[SF SNSD] ..My Prince.. (Yuri) - [SF SNSD] ..My Prince.. (Yuri) นิยาย [SF SNSD] ..My Prince.. (Yuri) : Dek-D.com - Writer

    [SF SNSD] ..My Prince.. (Yuri)

    โดย kiddevil16

    ฉันไม่ได้รักเธอ..เพราะเธอเป็นเจ้าชายในฝัน แต่ฉันรักเธอ..เพราะเธอคือเจ้าชายของฉัน [TaeNy Feat. YulSic] ( END. )

    ผู้เข้าชมรวม

    12,630

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    12.63K

    ความคิดเห็น


    125

    คนติดตาม


    65
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 มี.ค. 53 / 23:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    My Prince


    "When you love someone..you'll do anything to reach the heart 
    of the one you love."

    "เมื่อคุณรักใครสักคน...คุณจะทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขา"




    :: Character ::


    คิม แทยอน

    ฮวัง มิยอง!  มองฉันบ้างสิ ฉันเป็นแฟนเธอนะ!




    ฮวัง มิยอง (ทิฟฟานี่)

    ให้ตายสิ เธอกลายเป็นคนคิดมากแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ



    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com




    Love song  Byเจ้าชายของฉัน  -  พัดชา

    Design by TheDTAC

    คิด..มากจัง เหมือนเธอไม่เคยรู้เลย ว่าฉันรักเธอกว่าใคร

    แล้ว..ตัวเธอ จะเปลี่ยนแปลงเพื่อใครนะ

    ฉันรักเธอ คือเหตุผลจากใจ และฉัน..เลือกเธอ ที่เป็นแบบนี้

    แค่เป็นเธอที่เป็นตัวเธอแค่นั้นพอ ไม่ได้ขอให้เป็นเจ้าชายในฝัน

    แค่เป็นเธอที่เป็นแบบเดิมให้เหมือนทุกๆวัน เพราะเจ้าชายของฉันก็เป็นแค่เธอเท่านั้น

    คิด..ยังไง ฝืนใจตัวเองเพื่อใคร เมื่อฉันรักเธอแบบเดิม

    ฉัน..รู้เพียง เธอคนเดิมน่ะดีแล้ว

    ฉันรักเธอ คือเหตุผลจากใจ และฉัน..เลือกเธอ ที่เป็นแบบนี้

    แค่เป็นเธอที่เป็นตัวเธอแค่นั้นพอ ไม่ได้ขอให้เป็นเจ้าชายในฝัน

    แค่เป็นเธอที่เป็นแบบเดิมให้เหมือนทุกๆวัน เพราะเจ้าชายของฉันก็ยังเป็นเธอเสมอ..



    -------------------------------------------------------------------

    *  ขอบคุณ OPV TaeNy My Prince ของคุณ TheDTACT  ที่ช่วยจุดต่อมจิ้นขึ้นมา

    *  Credit  Icon  by .. T .sky @ believe-in-taeny

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       รู้..ว่าเธออยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน  แต่รู้อะไรบ้างไหม?

      ฉันรักเธอ ที่เธอเป็นเธออยู่แบบนี้

      เป็นคิม แทยอนคนนี้  เป็นเจ้าชายของฉัน

      ไม่ใช่เจ้าชายในฝันของใครหลายๆคน

      ...


      ------------------------------------------------------------------------------------------------

       

                      คิม แทยอนนั่งซึมกระทือเป็นรูปปั้นหินแข็งทื่อไม่ยอมขยับตัว  ไม่สิ..ถ้าจะพูดให้ถูก  คนตัวเล็กไม่มีอารมณ์จะทำแบบนั้นมากกว่า ในเมื่อสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเธอไม่ได้น่าพิสมัยขนาดนั้น  ไม่ได้กระตุ้นต่อมเพื่อดึงดูดความสนใจไปจากเธอเท่าไหร่นัก  ดั่งเช่นที่สามารถทำกับคนอื่นภายในสนามแข่ง และ..กับคนรักของเธอเอง

                      “กรี๊ดด ด~  แทแท ดูนั่นสิ  พี่ซีวอนดังค์อย่างเท่ห์อ่ะ แทแทเห็นไหม” ไม่ทันขาดคำ ร่างบางกระโดดร่าไปมาเป็นหมีโลดออกหน้าออกตา พร้อมกับส่งเสียงร้องเชียร์เหมือนกับคนอื่นๆที่นั่งอยู่รอบๆตัวพวกเธอ เพียงแต่สาวเจ้าดูดีใจเกินเหตุ ย้ำ! ว่าเกินเหตุ  แม่เจ้าประคุณเล่นยกแขนโอบรอบคอคนรักเขย่าไปมา จนแทยอนต้องลุกขึ้นยืนดีใจไปด้วยหลังจากที่นั่งรากงอกก้นแฉะอยู่นานแม้จะไม่ได้อยากลุกเท่าไหร่ก็ตาม


                     
      “อืม..เห็นแล้วๆ” ตอบเพื่อเอาใจคนรักไปอย่างนั้น ความจริงเธอไม่ได้สนใจสิ่งที่คนรักเรียกร้องอยู่เท่าไหร่หรอก  ร่างเล็กปรายตามองชายหนุ่มผิวขาวเนียนละเอียดจนดูเหมือนคุณชายก็ไม่ปาน แปะมือไฮไฟว์แสดงความดีใจกับเพื่อนก่อนจะกลับไปยืนประจำตำแหน่ง


                     
      แทยอนนั่งแปะลงตามเดิม คราวนี้ถึงกับนั่งชันคาง ศอกยันเข่าไว้ ..จะอะไรกันนักกันหนากับบาสเก็ตบอล เจ้าพวกนั้นก็วิ่งไปวิ่งมาจนเธอมองแทบไม่ทัน สนามออกตั้งกว้างไปเอาแรงวิ่งมาจากไหนไม่รู้  เพื่อแย่งลูกบอลสีส้มแก่ๆ อันใหญ่ๆ หนักๆไปชู้ดให้เข้าห่วงบนแป้นสูงชะลูดแค่นั้น?  แล้วขอทีเถอะ อย่าโชว์ลีลาท่าทาง เสต็ปบ้าบออะไรกันให้มากนัก เพราะแค่นี้แม่หมีของเธอก็แทบจะส่งเสียงเชียร์จนแทบจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว ไหนจะหันมาเขย่าคอเป็นเหตุให้เธอผมเผ้ากระเซอะกระเซิงทั้งๆที่นั่งอยู่เฉยๆแท้ๆ


                     
      ไม่อยากจะพูด
      !  ลูกดังค์แบบนายซีวอน  คิม แทยอนคนนี้ก็ทำได้!!


                     
      “พักควอเตอร์สามแล้ว เดี๋ยวเค้ามานะแทแท”


                     
      “จะไปไหนอ่ะ?” พูดครบประโยคเป็นครั้งแรกหลังจากถูกชวน (หรือบังคับ?) ให้เข้ามานั่งช่วยเชียร์เป็นเพื่อน แต่แทยอนดูจะไม่ค่อยทำหน้าที่ช่วยเชียร์เท่าไหร่นัก ก็บอกไปแล้วไง..ว่าเธอเบื่อ
      !


                     
      “ไปกับเจสแป๊บเดียว เดี๋ยวมานะคะ” ลงทุนกอดคอ พูดจาหวานส่งสายตาออดอ้อน  มีหรือแทยอนจะทนไหว


                     
      “รีบไปรีบมานะ แทไม่อยากนั่งคนเดียว”


                     
      “จ้าๆ ฉันรับประกัน ไม่พายัยหมีไปขายหรอกหน่า” เจสสิก้าอดแซวคู่รักไม่ได้ ..เป็นเพราะคนรักเธอไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้หรอก ไม่งั้นคงไม่ปล่อยให้คู่หมาหมีทำคะแนนอยู่แบบนี้


                     
      “ค่ะ” ทิฟฟานี่ไม่สนใจคำแซวของเพื่อน จมูกโด่งรั้นชนเบาๆกับแก้มนวลใสของคนรักอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นเดินจูงเจสสิก้าลงจากแสตนด์เชียร์ไปยังห้องพักนักกีฬา หายลับไปจากสายตาแทยอน


                     
      คงจะพากันไปหายูริ คนรักของเจสสิก้าที่กำลังจะลงแข่งในเกมถัดจากนี้.. พยายามคิดในแง่ดีที่สุด ถ้าความคิดนั้นไม่ถูกพังทลายลงโดยใครบางคนในชั่วพริบตา


                     
      “เฮ้
      ! ว่าไงแทงกู ทำไมนั่งเป็นหมาเฝ้าแสตนด์อยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ เจสกับฟานี่ไปไหน?” ไม่ผิดใช่ไหมถ้าจะแสดงอาการผิดหวังออกนอกหน้ายามได้เห็นเพื่อนสนิทของตัวเองในตอนนี้  ไอ้ลิงเอ้ย! จะแวะมาหากันก็ช่วยดูจังหวะหน่อยได้ไหม?  เครียดนะเนี่ย..


                     
      “ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ ไม่ไปเตรียมตัวหรือไง”


                     
      “เรียบร้อยแล้ว รอแค่ให้เขาเรียกไปรายงานตัวก็เท่านั้น  ข้างในเลยมีแต่พวกรุ่นพี่ผู้ชายน่ะ เดี๋ยวก็คงออกมาแล้ว”


                     
      ยูริพูดไม่ทันขาดคำ เสียงกระดิ่งดังลั่นสนามเตือนให้นักกีฬาลงสนาม แทยอนมองไปทางห้องพักนักกีฬาก็เห็นร่างของสองสาวที่พวกเธอกำลังพูดถึงพากันเดินออกมา


                     
      “นั่นไงล่ะ
      !  เจส ฉันอยู่ตรงนี้  ..... สงสัยคงจะสวนทางกับฉันแน่เลย” ยูริโบกไม้โบกมือไปมาไม่อายใครเพื่อเป็นสัญญาณให้เจสสิก้าเดินตรงมาทางนี้ ในขณะที่สีหน้าของแทยอนดูจะไม่เป็นใจกับบรรยากาศรอบข้างหนักกว่าเดิมเสียอีก


                     
      ยิ่งแอบเห็นว่าหนึ่งในรุ่นพี่นักบาสชายคนหนึ่ง ขยิบตาพร้อมกับยกมือหวังจะแตะศีรษะคนรักของเธอนั่นแล้วยิ่งแล้วใหญ่ หนำซ้ำทิฟฟานี่ดูจะไม่ได้ปฏิเสธอะไรเลยแม้แต่น้อย ยังจะส่งยิ้มหวานจนตาปิดที่เธอหวงแสนหวงให้ชายหนุ่ม ...เห็นแล้วหงุดหงิด
      !


                     
      “นั่น..รุ่นพี่อูยองกับทิฟฟานี่  แกเห็นไหม แทยอน ..สงสัยจะไม่ได้ตั้งใจไปหาฉันซะแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆ ๆ” ยูริหัวเราะขำ ดูก็รู้ว่าแกล้งเย้าหยอกคนตัวเล็กเล่นๆ  หากแต่แทยอนคิดจริงๆ
      !

       
                    
      “จำไว้เลยนะ แม่หมี..”







                      ทิฟฟานี่กับเจสสิก้านั่งทอดอารมณ์สบายๆอยู่ใต้ต้นไม้ บนโต๊ะหินอ่อนสีขาว  แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะฝ่ายเจสสิก้าจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเสียมากกว่า ปล่อยให้อีกคนนั่งชันคาง เหม่อลอย จะให้เธอชวนเพื่อนคุยก็เกรงใจ เห็นตั้งใจอ่านหนังสือก็ไม่กล้าขัด...กลัวโดนเอฟเฟ็ค...


                     
      เนื่องจากคนรักมีหน้าที่เป็นถึงรองประธานนักเรียนฝ่ายกิจกรรม จำเป็นต้องไปประชุมงานอะไรสักอย่างเกี่ยวกับโรงเรียน ทำให้เธอต้องมานั่งคอยเพราะไม่อยากกลับหอคนเดียว  เจสสิก้าจึงอาสามานั่งคอยเป็นเพื่อน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต่างจากปล่อยให้เธอนั่งคอยคนเดียวไปเท่าไหร่หรอกนะ
      !


                     
      “น้องฟานี่ครับ”


                     
      “ค...คะ?” ทิฟฟานี่ตอบรับเสียงเก้อให้กับผู้มาใหม่ที่จู่ๆก็โถมกายเข้ามานั่งข้างๆเธอ ทำเอาเจสสิก้ายอมละสายตาจากหนังสือ เงยหน้าขึ้นหรี่ตามอง


                     
      “อ้าว..รุ่นพี่อูยอง  แหม..โต๊ะนี้ เจสก็นั่งอยู่ด้วยนะ” อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากแซวพี่รหัสของเพื่อนสนิท เป็นได้แค่พี่รหัสจริงๆนะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมฝ่ายชายถึงดูติดทิฟฟานี่ยังไงชอบกล ประโยคคำอ้างเพื่อมาหาทิฟฟานี่ที่ได้ฟังบ่อยที่สุดคือเรื่องเรียน รองลงมาคือบาสเก็ตบอลที่เจ้าตัวเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียนอยู่ อาจจะดูออกด้วยแหละมั้งว่าเพื่อนของเธอเป็นถึงขั้นคลั่งไคล้นักกีฬาประเภทนี้  ดูจากช่วงเย็นๆของทุกวันทิฟฟานี่จะขอตามเธอไปสนามบาส และไม่พลาดทุกครั้งเวลามีการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นบาสชายหรือบาสหญิง เปิดโอกาสให้อูยองได้เข้าหาบ่อยๆ


                     
      แต่ว่า..ไม่รู้หรือไงกันนะ ว่าทิฟฟานี่น่ะมีเจ้าของแล้ว
      !


                     
      “รอใครกันอยู่เหรอครับ?” อูยองส่งยิ้มหวานหยดจนเห็นตาเป็นเส้นเดียว ทิฟฟานี่เองก็ไม่ขัดศรัทธาส่งยิ้มแก้เขินตอบกลับเช่นกัน ..จะให้ตอบยังไงดีล่ะ .. รอแฟนงั้นเหรอ? ..


