ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ม่านบังใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 52


    ตอนที่2
     
                    รุ่งขึ้นมณชญา ออกจากห้องพักตั้งแต่ตีห้า เพราะต้องการเผื่อเวลาไว้ ด้วยปัญหาเรื่องการจราจร สถานที่ที่เธอจะไปอยู่ย่านถนนศรีนครินทร์ ไกลมากจากบ้านที่เธออาศัยอยู่ เราคงต้องไปรอก่อนเวลาดีกว่าให้เขารอเรา สภาพการจราจรที่เป็นเรื่องปกติของกรุงเทพ ถึงแม้จะมีการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนมารองรับอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรถติดยาวเหยียด ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด
                    สถานที่นัดไว้หาได้ไม่ยากนัก จากการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวาน สถานที่ซึ่งอยู่ไกล้กับสวนสาธารณะซึ่งเป็นที่รู้จักของคนแถวนั้น ดังนั้นการสอบถามกับคนในพื้นที่จึงเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี อาจเป็นเพราะกิริยาที่นอบน้อมของหล่อนนั่นเอง ทำให้คนที่ได้พบรู้สึกเอ็นดูและถูกชะตา นี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของมณชญา เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาซึ่งสวยอย่างไทยแท้แล้ว บุคลิค กิริยา ยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นแตกต่างจากบรรดาหญิงสาวที่แต่งกาย หรือ พยายามทำตัวเองให้กลมกลืนกับกระแสสังคมที่หลั่งไหลมาจากภายนอก ส่วนคนที่พบเห็นมณชญานั้นมักจะทักเธอและบอกว่าหล่อนสวยเหมือนแม่ แม่ที่หล่อนไม่เคยเห็น หรือแม้แต่ชื่อยังไม่รู้จักเลย
                    ความคิดเรื่อยเปื่อยของหล่อนมาหยุดลง เมื่อมายืนอยู่หน้าคฤหาสหลังงามบนเนื้อที่อันกว้างขวาง
    บ้านพงษ์รัตนไพศาล คงเป็นหลังนี้ หญิงสาวเอื้อมมือไปกดกริ่ง
                    คุณมาหาใครครับ? เสียงถามของชายวัยกลางคน ที่วิ่งเหยาะๆมาที่รั้วประตู
                    ดิฉัน มณชญา มาพบคุณพงษ์เทพ พงษ์รัตนไพศาลค่ะ
                    นัดเอาไว้หรือเปล่าครับ
                    ค่ะ
                    เชิญครับ พร้อมกับเปิดประตูเชื้อเชิญให้หล่อนเข้าไป
                    คุณนั่งรอตรงซุ้มรับแขกนี่ก่อน เดี๋ยวแม่บ้านจะพาคุณไปพบคุณท่าน เขาชี้ไปที่มุมรับแขกกลางสนามหญ้าที่มีต้นไม้ร่มรื่นบังแสงแดด หล่อนนั่งรอประมาณ10 นาที แม่บ้านร่างท้วมท่าทางใจดีก็เดินเข้ามา
                    คุณมณชญา สุภาพพงษ์ เชิญตามอิฉันมาเลยค่ะ ท่านกำลังรอคุณอยู่ ท่านบอกว่าคุณรักษาเวลาได้ดีมาก
                    หญิงสาวเดินตามแม่บ้านไป เข้าไปด้านในตัวบ้าน ความหรูหราของคฤหาสน์ทำให้หล่อนตะลึง จนมาถึงหน้าห้องทำงานของเจ้าของบ้าน
                    ท่านคะ คุณมณชญามาถึงแล้ว
                    เข้ามาสิ เมื่อหญิงสาวเข้าไป ชายอายุ 50 กว่าๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาเงยหน้าขึ้นยิ้มรับหญิงสาว แล้วเชื้อเชิญให้เธอนั่งลง หญิงสาวสยกมือสวัสดีอย่างนอบน้อม
                    สวัสดีค่ะ ดิฉัน มณชญา สุภาพพงษ์ ค่ะ
                    หนูรักษาเวลาได้ดีมาก อย่างนี้แหละที่ฉันต้องการ
                    ขอบคุณค่ะ
                    หนูยังไม่รู้รายละเอียดใช่ใหมว่าต้องทำอะไรบ้าง
                    ค่ะ ยังไม่ทราบค่ะ
                    ไหนลองลุกขึ้น หมุนตัวให้ฉันดูหน่อยซิ
                    มณชญางงกับคำสั่งนั้น แต่เธอก็ปฏิบัติตามโดยดี  คิดว่าคงเป็นหลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างหนึ่งของเขา
                    รูปร่าง ท่าทาง กริยาใช้ได้ทีเดียว แล้วมีหลักฐานการศึกษา เอกสารอื่นๆมาด้วยหรือเปล่า
                    นี่ค่ะ หล่อนยื่นเอกสารทั้งหมดให้กับผู้ที่อยู่ตรงหน้า
                    เป็นเด็กจากสถานสงเคราะห์หรือนี่ ผลการเรียนดีมากเลย แล้วมีประสบการณ์ด้านการดูแลเด็กและคนแก่หรือเปล่า?
