ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) AWAKE & ALIVE.

    ลำดับตอนที่ #12 : 11 CHANGE | Mystery of number 7 (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.69K
      4
      24 พ.ค. 56

    DEAD,ALIVE or UNDEAD ?

    JUST CHOOSE

    11 | อาถรรพ์เลข 7 (2)



    *เนื้อหาของตอนนี้ได้มาอย่างพรั่น 
    ผู้อ่านโปรดค่อยๆทำความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นอาจสัปดนได้




























    “ท่านต่อไปเชิญเลยค่ะ”

    เสียงของนางพยาบาลดังขึ้น แทมินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม หันมามองผมอย่างหวาดระแวงเล็กน้อย ผมพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูด

    “ไฟท์ติ้ง”

    เขายิ้ม ก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะของโรงพยาบาลอย่างว่าง่าย

     

    ผมลอบถอนหายใจเล็กน้อย สิ่งที่ผมเห็นเมื่อครู่ที่ผ่านมาผมเพียงแค่หวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความอุปทานหรือตาพร่าของผม

    หลายอย่างวนเวียนตีกันในหัวของผมไปหมด. . .

     

    “คิดอะไรอยู่หรอครับ ?”

    เสียงที่ผมไม่คุ้นเคยดังขึ้นกระทบหู ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ผม ผมไม่เคยเจอเขามาก่อน. . .ผู้ชายร่างสันทัดกับเสื้อเชิ้ตสีดำไม่สิ...เขาใส่ชุดดำทั้งตัวเลย แบบนี้น่าจะถูกกว่า

    “ป. . .เปล่านี่ครับ”

    “หรอ”

    ผมปฏิเสธเขาไป แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาเป็นคำสั้น ๆ แค่เพียงพยางค์เดียวเท่านั้น เขาเอียงคอพร้อมกับจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น

     

    “แล้วคุณ ?”

    “ผมคิดครับ”

    “ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นแค่คดีฆาตรกรรมธรรมดาที่มีทั้งพยานและหลักฐานครบทุกอย่าง แต่ผมสงสัยว่าทำไมตำรวจถึงต้องกักกันพวกเราไว้ในที่หน้าอดอู้แบบนี้ คุณไม่สงสัยบ้างหรอครับ ?”

    “. . .”

    “แถมยังเรียกให้ไปตรวจเลือดอีกต่างหาก ห้ามนักข่าวมาทำข่าวตามหน้าที่อีกด้วย แล้วไหนจะทหารอีก. . .ไม่สิ ผมว่าตอนนี้รัฐบาลน่าจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ได้นะ”

    เขายกยิ้มมุมปาก ทำเอาผมขนลุกซู่

    หมายความว่าไง สิ่งที่เขาพูด. . .คืออะไรกันแน่ ?

     

    “อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิครับ มันเป็นแค่ความคิดของผมเฉย ๆ น่ะครับ อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย”

    พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูห่วงใย แต่ขอโทษ. . .มันทำให้ผมรู้สึกแย่ลงมากกว่าเดิม

     

    “. . .”

    “ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ ผมหวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก”

    เขาลุกขึ้นจัดเสื้อเชิ้ตของตนเองให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะเอ่ยลา

    “ครับ. . .”

    ผมคิม จงแด,ยินดีที่ได้รู้จักครับ

    “คิม จงอินครับ,ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”

    ผมลุกขึ้น เมื่อเขา คิม จงแดเอื้อมมือมาอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ผมจะเชคแฮนด์กับเขาพร้อมกับเอ่ยแนะนำตัว

    เขาส่งยิ้มกลับมาให้ผม ก่อนที่จะเดินเอามือล้วงกระเป๋าจากไป เพียงแค่ผมเผลอไปครู่เดียวเขาก็หายไปแล้ว

     

    “เชิญท่านต่อไปค่ะ”

    เสียงเรียกของนางพยาบาลทำผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นแล้วเดินสวนกับแทมิน

    “เป็นไงบ้าง?”