                     
      “รอฉันไง” จู่ๆ ร่างเล็กของใครบางคนก็แทรกเข้าระหว่างช่องว่างของคนทั้งคู่ บังร่างทิฟฟานี่ออกจากสายตาของชายหนุ่ม (แม้จะไม่ค่อยมิดก็เถอะ) เลิกคิ้วขึ้นส่งสายตากวนอารมณ์แต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวอยู่ลึกๆจนคนโดนขัดรู้สึกแปลกๆ


                     
      “เพื่อนฟานี่หรือครับ?”


                     
      “ขอโทษ..ฉันเป็นแฟน  ไมใช่เพื่อน”


                     
      “แทแท” ร่างเล็กรู้สึกได้ถึงรัศมีไม่พอใจมาจากด้านหลัง แต่ใครจะสนล่ะ
      ! ฉันควรเป็นฝ่ายโกรธเธอมากกว่านะ ทิฟฟานี่!


                     
      “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ ฮวัง มิยอง .. กลับหอ!” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับฉุดร่างบางให้ลุกขึ้นตามมาด้วยอย่างเสียไม่ได้ ..แม้ว่าจะเห็นสายตาอ้อนวอนขอให้ช่วยจากเพื่อน แต่เจสสิก้าก็ไม่คิดจะทำอะไรได้มากไปกว่าชูนิ้วโป้งให้แทยอน ส่งผลให้ได้รับสายตากึ่งงอนจากยัยหมีขาวขั้วโลกเสียแทน


                     
      “แทแท..ปล่อยได้แล้ว ฟานี่เจ็บนะ” บิดข้อมือเล็กน้อยเป็นเชิงให้แทยอนปล่อยสักที ถึงกระนั้นร่างเล็กก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจแต่อย่างใด ยังคงพาเธอเดินต่อเรื่อยๆ จนทิฟฟานี่ต้องเป็นฝ่ายรั้งตัวเองนั่นแหละ แทยอนถึงจะยอมหยุด


                     
      ร่างเล็กหมุนตัวหันมามองเธอด้วยสายตาตัดพ้อ สีหน้าไม่พอใจแบบเด็กๆที่แทยอนชอบทำบ่อยๆเวลาโดนขัดใจบอกให้เธอรู้  ทิฟฟานี่ก้าวเข้าใกล้คนตัวเล็กจนลำตัวแทบจะแนบชิดกัน สองมือยกขึ้นทาบแก้มเนียนใสอย่างอ่อนโยน


                     
      “เป็นอะไรไปคะ”


                     
      “งอน โกรธ น้อยใจ .. มากด้วย” น้ำเสียงกึ่งงอน กึ่งน้อยใจ ทำเอาร่างบางได้แต่อมยิ้มกับท่าทีแบบเด็กๆของคนตัวเล็ก จากที่มือเคยทาบแก้ม ตอนนี้หยิกพวงแก้มส่ายไปมาเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว


                     
      “งื้อ..เจ็บนะ”


                     
      “ทำไมถึงชอบคิดมากแบบนี้นะ หืม..ตัวเล็ก”

                      “เมื่อกี้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้งอนจริงๆแล้วด้วย” แทยอนปัดมือบางออกจากแก้มของตัวเอง  ว่าอะไรว่าได้ แต่อย่ามาว่าเรื่องส่วนสูง หรือขนาดตัว เธอไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นสักหน่อย!


                     
      “งอนเรื่องอะไรคะ บอกฟานี่ได้ไหม?” แม้จะพอรู้อยู่แล้วว่าอาการงอนของคนขี้น้อยใจเกิดจากอะไร หากแต่อาการอยากหยอกล้อคนรักมีมากกว่า มือบางรั้งแขนคนตัวเล็กเอาไว้แนบตัว เกยคางบนไหล่เล็กให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียวซ่านเล่น


                     
      แล้วมีหรือที่คนอย่างแทยอนจะทนไหว หากถูกยั่วยวนขนาดนั้น แต่เมื่ออาการน้อยใจยังค้างอยู่ไม่จางหายไปไหน จึงไม่หลงกลร่างบางง่ายๆ ว่าแล้วก็ดันตัวคนรักให้ถอยหลังไปชิดกับกำแพง เชยคางให้สบตากัน


                     
      “ตอบแทได้ไหม ว่าฟานี่ชอบคนแบบไหน” สายตาเว้าวอนชวนช่างแกล้ง ทิฟฟานี่อมยิ้มอย่างนึกสนุกให้แทยอนได้ทำหน้าบูดบึ้งหนักกว่าเดิม


                     
      “ยิ้มอะไร”


                     
      “ก็..พอคิดถึงคำตอบแล้วมันอดยิ้มไม่ได้นี่นา”


                     
      “ขนาดนั้นเลยหรือไง” คนกำลังจะถูกแกล้งยังคงไม่รู้ตัว หน้าเสียไปไหนต่อไหน


                     
      “อืม..เสป็กฉันน่ะนะ ข้อแรก..ต้องตัวสูงๆ อย่างน้อยก็สูงกว่าฉัน”


                     
      ตึ่ง..เพียงแค่ข้อแรกที่หลุดออกมาจากปากก็ไม่ใช่สิ่งที่แทยอนเป็นแล้วไม่ใช่หรือไง หนำซ้ำคนช่างแกล้งยังจะยกมือขึ้นเหนือศีรษะแทยอนขึ้นไปเพื่อบอกถึงระดับของส่วนสูงที่ควรจะเป็น หลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่เมื่อเห็นสีหน้าของคนตรงหน้า


                     
      “สอง..ขาว ขาวแบบโอโม่ ผิวเนียนๆเหมือนเด็ก”


                     
      แทยอนก้มลงมองแขนขาวๆของตัวเอง เฮ้
      ! อย่างน้อยเธอก็ขาวนะ ขาวมากด้วย  แต่ดูทิฟฟานี่สิ ยังทำหน้านึกคำตอบต่อไป ไม่สนใจสิ่งที่เธอต้องการจะให้เห็นเลยว่าเธอขาวแค่ไหน  มันน่า...ไหมล่ะ!


                     
      “สาม..รักฉันมาก มีเวลาให้ฉันด้วย ..อย่างเธอน่ะแทแท ชอบเอาแต่ไปประชุมๆๆงานรองประธานอะไรของเธอก็ไม่รู้”


                     
      คนถูกกล่าวหาหน้าเสียหนักกว่าเดิม อยากจะโต้แย้งจะตายอยู่แล้ว..เมื่อครู่นี้ทันทีที่เลิกประชุมตัวเธอก็รีบบึ่งมาหาร่างบางเลยนะ ถึงได้มาเห็นว่าเจ้ารุ่นพี่บ้านั่นกำลังคิดจะจีบคนรักของเธออยู่ยังไงล่ะ


                     
      “สี่..สปอร์ตบอย เล่นกีฬาเก่ง  โดยเฉพาะบาส ฉันชอบมาก ดูเซ็กซี่ดี” ทิฟฟานี่ทำหน้าเคลิ้มฝัน ปล่อยให้แทยอนมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ..ไม่น่าถามอะไรออกไปแบบนั้นเลย แค่สี่ข้อก็เล่นเอาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักอย่างเธอท้อเสียแล้ว.. ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอจะมีฉันเป็นคนรักไปทำไมล่ะ ทิฟฟานี่...


                     
      “ข้อสุดท้าย...”


                     
      “พอแล้ว ไม่ต้องบอกแล้ว”


                     
      “ทำไมล่ะแทแท ก็ฉันอยากบอกเธอให้ครบนี่นา ข้อสุดทะ.........” ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะได้ตอบคำถามเป็นข้อสุดท้าย แทยอนก็จัดการปิดปากไม่ให้เธอได้พูดอีกอย่างได้ผลชะงัดนักด้วยริมฝีปากบางของเจ้าตัว


                     
      คนตัวเล็กเอียงคอเล็กน้อยกดจูบทาบทับลง ถอนออกแล้วซ้ำอีกหลายครั้งให้ร่างบางได้ทันตั้งตัวบ้าง ก่อนที่ลิ้นเล็กจะเริ่มเลาะเล็มและรุกรานเข้าไปแตะลิ้นอุ่น ควานหารสหวานละมุนภายใน แต่สิ่งที่ต้องการมากไปกว่านั้นคือความจริง หรือคำปลอบประโลมว่าสิ่งที่ทิฟฟานี่พูดเมื่อครู่เป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น


                     
      “อืม..” เสียงครางแผ่วเบาภายในลำคออย่างยอมแพ้ของอีกฝ่ายยิ่งทำให้ร่างเล็กรู้สึกได้ใจ มือยกขึ้นตระกองแก้มนวลเพื่อให้รับสัมผัสจากเธอ สัมผัสที่มีความหมายย้ำว่าเธอรักคนตรงหน้ามากแค่ไหน มากเสียจนไม่อยากเสียร่างบางไปให้ใครอื่น .. ในขณะที่คนโดนจูบยกมือขึ้นโอบรอบคอคนรักลูบไล้เบาๆด้วยความเคลิบเคลิ้มเผลอไผล


                     
      ในที่สุดแทยอนก็ผละริมฝีปากออกมา อาจเกรงว่าทั้งเธอและคนรักจะขาดอากาศหายใจไปก็เป็นได้ แต่ใบหน้าของทั้งสองยังคงแนบชิดติดกัน จมูกโด่งรั้นของแทยอนไล้เรียงไปตามพวงแก้มสีแดงเรื่อ คลอเคลียอยู่สักพักและต้องหยุดลงเพื่อหายความหมายของดวงตาคู่สวย


                     
      “อย่าบอกว่าเธอรักใครนอกจากฉันอีกนะ..ไม่งั้น ฉันจะจูบเธอให้ขาดอากาศหายใจไปเลย คอยดูสิ” พูดจบก็จุ๊บริมฝีปากอิ่มเบาๆพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์


                     
      “คนบ้า..” มือบางฟาดเบาๆเข้าที่ไหล่เล็ก ดันตัวแทยอนออกไป ก่อนจะสะบัดหน้าใส่เดินหนี ให้คนตัวเล็กต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับวิ่งไล่ตาม


                     
      ให้ตายสิ...ฉันควรจะต้องเป็นคนงอนเธอนะ ฮวัง มิยอง
      !

                     




                      “พรวดด ด!  ห..ห๊ะ  แกว่าอะไรนะ” ยูริเบิกตาโตด้วยความตกใจไม่น้อย คิดดูว่าเธอตกใจแค่ไหน เมื่อครู่นี้ก็แทบจะสำลักน้ำอยู่แล้ว ..จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้อย่างไร  เมื่อแทยอนเดินเข้ามาภายในชมรมบาสเก็ตบอล ซึ่งเต็มไปด้วยเพื่อนร่วมทีมของเธอเอง เพื่อบอกว่าอยากเข้าร่วมทีมด้วยคน


                     
      รองประธานนักเรียนฝ่ายกิจกรรมผู้บ้าเรียน และเกลียดกีฬาอย่างกับอะไรดีเนี่ยนะ มาบอกว่านกเพนกวิ้นพากันอพยพไปอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่า ยังจะน่าเชื่อกว่าอีก
      !


                     
      “ไม่จริงหน่า พี่แทยอน”


                     
      “นั่นสิ อย่างพี่แทยอนเนี่ยนะ จะมาเล่นบาส”


                     
      ยุนอากับซูยอง สองสมาชิกในทีมบาสเก็ตบอลที่มียูริเป็นหัวหน้าทีม พลอยได้ยินไปด้วยยังอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา โดยเฉพาะซูยองที่มองแทยอนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ไม่ใช่เพราะตั้งใจจะดูถูกนะ แต่เพราะอยากจะวัดส่วนสูงของคนตัวเล็กให้ชัดๆต่างหากล่ะ


                     
      “คิดดีแล้วเหรอ ร้อยวันพันปีไม่เห็นแกจะสนใจบาส ดูอย่างฉันสิ ฉันเป็นเพื่อนแกมานาน เล่นบาสฉันก็เล่นมานาน แต่แกมาเชียร์ฉันนับครั้งได้ แล้วนี่อะไรมาดลใจแกวะ .... หรือว่าเพราะ ฟานี่?” ยูริหรี่ตาลงสำรวจเพื่อนตัวเล็ก แต่ก็โดนแทยอนดันหน้าออกไป ..เจ้าพวกนี้ จะอะไรกันนักกันหนา คนตัวเตี้ยเล่นบาสไม่ได้หรือไง(ฟระ
      !)


                     
      “จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ ให้ฉันเข้าชมรมบาสสักทีสิ”


                     
      “จะเข้าชมรมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงเล่นด้วย และถ้าจะลงเล่น ก็ต้องมาซ้อมทุกวัน”


                     
      “ยังไงก็ได้ ฉันยอมหมดแหละ” แทยอนรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ถึงกระนั้นยูริยังคงมองสำรวจร่างเล็กราวกับจะหาเหตุผลอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้แทยอนเข้าร่วมทีมหรอกนะ เพราะตอนนี้เพื่อนร่วมทีมของเธอก็เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาหลังการแข่งนัดล่าสุด ทำให้ขาดตัวหลักไปหนึ่งคน..ตัวสำรองน่ะมี แต่ว่าจะทำให้ขาดชื่อผู้เล่นไป การแข่งขันนัดชิงก็จะมีขึ้นภายในอาทิตย์หน้าแล้วด้วย ถ้ารับแทยอนเข้ามาก็ไม่เสียหายอะไร ...แต่ว่า จะดีเหรอ??


                     
      “ฟานี่รู้เรื่องยัง?”


                     
      “ยัง..อย่าบอกฟานี่นะ ว่าฉันเข้าร่วมทีม  นะๆ ไอลิงเพื่อนรัก” แทยอนเข้าเกาะแขนเพื่อนไว้แน่น ซบหน้าลงกับไหล่ออดอ้อนไปมา เกิดมาเธอยังไม่เคยลงทุนอ้อนใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ..ยกเว้นทิฟฟานี่คนนึงแล้วกัน..


                     
      “เฮ้ยๆ ไม่ต้องไซร้ สยิววุ้ย .. โอเคๆ ฉันจะรับแกเข้าทีม แล้วจะไม่บอกฟานี่ แต่วันนี้ ตอนนี้ แกต้องซ้อมทันที ฉันจะสอนแกเอง”


                     
      “ตอนนี้เลยเหรอ..”


