ความเจ็บปวดของความว่างเปล่า - ความเจ็บปวดของความว่างเปล่า นิยาย ความเจ็บปวดของความว่างเปล่า : Dek-D.com - Writer

    ความเจ็บปวดของความว่างเปล่า

    ฉับพลันที่ฉันรู้สึกตัว การตอบสนองของฉันก็เป็นศูนย์

    ผู้เข้าชมรวม

    263

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    263

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ค. 49 / 01:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      ...ที่นี่ที่ไหนกันนะ...


      หนังตาที่หนักอึ้งทั้งสอง ไม่ยอมเผยให้ผมเห็นถึงสิ่งรอบข้างในขณะนี้
      ประสาทหูของผมยังทำงานปกติดี แม้ว่าตอนนี้ตัวผมจะไม่ขยับแม้แต่น้อย

      สายฝนที่สาดซัดลงมาจากท้องฟ้า เสียงดังอึกทึกของฝูงคนที่ตื่นตระหนกแทรกผ่านเสียงสายฝนเข้ามา
      ผมกำลังนอนหงายอยู่บนพื้น ดวงตายังคงปฏิเสธคำสั่งจากผมอยู่ และแขนทั้งสองข้างก็ทรยศผมเหมือนกัน
      จะอะไรก็ช่าง ขณะนี้ผมรู้สึกบางอย่างในร่างกาย และค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆภายในเวลาไม่กี่อึดใจ


      เจ็บ...


      ผมเจ็บที่กลางหลังอย่างรุนแรง แต่ริมฝีปากไม่ยอมให้ผมคายความเจ็บปวดนั้นออกไปเป็นถ้อยคำแม้แต่น้อย
      เสียงรถพยาบาลที่แล่นใกล้เข้ามา แม้จะไม่ช่วยให้ความเจ็บปวดทางร่างกายของผมลดลงแต่ก็ช่วยให้ผมสบายใจขึ้นมาก

      มีคนเข้ามาช่วยพยุงผมขึ้นจากพื้น พวกเขาคงต้องการความเร็วในการเคลื่อนย้าย จึงไม่ทันคิดว่าเขากำลังยกผู้ป่วยผิดท่า
      นั่นทำให้แผลช้ำที่กลางหลังของผมรุนแรงยิ่งขึ้น จนผมรู้สึกได้ว่าเลือดกำลังไหลออกจากร่างกายของผมอย่างรวดเร็ว

      พวกเขาวางผมลงบนเตียง โดยไม่สนใจสายฝนที่สาดลงมาอย่างน่ารำคาญจนตัวผมเปียกปอน
      ผมจำได้ว่าได้ยินเสียงคุณพ่อและเพื่อนบ้านก่อนที่ประตูรถพยาบาลจะปิดลง
      แต่เพราะความสับสน-อลหม่านที่ต่างฝ่ายต่างก็แย่งพูด จึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่าใครพูดอะไรเลย

      รถพยาบาลออกเดินทาง ที่ด้านหลังรถพยาบาลไม่มีใครนอกจากผมคนเดียวที่กำลังนอนอย่างเจ็บปวดอยู่บนเตียงรถเข็น
      เข็มขัดรัดที่ตัวผมไว้กับเตียง ตึงแผลที่หัวเข่าขวาของผมจนบีบรัด ผมเจ็บมาก และรู้ว่าเลือดของผมกำลังไหล
      แต่กระนั้นผมก็ไม่สามารถส่งปฏิกิริยาย้อนกลับออกไปภายนอกได้เลย ผมกลายเป็นผู้รับสารอยู่ฝ่ายเดียว

      แต่ละนาทีแห่งความเจ็บปวดบนรถพยาบาล ไม่อาจเทียบได้กับนาทีบนเตียงรถเข็นจากประตูโรงพยาบาลไปที่ห้องฉุกเฉิน
      สายฝนรุนแรงถูกป้องกันโดยอาคารของโรงพยาบาลที่มีกลิ่นยาคุ้นเคยตั้งแต่สมัยที่ผมมาเยี่ยมคุณแม่ที่เคยเข้ารักษา
      ผมรู้จักที่นี่ดี เพราะเป็นที่ที่ผมเห็นรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของคุณแม่ ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจ

      อุปกรณ์สัพเพเหระต่างๆจัดเตรียมอย่างเร่งด่วนในห้องฉุกเฉินนั้น
      แต่กลับมีเครื่องมือแพทย์เพียงชิ้นเดียวที่นำมาใช้ตรวจร่างกายผม กลมๆ เย็นๆ สัมผัสที่หน้าอกฝั่งซ้าย

      เครื่องฟังเสียงหัวใจ?


