[SF SNSD] ..My Prince.. (Yuri)
ฉันไม่ได้รักเธอ..เพราะเธอเป็นเจ้าชายในฝัน แต่ฉันรักเธอ..เพราะเธอคือเจ้าชายของฉัน [TaeNy Feat. YulSic] ( END. )
ผู้เข้าชมรวม
12,679
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
My Prince
"When you love someone..you'll do anything to reach the heart
of the one you love."
"เมื่อคุณรักใครสักคน...คุณจะทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขา"
คิม แทยอน
ฮวัง มิยอง! มองฉันบ้างสิ ฉันเป็นแฟนเธอนะ!
ฮวัง มิยอง (ทิฟฟานี่)
ให้ตายสิ เธอกลายเป็นคนคิดมากแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
Love song Byเจ้าชายของฉัน - พัดชา
Design by TheDTAC
คิด..มากจัง เหมือนเธอไม่เคยรู้เลย ว่าฉันรักเธอกว่าใคร
แล้ว..ตัวเธอ จะเปลี่ยนแปลงเพื่อใครนะ
ฉันรักเธอ คือเหตุผลจากใจ และฉัน..เลือกเธอ ที่เป็นแบบนี้
แค่เป็นเธอที่เป็นตัวเธอแค่นั้นพอ ไม่ได้ขอให้เป็นเจ้าชายในฝัน
แค่เป็นเธอที่เป็นแบบเดิมให้เหมือนทุกๆวัน เพราะเจ้าชายของฉันก็เป็นแค่เธอเท่านั้น
คิด..ยังไง ฝืนใจตัวเองเพื่อใคร เมื่อฉันรักเธอแบบเดิม
ฉัน..รู้เพียง เธอคนเดิมน่ะดีแล้ว
ฉันรักเธอ คือเหตุผลจากใจ และฉัน..เลือกเธอ ที่เป็นแบบนี้
แค่เป็นเธอที่เป็นตัวเธอแค่นั้นพอ ไม่ได้ขอให้เป็นเจ้าชายในฝัน
แค่เป็นเธอที่เป็นแบบเดิมให้เหมือนทุกๆวัน เพราะเจ้าชายของฉันก็ยังเป็นเธอเสมอ..
-------------------------------------------------------------------
* ขอบคุณ OPV TaeNy My Prince ของคุณ TheDTACT ที่ช่วยจุดต่อมจิ้นขึ้นมา
* Credit Icon by .. T .sky @ believe-in-taeny
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฉันรักเธอ ที่เธอเป็นเธออยู่แบบนี้
เป็นคิม แทยอนคนนี้ เป็นเจ้าชายของฉัน
ไม่ใช่เจ้าชายในฝันของใครหลายๆคน
...
------------------------------------------------------------------------------------------------
คิม แทยอนนั่งซึมกระทือเป็นรูปปั้นหินแข็งทื่อไม่ยอมขยับตัว ไม่สิ..ถ้าจะพูดให้ถูก คนตัวเล็กไม่มีอารมณ์จะทำแบบนั้นมากกว่า ในเมื่อสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเธอไม่ได้น่าพิสมัยขนาดนั้น ไม่ได้กระตุ้นต่อมเพื่อดึงดูดความสนใจไปจากเธอเท่าไหร่นัก ดั่งเช่นที่สามารถทำกับคนอื่นภายในสนามแข่ง และ..กับคนรักของเธอเอง
“กรี๊ดด ด~ แทแท ดูนั่นสิ พี่ซีวอนดังค์อย่างเท่ห์อ่ะ แทแทเห็นไหม” ไม่ทันขาดคำ ร่างบางกระโดดร่าไปมาเป็นหมีโลดออกหน้าออกตา พร้อมกับส่งเสียงร้องเชียร์เหมือนกับคนอื่นๆที่นั่งอยู่รอบๆตัวพวกเธอ เพียงแต่สาวเจ้าดูดีใจเกินเหตุ ย้ำ! ว่าเกินเหตุ แม่เจ้าประคุณเล่นยกแขนโอบรอบคอคนรักเขย่าไปมา จนแทยอนต้องลุกขึ้นยืนดีใจไปด้วยหลังจากที่นั่งรากงอกก้นแฉะอยู่นานแม้จะไม่ได้อยากลุกเท่าไหร่ก็ตาม
“อืม..เห็นแล้วๆ” ตอบเพื่อเอาใจคนรักไปอย่างนั้น ความจริงเธอไม่ได้สนใจสิ่งที่คนรักเรียกร้องอยู่เท่าไหร่หรอก ร่างเล็กปรายตามองชายหนุ่มผิวขาวเนียนละเอียดจนดูเหมือนคุณชายก็ไม่ปาน แปะมือไฮไฟว์แสดงความดีใจกับเพื่อนก่อนจะกลับไปยืนประจำตำแหน่ง
แทยอนนั่งแปะลงตามเดิม คราวนี้ถึงกับนั่งชันคาง ศอกยันเข่าไว้ ..จะอะไรกันนักกันหนากับบาสเก็ตบอล เจ้าพวกนั้นก็วิ่งไปวิ่งมาจนเธอมองแทบไม่ทัน สนามออกตั้งกว้างไปเอาแรงวิ่งมาจากไหนไม่รู้ เพื่อแย่งลูกบอลสีส้มแก่ๆ อันใหญ่ๆ หนักๆไปชู้ดให้เข้าห่วงบนแป้นสูงชะลูดแค่นั้น? แล้วขอทีเถอะ อย่าโชว์ลีลาท่าทาง เสต็ปบ้าบออะไรกันให้มากนัก เพราะแค่นี้แม่หมีของเธอก็แทบจะส่งเสียงเชียร์จนแทบจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว ไหนจะหันมาเขย่าคอเป็นเหตุให้เธอผมเผ้ากระเซอะกระเซิงทั้งๆที่นั่งอยู่เฉยๆแท้ๆ
ไม่อยากจะพูด! ลูกดังค์แบบนายซีวอน คิม แทยอนคนนี้ก็ทำได้!!
“พักควอเตอร์สามแล้ว เดี๋ยวเค้ามานะแทแท”
“จะไปไหนอ่ะ?” พูดครบประโยคเป็นครั้งแรกหลังจากถูกชวน (หรือบังคับ?) ให้เข้ามานั่งช่วยเชียร์เป็นเพื่อน แต่แทยอนดูจะไม่ค่อยทำหน้าที่ช่วยเชียร์เท่าไหร่นัก ก็บอกไปแล้วไง..ว่าเธอเบื่อ!
“ไปกับเจสแป๊บเดียว เดี๋ยวมานะคะ” ลงทุนกอดคอ พูดจาหวานส่งสายตาออดอ้อน มีหรือแทยอนจะทนไหว
“รีบไปรีบมานะ แทไม่อยากนั่งคนเดียว”
“จ้าๆ ฉันรับประกัน ไม่พายัยหมีไปขายหรอกหน่า” เจสสิก้าอดแซวคู่รักไม่ได้ ..เป็นเพราะคนรักเธอไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้หรอก ไม่งั้นคงไม่ปล่อยให้คู่หมาหมีทำคะแนนอยู่แบบนี้
“ค่ะ” ทิฟฟานี่ไม่สนใจคำแซวของเพื่อน จมูกโด่งรั้นชนเบาๆกับแก้มนวลใสของคนรักอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นเดินจูงเจสสิก้าลงจากแสตนด์เชียร์ไปยังห้องพักนักกีฬา หายลับไปจากสายตาแทยอน
คงจะพากันไปหายูริ คนรักของเจสสิก้าที่กำลังจะลงแข่งในเกมถัดจากนี้.. พยายามคิดในแง่ดีที่สุด ถ้าความคิดนั้นไม่ถูกพังทลายลงโดยใครบางคนในชั่วพริบตา
“เฮ้! ว่าไงแทงกู ทำไมนั่งเป็นหมาเฝ้าแสตนด์อยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ เจสกับฟานี่ไปไหน?” ไม่ผิดใช่ไหมถ้าจะแสดงอาการผิดหวังออกนอกหน้ายามได้เห็นเพื่อนสนิทของตัวเองในตอนนี้ ไอ้ลิงเอ้ย! จะแวะมาหากันก็ช่วยดูจังหวะหน่อยได้ไหม? เครียดนะเนี่ย..
“ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ ไม่ไปเตรียมตัวหรือไง”
“เรียบร้อยแล้ว รอแค่ให้เขาเรียกไปรายงานตัวก็เท่านั้น ข้างในเลยมีแต่พวกรุ่นพี่ผู้ชายน่ะ เดี๋ยวก็คงออกมาแล้ว”
ยูริพูดไม่ทันขาดคำ เสียงกระดิ่งดังลั่นสนามเตือนให้นักกีฬาลงสนาม แทยอนมองไปทางห้องพักนักกีฬาก็เห็นร่างของสองสาวที่พวกเธอกำลังพูดถึงพากันเดินออกมา
“นั่นไงล่ะ! เจส ฉันอยู่ตรงนี้ ..... สงสัยคงจะสวนทางกับฉันแน่เลย” ยูริโบกไม้โบกมือไปมาไม่อายใครเพื่อเป็นสัญญาณให้เจสสิก้าเดินตรงมาทางนี้ ในขณะที่สีหน้าของแทยอนดูจะไม่เป็นใจกับบรรยากาศรอบข้างหนักกว่าเดิมเสียอีก
ยิ่งแอบเห็นว่าหนึ่งในรุ่นพี่นักบาสชายคนหนึ่ง ขยิบตาพร้อมกับยกมือหวังจะแตะศีรษะคนรักของเธอนั่นแล้วยิ่งแล้วใหญ่ หนำซ้ำทิฟฟานี่ดูจะไม่ได้ปฏิเสธอะไรเลยแม้แต่น้อย ยังจะส่งยิ้มหวานจนตาปิดที่เธอหวงแสนหวงให้ชายหนุ่ม ...เห็นแล้วหงุดหงิด!
“นั่น..รุ่นพี่อูยองกับทิฟฟานี่ แกเห็นไหม แทยอน ..สงสัยจะไม่ได้ตั้งใจไปหาฉันซะแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆ ๆ” ยูริหัวเราะขำ ดูก็รู้ว่าแกล้งเย้าหยอกคนตัวเล็กเล่นๆ หากแต่แทยอนคิดจริงๆ!
“จำไว้เลยนะ แม่หมี..”
ทิฟฟานี่กับเจสสิก้านั่งทอดอารมณ์สบายๆอยู่ใต้ต้นไม้ บนโต๊ะหินอ่อนสีขาว แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะฝ่ายเจสสิก้าจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเสียมากกว่า ปล่อยให้อีกคนนั่งชันคาง เหม่อลอย จะให้เธอชวนเพื่อนคุยก็เกรงใจ เห็นตั้งใจอ่านหนังสือก็ไม่กล้าขัด...กลัวโดนเอฟเฟ็ค...
เนื่องจากคนรักมีหน้าที่เป็นถึงรองประธานนักเรียนฝ่ายกิจกรรม จำเป็นต้องไปประชุมงานอะไรสักอย่างเกี่ยวกับโรงเรียน ทำให้เธอต้องมานั่งคอยเพราะไม่อยากกลับหอคนเดียว เจสสิก้าจึงอาสามานั่งคอยเป็นเพื่อน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต่างจากปล่อยให้เธอนั่งคอยคนเดียวไปเท่าไหร่หรอกนะ!
“น้องฟานี่ครับ”
“ค...คะ?” ทิฟฟานี่ตอบรับเสียงเก้อให้กับผู้มาใหม่ที่จู่ๆก็โถมกายเข้ามานั่งข้างๆเธอ ทำเอาเจสสิก้ายอมละสายตาจากหนังสือ เงยหน้าขึ้นหรี่ตามอง
“อ้าว..รุ่นพี่อูยอง แหม..โต๊ะนี้ เจสก็นั่งอยู่ด้วยนะ” อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากแซวพี่รหัสของเพื่อนสนิท เป็นได้แค่พี่รหัสจริงๆนะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมฝ่ายชายถึงดูติดทิฟฟานี่ยังไงชอบกล ประโยคคำอ้างเพื่อมาหาทิฟฟานี่ที่ได้ฟังบ่อยที่สุดคือเรื่องเรียน รองลงมาคือบาสเก็ตบอลที่เจ้าตัวเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียนอยู่ อาจจะดูออกด้วยแหละมั้งว่าเพื่อนของเธอเป็นถึงขั้นคลั่งไคล้นักกีฬาประเภทนี้ ดูจากช่วงเย็นๆของทุกวันทิฟฟานี่จะขอตามเธอไปสนามบาส และไม่พลาดทุกครั้งเวลามีการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นบาสชายหรือบาสหญิง เปิดโอกาสให้อูยองได้เข้าหาบ่อยๆ
แต่ว่า..ไม่รู้หรือไงกันนะ ว่าทิฟฟานี่น่ะมีเจ้าของแล้ว!
“รอใครกันอยู่เหรอครับ?” อูยองส่งยิ้มหวานหยดจนเห็นตาเป็นเส้นเดียว ทิฟฟานี่เองก็ไม่ขัดศรัทธาส่งยิ้มแก้เขินตอบกลับเช่นกัน ..จะให้ตอบยังไงดีล่ะ .. รอแฟนงั้นเหรอ? ..
“รอฉันไง” จู่ๆ ร่างเล็กของใครบางคนก็แทรกเข้าระหว่างช่องว่างของคนทั้งคู่ บังร่างทิฟฟานี่ออกจากสายตาของชายหนุ่ม (แม้จะไม่ค่อยมิดก็เถอะ) เลิกคิ้วขึ้นส่งสายตากวนอารมณ์แต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวอยู่ลึกๆจนคนโดนขัดรู้สึกแปลกๆ
“เพื่อนฟานี่หรือครับ?”