    “เจ็บนิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

    คนตัวเล็กยิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนตัวผมก็มุ่งหน้าไปที่โต๊ะสีขาวสะอาดตาที่กระจัดกระจายด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ผมไม่ค่อยจะรู้จักซักเท่าไหร่

     

    “ขอทราบชื่อด้วยค่ะ”

    “คิม จงอินครับ”

    นางพยาบาลท่านหนึ่งถามชื่อผมพร้อมกับจดมันลงในใบเอกสาร ส่วนนางพยาบาลอีกท่านน้ำเส้นที่เหมือนยางมารัดที่เหนือข้อพับ พร้อมกับเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดที่บริเวณข้อพับของผมอย่างเบามือ

     

    “เจ็บนิดหน่อยนะคะ”

    เธอพูดพร้อมกับเอาเข็มขนาดใหญ่มากดลึกลงไปที่ข้อพับของผม ความรู้สึกเจ็บทำเอาผมถึงกับจิ๊ปากอย่างบังคับไม่ได้ ก่อนที่นางพยาบาลท่านนั้นจะใช้เข็มดูดเลือดสีแดงสดของผมออกมา ใช้ผ้าก็อตแปะที่บริเวณนั้นพร้อมกับนำสก็อตเทปที่ใช้ทางการแพทย์มาแปะซ้ำอีกรอบ

     

    “เสร็จแล้วค่ะ”

    “ครับ”

    ผมชักมือกลับ ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินกลับไปหาแทมินที่นั่งรออยู่ที่เดิม

     

    “อันยองครับพี่มินโฮ. . .”

    ดูเหมือนว่าแทมินกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับลูกพี่ลูกน้องของเขา ที่ชื่อมินโฮ. . .

    “ผมปลอดภัยดีครับ ไม่ต้องเป็นห่วง. .”

     

    “อ. . .อะไรนะครับ”

     

    “. . .”

    “ครับ ๆ ไม่ต้องห่วงนะครับ ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าเดี๋ยวผมจะกลับไปหานะ

    แทมินจบบทสนทนาไว้แค่นั้น ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ผมนิด ๆ

     

    “มีอะไรรึเปล่า ?”

    “อ๋อ. . .พี่มินโฮโทรมาน่ะ,เขาถามว่าตอนนี้ยังปลอดภัยดีอยู่รึเปล่า”

    “. . .”

    “พี่เขาเห็นข่าวด่วนในทีวีน่ะเลยรีบโทรมาเช็ค”

    “ข่าวด่วน ?”

    “อื้อ. . .ข่าวเขารายงานว่า รถพยาบาลที่เดินทางจากที่นี่ไปโรงพยาบาลประสบอุบัติเหตุน่ะ”

    “แล้วมีใคร. . .”

    “รถคว่ำแล้วก็ระเบิดน่ะ. . .ไม่มีใครรอด”

     

    อุบัติเหตุรถคว่ำงั้นหรอ ?

    คิ้วของผมขมวดเข้าหากันก่อนที่จะผูกกันเป็นปม ผมเสตามองไปที่ทางโต๊ะของโรงพยาบาลที่เพิ่งจากมาเมื่อซักครู่ ก่อนที่จะเห็นแพทย์ท่านหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

     

    “อืม.. .นี่ไงๆ”

    แทมินใช้นิ้วจิ้มลงไปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขา ก่อนที่จะสะกิดให้ผมดูภาพที่ปรากฏบนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดย่อม

    มันเป็นภาพของรถพยาบาลสีขาวสะอาดที่เปื้อนไปด้วยเขม่าควันสีดำสนิท กับควันสีเทาปนสีดำที่พวยพุ่งออกมาพร้อมๆกับไฟเพลิงที่ลุกไหม้. . .ทั่วคัน

     

    “จากการรายงานไม่มีใครรอดชีวิต. . .ศพของคนที่ตายก่อนหน้านี้ซึ่งจัดว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญถูกทำลายไม่เหลือซาก”

    ผมกวาดสายตาไล่อ่านข้อความที่พิมพ์อยู่ข้างใต้รูปภาพอย่างจดจ่อ

     

    “. . .”

