ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หยั่งรากฝากรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 (1/3)

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 64


    ตอนที่ 1  


    “แง้...”

    เสียงร้องไห้จ้าของทารกน้อยทำให้เด็กชายวัยสี่ขวบแอบชะเง้อหน้ามองเจ้าวัตถุที่กำลังผลิตเสียงแสบแก้วหูนั่นอย่างสนใจ ความเป็นลูกคนเดียวทำให้ไม่เคยเห็นหรือคลุกคลีกับเด็กทารกแรกเกิดที่ไหน สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าจึงทั้งน่าพิศวงและชวนให้อยากรู้อยากเห็น

    “เข้ามาดูน้องใกล้ๆ สิจ๊ะตาจิม”

    เด็กชายจิรายุ ปรีดากุล หรือจิม วัยสี่ขวบ หันไปมองเจ้าของเสียงอบอุ่นที่เอ่ยพลางกวักมือเรียกตนเข้าไปหาเจ้าลำโพงตัวน้อยอย่างรักใคร่เอ็นดู

    “ไปสิลูก กลัวอะไร น้องออกจะน่ารัก” เด็กชายหันไปมองหน้ามารดาที่เดินตามเขาเข้ามาแถมยังรุนหลัง ทำให้เขาจำต้องเดินไปที่เปลเด็กอ่อน

    “นี่ไงจ๊ะ น้องดรีม น้องสาวคนใหม่ของลูก น่ารักไหม”

    ทารกแรกเกิดตัวแดงแจ๋ผิวยับย่นยังไม่เข้าที่ทำให้เด็กชายมองนิ่งและประเมินในใจว่าเด็กตรงหน้าห่างไกลจากคำว่าน่ารักไปไกลมาก เขาไม่ชอบเสียงดัง แต่เด็กน้อยนี่กลับแหกปากเสียจนน่ากลัวว่าเส้นเสียงจะพังก่อนโตเหลือเกิน แต่พวงแก้มยุ้ยๆ กับดวงตาที่กลมใสแจ๋วนั่นก็ชวนให้น่าจับต้องไม่น้อยแฮะ

    ราวกับได้ยินความในใจ จู่ๆ ทารกน้อยก็หยุดร้องไห้ พลางจ้องมองมาที่พี่ชายคนใหม่ตาแป๋ว ปากสีแดงอมชมพูน่ารัก โค้งขึ้นนิดๆ ราวกับทักทาย

    “ต๊าย! ดูสิ พอตาจิมเข้ามา เจ้าตัวเล็กของเราก็หยุดร้องเลย แถมส่งยิ้มหวานให้เสียด้วย” มารดาของเด็กชายเอ่ยอย่างตื่นเต้น

    “ไงจ๊ะ หนูดรีม ชอบพี่จิมของเราใช่ไหม หืม...”

    คุณต้องตาผู้เป็นมารดาของเด็กทารกน้อยถึงกับส่ายหน้าในความมโนเป็นตุเป็นตะของเพื่อนรัก แต่ก็ไม่ได้ขัดคออะไร

    “ดูสิต้องตา ดูลูกสาวเธอ ยิ้มรับเสียด้วย ถ้าชอบพี่เขา งั้นพอโตขึ้นป้าจะให้หนูเป็นเจ้าสาวของพี่จิมดีไหมลูก”

    มือที่กำลังเอื้อมไปที่แก้มใสๆ มีอันหดชะงัก เงยหน้ามองมารดาที่เอาแต่ยิ้มแป้นอย่างงุนงง

    “เจ้าสาว! เจ้าสาวคืออะไรครับ” ดวงตาที่ฉายรอยเฉลียวฉลาดจ้องหน้าบุพการีเขม็ง

    “เจ้าสาวก็คือผู้หญิงที่ลูกจะแต่งงาน แล้วก็อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตน่ะสิลูก เหมือนพ่อกับแม่ แล้วก็น้าต้องตากับน้าภานุไงล่ะจ๊ะ”

    คนฟังทำหน้าเบ้ พลางหันไปมองคนตาแป๋ว ที่ส่งยิ้มเล็กๆ ให้อย่างผูกมิตร

    “เจ้าสาว” เด็กชายชี้ไปที่เปล “น้องคนนี้เหรอครับแม่”  

    “ใช่จ้ะ แม่จองน้องไว้ให้เป็นเจ้าสาวของลูกไง ดีไหม”

    “ทับทิม!” แม่ของเด็กน้อยที่ถูกตีตราจองตั้งแต่อายุได้ไม่ถึงห้าวันร้องเรียก พลางส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มอย่างขำขันมากกว่าโกรธจริงจัง “เจ้าสาวอะไรกันจ๊ะ ลูกๆ ของพวกเรายังเด็กอยู่เลย เธอนี่ก็พูดไปเรื่อย ดูสิ ตาจิมงงหมดแล้วนั่นน่ะ”