“ขอโทษ..ฉันเป็นแฟน ไมใช่เพื่อน”
“แทแท” ร่างเล็กรู้สึกได้ถึงรัศมีไม่พอใจมาจากด้านหลัง แต่ใครจะสนล่ะ! ฉันควรเป็นฝ่ายโกรธเธอมากกว่านะ ทิฟฟานี่!
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ ฮวัง มิยอง .. กลับหอ!” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับฉุดร่างบางให้ลุกขึ้นตามมาด้วยอย่างเสียไม่ได้ ..แม้ว่าจะเห็นสายตาอ้อนวอนขอให้ช่วยจากเพื่อน แต่เจสสิก้าก็ไม่คิดจะทำอะไรได้มากไปกว่าชูนิ้วโป้งให้แทยอน ส่งผลให้ได้รับสายตากึ่งงอนจากยัยหมีขาวขั้วโลกเสียแทน
“แทแท..ปล่อยได้แล้ว ฟานี่เจ็บนะ” บิดข้อมือเล็กน้อยเป็นเชิงให้แทยอนปล่อยสักที ถึงกระนั้นร่างเล็กก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจแต่อย่างใด ยังคงพาเธอเดินต่อเรื่อยๆ จนทิฟฟานี่ต้องเป็นฝ่ายรั้งตัวเองนั่นแหละ แทยอนถึงจะยอมหยุด
ร่างเล็กหมุนตัวหันมามองเธอด้วยสายตาตัดพ้อ สีหน้าไม่พอใจแบบเด็กๆที่แทยอนชอบทำบ่อยๆเวลาโดนขัดใจบอกให้เธอรู้ ทิฟฟานี่ก้าวเข้าใกล้คนตัวเล็กจนลำตัวแทบจะแนบชิดกัน สองมือยกขึ้นทาบแก้มเนียนใสอย่างอ่อนโยน
“เป็นอะไรไปคะ”
“งอน โกรธ น้อยใจ .. มากด้วย” น้ำเสียงกึ่งงอน กึ่งน้อยใจ ทำเอาร่างบางได้แต่อมยิ้มกับท่าทีแบบเด็กๆของคนตัวเล็ก จากที่มือเคยทาบแก้ม ตอนนี้หยิกพวงแก้มส่ายไปมาเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
“งื้อ..เจ็บนะ”
“ทำไมถึงชอบคิดมากแบบนี้นะ หืม..ตัวเล็ก”
“เมื่อกี้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้งอนจริงๆแล้วด้วย” แทยอนปัดมือบางออกจากแก้มของตัวเอง ว่าอะไรว่าได้ แต่อย่ามาว่าเรื่องส่วนสูง หรือขนาดตัว เธอไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นสักหน่อย!
“งอนเรื่องอะไรคะ บอกฟานี่ได้ไหม?” แม้จะพอรู้อยู่แล้วว่าอาการงอนของคนขี้น้อยใจเกิดจากอะไร หากแต่อาการอยากหยอกล้อคนรักมีมากกว่า มือบางรั้งแขนคนตัวเล็กเอาไว้แนบตัว เกยคางบนไหล่เล็กให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียวซ่านเล่น
แล้วมีหรือที่คนอย่างแทยอนจะทนไหว หากถูกยั่วยวนขนาดนั้น แต่เมื่ออาการน้อยใจยังค้างอยู่ไม่จางหายไปไหน จึงไม่หลงกลร่างบางง่ายๆ ว่าแล้วก็ดันตัวคนรักให้ถอยหลังไปชิดกับกำแพง เชยคางให้สบตากัน
“ตอบแทได้ไหม ว่าฟานี่ชอบคนแบบไหน” สายตาเว้าวอนชวนช่างแกล้ง ทิฟฟานี่อมยิ้มอย่างนึกสนุกให้แทยอนได้ทำหน้าบูดบึ้งหนักกว่าเดิม
“ยิ้มอะไร”
“ก็..พอคิดถึงคำตอบแล้วมันอดยิ้มไม่ได้นี่นา”
“ขนาดนั้นเลยหรือไง” คนกำลังจะถูกแกล้งยังคงไม่รู้ตัว หน้าเสียไปไหนต่อไหน
“อืม..เสป็กฉันน่ะนะ ข้อแรก..ต้องตัวสูงๆ อย่างน้อยก็สูงกว่าฉัน”
ตึ่ง..เพียงแค่ข้อแรกที่หลุดออกมาจากปากก็ไม่ใช่สิ่งที่แทยอนเป็นแล้วไม่ใช่หรือไง หนำซ้ำคนช่างแกล้งยังจะยกมือขึ้นเหนือศีรษะแทยอนขึ้นไปเพื่อบอกถึงระดับของส่วนสูงที่ควรจะเป็น หลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่เมื่อเห็นสีหน้าของคนตรงหน้า
“สอง..ขาว ขาวแบบโอโม่ ผิวเนียนๆเหมือนเด็ก”
แทยอนก้มลงมองแขนขาวๆของตัวเอง เฮ้! อย่างน้อยเธอก็ขาวนะ ขาวมากด้วย แต่ดูทิฟฟานี่สิ ยังทำหน้านึกคำตอบต่อไป ไม่สนใจสิ่งที่เธอต้องการจะให้เห็นเลยว่าเธอขาวแค่ไหน มันน่า...ไหมล่ะ!
“สาม..รักฉันมาก มีเวลาให้ฉันด้วย ..อย่างเธอน่ะแทแท ชอบเอาแต่ไปประชุมๆๆงานรองประธานอะไรของเธอก็ไม่รู้”
คนถูกกล่าวหาหน้าเสียหนักกว่าเดิม อยากจะโต้แย้งจะตายอยู่แล้ว..เมื่อครู่นี้ทันทีที่เลิกประชุมตัวเธอก็รีบบึ่งมาหาร่างบางเลยนะ ถึงได้มาเห็นว่าเจ้ารุ่นพี่บ้านั่นกำลังคิดจะจีบคนรักของเธออยู่ยังไงล่ะ
“สี่..สปอร์ตบอย เล่นกีฬาเก่ง โดยเฉพาะบาส ฉันชอบมาก ดูเซ็กซี่ดี” ทิฟฟานี่ทำหน้าเคลิ้มฝัน ปล่อยให้แทยอนมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ..ไม่น่าถามอะไรออกไปแบบนั้นเลย แค่สี่ข้อก็เล่นเอาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักอย่างเธอท้อเสียแล้ว.. ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอจะมีฉันเป็นคนรักไปทำไมล่ะ ทิฟฟานี่...
“ข้อสุดท้าย...”
“พอแล้ว ไม่ต้องบอกแล้ว”
“ทำไมล่ะแทแท ก็ฉันอยากบอกเธอให้ครบนี่นา ข้อสุดทะ.........” ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะได้ตอบคำถามเป็นข้อสุดท้าย แทยอนก็จัดการปิดปากไม่ให้เธอได้พูดอีกอย่างได้ผลชะงัดนักด้วยริมฝีปากบางของเจ้าตัว
คนตัวเล็กเอียงคอเล็กน้อยกดจูบทาบทับลง ถอนออกแล้วซ้ำอีกหลายครั้งให้ร่างบางได้ทันตั้งตัวบ้าง ก่อนที่ลิ้นเล็กจะเริ่มเลาะเล็มและรุกรานเข้าไปแตะลิ้นอุ่น ควานหารสหวานละมุนภายใน แต่สิ่งที่ต้องการมากไปกว่านั้นคือความจริง หรือคำปลอบประโลมว่าสิ่งที่ทิฟฟานี่พูดเมื่อครู่เป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น
“อืม..” เสียงครางแผ่วเบาภายในลำคออย่างยอมแพ้ของอีกฝ่ายยิ่งทำให้ร่างเล็กรู้สึกได้ใจ มือยกขึ้นตระกองแก้มนวลเพื่อให้รับสัมผัสจากเธอ สัมผัสที่มีความหมายย้ำว่าเธอรักคนตรงหน้ามากแค่ไหน มากเสียจนไม่อยากเสียร่างบางไปให้ใครอื่น .. ในขณะที่คนโดนจูบยกมือขึ้นโอบรอบคอคนรักลูบไล้เบาๆด้วยความเคลิบเคลิ้มเผลอไผล
ในที่สุดแทยอนก็ผละริมฝีปากออกมา อาจเกรงว่าทั้งเธอและคนรักจะขาดอากาศหายใจไปก็เป็นได้ แต่ใบหน้าของทั้งสองยังคงแนบชิดติดกัน จมูกโด่งรั้นของแทยอนไล้เรียงไปตามพวงแก้มสีแดงเรื่อ คลอเคลียอยู่สักพักและต้องหยุดลงเพื่อหายความหมายของดวงตาคู่สวย
“อย่าบอกว่าเธอรักใครนอกจากฉันอีกนะ..ไม่งั้น ฉันจะจูบเธอให้ขาดอากาศหายใจไปเลย คอยดูสิ” พูดจบก็จุ๊บริมฝีปากอิ่มเบาๆพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์
“คนบ้า..” มือบางฟาดเบาๆเข้าที่ไหล่เล็ก ดันตัวแทยอนออกไป ก่อนจะสะบัดหน้าใส่เดินหนี ให้คนตัวเล็กต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับวิ่งไล่ตาม
ให้ตายสิ...ฉันควรจะต้องเป็นคนงอนเธอนะ ฮวัง มิยอง!
“พรวดด ด! ห..ห๊ะ แกว่าอะไรนะ” ยูริเบิกตาโตด้วยความตกใจไม่น้อย คิดดูว่าเธอตกใจแค่ไหน เมื่อครู่นี้ก็แทบจะสำลักน้ำอยู่แล้ว ..จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้อย่างไร เมื่อแทยอนเดินเข้ามาภายในชมรมบาสเก็ตบอล ซึ่งเต็มไปด้วยเพื่อนร่วมทีมของเธอเอง เพื่อบอกว่าอยากเข้าร่วมทีมด้วยคน
รองประธานนักเรียนฝ่ายกิจกรรมผู้บ้าเรียน และเกลียดกีฬาอย่างกับอะไรดีเนี่ยนะ มาบอกว่านกเพนกวิ้นพากันอพยพไปอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่า ยังจะน่าเชื่อกว่าอีก!
“ไม่จริงหน่า พี่แทยอน”
“นั่นสิ อย่างพี่แทยอนเนี่ยนะ จะมาเล่นบาส”
ยุนอากับซูยอง สองสมาชิกในทีมบาสเก็ตบอลที่มียูริเป็นหัวหน้าทีม พลอยได้ยินไปด้วยยังอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา โดยเฉพาะซูยองที่มองแทยอนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ไม่ใช่เพราะตั้งใจจะดูถูกนะ แต่เพราะอยากจะวัดส่วนสูงของคนตัวเล็กให้ชัดๆต่างหากล่ะ
“คิดดีแล้วเหรอ ร้อยวันพันปีไม่เห็นแกจะสนใจบาส ดูอย่างฉันสิ ฉันเป็นเพื่อนแกมานาน เล่นบาสฉันก็เล่นมานาน แต่แกมาเชียร์ฉันนับครั้งได้ แล้วนี่อะไรมาดลใจแกวะ .... หรือว่าเพราะ ฟานี่?” ยูริหรี่ตาลงสำรวจเพื่อนตัวเล็ก แต่ก็โดนแทยอนดันหน้าออกไป ..เจ้าพวกนี้ จะอะไรกันนักกันหนา คนตัวเตี้ยเล่นบาสไม่ได้หรือไง(ฟระ!)
“จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ ให้ฉันเข้าชมรมบาสสักทีสิ”
“จะเข้าชมรมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงเล่นด้วย และถ้าจะลงเล่น ก็ต้องมาซ้อมทุกวัน”
“ยังไงก็ได้ ฉันยอมหมดแหละ” แทยอนรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ถึงกระนั้นยูริยังคงมองสำรวจร่างเล็กราวกับจะหาเหตุผลอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้แทยอนเข้าร่วมทีมหรอกนะ เพราะตอนนี้เพื่อนร่วมทีมของเธอก็เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาหลังการแข่งนัดล่าสุด ทำให้ขาดตัวหลักไปหนึ่งคน..ตัวสำรองน่ะมี แต่ว่าจะทำให้ขาดชื่อผู้เล่นไป การแข่งขันนัดชิงก็จะมีขึ้นภายในอาทิตย์หน้าแล้วด้วย ถ้ารับแทยอนเข้ามาก็ไม่เสียหายอะไร ...แต่ว่า จะดีเหรอ??
“ฟานี่รู้เรื่องยัง?”
“ยัง..อย่าบอกฟานี่นะ ว่าฉันเข้าร่วมทีม นะๆ ไอลิงเพื่อนรัก” แทยอนเข้าเกาะแขนเพื่อนไว้แน่น ซบหน้าลงกับไหล่ออดอ้อนไปมา เกิดมาเธอยังไม่เคยลงทุนอ้อนใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ..ยกเว้นทิฟฟานี่คนนึงแล้วกัน..
“เฮ้ยๆ ไม่ต้องไซร้ สยิววุ้ย .. โอเคๆ ฉันจะรับแกเข้าทีม แล้วจะไม่บอกฟานี่ แต่วันนี้ ตอนนี้ แกต้องซ้อมทันที ฉันจะสอนแกเอง”
“ตอนนี้เลยเหรอ..”
“เออดิ๊!”