                    มีค่ะ เป็นเด็กๆในบ้านสงเคราะห์ด้วยกัน และมีบางครั้ง ก็ไปช่วยดูแลคนแก่ที่บ้านพักคนชราใกล้ๆกันค่ะ
                    แต่ที่นี่ต้องดูแลคนแก่อายุ 90 นะ หนูทำได้ใหม?
                “ได้ค่ะ
                “มั่นใจดีนะ มันมีรายละเอียดและข้อตกลงอีกหลายอย่างที่เราต้องคุยกัน ฉันพยายามหาคนที่จะมาทำงานนี้เป็นแรมปี แต่ก็ไม่ได้ดั่งใจสักที บอกตรงๆที่เคยมาสมัครก่อนหน้านี้ ไม่ผ่านการพิจารณาเลยสักคน
                    มณชญา กังวลในความหมายของคำพูดเหล่านี้ การที่จะดูแลคนแก่สักคน ต้องพิถีพิถันมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?
                    เดี๋ยวฉันจะพาหนูไปพบผู้ที่ต้องอยู่ในความดูแลของหนูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ จากนั้นก็มาคุยรายละเอียดอีกที เชิญ
                    ค่ะ หล่อนรับคำแล้วลุกขึ้นเดินตามชายผู้นั้นออกไปอีกฝั่งของคฤหาสน์ ห้องนี้เป็นห้องกว้างโล่ง หน้าต่างบานสูงเปิดไว้ให้แสงและลมผ่านเข้ามาอย่างสะดวก มีม่านบางกันแดงเอาไว้ ห่างประตูห้องออกไปที่อีกฝั่ง เตียงไม้แกะสลักอย่างสวยงามตั้งอยู่ มีชายชราที่ร่างกายร่วงโรยไปตามอายุขัยนั่งรับลมอยู่ โดยมีแม่บ้านคนเดิมคอยรับใช้อยู่ไกล้ๆ
                    คุณพ่อครับ ผมพาคนดูแลคุณพ่อมาแล้วครับ
                    เข้ามาสิพ่อเทพ เชิญหนูเชิญ ชายชราหันมามองแล้วเรียกทั้งสองไปนั่งไกล้ๆ ซึ่งตอนนี้เก้าอี้สองตัวตั้งรออยู่แล้ว ชายชราจ้องมองหญิงสาวนิ่งนานโดยไม่พูดอะไรออกมา จนมณชญารู้สึกอึดอัด มือไม้เก้งก้างไปหมด ไม่รู้จะไว้ตรงไหน นอกจากยกมือขึ้นไหว้
                    สวัสดีค่ะท่าน
                    สวยงามมาก ไปหามาจากไหนละพ่อเทพ
                    หนูมณชญา เธอมาสมัครเองครับคุณพ่อ
                    ดีมาก ถ้าเต็มใจก็ดี ฉันรู้สึกถูกชะตากับหนู และคิดว่าคงถูกใจพ่อชยุตเหมือนกัน จริงไหมพ่อเทพ
                    ครับคุณพ่อ เธอเป็นเด็กกำพร้าจากบ้านสงเคราะห์ครับ จบบริหาร ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยนะครับ
                    อย่างนี้แหละที่พ่อต้องการ สมบูรณ์แบบแล้ว
                    แต่ผมยังไม่ได้อธิบายรายละเอียดของงานให้หนูมณชญาฟังเลยนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะรับงานนี้หรือเปล่า
                    อืม นั่นสินะ
                    การสนทนาของสองพ่อลูก ยิ่งทำให้หญิงสาวสงสัย แต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม ได้แต่นั่งฟังเฉยๆ
                    ว่ายังไงหละหนู อยากจะทำงานที่นี่ไหม?
