คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : บทที่ 9 ดั่งวังวนที่ไม่อาจหลุดพ้น [1]
บทที่ 9
ดั่งวังวนที่ไม่อาจหลุดพ้น
เช้าวันนี้รวิกานต์หงุดหงิดอย่างที่สุดเมื่อพบว่าปกป้องมีงานด่วนจนต้องออกไปก่อน
ตามข้อตกลงในการทำงานนั้นปกป้องจะเป็นคนมารับในตอนเช้าในทุกวัน ส่วนนอกเวลาหลังจากนั้นจะมีเวลาให้ชายหนุ่มได้ทำงานที่คลินิกป้องรัก ส่วนวันเสาร์หญิงสาวมีปกป้องคอยเป็นองครักษ์พิทักษ์ให้ทั้งวัน จะเป็นเช่นนั้นในวันที่เธอมีงานอื่น เช่น การถ่ายแบบ หรือแม้กระทั่งการออกงานในยามค่ำคืน
หากว่าปกป้องไม่ติดขัดอะไรจะเป็นเขาที่จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ หากปกป้องมีงานด่วนเข้ามาจะเป็นภีมคนสนิทของเธอที่ดูเหมือนว่าจะสนิทกับเขาเสียมากกว่าเป็นคนทำงานนั้นแทนเขา
ในวันนี้มะนาวเป็นคนแจ้งให้ทราบว่าปกป้องออกไปในทันทีที่ฟ้ายังไม่สางโดยไม่บอกกล่าวแก่เธอล่วงหน้าตามข้อตกลง อารมณ์ของรวิกานต์ขุ่นมัวจนต้องเดินทางมากับคนขับรถของที่บ้านแทน เพราะเธอถูกสั่งห้ามให้หยุดขับรถในสภาวะที่อารมณ์ไม่คงที่ นึกไปถึงคนห้ามอารมณ์ก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเท่าทวี กระทั่งเดินทางมาถึงบริษัทฯ
หญิงสาวเดินเข้ามายังโรงแรมในเครือของอาทิตย์กุล อาทิตย์กุลมีหน้าที่หลักคือการจัดเตรียมสถานที่เพื่อการจัดงานต่าง ๆ หรือที่เรียกว่าออแกไนซ์ มีสถานที่มากมายหลายสไตล์ให้ผู้ใช้งานเลือกสรรค์ได้อย่างไม่จำกัดในการใช้จัดงานอีเวนต์ หรืองานอื่น ๆ อย่างเช่น งานมีตติ้งของศิลปินดาราพบปะแฟนคลับ การจัดสัมมนา หรือแม้กระทั่งงานแต่ง อาทิตย์กุลก็สามารถเสกสรรค์ให้พื้นที่ธรรมดากลายเป็นวิมานแสนหวานให้ได้
หญิงสาวเดินเข้ามาด้วยความมั่นใจอย่างเช่นทุกวัน ใบหน้าที่ไม่ค่อยมีรอยยิ้มอยู่เป็นนิจและติดจะบึ้งตึงเป็นพิเศษในวันนี้นั้นทำให้หลายคนไม่นึกถือสา เมื่อทำความเคารพผู้เป็นนายเสร็จต่างคนต่างกลับไปก้มหน้างุดทำหน้าที่ของตัวเอง
กระทั่งเดินมาถึงหน้าห้องทำงาน
“สวัสดีค่ะคุณวิ...”
เสียงทักทายของเลขาหน้าห้องขาดหายไปเมื่อพบว่ารวิกานต์ไม่แม้แต่จะเหลือบมองมายังตน เดินเลยผ่านไปราวกับไม่มีตัวตนในสายตา
“เฮอะ ! หยิ่งเข้าไปเถอะ หยิ่งกับฉันได้เฉพาะสัปดาห์นี้แหละแม่คุณหนูขี้วีน” ขนิษฐาเลขาสาวใหญ่ค่อนขอดว่าคนที่เดินลับหายเข้าไปในห้อง ก่อนจะหันใบหน้ากลับมา “อุ๊ย !” ตกใจจนต้องยกมือขึ้นทาบอกอัตโนมัติ เมื่อหันกลับมาแล้วเห็นใครคนหนึ่งหน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง
“ขะ...ขอโทษค่ะ” หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่แม้ว่าดวงตาจะมีรอยคล้ำใต้ตาทว่ายังคงความสวยให้เห็น มือบางยกมือขึ้นไหว้ขอโทษสำทับคำกล่าวเมื่อพอรู้ว่าตัวเธอทำให้คนตรงหน้าต้องตกใจ ก่อนจะเอ่ยบอกความจำนงของตัวเองออกไปเมื่อใบหน้านั้นยังคงหงิกงอคล้ายไม่พอใจ
เธอควรจะสร้างมิตรมากกว่าศัตรูเอาไว้ในสถานที่ที่อาจจะเป็นสถานที่ทำงานแห่งใหม่ของเธอ