ภายในสนามซ้อมในร่มสำหรับนักกีฬาบาสโดยเฉพาะ แต่ละคนภายในทีมประสานงานกันได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นลูกโยน ลูกรับส่ง หรือลูกชู้ดก็ตาม ตัวหลักที่ทีมคู่แข่งพากันหวาดกลัวจะเน้นหนักไปทางยูริ ยุนอา และซูยอง และถ้าเกิดเวลาสุ่มทีมซ้อมระหว่างทีมเดียวกันขึ้นมา ถ้าสามคนนี้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เพื่อนร่วมทีมที่จำต้องอยู่ฝั่งตรงข้ามพลอยเหงื่อตกไปตามๆกัน
คิม แทยอนได้รับคำสั่งจากยูริเพียงแค่นั่งมองเพื่อดูเทคนิคการเล่นให้คล่องเสียก่อนเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นท่าทางคล่องตัวของยูริ การเลี้ยงลูกหลบหลีกฝั่งตรงข้ามของยุนอา การดังค์แบบที่ทิฟฟานี่ชอบนักชอบหนาของซูยอง พวกมันทำกันไปได้ยังไง!?
มองไปทางอีกสนามหนึ่งข้างๆก็ดูงงไม่ต่างกัน ยิ่งทางฝั่งนั้นมีแต่นักกีฬาบาสชายล้วนๆยิ่งแล้วใหญ่ ดูว่องไว รวดเร็วมากกว่าฝ่ายหญิงอีก เจ้าพวกนี้เอาเวลาจากไหนมาซ้อมกันนะ..จะว่าโดดเรียนก็ไม่ใช่ เพราะยูริก็เข้าเรียนครบทุกครั้งไม่มีขาด จะบอกว่าใช้เวลาช่วงเย็นก็คงจะบอกได้ไม่เต็มปากนัก มันก็แค่ช่วงเวลานิดเดียวเท่านั้น ซ้ำยูริยังมีการบ้านที่ต้องทำเยอะแยะมากมายพอๆกับเธอแหละหน่า (??)
ยืนมองการเล่นด้วยท่าทีเหม่อลอยไปเรื่อยๆ เห็นแล้วหวั่นใจยังไงชอบกล ชักเริ่มจะกลัวๆขึ้นมาบ้างอยู่เหมือนกัน...แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อคนรักของเธอชอบแบบพวกนักกีฬา เธอก็ย่อมอยากพิสูจน์ตัวเอง ว่าคิม แทยอนคนนี้ก็เล่นกีฬาได้!
“แท..แท..ไอ้คุณคิม แทยอน!”
“ห๊ะ ว่าไง?”
“มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ พร้อมจะรับการสอนจากฉันหรือยัง? เพราะอีกไม่นานเจสคงจะมาหาฉันแล้ว ฟานี่ก็คงจะมาด้วย”
“อืม..พร้อม” ตอบเสียงอ่อย เดินเลิ่กๆลั่กๆเข้าไปในสนามด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ ส่งยิ้มเก้อให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคน
“เอ้า รับลูก” ยูริส่งลูกบาสเก็ตบอลให้แทยอนแบบเบามือที่สุด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าเพื่อนคนนี้ไม่เคยจับลูกบอลมาก่อน ยกเว้นแต่ตอนเรียนวิชาพละ ที่แทยอนมักจะเนียนเลี่ยงบ่อยๆอยู่ตลอด
“แว้ก ก.. เขวี้ยงมาเบาๆสิ ไอ้ลิง”
ยูริส่ายศีรษะระอาใจ ลูกส่งของเธอเบาที่สุดในชีวิตแล้วนะ แต่ไอ้คุณแทยอนมันไม่คิดจะรับลูกเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังกระโดดหลบลูกแล้วยังมีหน้ามาด่าเธออีก ...เออ มันจะรอดไหมเนี่ย!!
“ระวังลูก!”
เสียงตะโกนก้องดังมาจากทางสนามฝ่ายชายที่มักจะส่งเสียงร้องเวลาลูกบอลแรงๆถูกเขวี้ยงออกนอกสนามให้หลบกันจนชิน แต่สำหรับหน้าใหม่อย่างแทยอนแล้ว ไม่ใช่เลย...คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเพราะตกใจกับเสียงร้องก้องว่าเกิดอะไรขึ้น ส่งผลให้ลูกบาสหนักๆกระแทกเข้าที่หน้าของเธออย่างจังจนหงายหลังล้มลง
“ไอ้แท! / พี่แท!” ยูริและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆวิ่งเข้ามาดูอาการของแทยอนที่นอนแผ่ไปกับพื้นสนามอย่างหมดฟอร์ม ร่างสูงประคองศีรษะเพื่อนให้ลุกขึ้นนั่ง แต่แทยอนที่โดนลูกบาสเข้าไปเต็มๆหน้ายังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่ตัวเองเพิ่งได้เจอเป็นครั้งแรก...แค่ครั้งแรกก็เจ็บตัวซะแล้ว
“เป็นไงบ้าง เฮ้ย! เลือดกำเดา!”
แทยอนเอื้อมมือแตะของเหลวอุ่นสีแดงสดที่ไหลผ่านจมูก แล้วก็ต้องเบิกตาโพลง ...จมูกเธอจะหักไหมเนี่ยย ย
“พี่แท พี่ยูล แย่แล้ว..พี่เจสกับพี่ฟานี่เดินมา” ยุนอาร้องเตือนเสียงดัง ทำเอาแทยอนหน้าเสีย เสียยิ่งกว่าตอนเห็นเลือดกำเดาเสียอีก..
“ซวยแล้ว..”
“ฟานี่.. นั่นแทยอนไม่ใช่เหรอ” เจสสิก้าสะกิดเพื่อนสนิท แต่มันไม่จำเป็นหรอก เพราะทิฟฟานี่เห็นก่อนเสียอีก ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงเพื่อให้แน่ใจว่านั่นใช่คนรักของเธอจริงๆ ไม่ผิดแน่ ตัวเล็กแบบนั้น..ว่าแต่ แทยอนมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?
ไหนจะท่าทางดูมีพิรุธ ดูลับๆล่อๆทำเป็นว่าไม่เห็นเธอ โดยมีร่างของยูริกับยุนอายืนบังอยู่ อย่างนี้มันหมายความว่ายังไง..
“คิม แทยอน!”
เฮือก! แม่เจ้าประคุณเล่นเรียกซะเลือดกำเดาแทบจะไหลย้อนกลับ แทยอนชะงักกึกทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีคนรักก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอเสียแล้ว
“ตายแล้ว แทยอน..นั่นเลือดนี่!”
“ยังไม่ตาย”
เจสสิก้าร้องซะเสียงดังลั่นกลัวว่าทิฟฟานี่จะไม่รู้กระมัง ยูริรีบผละออกจากแทยอนดันตัวคนรักไปอีกทาง ส่วนยุนอา..จะอยู่ไปทำไมให้โดนลูกหลงล่ะคะ เธอยังไม่อยากช่วยโดนหมีตะปบสลบตายคาโรงยิมหรอกนะ ..หนีสิ~ โชคดีนะคะ พี่แทยอน~
“เอ่อ...” ก้มหน้าก้มตา นิ้วเรียวจิ้มเข้าหากันไปมา ทั้งๆที่สภาพใบหน้าแทยอนตอนนี้ดูแทบไม่ได้เลย กระดาษทิชชู่ที่พยายามใช้อุดจมูกห้ามเลือดเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตสีแดง หนำซ้ำยังเลอะเปรอะเปื้อนไปรอบๆบริเวณใต้จมูกตัดกับผิวขาวเนียนของเจ้าตัว .. เอาไงดีล่ำคิม แทยอน แบบนี้มันเข้าสูตรนิทานเป๊ะๆ เข้าป่าเจอหมี เพื่อนหนีหายเอาตัวรอดหมด เหลือตัวคนเดียว..แกล้งตายดีไหมนะ T^T
“เอ่อ..เค้า..ก็..เค้า.....เหวอ.....” หาคำแก้ตัวยังไม่เจอ ร่างเล็กก็ถูกดึงไปทางฝั่งที่นั่งแสตนด์ ทิฟฟานี่ทิ้งตัวลงนั่ง ออกแรงดึงเพียงนิดเดียวแทยอนก็ถลาฟุบศีรษะลงกับตักนุ่มๆ ..ผิดคาดแฮะ..
“จะพูดมากให้เลือดมันไหลเข้าปากหรือไง” ประคองศีรษะแทยอนให้แหงนหน้าขึ้น เขี่ยเศษกระดาษทิชชู่ชุ่มเลือดสุดจะน่าสมเพชออกจากจมูกสวย หยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนออกมาบรรจงซับเลือดแดงสดอย่างเบามือ
“ไม่โกรธแทเหรอ” น้ำเสียงออดอ้อนเช่นเดียวกับแววตาอ่อนโยนที่ถูกจับจองด้วยใบหน้าเนียนใสของคนรัก ไม่ได้อยากรู้ว่าทิฟฟานี่จะโกรธเธอหรือเปล่าขนาดนั้นหรอก เพียงแต่อยากอ้อน..ก็เท่านั้นเอง ไม่ผิดใช่ไหมล่ะ..
“โกรธ..” ปากบอกว่าโกรธ แต่มือยังคงคอยเช็ดเลือดแห้งๆออกจากแก้มนวล ..จนแทยอนเริ่มรู้สึกอยากจะเลือดกำเดาไหลบ่อยๆแล้วสิ ก็ตอนนี้แม่หมีของเธอน่ารักมากเลยนี่นา ไหนจะสีหน้าขัดเขินเวลาเผลอสบตาเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าเนียนขาวอมชมพูที่มักจะมีรอยยิ้มบาดใจอยู่ตลอดเวลา เสน่ห์ของทิฟฟานี่อย่างหนึ่งที่เธอชอบ ..
แต่ไม่เอาดีกว่า ให้กำเดาไหลบ่อยๆเลือดก็หมดตัวแย่สิ แค่นี้ทุกๆวันที่หอพักเลือดแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วนะ........ ก็ทิฟฟานี่น่ะ ชอบเดินออกมาจากห้องน้ำกับผ้าเช็ดตัวห่มกายผืนเดียว โดยเจ้าตัวบอกให้เหตุผลว่าไม่อยากแต่งตัวในห้องน้ำ กลัวทำเสื้อเปียก ...คิดไรกัน?
“โกรธจริงอ่ะ..” เอื้อมมือมากุมมือบางเอาไว้ ดึงผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้มีรอยเลือดเป็นดวงออกก่อนจะแนบมือนุ่มไว้กับแก้ม
“ไม่จริงมั้ง...ไหนบอกว่าวันนี้มีประชุม ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วไปทำอะไรมาถึงกำเดาไหล” สาวเจ้ายิงคำถามเสียจนคนขี้อ้อนแทบจุก ซวยแล้วสิ..ไม่น่าถามย้ำเลย ตอบยังไงดีล่ะ... ปรายตามองหาตัวช่วย เห็นยูริกำลังยืนเถียงอะไรบางอย่างกับเจสสิก้า
“ก..ก็ เขาเลื่อนประชุมกะทันหันน่ะ แทไม่รู้จะไปไหน ฟานี่ก็ยังไม่เลิกเรียน พอดียูลมันชวนให้มาช่วยเป็นเด็กเก็บบอล เพราะมันขี้เกียจวิ่งออกนอกสนาม แทก็เลยมา..” ขอโทษนะยูริ ขอยืมชื่อมาประกอบหน่อยแล้วกันนะเพื่อน..
“เด็กเก็บบอล?” ไม่ใช่ว่าไม่อยากเชื่อหรอกนะ..แต่มันไม่น่าเชื่อเลยต่างหาก ยูริของั้นเหรอ..อย่างแทยอนเคยทำตามคำขอใครด้วยหรือไงถ้าไม่เต็มใจจริงๆ (อาจจะยกเว้นทิฟฟานี่ รายนั้นไม่เต็มใจก็ต้องทำ) หรือถ้ายูริขอจริงๆ..แล้วจะมาขอแทยอนทำไมกัน คนก็นั่งกันอยู่เต็มโรงยิมเยอะแยะ บอลออกนอกสนามยังไงก็ต้องมีคนโยนกลับเข้าไปให้ ไม่เห็นต้องขอแทยอนเลย ตัวเล็กๆแบบนี้วิ่งตามบอลทันหรือเปล่าเห่อะ..
“ใช่ๆ แล้วก่อนฟานี่จะมา ตอนนั้นแทก้มเก็บบอลอยู่เลยไม่ทันเห็นว่าลูกบอลมันลอยมา เงยหน้าขึ้นมาบอลก็โดนหน้าไปแล้ว” แทยอนได้ทีก็ฝอยต่อเนื่องไม่ยั้ง แต่คราวนี้มีส่วนจริงอยู่บ้างนะ ที่ว่าเธอกำลังก้มเก็บบอลอยู่เงยหน้าขึ้นมาบอลก็กระแทกจมูกงามๆเข้าไป จะว่าไปแล้วยังไม่หายเจ็บจมูกเลยนะเนี่ย...
“ซุ่มซ่าม.. แล้วทำไมไม่ระวังตัว”
“บอลมันเร็วอ่ะ แล้วแทก็ไม่ได้ตั้งตัวด้วย” ปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ จับมือนุ่มของทิฟฟานี่ไล้ไปมาตามแก้มเธอเชิงอ้อนเอาใจ
“พี่ฟานี่คะ ยุนเอาน้ำแข็งมาให้ ดูท่าเลือดกำเดาพี่แทคงจะไม่หยุดไหลง่ายๆแฮะ ฮิๆ” ยุนอาอมยิ้มแซว ส่งแก้วใส่น้ำแข็งสะอาดที่เธอลงทุนสั่งให้ซูยองวิ่งไปหามาให้ทิฟฟานี่ที่รับไปพร้อมกับกล่าวขอบคุณ หย่อนน้ำแข็งป่นลงผ้าเช็ดหน้าทำให้ไม่ทันได้สังเกตแทยอนที่เขม่นเข่นเคี้ยวใส่ยุนอาที่บังอาจมาขัดจังหวะ...?
