ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่5
บทที่5
สองเดือนกับการมาอยู่ที่นี่ทำให้มณชญาได้เรียนรู้พฤติกรรมและการดำรงชีวิตของคนในสังคมผู้มีอันจะกินอีกระดับนึง ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เงินทองไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลยสำหรับคนเหล่านี้เพราะเขาไม่เคยขาดแคลน ต่างจากหล่อนตอนนี้ เงิน คือสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับการรักษาชีวิตของผู้มีพระคุณประดุจแม่บังเกิดเกล้าอย่างแม่จอย และอีกหลายชีวิตในบ้านสงเคราะห์เหล่านั้นกำลังรอคอยด้วยความหวัง
ในวันอาทิตย์นายจ้างของหล่อนอนุญาตให้หยุดงานได้ เพราะคุณพงษ์เทพไม่ได้ทำงาน จึงมาอยู่เป็นเพื่อนผู้เป็นพ่อแทนหล่อน มณชญาจึงเดินทางกลับไปเยี่ยมแม่จอยและน้องๆที่สถานสงเคราะห์ ซึ่งเธอมักจะมีข้าวของติดมือไปด้วยเสมอ ด้วยรู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นกำลังเดือดร้อน แม้ว่าจะทำเรื่องเพื่อของบประมาณจากทางราชการก็ตามแต่คงไม่ง่ายและรวดเร็วนัก ดังนั้นทุกคนที่นี่จึงต้องช่วยกัน อย่างไหนที่ประหยัดได้ก็จะช่วยกันประหยัด การปลูกผักสวนครัวเล็กๆน้อยๆก็เป็นกิจกรรมหลักของที่นี่เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเป็นสิ่งบันเทิงเล็กๆสำหรับเด็กๆด้วย นอกจากนี้งานฝีมือจากเด็กๆก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหารายได้มาจุนเจือ โดยมีพ่อค้าจากภายนอกมารับไปจำหน่ายต่อ ทุกวันอาทิตย์มณชญาจะมาขลุกอยู่ที่นี่ทั้งวัน เพื่อช่วยน้องๆแม่ๆทำกิจกรรมเหล่านี้ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเธอจุดการภารกิจประจำวันของเธอเสร็จแล้ว เธอก็รีบออกจากบ้านมุ่งหน้าไปที่สถานสงเคราะห์อย่างเช่นเคย เพื่อไปหาแม่จอยของเธอ
“แม่จอยจ๋า มณมาแล้วจ๊ะ” หล่อนนั่งลงกอดเอวผู้เป็นเสมือนแม่บังเกิดเกล้าพร้อมหมอแก้มฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง
“มาแล้วหรือลูก เป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยมากมั๊ย”แม่จอย ถามพร้อมกับลูบผมเธอเบาๆ
“น่าสงสารเหลือกินลูกเอ๊ย ต้องมาเหนื่อยเพื่อแม่ๆและน้องๆ แทนที่จะได้ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กรุ่นๆเดียวกัน แต่ต้องมาแบกรับภาระอีกไม่รู้กี่ชีวิต เสียดายที่แม่ต้องมีสภาพแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคงช่วยอะไรได้บ้าง”
มณชญาจ้องมองใบหน้าของแม่จอยซึ่งตอนนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตา “แม่จอยจ๋าอย่าคิดอะไรมาก มณไม่เหนื่อยเลยสักนิด มณมีความสุขกับการทำงานและการได้ช่วยแม่ๆน้องๆรวมถึงบ้านหลังนี้ บ้านที่ให้ชีวิตแก่มณ ทุกๆสิ่งในบ้านหลังนี้ก็คือชีวิตของมณ”
“แต่หนูทำงานตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์ แล้ววันอาทิตย์ต้องมาดูและแม่และน้องๆอีก ร่างกายมันจะไม่ไหวเอานะ ลูกควรหาเวลาพักผ่อน ดูแลตัวเองบ้าง นึกถึงตัวเองนะลูกอย่าห่วงแต่คนรอบข้างมากนักเลย”