      "เวลาเท่าไหร่"
      "ผู้ตายเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุครับ"
      "งั้นผมขอแจ้งเวลาตอนนี้นะ เวลา......."

      ผมนึกออกแล้ว
      ที่ผมขยับตัวไม่ได้เลยนี่ เป็นเพราะผมตายแล้วนี่เอง
      ผมกระโดดลงจากคอนโดสิบชั้นกว่าที่ผมอาศัยอยู่


      ทำไม?


      ผมนึกสาเหตุไม่ออก หรือนี่ก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งของชีวิตคนหลังความตายมาเยือน
      ถ้าอย่างนั้น ทำไมความเจ็บปวดที่แทบจะคลั่งนี่ถึงไม่ยอมหยุดลงซักที

      กระดูกหัวเข่าที่เสียดแทงออกมาจากเบ้า
      แผ่นหลังที่งอกลับไป 45 องศา
      ข้อศอกที่แตกแหลกละเอียด
      และอะไรซักอย่างที่ไหลย้อยออกมาจากภายในท้องของผม
      เจ็บจริงๆ ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องแบกความเจ็บปวดนี้อีกนานเท่าไหร่

      การรักษา ไม่สิ เรียกว่าการตรวจสภาพดีกว่า
      การตรวจสภาพตัวผมจบลงภายในไม่กี่นาที
      จะเอาอะไรอีกล่ะ ก็ผู้ป่วยตายแล้วนี่นา

      ผมได้ยินเสียงทุบกระจกประตูห้องฉุกเฉินที่ผมนอนอยู่ และเสียงของใครซักคนที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย
      ท่าทางเขาคงทรมานน่าดู แต่ช่างมันเถอะ ผมนอนแผ่คาความเจ็บปวดแสนรันทดนี่อยู่เป็นชั่วโมงแล้ว
      จะมีเสียงน่ารำคาญอีกซักหน่อยคงไม่เท่าไหร่หรอก
      สิ่งสำคัญที่สุด คือผมจะทำยังไงกับสภาพนี้ดี

      วันแล้ววันเล่าผ่านไป เสียงภายนอกต่างๆยังคงชัดเจนเหมือนเดิม และผมยังคงรู้สึกถึงทุกสิ่งภายนอกอย่างชัดเจน
      ผมยังคงรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่วันนั้น แต่ผมไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้เลยแม้แต่น้อย
      เสียงของญาติมิตรที่มาหาร่ำไห้ เสียงของผู้คนที่ครหา เสียงฝีเท้าที่เดินผ่านไปมา เสียงของแมลงที่เล็ดลอดเข้ามาในโลง
      และความเจ็บปวดต่างๆตามร่างกายอันสุดทนที่กลายเป็นความรู้สึกในชีวิตประจำวัน

      และแล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง
      ผมค่อยๆสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่านเข้ามาในโลงที่ผมกำลังนอนอยู่
      ทุกอย่างจะจบลงภายในไม่กี่นาทีต่อจากนี้


      ร้อน


      ร้อน


      ร้อน


      ร้อน

      จบ.


      Free Talk:

      - งานนี้เป็นฟิคสดของผมที่คิด เขียน พิมพ์ โพส ม้วนเดียวจบไม่มีตกแต่งเพิ่มเติม ตูมเสร็จรวดเดียวไม่มีดอง
      - ฟิคนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์น่าสลดเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ที่มีครอบครัวไกด์นำเที่ยวฆ่าตัวตายหมู่ทั้งครอบครัว โดยกรอกยาพิษให้ลูก 3 คนก่อนที่คู่สามีภรรยาจะกระโดดตึกตาย
      - ที่สำคัญคืองานนี้เป็นงานที่แน่มากๆ เพราะผมปั่นอย่างเปิดเผยท่ามกลางสถานที่ฝึกงาน (เจ้านายเห็น คงโดนเตะโด่ง) จนกระทั่งเขามาไล่เพราะจะปิด Office ตอน 5 โมงเย็น ใช้เวลาทำ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
      - สิ่งที่อยากสื่อมาในที่นี้คือ "ความตายไม่ใช่ทางออก แต่มันคืออีกสิ่งเลวร้ายที่คนกระทำลงในชีวิตตน"

      ไม่ว่าท่านจะมีปัญหาใด ขอให้ปัญญาที่สว่างสดใสจงอยู่คู่ตัวทุกท่านครับ

      Asahi
      พิมพ์ครั้งแรก 8 เมษายน พ.ศ. 2548

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×