ตัวละครหลัก
เอกภพ/เอลดราซาร์ (Ekapob/Eldrazar)
- ลักษณะ: โปรแกรมเมอร์หนุ่มที่หลุดข้ามมิติมายังโลกเวทมนตร์
- พลัง: สามารถใช้เวทพระเจ้าได้โดยที่เจ้าตัวก็รู้ว่านั้นเป็นเวทพระเจ้า
ไอ้ก้อนสาราณุกรมอเนกประสงค์
อีโลกา (Eloga)
- ลักษณะ: เจ้าแมวน้อยของเอลดราซาร์
- พลัง: มีพลังเวทมนตร์ระดับสูง และสามารถยืมพลังจากเอลดราซาร์มาใช้ได้
ระดับพลังอาคม
ระดับ 1: อาคมพื้นฐาน (Basic Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมในระดับนี้เป็นขั้นเริ่มต้นที่ใช้ในการสร้างผลลัพธ์พื้นฐาน เช่น การรักษาแผลเล็กน้อย การเสริมความแข็งแรงเล็กน้อย หรือการทำความสะอาด
- ตัวอย่าง: อาคมที่ใช้ในการรักษาแผลเล็ก ๆ หรือการเสริมความแข็งแรงชั่วคราว
- การเรียนรู้: ต้องมีความรู้พื้นฐานในการเขียนอักขระและการใช้พลังเวทในการแปลงพลังเป็นน้ำหมึก
ระดับ 2: อาคมเสริมพลัง (Enhanced Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมที่มีพลังมากขึ้น สามารถเสริมสร้างความสามารถต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เช่น การเพิ่มพลังการโจมตีหรือการสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้น
- ตัวอย่าง: อาคมที่เสริมพลังการโจมตีของอาวุธ หรือการสร้างเกราะที่สามารถทนต่อการโจมตีได้
- การเรียนรู้: ต้องการความชำนาญในการควบคุมพลังเวทและความแม่นยำในการเขียนอักขระที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
ระดับ 3: อาคมขั้นสูง (Advanced Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมในระดับนี้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ซับซ้อนและทรงพลังมากขึ้น เช่น การสร้างคาถาที่มีผลกระทบในระยะยาวหรือการป้องกันที่สามารถต้านทานเวทมนตร์ระดับสูงได้
- ตัวอย่าง: อาคมที่สามารถสร้างเขตคุ้มครองที่ต้านทานเวทมนตร์ หรือการเรียกพลังแห่งธรรมชาติมาช่วยในการต่อสู้
- การเรียนรู้: ต้องการการฝึกฝนที่ลึกซึ้งและความเข้าใจในธรรมชาติของพลังเวทที่สูงมากขึ้น
ระดับ 4: อาคมวิญญาณ (Spiritual Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและจิตวิญญาณ เช่น การเชื่อมโยงกับวิญญาณ การปลุกเรียกวิญญาณผู้ล่วงลับ หรือการสร้างพันธะสัญญากับวิญญาณที่มีพลังสูง
- ตัวอย่าง: อาคมที่สามารถปลุกเรียกวิญญาณผู้พิทักษ์ หรือการสร้างคาถาที่สามารถควบคุมจิตวิญญาณของศัตรู
- การเรียนรู้: ต้องการความเชี่ยวชาญในการใช้พลังเวทในระดับสูงและความเข้าใจในโลกของวิญญาณ
ระดับ 5: อาคมวิปลาส (Cursed Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมในระดับนี้สามารถสร้างคำสาปหรือผลกระทบที่รุนแรงและถาวร เช่น การสร้างคำสาปที่ติดตามเป้าหมาย หรือการสร้างผลกระทบที่ทำลายล้างในระยะยาว
- ตัวอย่าง: อาคมที่สร้างคำสาปที่ทำให้ผู้ถูกสาปทุกข์ทรมานอย่างไม่รู้จบ หรือการสร้างคาถาที่ทำให้ศัตรูอ่อนแอลงอย่างถาวร