    “ไม่รู้ล่ะ ลูกสาวเธอคนนี้ฉันจองแล้ว ไหนๆ ก็มีลูกสาวไม่ได้ ก็ขอมาเป็นลูกสะใภ้นี่แหละ เนอะลูกเนอะน้องดรีมคนสวยของป้า” คุณทับทิมพยักพเยิดกับทารกน้อยที่ตอนนี้หยุดร้องไปแล้ว ตาแป๋วแหววจ้องมองราวกับรู้ความ แถมส่งยิ้มรับอ้อแอ้

    “จริงสิ ฉันเตรียมของมารับขวัญหลานด้วยนี่ไง ตาจิมเอาไปให้น้องสิลูก”

    เด็กชายหันไปรับถุงสีแดงๆ เล็กๆ จากมือแม่มาเปิดดูอย่างอยากรู้ ก่อนที่จะหยิบกำไลทองคำวงเล็กๆ น่ารักน่าเอ็นดูออกมาจากถุง

    “รอเดี๋ยวลูก อ่ะนี่เอานี่ให้น้องด้วย” คนพูดถอดแหวนจากนิ้วนางข้างซ้ายของตนออก

    “เดี๋ยวทับทิม นั่นเธอจะทำอะไรน่ะ” คุณต้องตาเอะอะ เมื่อเห็นเพื่อนรักถอดแหวนวงที่รักออกจากนิ้วยัดใส่มือลูกชายตัวเอง

    “ก็หมั้นลูกสาวเธอให้ตาจิมไงล่ะ รีบสวมให้น้องสิลูก ที่มือน่ะ”  

    เด็กชายมองหน้าคนนู้นคนนี้อย่างงุนงง ไม่เข้าใจ หากระหว่างที่กำลังลังเลว่าควรทำอย่างไรนั้นเอง

    หมับ! ยังไม่ทันได้ทำตามคำสั่งของแม่ จู่ๆ นิ้วเล็กๆ ก็คว้าจับของในมือของเด็กชายหมับจนฝ่ายนั้นสะดุ้ง เกือบกระตุกมือหนีอย่างตกใจ แต่พอเห็นปากจิ้มลิ้มส่งรอยยิ้มน่ารักมาให้แทนการเบะร้องไห้จ้า ก็เลยปล่อยให้จับอยู่อย่างนั้น

    ภาพนั้นทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนหันมายิ้มให้แก่กัน 

    “ต๊าย ดูสิเธอ ยัยหนูของเราตอบรับหมั้นพี่จิมแล้วแถมยิ้มหวานให้เสียด้วย ดูสิคะพ่อ” นอกจากจะไซโคเพื่อนรักแล้ว คุณทับทิมยังหันไปขอเสียงสนับสนุนจากสามีที่เดินตามหลังเข้ามาพร้อมกับบิดาของแม่หนูน้อยในเปล

    “ว่าที่ลูกสะใภ้เรา น่าเอ็นดูเหลือเกิน”

    “ไงเจ้านุ ลูกสะใภ้คนนี้ของฉัน นายจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ดีว่ามาเลย พ่อทุ่มไม่อั้น” แทนที่จะปราม แต่ทว่าคุณจอมพล ปรีดากุล กลับเห็นดีเห็นงามกับเมียรัก

    ในเมื่อสองครอบครัวต่างก็รู้จักสนิทสนมกันฉันท์เพื่อนรักเพื่อนสนิทกันมานาน เพราะคุณภานุ ปัญจรักษ์ เป็นเพื่อนกับคุณจอมพล ปรีดากุล มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ประถมด้วยกัน และทั้งคู่ยังมาพบรักกับรุ่นน้องสมัยมัธยมอย่างคุณต้องตาและคุณทับทิมซึ่งทั้งสองก็เป็นเพื่อนซี้กันอีก ทำให้สองครอบครัวยิ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น

    เมื่อแต่งงานกันสองครอบครัวก็ยังมาซื้อบ้านติดกันเป็นเรือนหอเพื่อไปมาหาสู่กันอีก จนกระทั่งทั้งสองบ้านมีลูก โดยบ้านปรีดากุลมีลูกชายชื่อ จิรายุ หรือ จิม ส่วนบ้านปัญจรักษ์ก็เพิ่งมีลูกสาวแรกคลอดคือ เด็กหญิงพาฝัน หรือ น้องดรีม สองบ้านวาดฝันที่จะเชื่อมความสัมพันธ์อีกขั้นจึงตกลงว่าหากเด็กทั้งสองโตขึ้นก็จะจับคู่ให้เหมือนในนิยายพาฝันที่พวกแม่ๆ ทั้งสองชื่นชอบ แต่ทว่า...

    (โปรดติดตามตอนต่อไป) 

    ++++++++++++++++++++++++++++

    สวัสดีวันหยุดจ้า 

    เอาเรื่องใหม่มาเสิร์ฟให้ชิม ใครชอบแนวแอบรัก พี่ชายน้องสาวข้างบ้าน ขอเชิญเร่เข้ามาแอดแฟนไว้น้า เราจะพยายามมาอัพบ่อยๆ แวะมาแล้วทักทายกันได้จ้า 

    ฝากผลงานกันสักนิด เรื่องใหม่ล่าสุดของไรท์ กดลิ้งค์แล้ววาปไปได้เลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×