                    ค่ะ
                    ดี งั้นมาฟังรายละเอียดเลยนะ จริงๆแล้วเรื่องการดูแลคนแก่อย่างฉันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะ แต่เรื่องที่สำคัญก็คือ ฉันกำลังหาผู้ที่จะมาเป็นแม่ของลูกให้กับหลานชายคนเดียวของฉัน โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น แต่ฉันก็ให้ตอบแทนสำหรับการเสียสละครั้งนี้ตามที่หนูต้องการ
                    ฉันพร้อมที่จะจ่าย ขอให้นึกเสียว่า เห็นแก่คนแก่ที่ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง ฉันอยากเห็นเหลนที่จะมาสืบทอดตระกูลพงษ์รัตนไพศาล
                    แล้วทำไมท่านไม่ให้หลานชายท่านแต่งงานกับผู้หญิงของเขาสักคนละคะหล่อนรู้สึกงงอย่างคาดไม่ถึงว่ายุคสมัยนี้ ยังมีคนที่มีความคิดแบบนี้อีกหรือนี่ มันเป็นการเปิดรับสมัครหาแม่พันธุ์ดีๆนี่เอง แต่นี่เป็นคน เมื่อถึงตรงนี้ทำให้หล่อนรู้สึกอับอายจนใบหน้าแดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
                    เจ้าชยุต หลานชายของฉัน เป็นยืนเป็นกระต่ายขาเดียว ว่าไม่พร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัว ฉันจึงต้องใช้วิธีนี้ เพราะฉันคงอยู่ได้อีกไม่นาน อยากจะเห็นเหลนสักคน หนูจะช่วยฉันได้ไหม?
                    หญิงสาวพูดไม่ออก เมื่อฟังเหตุผลประหลาดๆจากประมุขบ้านหลังนี้ ยอมรับว่าคาดถึงกับความคิดแบบนี้
                    เมื่อหนูมานั่งตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันรู้ทันทีว่าต้องเป็นคนนี้ มีอะไรบางอย่างทำให้ฉันรู้สึกอย่างนั้น แต่ถ้าหนูไม่เต็มใจฉันก็ไม่บังคับ ฉันก็อยากให้หนูมาเป็นลูกหลานของฉัน มันถูกชะตายังไงบอกไม่ถูก
                    เอ่อ หนูขอเวลาคิดทบทวนก่อน ได้มั๊ยคะ มันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตหนู เพราะกำเนิดของหนูเอง ก็ยังไม่รู้เลยว่าใครคือพ่อ-แม่ที่แท้จริง หนูไม่เคยมีครอบครัวที่สมบูรณ์เลยในชีวิต และหนูก็คงไม่ต้องการให้ลูกของหนูที่เกิดมา มีชิวิตเหมือนตัวเอง
                    เรื่องนี้หนูไม่ต้องห่วง เขาเกิดมาเป็นเหลนของฉัน เป็นคนที่จะมาสืบทอดตระกูลของฉัน ฉันไม่มีวันทิ้งเขาเด็ดขาด เขาจะเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนที่นี่ และตัวหนูเองก็อยู่ในฐานะแม่เต็มตัวอยู่แล้ว
                    แล้วหลานชายท่านละคะ
                    อันนั้นถ้ามันไม่ต้องการมาอยู่ที่นี่ก็ปล่อยมันไป เพราะทุกวันนี้มันก็ไม่เคยมาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว
                    คุณพ่อเขาหมายถึงว่าตอนนี้ เจ้าชยุต หลานชายของผม ไม่ค่อยได้เข้ามาอยู่ที่นี่บ่อยนัก นับตั้งแต่พ่อของเขา คือพี่ชายของผมเสียไปตั้งแต่เขายังเด็ก เราส่งเขาไปเรียนที่อังกฤษหลังจากนั้นไม่นาน เขากลับมาเยี่ยมที่นี่เป็นครั้งเป็นคราวเท่านั้น ส่วนตัวฉันเองก็ไม่มีปํญญามีหลานให้คุณพ่อได้ เราก็เลยหวังพึ่งเจ้าชยุตคนเดียวเท่านั้น...
                    ฉันอยากให้หนูทบทวนข้อเสนอของพวกเราดูสักครั้ง บอกตรงๆว่าทั้งคุณพ่อและฉัน รู้สึกถูกชะตากับหนู และเราคิดว่าหนูนั้นต้องเป็นแม่ที่ดีของหลานฉันได้
                    หนูขอเวลาคิดสักระยะนะคะ และหนูขอเรียนตามตรงว่า อย่างเพิ่งคาดหวังกับหนูมากนัก หนูไม่อยากให้ท่านผิดหวัง มณชญาตอบอย่างรักษาน้ำใจ ซี่งความจริงแล้ว หล่อนคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นใครก็คงปฏิเสธเช่นเดียวกับเธอ
                    ถ้าตัดสินใจอย่างไร ก็โทรมาหาฉันได้
                    ค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับก่อน หญิงสาวกล่าวอำลากับทั้งสองคน ซึ่งชายชราได้แต่มองด้วยสายตาเศร้าซึม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×