“สวัสดีค่ะ” คิดได้ดังนั้นปิ่นนภัสจึงยกมือขึ้นไหว้อีกคราพร้อมแจ้งจุดประสงค์ของการมาอยู่ตรงนี้ “มาสมัครงานค่ะ เห็นเขียนไว้ในนี้ว่าชั้นนี้ ห้อง A12 ไม่ทราบว่าไปทางไหนเหรอคะ”
“เดินตรงไป เลี้ยวขวา เลี้ยวขวาอีกที แล้วก็เลี้ยวซ้าย”
“ขอบคุณค่ะ”
ครั้นได้รับคำตอบปิ่นนภัสก็เดินจากไปปล่อยให้อีกคนนั่งลงทำงานที่เป็นของตนในสัปดาห์สุดท้ายต่อด้วยอารมมณ์ขุ่นมัว
“ก๊อกๆๆ” ประตูถูกเคาะหลังจากที่รวิกานต์นั่งทำงานไปได้สักครูหนึ่ง อารมณ์ขุ่นมัวหายไปแล้วตั้งแต่เริ่มลงมือทำงานและจมจ่อมไปกับหน้าที่ของตัวเอง
แม้ว่างานนี้จะไม่ใช่งานที่เธอรักอย่างเช่นการเย็บตุ๊กตาถักก็ตาม ทว่ามันก็ไม่ได้น่าเบื่อเสียทีเดียว
หญิงสาวคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่ามันเกี่ยวกับการจัดสถานที่ ได้ออกแบบ ได้ใช้ความติดสร้างสรรค์ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน อีกอย่างเธอชอบงานที่เกี่ยวกับงานศิลปะ ส่วนที่เธอไม่ชอบนั้นคือการที่ต้องพบปะผู้คนมากมายอย่างเช่นยามนี้...
“เชิญเข้ามาได้ค่ะ" หลังจากจบคำเชิญประตูก็ถูกเปิดเข้ามา รวิกานต์ไม่ได้ละจากหน้ากระดาษเพราะคาดว่าคงเป็นเลขาที่ชงกาแฟเข้ามาให้ ทว่าเมื่อทุกอย่างเงียบจนผิดปกติหญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมา
“คุณ !” ใบหน้าของรวิกานต์บึ้งตึงขึ้นมาทันควันเมื่อพบว่าใครที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ เขาคือผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้เธอและปกป้องตกอยู่ในค่ำคืนหวามหวิวในคืนนั้น...
“เจอกันอีกแล้วนะครับ คนสวย” วาจามาพร้อมกับสายตาโลมเลีย ท่าทีหยาบคายของอีกฝ่ายทำให้รวิกานต์ยิ่งแน่ใจว่าเขาคือผู้ชายในคืนนั้นอย่างแน่นอน
“ออกไป !” หญิงสาวเอ่ยปากไล่ทันที ดวงตาคู่โตมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ไม่คิดปิดบัง
“โธ่ เปลี่ยนคำบ้างเถอะครับ ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นล่ะ” ชายหนุ่มไม่สนใจท่าทีที่แสดงออกชัดเจนว่ารังเกียจ ยิ่งเป็นแบบนี้เขายิ่งไม่อยากยอมแพ้
“แต่ฉันไม่ได้อยากรู้จักคุณ...”
“แต่ผมว่าวันนี้คงไม่ได้แล้วนะ”
คำพูดที่สวนกลับมาพร้อมรอยยิ้มยียวนทำให้รวิกานต์งุนงงจนต้องถามออกไป
“หมายความว่ายังไง...”
“นี่ครับ นามบัตรผม” ชายหนุ่มยื่นนามบัตรให้ อีกฝ่ายชักกลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่ให้โอกาสเขาได้สัมผัสมือนั้นแม้สักเสี้ยวนาที อาการที่บ่งบอกว่า ‘รู้ทัน’ ยิ่งทำให้เขาอยากได้
“ผมเป็นลูกค้าของคุณ” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวอ่านสิ่งที่เขาให้ไปชายหนุ่มจึงเริ่มเอ่ยบอกความประสงค์ของตัวเอง “เดือนหน้ามีงานที่ผมจะต้องใช้สถานที่ของคุณจัดงานแสดงสินค้าตัวใหม่ของบริษัทฯ หวังว่าวันนี้และวันต่อไปเราคงจะได้ร่วมงานกัน”
รวิกานต์เม้มปากจนเป็นเส้นตรง หากเลือกได้เธอไม่อยากทำงานร่วมกันกับผู้ชายตรงหน้าเลยสักนิด...