- การเรียนรู้: ต้องการความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับด้านมืดของเวทมนตร์และการควบคุมพลังเวทที่มีความเสี่ยงสูง
ระดับ 6: อาคมศักดิ์สิทธิ์ (Divine Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมที่มีพลังเชื่อมโยงกับเทพเจ้า หรือพลังแห่งสวรรค์ สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่และทรงพลัง เช่น การฟื้นคืนชีพ การปกป้องจากพลังแห่งความชั่วร้าย หรือการเสริมสร้างพลังที่เหนือธรรมชาติ
- ตัวอย่าง: อาคมที่สามารถฟื้นคืนชีพผู้ตาย หรือการสร้างคาถาที่สามารถปกป้องจากพลังแห่งความมืด
- การเรียนรู้: ต้องการความศรัทธาและความเข้าใจในธรรมชาติของเทพเจ้าและพลังศักดิ์สิทธิ์
ระดับ 7: อาคมเทพ (Gods Enchantment)
- ลักษณะ: อาคมที่ใช้พลังของเทพ
- ตัวอย่าง: อาคมสร้างสรรพสิ่ง
- การเรียนรู้: ไม่สามารถเรียนรู้ได้ ได้รับผ่านการสืบทอดเท่านั้น
ระดับพลังเวทมนตร์
ระดับ 1: ผู้เริ่มเรียนรู้ (Acolyte)
- ลักษณะ: ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาศาสตร์แห่งเวทมนตร์ ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในเวทมนตร์ใด ๆ เริ่มต้นเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการร่ายเวทมนตร์และการเข้าใจหลักการเบื้องต้นของพลังเวทมนตร์
- ทักษะ: สามารถร่ายเวทมนตร์พื้นฐาน เช่น การสร้างแสงหรือการเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดเล็ก แต่ยังไม่สามารถควบคุมพลังได้อย่างสมบูรณ์
ระดับ 2: ผู้ฝึกฝนเวทมนตร์ (Apprentice)
- ลักษณะ: ผู้ที่กำลังฝึกฝนและพัฒนาความสามารถในการใช้เวทมนตร์ โดยเริ่มเข้าใจวิธีการควบคุมพลัง และสามารถร่ายเวทมนตร์ที่ซับซ้อนขึ้นได้
- ทักษะ: สามารถใช้เวทมนตร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น การสร้างโล่พลังงานขนาดเล็ก หรือการร่ายคาถาเพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้
ระดับ 3: นักเวทธาตุ (Elementalist)
- ลักษณะ: ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับธาตุต่าง ๆ เช่น ไฟ น้ำ ลม ดิน สามารถควบคุมพลังของธาตุเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทักษะ: สามารถร่ายเวทมนตร์ธาตุที่มีพลังมากขึ้น เช่น การสร้างพายุไฟ การเรียกน้ำจากอากาศ หรือการสร้างคลื่นดินไหวเล็ก ๆ
ระดับ 4: ผู้รักษา (Enchanter)
- ลักษณะ: ผู้ที่มีทักษะในการใช้เวทมนตร์เพื่อเสริมสร้างหรือรักษา สามารถใช้เวทมนตร์เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตและเสริมพลังให้กับสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิต
- ทักษะ: การร่ายเวทมนตร์เพื่อรักษาบาดแผล การเสริมสร้างพลังให้กับอาวุธหรือเกราะ และการสร้างคาถาเพื่อป้องกันและปกป้อง
ระดับ 5: ผู้พิทักษ์เวทมนตร์ (Warden of Magic)