“มันจะเย็นไหมอ่ะ..” เมื่อเห็นว่ายุนอาเดินจากไปแล้วก็กลับมาโหมดอ้อนต่อ รั้งข้อมือทิฟฟานี่ที่กำลังจะโปะผ้าเช็ดหน้าห่อน้ำแข็งป่นกับจมูกของเธอ
“น้ำแข็งนะ มันก็ต้องเย็นอยู่แล้วสิ แทแท” ทิฟฟานี่ดึงมือของอีกคนออก แทยอนนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อผ้าเช็ดหน้าเย็นเฉียบสัมผัสกับดั้งจมูก
“อ้าปากหายใจเอานะ”
แทยอนพยักหน้าเบาๆ ปล่อยให้ทิฟฟานี่บีบจมูกตัวเอง พร้อมกับแปะผ้าเช็ดหน้าห่อน้ำแข็งไปตามดั้งจมูก นิ้วเรียวคอยเกลี่ยหากมีหยดน้ำตะกอนไหลไปตามใบหน้าคนรัก
“เป็นห่วงนะ รู้ตัวบ้างไหม..” พูดลอยๆแผ่วเบาราวกับกลัวคนตัวเล็กได้ยิน แทยอนอมยิ้ม คว้ามือของอีกฝ่ายมากุมไว้พลางหลับตาลง ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพลอยทำให้เพื่อนๆที่แอบมองอย่างสอดรู้สอดเห็นในโรงยิมพากันหมั่นไส้โดยเฉพาะยูริ แทบอยากจะปาลูกบาสในมือใส่หัวมันอีกครั้งให้รู้แล้วรู้รอดไป ...อยู่กับทิฟฟานี่ล่ะเป็นลูกหมาขี้อ้อน พอมาอยู่กับพวกเธอล่ะกลายเป็นไอ้หมาจอมบงการ ..ลิงไม่อยากจะพูดค่ะ เดี๋ยวหาว่าลิงสะดิ้ง!
“ฟานี่..กลับกันเถอะ ปลุกแทยอนได้แล้ว” เมื่อเวลาล่วงเลยไปนานจนท้องฟ้าข้างนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา ผู้คนภายในโรงยิมก็เริ่มทยอยกันกลับบ้าน เจสสิก้าเดินมาหาทิฟฟานี่ที่ตอนนี้เลิกปฐมพยาบาลผู้ป่วยจอมอ้อนแล้ว แต่ยังปล่อยให้แทยอนนอนตักเธอต่อไปจนตอนนี้แอบงีบหลับคาตักไปเสียอย่างนั้น
“สิก้า จะไปขัดเขาทำไมเล่า ไม่ได้นอนหอเดียวกับสองคนนั้นสักหน่อย เดี๋ยวแทมันตื่นก็พากันกลับเองแหละ ..นี่ คนนี้ต่างหากรูมเมทเธอ .. ปะๆ กลับหอกันเถอะค่ะ ที่รัก” ยูริแอ๊บเนียนจะโผเข้าโอบเอวบางให้เป็นบุญอีกสักวัน แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้ก็แทบจะโดนยันกลับ ...ชีวิตลิงช่างอาภัพ
“อยากนอนนอกห้องไหม.. ควอน ยูริ อย่ามาลามกกับฉันนะ” น้ำเสียงเย็นเฉียบแผ่กระจายจนคนในโรงยิมรีบพากันเดินออกไม่เหลือ ..ไม่คิดว่าโรงยิมจะติดแอร์กับเขาด้วย แถมปรับอุณหภูมิซะเกือบติดลบกันเลยทีเดียว..
“สิก้าอ่าา.. เค้าลามกกับสิก้าคนเดียวนะ”
“ควอน ยูริ!”
“จ๋าา า~ *0* ”
ทิฟฟานี่ยิ้มบางๆมองตามยูริที่รีบวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังเจสสิก้าอยู่ไม่ห่างจนออกนอกโรงยิมไป หันมามองร่างเล็กที่ยังนอนอยู่บนตักเธอ เช่นเดียวกับมือบางที่ยังคงกอบกุมมือของเธอไม่ยอมปล่อย ทิฟฟานี่ไล้นิ้วเรียวไปตามใบหน้าที่เธอเฝ้าเรียกมันว่าเบบี้เฟส ยิ่งถ้าเป็นใบหน้ายามหลับแล้ว ยิ่งแลดูไร้เดียงสาราวกับเด็ก
“อือ..” แทยอนนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกรบกวนยามกำลังหลับสบาย ซุกใบหน้าเข้าหาหน้าท้องของทิฟฟานี่
“ฟานี่รักแทนะ..” โน้มศีรษะลงประทับริมฝีปากนุ่มกับแก้มเนียนใสของคนรัก เกลี่ยปอยผมเหน็บเข้าที่ใบหู ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้คนตัวเล็กนอนได้สบายขึ้น โดยไม่รู้เลยว่าทั้งคำพูดและการกระทำเมื่อครู่ทำให้คนที่’แกล้ง’นอนหลับอยู่ลอบอมยิ้มเบาบาง..
หลังจากวันนั้นแทยอนก็เริ่มระวังตัวในการซ้อมกับยูริมากขึ้น จนช่วงหลังๆยูริ(ผู้ตกกระไดพลอยโจน)ต้องยอมหลอกเจสสิก้าว่าให้เปลี่ยนไปรอเธอระหว่างซ้อมที่ห้องสมุด เพราะทางทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนจำเป็นต้องเก็บความลับเรื่องเทคนิคการเล่น ชนิดที่ว่าแม้จะเป็นโรงเรียนเดียวกันก็ห้ามรู้ เดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น... ซึ่งแน่นอนว่าเจสสิก้าเชื่อ ทิฟฟานี่ก็ต้องเชื่อด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ..เพราะพวกเธอยังต้องคอยบอกไม่ให้พวกที่สุมกันอยู่ที่โรงยิมบ่อยๆ หรือพวกแฟนคลับนักกีฬาคาบข่าวว่าแทยอนมาร่วมทีมไปแพร่บอกใครต่อใครเด็ดขาด แลกกับเบอร์โทรของพวกเธอเอง
ถ้าความแตกเมื่อไหร่ลูกหมากับลูกลิงคงมีอันสูญพันธ์ไปตามๆกัน..ยอมตายเพื่อเพื่อนขนาดนี้ ไม่ซี้กันก็ให้มันรู้ไปสิ..
จนกระทั่ง..ถึงวันแข่งขัน..
“แล้ว..แทยอนล่ะฟานี่?” เจสสิก้าเอ่ยปากถามเมื่อเธอกับทิฟฟานี่พากันเดินหาที่นั่งบนแสตนด์ และนึกขึ้นมาได้ว่าขาดใครไปบางคน ทิฟฟานี่ทำหน้าบึ้งใส่ทันที
“ไม่มา ชวนยังไงก็ไม่มา บอกว่าติดประชุม” ถ้ารู้ว่างานคณะกรรมการนักเรียนมันหนักหนาสาหัส ถึงขนาดเรียกประชุมแทบจะทุกวัน หนำซ้ำเวลามีงานอะไรประจำโรงเรียนแทยอนก็ต้องไปเข้าร่วมทุกครั้งจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเช่นนี้ เธอไม่ยอมให้คนรักลงสมัครซะก็ดีหรอก..
“ติดประชุม? วันนี้เนี่ยนะ”
“ใช่..ติดประชุมแทบทุกวัน ทำไมถึงใช้งานแทยอนกันหนักขนาดนี้นะ” ทิฟฟานี่ปั้นหน้าบูดท่ามกลางเสียงเชียร์โฮลั่นเมื่อนักกีฬาบาสเก็ตบอลชายพากันลงสนาม ถึงกระนั้นเธอก็ไม่มีอารมณ์จะร้องเชียร์ตามหรอก ..คณะกรรมการนักเรียนคนอื่นที่เธอรู้จักงานยังไม่หนักเท่าแทยอนเลย คิดแล้วเหนื่อยแทน เซ็งด้วย..คนสวยเซ็งค่ะ!
“ฮัดชิ้ว ว~!” แทยอนปิดจมูกจามตัวโยน ถูจมูกหมิ่นๆไปมา รู้สึกคัดจมูกพิกลแฮะ..
“เป็นไง..ไหวไหมแทงกู” คนที่เดินมาตบไหล่แทยอนเสียจนแทบคว่ำไปอีกรอบอย่างสนิทสนมไม่ใช่ใครที่ไหน ยูริทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเพื่อน อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสำหรับนักกีฬารัดรูปสีกรมท่าประจำโรงเรียน และกางเกงขาสั้นสีขาวเช่นเดียวกับแทยอน ที่ดูแปลกไปกว่าก็อาจจะเป็นปลอกแขนผ้าสีขาว มีตัวอักษร C ตัวใหญ่ปักอยู่บ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นกัปตันทีม
“อืม..พอไปได้” ทำจมูกฟุดฟิดไปมายังไม่เลิก เฝ้ามองเพื่อนร่วมทีมที่พากันแต่งตัวภายในห้องพักนักกีฬา ในขณะที่เสียงเชียร์จากด้านนอกยังคงดังลอดเข้ามาเป็นระยะ ทิฟฟานี่คงจะอยู่ข้างนอกนั่นสินะ..จะว่าไปมาถึงตอนนี้ใจก็เริ่มเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ ท้องไส้โหวงเหวงน่ากลัว ยิ่งนึกถึงการแข่งขันในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็ยิ่ง....ป๊อด....
“สาวๆ อีกห้านาที เตรียมตัวลงสนามได้” สต๊าฟโค้ชเดินเข้ามาภายในห้องแต่งตัวบอกข่าวเสียงดังฟังชัดให้แก่ทุกคน
“ค่ะ!”
โฮกกก ก... เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ T^T
“และแล้ว ก็มาถึงการแข่งขันบาสเก็ตบอลหญิง..ที่ผมคาดว่าผู้ชมทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็ต่างรอคอย ก็แหม..นักกีฬาแต่ละคนทั้งสวย ทั้งน่ารักในเวลาเดียวกันเสียจนผมเองก็แทบบรรยายไม่ไหว แฮะๆ ..นักกีฬาทุกคนจับมือกันครับ!”
เสียงประกาศกึกก้องจากผู้บรรยายประจำดังชัดเจน นักกีฬาบาสเก็ตบอลทั้งสองฝ่ายเดินเรียงเป็นแถวหน้ากระดานเข้าจับมือกันพอเป็นพิธี ก่อนที่แต่ละคนจะเข้าประจำที่ ..ไม่แปลกถ้าบนสนามไม่มีร่างเล็กของแทยอนเข้าร่วมจับมือกับเขาด้วย แม้ตามกฎจะต้องลงสนามเพื่อให้เห็นหน้าก่อนอย่างชัดเจน รายนั้นหลบอยู่ในห้องพักไม่ยอมออกมาพร้อมกับขอร้องโค้ชว่าถ้าเธอต้องลงสนามเมื่อไหร่ ช่วยเข้ามาเรียกด้วย....เรื่องเยอะซะไม่มี...
ปรี๊ดด ด..
“เกมเริ่มแล้วครับ! ยูริเป็นฝ่ายกระโดดตบลูกกลางอากาศไปได้ ..ว้าว.. เธอช่างงดงามเสียจริง ยุนอาคว้าลูกไว้ ส่งต่อให้แอมเบอร์ทันที -- อ๊ะ! โดนแย่งลูกไปได้ครับ ตอนนี้บอลอยู่ที่ซอนเย เลี้ยงเดี่ยวไปแล้วครับ และ..เธอส่งลูกให้ยูบิน! ยูบิน..จะชู๊ตไหม! อ๊า..โดนยูริปัดลูกไว้ได้ น่าเสียดายจังครับ”
“กรี๊ดด ด~ แฟนฉันค่ะ!” เจสสิก้าร้องลั่นด้วยความที่ทนไม่ไหว แหม..มันส์กันตั้งแต่เริ่มเกมส์อย่างนี้ใครจะไปทนไหวล่ะ แต่อาการกระดี๊กระด๊าในสามีของคุณเธอไม่ได้ส่งผลให้คนที่นั่งข้างๆพลอยมีอารมณ์ร่วมตามเลย จะมีบ้างก็เมื่อฝ่ายทีมโรงเรียนของเธอทำคะแนนได้ ร้องเชียร์พอเป็นพิธีเท่านั้น ก็บอกแล้วไง..ว่าคนสวยเซ็ง กำลังงอนแฟนค่ะ!
“และ..ควอเตอร์ที่สองกำลังจะหมดเวลา มัธยมเอสเอ็มกำลังนำอยู่ด้วยคะแนน 14 ต่อ 10.....และแล้วก็หมดเวลาควอเตอร์ที่สองครับ!”
ยูริเดินนำลูกทีมของเธอเข้าห้องพัก โดยไม่ลืมที่จะโบกมือ ส่งยิ้มให้คนรักบนแสตนด์เชียร์ แต่กลับได้เสียงกรีดร้องจากบรรดาแฟนคลับกันระนาวเสียแทน ..ลิงโบกให้แฟนค่ะ โบกให้แฟน
“แทงกู..พร้อมลงยัง?” เข้ามาถึงก็ทักทายเพื่อนที่นั่งแข็งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนเลย ดูท่าทางมันจะเหนื่อยกว่าคนลงสนามอีกนะเนี่ย
“ขอควอเตอร์สุดท้ายเลยได้ไหม ฉันกลัว..” แทยอนส่งยิ้มแห้งผาก ลามไปถึงลำคอ ..ไม่ได้เกิดกลัว ตื่นสนามขึ้นมาหรอกนะ นั่นมันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนสำคัญคือแทยอนกลัวแม่หมีค่ะ..