“ค่ะแม่ แต่สิ่งที่มณทำคือความสุขค่ะ มณเต็มใจ แม่จอยไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมณสบายดี มณทำแล้วรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าสำหรับคนอื่น หลังจากที่มันไม่เคยมีค่าสำหรับพ่อ-แม่ผู้ให้กำเนิด”
“มณลูกแม่ ชีวิตคนเรามีค่าทั้งนั้น ใช่ว่าจะต้องมีค่าสำหรับคนอื่น ตัวเราเองก็เช่นกันนะลูก”
“ค่ะ มณจะจคำของแม่จอยเอาไว้”
“พี่มณๆ” เสียงเด็กๆเรียกจากข้างนอกห้อง
“ไปเถอะลูก ไปหาน้องๆไป เรียกกันใหญ่แล้ว คงจะชวนไปทำตุ๊กตากันอีกละสิ”
“ค่ะแม่ มณไปก่อนนะ แม่จอยพักผ่อนแล้วมณจะมาทานข้าวเที่ยงเป็นเพื่อน”
มณชญาสวมกอดแม่ของเธออีกครั้ง จากนั้นก็ออกไปที่ลานด้านล่างของบ้านสงเคราะห์ ที่นั่นเต็มไปด้วยเด็กที่รอเธออยู่
“พี่มณมัวทำอะไรอยู่ พวกเรารอกันเต็มศาลาแล้ว” นิดาเด็กหญิงร่างเล็ก ลากเสียงยาวอ้อนมณชญา เด็กๆในบ้านมารอให้เธอสอนการทำตุ๊กตาจากเศษวัสดุเหลือใช้ ซึ่งในแต่ละอาทิตย์มณชญาจะมีไอเดียใหม่ๆในการสร้างงานให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆทุกคนในบ้านหลังนี้ วันอาทิตย์ถือว่าเป็นวันที่เด็กๆทุกคนตั้งตารอ เพื่อที่จะได้ร่วมทำกิจกรรมกับพี่มณของพวกเธอ ทำงานประดิษฐ์จากนั้นก็ล้อมวงกันฟังนิทานที่เล่าโดยมณชญา และจบลงตอนบ่ายที่หญิงสาวต้องลากลับที่บ้านพงษ์รัตนไพศาลเพื่อทำหน้าที่ของเธอ
วันนี้มณชญาบอกกับแม่บัวว่าคงจะกลับช้าหน่อยเพราะอยากอยู่เป็นเพื่อนแม่จอยนานๆ และวันนี้เป็นวันสิ้นเดือนต้องช่วยแม่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือนของบ้าน กว่าจะเสร็จก็คงพลบค่ำพอดี ที่สำคัญวันนี้คุณปู่ประมุขของบ้านพงษ์รัตนไพศาลบอกกับหล่อนว่าหลานชายท่านจะกลับมาจากอังกฤษ ถึงเมืองไทยประมาณ 6 โมงเย็นได้ หล่อนจะได้ถือโอกาสหลบหน้าซะเลย เพราะยังไม่ได้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับคนคนนี้ ด้วยเหตผลหลายประการที่หล่อนเองห็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม เจอหน้ากันครั้งแรกจะให้หล่อนแนะนำตัวเองว่าอะไรดี
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมณชญา แม่พันธุ์ชั้นดีที่คุณปู่คุณเลือกไว้ให้หรือ..”มันยากที่จะทำใจ นี่เราคิดถูกหรือผิดกันนี่ มณชญาคิด
“มณจ๊ะ”“อุ๊ย พี่ภา ตกใจหมดเลย มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มณ ใจลอยไปถึงไหน พี่เรียกตั้งหลายครั้ง ไม่ได้ยินเหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เห็นหน้าเครียดเชียว บอกพี่ภาได้นะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มณแค่คิดอะไรเพลินๆไปหน่อยเท่านั้นเอง งานเสร็จแล้ว มณขอตัวก่อนนะคะพี่ภา เดี๋ยวมณไปลาแม่จอยก่อน”
