ฉันกำลังจะตาย - ฉันกำลังจะตาย นิยาย ฉันกำลังจะตาย : Dek-D.com - Writer

    ฉันกำลังจะตาย

    ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ของคนใกล้ตายอย่างฉัน

    ผู้เข้าชมรวม

    874

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    874

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ธ.ค. 48 / 19:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      คนแรกเขามองเห็นโลกใบนี้สวยงาม เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และการให้อภัย

      คนที่สองเขามองเห็นโลกใบนี้โหดร้าย น่ากลัว เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ

      คุณอยากรู้ไหม??
      ว่าทำไมคนสองคนจึงมองโลกใบเดียวกัน  แตกต่างกันมากมายขนาดนี้

      เพราะโลกเรามีสองด้าน คือด้านกลางวันและกลางคืน
      เมื่อด้านใดหันหน้าเข้าหาแสงตะวัน  อีกด้านหนึ่งก็จะมืดไปโดยปริยาย

      เพราะเหตุนี้มั้ง.. คนสองคนจึงมองโลกแตกต่างกันขนาดนี้
      เพราะแรกยืนอยู่ในมุมที่มีแสงตะวันกำลังสาดส่องลงมา
      ส่วนอีกคนก็กำลังยืนอยู่ในอีกฝั่งซีกโลกที่มีแต่ความมืดปกคลุม

      แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนใดในมุมโลกนี้  คุณก็มีโอกาสจะเจอกับแสงตะวันพอๆกับที่คณมีโอกาสจะเจอกับความมืดนั่นแหละ
      เพราะโลกเราหมุนรอบตัวเอง ..

      ถ้าคืนนี้โลกของคุณมืดมิด โดดเดี่ยวและอ้างว้าง ขอให้คุณนั้นเข้มแข็ง และอดทนสู้กับมัน
      ถึงแม้สองสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ยากและลำบาก

      แต่ถ้าคุณผ่านพ้นมันไปได้   อีกไม่กี่ชม.ข้างหน้าแสงตะวันก็จะโผล่พ้นขอบฟ้ามาทักทายคุณอย่างแน่นอน ขอเพียงแต่ให้คุณเข้มแข็ง และอย่างเพิ่งย่อท้อต่อความอ้างว้างในค่ำคืนที่มืดมิดนั้นก็พอ

      แต่ถ้าวันไหนคุณเจอแสงตะวัน ก็ขอให้คุณเก็บเอาภาพความอบอุ่นภายใต้แสงตะวันเหล่านั้นไว้ให้ดี
      เพราะเมื่อไหร่ที่ความมืดคืบคลานเข้ามา คุณจะได้เก็บเอาภาพความทรงจำของแสงตะวันเหล่านั้นมาเป็นกำลังใจให้คุณรู้สึกอบอุ่นขึ้น

      โลกใบนี้ยุติธรรมเสมอ ตราบใดที่คุณคิดว่าโลกใบนี้ยุติธรรม
      คุณเคยได้ยินไหม??   เวลาแห่งความสุขมันมักจะหมดไปเร็วเสมอ

      ความจริงแล้วมันไม่จริงเลยสักนิด เพราะเวลามันก็เดินของมันไปเรื่อยๆนั้นแหละ อยู่ที่ใจเรา .. ที่จะคิดว่ามันเดินเร็วหรือช้าไปรึเปล่า

      ถ้าสมมุติให้เวลาแห่งความสุขเป็นเวลากลางวัน   และเวลาแห่งความทุกข์เป็นเวลากลางคืน
      สองเวลานี้เกิดกันละช่วง แต่ระยะเวลาการเกิดมันก็นานพอๆกัน

      เวลากลางคืนที่ว่ายาวนานนั้นเป็นเพราะใจคุณไม่ยอมเปิดรับเวลากลางคืนเท่านั้นเอง คุณจึงนั่งคอยนับเวลาถอยหลังอยู่ตลอดว่าเมื่อไหร่จผ่านคืนไปได้เสียที   จึงทำให้ดูเหมือนว่าเวลากลางคืนมันจะยาวนานมากกว่าปกติ

      ลองมีความสุขกับกลางคืนดูบ้าง ลองอยู่ในนั่งอยู่ในความมืด  แล้วนั่งมองความสวยงามของท้องฟ้าดูบ้าง แล้วคุณก็จะรู้ว่าความมืดนั้นมีอะไรสวยงามซ่อนอยู่

      ถ้าคุณเจอแต่กลางวันคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าแสงดาวกับเงาพระจันทร์ตอนกลางคืนนั้นสวยขนาดไหน

      ชีวิตของคนเราต้องมีทุกข์บ้างสุขบ้าง จึงจะเรียกว่าชีวิต
      มีความสุขกับชีวิตที่มีอยู่ แล้วคุณจะมีความสุข