                     
      “เออดิ๊
      !
       





                     
      ภายในสนามซ้อมในร่มสำหรับนักกีฬาบาสโดยเฉพาะ  แต่ละคนภายในทีมประสานงานกันได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นลูกโยน ลูกรับส่ง หรือลูกชู้ดก็ตาม ตัวหลักที่ทีมคู่แข่งพากันหวาดกลัวจะเน้นหนักไปทางยูริ ยุนอา และซูยอง และถ้าเกิดเวลาสุ่มทีมซ้อมระหว่างทีมเดียวกันขึ้นมา ถ้าสามคนนี้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เพื่อนร่วมทีมที่จำต้องอยู่ฝั่งตรงข้ามพลอยเหงื่อตกไปตามๆกัน


                     
      คิม แทยอนได้รับคำสั่งจากยูริเพียงแค่นั่งมองเพื่อดูเทคนิคการเล่นให้คล่องเสียก่อนเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นท่าทางคล่องตัวของยูริ การเลี้ยงลูกหลบหลีกฝั่งตรงข้ามของยุนอา การดังค์แบบที่ทิฟฟานี่ชอบนักชอบหนาของซูยอง  พวกมันทำกันไปได้ยังไง
      !?


                     
      มองไปทางอีกสนามหนึ่งข้างๆก็ดูงงไม่ต่างกัน ยิ่งทางฝั่งนั้นมีแต่นักกีฬาบาสชายล้วนๆยิ่งแล้วใหญ่ ดูว่องไว รวดเร็วมากกว่าฝ่ายหญิงอีก เจ้าพวกนี้เอาเวลาจากไหนมาซ้อมกันนะ..จะว่าโดดเรียนก็ไม่ใช่ เพราะยูริก็เข้าเรียนครบทุกครั้งไม่มีขาด จะบอกว่าใช้เวลาช่วงเย็นก็คงจะบอกได้ไม่เต็มปากนัก มันก็แค่ช่วงเวลานิดเดียวเท่านั้น ซ้ำยูริยังมีการบ้านที่ต้องทำเยอะแยะมากมายพอๆกับเธอแหละหน่า (??)


                     
      ยืนมองการเล่นด้วยท่าทีเหม่อลอยไปเรื่อยๆ เห็นแล้วหวั่นใจยังไงชอบกล ชักเริ่มจะกลัวๆขึ้นมาบ้างอยู่เหมือนกัน...แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อคนรักของเธอชอบแบบพวกนักกีฬา เธอก็ย่อมอยากพิสูจน์ตัวเอง  ว่าคิม แทยอนคนนี้ก็เล่นกีฬาได้
      !


                     
      “แท..แท..ไอ้คุณคิม แทยอน!


                     
      “ห๊ะ ว่าไง?”


                     
      “มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ พร้อมจะรับการสอนจากฉันหรือยัง? เพราะอีกไม่นานเจสคงจะมาหาฉันแล้ว ฟานี่ก็คงจะมาด้วย”


                     
      “อืม..พร้อม” ตอบเสียงอ่อย เดินเลิ่กๆลั่กๆเข้าไปในสนามด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ  ส่งยิ้มเก้อให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคน


                     
      “เอ้า รับลูก” ยูริส่งลูกบาสเก็ตบอลให้แทยอนแบบเบามือที่สุด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าเพื่อนคนนี้ไม่เคยจับลูกบอลมาก่อน ยกเว้นแต่ตอนเรียนวิชาพละ ที่แทยอนมักจะเนียนเลี่ยงบ่อยๆอยู่ตลอด


                     
      “แว้ก ก.. เขวี้ยงมาเบาๆสิ  ไอ้ลิง”


                     
      ยูริส่ายศีรษะระอาใจ ลูกส่งของเธอเบาที่สุดในชีวิตแล้วนะ แต่ไอ้คุณแทยอนมันไม่คิดจะรับลูกเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังกระโดดหลบลูกแล้วยังมีหน้ามาด่าเธออีก ...เออ มันจะรอดไหมเนี่ย
      !!

                      “ระวังลูก!


                     
      เสียงตะโกนก้องดังมาจากทางสนามฝ่ายชายที่มักจะส่งเสียงร้องเวลาลูกบอลแรงๆถูกเขวี้ยงออกนอกสนามให้หลบกันจนชิน แต่สำหรับหน้าใหม่อย่างแทยอนแล้ว ไม่ใช่เลย...คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเพราะตกใจกับเสียงร้องก้องว่าเกิดอะไรขึ้น ส่งผลให้ลูกบาสหนักๆกระแทกเข้าที่หน้าของเธออย่างจังจนหงายหลังล้มลง

                      
      “ไอ้แท
      ! / พี่แท!” ยูริและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆวิ่งเข้ามาดูอาการของแทยอนที่นอนแผ่ไปกับพื้นสนามอย่างหมดฟอร์ม  ร่างสูงประคองศีรษะเพื่อนให้ลุกขึ้นนั่ง แต่แทยอนที่โดนลูกบาสเข้าไปเต็มๆหน้ายังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่ตัวเองเพิ่งได้เจอเป็นครั้งแรก...แค่ครั้งแรกก็เจ็บตัวซะแล้ว


                     
      “เป็นไงบ้าง  เฮ้ย
      ! เลือดกำเดา!


                     
      แทยอนเอื้อมมือแตะของเหลวอุ่นสีแดงสดที่ไหลผ่านจมูก แล้วก็ต้องเบิกตาโพลง ...จมูกเธอจะหักไหมเนี่ยย ย


                     
      “พี่แท พี่ยูล แย่แล้ว..พี่เจสกับพี่ฟานี่เดินมา” ยุนอาร้องเตือนเสียงดัง ทำเอาแทยอนหน้าเสีย เสียยิ่งกว่าตอนเห็นเลือดกำเดาเสียอีก
      ..


                     
      “ซวยแล้ว..”






                      
      “ฟานี่.. นั่นแทยอนไม่ใช่เหรอ” เจสสิก้าสะกิดเพื่อนสนิท แต่มันไม่จำเป็นหรอก เพราะทิฟฟานี่เห็นก่อนเสียอีก ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงเพื่อให้แน่ใจว่านั่นใช่คนรักของเธอจริงๆ ไม่ผิดแน่ ตัวเล็กแบบนั้น..ว่าแต่ แทยอนมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?


                     
      ไหนจะท่าทางดูมีพิรุธ ดูลับๆล่อๆทำเป็นว่าไม่เห็นเธอ โดยมีร่างของยูริกับยุนอายืนบังอยู่  อย่างนี้มันหมายความว่ายังไง..


                     
      “คิม แทยอน
      !


                     
      เฮือก
      ! แม่เจ้าประคุณเล่นเรียกซะเลือดกำเดาแทบจะไหลย้อนกลับ แทยอนชะงักกึกทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีคนรักก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอเสียแล้ว


                     
      “ตายแล้ว แทยอน..นั่นเลือดนี่
      !


                     
      “ยังไม่ตาย”


       
                     เจสสิก้าร้องซะเสียงดังลั่นกลัวว่าทิฟฟานี่จะไม่รู้กระมัง  ยูริรีบผละออกจากแทยอนดันตัวคนรักไปอีกทาง ส่วนยุนอา..จะอยู่ไปทำไมให้โดนลูกหลงล่ะคะ เธอยังไม่อยากช่วยโดนหมีตะปบสลบตายคาโรงยิมหรอกนะ  ..หนีสิ
      ~   โชคดีนะคะ พี่แทยอน~


                     
      “เอ่อ...” ก้มหน้าก้มตา นิ้วเรียวจิ้มเข้าหากันไปมา  ทั้งๆที่สภาพใบหน้าแทยอนตอนนี้ดูแทบไม่ได้เลย กระดาษทิชชู่ที่พยายามใช้อุดจมูกห้ามเลือดเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตสีแดง หนำซ้ำยังเลอะเปรอะเปื้อนไปรอบๆบริเวณใต้จมูกตัดกับผิวขาวเนียนของเจ้าตัว .. เอาไงดีล่ำคิม แทยอน  แบบนี้มันเข้าสูตรนิทานเป๊ะๆ  เข้าป่าเจอหมี  เพื่อนหนีหายเอาตัวรอดหมด เหลือตัวคนเดียว..แกล้งตายดีไหมนะ T^T


                     
      “เอ่อ..เค้า..ก็..เค้า.....เหวอ.....” หาคำแก้ตัวยังไม่เจอ ร่างเล็กก็ถูกดึงไปทางฝั่งที่นั่งแสตนด์  ทิฟฟานี่ทิ้งตัวลงนั่ง ออกแรงดึงเพียงนิดเดียวแทยอนก็ถลาฟุบศีรษะลงกับตักนุ่มๆ  ..ผิดคาดแฮะ..


                     
      “จะพูดมากให้เลือดมันไหลเข้าปากหรือไง” ประคองศีรษะแทยอนให้แหงนหน้าขึ้น  เขี่ยเศษกระดาษทิชชู่ชุ่มเลือดสุดจะน่าสมเพชออกจากจมูกสวย หยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนออกมาบรรจงซับเลือดแดงสดอย่างเบามือ


                     
      “ไม่โกรธแทเหรอ” น้ำเสียงออดอ้อนเช่นเดียวกับแววตาอ่อนโยนที่ถูกจับจองด้วยใบหน้าเนียนใสของคนรัก ไม่ได้อยากรู้ว่าทิฟฟานี่จะโกรธเธอหรือเปล่าขนาดนั้นหรอก  เพียงแต่อยากอ้อน..ก็เท่านั้นเอง  ไม่ผิดใช่ไหมล่ะ..


                     
      “โกรธ..” ปากบอกว่าโกรธ แต่มือยังคงคอยเช็ดเลือดแห้งๆออกจากแก้มนวล  ..จนแทยอนเริ่มรู้สึกอยากจะเลือดกำเดาไหลบ่อยๆแล้วสิ ก็ตอนนี้แม่หมีของเธอน่ารักมากเลยนี่นา ไหนจะสีหน้าขัดเขินเวลาเผลอสบตาเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าเนียนขาวอมชมพูที่มักจะมีรอยยิ้มบาดใจอยู่ตลอดเวลา เสน่ห์ของทิฟฟานี่อย่างหนึ่งที่เธอชอบ ..


       
                     แต่ไม่เอาดีกว่า ให้กำเดาไหลบ่อยๆเลือดก็หมดตัวแย่สิ  แค่นี้ทุกๆวันที่หอพักเลือดแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วนะ........ ก็ทิฟฟานี่น่ะ ชอบเดินออกมาจากห้องน้ำกับผ้าเช็ดตัวห่มกายผืนเดียว โดยเจ้าตัวบอกให้เหตุผลว่าไม่อยากแต่งตัวในห้องน้ำ กลัวทำเสื้อเปียก ...คิดไรกัน?


                     
      “โกรธจริงอ่ะ..” เอื้อมมือมากุมมือบางเอาไว้ ดึงผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้มีรอยเลือดเป็นดวงออกก่อนจะแนบมือนุ่มไว้กับแก้ม


                     
      “ไม่จริงมั้ง...ไหนบอกว่าวันนี้มีประชุม ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วไปทำอะไรมาถึงกำเดาไหล” สาวเจ้ายิงคำถามเสียจนคนขี้อ้อนแทบจุก ซวยแล้วสิ..ไม่น่าถามย้ำเลย ตอบยังไงดีล่ะ... ปรายตามองหาตัวช่วย เห็นยูริกำลังยืนเถียงอะไรบางอย่างกับเจสสิก้า


                     
      “ก..ก็ เขาเลื่อนประชุมกะทันหันน่ะ  แทไม่รู้จะไปไหน ฟานี่ก็ยังไม่เลิกเรียน  พอดียูลมันชวนให้มาช่วยเป็นเด็กเก็บบอล เพราะมันขี้เกียจวิ่งออกนอกสนาม แทก็เลยมา..” ขอโทษนะยูริ  ขอยืมชื่อมาประกอบหน่อยแล้วกันนะเพื่อน..


                     
      “เด็กเก็บบอล?” ไม่ใช่ว่าไม่อยากเชื่อหรอกนะ..แต่มันไม่น่าเชื่อเลยต่างหาก  ยูริของั้นเหรอ..อย่างแทยอนเคยทำตามคำขอใครด้วยหรือไงถ้าไม่เต็มใจจริงๆ (อาจจะยกเว้นทิฟฟานี่ รายนั้นไม่เต็มใจก็ต้องทำ)  หรือถ้ายูริขอจริงๆ..แล้วจะมาขอแทยอนทำไมกัน คนก็นั่งกันอยู่เต็มโรงยิมเยอะแยะ บอลออกนอกสนามยังไงก็ต้องมีคนโยนกลับเข้าไปให้  ไม่เห็นต้องขอแทยอนเลย ตัวเล็กๆแบบนี้วิ่งตามบอลทันหรือเปล่าเห่อะ..


                     
      “ใช่ๆ แล้วก่อนฟานี่จะมา ตอนนั้นแทก้มเก็บบอลอยู่เลยไม่ทันเห็นว่าลูกบอลมันลอยมา เงยหน้าขึ้นมาบอลก็โดนหน้าไปแล้ว” แทยอนได้ทีก็ฝอยต่อเนื่องไม่ยั้ง แต่คราวนี้มีส่วนจริงอยู่บ้างนะ  ที่ว่าเธอกำลังก้มเก็บบอลอยู่เงยหน้าขึ้นมาบอลก็กระแทกจมูกงามๆเข้าไป  จะว่าไปแล้วยังไม่หายเจ็บจมูกเลยนะเนี่ย...


                     
      “ซุ่มซ่าม.. แล้วทำไมไม่ระวังตัว”


                     
      “บอลมันเร็วอ่ะ แล้วแทก็ไม่ได้ตั้งตัวด้วย” ปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ จับมือนุ่มของทิฟฟานี่ไล้ไปมาตามแก้มเธอเชิงอ้อนเอาใจ


                     
      “พี่ฟานี่คะ  ยุนเอาน้ำแข็งมาให้ ดูท่าเลือดกำเดาพี่แทคงจะไม่หยุดไหลง่ายๆแฮะ  ฮิๆ” ยุนอาอมยิ้มแซว ส่งแก้วใส่น้ำแข็งสะอาดที่เธอลงทุนสั่งให้ซูยองวิ่งไปหามาให้ทิฟฟานี่ที่รับไปพร้อมกับกล่าวขอบคุณ หย่อนน้ำแข็งป่นลงผ้าเช็ดหน้าทำให้ไม่ทันได้สังเกตแทยอนที่เขม่นเข่นเคี้ยวใส่ยุนอาที่บังอาจมาขัดจังหวะ...?