หลังจากล่ำราและกำชับแม่จอยเรื่องยาและการทำกายภพบำบัดเรียบร้อยแล้ว มณชญาก็เดินทางกลับ โดยมีบรรดาเด็กๆในบ้านออกันมาส่งที่หน้าประตู
“ไปก่อนนะจ๊ะทุกๆคน เป็นเด็กดีกันนะ อาทิตย์หน้าค่อยเจอกัน ตั้งใจเรียนทุกๆคนนะ อย่าทำให้แม่ๆผิดหวังละ”
“พวกเราจะเป็นเด็กดี” เสียงเซ็งแซ่ตอบกลับจากบรรดากลุ่มเด็กๆ มณชญายิ้มตอบกลับอย่างมีความสุข
“ไปนะคะพี่ภา ฝากดูแลเด็กๆและแม่จอยด้วยนะคะ”
“จ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วง เดินทางปลอดภัยนะ”
มณชญากล่าวขอบคุณ เธอเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อรอรถ สายตามองดูนาฬิกาที่ข้อมือ เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ป่านนี้หลานชายของท่านคงกลับมาถึงแล้ว หล่อนออกจากที่นี่กว่าจะถึงบ้านก็คงสองหรือสามทุ่ม ทีนี้พอเข้าไปในบ้านก็คงสะดวก โดยไม่ต้องเจอหน้ากัน ทางโน้นก็คงไม่เป็นห่วงเพราะเราบอกเอาไว้ว่าจะกลับมืดๆ หล่อนคิด
เมื่อมณชญามาถึงหน้าบ้าน พงษ์รัตนไพศาล ก็สามทุ่มพอดี เพราะวันนี้รถติดมากเป็นพิเศษ ลุงชมยามที่หน้าประตู รีบเปิดประตูให้หญิงสาว
“คุณมณกลับช้านะครับวันนี้”
“รถติดค่ะลุงชม แล้วในบ้านขึ้นนอนกันหมดรึยังคะ”
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
หล่อนเดินเข้าไปตามถนนผ่านสวน ตรงเข้าสู่ตัวบ้าน หันไปมองยังที่จอดรถซึงปกติจะมีรถจอดอยู่เต็ม แต่ตอนนี้หายไปหนึ่งคัน คงมีใครออกไปข้างนอก หรือว่ารถที่ไปรับหลานชายของท่านยังไม่กลับมากันแน่ คิดได้แล้วมณชญาก็รีบเร่งฝีเท้าเพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน และสิ่งที่หล่อนต้องการนั้นก็คือ ขึ้นให้ถึงห้องนอนของตัวเองให้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องเจอกับบุคคลที่ทำให้เธอกระวนกระวายมาตลอดทั้งวัน
“คุณมณ กลับช้านะคะวันนี้”
“รถติดมากเลยจ๊ะแม่บัว”
“คุณมณทานอะไรมารึยังคะ เดี๋ยวแม่บัวให้เด็กไปเตรียมให้”
“ทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ เอ่อ แม่บัวจ๊ะ แล้วคุณ...” มณชญากำลังจะถามแม่บัวถึงคนคนนั้น แต่เธอก็ชะงักเอาไว้ ช่างเถอะ จะไปสนใจทำไม ไม่ใช่ธุระของหล่อน คิดแล้วหล่อนก็ขอตัวแม่บัวขึ้นห้อง หล่อนล๊อคประตูอย่างแน่นหนาทุกครั้ง เพราะวันนี้หลานชายของท่านกำลังจะกลับมา สิ่งที่หญิงสาวกลัวนั้น ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ความกังวลนี้ส่งผลที่จิตใจของหญิงสาวตลอดทั้งวัน หรืออาจจะตลอดไปเลยก็ได้ ขณะที่มณชญากำลังอยู่ในภาวะหวาดวิตกอยู่ ในเวลาเดียวกันบุคคลที่ทำให้เธอกำลังวิตกจริตอยู่นั้น ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาที่บ้านหลังนี้เลย เพราะหลังจากที่ถึงสนามบิน เขาก็ตรงเข้าไปที่คอนโดส่วนตัวบริเวณที่ทำงานของพ่อทันที โดยอ้งถึงความเป็นส่วนตัวและความสะดวกในเวลาทำงาน หรือว่าเขาก็อยู่ในภาวะวิตกเช่นเดียวกันกับเธอ....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น