“. . .”
เหงื่อสีใสผุดขึ้นมาตามไรผมสีดำสนิทของผม ทำไมผมถึงรู้สึกใจไม่ดีเอาซะเลย
มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆ แล้วนะ
“จงอิน”
“หืม ?”
“ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยพวกเราไปซักทีล่ะ ?”
“ไม่รู้สิ. . .”
ผมตอบไปตามตรง ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เท่าที่ผมคิด. . .มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆ แน่นอน
ผมมองไปที่โต๊ะแผนกพยาบาลอย่างไม่ละสายตา นางพยาบาลกำลังช่วยกันนำเลือดที่ได้จากพวกผมเก็บใส่กล่องอย่างดี พร้อมกับหมออีก 2 คนที่กำลังเดินถือกล่อง ๆ นั้นเข้าไปในรถพยาบาลอีกคันที่จอดอยู่หน้าห้าง
ไหนจะตำรวจ ทหาร และหมอที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียดนั่นอีก
ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีว่าตอนนี้ผมควรจะทำยังไง ?
เวลาผ่านไปนานมาก อาจจะซัก 2 หรือ 3 ชั่วโมงได้ที่พวกผมอดอู้อยู่ในห้างแห่งนี้ ได้สูดอากาศแค่เพียงแอร์เย็น ๆ ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
เสียงของผู้คนเริ่มดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะลุกขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“นี่เมื่อไหร่พวกคุณจะปล่อยพวกผมกลับบ้านกลับช่องกันซักที”
“ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณ ตอนนี้ทางเราจำเป็นที่จะต้องขอความกรุณาให้คุณอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ”
ตำรวจหนุ่มเดินเข้ามาพูดกล่อมเกลี่ยให้เขาใจเย็นลง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาซะเลย
“จำเป็นอะไร ? มีอะไรที่มันจำเป็น ? เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”
“ปล่อยพวกเราออกไปจากที่นี่ได้แล้ว !”
ชายคนนั้นเริ่มตะโกนเสียงดังมากขึ้น จนตามมาด้วยเสียงที่เรียกร้องจากคนอื่น ๆ มากขึ้นจนดังกระหึ่มไปทั่ว
“ปล่อยพวกเราออกไป ! ปล่อยพวกเราออกไป !”
เสียงของผู้คนในห้างสรรพสินค้าประสานงานเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อเรียกร้องการปล่อยตัว แต่ผมกับแทมินก็ทำได้เพียงแค่นั่งมองไปเงียบ ๆ เท่านั้น
ในขณะที่ทุกคนกำลังโหวกเหวกโวยวาย สายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับ คนๆนั้น เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ กับผมสีน้ำตาลเข้มที่นั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหลังสุด ผมจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้นจนเจ้าตัวหันกลับมามองผม
“. . .”
ผมหลบสายตานิ่งนั่น ก่อนที่จะกลับไปให้ความสนใจกับสิ่งเดิมต่อ ผู้คนมากมายกำลังตะโกนประท้วงเพื่อเรียกร้องการปลดปล่อยของพวกเขา
‘ปัง !’
“กรี๊ดดดดดดดดดดด !”
เสียงปืนดังสนั่นขึ้น ตามมาด้วยเสียงตื่นตระหนก เมื่อทหารนายหนึ่งยกปืนขึ้นมา ก่อนที่จะยิงมันขึ้นฟ้า จนเพดานของห้างถูกฝังด้วยกระสุน น่าจะ 9 มม.ได้มั้ง ?
“หุบปากแล้วนั่งเงียบ ๆ ถ้าใครขัดขืนอีกกระสุนอีกนัดนี้อาจจะไปฝังที่กะโหลกของพวกคุณไม่คนใดก็คนหนึ่ง !”