ได้ฟังอย่างนั้น ยูริก็แทบจะปาขวดน้ำในมือใส่หัวมันสักที ถ้าไม่ติดอยู่ว่าเธอต้องดื่มนะ...แล้วชาตินี้จะได้ลงเล่นให้เป็นขวัญตาศรีภรรยาดั่งที่ตั้งใจไหมเนี่ยแทย๊อนน น~
“ขณะนี้ควอเตอร์ที่สามกำลังดำเนินอยู่ ยังคงเป็นมัธยมเอ็สเอ็มที่นำอยู่17ต่อ16ครับ ยุนอาเลี้ยงลูกหลบผ่านสองคนอย่างสวยงาม หลุดเดี่ยวมาแล้วครับ แต่มียูบินวิ่งตามมาติดๆ และ...และ -- อู๊ย ย.. ฟาล์วครับ ยูบินทำฟาล์ว ยุนอาล้มลงไปนอนกับพื้นซะแล้วครับ --”
“ยุน เป็นไงบ้าง” ยูริคุกเข่านั่งลงข้างๆรุ่นน้องที่พยายามยันตัวเองขึ้นนั่ง ยุนอานิ่วหน้าเล็กน้อย รู้สึกเจ็บแปล๊บที่ข้อศอกที่ตอนนี้เนื้อนวลขาวบริเวณนั้นเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเรื่อ อาจจะเป็นเพราะเธอใช้ข้อศอกยันพื้นตอนล้มลงไป
“แดงช้ำเลย เล่นต่อไหวไหมยุน” ซูยองนั่งลงข้างๆเพื่อนอีกคน คอยประคองข้อศอกให้ ยุนอาส่ายหน้า น้ำตาใสเล็ดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดระบมอยู่ที่ข้อศอกเกินมันจะทนไหวได้ ก่อนจะถูกประคองออกจากสนามไป
“ซู..ไปตามแทยอนมา ลงก่อนเวลานิดนึงไม่เป็นไรหรอก”
“ยุนอา..จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ” ทิฟฟานี่พึมพำไปกับเจสสิก้า เฝ้ามองคนเจ็บที่ถูกประคองออกมาปฐมพยาบาลข้างสนาม ในขณะที่เสียงประกาศของผู้บรรยายยังคงดังต่อเนื่อง
“ฟานี่! น...นั่น แทยอน! แทยอนอยู่ในทีมด้วยเหรอเนี่ย” ไม่จำเป็นอีกแล้ว.. เจสสิก้าไม่จำเป็นต้องสะกิดเลยแม้แต่นิดเดียว ในเมื่อทิฟฟานี่สังเกตเห็นตั้งแต่คนตัวเล็กเดินสะดุดขาตัวเองออกมาจากห้องพักนักกีฬาเดินเก้ๆกังๆลงสนามไปหยุดอยู่ข้างๆยูริ ราวกับว่าร่างสูงจะช่วยบดบังเธอไปจากสายตาของคนทั้งสนาม ไม่ก็จากสายตาของคนๆเดียวที่จ้องมองจนแทบจะเดินลงไปหานั่นแหละ
“คิม แทยอน...”
“กรรมการตัดสินให้ลูกโทษสองลูกแก่มัธยมเอสเอ็มครับ และซูยองเป็นคนรับหน้าที่นี้ ..และนั่นครับ มีคนลงสนามแทนยุนอาที่บาดเจ็บแล้ว แทยอนครับ! รองประธานนักเรียนมาเองเลย!”
แว้กก ก.. ไอบ้า! ไม่ต้องนำเสนอถึงขนาดนั้นก็ได้!
แทยอนขบเคี้ยวเข่นฟันส่งสายตาอาฆาตไปยังโต๊ะผู้บรรยาย แต่อาฆาตเขาอยู่ได้ไม่นานตัวเธอก็รู้สึกเหมือนโดนรังสีอาฆาตเสียแทนเสียงอย่างนั้น และจะไม่ลำบากใจเลยถ้ารังสีเย็นหลังวาบไม่ได้มาจากด้านบนแสตนด์แถวๆทิฟฟานี่..
“ฟานี่มองแกอยู่น่ะ หันไปมองเขาหน่อยดิ” ยูริก้มลงกระซิบกระซาบ ก็แหม..ทิฟฟานี่อุตส่าห์มองด้วยสายตาดูดดื่มซะขนาดนั้น
แทยอนค่อยๆแหงนหน้าขึ้นไปยิ้มให้สุดที่รักบนแสตนด์เชียร์ พลางโบกมือ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็คงไม่ต้องคาดเดาอะไรมาก..ทิฟฟานี่เบือนหน้าหนีราวกับไม่เห็นแทยอน ใบหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึก
“งานเข้า” ยูริพลอยเห็นท่าทางเย็นชาก็อดกลัวแทนเพื่อนไม่ได้ โดยไม่รู้ตัวเลย..ว่าตัวเองก็งานเข้าเหมือนกัน...
“ลูกโทษของซูยองไม่พลาดครับ มัธยมเอสเอ็มได้เพิ่มไปสองแต้ม -- และตอนนี้ ลูกอยู่ที่ฮยอนอา ฮยอนอาส่งให้ซอนเย เลี้ยงผ่านแทยอนได้อย่างง่ายดาย -- และ เธอทำแต้มได้ครับ! ไล่มาเป็น19-18!”
ปรี๊ดด ด..
“หมดเวลาควอเตอร์ที่สามครับ”
ยูริลากแทยอนกลับเข้าข้างสนามที่ตอนนี้ยินนิ่งเป็นหินไปแล้วหลังจากโดนซอนเยเลี้ยงหลบไปหน้าตาเฉย ..ทำไมมันไม่เหมือนตอนซ้อมเลยล่ะ เธอกางแขนขวางแล้วนะ...
“ไหวหรือเปล่า แทยอน” ยูริถามเพื่อความแน่ใจพร้อมกับยื่นขวดน้ำให้ ก็แทยอนตอนนี้หน้าซีดเป็นหมาต้มไปแล้ว .. เล่นก็ยังไม่แข็ง ตื่นสนาม ไหนจะกังวลเรื่องทิฟฟานี่อีก ถ้าไม่เล่นเส้นเป็นเพื่อนกับกัปตันทีมป่านนี้ได้นั่งตบยุงอยู่ข้างสนามลูกเดียว
“ห..ห๊ะ ไหวสิ..ไหว” ปากตอบเพื่อน แต่สายตามองขึ้นไปบนแสตนด์เชียร์ แต่ทิฟฟานี่กลับชันคางมองสนามที่ว่างเปล่าไม่ยอมหันมามองทางเธอเลย ...เค้าผิดไปแล้ว..ฟานี่อา.. T T’
แม้ว่าควอเตอร์ที่สี่จะเริ่มขึ้นไปได้สักพัก ทิฟฟานี่ก็ยังคงไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมส์หรือเสียงเชียร์รอบข้างเช่นเคย ซ้ำยังหนักกว่าเดิมเสียจนเจสสิก้าต้องหันมาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“โกรธแทยอนเหรอ..”
“เปล่า..” น้ำเสียงราบเรียบถูกส่งกลับมาโดยไม่ต้องหันมามองตอบ เจสสิก้าพยักหน้าหงึกหงักแกล้งเหมือนจะรับรู้ โกรธไม่โกรธก็ดูเอาเองแล้วกัน ตัวใครตัวมันล่ะทีนี้ ..ไม่รู้ว่าทิฟฟานี่ไปเอานิสัยเย็นชายามอยู่ในอารมณ์โกรธเคืองแบบนี้มาจากใคร... ไม่รู้จริงๆเหรอ เจสสิก้า...
“...ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่ารองประธานของพวกเราวิ่งว่อนไปทั่วสนามเลยครับ -- และลูกอยู่ที่ยูริ .. ยูริโดนรุมสอง ส่งกลับหลังให้แทยอน ..ว๊า...ลูกหลุดมือ โดนฮยอนอาแย่งลูกไปได้ -- ”
“มีสมาธิหน่อย” ยูริตบไหล่เตือนสติเพื่อนเบาๆ แทยอนดูแย่มากเลยทีเดียว..เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวตามใบหน้าขาวๆ อ้าปากหายใจหอบเล็กน้อย เหนื่อยไปกับการวิ่งวุ่นไปทั่วสนามคอยเป็นตัวป่วนการทำเกมของฝ่ายตรงข้าม(ที่ดูจะไม่เป็นผลนัก) สัมผัสลูกบ้างเป็นครั้งคราว แต่ต้องรีบโยนส่งให้เพื่อน ไม่เช่นนั้นจะโดนแย่งลูกไปได้ง่ายๆ ไม่ก็ทำบอลหลุดมือเสียเฉยๆ
“ -- ฮยอนอาทำแต้มได้ครับ! พลิกขึ้นนำเป็น 19-20! ท่าทางมัธยมเอสเอ็มจะงานหนักแล้วครับ เหลืออีกสองนาทีเท่านั้น แต่สองนาทีอะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ -- ”
แทยอนใช้โอกาสอันน้อยนิดระหว่างที่เกมส์หยุดทรุดตัวชันเข่า มือซ้ายกุมชายโครงเพราะรู้สึกปวดแปล๊บที่สีข้าง คนตัวเล็กยืดตัวขึ้นเมื่อแอมเบอร์ส่งลูกจากเขตหลังเส้นใต้แป้นบาสสูงชะลูดให้ยูริก็หมายถึงเกมเริ่มดำเนินต่อไป.. ลมหายใจร้อนๆไหลผ่านลำคอแห้งผากราวกับขาดน้ำมาเป็นวันๆก็ไม่ปาน สีข้างยังคงปวดตุบๆประท้วงในขณะที่เธอกัดฟันวิ่งต่อ
“ฟานี่..แทยอนดูแย่ๆนะ ..อ..อ้าว...จะไปไหนน่ะ รอด้วยสิ” เจสสิก้ารีบลุกขึ้น ขอทางจากคนที่นั่งอยู่รีบตามทิฟฟานี่ออกไป เกิดเสียงบ่นเล็กน้อยระหว่างทางเพราะบังอาจมาขัดจังหวะช่วงเวลาที่เกมส์กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่ดูเหมือนทิฟฟานี่จะไม่สนใจ ร่างบางเดินลงจากแสตนด์เป็นที่เรียบร้อย ก้าวฉับๆโดยไม่รอเพื่อนมุ่งตรงไปยังข้างสนามที่มีโค้ชประจำทีมยืนคุมอยู่ ข้างๆเป็นยุนอา ข้อศอกเข้าเฝือกอ่อนๆเรียบร้อย
“พี่ฟานี่ มีอะไรเหรอคะ?” ยุนอาละสายตาจากการแข่งขันบนสนามหันมามองหญิงสาวสองคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริวเณนี้มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เอ..เกี่ยวสิ ก็คนรักของทั้งคู่กำลังวิ่งอยู่ในสนามนี่นา...
“จู่ๆก็วิ่งลงมา จะบ้าหรือไงฟานี่..” เจสสิก้าเอ็ดเพื่อนสาว ด้วยความกลัวว่าจะโดนเจ้าหน้าที่ไล่กลับขึ้นไป แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเลย ดวงตาทุกคู่ล้วนจับจ้องการแข่งขัน ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรอย่างอื่นทั้งนั้น แล้วก่อนที่เจสสิก้าจะตั้งตัวได้ทันอีกรอบ ทิฟฟานี่ถลาไปยืนชิดติดหลังเส้นสนาม ป้องปากตะโกนหวังให้ใครคนหนึ่งซึ่งกำลังวิ่งเลิ่กๆลั่กๆอยู่ได้ยิน
“คิม แทยอน! ถ้าเธอทำให้ทีมแพ้ ฉันจะงอนเธอจริงๆด้วย คนบ้า!”
แน่นอนว่าเจ้าของชื่อได้ยินชัดเจน คนตัวเล็กชะงักเล็กน้อย เหลือบมองร่างบางที่ตอนนี้กอดอก ทำหน้าตาบูดบึ้งมาทางเธอ หากช่วยจุดประกายไฟในตัวแทยอนให้ลุกลามมากขึ้นกว่าเดิม หัวใจโลดขึ้นด้วยความดีใจ อาการเหนื่อยหอบและจุกเสียดสีข้างดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอแล้ว
“ -- ลูกโยนข้ามฝั่งจากฮโยยอนถูกปัดไว้ก่อนจะถึงมือยูริ แถวสองแทยอนเก็บลูกไว้ได้และส่งต่อให้ซูยอง ..ซูยองชู้ตไกลสามแต้ม! -- ”
ลูกบาสเก็ตบอลจากมือซูยอง กระดอนกับแป้นบาสหมุนวนรอบห่วงอยู่หลายรอบก่อนจะทิ้งตัวหล่นออกมานอกวงสร้างความเสียดายให้กับทุกคน ..เสียงโห่ฮาดังอื้ออึง แข่งกับเสียงเชียร์จากทีมโรงเรียนฝั่งตรงข้ามที่เริ่มมั่นใจในชัยชนะในเวลาอีกไม่ถึงนาทีข้างหน้านี้!
“ -- ว๊าา.. น่าเสียดายมากๆครับ แต่ยูริยังกระโดดรับลูกไว้ได้ เธอโดนประกบถึงสองคน ยูริ... -- โยนข้ามหัว โดนตัวยูบิน ออกข้างไปครับ -- ฮโยยอนส่งหลังเส้น โยนไกลมาทางซูยอง โดนปิดไว้ ชู้ตไม่ได้ ส่งหลังคืนแอมเบอร์ จะส่งให้ยูริก็โดนปิดอีกครับ -- แอมเบอร์ตัดสินใจส่งให้แทยอน!”