                     
      “มันจะเย็นไหมอ่ะ..” เมื่อเห็นว่ายุนอาเดินจากไปแล้วก็กลับมาโหมดอ้อนต่อ  รั้งข้อมือทิฟฟานี่ที่กำลังจะโปะผ้าเช็ดหน้าห่อน้ำแข็งป่นกับจมูกของเธอ


                     
      “น้ำแข็งนะ มันก็ต้องเย็นอยู่แล้วสิ แทแท” ทิฟฟานี่ดึงมือของอีกคนออก แทยอนนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อผ้าเช็ดหน้าเย็นเฉียบสัมผัสกับดั้งจมูก


                     
      “อ้าปากหายใจเอานะ”


                     
      แทยอนพยักหน้าเบาๆ ปล่อยให้ทิฟฟานี่บีบจมูกตัวเอง พร้อมกับแปะผ้าเช็ดหน้าห่อน้ำแข็งไปตามดั้งจมูก นิ้วเรียวคอยเกลี่ยหากมีหยดน้ำตะกอนไหลไปตามใบหน้าคนรัก


                     
      “เป็นห่วงนะ รู้ตัวบ้างไหม..” พูดลอยๆแผ่วเบาราวกับกลัวคนตัวเล็กได้ยิน  แทยอนอมยิ้ม คว้ามือของอีกฝ่ายมากุมไว้พลางหลับตาลง  ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพลอยทำให้เพื่อนๆที่แอบมองอย่างสอดรู้สอดเห็นในโรงยิมพากันหมั่นไส้โดยเฉพาะยูริ  แทบอยากจะปาลูกบาสในมือใส่หัวมันอีกครั้งให้รู้แล้วรู้รอดไป ...อยู่กับทิฟฟานี่ล่ะเป็นลูกหมาขี้อ้อน  พอมาอยู่กับพวกเธอล่ะกลายเป็นไอ้หมาจอมบงการ  ..ลิงไม่อยากจะพูดค่ะ เดี๋ยวหาว่าลิงสะดิ้ง
      !




                     
      “ฟานี่..กลับกันเถอะ ปลุกแทยอนได้แล้ว” เมื่อเวลาล่วงเลยไปนานจนท้องฟ้าข้างนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา ผู้คนภายในโรงยิมก็เริ่มทยอยกันกลับบ้าน  เจสสิก้าเดินมาหาทิฟฟานี่ที่ตอนนี้เลิกปฐมพยาบาลผู้ป่วยจอมอ้อนแล้ว แต่ยังปล่อยให้แทยอนนอนตักเธอต่อไปจนตอนนี้แอบงีบหลับคาตักไปเสียอย่างนั้น


                     
      “สิก้า  จะไปขัดเขาทำไมเล่า  ไม่ได้นอนหอเดียวกับสองคนนั้นสักหน่อย เดี๋ยวแทมันตื่นก็พากันกลับเองแหละ ..นี่ คนนี้ต่างหากรูมเมทเธอ  .. ปะๆ กลับหอกันเถอะค่ะ ที่รัก” ยูริแอ๊บเนียนจะโผเข้าโอบเอวบางให้เป็นบุญอีกสักวัน แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้ก็แทบจะโดนยันกลับ ...ชีวิตลิงช่างอาภัพ


                     
      “อยากนอนนอกห้องไหม..  ควอน ยูริ  อย่ามาลามกกับฉันนะ” น้ำเสียงเย็นเฉียบแผ่กระจายจนคนในโรงยิมรีบพากันเดินออกไม่เหลือ ..ไม่คิดว่าโรงยิมจะติดแอร์กับเขาด้วย  แถมปรับอุณหภูมิซะเกือบติดลบกันเลยทีเดียว..


                     
      “สิก้าอ่าา..  เค้าลามกกับสิก้าคนเดียวนะ”


                     
      “ควอน ยูริ
      !


                     
      “จ๋าา า
      ~  *0* ”


       
                     ทิฟฟานี่ยิ้มบางๆมองตามยูริที่รีบวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังเจสสิก้าอยู่ไม่ห่างจนออกนอกโรงยิมไป หันมามองร่างเล็กที่ยังนอนอยู่บนตักเธอ เช่นเดียวกับมือบางที่ยังคงกอบกุมมือของเธอไม่ยอมปล่อย  ทิฟฟานี่ไล้นิ้วเรียวไปตามใบหน้าที่เธอเฝ้าเรียกมันว่าเบบี้เฟส ยิ่งถ้าเป็นใบหน้ายามหลับแล้ว ยิ่งแลดูไร้เดียงสาราวกับเด็ก


                     
      “อือ..” แทยอนนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกรบกวนยามกำลังหลับสบาย ซุกใบหน้าเข้าหาหน้าท้องของทิฟฟานี่


                     
      “ฟานี่รักแทนะ..” โน้มศีรษะลงประทับริมฝีปากนุ่มกับแก้มเนียนใสของคนรัก เกลี่ยปอยผมเหน็บเข้าที่ใบหู ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้คนตัวเล็กนอนได้สบายขึ้น โดยไม่รู้เลยว่าทั้งคำพูดและการกระทำเมื่อครู่ทำให้คนที่
      แกล้งนอนหลับอยู่ลอบอมยิ้มเบาบาง..

       





                     
      หลังจากวันนั้นแทยอนก็เริ่มระวังตัวในการซ้อมกับยูริมากขึ้น  จนช่วงหลังๆยูริ(ผู้ตกกระไดพลอยโจน)ต้องยอมหลอกเจสสิก้าว่าให้เปลี่ยนไปรอเธอระหว่างซ้อมที่ห้องสมุด เพราะทางทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนจำเป็นต้องเก็บความลับเรื่องเทคนิคการเล่น ชนิดที่ว่าแม้จะเป็นโรงเรียนเดียวกันก็ห้ามรู้ เดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น...  ซึ่งแน่นอนว่าเจสสิก้าเชื่อ ทิฟฟานี่ก็ต้องเชื่อด้วย 


       
                     เท่านั้นยังไม่พอ..เพราะพวกเธอยังต้องคอยบอกไม่ให้พวกที่สุมกันอยู่ที่โรงยิมบ่อยๆ หรือพวกแฟนคลับนักกีฬาคาบข่าวว่าแทยอนมาร่วมทีมไปแพร่บอกใครต่อใครเด็ดขาด แลกกับเบอร์โทรของพวกเธอเอง


       
                     ถ้าความแตกเมื่อไหร่ลูกหมากับลูกลิงคงมีอันสูญพันธ์ไปตามๆกัน..ยอมตายเพื่อเพื่อนขนาดนี้ ไม่ซี้กันก็ให้มันรู้ไปสิ..




                 
      จนกระทั่ง..ถึงวันแข่งขัน..


                     
      “แล้ว..แทยอนล่ะฟานี่?” เจสสิก้าเอ่ยปากถามเมื่อเธอกับทิฟฟานี่พากันเดินหาที่นั่งบนแสตนด์  และนึกขึ้นมาได้ว่าขาดใครไปบางคน ทิฟฟานี่ทำหน้าบึ้งใส่ทันที


                     
      “ไม่มา ชวนยังไงก็ไม่มา บอกว่าติดประชุม” ถ้ารู้ว่างานคณะกรรมการนักเรียนมันหนักหนาสาหัส ถึงขนาดเรียกประชุมแทบจะทุกวัน หนำซ้ำเวลามีงานอะไรประจำโรงเรียนแทยอนก็ต้องไปเข้าร่วมทุกครั้งจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเช่นนี้  เธอไม่ยอมให้คนรักลงสมัครซะก็ดีหรอก..


                     
      “ติดประชุม?  วันนี้เนี่ยนะ”


                     
      “ใช่..ติดประชุมแทบทุกวัน ทำไมถึงใช้งานแทยอนกันหนักขนาดนี้นะ” ทิฟฟานี่ปั้นหน้าบูดท่ามกลางเสียงเชียร์โฮลั่นเมื่อนักกีฬาบาสเก็ตบอลชายพากันลงสนาม ถึงกระนั้นเธอก็ไม่มีอารมณ์จะร้องเชียร์ตามหรอก   ..คณะกรรมการนักเรียนคนอื่นที่เธอรู้จักงานยังไม่หนักเท่าแทยอนเลย คิดแล้วเหนื่อยแทน เซ็งด้วย..คนสวยเซ็งค่ะ
      !

       



                     
      “ฮัดชิ้ว ว
      ~!” แทยอนปิดจมูกจามตัวโยน ถูจมูกหมิ่นๆไปมา รู้สึกคัดจมูกพิกลแฮะ..


                     
      “เป็นไง..ไหวไหมแทงกู” คนที่เดินมาตบไหล่แทยอนเสียจนแทบคว่ำไปอีกรอบอย่างสนิทสนมไม่ใช่ใครที่ไหน ยูริทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเพื่อน อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสำหรับนักกีฬารัดรูปสีกรมท่าประจำโรงเรียน และกางเกงขาสั้นสีขาวเช่นเดียวกับแทยอน  ที่ดูแปลกไปกว่าก็อาจจะเป็นปลอกแขนผ้าสีขาว มีตัวอักษร
      C ตัวใหญ่ปักอยู่บ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นกัปตันทีม


                     
      “อืม..พอไปได้” ทำจมูกฟุดฟิดไปมายังไม่เลิก เฝ้ามองเพื่อนร่วมทีมที่พากันแต่งตัวภายในห้องพักนักกีฬา ในขณะที่เสียงเชียร์จากด้านนอกยังคงดังลอดเข้ามาเป็นระยะ  ทิฟฟานี่คงจะอยู่ข้างนอกนั่นสินะ
      ..จะว่าไปมาถึงตอนนี้ใจก็เริ่มเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ ท้องไส้โหวงเหวงน่ากลัว  ยิ่งนึกถึงการแข่งขันในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็ยิ่ง....ป๊อด....


                     
      “สาวๆ อีกห้านาที เตรียมตัวลงสนามได้” สต๊าฟโค้ชเดินเข้ามาภายในห้องแต่งตัวบอกข่าวเสียงดังฟังชัดให้แก่ทุกคน


                     
      “ค่ะ
      !


                     
      โฮกกก ก...  เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ 
      T^T

       




                     
      “และแล้ว ก็มาถึงการแข่งขันบาสเก็ตบอลหญิง..ที่ผมคาดว่าผู้ชมทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็ต่างรอคอย ก็แหม..นักกีฬาแต่ละคนทั้งสวย ทั้งน่ารักในเวลาเดียวกันเสียจนผมเองก็แทบบรรยายไม่ไหว แฮะๆ  ..นักกีฬาทุกคนจับมือกันครับ!


                     
      เสียงประกาศกึกก้องจากผู้บรรยายประจำดังชัดเจน นักกีฬาบาสเก็ตบอลทั้งสองฝ่ายเดินเรียงเป็นแถวหน้ากระดานเข้าจับมือกันพอเป็นพิธี ก่อนที่แต่ละคนจะเข้าประจำที่ ..ไม่แปลกถ้าบนสนามไม่มีร่างเล็กของแทยอนเข้าร่วมจับมือกับเขาด้วย แม้ตามกฎจะต้องลงสนามเพื่อให้เห็นหน้าก่อนอย่างชัดเจน  รายนั้นหลบอยู่ในห้องพักไม่ยอมออกมาพร้อมกับขอร้องโค้ชว่าถ้าเธอต้องลงสนามเมื่อไหร่ ช่วยเข้ามาเรียกด้วย....เรื่องเยอะซะไม่มี...


                 
      ปรี๊ดด ด..


                     
       “เกมเริ่มแล้วครับ!  ยูริเป็นฝ่ายกระโดดตบลูกกลางอากาศไปได้  ..ว้าว.. เธอช่างงดงามเสียจริง  ยุนอาคว้าลูกไว้ ส่งต่อให้แอมเบอร์ทันที  -- อ๊ะ! โดนแย่งลูกไปได้ครับ ตอนนี้บอลอยู่ที่ซอนเย เลี้ยงเดี่ยวไปแล้วครับ และ..เธอส่งลูกให้ยูบิน!  ยูบิน..จะชู๊ตไหม!   อ๊า..โดนยูริปัดลูกไว้ได้ น่าเสียดายจังครับ”


                     
      “กรี๊ดด ด~  แฟนฉันค่ะ!” เจสสิก้าร้องลั่นด้วยความที่ทนไม่ไหว  แหม..มันส์กันตั้งแต่เริ่มเกมส์อย่างนี้ใครจะไปทนไหวล่ะ  แต่อาการกระดี๊กระด๊าในสามีของคุณเธอไม่ได้ส่งผลให้คนที่นั่งข้างๆพลอยมีอารมณ์ร่วมตามเลย จะมีบ้างก็เมื่อฝ่ายทีมโรงเรียนของเธอทำคะแนนได้ ร้องเชียร์พอเป็นพิธีเท่านั้น  ก็บอกแล้วไง..ว่าคนสวยเซ็ง  กำลังงอนแฟนค่ะ!


                     
      “และ..ควอเตอร์ที่สองกำลังจะหมดเวลา มัธยมเอสเอ็มกำลังนำอยู่ด้วยคะแนน 14 ต่อ 10.....และแล้วก็หมดเวลาควอเตอร์ที่สองครับ
      !


                     
      ยูริเดินนำลูกทีมของเธอเข้าห้องพัก โดยไม่ลืมที่จะโบกมือ ส่งยิ้มให้คนรักบนแสตนด์เชียร์  แต่กลับได้เสียงกรีดร้องจากบรรดาแฟนคลับกันระนาวเสียแทน  ..ลิงโบกให้แฟนค่ะ โบกให้แฟน


                     
      “แทงกู..พร้อมลงยัง?” เข้ามาถึงก็ทักทายเพื่อนที่นั่งแข็งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนเลย  ดูท่าทางมันจะเหนื่อยกว่าคนลงสนามอีกนะเนี่ย


                     
      “ขอควอเตอร์สุดท้ายเลยได้ไหม  ฉันกลัว..” แทยอนส่งยิ้มแห้งผาก ลามไปถึงลำคอ ..ไม่ได้เกิดกลัว ตื่นสนามขึ้นมาหรอกนะ  นั่นมันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนสำคัญคือแทยอนกลัวแม่หมีค่ะ..


