บนฝากฟ้าปรากฏกลุ่มควันสีแดงพุ่งผ่านจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้ ไม่มีใครรู้ว่ามันคือกลุ่มก้อนของสิ่งใด แต่เมื่อหนึ่งวันที่แล้วมันมาจากนอกโลกด้วยความเร็วเทียบเท่ากับเสียง ด้วยความเร็วมากขนาดนั้นผนวกกับเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเท่าเกาะเล็กๆ เมื่อมันพุ่งชนโลกคงเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงที่คราชีวิตมากมายอย่างแน่นอน
กองทัพทั่วทั้งโลกต่างระดมหัวกะทิของตนเองและคอยเฝ้าติดตามจุดปะทะอย่างใกล้ชิด เมื่อผลการคำนวนออกมาว่ามันจะตกลงที่ทะเลเขตน่านน้ำสากลทำให้แต่ละประเทศแถบนั้นต่างวิตกกังวล จนกระทั้งกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่งพอที่จะมีหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีปได้จัดส่งและติดตัวหัวรบเพื่อทำลายมัน
แต่ทว่าทุกสิ่งกลับไม่เป็นไปตามที่ทุกคนคาดคิด เมื่อมันพุ่งใกล้ชนโลกหัวรบทั้งหลายที่ส่งไปทำลายมันกลับไม่ทำงาน แต่กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของมันแทบ หัวรบที่มีแรงระเบิดมหาศาลจากแร่พลูโทเนียมกลายเป็นกลุ่มก้อนควันสีแดงรอบอุกกาบาตลูกนี้
เมื่อถึงเวลาตกกระทบพื้นโลกมันกลับลดความเร็วจนเหลือศูนย์ในเสี้ยววินาที ก่อนที่มันจะพุ่งไปยังขั้วโลกเหนือและค่อยเคลื่อนที่อย่างช้าๆจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้วนไปเรื่อยๆ ทุกพื้นที่ที่มันเคลื่อนผ่านจะทิ้งอนุภาคสีแดงและขาวไว้เป็นทางยาว
อนุภาคพวกนี้ไม่ได้ตกลงบนพื้นแต่กลับล่องลอยในอากาศ ไม่ได้ทำปฏิกิริยากับธาตุหรือสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย มันแยกตัวเป็นเอกเทศก่อนที่จะเริ่มกระจายและเจือจางตัวมันเองอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่ชั่วโมงกลุ่มก้อนอนุภาคที่เป็นทางยาวก็จางหายไป มันไม่ได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งใดเลย
จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งวันมันก็ผ่านกระจายและวนครบทุกพื้นที่บนพื้นโลก จากนั้นมันก็พุ่งทะยานขึ้นเหนือชั้นบรรยากาศและสลายกลุ่มก้อนควันสีแดงจากหัวรบไปจนหมด เผลอให้เห็นก้อนหินรูปทรงหยดน้ำสีดำสนิทราวกับห้วงอวกาศ ส่วนกลมมนเป็นส่วนหัวมันเชิดหน้าและบนหายไปจากโลกใบนี้อย่างรวดเร็วด้วยความเร็วมากกว่าขามาเสียอีก
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น