    เหงื่อสีใสผุดขึ้นมาตามไรผมสีดำสนิทของผม ทำไมผมถึงรู้สึกใจไม่ดีเอาซะเลย

     

    มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆ แล้วนะ

     

    “จงอิน”

    “หืม ?”

    “ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยพวกเราไปซักทีล่ะ ?”

    “ไม่รู้สิ. . .”

    ผมตอบไปตามตรง ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เท่าที่ผมคิด. . .มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆ แน่นอน

    ผมมองไปที่โต๊ะแผนกพยาบาลอย่างไม่ละสายตา นางพยาบาลกำลังช่วยกันนำเลือดที่ได้จากพวกผมเก็บใส่กล่องอย่างดี พร้อมกับหมออีก 2 คนที่กำลังเดินถือกล่อง ๆ นั้นเข้าไปในรถพยาบาลอีกคันที่จอดอยู่หน้าห้าง

    ไหนจะตำรวจ ทหาร และหมอที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียดนั่นอีก

    ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีว่าตอนนี้ผมควรจะทำยังไง ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปนานมาก อาจจะซัก 2 หรือ 3 ชั่วโมงได้ที่พวกผมอดอู้อยู่ในห้างแห่งนี้ ได้สูดอากาศแค่เพียงแอร์เย็น ๆ ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น

    เสียงของผู้คนเริ่มดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะลุกขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

    “นี่เมื่อไหร่พวกคุณจะปล่อยพวกผมกลับบ้านกลับช่องกันซักที”

    “ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณ ตอนนี้ทางเราจำเป็นที่จะต้องขอความกรุณาให้คุณอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ”

    ตำรวจหนุ่มเดินเข้ามาพูดกล่อมเกลี่ยให้เขาใจเย็นลง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาซะเลย

    “จำเป็นอะไร ? มีอะไรที่มันจำเป็น ? เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”

    “ปล่อยพวกเราออกไปจากที่นี่ได้แล้ว !

    ชายคนนั้นเริ่มตะโกนเสียงดังมากขึ้น จนตามมาด้วยเสียงที่เรียกร้องจากคนอื่น ๆ มากขึ้นจนดังกระหึ่มไปทั่ว

     

    “ปล่อยพวกเราออกไป ! ปล่อยพวกเราออกไป !

    เสียงของผู้คนในห้างสรรพสินค้าประสานงานเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อเรียกร้องการปล่อยตัว แต่ผมกับแทมินก็ทำได้เพียงแค่นั่งมองไปเงียบ ๆ เท่านั้น

    ในขณะที่ทุกคนกำลังโหวกเหวกโวยวาย สายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับ คนๆนั้น เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ กับผมสีน้ำตาลเข้มที่นั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหลังสุด ผมจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้นจนเจ้าตัวหันกลับมามองผม

     

    “. . .”

    ผมหลบสายตานิ่งนั่น ก่อนที่จะกลับไปให้ความสนใจกับสิ่งเดิมต่อ ผู้คนมากมายกำลังตะโกนประท้วงเพื่อเรียกร้องการปลดปล่อยของพวกเขา

     

    ปัง !’

    “กรี๊ดดดดดดดดดดด !

    เสียงปืนดังสนั่นขึ้น ตามมาด้วยเสียงตื่นตระหนก เมื่อทหารนายหนึ่งยกปืนขึ้นมา ก่อนที่จะยิงมันขึ้นฟ้า จนเพดานของห้างถูกฝังด้วยกระสุน น่าจะ 9 มม.ได้มั้ง ?

     

    “หุบปากแล้วนั่งเงียบ ๆ ถ้าใครขัดขืนอีกกระสุนอีกนัดนี้อาจจะไปฝังที่กะโหลกของพวกคุณไม่คนใดก็คนหนึ่ง !

    สถานการณ์กลับมาเงียบสงบอย่างง่ายดาย ผู้คนจากที่โหวกเหวกโวยวายกลับนั่งกันตัวสั่นด้วยความกลัวและความไม่ปลอดภัย แทมินขยับเข้ามานั่งใกล้ผมมากขึ้น ผมเอื้อมมือไปโอบไหล่ ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้เขา

     

    “ไม่เป็นไร ๆ เราจะต้องไม่เป็นอะไร”

    “อื้ม. . .”