                     
      ได้ฟังอย่างนั้น ยูริก็แทบจะปาขวดน้ำในมือใส่หัวมันสักที ถ้าไม่ติดอยู่ว่าเธอต้องดื่มนะ...แล้วชาตินี้จะได้ลงเล่นให้เป็นขวัญตาศรีภรรยาดั่งที่ตั้งใจไหมเนี่ยแทย๊อนน น
      ~



       

                      “ขณะนี้ควอเตอร์ที่สามกำลังดำเนินอยู่ ยังคงเป็นมัธยมเอ็สเอ็มที่นำอยู่17ต่อ16ครับ  ยุนอาเลี้ยงลูกหลบผ่านสองคนอย่างสวยงาม หลุดเดี่ยวมาแล้วครับ แต่มียูบินวิ่งตามมาติดๆ  และ...และ -- อู๊ย ย.. ฟาล์วครับ ยูบินทำฟาล์ว ยุนอาล้มลงไปนอนกับพื้นซะแล้วครับ --”


                     
      “ยุน เป็นไงบ้าง” ยูริคุกเข่านั่งลงข้างๆรุ่นน้องที่พยายามยันตัวเองขึ้นนั่ง  ยุนอานิ่วหน้าเล็กน้อย รู้สึกเจ็บแปล๊บที่ข้อศอกที่ตอนนี้เนื้อนวลขาวบริเวณนั้นเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเรื่อ อาจจะเป็นเพราะเธอใช้ข้อศอกยันพื้นตอนล้มลงไป


                     
      “แดงช้ำเลย เล่นต่อไหวไหมยุน” ซูยองนั่งลงข้างๆเพื่อนอีกคน คอยประคองข้อศอกให้  ยุนอาส่ายหน้า น้ำตาใสเล็ดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดระบมอยู่ที่ข้อศอกเกินมันจะทนไหวได้ ก่อนจะถูกประคองออกจากสนามไป


                     
      “ซู..ไปตามแทยอนมา  ลงก่อนเวลานิดนึงไม่เป็นไรหรอก”


       

                      “ยุนอา..จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ” ทิฟฟานี่พึมพำไปกับเจสสิก้า  เฝ้ามองคนเจ็บที่ถูกประคองออกมาปฐมพยาบาลข้างสนาม  ในขณะที่เสียงประกาศของผู้บรรยายยังคงดังต่อเนื่อง


                     
      “ฟานี่
      !  น...นั่น แทยอน!  แทยอนอยู่ในทีมด้วยเหรอเนี่ย” ไม่จำเป็นอีกแล้ว.. เจสสิก้าไม่จำเป็นต้องสะกิดเลยแม้แต่นิดเดียว ในเมื่อทิฟฟานี่สังเกตเห็นตั้งแต่คนตัวเล็กเดินสะดุดขาตัวเองออกมาจากห้องพักนักกีฬาเดินเก้ๆกังๆลงสนามไปหยุดอยู่ข้างๆยูริ ราวกับว่าร่างสูงจะช่วยบดบังเธอไปจากสายตาของคนทั้งสนาม ไม่ก็จากสายตาของคนๆเดียวที่จ้องมองจนแทบจะเดินลงไปหานั่นแหละ


                     
      “คิม แทยอน...”


                     
      “กรรมการตัดสินให้ลูกโทษสองลูกแก่มัธยมเอสเอ็มครับ  และซูยองเป็นคนรับหน้าที่นี้ ..และนั่นครับ มีคนลงสนามแทนยุนอาที่บาดเจ็บแล้ว แทยอนครับ
      ! รองประธานนักเรียนมาเองเลย!


                 
      แว้กก ก.. ไอบ้า
      ! ไม่ต้องนำเสนอถึงขนาดนั้นก็ได้! 


       
                     แทยอนขบเคี้ยวเข่นฟันส่งสายตาอาฆาตไปยังโต๊ะผู้บรรยาย แต่อาฆาตเขาอยู่ได้ไม่นานตัวเธอก็รู้สึกเหมือนโดนรังสีอาฆาตเสียแทนเสียงอย่างนั้น  และจะไม่ลำบากใจเลยถ้ารังสีเย็นหลังวาบไม่ได้มาจากด้านบนแสตนด์แถวๆทิฟฟานี่..


                     
      “ฟานี่มองแกอยู่น่ะ  หันไปมองเขาหน่อยดิ” ยูริก้มลงกระซิบกระซาบ ก็แหม..ทิฟฟานี่อุตส่าห์มองด้วยสายตาดูดดื่มซะขนาดนั้น


                     
      แทยอนค่อยๆแหงนหน้าขึ้นไปยิ้มให้สุดที่รักบนแสตนด์เชียร์ พลางโบกมือ  ส่วนผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็คงไม่ต้องคาดเดาอะไรมาก..ทิฟฟานี่เบือนหน้าหนีราวกับไม่เห็นแทยอน  ใบหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึก


                     
      “งานเข้า” ยูริพลอยเห็นท่าทางเย็นชาก็อดกลัวแทนเพื่อนไม่ได้  โดยไม่รู้ตัวเลย..ว่าตัวเองก็งานเข้าเหมือนกัน...


                     
      “ลูกโทษของซูยองไม่พลาดครับ มัธยมเอสเอ็มได้เพิ่มไปสองแต้ม -- และตอนนี้ ลูกอยู่ที่ฮยอนอา  ฮยอนอาส่งให้ซอนเย เลี้ยงผ่านแทยอนได้อย่างง่ายดาย -- และ  เธอทำแต้มได้ครับ
      !  ไล่มาเป็น19-18!


                     
      ปรี๊ดด ด..


                     
      “หมดเวลาควอเตอร์ที่สามครับ”


                     
      ยูริลากแทยอนกลับเข้าข้างสนามที่ตอนนี้ยินนิ่งเป็นหินไปแล้วหลังจากโดนซอนเยเลี้ยงหลบไปหน้าตาเฉย  ..ทำไมมันไม่เหมือนตอนซ้อมเลยล่ะ  เธอกางแขนขวางแล้วนะ...


                     
      “ไหวหรือเปล่า แทยอน” ยูริถามเพื่อความแน่ใจพร้อมกับยื่นขวดน้ำให้ ก็แทยอนตอนนี้หน้าซีดเป็นหมาต้มไปแล้ว .. เล่นก็ยังไม่แข็ง ตื่นสนาม  ไหนจะกังวลเรื่องทิฟฟานี่อีก  ถ้าไม่เล่นเส้นเป็นเพื่อนกับกัปตันทีมป่านนี้ได้นั่งตบยุงอยู่ข้างสนามลูกเดียว


                     
      “ห..ห๊ะ  ไหวสิ..ไหว” ปากตอบเพื่อน แต่สายตามองขึ้นไปบนแสตนด์เชียร์ แต่ทิฟฟานี่กลับชันคางมองสนามที่ว่างเปล่าไม่ยอมหันมามองทางเธอเลย ...เค้าผิดไปแล้ว..ฟานี่อา..
      T T’




                     
      แม้ว่าควอเตอร์ที่สี่จะเริ่มขึ้นไปได้สักพัก  ทิฟฟานี่ก็ยังคงไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมส์หรือเสียงเชียร์รอบข้างเช่นเคย ซ้ำยังหนักกว่าเดิมเสียจนเจสสิก้าต้องหันมาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วง


                     
      “โกรธแทยอนเหรอ..”


                     
      “เปล่า..” น้ำเสียงราบเรียบถูกส่งกลับมาโดยไม่ต้องหันมามองตอบ  เจสสิก้าพยักหน้าหงึกหงักแกล้งเหมือนจะรับรู้   โกรธไม่โกรธก็ดูเอาเองแล้วกัน ตัวใครตัวมันล่ะทีนี้ ..ไม่รู้ว่าทิฟฟานี่ไปเอานิสัยเย็นชายามอยู่ในอารมณ์โกรธเคืองแบบนี้มาจากใคร...  ไม่รู้จริงๆเหรอ เจสสิก้า...




                      “...ถ้าสังเกตกัน  จะเห็นว่ารองประธานของพวกเราวิ่งว่อนไปทั่วสนามเลยครับ -- และลูกอยู่ที่ยูริ .. ยูริโดนรุมสอง ส่งกลับหลังให้แทยอน ..ว๊า...ลูกหลุดมือ โดนฮยอนอาแย่งลูกไปได้ -- ”


                     
      “มีสมาธิหน่อย” ยูริตบไหล่เตือนสติเพื่อนเบาๆ แทยอนดูแย่มากเลยทีเดียว..เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวตามใบหน้าขาวๆ อ้าปากหายใจหอบเล็กน้อย เหนื่อยไปกับการวิ่งวุ่นไปทั่วสนามคอยเป็นตัวป่วนการทำเกมของฝ่ายตรงข้าม(ที่ดูจะไม่เป็นผลนัก)  สัมผัสลูกบ้างเป็นครั้งคราว แต่ต้องรีบโยนส่งให้เพื่อน ไม่เช่นนั้นจะโดนแย่งลูกไปได้ง่ายๆ ไม่ก็ทำบอลหลุดมือเสียเฉยๆ


                     
      “ -- ฮยอนอาทำแต้มได้ครับ
      !  พลิกขึ้นนำเป็น 19-20!  ท่าทางมัธยมเอสเอ็มจะงานหนักแล้วครับ เหลืออีกสองนาทีเท่านั้น แต่สองนาทีอะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ -- ”


                     
      แทยอนใช้โอกาสอันน้อยนิดระหว่างที่เกมส์หยุดทรุดตัวชันเข่า มือซ้ายกุมชายโครงเพราะรู้สึกปวดแปล๊บที่สีข้าง  คนตัวเล็กยืดตัวขึ้นเมื่อแอมเบอร์ส่งลูกจากเขตหลังเส้นใต้แป้นบาสสูงชะลูดให้ยูริก็หมายถึงเกมเริ่มดำเนินต่อไป..  ลมหายใจร้อนๆไหลผ่านลำคอแห้งผากราวกับขาดน้ำมาเป็นวันๆก็ไม่ปาน สีข้างยังคงปวดตุบๆประท้วงในขณะที่เธอกัดฟันวิ่งต่อ



                     
      “ฟานี่..แทยอนดูแย่ๆนะ ..อ..อ้าว...จะไปไหนน่ะ รอด้วยสิ” เจสสิก้ารีบลุกขึ้น ขอทางจากคนที่นั่งอยู่รีบตามทิฟฟานี่ออกไป เกิดเสียงบ่นเล็กน้อยระหว่างทางเพราะบังอาจมาขัดจังหวะช่วงเวลาที่เกมส์กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่ดูเหมือนทิฟฟานี่จะไม่สนใจ  ร่างบางเดินลงจากแสตนด์เป็นที่เรียบร้อย ก้าวฉับๆโดยไม่รอเพื่อนมุ่งตรงไปยังข้างสนามที่มีโค้ชประจำทีมยืนคุมอยู่ ข้างๆเป็นยุนอา ข้อศอกเข้าเฝือกอ่อนๆเรียบร้อย


                     
      “พี่ฟานี่ มีอะไรเหรอคะ?” ยุนอาละสายตาจากการแข่งขันบนสนามหันมามองหญิงสาวสองคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริวเณนี้มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ  เอ..เกี่ยวสิ ก็คนรักของทั้งคู่กำลังวิ่งอยู่ในสนามนี่นา...


                     
      “จู่ๆก็วิ่งลงมา จะบ้าหรือไงฟานี่..” เจสสิก้าเอ็ดเพื่อนสาว ด้วยความกลัวว่าจะโดนเจ้าหน้าที่ไล่กลับขึ้นไป แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเลย ดวงตาทุกคู่ล้วนจับจ้องการแข่งขัน ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรอย่างอื่นทั้งนั้น  แล้วก่อนที่เจสสิก้าจะตั้งตัวได้ทันอีกรอบ ทิฟฟานี่ถลาไปยืนชิดติดหลังเส้นสนาม ป้องปากตะโกนหวังให้ใครคนหนึ่งซึ่งกำลังวิ่งเลิ่กๆลั่กๆอยู่ได้ยิน


                 
      “คิม แทยอน
      !  ถ้าเธอทำให้ทีมแพ้ ฉันจะงอนเธอจริงๆด้วย  คนบ้า!


                     
      แน่นอนว่าเจ้าของชื่อได้ยินชัดเจน  คนตัวเล็กชะงักเล็กน้อย เหลือบมองร่างบางที่ตอนนี้กอดอก ทำหน้าตาบูดบึ้งมาทางเธอ  หากช่วยจุดประกายไฟในตัวแทยอนให้ลุกลามมากขึ้นกว่าเดิม หัวใจโลดขึ้นด้วยความดีใจ อาการเหนื่อยหอบและจุกเสียดสีข้างดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอแล้ว



                     
      “ -- ลูกโยนข้ามฝั่งจากฮโยยอนถูกปัดไว้ก่อนจะถึงมือยูริ  แถวสองแทยอนเก็บลูกไว้ได้และส่งต่อให้ซูยอง ..ซูยองชู้ตไกลสามแต้ม
      !  -- ”


                     
      ลูกบาสเก็ตบอลจากมือซูยอง กระดอนกับแป้นบาสหมุนวนรอบห่วงอยู่หลายรอบก่อนจะทิ้งตัวหล่นออกมานอกวงสร้างความเสียดายให้กับทุกคน ..เสียงโห่ฮาดังอื้ออึง แข่งกับเสียงเชียร์จากทีมโรงเรียนฝั่งตรงข้ามที่เริ่มมั่นใจในชัยชนะในเวลาอีกไม่ถึงนาทีข้างหน้านี้!


                     
      -- ว๊าา.. น่าเสียดายมากๆครับ แต่ยูริยังกระโดดรับลูกไว้ได้ เธอโดนประกบถึงสองคน ยูริ...   --   โยนข้ามหัว โดนตัวยูบิน ออกข้างไปครับ   --   ฮโยยอนส่งหลังเส้น โยนไกลมาทางซูยอง โดนปิดไว้ ชู้ตไม่ได้  ส่งหลังคืนแอมเบอร์ จะส่งให้ยูริก็โดนปิดอีกครับ  --  แอมเบอร์ตัดสินใจส่งให้แทยอน!