สถานการณ์กลับมาเงียบสงบอย่างง่ายดาย ผู้คนจากที่โหวกเหวกโวยวายกลับนั่งกันตัวสั่นด้วยความกลัวและความไม่ปลอดภัย แทมินขยับเข้ามานั่งใกล้ผมมากขึ้น ผมเอื้อมมือไปโอบไหล่ ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้เขา
“ไม่เป็นไร ๆ เราจะต้องไม่เป็นอะไร”
“อื้ม. . .”
“ยอโบเซโย. . .”
“หรอ. . .”
“รับทราบ”
คุณหมอท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะพยาบาลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย ผมสังเกตเห็นสีหน้ากับแววตาที่สั่นไหวของเขา มือของเขาก็สั่น ดูเหมือนว่าจะเป็นการติดต่อกลับมาของโรงพยาบาล. . .
ทันใดนั้นก็มีแม่ลูกคู่หนึ่งลุกขึ้นและวิ่งตรงไปที่โต๊ะแผนกพยาบาล เธอจูงมือลูกชายที่ตอนนี้เดินเหมือนคนจะหมดเรี่ยวแรง ใบหน้าขาวใสของหนูน้อยก็ระเรื่อไปด้วยสีแดง เธอพูดกับพยาบาลเสียงดังไม่มากพอที่ผมจะได้ยิน แต่ดูจากท่าทางของเธอที่เอามืออังหน้าผากลูกน้อย ผมก็พอจะเดาได้ว่า
ลูกของเธอน่าจะไข้ขึ้น
พยาบาลพยักหน้า ก่อนที่จะอุ้มหนูน้อยไปวัดไข้และตรวจโรคตามขั้นตอน ผมจ้องมองไปที่ผู้เป็นแม่ดูเหมือนว่าเธอก็น่าจะมีไข้อยู่เหมือนกัน เพราะเธอก็หยิบหน้ากากอนามัยมาใส่เอาไว้
“เฮ้ย ! จะไปไหน !”
เสียงเอะอะดังมาจากทางอีกด้าน เมื่อทหารนายหนึ่งวิ่งเข้าไปจับตัวผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังจะแอบหนีออกจากห้างไว้ได้ทัน
“ขอผมออกไปเถอะน่ะครับ ผมเป็นภูมิแพ้ตอนนี้. . .ผมหายใจไม่ค่อยจะออก. . .”
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน น้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนที่จะไอออกมา เขายกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้
“. .อา”
ทันทีที่เขายกมือออกจากปาก เขาก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อเห็นว่าที่ฝ่ามือของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด ที่ขอบริบฝีปากก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเหมือนกัน
อะ. . .อะไร ?
“นายทหารคิม ปล่อยผู้ชายคนนั้น !”
นายทหารที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าเดินเข้าไปทางผู้ชายกับทหารนายนั้น ออกคำสั่งให้ลูกน้องของตัวเองถอยห่างผู้ชายคนนั้น พลางหยิบปืนที่เหน็บที่เอวขึ้นมา
“ค. .คุณจะ. . อย. . .อย่า. .”
‘ปัง !’
เขาจัดการยิงผู้ชายคนนั้นเข้าที่ศีรษะอย่างแม่นยำ ไม่มีการชั่งใจ และไม่มีการลังเล ผู้ชายคนนั้นล้มลง ก่อนที่เลือดสีสดจะไหลออกมาจากศีรษะ
ผู้คนในห้างต่างตื่นตระหนก และดูเหมือนว่ากำลังจะแตกตื่น
“น. . .นั่นคุณทำบ้าอะไรน่ะ !?”
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งลุกขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
‘ปัง !’
กระสุนพุ่งเข้าศีรษะของผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เธอจะล้มลงอีกเช่นกัน แต่คราวนี้กระสุนมันมาจากนายตำรวจอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ
แทมินจับมือผมแน่น เหงื่อสีใสไหลอยู่ตามฝ่ามือที่เย็นเฉียบของผม ปากของผมสั่นอย่างห้ามไม่ได้
คนที่ติดอยู่ในห้างไม่ต่างจากผมเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดและบางคนเริ่มร้องไห้
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ?