- ลักษณะ: ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์เพื่อป้องกันและปกป้อง สามารถสร้างโล่พลังที่แข็งแกร่งและร่ายเวทมนตร์เพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรู
- ทักษะ: การสร้างโล่พลังที่ทนทาน การสร้างเขตป้องกัน และการใช้คาถาที่สามารถดูดซับพลังเวทมนตร์จากศัตรู
ระดับ 6: จอมเวทอาคม (Arcane)
- ลักษณะ: ผู้ที่สามารถใช้เวทมนตร์ขั้นสูงที่ไม่จำกัดเฉพาะธาตุ มีความเข้าใจในศาสตร์แห่งเวทมนตร์ที่ลึกซึ้งขึ้น และสามารถร่ายเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและทรงพลังได้
- ทักษะ: การใช้เวทมนตร์ขั้นสูง เช่น การร่ายคาถาที่มีผลกระทบกว้างขวาง
ระดับ 7: จอมเวทผู้รู้แจ้ง (Arcane Savant)
- ลักษณะ: ผู้ที่มีความรู้ลึกซึ้งในเวทมนตร์ทั้งหมด มีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์ขั้นสูงและการร่ายเวทมนตร์ที่ซับซ้อนที่สุด
- ทักษะ: การร่ายเวทมนตร์ที่สามารถควบคุมหรือดัดแปลงธรรมชาติของพลังเวทมนตร์ การให้คำแนะนำในเรื่องการใช้เวทมนตร์ และการค้นพบคาถาใหม่ ๆ
ระดับ 8: นักปราชญ์แห่งพลังเวทย์ (Sage)
- ลักษณะ: ผู้ที่มีความรู้เชิงลึกในเวทมนตร์ทุกประเภท มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งเวทมนตร์ทั้งเก่าและใหม่ มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดความรู้และสอนนักเวทรุ่นใหม่
- ทักษะ: การใช้เวทมนตร์ที่มีความซับซ้อนและทรงพลัง การค้นพบหรือพัฒนาคาถาใหม่ ๆ และการให้คำปรึกษาในเรื่องศาสตร์เวทมนตร์
ระดับ 9: นักปราชญ์โบราณ (Ancient Rites)
- ลักษณะ: ผู้ที่เชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์โบราณที่หายากและทรงพลัง สามารถร่ายคาถาที่เชื่อมโยงกับพิธีกรรมโบราณและใช้เวทมนตร์ที่ถูกลืมไปตามกาลเวลา
- ทักษะ: การใช้เวทมนตร์โบราณที่มีพลังทำลายล้างสูง การเรียกใช้วิญญาณหรือสิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณ และการร่ายคาถาที่มีผลกระทบในระยะยาว
ระดับ 10: ปรมาจารย์แห่งพลังเวทย์ (Archmage)
- ลักษณะ: ผู้ที่มีพลังเวทมนตร์สูงสุดและเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งเวทมนตร์ทั้งหมด มีความสามารถในการร่ายเวทมนตร์ที่ทรงพลังและซับซ้อนที่สุด
- ทักษะ: การร่ายเวทมนตร์ที่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง การสร้างและทำลายพลังเวทมนตร์ในระดับที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้
การใช้เวทมนตร์
เวทมนตร์ เป็นการยืมพลังจากแหล่งพลังงานภายนอก เช่น ธรรมชาติ ธาตุ หรืออำนาจศักดิ์สิทธิ์ มาใช้ในการร่ายคาถา โดยเวทมนตร์จะเรียนรู้ผ่านการอ่านอักษรเวทมนตร์ในหนังสือเวท ศึกษาตราเวท และวงเวท จากนั้นจะต้องจดจำรูปแบบการร่ายและใช้คำร่ายเวทมนตร์เพื่อแสดงผลพลัง
การร่ายเวทมนตร์: การใช้คำร่ายเป็นสิ่งสำคัญในการปลดปล่อยพลังเวทมนตร์ คำร่ายอาจประกอบด้วยคำสั้น ๆ หรือยาวขึ้นอยู่กับพลังและความซับซ้อนของเวทมนตร์นั้น ๆ