                     
      “ชู้ตเลย แท!” ยูริตะโกนเสียงดัง


                     
      ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้น  แทยอนมองลูกบอลในมือและเงยหน้าขึ้นมองแป้นบาส แน่นอนว่ามันสูงกว่าเธอหลายเท่านัก แค่มองก็ท้อแล้ว..อย่าว่าแต่จะชู้ตตามที่ยูริบอกเลย


                     
      ในที่สุด..ลูกบาสเก็ตบอลก็ถูกส่งออกจากมือบางด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่ลอยโด่งขึ้นไป แต่ดูเหมือนแทยอนจะกะแค่ว่าให้มันลอยสูงเป็นพอ  ลูกบาสจึงพุ่งขึ้นลอยคว้างสูงกว่าแป้นไปหลายฟุตหากไม่ได้เฉียดห่วงเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องสงสัย ..เสียงโห่ฮาด้วยความเสียดายดังมาเป็นระยะ แต่แล้วก็ต้องเงียบกริบอีกครั้ง......


                     
      เป็นแทยอนคนเดิมรับลูกที่ตกลงมาไว้ได้ ..ไม่มีใครเข้ามาแย่ง ไม่มีใครมาปัดลูกทิ้ง.. ร่างเล็กกระโดดลอยตัวเล็กน้อย ส่งลูกบาสเก็ตบอลขึ้นไปอีกครั้งผ่านแรงแขน มือ และปลายนิ้วเป็นลำดับสุดท้าย..


                     
      แก๊งง ง
      !    สวบ บ! 


                      
      ลูกบอลกระแทกกับแป้นส่งเสียงดังฟังชัดท่ามกลางความตกใจของทุกคน ก่อนที่ลูกจะกระดอนชนขอบห่วงลู่ลงเสียดสีกับตาข่ายให้น้ำเสียงชัดเจนยิ่งกว่า  เสียงเชียร์โห่ร้องดังกึกก้องมาจากกองเชียร์เจ้าบ้าน ในขณะที่กองเชียร์ฝั่งตรงข้ามทำได้แค่ช็อคกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิด เฝ้าหวังลมๆแล้งๆว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น


                     
      “เข้าไปอย่างไม่น่าเชื่อครับ
      !  แทยอนทำแต้มขึ้นนำได้ 21-20!  --  และ เสียงนกหวีดหมดเวลาทันที! มัธยมเอสเอ็มเอาชนะไปได้ฉิวเฉียดสุดติ่งครับ!


                     
      “ไอ้แท  ฉันรักแก!!~” ยูริวิ่งโผเข้ากอดเพื่อนตัวเล็กแบบลืมเหนื่อยเป็นคนแรก ว่าแล้วก็ขอหอมหน่อยเถอะ..


                     
      “ว๊ากก ก
      !  ไอลิงบ้า!” แทยอนกระสันดันหน้ายูริออกจากแก้มของเธอ ความรู้สึกนิ่มๆบริเวณแก้มชวนทำเอาขนคอลุกตั้งชัน  แต่ยูริหรือจะสน แขนกอดรัดเพื่อนตัวเล็กแน่น จนอีกฝ่ายหายใจแทบไม่ออก


                     
      ช่วยไม่ได้..ก็คนมันหมั่นไส้  เล่นมาเด่นเอาตอนสุดท้ายแบบนี้ แย่งซีนลิงค่ะ~!


                     
      หลังจากนั้นแทยอนก็แทบจะหายใจไม่ออก ไม่ใช่แค่เพราะยูริกอดเธอไว้แน่นเกินไป หากตอนนี้ทั้งสองคนถูกรุมด้วยเพื่อนร่วมทีมและกองเชียร์บางคนจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร


                     
      “ดีใจด้วย
      !


                     
      “เธอแจ๋วมาก”


                     
      “นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว
      !


                     
      แทยอนยิ้มรับให้กับทุกคำพูด แต่สายตาของเธอมองลอดออกมาจากฝูงชนเพื่อมองหาคนๆเดียวที่เธออยากวิ่งเข้าไปหาหลังเกมส์จบถ้ายูริไม่เข้ามากอดเธอซะก่อน  ทว่าทิฟฟานี่ไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิม ..สาวเจ้ากำลังจะเดินออกจากสนามไปแล้ว
      !


                     
      “ฟานี่
      ! ฟานี่!  ...ขอโทษค่ะ  --   ฟานี่!” แทยอนพาตัวเองออกมาจากฝูงชนอย่างยากลำบาก ตะโกนร้องเรียกชื่อ หากแต่เสียงเซ็งแซ่ในสนามนั้นดังมากกว่าเสียงเธอหลายเท่านัก  หรือบางที..ร่างบางคงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน


                     
      “ฟานี่
      ! รอแทด้วย!


                     
      “แทยอน มารับถ้วย ......อ้อ..ช่างเถอะ..โชคดีนะเพื่อน” ยูริมองเพื่อนตัวเล็กวิ่งลัดเลาะหลบผู้คนจะไปหาทิฟฟานี่ ร่างสูงยักไหล่ก่อนจะรู้สึกได้ถึงรังสีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเย็นวาบไปทั่วตัว..ทั้งๆที่เหงื่อออกเนี่ยนะ..


                     
      “ควอน ยูริ
      !  ได้ข่าวว่าเธอร่วมกับแทยอนหลอกฉันกับฟานี่ใช่ไหม!


                     
      “ก..ก็...แทมันขอให้เค้าช่วยอ่ะ สิก้า .. เค้าไม่ผิดนะ”


                     
      “ไม่ต้องมาพูดดี
      !  ยังไงก็โกหก  อยากตายหรือไงห๊ะ!


                     
      “แหม...สิก้าก็...ดุแบบนี้ เดี๋ยวจับจูบกลางสนามเลยหนิ”


                     
      “ควอน ยูริ
      !

       





                     
      “ฟานี่  ฟานี่  เดี๋ยวก่อนสิ” แทยอนวิ่งเร็วเสียยิ่งกว่าตอนแข่งเสียอีก ถึงกระนั้นกว่าเธอจะตามทิฟฟานี่ทัน สาวเจ้าก็เกือบเดินออกจากสนามโรงยิมไปแล้ว


                     
      “ฟานี่ เดี๋ยวสิ
      ! จะรีบไปไหน” ในที่สุดคนตัวเล็กก็ตามทัน แทยอนฉุดรั้งข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้  แต่ทิฟฟานี่มีหรือจะยอมหยุดง่ายๆ คนช่างงอนบิดข้อมือให้ออกจากการเกาะกุมโดยไม่หันไปมองหน้าแทยอนเลยสักนิด


                     
      “ปล่อยนะ
      ! คนหลอกลวง!” งอนตามสูตรนางเอกละครหลังข่าวแบบไม่มีผิดเพี้ยน  พยายามสะบัดมือแทยอนออก แต่อีกฝ่ายกลับบีบมือเธอไว้แน่น ...เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆล่ะ  คนตัวเล็กหลอกเธอมาตลอดนี่นา ปากบอกว่าติดประชุมกรรมการนักเรียน หากกลับมาเฝ้าซุ่มซ้อมบาสเก็ตบอลโดยมียูริหนุนหลัง วันที่เจ็บตัว จนเลือดกำเดาไหลคงมาจากการซ้อมสินะ ...ทำไปเพื่ออะไรกัน แทยอน...


                     
      “ฟานี่ ฟังกันก่อนสิ
      !


                     
      “ไม่
      ! ไม่ฟะ.....ว๊าย!  ตาบ้า!  ปล่อยฉันลงนะ คิม แทยอน!


       
                     เด็กนักเรียนในสนามกีฬาต้องแตกฮือกันมากกว่าตอนรู้ว่าโรงเรียนตัวเองแข่งชนะเสียอีก  เมื่อนักกีฬาบาสหญิงที่ดูเหนื่อยล้ากับการแข่งที่เพิ่งจบไป แต่ไม่เคยเหนื่อยง้อคนรักช้อนร่างบางขึ้นพาดไหล่ ฝ่ายทิฟฟานี่ก็ร้องลั่น พยายามดิ้นรน และคอยทุบตีแผ่นหลังของคนตัวเล็ก  ..แล้วดูหน้าแทยอนสิ  ไม่ล้มไปทั้งคู่ก็บุญแล้ว
      !


                     
      “ยูล
      ! ขอใช้ห้องพักก่อนนะ!” แทยอนกัดฟันร้องตะโกนบอกเพื่อนที่กำลังหยอกล้อ(?)อยู่กับเจสสิก้า  ยูริหันมาทำหน้าเป๋อเหลอพอๆกับคนทั้งสนามในตอนนี้   ก็ฉากแบบนี้มัน..จำเลยรักชัดๆนี่นา!


                     
      “ตะ..ตามสบาย  แต่อย่านานนะ
      !


                     
      แทยอนดูเหมือนจะไม่รอฟังคำตอบสักเท่าไหร่ (ก็ตอนนี้เธอหนักจะตายอยู่แล้วหนิ) เดินลัดเลาะคนที่พากันแหวกทางให้ เข้าไปยังห้องพักนักกีฬา  เท้าเล็กดันประตูเข้าไป วางทิฟฟานี่ลงบนเบาะยาว ก่อนจะเดินกลับไปล็อคประตู  ..ทว่าเธอดูจะชะล่าใจเกินไปแล้ว ทันทีที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับคนรัก  เธอกลับเจอกำปั้นแทนซะนี่....


                     
      “คนหลอกลวง – คนโกหก – อยากเป็นนักใช่ไหมนักบาสน่ะ – ” ทิฟฟานี่รัวกำปั้นทุบตีไปตามร่างเล็กๆ ส่งผลให้แทยอนเจ็บระบมไปหมด  เจ็บมากๆด้วย..วันนี้กลับหอไป เธอได้นอนอืดแน่ๆ เพราะนอกจากจะล้าสุดจะล้าแล้ว เนื้อตัวยังชอกช้ำอีก


                     
      “โอ๊ย -- ฟานี่ -- ฉันเจ็บนะ -- โอ๊ย
      ! -- พอได้แล้ว -- ฮวัง มิยอง!” แทยอนคว้าข้อมือทิฟฟานี่เอาไว้ แต่ฤทธิ์งอนยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ร่างบางสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุม หมุนตัวกลับจะเดินหนี หากแต่แทยอนคว้าตัวมากอดไว้แน่น ทิฟฟานี่ที่ตอนแรกดิ้นขลุกขลักไม่ยอมก็ต้องผ่อนลงเมื่อคนตัวเล็กจงใจเป่าลมหายใจร้อนๆรดรินใบหูเธอ


                     
      “ไหนบอกว่าถ้าทีมชนะ จะไม่งอนแทไงคะ”


                     
      “ค...ใครบอก..ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย” ปฏิเสธทันควัน ทั้งๆที่หัวใจสั่นสะท้านและอ่อนลงไปมาก ..หากเธอก็ยืนยันได้ว่าไม่ได้พูดอย่างนั้นจริงๆ เธอบอกว่าถ้าไม่ทำให้ทีม
      แพ้จะไม่งอนต่างหาก ไม่ได้บอกว่าทีมชนะ  เหตุผลล้วนๆ!


                     
      “แล้วเดินหนีแททำไม”


                     
      “ปะ..เปล่านี่
      !  ปล่อยนะ  เหงื่อเต็มไปหมดแล้วยังจะมากอดเขาอีก” พูดจบคุณเธอก็ดันตัวแทยอนออก แต่มีหรือที่แทยอนจะยอมง่ายๆในเรื่องแบบนี้  มือเล็กตระกองใบหน้าหวานรั้งเข้ามากดจูบที่ริมฝีปากอิ่ม  ทิฟฟานี่ซึ่งพยายามปฏิเสธและคอยแต่จะดันไหล่แทยอนออก หากความนุ่มหวานละมุนที่แทยอนบรรจงมอบให้ทำให้เธอกลับมาอ่อนลงอีกครั้งอย่างเผลอไผล ลิ้นเล็กๆถูกสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากที่เผยอออกเล็กน้อยเพื่อควานหาความหวานอย่างซุกซนจนร่างบางรู้สึกว่าเรี่ยวแรงของตัวเองเริ่มถดถอยหายไป ที่ยืนอยู่ได้เป็นเพราะแทยอนประคองอยู่เท่านั้น


                     
      “อ๊ะ..” ทิฟฟานี่ร้องออกมาเมื่อรู้สึกตัวว่าโดนดันจนสะดุดหงายหลังล้มลงกับเก้าอี้เบาะยาว และเธอคงเจ็บตัวถ้าแทยอนไม่คอยประคองไว้  ร่างเล็กตามลงมานั่งข้างๆ ริมฝีปากยังคงประกบจูบ  ออกแรงรั้งเพียงนิดเดียวร่างบางก็ขึ้นมานั่งบนตัก


                     
      รสจูบหอมหวานยาวนานถูกถอนออกในที่สุด แทยอนอมยิ้มให้กับพวงหน้าแดงระเรื่อเพราะความเขินอาย กดจูบแผ่วเบาที่แก้มเนียนขาวถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเลือดฝาด ยิ่งทำให้ทิฟฟานี่ดูน่ารัก สวยมากขึ้นไปอีกในสายตาเธอ


                     
      “หวานจัง”


                     
      “คนบ้า” ทิฟฟานี่ออกแรงทุบบ่าเล็กๆด้วยความหมั่นไส้  เธอเสียทีให้แทยอนอีกแล้ว


                     
      “งั้นฟานี่คงบ้าตามแล้วล่ะ เพราะจูบกับคนบ้า” แทยอนกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างเจ้าเล่ห์ ยื่นหน้าหมายจะลิ้มรสความหวานจากริมฝีผากอิ่มอีกครั้ง แต่ทิฟฟานี่ดันใบหน้ารักษาระยะห่างเอาไว้


                     
      “ไม่ต้องเลย  ..เหงื่อเต็มหน้าไปหมดเลยดูสิ เดี๋ยวฟานี่ตัวเหม็นตาม ฟานี่ไม่ชอบคนตัวเหม็น”