      ฉันไม่เคยมีความสุขกับชีวิตของตัวเองเลย

      ฉันเกิดมาในครอบครัวธรรมดาๆครอบครัวหนึ่ง แต่ฉันก็ไม่เคยมีความพอใจในครอบครัวของฉันเลย  ฉันอยากเกิดมาในครอบครัวของคนมีฐานะ   ฉันอยากจะมีเงินใช้จ่ายเยอะๆ   ฉันอยากเป็นคุณหนู

      ฉันอยากมีชีวิตที่โดดเด่นบ้าง ไม่ใช่ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่มีจุดเด่น ไม่มีพรสวรรค์อะไรเลยสักอย่างแบบนี้
      ฉันแอบอิจฉาคนที่วาดรูปสวย  เขาวาดสวยจนฉันคิดว่ามันมากกว่าภาพวาด  มันทำให้ฉันเห็นจินตนาการของผู้วาดที่สื่อออกมา

      ฉันแอบอิจฉาคนที่เล่นดนตรีเก่ง  เขาเล่นดนตรีเพราะฉันฉันรู้สึกเศร้า  สุข และสนุกไปตามทำนองเพลงที่เขาเล่น
      ฉันแอบอิจฉาคนเรียนเก่ง  เพราะฉันไม่เคยมีโอกาสได้โชว์ตัวหน้าห้องตอนวันประชุมผู้ปกครองในฐานะเด็กเรียนดีเลยสักครั้ง

      ฉันน้อยใจเหมือนกันนะ ว่าทำไมเราถึงไม่เกิดมาเก่งเหมือนกับคนอื่นบ้าง
      ทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ ทำไมนะ ทำไม...

      ฉันลองจินตนาการว่าฉันเก่ง  ฉันดี  ฉันมีพรสวรรค์มากมาย  แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ความฝันลมๆแล้งๆที่ฉันไม่เคยทำได้สักครั้ง

      ฉันลองถามตัวเอง …
      ว่าถ้าฉันเก่งเหมือนคนนั้นคนนี้ฉันจะมีความสุขไหม  
      ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  เพราะฉันยังไม่เคยสัมผัสความรู้สึกนั้น  

      จนมาถึงวันหนึ่งที่ฉันเริ่มรู้สึกหน้ามืดบ่อยๆ หายใจไม่ค่อยคล่อง ทำอะไรก็เหนื่อยไปเสียหมด
      คงจะเป็นความดันต่ำล่ะมั้ง - ฉันคิด

      ฉันจะไปหาหมอตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยไปสักที ผลัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อยๆ พอมารู้อีกครั้งว่าเป็นอะไรก็สายไปเสียแล้ว
      ชีวิตที่ไม่เคยได้ดั่งใจอะไรสักอย่าง เริ่มมีมีความหมายขึ้นมา

      ฉันหลับตาแล้วนึกย้อนไปหาวันคืนเก่าๆที่ฉันเคยเกลียด  เคยเบื่อหน่าย
      ช่วงเวลาเหล่านั้นมันไม่เคยมีความหมายในสายตาฉันเลยใช่ไหม ??

      ฉันเกิดในครอบครัวที่แสนจะธรรมดา  แม้อาจจะขัดสนเงินทองบ้างในบางเวลา  แต่ฉันก็ไม่เคยขาดความอบอุ่นจากครอบครัวของฉันเลย  พ่อแม่ฉันอาจจะไม่ร่ำรวย  พวกเขาทำงานหนักทุกอย่างเพื่อหวังจะสร้างสร้างอนาคตที่ดีให้กับฉัน

      เมื่อฉันต้องการอะไรสักอย่าง  จะไม่มีคำว่าไม่ได้ออกจากปากพ่อและแม่  ..
      จะมีเพียงคำผลัดผ่อน..  เดี๋ยวก่อนนะลูก  รออีกสักนิดนึง  ให้แม่มีเงินก่อนแล้วแม่จะซื้อให้  

      ชีวิตที่ฉันคิดว่ามันธรรมดา  แต่มันมีความพิเศษในสายตาของพ่อและแม่เสมอ
      ภาพวาดที่แสนจะทุเรศ  มองไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันสื่อถึงอะไร  แต่พ่อกับแม่ก็ยังชมว่าวาดได้ดี  

      ฉันคิดว่านั่นเป็นคำปลอบใจ  แต่ความจริงแล้วไม่ใช่  พ่อกับแม่ชมเพราะเขาคิดว่าภาพที่ฉันวาดนั้นมันมีความพิเศษจริงๆเพราะฉันเป็นคนวาด  ไม่ว่าภาพไหนๆก็สวยสู้ภาพที่ฉันวาดด้วยความตั้งใจไม่ได้หรอก