     

     

     

    “ยอโบเซโย. . .”

     

    “หรอ. . .”

     

     

    “รับทราบ”

    คุณหมอท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะพยาบาลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย ผมสังเกตเห็นสีหน้ากับแววตาที่สั่นไหวของเขา มือของเขาก็สั่น ดูเหมือนว่าจะเป็นการติดต่อกลับมาของโรงพยาบาล. . .

    ทันใดนั้นก็มีแม่ลูกคู่หนึ่งลุกขึ้นและวิ่งตรงไปที่โต๊ะแผนกพยาบาล เธอจูงมือลูกชายที่ตอนนี้เดินเหมือนคนจะหมดเรี่ยวแรง ใบหน้าขาวใสของหนูน้อยก็ระเรื่อไปด้วยสีแดง เธอพูดกับพยาบาลเสียงดังไม่มากพอที่ผมจะได้ยิน แต่ดูจากท่าทางของเธอที่เอามืออังหน้าผากลูกน้อย ผมก็พอจะเดาได้ว่า

    ลูกของเธอน่าจะไข้ขึ้น

     

    พยาบาลพยักหน้า ก่อนที่จะอุ้มหนูน้อยไปวัดไข้และตรวจโรคตามขั้นตอน ผมจ้องมองไปที่ผู้เป็นแม่ดูเหมือนว่าเธอก็น่าจะมีไข้อยู่เหมือนกัน เพราะเธอก็หยิบหน้ากากอนามัยมาใส่เอาไว้

     

    “เฮ้ย ! จะไปไหน !

    เสียงเอะอะดังมาจากทางอีกด้าน เมื่อทหารนายหนึ่งวิ่งเข้าไปจับตัวผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังจะแอบหนีออกจากห้างไว้ได้ทัน

     

    “ขอผมออกไปเถอะน่ะครับ ผมเป็นภูมิแพ้ตอนนี้. . .ผมหายใจไม่ค่อยจะออก. . .”

    ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน น้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนที่จะไอออกมา เขายกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้

    “. .อา”

    ทันทีที่เขายกมือออกจากปาก เขาก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อเห็นว่าที่ฝ่ามือของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด ที่ขอบริบฝีปากก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเหมือนกัน

    อะ. . .อะไร ?

     

    “นายทหารคิม ปล่อยผู้ชายคนนั้น !

    นายทหารที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าเดินเข้าไปทางผู้ชายกับทหารนายนั้น ออกคำสั่งให้ลูกน้องของตัวเองถอยห่างผู้ชายคนนั้น พลางหยิบปืนที่เหน็บที่เอวขึ้นมา

     

    “ค. .คุณจะ. . อย. . .อย่า. .”

    ปัง !’

    เขาจัดการยิงผู้ชายคนนั้นเข้าที่ศีรษะอย่างแม่นยำ ไม่มีการชั่งใจ และไม่มีการลังเล ผู้ชายคนนั้นล้มลง ก่อนที่เลือดสีสดจะไหลออกมาจากศีรษะ

     

    ผู้คนในห้างต่างตื่นตระหนก และดูเหมือนว่ากำลังจะแตกตื่น

    “น. . .นั่นคุณทำบ้าอะไรน่ะ !?

    ผู้หญิงอีกคนหนึ่งลุกขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

     

    ปัง !’

    กระสุนพุ่งเข้าศีรษะของผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เธอจะล้มลงอีกเช่นกัน แต่คราวนี้กระสุนมันมาจากนายตำรวจอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

    แทมินจับมือผมแน่น เหงื่อสีใสไหลอยู่ตามฝ่ามือที่เย็นเฉียบของผม ปากของผมสั่นอย่างห้ามไม่ได้

    คนที่ติดอยู่ในห้างไม่ต่างจากผมเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดและบางคนเริ่มร้องไห้

     

    นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ?

     

    “แม่ !