“ชู้ตเลย แท!” ยูริตะโกนเสียงดัง
ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้น แทยอนมองลูกบอลในมือและเงยหน้าขึ้นมองแป้นบาส แน่นอนว่ามันสูงกว่าเธอหลายเท่านัก แค่มองก็ท้อแล้ว..อย่าว่าแต่จะชู้ตตามที่ยูริบอกเลย
ในที่สุด..ลูกบาสเก็ตบอลก็ถูกส่งออกจากมือบางด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่ลอยโด่งขึ้นไป แต่ดูเหมือนแทยอนจะกะแค่ว่าให้มันลอยสูงเป็นพอ ลูกบาสจึงพุ่งขึ้นลอยคว้างสูงกว่าแป้นไปหลายฟุตหากไม่ได้เฉียดห่วงเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องสงสัย ..เสียงโห่ฮาด้วยความเสียดายดังมาเป็นระยะ แต่แล้วก็ต้องเงียบกริบอีกครั้ง......
เป็นแทยอนคนเดิมรับลูกที่ตกลงมาไว้ได้ ..ไม่มีใครเข้ามาแย่ง ไม่มีใครมาปัดลูกทิ้ง.. ร่างเล็กกระโดดลอยตัวเล็กน้อย ส่งลูกบาสเก็ตบอลขึ้นไปอีกครั้งผ่านแรงแขน มือ และปลายนิ้วเป็นลำดับสุดท้าย..
แก๊งง ง! สวบ บ!
ลูกบอลกระแทกกับแป้นส่งเสียงดังฟังชัดท่ามกลางความตกใจของทุกคน ก่อนที่ลูกจะกระดอนชนขอบห่วงลู่ลงเสียดสีกับตาข่ายให้น้ำเสียงชัดเจนยิ่งกว่า เสียงเชียร์โห่ร้องดังกึกก้องมาจากกองเชียร์เจ้าบ้าน ในขณะที่กองเชียร์ฝั่งตรงข้ามทำได้แค่ช็อคกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิด เฝ้าหวังลมๆแล้งๆว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น
“เข้าไปอย่างไม่น่าเชื่อครับ! แทยอนทำแต้มขึ้นนำได้ 21-20! -- และ เสียงนกหวีดหมดเวลาทันที! มัธยมเอสเอ็มเอาชนะไปได้ฉิวเฉียดสุดติ่งครับ!”
“ไอ้แท ฉันรักแก!!~” ยูริวิ่งโผเข้ากอดเพื่อนตัวเล็กแบบลืมเหนื่อยเป็นคนแรก ว่าแล้วก็ขอหอมหน่อยเถอะ..
“ว๊ากก ก! ไอลิงบ้า!” แทยอนกระสันดันหน้ายูริออกจากแก้มของเธอ ความรู้สึกนิ่มๆบริเวณแก้มชวนทำเอาขนคอลุกตั้งชัน แต่ยูริหรือจะสน แขนกอดรัดเพื่อนตัวเล็กแน่น จนอีกฝ่ายหายใจแทบไม่ออก
ช่วยไม่ได้..ก็คนมันหมั่นไส้ เล่นมาเด่นเอาตอนสุดท้ายแบบนี้ แย่งซีนลิงค่ะ~!
หลังจากนั้นแทยอนก็แทบจะหายใจไม่ออก ไม่ใช่แค่เพราะยูริกอดเธอไว้แน่นเกินไป หากตอนนี้ทั้งสองคนถูกรุมด้วยเพื่อนร่วมทีมและกองเชียร์บางคนจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
“ดีใจด้วย!”
“เธอแจ๋วมาก”
“นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว!”
แทยอนยิ้มรับให้กับทุกคำพูด แต่สายตาของเธอมองลอดออกมาจากฝูงชนเพื่อมองหาคนๆเดียวที่เธออยากวิ่งเข้าไปหาหลังเกมส์จบถ้ายูริไม่เข้ามากอดเธอซะก่อน ทว่าทิฟฟานี่ไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิม ..สาวเจ้ากำลังจะเดินออกจากสนามไปแล้ว!
“ฟานี่! ฟานี่! ...ขอโทษค่ะ -- ฟานี่!” แทยอนพาตัวเองออกมาจากฝูงชนอย่างยากลำบาก ตะโกนร้องเรียกชื่อ หากแต่เสียงเซ็งแซ่ในสนามนั้นดังมากกว่าเสียงเธอหลายเท่านัก หรือบางที..ร่างบางคงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ฟานี่! รอแทด้วย!”
“แทยอน มารับถ้วย ......อ้อ..ช่างเถอะ..โชคดีนะเพื่อน” ยูริมองเพื่อนตัวเล็กวิ่งลัดเลาะหลบผู้คนจะไปหาทิฟฟานี่ ร่างสูงยักไหล่ก่อนจะรู้สึกได้ถึงรังสีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเย็นวาบไปทั่วตัว..ทั้งๆที่เหงื่อออกเนี่ยนะ..
“ควอน ยูริ! ได้ข่าวว่าเธอร่วมกับแทยอนหลอกฉันกับฟานี่ใช่ไหม!”
“ก..ก็...แทมันขอให้เค้าช่วยอ่ะ สิก้า .. เค้าไม่ผิดนะ”
“ไม่ต้องมาพูดดี! ยังไงก็โกหก อยากตายหรือไงห๊ะ!”
“แหม...สิก้าก็...ดุแบบนี้ เดี๋ยวจับจูบกลางสนามเลยหนิ”
“ควอน ยูริ!”
“ฟานี่ ฟานี่ เดี๋ยวก่อนสิ” แทยอนวิ่งเร็วเสียยิ่งกว่าตอนแข่งเสียอีก ถึงกระนั้นกว่าเธอจะตามทิฟฟานี่ทัน สาวเจ้าก็เกือบเดินออกจากสนามโรงยิมไปแล้ว
“ฟานี่ เดี๋ยวสิ! จะรีบไปไหน” ในที่สุดคนตัวเล็กก็ตามทัน แทยอนฉุดรั้งข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ แต่ทิฟฟานี่มีหรือจะยอมหยุดง่ายๆ คนช่างงอนบิดข้อมือให้ออกจากการเกาะกุมโดยไม่หันไปมองหน้าแทยอนเลยสักนิด
“ปล่อยนะ! คนหลอกลวง!” งอนตามสูตรนางเอกละครหลังข่าวแบบไม่มีผิดเพี้ยน พยายามสะบัดมือแทยอนออก แต่อีกฝ่ายกลับบีบมือเธอไว้แน่น ...เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆล่ะ คนตัวเล็กหลอกเธอมาตลอดนี่นา ปากบอกว่าติดประชุมกรรมการนักเรียน หากกลับมาเฝ้าซุ่มซ้อมบาสเก็ตบอลโดยมียูริหนุนหลัง วันที่เจ็บตัว จนเลือดกำเดาไหลคงมาจากการซ้อมสินะ ...ทำไปเพื่ออะไรกัน แทยอน...
“ฟานี่ ฟังกันก่อนสิ!”
“ไม่! ไม่ฟะ.....ว๊าย! ตาบ้า! ปล่อยฉันลงนะ คิม แทยอน!”
เด็กนักเรียนในสนามกีฬาต้องแตกฮือกันมากกว่าตอนรู้ว่าโรงเรียนตัวเองแข่งชนะเสียอีก เมื่อนักกีฬาบาสหญิงที่ดูเหนื่อยล้ากับการแข่งที่เพิ่งจบไป แต่ไม่เคยเหนื่อยง้อคนรักช้อนร่างบางขึ้นพาดไหล่ ฝ่ายทิฟฟานี่ก็ร้องลั่น พยายามดิ้นรน และคอยทุบตีแผ่นหลังของคนตัวเล็ก ..แล้วดูหน้าแทยอนสิ ไม่ล้มไปทั้งคู่ก็บุญแล้ว!
“ยูล! ขอใช้ห้องพักก่อนนะ!” แทยอนกัดฟันร้องตะโกนบอกเพื่อนที่กำลังหยอกล้อ(?)อยู่กับเจสสิก้า ยูริหันมาทำหน้าเป๋อเหลอพอๆกับคนทั้งสนามในตอนนี้ ก็ฉากแบบนี้มัน..จำเลยรักชัดๆนี่นา!
“ตะ..ตามสบาย แต่อย่านานนะ!”
แทยอนดูเหมือนจะไม่รอฟังคำตอบสักเท่าไหร่ (ก็ตอนนี้เธอหนักจะตายอยู่แล้วหนิ) เดินลัดเลาะคนที่พากันแหวกทางให้ เข้าไปยังห้องพักนักกีฬา เท้าเล็กดันประตูเข้าไป วางทิฟฟานี่ลงบนเบาะยาว ก่อนจะเดินกลับไปล็อคประตู ..ทว่าเธอดูจะชะล่าใจเกินไปแล้ว ทันทีที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับคนรัก เธอกลับเจอกำปั้นแทนซะนี่....
“คนหลอกลวง คนโกหก อยากเป็นนักใช่ไหมนักบาสน่ะ ” ทิฟฟานี่รัวกำปั้นทุบตีไปตามร่างเล็กๆ ส่งผลให้แทยอนเจ็บระบมไปหมด เจ็บมากๆด้วย..วันนี้กลับหอไป เธอได้นอนอืดแน่ๆ เพราะนอกจากจะล้าสุดจะล้าแล้ว เนื้อตัวยังชอกช้ำอีก
“โอ๊ย -- ฟานี่ -- ฉันเจ็บนะ -- โอ๊ย! -- พอได้แล้ว -- ฮวัง มิยอง!” แทยอนคว้าข้อมือทิฟฟานี่เอาไว้ แต่ฤทธิ์งอนยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ร่างบางสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุม หมุนตัวกลับจะเดินหนี หากแต่แทยอนคว้าตัวมากอดไว้แน่น ทิฟฟานี่ที่ตอนแรกดิ้นขลุกขลักไม่ยอมก็ต้องผ่อนลงเมื่อคนตัวเล็กจงใจเป่าลมหายใจร้อนๆรดรินใบหูเธอ
“ไหนบอกว่าถ้าทีมชนะ จะไม่งอนแทไงคะ”
“ค...ใครบอก..ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย” ปฏิเสธทันควัน ทั้งๆที่หัวใจสั่นสะท้านและอ่อนลงไปมาก ..หากเธอก็ยืนยันได้ว่าไม่ได้พูดอย่างนั้นจริงๆ เธอบอกว่าถ้าไม่ทำให้ทีม’แพ้’ จะไม่งอนต่างหาก ไม่ได้บอกว่าทีมชนะ เหตุผลล้วนๆ!
“แล้วเดินหนีแททำไม”
“ปะ..เปล่านี่! ปล่อยนะ เหงื่อเต็มไปหมดแล้วยังจะมากอดเขาอีก” พูดจบคุณเธอก็ดันตัวแทยอนออก แต่มีหรือที่แทยอนจะยอมง่ายๆในเรื่องแบบนี้ มือเล็กตระกองใบหน้าหวานรั้งเข้ามากดจูบที่ริมฝีปากอิ่ม ทิฟฟานี่ซึ่งพยายามปฏิเสธและคอยแต่จะดันไหล่แทยอนออก หากความนุ่มหวานละมุนที่แทยอนบรรจงมอบให้ทำให้เธอกลับมาอ่อนลงอีกครั้งอย่างเผลอไผล ลิ้นเล็กๆถูกสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากที่เผยอออกเล็กน้อยเพื่อควานหาความหวานอย่างซุกซนจนร่างบางรู้สึกว่าเรี่ยวแรงของตัวเองเริ่มถดถอยหายไป ที่ยืนอยู่ได้เป็นเพราะแทยอนประคองอยู่เท่านั้น
“อ๊ะ..” ทิฟฟานี่ร้องออกมาเมื่อรู้สึกตัวว่าโดนดันจนสะดุดหงายหลังล้มลงกับเก้าอี้เบาะยาว และเธอคงเจ็บตัวถ้าแทยอนไม่คอยประคองไว้ ร่างเล็กตามลงมานั่งข้างๆ ริมฝีปากยังคงประกบจูบ ออกแรงรั้งเพียงนิดเดียวร่างบางก็ขึ้นมานั่งบนตัก
รสจูบหอมหวานยาวนานถูกถอนออกในที่สุด แทยอนอมยิ้มให้กับพวงหน้าแดงระเรื่อเพราะความเขินอาย กดจูบแผ่วเบาที่แก้มเนียนขาวถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเลือดฝาด ยิ่งทำให้ทิฟฟานี่ดูน่ารัก สวยมากขึ้นไปอีกในสายตาเธอ
“หวานจัง”
“คนบ้า” ทิฟฟานี่ออกแรงทุบบ่าเล็กๆด้วยความหมั่นไส้ เธอเสียทีให้แทยอนอีกแล้ว
“งั้นฟานี่คงบ้าตามแล้วล่ะ เพราะจูบกับคนบ้า” แทยอนกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างเจ้าเล่ห์ ยื่นหน้าหมายจะลิ้มรสความหวานจากริมฝีผากอิ่มอีกครั้ง แต่ทิฟฟานี่ดันใบหน้ารักษาระยะห่างเอาไว้
“ไม่ต้องเลย ..เหงื่อเต็มหน้าไปหมดเลยดูสิ เดี๋ยวฟานี่ตัวเหม็นตาม ฟานี่ไม่ชอบคนตัวเหม็น”
“ตัวเหม็นเหรอ..ไม่เห็นเหม็นตรงไหนเลย ออกจะหอมเหมือนฟานี่ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ” ว่าแล้วก็กอดรัดร่างบางให้แนบชิดมากขึ้นไปอีก ก่อนจะกดจมูกสูดดมความหอม ซุกไซร้ตามลำคอขาวสวย ไม่สนใจเสียงร้องห้าม..จมูกซุกซนไล้มายังลำคออีกด้านอย่างจงใจกลั่นแกล้ง ยิ่งทิฟฟานี่ต้องการจะผละออกมากเท่าไหร่ แทยอนก็ยิ่งกอดรัด และกดจูบไปตามลำคอและใบหน้า
“แท..ไม่เอา มันจั๊กจี้ พอได้แล้วหน่า..” แม้จะร้องปฏิเสธ แต่ก็หลุดขำออกมาเป็นระยะๆ มือไม้ที่พยายามดันแทยอนออกก็อ่อนแรงเหลือเกิน ความรุ้สึกเสียวซ่านบิดมวนอยู่ในช่องท้องและแผ่ชาไปทั่วร่างกาย หากคนช่างแกล้งก็ยังไม่ยอมหยุด
“ไอแท! ไอแทยอน! ง้อฟานี่เสร็จหรือยัง พวกฉันจะเปลี่ยนเสื้อ” เสียงของยูริดังขัดผ่านเข้ามาภายในห้อง ทำเอาแทยอนหยุดชะงัก ส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ ..ไอลิงนะไอลิง ทำไมต้องมาขัดขวางความสุขกันด้วยหะ
“เออๆ เสร็จแล้วๆ”
ทิฟฟานี่รีบลุกขึ้นยืน ในขณะที่แทยอนเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด ยูริชะเง้อหน้าเข้ามาก่อนอย่างอยากรู้อยากเห็น โอ้โห.. แทยอนง้อยังไงของมันกันนะ เล่นซะฟานี่หน้าแดงซะขนาดนั้น แล้วนั่น..ง้อบ้านไหน กระดุมเสื้อนักเรียนถึงหลุดไปตั้งสองเม็ด แถมยังมีรอยแดงๆที่คอ...รอยแดงๆที่คอ.....ฮ..เฮ้ยย! O.,O
โป๊ก!