      ในวันประชุมผู้ปกครอง  ..
      ฉันไม่เคยได้มีโอกาสโชว์ตัวหน้าห้องเลยสักครั้ง  ทั้งๆที่ในใจฉันนั้นอยากจะออกไปยืนอยู่ตรงนั้นบ้าง  ฉันอยากให้แม่กับพ่อยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวฉัน  แต่ฉันก็ทำมันไม่ได้เลยสักครั้ง

      ในที่สุดฉันก็ได้ออกไป  แต่ไม่ใช่ในฐานะของคนที่เรียนเก่ง  ฉันได้ออกไปเป็นพิธีกรในวันนั้น  แม่ฉันปรบมือเสียงดัง  ฉันรู้สึกอายเหมือนกันนะที่แม่ฉันออกนอกหน้านอกตาซะขนาดนั้น  ฉันคิดว่าเขาต้องรู้แน่ๆเลยว่าฉันเป็นลูกของใคร  

      พ่อทำงานหนักมาตลอด  เพราะความฝันของพ่อคือการเก็บเงินเอาไว้ให้มากที่สุด  เพื่อที่จะเก็บเงินส่วนนี้ไว้เป็นทุนการศึกษาให้ฉัน  ท่านอยากให้ฉันได้เรียนสูงๆ  

      ส่วนแม่ก็มีความฝันแค่อยากเห็นชุดครุยของฉัน  อยากเห็นฉันประสบความสำเร็จ ทางการศึกษา  แม่บอกอย่างภาคภูมิใจในวันที่ฉันสอบเข้ามาหาลัยได้ว่า  อีกสี่ปี..  แม่ก็จะมีรูปรับปริญญาของหนูติดไว้ตรงฝาผนังบ้านแล้วนะ  

      แม่พูดอย่างภาคภูมิใจ  ทั้งๆที่มหาลัยที่ฉันสอบได้นั้นเป็นมหาลัยที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง  แต่แม่ก็ภาคภูมิใจในตัวฉัน

      แต่วันนี้..  สุขภาพของฉันมาเป็นแบบนี้  ฉันยังไม่รู้เลยว่าชีวิตของฉันจะอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่
      ฉันจะอยู่เห็นร้อยยิ้มแห่งภาคภูมิใจของพ่อกับแม่ไรึเปล่าฉันยังไม่รู้เลย

      ตอนนี้ฉันอยู่แค่ปี1เอง  โอกาสที่ฉันจะได้ใส่ชุดครุยถ่ายรูปกับพ่อและแม่มีน้อยเหลือเกิน

      เมื่อพิมพ์มาถึงบรรทัดนี้น้ำตาฉันก็ไหลลงมาอย่างไม่มีสาเหตุ..
      พ่อกับแม่จะมีความรู้สึกอย่างไร  กับการที่ต้องมองเห็นฉันอาการทรุดลงเรื่อยๆแบบนี้  

      ฉันอยากจะตายไปเสียให้พ้นๆ  ตั้งแต่รู้ว่าฉันเป็นอะไร  เพราะฉันไม่อยากให้พ่อและแม่ต้องมาเจ็บปวดกับการเฝ้ามองฉันตายอย่างช้าๆแบบนี้

      พ่อกับแม่บอกฉันว่าอย่าร้องไห้  ไม่นานฉันก็จะหาย  ฉันจะต้องหาย
      แต่ฉันรู้ว่ามันไม่มีทางหายหรอก  ชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อของฉัน..  ฉันอยากจะมีชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อต่อไป  ฉันยังไม่อยากตาย  ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป  

      ในขณะที่พ่อกับแม่ทำเป็นเข้มแข็งเพื่อให้กำลังใจฉัน  ให้ฉันมีกำลังใจสู้กับโรคร้ายนี้
      พ่อกับแม่ก็แอบไปร้องไห้กันสองคน  ฉันแอบเห็นพวกท่านนั่งร้องไห้  
      ฉันอยากเข้าไปบอกว่าอย่าร้องไห้  อย่าเสียใจ  ฉันยังแข็งแรงดี  ฉันต้องไม่เป็นอะไร  แต่ฉันก็ได้แต่แอบมองอยู่อย่างนั้น  เพราะฉันรู้ตัวเองดีว่าอาการของฉันเป็นอย่างไรในขณะนี้

      พ่อกับแม่จะมีความรู้สึกอย่างไร  หากต้องมากราบศพลูกของตัวเอง  ต้องนั่งฟังพระสวดในงานศพของลูกตัวเอง
      พ่อกับแม่จะต้องร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดแน่ๆเลยฉันรู้  ฉันไม่อยากให้ท่านเสียใจ  ฉันไม่อยากให้ท่านร้องไห้
      ฉันไม่อยากให้ถึงเวลานั้นเลยจริงๆ