    เสียงใสของเด็กน้อยดังขึ้น ผมรีบหันไปทางต้นเสียงทันที ก่อนที่จะเห็นแม่ของเด็กผู้ชายกำลังถูกฉีดยาอะไรบางอย่างเข้าที่ทางท้ายทอย ก่อนที่ผู้เป็นแม่คนนั้นจะล้มลงไปนอนสลบเหมือด ตามมาด้วยบุรุษพยาบาลที่อุ้มเธอขึ้นบนเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็กน้อยคนนั้นร้องไห้ออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้นเมื่อพยาบาลอีกคนนำเข็มฉีดยาอีกเข็มฉีดเข้าไปที่ท้ายทอยของเขาเช่นกัน

     

    “จงอินฉันกลัว”

    แทมินพูดเสียงสั่นกระชับฝ่ามือของผมกับเขาให้แน่นขึ้น ตอนนี้ความคิดในหัวของผมมันตีกันมั่วไปหมด แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมามีแต่เพียงความว่างเปล่าและคำถามเดิมๆเท่านั้น

    นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !

     

    ปัง !’

    เสียงปืนดังอีกครั้ง เมื่อหัวหน้าทหารหยิบโทรโข่งขึ้น แล้วจัดการยิงปืนขึ้นข้างบนให้ทุกคนเงียบ

    เขากลืนน้ำลายลงคือ ก่อนที่จะหยิบโทรโข่งขึ้นมาปรับเสียงให้ดังที่สุด แล้วเริ่มพูด

     

    “ตอนนี้ทางรัฐบาลได้สั่งให้ทางเราจัดการกักบริเวณพวกคุณไว้ที่นี่ก่อนและยังไม่มีกำหนดปล่อย.. .ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าคนที่ถูกทำร้ายจากเหตุการณ์เมื่อเช้าไม่ว่าจะด้วยการกัด ข่วน หรือทำอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ต้องเลือดตกยางออกถือว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ

     

    ต. . .ติดเชื้อหรอ ?

     

    “ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเชื้ออะไร แต่คาดว่าสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการหายใจ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องขอกักบริเวณทุกคนที่อยู่ ณ ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย”

     

    “และผู้ที่เริ่มออกอาการไข้ขึ้น ตัวร้อน หรืออาการอื่นๆนอกเหนือจากนี้ จะต้องถูกทำการ. . .

    .

    .

    .

    กำจัด”

     

    “และไม่ว่าผู้ใดที่กระทำการขัดขืนต่อคำสั่งรัฐก็จะถูกกำจัดทิ้งเช่นเดียวกัน”

     

    บ้าหน่า. . .

     

    “และล่าสุดที่เราได้รับการติดต่อกลับจากทางโรงพยาบาลทีมงานแพทย์ที่เก่งที่สุดในตอนนี้ได้ทำการสุ่มเลือดของพวกคุณคนหนึ่งในที่นี้ไปตรวจ และพบว่าเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมถึงเกล็ดเลือดเริ่มมีอาการผิดปกติจากเดิม จึงขอวินิจฉัยในเบื้องต้นว่าอาจติดเชื้อ

    ซึ่งเลือดของผู้ที่ได้ทำการสุ่มตรวจนั่นก็คือเลือดของ. . .

    .

    .

    .

    .

    .

    คุณลี แทมิน

     

    ม. . .ไม่จริง. . .เรื่องแบบนี้มันเฮงซวยสิ้นดี. . .






     

    LOADING. . .
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ขอบคุณธีมสวย ๆ จาก △ C R A Z E  ˊ
    พาร์ทสองของจงอิน ตอนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มันก็มี #เอ๊ะยังไง
    รีบปั่นสุดใจ การบ้านมหาศาลเหลือเกิน
    หยุดวันวิสาชบูชาอย่าลืมไปทำบุญกันนะชาวพุทธ
    คอมเม้นเพิ่มเติม ไปพรั่น ไปเวิ่นในทวิต ติดแท็ก #อวออล นะจะไปส่อง
    จะซุ่มยิงหน้าสะบัด #ไม่ใช่ละ =__=;
    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×