“แม่ !”
เสียงใสของเด็กน้อยดังขึ้น ผมรีบหันไปทางต้นเสียงทันที ก่อนที่จะเห็นแม่ของเด็กผู้ชายกำลังถูกฉีดยาอะไรบางอย่างเข้าที่ทางท้ายทอย ก่อนที่ผู้เป็นแม่คนนั้นจะล้มลงไปนอนสลบเหมือด ตามมาด้วยบุรุษพยาบาลที่อุ้มเธอขึ้นบนเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็กน้อยคนนั้นร้องไห้ออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้นเมื่อพยาบาลอีกคนนำเข็มฉีดยาอีกเข็มฉีดเข้าไปที่ท้ายทอยของเขาเช่นกัน
“จงอินฉันกลัว”
แทมินพูดเสียงสั่นกระชับฝ่ามือของผมกับเขาให้แน่นขึ้น ตอนนี้ความคิดในหัวของผมมันตีกันมั่วไปหมด แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมามีแต่เพียงความว่างเปล่าและคำถามเดิมๆเท่านั้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !
‘ปัง !’
เสียงปืนดังอีกครั้ง เมื่อหัวหน้าทหารหยิบโทรโข่งขึ้น แล้วจัดการยิงปืนขึ้นข้างบนให้ทุกคนเงียบ
เขากลืนน้ำลายลงคือ ก่อนที่จะหยิบโทรโข่งขึ้นมาปรับเสียงให้ดังที่สุด แล้วเริ่มพูด
“ตอนนี้ทางรัฐบาลได้สั่งให้ทางเราจัดการกักบริเวณพวกคุณไว้ที่นี่ก่อนและยังไม่มีกำหนดปล่อย.. .ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าคนที่ถูกทำร้ายจากเหตุการณ์เมื่อเช้าไม่ว่าจะด้วยการกัด ข่วน หรือทำอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ต้องเลือดตกยางออกถือว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ”
ต. . .ติดเชื้อหรอ ?
“ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเชื้ออะไร แต่คาดว่าสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการหายใจ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องขอกักบริเวณทุกคนที่อยู่ ณ ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย”
“และผู้ที่เริ่มออกอาการไข้ขึ้น ตัวร้อน หรืออาการอื่นๆนอกเหนือจากนี้ จะต้องถูกทำการ. . .
.
.
.
กำจัด”
“และไม่ว่าผู้ใดที่กระทำการขัดขืนต่อคำสั่งรัฐก็จะถูกกำจัดทิ้งเช่นเดียวกัน”
บ้าหน่า. . .
“และล่าสุดที่เราได้รับการติดต่อกลับจากทางโรงพยาบาลทีมงานแพทย์ที่เก่งที่สุดในตอนนี้ได้ทำการสุ่มเลือดของพวกคุณคนหนึ่งในที่นี้ไปตรวจ และพบว่าเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมถึงเกล็ดเลือดเริ่มมีอาการผิดปกติจากเดิม จึงขอวินิจฉัยในเบื้องต้นว่าอาจติดเชื้อ
ซึ่งเลือดของผู้ที่ได้ทำการสุ่มตรวจนั่นก็คือเลือดของ. . .
.
.
.
.
.
คุณลี แทมิน”
ม. . .ไม่จริง. . .เรื่องแบบนี้มันเฮงซวยสิ้นดี. . .
ขอบคุณธีมสวย ๆ จาก △ C R A Z E ˊ
พาร์ทสองของจงอิน ตอนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มันก็มี #เอ๊ะยังไง
หยุดวันวิสาชบูชาอย่าลืมไปทำบุญกันนะชาวพุทธ
คอมเม้นเพิ่มเติม ไปพรั่น ไปเวิ่นในทวิต ติดแท็ก #อวออล นะจะไปส่อง
จะซุ่มยิงหน้าสะบัด #ไม่ใช่ละ =__=;
ความคิดเห็น