การขยายพลัง: สามารถเพิ่มพลังของเวทมนตร์ได้โดยการใช้ประโยคขยาย ซึ่งจะทำให้เวทมนตร์มีประสิทธิภาพและพลังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยคขยายจะใช้เวลานานและต้องการความเชี่ยวชาญในเวทมนตร์บทนั้นอย่างลึกซึ้ง
การใช้อาคม
อาคม เป็นการสร้างพลังใหม่ขึ้นมาเอง โดยใช้พลังเวทมนตร์ของตนเองแปลงเป็นน้ำหมึกในการเขียนอักขระโบราณหรืออักษรเวท อาคมต่างจากเวทมนตร์ที่ต้องใช้การประกาศในการแสดงผล
- การเขียนอักขระอาคม: การใช้ปากกาขนนกเวทมนตร์ในการเขียนอักขระหรือสัญลักษณ์เวทมนตร์บนวัตถุหรือพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อสร้างพลังใหม่ อักขระเหล่านี้จะเป็นตัวนำพลังเวทมนตร์ในการแสดงผล
- การประกาศอาคม: เมื่ออักขระเขียนเสร็จแล้ว จำเป็นต้องมีการประกาศหรือท่องบทอาคมเพื่อปลดปล่อยพลัง อาคมนั้นจะทำงานทันทีที่มีการประกาศคำร่าย
ความซับซ้อนและพลัง: อาคมมักจะมีความซับซ้อนมากกว่าเวทมนตร์ และต้องการความชำนาญในการเขียนและประกาศอย่างถูกต้อง
การใช้เวทมนตร์ของเอลดราซาร์ (เอกภพ)
เอลดราซาร์ใช้เวทมนตร์และอาคมควบคู่กันในการร่ายพลัง เขาใช้คำร่ายเวทมนตร์ที่ผสมผสานกับการประกาศอาคมเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีพลังและซับซ้อนมากขึ้น
- การร่ายของเอลดราซาร์: การร่ายเวทของเอลดราซาร์จะใช้คำร่ายในภาษาโบราณ ซึ่งไม่ใช่เพียงคำร่ายเวทมนตร์ทั่วไป แต่เป็นการประกาศอาคมพร้อมกัน ปากกาขนนกเวทมนตร์จะเขียนอักขระอาคมในขณะที่เขาร่ายเวท ทำให้เวทมนตร์ของเอลดราซาร์มีพลังที่สูงกว่าการใช้เวทมนตร์หรืออาคมเพียงอย่างเดียว
- ตัวอย่าง: เมื่อเอลดราซาร์ใช้คำร่าย "วาเทอร์รา คลีนซัส" นั้นเป็นการประกาศอาคมในรูปแบบของเวทมนตร์ การร่ายนี้จะมาพร้อมกับอักขระอาคมที่ปากกาขนนกเขียนขึ้นมา ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
ระบบเงินและการแลกเปลี่ยน
ในโลกเวทมนตร์ การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการใช้หน่วยเงินที่เป็นสากล ซึ่งประกอบไปด้วยสามประเภทหลัก ได้แก่ โกลด์ (Gold), ซิลเวอร์ (Silver), และ คอปเปอร์ (Copper) หน่วยเงินแต่ละหน่วยมีมูลค่าที่แตกต่างกันดังนี้:
- โกลด์ (Gold)
- มูลค่า: 1 โกลด์ = 100 ซิลเวอร์ หรือ 10,000 คอปเปอร์
- การใช้: โกลด์เป็นหน่วยเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุด ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูง เช่น ที่ดิน อาวุธเวทมนตร์ หรือวัตถุโบราณ
- ตัวอย่าง: ซื้อที่ดินขนาดเล็กในหมู่บ้านอาจมีราคา 50-100 โกลด์
- ซิลเวอร์ (Silver)
- มูลค่า: 1 ซิลเวอร์ = 100 คอปเปอร์
- การใช้: ซิลเวอร์เป็นหน่วยเงินที่ใช้แพร่หลายมากที่สุดในการแลกเปลี่ยนสินค้าทั่วไป เช่น อาหาร เสื้อผ้า หรือบริการทั่วไป