                     
      “ตัวเหม็นเหรอ..ไม่เห็นเหม็นตรงไหนเลย ออกจะหอมเหมือนฟานี่ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ” ว่าแล้วก็กอดรัดร่างบางให้แนบชิดมากขึ้นไปอีก ก่อนจะกดจมูกสูดดมความหอม ซุกไซร้ตามลำคอขาวสวย ไม่สนใจเสียงร้องห้าม..จมูกซุกซนไล้มายังลำคออีกด้านอย่างจงใจกลั่นแกล้ง  ยิ่งทิฟฟานี่ต้องการจะผละออกมากเท่าไหร่ แทยอนก็ยิ่งกอดรัด และกดจูบไปตามลำคอและใบหน้า


                     
      “แท..ไม่เอา มันจั๊กจี้ พอได้แล้วหน่า..” แม้จะร้องปฏิเสธ แต่ก็หลุดขำออกมาเป็นระยะๆ มือไม้ที่พยายามดันแทยอนออกก็อ่อนแรงเหลือเกิน ความรุ้สึกเสียวซ่านบิดมวนอยู่ในช่องท้องและแผ่ชาไปทั่วร่างกาย หากคนช่างแกล้งก็ยังไม่ยอมหยุด


                     
      “ไอแท
      ! ไอแทยอน! ง้อฟานี่เสร็จหรือยัง พวกฉันจะเปลี่ยนเสื้อ” เสียงของยูริดังขัดผ่านเข้ามาภายในห้อง ทำเอาแทยอนหยุดชะงัก ส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ ..ไอลิงนะไอลิง ทำไมต้องมาขัดขวางความสุขกันด้วยหะ


                     
      “เออๆ เสร็จแล้วๆ”


                     
      ทิฟฟานี่รีบลุกขึ้นยืน ในขณะที่แทยอนเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด ยูริชะเง้อหน้าเข้ามาก่อนอย่างอยากรู้อยากเห็น   โอ้โห.. แทยอนง้อยังไงของมันกันนะ เล่นซะฟานี่หน้าแดงซะขนาดนั้น  แล้วนั่น..ง้อบ้านไหน กระดุมเสื้อนักเรียนถึงหลุดไปตั้งสองเม็ด  แถมยังมีรอยแดงๆที่คอ...รอยแดงๆที่คอ.....ฮ..เฮ้ยย
      !  O.,O


                     
      โป๊ก
      !


                     
      “โอ๊ย
      !” ยูริกุมกระหม่อมเหม่งๆที่เพิ่งโดนมะเหงกของเพื่อนตัวเล็กไปเต็มๆ


                     
      “มัวมองอะไรหะ  จะเข้าก็เข้ามาดิ – ” ดวงตาคู่สวยมองตามสายตาของยูริเมื่อครู่  จนไปหยุดอยู่ที่ทิฟฟานี่  “ – เฮ้ย ย
      !  ฟานี่..แกแอบมองฟานี่ของฉันเหรอไอลิง!” แทยอนรีบถลาเข้าไปหาคนรัก พลางติดกระดุมสองเม็ดบนให้ทิฟฟานี่  มันหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ....หืม..นี่เรามือไวขนาดนั้นเลยหรือไงกัน


                     
      “เฮ้ย..เปล่านะ เปล่า ไม่ได้ม๊องง.. ไม่ได้มองเลย”


                     
      “ควอน ยูริ  เมื่อกี้ที่แทยอนพูด เป็นความจริงใช่ไหม
      !


                     
      “ส...สิก้า 
      T.,T

       





                     
      แม้ว่าการแข่งขันชิงระหว่างโรงเรียนจะจบลงไปนานแล้ว หากในบางวันแทยอนก็ยังจะมาขลุกอยู่ในโรงยิมกับพวกยูริเหมือนเคย ต่างกันตรงที่ว่าในตอนนี้คนตัวเล็กไม่จำเป็นต้องปิดบังใครอีกต่อไปแล้ว  และทุกๆวันที่มีแทยอนก็จะมีทิฟฟานี่มานั่งเฝ้าอยู่ด้วย  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นผลดีต่อแทยอนสักเท่าไหร่เลย..


                     
      “ไอแท ตั้งใจเป็นลิงหน่อยสิ
      !  ฟานี่ไม่หายไปไหนหรอก!” ยูริแผดเสียงแว้ดราวกับคนสติแตก ถ้าไม่ติดว่าคนตัวเล็กนั่นเป็นลิงที่เธอต้องคอยพยายามโยนบอลข้ามไปมาให้เพื่อนคนอื่นที่ยืนล้อมกันเป็นวงกลมโดยไม่ให้แทยอนแตะลูกได้ เธอคงปาลูกบาสใส่หัวแทยอนไปนานแล้วด้วยความหมั่นไส้  ..ก็ดูมันสิ พอมีแฟนมานั่งเชียร์อยู่ก็ไม่เป็นอันทำอะไรเลย  ทำอย่างกับทิฟฟานี่จะหายวับไปจากที่นั่งเสียอย่างนั้นแหละ  มองกันจนจะท้องอยู่แล้วมั้งนั่น


                     
      “แทเป็นยังไงบ้างฟานี่” เจสสิก้าเดินเข้ามาส่งแก้วน้ำบรรจุของเหลวเย็นเฉียบให้เพื่อน  ทิฟฟานี่รับมาถือไว้ ผ่อนลมหายใจเบาๆ มองคนรักที่โดนยูริชี้ไล่ไปอีกฟากของสนาม


                     
      “ก็ดี..ไม่ค่อยโดนลูกกระแทกหน้าบ่อยเท่าเมื่อก่อน  วิ่งตามลูกไม่ค่อยทัน  เวลาเล่นลิงชิงบอลก็เป็นลิงตลอด  แล้วตั้งแต่วันแข่งก็ไม่เคยชู้ดลงห่วงอีกเลย  ฉันคิดว่าวันนั้นมันคงฟลุ๊คมากๆ  แถมเมื่อวานเพิ่งจะมารู้ตัวว่านิ้วซ้น ฉันเลยต้องมานั่งทายาให้..อุตส่าห์บอกว่าวันนี้ไม่ต้องมาซ้อมก็ยังจะดื้อมาให้ได้” ทิฟฟานี่กอดอก นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วเกิดเซ็งขึ้นมา ..เนื่องมาจากว่าแทยอนพยายามจะจี้เอวเธอ แล้วปรากฏว่าเจ้าตัวรู้สึกเจ็บนิ้วตงิดๆ พอเธอขอดูนิ้วและลองขยับไปมาเท่านั้นแหละ คนตัวเล็กก็ร้องลั่น  จึงต้องหาน้ำแข็งมาประคบ นั่งทายาให้แทบทั้งคืน .. ทำไมตอนเป็นถึงไม่รู้ตัวนะ ความรู้สึกช้าจริงๆเลย


                     
      “ค่อนข้างแย่นะ  ..แทยอนเคยบอกเธอหรือเปล่าว่าทำไมถึงหันมาเล่นบาส”


       
                     “ไม่ แทไม่เคยบอกฉัน” พูดพลางส่ายหน้าหงอยๆเป็นคำตอบ


                     
      “อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร ..พอดียูลแอบเล่าให้ฉันฟังล่ะ” เจสสิก้ายิ้มกริ่ม ลอบมองไปทางแทยอนที่กำลังเขย่งปลายเท้า ยืดแขนสุดเอื้อมแต่ก็ยังไม่ถึงลูกบาสเก็ตบอลในมือยุนอาอยู่ดี ก่อนที่ฝ่ายยุนอาจะขยับมือนิดเดียวลูกบอลก็ย้ายไปอยู่กับซูยอง

       

       


                     
      “แทงกู  ถามจริงๆเถอะ ทำไมถึงอยากมาเล่นบาส” ยูริเอ่ยปากถามในขณะที่พวกเธอกำลังเดินกลับเข้าไปในห้องพัก หรือเรียกได้อีกแบบว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  พลางส่งขวดน้ำเย็นเฉียบให้แทยอนซึ่งรับไปแต่โดยดี


                     
      “เพราะฟานี่..” คำตอบได้ที่ได้รับกลับมาไม่ได้ทำให้ยูริแปลกใจนัก คิดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะว่าคำตอบต้องออกมาแบบนี้ ไม่ใช่เพราะฟานี่แล้วจะเป็นเพราะใครได้อีกที่แทยอนอยากทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบได้ขนาดนี้  ร่างเล็กดื่มน้ำจากปากขวดอย่างกระหาย สายน้ำเย็นเฉียบไหลบาดลำคอแห้งผากช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น  ก่อนจะเริ่มพูดต่อ


                     
      “..เมื่อสองสามวันก่อน ฟานี่บอกว่าชอบนักบาส เพราะดูเซ็กซี่  แกว่าฉันเซ็กซี่พอยัง?” แทยอนหันมาทำตาใสแป๋ว ผายมือให้ร่างสูงก้มลงมองเรือนร่างของตัวเอง พลางหมุนตัวไปมานำเสนอเต็มที่


                     
      “พอเถอะ เดี๋ยวฉันสายตาเสีย ...แล้วแกคิดว่าฟานี่เขาจะชอบหรือไง  อย่างเมื่อวานซืน พอฟานี่เห็นแกอยู่ที่นี่ แถมยังเลือดกำเดาไหล ก็โกรธพอดูไม่ใช่เหรอ” ยูริทวนความจำ ถึงมันจะมีแต่บรรยากาศหวานๆมากกว่าที่จะงอนง้อกันก็เถอะ  แต่เธอก็พอสังเกตเห็นแววตาทิฟฟานี่ทันทีที่เห็นแทยอนอยู่ในโรงยิม ..แอบน่ากลัวกว่าเจสสิก้าในบางครั้งอีก


                     
      “ไม่รู้สิ...” เห็นได้ชัดว่าคำถามของยูริทำให้แทยอนดูหมดความมั่นใจ หงอยลงไปถนัดตา  มือเล็กเริ่มบีบขวดน้ำในมือแน่นจนขวดบุบ “...ฟานี่บอกฉันเองว่าชอบคนตัวสูง ขาว มีเวลาให้ เล่นกีฬาเก่งโดยเฉพาะบาส – ที่ฉันมีอยู่มันยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ”


                     
      “เฮ้อ..แกโดนฟานี่อำซะแล้วล่ะมั้ง” ยูริลอบยิ้ม มือดันบานประตูเข้าไปในห้องพัก ยุนอาเปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังวุ้นอยู่กับกองเสื้อผ้าของเธอ ซูยองยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมห้อง ฮโยยอนชะโงกหน้ามองดูแอมเบอร์เล่นเกมส์พีเอสพี  จึงไม่มีใครหันมามองตอนที่พวกเธอสองคนเข้ามาในห้อง


                     
      “แต่ฟานี่ดูจริงจังมากเลยนะตอนที่พูดน่ะ  แถมหมู่นี้ยังมีรุ่นพี่ที่ไหนมากมายมาคอยตามเกาะแกะอยู่นั่นแหละ” แทยอนชักสีหน้าตึงเมื่อนึกถึงเวลาที่เธอไปเจอทิฟฟานี่ยืนคุยกับใครก็ไม่รู้ บางครั้งเวลาเดินด้วยกันก็มีคนทักทิฟฟานี่ตลอดทำอย่างกับว่าเธอไม่ได้เดินอยู่ข้างๆอย่างนั้นแหละ หนำซ้ำเจ้าตัวยังไม่รู้สึกรู้สา ส่งยิ้มหวานให้ใครต่อใครไปทั่ว  รู้ว่าอัธยาศัยดี..แต่ดีเกินไปก็ไม่ไหว คนมันหวง
      !


                     
      ยูริไม่ตอบ แสร้งทำเป็นหาของในตู้ล็อกเกอร์ ใช้บานประตูตู้ซ่อนรอยยิ้มจากแทยอนจอมซื่อบื้อ  ..อันที่จริง เธอพอรู้มาจากเจสสิก้าบ้าง ว่าบางอย่างที่ทิฟฟานี่ทำไปเพราะประชดหมาจอมบ้างาน บ้าประชุม บ้ากรรมการนักเรียน  การที่ทิฟฟานี่มาคอยกรี๊ดเชียร์นักกีฬาทุกครั้งที่มีการแข่งก็เพื่อยั่วโมโหแทยอน และที่เจ้าตัวพูดกรอกหูถึงเสป็กในฝันก็คงจะไม่พ้นเรื่องนี้หรอก ..แต่มันก็ได้ผลดีใช่ย่อย ไม่อย่างนั้นแทยอนคงไม่ลนลานขนาดนี้


                     
      “แต่ฟานี่เขาก็เลือกแกไม่ใช่หรือไง  ทำไมไม่คิดตรงจุดนี้บ้างหะ ...ระหว่างเจ้าพวกนักบาสหุ่นเซ็กซี่ ทำอะไรก็ดีไปหมด จะเดินไปไหนก็มีแต่คนกรี๊ด กับ ลูกหมาบ้าเรียน บ้างาน ยิ่งพอได้เป็นคณะกรรมการนักเรียนก็ยิ่งบ้าหนักเข้าไปใหญ่  วันๆไม่ทำอะไรนอกจากประชุม  ตัวก็เตี้ย เจ้าอารมณ์  หื่นอีกต่างหาก... คิดบ้างสิ ว่าทำไมฟานี่ถึงลดตัวลงมาเลือกแก” ยูริพูดจี้จุด แต่ก็ยังไม่วายแอบแขวะไปเล็กน้อย ..ทนความซื่อบื้อไม่ไหว ขอเหน็บหน่อยแล้วกัน


                     
      “ก..ก็...ฉัน....เฮ้ เดี๋ยวนะ..เมื่อกี้แกแอบหลอกด่าฉันใช่ไหม  ไอลิงดำ
      ! อย่าอยู่เลย!” แทยอนคว้าลูกบาสในห้องปาใส่ยูริแม่นอย่างกับจับวาง แต่โชคดีที่ร่างสูงรับไว้ทัน ..ทำไมพอมาแบบนี้มันแม่นจัง..  แต่ไม่มีเวลาให้คิดมากเพราะหลังจากนั้นพวกเธอก็วิ่งไล่จับกันรอบห้อง กว่าจะหยุดได้ก็เมื่อยูริเผลอวิ่งไปชนแอมเบอร์จนเกมส์พีเอสพีหลุดออกจากมือบินหวือร่วงลงพื้นไปนั่นแหละ...