“โอ๊ย!” ยูริกุมกระหม่อมเหม่งๆที่เพิ่งโดนมะเหงกของเพื่อนตัวเล็กไปเต็มๆ
“มัวมองอะไรหะ จะเข้าก็เข้ามาดิ ” ดวงตาคู่สวยมองตามสายตาของยูริเมื่อครู่ จนไปหยุดอยู่ที่ทิฟฟานี่ “ เฮ้ย ย! ฟานี่..แกแอบมองฟานี่ของฉันเหรอไอลิง!” แทยอนรีบถลาเข้าไปหาคนรัก พลางติดกระดุมสองเม็ดบนให้ทิฟฟานี่ มันหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ....หืม..นี่เรามือไวขนาดนั้นเลยหรือไงกัน
“เฮ้ย..เปล่านะ เปล่า ไม่ได้ม๊องง.. ไม่ได้มองเลย”
“ควอน ยูริ เมื่อกี้ที่แทยอนพูด เป็นความจริงใช่ไหม!”
“ส...สิก้า T.,T”
แม้ว่าการแข่งขันชิงระหว่างโรงเรียนจะจบลงไปนานแล้ว หากในบางวันแทยอนก็ยังจะมาขลุกอยู่ในโรงยิมกับพวกยูริเหมือนเคย ต่างกันตรงที่ว่าในตอนนี้คนตัวเล็กไม่จำเป็นต้องปิดบังใครอีกต่อไปแล้ว และทุกๆวันที่มีแทยอนก็จะมีทิฟฟานี่มานั่งเฝ้าอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นผลดีต่อแทยอนสักเท่าไหร่เลย..
“ไอแท ตั้งใจเป็นลิงหน่อยสิ! ฟานี่ไม่หายไปไหนหรอก!” ยูริแผดเสียงแว้ดราวกับคนสติแตก ถ้าไม่ติดว่าคนตัวเล็กนั่นเป็นลิงที่เธอต้องคอยพยายามโยนบอลข้ามไปมาให้เพื่อนคนอื่นที่ยืนล้อมกันเป็นวงกลมโดยไม่ให้แทยอนแตะลูกได้ เธอคงปาลูกบาสใส่หัวแทยอนไปนานแล้วด้วยความหมั่นไส้ ..ก็ดูมันสิ พอมีแฟนมานั่งเชียร์อยู่ก็ไม่เป็นอันทำอะไรเลย ทำอย่างกับทิฟฟานี่จะหายวับไปจากที่นั่งเสียอย่างนั้นแหละ มองกันจนจะท้องอยู่แล้วมั้งนั่น
“แทเป็นยังไงบ้างฟานี่” เจสสิก้าเดินเข้ามาส่งแก้วน้ำบรรจุของเหลวเย็นเฉียบให้เพื่อน ทิฟฟานี่รับมาถือไว้ ผ่อนลมหายใจเบาๆ มองคนรักที่โดนยูริชี้ไล่ไปอีกฟากของสนาม
“ก็ดี..ไม่ค่อยโดนลูกกระแทกหน้าบ่อยเท่าเมื่อก่อน วิ่งตามลูกไม่ค่อยทัน เวลาเล่นลิงชิงบอลก็เป็นลิงตลอด แล้วตั้งแต่วันแข่งก็ไม่เคยชู้ดลงห่วงอีกเลย ฉันคิดว่าวันนั้นมันคงฟลุ๊คมากๆ แถมเมื่อวานเพิ่งจะมารู้ตัวว่านิ้วซ้น ฉันเลยต้องมานั่งทายาให้..อุตส่าห์บอกว่าวันนี้ไม่ต้องมาซ้อมก็ยังจะดื้อมาให้ได้” ทิฟฟานี่กอดอก นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วเกิดเซ็งขึ้นมา ..เนื่องมาจากว่าแทยอนพยายามจะจี้เอวเธอ แล้วปรากฏว่าเจ้าตัวรู้สึกเจ็บนิ้วตงิดๆ พอเธอขอดูนิ้วและลองขยับไปมาเท่านั้นแหละ คนตัวเล็กก็ร้องลั่น จึงต้องหาน้ำแข็งมาประคบ นั่งทายาให้แทบทั้งคืน .. ทำไมตอนเป็นถึงไม่รู้ตัวนะ ความรู้สึกช้าจริงๆเลย
“ค่อนข้างแย่นะ ..แทยอนเคยบอกเธอหรือเปล่าว่าทำไมถึงหันมาเล่นบาส”
“ไม่ แทไม่เคยบอกฉัน” พูดพลางส่ายหน้าหงอยๆเป็นคำตอบ
“อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร ..พอดียูลแอบเล่าให้ฉันฟังล่ะ” เจสสิก้ายิ้มกริ่ม ลอบมองไปทางแทยอนที่กำลังเขย่งปลายเท้า ยืดแขนสุดเอื้อมแต่ก็ยังไม่ถึงลูกบาสเก็ตบอลในมือยุนอาอยู่ดี ก่อนที่ฝ่ายยุนอาจะขยับมือนิดเดียวลูกบอลก็ย้ายไปอยู่กับซูยอง
“แทงกู ถามจริงๆเถอะ ทำไมถึงอยากมาเล่นบาส” ยูริเอ่ยปากถามในขณะที่พวกเธอกำลังเดินกลับเข้าไปในห้องพัก หรือเรียกได้อีกแบบว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พลางส่งขวดน้ำเย็นเฉียบให้แทยอนซึ่งรับไปแต่โดยดี
“เพราะฟานี่..” คำตอบได้ที่ได้รับกลับมาไม่ได้ทำให้ยูริแปลกใจนัก คิดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะว่าคำตอบต้องออกมาแบบนี้ ไม่ใช่เพราะฟานี่แล้วจะเป็นเพราะใครได้อีกที่แทยอนอยากทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบได้ขนาดนี้ ร่างเล็กดื่มน้ำจากปากขวดอย่างกระหาย สายน้ำเย็นเฉียบไหลบาดลำคอแห้งผากช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น ก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“..เมื่อสองสามวันก่อน ฟานี่บอกว่าชอบนักบาส เพราะดูเซ็กซี่ แกว่าฉันเซ็กซี่พอยัง?” แทยอนหันมาทำตาใสแป๋ว ผายมือให้ร่างสูงก้มลงมองเรือนร่างของตัวเอง พลางหมุนตัวไปมานำเสนอเต็มที่
“พอเถอะ เดี๋ยวฉันสายตาเสีย ...แล้วแกคิดว่าฟานี่เขาจะชอบหรือไง อย่างเมื่อวานซืน พอฟานี่เห็นแกอยู่ที่นี่ แถมยังเลือดกำเดาไหล ก็โกรธพอดูไม่ใช่เหรอ” ยูริทวนความจำ ถึงมันจะมีแต่บรรยากาศหวานๆมากกว่าที่จะงอนง้อกันก็เถอะ แต่เธอก็พอสังเกตเห็นแววตาทิฟฟานี่ทันทีที่เห็นแทยอนอยู่ในโรงยิม ..แอบน่ากลัวกว่าเจสสิก้าในบางครั้งอีก
“ไม่รู้สิ...” เห็นได้ชัดว่าคำถามของยูริทำให้แทยอนดูหมดความมั่นใจ หงอยลงไปถนัดตา มือเล็กเริ่มบีบขวดน้ำในมือแน่นจนขวดบุบ “...ฟานี่บอกฉันเองว่าชอบคนตัวสูง ขาว มีเวลาให้ เล่นกีฬาเก่งโดยเฉพาะบาส ที่ฉันมีอยู่มันยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ”
“เฮ้อ..แกโดนฟานี่อำซะแล้วล่ะมั้ง” ยูริลอบยิ้ม มือดันบานประตูเข้าไปในห้องพัก ยุนอาเปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังวุ้นอยู่กับกองเสื้อผ้าของเธอ ซูยองยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมห้อง ฮโยยอนชะโงกหน้ามองดูแอมเบอร์เล่นเกมส์พีเอสพี จึงไม่มีใครหันมามองตอนที่พวกเธอสองคนเข้ามาในห้อง
“แต่ฟานี่ดูจริงจังมากเลยนะตอนที่พูดน่ะ แถมหมู่นี้ยังมีรุ่นพี่ที่ไหนมากมายมาคอยตามเกาะแกะอยู่นั่นแหละ” แทยอนชักสีหน้าตึงเมื่อนึกถึงเวลาที่เธอไปเจอทิฟฟานี่ยืนคุยกับใครก็ไม่รู้ บางครั้งเวลาเดินด้วยกันก็มีคนทักทิฟฟานี่ตลอดทำอย่างกับว่าเธอไม่ได้เดินอยู่ข้างๆอย่างนั้นแหละ หนำซ้ำเจ้าตัวยังไม่รู้สึกรู้สา ส่งยิ้มหวานให้ใครต่อใครไปทั่ว รู้ว่าอัธยาศัยดี..แต่ดีเกินไปก็ไม่ไหว คนมันหวง!
ยูริไม่ตอบ แสร้งทำเป็นหาของในตู้ล็อกเกอร์ ใช้บานประตูตู้ซ่อนรอยยิ้มจากแทยอนจอมซื่อบื้อ ..อันที่จริง เธอพอรู้มาจากเจสสิก้าบ้าง ว่าบางอย่างที่ทิฟฟานี่ทำไปเพราะประชดหมาจอมบ้างาน บ้าประชุม บ้ากรรมการนักเรียน การที่ทิฟฟานี่มาคอยกรี๊ดเชียร์นักกีฬาทุกครั้งที่มีการแข่งก็เพื่อยั่วโมโหแทยอน และที่เจ้าตัวพูดกรอกหูถึงเสป็กในฝันก็คงจะไม่พ้นเรื่องนี้หรอก ..แต่มันก็ได้ผลดีใช่ย่อย ไม่อย่างนั้นแทยอนคงไม่ลนลานขนาดนี้
“แต่ฟานี่เขาก็เลือกแกไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่คิดตรงจุดนี้บ้างหะ ...ระหว่างเจ้าพวกนักบาสหุ่นเซ็กซี่ ทำอะไรก็ดีไปหมด จะเดินไปไหนก็มีแต่คนกรี๊ด กับ ลูกหมาบ้าเรียน บ้างาน ยิ่งพอได้เป็นคณะกรรมการนักเรียนก็ยิ่งบ้าหนักเข้าไปใหญ่ วันๆไม่ทำอะไรนอกจากประชุม ตัวก็เตี้ย เจ้าอารมณ์ หื่นอีกต่างหาก... คิดบ้างสิ ว่าทำไมฟานี่ถึงลดตัวลงมาเลือกแก” ยูริพูดจี้จุด แต่ก็ยังไม่วายแอบแขวะไปเล็กน้อย ..ทนความซื่อบื้อไม่ไหว ขอเหน็บหน่อยแล้วกัน
“ก..ก็...ฉัน....เฮ้ เดี๋ยวนะ..เมื่อกี้แกแอบหลอกด่าฉันใช่ไหม ไอลิงดำ! อย่าอยู่เลย!” แทยอนคว้าลูกบาสในห้องปาใส่ยูริแม่นอย่างกับจับวาง แต่โชคดีที่ร่างสูงรับไว้ทัน ..ทำไมพอมาแบบนี้มันแม่นจัง.. แต่ไม่มีเวลาให้คิดมากเพราะหลังจากนั้นพวกเธอก็วิ่งไล่จับกันรอบห้อง กว่าจะหยุดได้ก็เมื่อยูริเผลอวิ่งไปชนแอมเบอร์จนเกมส์พีเอสพีหลุดออกจากมือบินหวือร่วงลงพื้นไปนั่นแหละ...