“หรือคุณกลัว”
ทว่าถ้อยคำที่ได้ฟังกลับทำให้ความลังเลมลายหายไป คงไม่เป็นไรกระมัง ผู้ชายตรงหน้าคงไม่บ้าพอที่จะทำอะไรเธอในสถานที่ของเธอเอง
“เปล่าค่ะ ทางเรายินดีที่จะร่วมงานกับบริษัทฯ ของคุณพีรพัฒน์” รวิกานต์เรียกชื่ออีกฝ่ายามนามบัตรที่เธอได้รับ และเน้นคำว่า 'งาน' อย่างชัดเจน “เดี๋ยววันนี้เริ่มจากการ...”
“ถ้าคุณไม่กลัว และแสดงให้ผมเห็นว่าคุณเป็นมืออาชีพมากพอผมขอให้คุณพาผมเยี่ยมชมสถานที่สวยๆ ของอาทิตย์กุลหน่อยได้ไหมครับ”
ชายหนุ่มขัดขึ้นราวกับรู้ว่าวิกานต์จะมอบหน้าที่เยี่ยมชมสถานที่จัดงานให้คนอื่นทำแทนเธออย่างไรอย่างนั้น หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นกับความต้องการที่มากมายของอีกฝ่าย
“กริ๊ง...”
ระหว่างที่กำลังขบคิดว่าจะเอาอย่างไรดี เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้น รวิกานต์ขออนุญาตแขกด้วยสายตา อีกคนผายมือให้เป็นเชิงอนุญาต ก่อนจะถือวิสาสะลากเก้าอี้จากมุมหนึ่งของโต๊ะรับแขกมานั่งลงตรงหน้าของรวิกานต์
“ค่ะ”
“ท่านประทานขอเรียนสายด้วยค่ะ” ขนิษฐาเลขาหน้าห้องรายงานมาตามสาย
“ค่ะ โอนสายเข้ามาได้เลย” หญิงสาวเอ่ยบอกอนุญาต เพียงไม่นานก็มีเสียงจากบิดาเข้ามา
“ค่ะ ท่านประธาน”
พีรพัฒน์มองคนที่คุยโทรศัพท์กับบิดาของเธอ ดวงตาคู่คมสำรวจใบหน้างามเฉี่ยว รูปร่างที่ติดจะอวบอิ่ม ไหนจะสะโพกหนั่นแน่นที่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าแนบไปกับสัดส่วนพอดีตัว
“เคล้ง !”
เสียงโทรศัพท์ที่วางลงบนแป้นไม่เบานักนั้นดึงสายตาของพีรพัฒน์กลับมามองใบหน้าของเจ้าของร่างที่เขากำลังลอบมอง แววตาไม่พอใจกับสีหน้าบึ้งตึงนั่นของเจ้าตัวคงเกิดขึ้นเพราะได้ทันเห็นการลอบมองของเขา หรือเพราะคำสั่งจากคนปลายสายก็ไม่อาจทราบได้
“เชิญทางนี้ค่ะ”
รวิกานต์ผายมือออกเป็นการเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเดินอกไปจากห้อง เธอเกลียดท่าทางกะลิ่มกะเหลี่ยอย่างไม่คิดปิดบังแต่เพราะเมื่อกี้บิดาโทร.มากำชับด้วยตัวเองว่าควรดูแล ‘ลูกค้าคนสำคัญ’ ให้ดี เนื่องจากเขาเป็นบุตรชายเพื่อนคนสนิท
แต่ต่อให้ท่านกำชับมาเช่นนั้น อีกทั้งสถานะที่ดูเหมือนว่าสนิทสนมเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะกระทำอันใดต่อเธอ ทว่ารวิกานต์กลับไม่คิดไว้ใจ ก่อนไปหญิงสาวจึงไม่ลืมที่จะหยิบ ‘สิ่งสำคัญ’ สำหรับเธอมาไว้กับตัว มือบางซ่อนมันเอาไว้ในกระเป๋าด้านในของชุดทำงานไปด้วยอย่างมิดชิด
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ :)
ฝากผลงานเรื่องแรกของนวนิยายชุดเมื่อดวงใจประจักษ์รัก 'ว อ น รั ก' ภาคก่อนยอมรักด้วยค่ะ
กดโหลดได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ หนังสือเหลือเพียงแค่ 3 เล่ม 299 บาท หนังสือไม่มีขายในร้านค้าออนไลน์หรือร้านค้าทั่วไปสามารถสั่งซื้อได้ที่นักเขียนเท่านั้นค่ะ สั่งได้ที่เพจ ปลอบขวัญ จุมพิตหวานได้เลยค่ะ
มีที่คั่นและโปสการ์ดน่ารัก ๆ ให้นักอ่านทุกท่านค่ะ ^^
วอนรัก E-book คุณกานต์มาแล้วค่ะ ราคา 139 บาท ระบบแอปเปิล 149 ค่ะ ฝากคุณกานต์กับมลและทุกตัวละครด้วยนะคะ :)
|
ขอฝากผลงานอื่น ๆ ด้วยค่ะ ^^
|
|
|
|
ความคิดเห็น