[Block b] One Movie on Christmas (JaehyoxBbomb)
หนึ่งปีผ่านไป กับ วันคริสมาสต์ที่หวนกลับมาอีกครั้ง แต่ปีนี้เก้าอี้ด้านข้างนั้นไม่มีนายอยู่ข้างกาย.....
ผู้เข้าชมรวม
584
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
หนึ่งปีผ่านไป กับ วันคริสมาสต์ที่หวนกลับมาอีกครั้ง แต่ปีนี้เก้าอี้ด้านข้างนั้นไม่มีนายอยู่ข้างกาย.....
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title : One Movie on Christmas
Status: SF
Fandom: Block B
Pairing: Derpbomb (Jaehyo x Bbomb)
Author: awika
Rating: G
Author’s Note:…. ฟิคช่วงวูบบบบบ คริสมาสต์ฟังเพลงเศร้าๆ ตู้ม เป็นฟิคเศร้าเลย
*ฟังเพลงนี้ไปด้วยนะคะ*
++++++++++++++++++++++++++++
ผมมาทำอะไรอยู่ที่นี่?
วันคริสมาสต์ หิมะสีขาว อากาศอันหนาวเย็น และความสวยงามของไฟประดับทั้งหลาย การนั่งอยู่ในสถานที่อบอุ่นคงเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาหลังจากชมความสวยงามของวันคริสมาสต์
นั้นคงเป็นเหตุผลที่ผมมาอยู่ที่นี่สินะ โรงหนังซึ่งไม่ได้ไกลจากหอพักของผมมากนัก เดินมาแค่สิบห้านาทีเท่านั้นเอง แต่สิบห้านาทีในอากาศอันหนาวเน็บ ผมคิดว่าคนเราสามารถแข็งตายได้ทีเดียว ถ้ายังคงอยู่ข้างนอกนานกว่านี้
หิมะกำลังตกลงมาอย่างปะปราย ถึงแม้มันดูสวยงามใต้ท้องฟ้าสีดำสนิท แต่นั้นไม่ใช่สำหรับผม ผมรีบเหวี่ยงประตูโรงหนังเดินเข้ามารวดเร็วเพื่อสัมผัสความอบอุ่นของฮีทเตอร์ซึ่งทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในโรงหนัง ควรให้รางวัลกับผู้ผลิตสิ่งนี้จริงๆ
แม้คืนนี้จะเป็นคืนวันคริสมาสต์ แต่ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งนั้นทำให้มีคนไม่มากเท่าไร และนั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผมเช่นกัน
ภายในโรงหนังขนาดใหญ่ ผ้าพันคอสีส้มซึ่งก่อนหน้านี้ผมพันไว้ปิดส่วนล่างของหน้าผมไว้ทั้งหมด พับอย่างเรียบร้อยอยู่บนตักผม วางทับด้วยหมวกไหมพรมสีดำ
ผมสีม่วงจางๆซึ่งอีกไม่นานคงได้เปลี่ยนสีอีกครั้งและใบหน้าหล่อเหลาอันแสนสำคัญของผมออกมาโชว์เด่นซึ่งคนที่เดินผ่านเข้ามาในโรงหนังสามารถเห็นได้ชัด แต่อีกไม่นานความมืดของโรงหนังคงช่วยบังสิ่งเหล่าไว้ บังชื่อของ “อันแจฮโย” แห่งวงบล็อคบี เป็นเพียงแค่ลูกค้าคนหนึ่งซึ่งมาใช้เวลาดูหนังเท่านั้น
แถวกลางซึ่งเป็นแถวที่กว้างที่สุดในโรงหนังเพราะติดกับทางเดิน เก้าอี้ตรงกลางถูกจับจองด้วยตั๋วในมือผมสองใบ...
สองใบ....บ้าจริงผมซื้อมันด้วยความเคยชินอีกแล้ว….
แสงสว่างในโรงหนังถูกดับให้มืดลง ก่อนแสงสว่างจากจอด้านหน้าสว่างขึ้นมา ทำให้ผมละสายตาจากตั๋วหนังในมือ เก็บตั๋วลงกระเป๋ากางเกง หลับตาสักครู่ตั้งสมาธิเพื่อตั้งใจดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้คุ้มค่ากับเงินที่ผมเสียไป
++++++++++++++++++++++++++++
แต่...
ยิ่งสิ่งอยู่ในหน้าจอตรงหน้าผมเคลื่อนไหวไปมากเท่า เสียงที่ผ่านเข้ามาในหูผมเยอะมาเพียงใด ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้สนใจสิ่งตรงหน้าแม้แต่นิดเดียว ความคิดในหัวผมยังล่องลอย ความคิดในหัวผมยังนึกถึงแต่ผู้ชายอีกคนนึง...
หวนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยหลังจากแสดงที่ Lotte World แต่ความพยายามและลูกตื้อของผมสามารถลากผู้ชายคนนี้มานั่งอยู่ข้างๆผมในโรงหนังตอนนั้นได้สำเร็จ
เขาทำหน้านิ่งเป็นปกติ แต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ กอดอก สายตามองตรงไปแค่ข้างหน้าทำให้ผมเหงื่อแตกโรงหนังของคืนอันหนาวเน็บซึ่งไม่ต่างจากวันนี้เลย ผมหนีออกไปตั้งรับนอกโรงหนัง ซื้อของกินเล็กน้อย ป๊อปคอร์นหนึ่งถุงใหญ่กับโค๊กอีกหนึ่งแก้วน่าจะพอ ถึงรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบกินอะไรหลังเที่ยงคืนแต่วันนั้นทั้งวันเราแทบไม่ได้กินอะไรกันเลย
ผมให้กำลังใจตัวเองอีกครั้งก่อนเดินกลับในโรงหนัง เขานั่งอยู่น่าท่าเดิม สายตาแอบเหลือบมองผม ผมกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึกใหญ่ จนสายตาของเขาเห็นป๊อปคอร์นแค่นั้นล่ะ สายตาเป็นประกายขึ้นมาทันที รีบใช้มือขวาคว้าไปก่อนผมได้ทันตั้งตัวและกินมันทั้งๆที่นั่งอยู่หน้าท่าเดิมเหมือนเมื่อกี้ สายตามมองตรงไปข้างหน้า แก้มบวมด้วยป๊อปคอร์นอย่างกับหนูแฮมสเตอร์เก็บตุนอาหารไว้ข้างแก้ม ทำผมหลุดขำออกมาอย่างไม่รู้ตัว
คืนวันนั้นผมพลาดมากกับการเลือกดูหนังสยองขวัญ ขนาดผมเตรียมตัวทำการบ้านมาด้วยการอ่านคำวิจารณ์หนังเรื่องนี้ทางอินเตอร์เน็ต มั่นใจอย่างแน่นอน 100%ว่าผีจะโผล่มาตอนไหน จะทำได้ตัวเท่หน้านิ่งๆ ค่อยปลอบคนข้างที่โผกอดเข้ามาเพราะตกใจ ที่ไหนได้กลายเป็นว่าแค่ผีออกมาครั้งแรก ผมตกใจสติหลุด ได้แต่เกาะไหล่ จับมือเขา ร้องเอะอะโวยวาย และตกใจทุกครั้งที่ผีโผล่มาเรื่อยๆ ผิดกับคนข้างกลับนิ่ง ไม่มีปฎิกิริยาอะไรเลย ได้แต่หันมามองผมบ้างและกลับไปสนใจจอข้างหน้าต่อไป
พอหนังจบ ผมกลับรู้สึกเหนื่อยกว่าตอนที่แสดงเสร็จในงานวันนี้ทั้งวันซะอีก
ให้ตายสิ....เสียฟอร์มชะมัด
ดวงตาสองชั้นโตของคนด้านข้างมองผม ขณะใช้มือปัดผมสีน้ำตาลให้เข้าทรง
จ้องผมที่นั่งหอบอยู่บนเก้าอี้ด้านข้างเขา
ก่อนหัวเราะออกมาชุดใหญ่....
ถึงแม้ผมจะชอบเสียงหัวเราะเขามากแค่ไหนก็ตาม แต่หัวเราะขนาดนี้มันเกินไปนะ ผมใช้แรงอันน้อยนิดแต่โวยวายกลับไป แต่นั้นไม่ทำให้เสียงหัวเราะเขาหยุดลงไปด้วยเลย
มือทั้งสองข้างของผมจับหน้าเขาไว้ พยายามดึงแก้มไม่ให้เขาหัวเราะต่อ แต่ไม่สำเร็จ ทั้งเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและลักยิ้มบุ๋มตรงแก้มอวบน้อยๆทั้งสองข้างไม่จางหายไปจากหน้าของเขา
ลักยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ ลักยิ้มที่แฟนคลับทุกคนหลงใหลรวมถึงตัวผม ลักยิ้มที่ผมใช้นิ้วโป้งทั้งสองลูบก่อนที่มันจะบุ๋มลงไปมากกว่าเดิมเมื่อคนตรงหน้าผมส่งยิ้มกว้างมากขึ้น ก่อนเราทั้งสองคนหลุดหัวเราะออกมาด้วยกัน
ภายใต้อากาศติดลบ หิมะอันขาวโพลน เวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเกิดพระอาทิตย์ขึ้น ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างผมในโรงหนังอยู่ในหมวกไหมพรมสีส้มและผ้าพันคอสีดำพันสูงขึ้นมาจนปิดจมูกเดินเคียงคู่ไปกับผมซึ่งสูงกว่าเล็กน้อยใส่หมวกไหมพรมสีดำและผ้าพันคอสีส้มพันทบอยู่รอบคอ ทั้งคู่เดินจับมือกลับหอพัก พร้อมเสียงหัวเราะและคำล้อไม่หยุดจากปฏิกิริยาจากการดูหนังในวันนั้น
สายตาของผมละมาจากจอด้านหน้า
มองเก้าอี้ทางด้านซ้ายมือ
มองเก้าอี้ด้านข้างอย่างล่องลอย
มองเก้าอี้อันว่างเปล่า
มองให้รู้ว่าในวันนี้ตรงนั้นไม่มี “ลีมินฮยอก” แล้ว
ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่มีทั้งรอยยิ้มและลักยิ้มคู่นั้น....
ผมอยากพยายามกลับไปสนใจภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าแต่ทุกสิ่งมันพร่ามัวไปหมด น้ำตาผมไหลอย่างไม่สามารถห้ามได้ มือซ้ายจับราวกันด้านซ้ายราวจะสามารถจับมือของมินฮยอกได้ แต่ไม่มีอะไรนอกจากไม้แข็งบุกกำมะหยี่ไร้ความอบอุ่น
แขนของผมทั้งสองข้างเท้ากับเข่า มือประคองหน้าผาอย่างอ่อนแรง หมวกไหมพรมบนตักผมค่อยๆเปลี่ยนสีเข้มเป็นดวงจากหยดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ริมฝีปากเรียวของผมได้แต่พร่ำเพ้อถึงชื่อลีมินฮยอก พร่ำเพ้อหาความสุข ความอบอุ่น และความรักจากเขา
กลับมาหาผมเถอะลีมินฮยอก....
++++++++++++++++++++++++++++
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ จนผมได้ยินเสียง “คุณครับ ภาพยนตร์จบแล้วนะครับ”
อ่า หนังจบแล้วสินะ ผมดูหนังไม่คุ้มค่าเงินเลยแฮะวันนี้
“ครับ” ผมตอบกลับพนักงานเก็บตั๋ว หลับตาตั้งสติ ปรับอารมณ์ให้กลับมาปกติที่สุด ผมรีบปาดน้ำตาลุกขึ้นเดินไปยังทางออกจากโรงหนัง ไม่ลืมโค้งให้กับพนักงานเก็บตั๋ว แม้เมื่อกี้พึ่งเสียมารยาทจากการไม่มองหน้าเขา แต่ทำไงได้ล่ะผมไม่อยากให้เขาเห็นหน้าโทรมๆและตาบวมๆหลังจากการร้องไห้หรอกนะ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่หล่อเอาซะเลย
ขณะที่เดินไปตามทางเดินของโรงหนัง ผมจับหมวกไหมพรมชุ่มน้ำตาของผม ก่อนตัดสินใจเก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อโค๊ค มันเปียกเกินไปกว่าจะใส่มันอีกครั้ง พันผ้าพันคอรอบคอ กระชับเสื้อโค๊ด ตั้งสติก่อนเปิดประตูโรงหนังเดินออกไปเพื่อสู้กับอากาศภายนอก
หิมะหยุดตกแล้ว แต่อากาศภายนอกยังคงหนาวเน็บ ผมดึงผ้าพันคอขึ้นมาปิดจมูกเดินออกตามถนนอันขาวโพลน
หนาวไปทั่วร่างกาย จนไปถึงหัวใจ อยากรีบกลับไปทำร่างกายให้อบอุ่นในหอพัก อย่างน้อยหัวใจของผมคงไม่หนาวมากกว่านี้ เพราะผมไม่ต้องกลับไปเจอคนที่ทำให้ผมร้องไห้ในโรงหนัง เพราะคืนนี้เขานอนอยู่ที่บ้านจีโฮ บ้านของคนที่ขโมยหัวใจเขาจากผมไป....
เฮ้อ...ผมหายเป็นควันสีขาวออกมา รีบเดินกลับหอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภาวนาอยู่ในใจหวังว่าผ้าห่มเน่าๆและเตียงชั้นหนึ่งของผมช่วยผมหลับสบายและเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝัน
เข้าไปรู้สึกอบอุ่นหัวใจจากจินตนาการที่มีเขาและผมอยู่ด้วยกัน
และได้หวังว่าความฝันนั้นจะกลายเป็นจริงเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา.....
++++++++++++++++++++++++++++++
ค่ะ เป็นมือใหม่กับการแต่งฟิคมากค่ะ แต่ไม่ไหวแล้ว เพราะว่าคู่นี้ไม่ค่อยมีคนชอบ (ต้องบอกว่าแทบไม่มีเลย) กับเหนื่อยกับการรออ่านฟิคภาษาอังกฤษเลยขอนิดนึง ฮ่าๆๆๆๆ
อาจจะสงสารว่าทำไมเรียกคู่เดิร์ปบอมบ์ เมื่อก่อนเราวาดแฟนอาร์ตคู่นี้ลง Tumblr ค่ะ เราเรียกชื่อคู่เราว่าแจฮยอก (แจฮโย+มินฮยอก) แล้วมีคนมาตั้งชื่อให้เป็นคู่เดิร์ปบอมบ์ (Derphyo + Bbomb ต่างประเทศชอบเรียกแจฮโยว่าเดิร์ปฮโยค่ะ) เราก็แบบชอบ ชื่อนี้แปลกดีเลยเรียกตั้งแต่นั้นมาค่ะ ฮ่าๆๆ
เข้าไปเยี่ยมที่บ้านคู่ derpbomb ได้นะคะ http://derpbomb-block.tumblr.com
ผลงานอื่นๆ ของ awika2002 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ awika2002
ความคิดเห็น