ทิฟฟานี่นั่งอมยิ้มไปมา ช่วงเวลานี้เธอรู้สึกขัดเขินจนแทบไม่กล้าเงยหน้ามองเพื่อนเลยทีเดียว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีใครบางคนมาสะกิดไหล่เธอ..
“เอ่อ..ใช่พี่ทิฟฟานี่ใช่ไหมครับ”
ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก ใบหน้าหวานฉายแววงุนงงออกมาไม่น้อย คิ้วสวยเลิกขึ้นมองเด็กหนุ่มที่ยืนทำท่าทางเขินอายอยู่ข้างๆ ในมือมีกระดาษหนึ่งใบกับปากกาเมจิก กำลังยืนตะลึงงันเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเด็กสาวสองคนที่ขึ้นชื่อว่าน่ารักที่สุดในโรงเรียนน่ะสิ
“มีอะไรกับฟานี่หรือเปล่าคะ?” เป็นเจสสิก้าที่ยื่นหน้าเข้ามาถาม เด็กหนุ่มตัวสูงหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะยื่นกระดาษเปล่าพร้อมปากกาเมจิกให้ทิฟฟานี่ที่ทำหน้างงหนักเข้าไปใหญ่ ..จะจีบหรือไงกันนะ? แล้วสมัยนี้เขาเลิกจีบโดยการใช้ดอกไม้กันแล้วเหรอ?
“เพื่อนผม..แอบชอบพี่ เขาฝากผมมาขอเบอร์ครับ” เด็กหนุ่มชี้นิ้วโป้งไปทางด้านหลังซึ่งมีกลุ่มเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันยืนมองมาทางนี้กันทุกคน เจสสิก้าหรี่ตามองตาม...ขอกันง่ายๆขนาดนี้เลยเหรอ?
“เอาเป็นอีเมล์แทนได้ไหมคะ พอดีฉันไม่ชอบคุยโทรศัพท์” ทิฟฟานี่ยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร ทำเอาเจสสิก้าหน้าเหวอ..นี่ก็ให้ง่ายไปมั้ง รู้หรอกหน่าว่าชอบเห็นใจคนอื่น และกลัวคนเสียความรู้สึก แต่เดี๋ยวก็งานเข้าหรอก..
“มีอะไรกัน นายจะเอาอะไร” นั่นปะไร..คนสวยเคยเดาผิดซะที่ไหน คิดปุ๊บมาปั๊บไม่ต้องรอให้เสียเวลา ... แทยอนเดินดุ่มๆเข้ามาขวางทิฟฟานี่เอาไว้ มือเล็กคว้ากระดาษกับปากกามาจากมือคนรัก เผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มผู้โชคร้ายยอมตายเพื่อเพื่อน น้ำเสียงเข้มน่ากลัวบ่งบอกว่างานกำลังจะเข้าในไม่ช้า
“บ...เบอร์พี่ทิฟฟานี่ครับ” เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก เจ้าเตี้ยนี่เป็นใครกันนะ T T’
“อ๋อเหรอ..” วินาทีนั้น ดูเหมือนแทยอนจะทำท่าฉีกกระดาษทิ้ง แล้วขยำให้กลายเป็นผุยผงไปเสียเลย หากแต่ผิดคาด..ร่างเล็กตวัดปลายปากกาเขียนตัวเลขหวัดๆลงบนกระดาษ ก่อนจะยื่นให้เด็กหนุ่มซึ่งมีสีหน้าตะลึงงันหนักกว่าเดิม
“เอาไป..เบอร์ฉัน! ถ้าอยากโทรมาหาทิฟฟานี่ก็ต้องผ่านฉันก่อน ไม่รับประกันว่าหูบอบบางของนายจะทนได้หรือเปล่านะ ไปได้แล้วเจ้าเปี๊ยก แล้วอย่ามายุ่งกับแฟนของฉัน!” แทยอนชี้นิ้วไล่เด็กหนุ่มที่ยอมเดินกลับไปแต่โดยดี พลางทำปากขมุบขมิบบ่นไล่หลังจนฟังไม่ได้ศัพท์ ...ว่าแต่ไปเรียกเขาว่าเปี๊ยก ไม่ได้ดูตัวเองเลยนะนั่นแทยอนอา....
“ฮวัง มิยอง! ฉันรู้นะว่าเมื่อกี้เธอกำลังจะแจกเบอร์เจ้าเปี๊ยกนั่น ทีหลังอย่าแจกเบอร์ใครสุ่มสี่สุ่มห้า ฉันไม่ชอบ! เข้าจะ.......” หากแทยอนจะพูดว่าอะไรต่อไป ไม่มีใครรู้ เมื่อริมฝีปากของคนกำลังหึงหวงถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากนุ่มของทิฟฟานี่ที่ถลึงตัวลุกขึ้นยืน มือบางประคองใบหน้าแทยอนเข้ามาจูบเสียดื้อๆ
แทยอนที่ตอนแรกดูงงงันกับจูบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เริ่มตอบสนอง มือเล็กโอบรอบเอวทิฟฟานี่รั้งให้ร่างกายแนบชิดกัน ..ทั้งสองคนจูบกันกลางโรงยิม ท่ามกลางความตะลึงงันของเจสสิก้าที่นั่งอยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุด ..มันจูบกันดื้อๆอย่างนี้เลยเหรอ รอให้กลับหอก่อนหรือลากกันเข้าไปจูบในห้องพักลับๆตาคนหน่อยไม่ได้หรือไงหะ ...คนอยู่กันเต็มโรงยิมโว้ยย!
“ไอสองคนนี้ พอมันจะไม่แคร์ ก็ไม่แคร์กันจริงๆ” ยูริบ่นพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่แทยอนกับทิฟฟานี่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าคนนอกอยู่กันเยอะแยะ ผละออกจากกัน ใบหน้าถูกฉาบไปด้วยสีแดงด้วยกันทั้งคู่
“ทีหลังไม่ต้องทำอะไรฝืนตัวเองอีกนะ” มือบางลูบแก้มเนียนของอีกคน ใบหน้ายังคงแนบชิดติดกัน
“อืม..” แทยอนส่งเสียงตอบในลำคอ เพราะดูเหมือนเรี่ยวแรงจะหดหายไปหมดหลังจากรสจูบกะทันหันเมื่อครู่ ..แต่แอบสะใจเล็กน้อย เมื่อเหลือบมองเด็กหนุ่มกลุ่มที่จะเข้ามาขอเบอร์ทิฟฟานี่ จ๋อยกันไปเป็นแถบๆ ..เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจ น้องเอ๋ย..
“เพราะเสป็กของฟานี่..ข้อสุดท้ายที่แทไม่ยอมฟังให้จบ ฟานี่จะบอกว่าข้อที่พูดมาทั้งหมดเป็นถือเป็นโมฆะ ถ้าใครคนนั้นไม่ใช่เธอ คิม แทยอน” พูดจบก็แตะเรียวปากที่แก้มเนียนของอีกฝ่ายแผ่วเบา ส่งยิ้มตาปิดที่ทำให้คนตรงหน้าหลงรักมันทุกครั้ง และต้องคอยหวงไม่ให้รอยยิ้มนี้ไปตกอยู่ที่ใครที่ไม่ใช่เธอ
“ขอจูบอีกได้ไหม..”
“ไม่ได้..อายเป็นนะ ตาแทบ๊อง” ดันไหล่ร่างเล็ก พร้อมกับเขกศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปทางห้องพักนักกีฬา ...เอ่อ..เปิดทางชัดนี่ ทิฟฟานี่
“แม่หมี~ รอเค้าด้วย..~” แทยอนเดินตัวลอยตามหลังคนรักหายเข้าไปในห้องพัก ทิ้งให้เจสสิก้านั่งอึนอยู่กับความหวานเลี่ยนที่ทั้งคู่ทิ้งไว้ให้เป็นที่ระลึก ไม่คิดเลยว่าจะหวานกันขนาดนี้ ทิฟฟานี่ไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลยนี่นา..
หากแต่เสียงโทรศัพท์มือถือของใครบางคนก็ดังแหวกขึ้นมาดึงความสนใจไปจากเจสสิก้า ..ยัยทิฟฟานี่ลืมเอาไว้หรือเนี่ย.. เอ๊ะ..นี่มันของยูริที่ฝากเธอไว้นี่นา แต่ยูริดูท่าจะไม่ว่าง รับแทนก่อนแล้วกัน..
“สวัสดีค่ะ..”
[ “พี่ยูริเหรอคะ ทำไมเสียงแปลกๆไปล่ะคะ ไม่สบายเหรอ? พักผ่อนเยอะๆสิ เป็นห่วงนะ” ] เสียงใสจากปลายสายดังเจื้อยแจ้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เธอกำลังพูดอยู่ไม่ใช่ยูริอย่างที่คิด
“เธอเป็นใคร” เจสสิก้าถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เย็นเฉียบราวกับพื้นน้ำแข็งทางขั้วโลกเหนือ ตวัดสายตาไปทางยูริที่เดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าที่เจสสิก้ากำลังคุยอยู่นั้นเป็นโทรศัพท์ของเธอเอง ..เผื่อคุณแม่โทรมาน่ะ.. แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ซะแล้วสิ
[ “พี่ยูริจำซึงยอนไม่ได้เหรอคะ..ก็วันนั้นพี่ยูริยังให้เบอร์ซึงยอนมาเพราะอยากให้ซึงยอนเก็บความลับของเราเอาไว้ไงคะ” ] เสียงใสจากปลายสายเอ่ยอย่างมีความสุข..ไม่ใช่ความลับของเราอะไรหรอก เธอแค่พูดเข้าข้างตัวเองไปอย่างนั้นเอง เพราะเรื่องนั้นมันก็เป็นแค่ปิดบังเรื่องที่แทยอน รองประธานนักเรียนตัวเล็กมาฝึกซ้อมบาสเก็ตบอลที่นี่ก็เท่านั้น
ยูริหน้าซีดเผือดเมื่อเจสสิก้ากดวางสายอย่างไร้เยื่อใย ดวงตายังจับจ้องมาทางเธอจนร่างสูงรู้สึกราวกับว่าโดนแช่แข็งไปเรียบร้อยแล้ว ..ขาขยับไม่ได้เลย อย่าทำอะไรเขานะ ที่รักจ๋า...
รอยยิ้มเย็นเยือกที่เจ้าตัวพยายามปั้นให้มันอ่อนหวาน มือบางเอื้อมลูบไล้ใบหน้าคมเข้ม หากแต่มันทำให้ยูริรู้สึกวาระสุดท้ายของตัวเองได้มาถึงแล้ว ..ทำยังดี.. ดึงเข้ามาจูบกลางโรงยิมแบบทิฟฟานี่เลยดีหรือเปล่านะ แต่ไม่เอาดีกว่า..คงได้ตายเร็วกว่าเดิม...
“ความลับของเราหรือไงคะที่รัก..” เจสสิก้าใช้น้ำเสียงเดิมแบบเมื่อครู่ แลดูหวานเจี๊ยบจับขั้วหัวใจ ยูริยิ้มแห้งๆไม่รู้ว่าเจสสิก้าพูดถึงเรื่องอะไร แต่มันคงไม่ใช้เรื่องดีอย่างน้อยก้ต่อตัวเธออย่างแน่นอน อยากยกมือขึ้นปาดเหงื่อจังเลย
“ตายซะเถอะ ควอน ยูริ!”
END.
-------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุดก็จบแล้วว ว~ เย้ !!~ จุดพลุ~ ฮ่าๆๆ
แต่ดูเหมือนจะขาดอะไรไปอย่างตามที่สัญญาไว้แฮะ..ต้องขอโทษด้วย เราแต่งNCไม่เป็นจริงๆ ลบทิ้งหมดเลย - -*
เป็นเรื่องสั้นที่ยาวมาก..แต่ไม่ได้ยาวเพราะอะไรหรอก...ไรท์เตอร์อ่อนหัดเอง รวบรัดเรื่องไม่เป็น มัน2shot ได้เลยนะเนี่ย
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ไม่แคร์ซะอย่าง กร๊ากก 555+ (ไรท์เตอร์เกรียน 55)
แถมมาลงซะช้า ผิดสัญญาไว้อีก ผิดสัญญาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่มีข้อแก้ตัวค่ะ.. T^T
ขอบคุณสำหรับรีดเดอร์ที่อ่านจนจบ ตามมาตั้งแต่ลงตอนแรกและตามมาเรื่อยๆด้วยความหวังว่าเมื่อไหร่จะจบสักที ฮ่าๆ
ขอบคุณคนเม้นด้วยนะคะ ถ้าไม่มีก็ไม่รู้จะหากำลังใจดีๆแบบนี้ได้จากไหนจริงๆ ..ซึ้ง T T’
ปิดท้ายด้วยความเครียดของไรท์เตอร์...ปิดเทอมนี้เรียนพิเศษทุกวันไม่มีวันหยุดเลย ยกเว้นสงกรานต์... นอกจากจะต้องมากังวลเรื่องเรียนแล้ว ยังต้องมากังวลเรื่องไปโรงเรียนยังไง (ให้ทันและปลอดภัย รถไม่ติด ไปเรียนไม่สาย) ลำบากดีจริงๆถ้าจะออกไปไหนช่วงนี้..
และส่งท้ายด้วย เรื่องบอล หวังว่าพรุ่งนี้จะชนะนะ...ไม่ชนะเพื่อนหงส์มากี่นัดแล้วเนี่ย..เก่งแต่กับแมนยูจริงๆเลยย T____T’
ปล. สิก้าโหดปิดเรื่อง ไว้อาลัยลิงค่ะ 555 5
ผลงานอื่นๆ ของ kiddevil16 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ kiddevil16
ความคิดเห็น