       

                      ทิฟฟานี่นั่งอมยิ้มไปมา ช่วงเวลานี้เธอรู้สึกขัดเขินจนแทบไม่กล้าเงยหน้ามองเพื่อนเลยทีเดียว  กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีใครบางคนมาสะกิดไหล่เธอ..


                     
      “เอ่อ..ใช่พี่ทิฟฟานี่ใช่ไหมครับ”


                     
      ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก ใบหน้าหวานฉายแววงุนงงออกมาไม่น้อย คิ้วสวยเลิกขึ้นมองเด็กหนุ่มที่ยืนทำท่าทางเขินอายอยู่ข้างๆ ในมือมีกระดาษหนึ่งใบกับปากกาเมจิก  กำลังยืนตะลึงงันเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเด็กสาวสองคนที่ขึ้นชื่อว่าน่ารักที่สุดในโรงเรียนน่ะสิ


                     
      “มีอะไรกับฟานี่หรือเปล่าคะ?” เป็นเจสสิก้าที่ยื่นหน้าเข้ามาถาม  เด็กหนุ่มตัวสูงหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะยื่นกระดาษเปล่าพร้อมปากกาเมจิกให้ทิฟฟานี่ที่ทำหน้างงหนักเข้าไปใหญ่ ..จะจีบหรือไงกันนะ?  แล้วสมัยนี้เขาเลิกจีบโดยการใช้ดอกไม้กันแล้วเหรอ?


                     
      “เพื่อนผม..แอบชอบพี่  เขาฝากผมมาขอเบอร์ครับ” เด็กหนุ่มชี้นิ้วโป้งไปทางด้านหลังซึ่งมีกลุ่มเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันยืนมองมาทางนี้กันทุกคน   เจสสิก้าหรี่ตามองตาม...ขอกันง่ายๆขนาดนี้เลยเหรอ?


                     
      “เอาเป็นอีเมล์แทนได้ไหมคะ พอดีฉันไม่ชอบคุยโทรศัพท์” ทิฟฟานี่ยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร ทำเอาเจสสิก้าหน้าเหวอ..นี่ก็ให้ง่ายไปมั้ง  รู้หรอกหน่าว่าชอบเห็นใจคนอื่น และกลัวคนเสียความรู้สึก  แต่เดี๋ยวก็งานเข้าหรอก..


                     
      “มีอะไรกัน  นายจะเอาอะไร”  นั่นปะไร..คนสวยเคยเดาผิดซะที่ไหน  คิดปุ๊บมาปั๊บไม่ต้องรอให้เสียเวลา ... แทยอนเดินดุ่มๆเข้ามาขวางทิฟฟานี่เอาไว้ มือเล็กคว้ากระดาษกับปากกามาจากมือคนรัก เผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มผู้โชคร้ายยอมตายเพื่อเพื่อน  น้ำเสียงเข้มน่ากลัวบ่งบอกว่างานกำลังจะเข้าในไม่ช้า


                     
      “บ...เบอร์พี่ทิฟฟานี่ครับ” เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก เจ้าเตี้ยนี่เป็นใครกันนะ
      T T’


                     
      “อ๋อเหรอ..” วินาทีนั้น ดูเหมือนแทยอนจะทำท่าฉีกกระดาษทิ้ง แล้วขยำให้กลายเป็นผุยผงไปเสียเลย  หากแต่ผิดคาด..ร่างเล็กตวัดปลายปากกาเขียนตัวเลขหวัดๆลงบนกระดาษ ก่อนจะยื่นให้เด็กหนุ่มซึ่งมีสีหน้าตะลึงงันหนักกว่าเดิม


                     
      “เอาไป..เบอร์ฉัน
      !  ถ้าอยากโทรมาหาทิฟฟานี่ก็ต้องผ่านฉันก่อน  ไม่รับประกันว่าหูบอบบางของนายจะทนได้หรือเปล่านะ  ไปได้แล้วเจ้าเปี๊ยก  แล้วอย่ามายุ่งกับแฟนของฉัน!” แทยอนชี้นิ้วไล่เด็กหนุ่มที่ยอมเดินกลับไปแต่โดยดี พลางทำปากขมุบขมิบบ่นไล่หลังจนฟังไม่ได้ศัพท์  ...ว่าแต่ไปเรียกเขาว่าเปี๊ยก ไม่ได้ดูตัวเองเลยนะนั่นแทยอนอา....


                     
      “ฮวัง มิยอง
      !  ฉันรู้นะว่าเมื่อกี้เธอกำลังจะแจกเบอร์เจ้าเปี๊ยกนั่น ทีหลังอย่าแจกเบอร์ใครสุ่มสี่สุ่มห้า  ฉันไม่ชอบ! เข้าจะ.......” หากแทยอนจะพูดว่าอะไรต่อไป ไม่มีใครรู้  เมื่อริมฝีปากของคนกำลังหึงหวงถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากนุ่มของทิฟฟานี่ที่ถลึงตัวลุกขึ้นยืน มือบางประคองใบหน้าแทยอนเข้ามาจูบเสียดื้อๆ


                     
      แทยอนที่ตอนแรกดูงงงันกับจูบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เริ่มตอบสนอง มือเล็กโอบรอบเอวทิฟฟานี่รั้งให้ร่างกายแนบชิดกัน ..ทั้งสองคนจูบกันกลางโรงยิม ท่ามกลางความตะลึงงันของเจสสิก้าที่นั่งอยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุด ..มันจูบกันดื้อๆอย่างนี้เลยเหรอ รอให้กลับหอก่อนหรือลากกันเข้าไปจูบในห้องพักลับๆตาคนหน่อยไม่ได้หรือไงหะ ...คนอยู่กันเต็มโรงยิมโว้ยย
      !


                     
      “ไอสองคนนี้  พอมันจะไม่แคร์ ก็ไม่แคร์กันจริงๆ” ยูริบ่นพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่แทยอนกับทิฟฟานี่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าคนนอกอยู่กันเยอะแยะ ผละออกจากกัน ใบหน้าถูกฉาบไปด้วยสีแดงด้วยกันทั้งคู่


                     
      “ทีหลังไม่ต้องทำอะไรฝืนตัวเองอีกนะ” มือบางลูบแก้มเนียนของอีกคน  ใบหน้ายังคงแนบชิดติดกัน


                     
      “อืม..” แทยอนส่งเสียงตอบในลำคอ เพราะดูเหมือนเรี่ยวแรงจะหดหายไปหมดหลังจากรสจูบกะทันหันเมื่อครู่  ..แต่แอบสะใจเล็กน้อย เมื่อเหลือบมองเด็กหนุ่มกลุ่มที่จะเข้ามาขอเบอร์ทิฟฟานี่  จ๋อยกันไปเป็นแถบๆ  ..เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจ น้องเอ๋ย..


                     
      “เพราะเสป็กของฟานี่..ข้อสุดท้ายที่แทไม่ยอมฟังให้จบ ฟานี่จะบอกว่าข้อที่พูดมาทั้งหมดเป็นถือเป็นโมฆะ  ถ้าใครคนนั้นไม่ใช่เธอ  คิม แทยอน” พูดจบก็แตะเรียวปากที่แก้มเนียนของอีกฝ่ายแผ่วเบา ส่งยิ้มตาปิดที่ทำให้คนตรงหน้าหลงรักมันทุกครั้ง และต้องคอยหวงไม่ให้รอยยิ้มนี้ไปตกอยู่ที่ใครที่ไม่ใช่เธอ


                     
      “ขอจูบอีกได้ไหม..”


                     
      “ไม่ได้..อายเป็นนะ  ตาแทบ๊อง” ดันไหล่ร่างเล็ก พร้อมกับเขกศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ  ก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปทางห้องพักนักกีฬา ...เอ่อ..เปิดทางชัดนี่ ทิฟฟานี่


                     
      “แม่หมี
      ~  รอเค้าด้วย..~” แทยอนเดินตัวลอยตามหลังคนรักหายเข้าไปในห้องพัก  ทิ้งให้เจสสิก้านั่งอึนอยู่กับความหวานเลี่ยนที่ทั้งคู่ทิ้งไว้ให้เป็นที่ระลึก ไม่คิดเลยว่าจะหวานกันขนาดนี้ ทิฟฟานี่ไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลยนี่นา..


                     
      หากแต่เสียงโทรศัพท์มือถือของใครบางคนก็ดังแหวกขึ้นมาดึงความสนใจไปจากเจสสิก้า ..ยัยทิฟฟานี่ลืมเอาไว้หรือเนี่ย..  เอ๊ะ
      ..นี่มันของยูริที่ฝากเธอไว้นี่นา แต่ยูริดูท่าจะไม่ว่าง รับแทนก่อนแล้วกัน..


                     
      “สวัสดีค่ะ..”


                     
      [ “พี่ยูริเหรอคะ ทำไมเสียงแปลกๆไปล่ะคะ ไม่สบายเหรอ?  พักผ่อนเยอะๆสิ เป็นห่วงนะ” ]  เสียงใสจากปลายสายดังเจื้อยแจ้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เธอกำลังพูดอยู่ไม่ใช่ยูริอย่างที่คิด


                     
      “เธอเป็นใคร” เจสสิก้าถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เย็นเฉียบราวกับพื้นน้ำแข็งทางขั้วโลกเหนือ  ตวัดสายตาไปทางยูริที่เดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าที่เจสสิก้ากำลังคุยอยู่นั้นเป็นโทรศัพท์ของเธอเอง ..เผื่อคุณแม่โทรมาน่ะ.. แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ซะแล้วสิ


                     
      [ “พี่ยูริจำซึงยอนไม่ได้เหรอคะ..ก็วันนั้นพี่ยูริยังให้เบอร์ซึงยอนมาเพราะอยากให้ซึงยอนเก็บความลับของเราเอาไว้ไงคะ” ] เสียงใสจากปลายสายเอ่ยอย่างมีความสุข..ไม่ใช่ความลับของเราอะไรหรอก เธอแค่พูดเข้าข้างตัวเองไปอย่างนั้นเอง  เพราะเรื่องนั้นมันก็เป็นแค่ปิดบังเรื่องที่แทยอน รองประธานนักเรียนตัวเล็กมาฝึกซ้อมบาสเก็ตบอลที่นี่ก็เท่านั้น


                     
      ยูริหน้าซีดเผือดเมื่อเจสสิก้ากดวางสายอย่างไร้เยื่อใย  ดวงตายังจับจ้องมาทางเธอจนร่างสูงรู้สึกราวกับว่าโดนแช่แข็งไปเรียบร้อยแล้ว ..ขาขยับไม่ได้เลย  อย่าทำอะไรเขานะ ที่รักจ๋า...


                     
      รอยยิ้มเย็นเยือกที่เจ้าตัวพยายามปั้นให้มันอ่อนหวาน  มือบางเอื้อมลูบไล้ใบหน้าคมเข้ม  หากแต่มันทำให้ยูริรู้สึกวาระสุดท้ายของตัวเองได้มาถึงแล้ว  ..ทำยังดี.. ดึงเข้ามาจูบกลางโรงยิมแบบทิฟฟานี่เลยดีหรือเปล่านะ แต่ไม่เอาดีกว่า..คงได้ตายเร็วกว่าเดิม...


                     
      “ความลับของเราหรือไงคะที่รัก..” เจสสิก้าใช้น้ำเสียงเดิมแบบเมื่อครู่ แลดูหวานเจี๊ยบจับขั้วหัวใจ  ยูริยิ้มแห้งๆไม่รู้ว่าเจสสิก้าพูดถึงเรื่องอะไร แต่มันคงไม่ใช้เรื่องดีอย่างน้อยก้ต่อตัวเธออย่างแน่นอน  อยากยกมือขึ้นปาดเหงื่อจังเลย


                     
      “ตายซะเถอะ  ควอน ยูริ
      !

      END.



      -------------------------------------------------------------------------------------------

      ในที่สุดก็จบแล้วว วเย้ !!~   จุดพลุ~  ฮ่าๆๆ

      แต่ดูเหมือนจะขาดอะไรไปอย่างตามที่สัญญาไว้แฮะ..ต้องขอโทษด้วย เราแต่งNCไม่เป็นจริงๆ ลบทิ้งหมดเลย - -*

      เป็นเรื่องสั้นที่ยาวมาก..แต่ไม่ได้ยาวเพราะอะไรหรอก...ไรท์เตอร์อ่อนหัดเอง  รวบรัดเรื่องไม่เป็น  มัน2shot ได้เลยนะเนี่ย

      แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ  ไม่แคร์ซะอย่าง กร๊ากก 555+  (ไรท์เตอร์เกรียน 55)

      แถมมาลงซะช้า ผิดสัญญาไว้อีก ผิดสัญญาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่มีข้อแก้ตัวค่ะ.. T^T

       

      ขอบคุณสำหรับรีดเดอร์ที่อ่านจนจบ ตามมาตั้งแต่ลงตอนแรกและตามมาเรื่อยๆด้วยความหวังว่าเมื่อไหร่จะจบสักที  ฮ่าๆ

      ขอบคุณคนเม้นด้วยนะคะ ถ้าไม่มีก็ไม่รู้จะหากำลังใจดีๆแบบนี้ได้จากไหนจริงๆ ..ซึ้ง T T’

      ปิดท้ายด้วยความเครียดของไรท์เตอร์...ปิดเทอมนี้เรียนพิเศษทุกวันไม่มีวันหยุดเลย ยกเว้นสงกรานต์... นอกจากจะต้องมากังวลเรื่องเรียนแล้ว ยังต้องมากังวลเรื่องไปโรงเรียนยังไง (ให้ทันและปลอดภัย รถไม่ติด ไปเรียนไม่สาย) ลำบากดีจริงๆถ้าจะออกไปไหนช่วงนี้..


      และส่งท้ายด้วย เรื่องบอล หวังว่าพรุ่งนี้จะชนะนะ...ไม่ชนะเพื่อนหงส์มากี่นัดแล้วเนี่ย..เก่งแต่กับแมนยูจริงๆเลยย
      T____T’

      ปล. สิก้าโหดปิดเรื่อง ไว้อาลัยลิงค่ะ  555 5

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×