      เมื่อถึงยามที่พ่อแม่แก่เฒ่า.. ใครจะดูแลพวกท่าน  
      เมื่อท่านเจ็บป่วย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  แล้วใครจะคอยดูแลพวกท่าน

      ถ้าท่านแก่เฒ่าลง  แล้วเห็นครอบครัวคนอื่นเขาจูงลูกจูงหลานมาเยี่ยมกัน  ท่านจะรู้สึกอย่างไร  ในเมื่อท่านไม่มีลูก ไม่มีหลาน ไม่มีใครสักคน  แล้วท่านจะเหงาสักแค่ไหน

      ฉันตายไป..  ฉันก็คงหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง  ฉันไม่เจ็บปวดอีกต่อไป  ฉันไม่ทรมานอีกต่อไป

      แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ล่ะ  เขาจะต้องทรมานกับการจากไปของฉันขนาดไหน  
      เขาจะต้องเศร้า  จะต้องเสียใจกับการจากไปของฉัน  เมื่อฉันจากไปแล้วเขาจะต้องใช้เวลาทำใจอีกนานสักแค่ไหน  เมื่อไหร่เขาจะลืมว่าเคยมีลูกอย่างฉัน  อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน  เป็นปี  หรือจนลมหายใจสุดท้ายล่ะ

      คนที่ทรมานที่สุดไม่ใช่ฉันเลย  แต่เป็นพ่อแม่  เพราะเขาจะต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้  เมื่อไม่มีฉัน

      ฉันกำลังจะคิดว่าโลกไม่ยุติธรรมกับฉันเลย  ฉันอายุ18ปีเท่านั้น  ฉันยังต้องมีช่วงชีวิตอีกยาวนานนัก  
      แต่ฉันก็กลับมาย้อนคิดถึงเวลาของการมีชีวิตอยู่ของฉันก่อนหน้านี้..

      ฉันไม่เคยมีความสุข  ไม่เคยภูมิใจในชีวิตของตัวเองเลย  
      เพราะเหตุนี้มั้ง  เขาจึงพยายามที่จะเอาชีวิตของฉันไป

      แต่อย่างน้อยฉันก็ยังเหลือเวลาที่จะใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่นี่นา  ถึงแม้ตอนนี้โลกของฉันจะเป็นเวลาโพล้เพล้  มีแค่แสงตะวันรางๆแล้วก้ตามที
      แต่โลกของฉันก็ยังมีแสงอยู่  ฉันจะใช้เวลาเหล่านี้ให้มีค่าที่สุด

      ฉันจะทำทุกอย่างที่จะทำให้พ่อแม่มีความสุข  ฉันจะทนทานยาขมๆเป็นกำมือ  เพื่อแลกกับความสบายใจของพ่อกับแม่
      ฉันจะพยายามยิ้มสู้กับโรคร้ายนี้  เพื่อพ่อกับแม่จะได้กำลังใจว่าสักวันหนึ่งฉันจะหาย
      ฉันจะพยายามไม่ดื้อ  ไม่งอแง  

      เมื่อถึงเวลาที่ความมืดเข้ามาปกคลุม  พ่อกับแม่ก็จะได้เก็บเอาความทรงจำดีๆของฉันเอาไว้  ท่านจะได้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตอยู่ในความมืดได้

      ฉันอยากขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง  ..
      ที่ทำให้ฉันได้เห็นคุณคุณค่าของการมีชีวิตอยู่  

      โลกนี้ยุติธรรมเสมอ  ตราบใดที่คุณคิดว่าโลกใบนี้มีความยุติธรรม

      คุณกำลังมีความสุขในชีวิตของตัวเองงรึเปล่า??
      ถ้าคุณกำลังมีความสุขกับชีวิตที่มีอยู่  คุณก้เป็นคนคนหนึ่งที่น่าอิจฉามากเลยรู้ไหม
      ส่วนใครที่ไม่เคยมีความสุขกับการเป็นตัวคุณ  ฉันอยากให้คุณมองชีวิตของคุณเสียใหม่  อยากให้ภุมิใจความเป็นตัวคุณ  ภูมิใจในสิ่งที่คุณเป็น

      เพราะเมื่อถึงที่เวลาที่คุณจะต้องจากไป  คุณจะได้ดีใจ  ว่าอย่างน้อย...  คุณก็ได้ใช้ชีวิตของคุณอย่างคุ้มค่าแล้ว  
      ไม่ต้องมานั่งเสียดายวันเวลาเหมือนอย่างฉัน


      ...............................

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×