- ตัวอย่าง: ค่าอาหารสำหรับครอบครัวหนึ่งวันอาจใช้ประมาณ 1-2 ซิลเวอร์
- คอปเปอร์ (Copper)
- มูลค่า: 1 คอปเปอร์ เป็นหน่วยเงินที่มีมูลค่าต่ำที่สุด ใช้ในการซื้อสินค้าราคาถูกหรือบริการพื้นฐาน
- การใช้: เหรียญทองแดงใช้ในการซื้อสินค้าขนาดเล็กหรือบริการพื้นฐาน เช่น การซื้อขนมปังหรือการจ่ายค่าทางผ่าน
- ตัวอย่าง: ขนมปังหนึ่งก้อนอาจมีราคา 5-10 คอปเปอร์
ผลึกเวทมนตร์ (Magical Crystals)
ผลึกเวทมนตร์มีการแบ่งระดับตามปริมาณและความเข้มข้นของพลังเวทมนตร์ที่สะสมอยู่ในผลึก ผลึกเหล่านี้มีมูลค่าและการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามระดับของมัน:
- ผลึกเวทมนตร์ระดับต่ำ (Lesser Magical Crystal)
- ลักษณะ: ผลึกขนาดเล็ก สีจาง มีพลังเวทมนตร์สะสมอยู่น้อย เหมาะสำหรับการฝึกฝนหรือการใช้งานเบื้องต้น
- การใช้: ใช้ในการร่ายเวทมนตร์พื้นฐานหรือในการฝึกฝนเวทมนตร์
- มูลค่า: 10-100 ซิลเวอร์ต่อผลึก
- ผลึกเวทมนตร์ระดับกลาง (Moderate Magical Crystal)
- ลักษณะ: ผลึกขนาดกลาง สีสดใส มีพลังเวทมนตร์สะสมในปริมาณที่ปานกลาง เหมาะสำหรับการร่ายเวทมนตร์ที่ซับซ้อนขึ้น
- การใช้: ใช้ในการร่ายเวทมนตร์ที่มีความซับซ้อนหรือในการเสริมพลังให้กับอาวุธเวทมนตร์
- มูลค่า: 10-1000 โกลด์ต่อผลึก
- ผลึกเวทมนตร์ระดับสูง (Greater Magical Crystal)
- ลักษณะ: ผลึกขนาดใหญ่ สีเข้ม มีความเข้มข้นของพลังเวทมนตร์สูง เหมาะสำหรับการร่ายเวทมนตร์ขั้นสูง
- การใช้: ใช้ในการร่ายเวทมนตร์ขั้นสูงหรือสร้างวัตถุเวทมนตร์ที่ทรงพลัง
- มูลค่า: 1000-5000 โกลด์ต่อผลึก
- ผลึกเวทมนตร์ระดับวิญญาณ (Spiritual Magical Crystal)
- ลักษณะ: ผลึกขนาดกลางถึงใหญ่ สีเงางาม มีพลังเวทมนตร์ที่เชื่อมโยงกับวิญญาณหรือพลังชีวิต เหมาะสำหรับการใช้ในพิธีกรรมหรือการปลุกพลังวิญญาณ
- การใช้: ใช้ในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณหรือการเสริมสร้างพลังชีวิต
- มูลค่า: 5000-10000 โกลด์ต่อผลึก
- ผลึกเวทมนตร์ระดับศักดิ์สิทธิ์ (Divine Magical Crystal)
- ลักษณะ: ผลึกขนาดใหญ่ สีทองหรือสีเงินที่สะท้อนแสง มีพลังเวทมนตร์ที่เชื่อมโยงกับเทพเจ้า เหมาะสำหรับการใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์หรือเวทมนตร์ขั้นสูงสุด
- การใช้: ใช้ในการร่ายเวทมนตร์ระดับพระเจ้าหรือในการทำพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า
- มูลค่า: 10000 โกลด์ขึ้นไปต่อผลึก
การแบ่งระดับสมุนไพรออกเป็น 9 ระดับ:
ระดับทั่วไป (Common)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่พบได้ทั่วไปในทุกภูมิภาค มีพลังเวทมนตร์ต่ำหรือไม่มีเลย ส่วนใหญ่ใช้เป็นส่วนผสมพื้นฐานในยาที่รักษาอาการเบื้องต้น เช่น แผลเล็ก ๆ หรืออาการปวดหัวเล็กน้อย
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาสามัญสำหรับรักษาอาการเบื้องต้น ยาที่ทำจากสมุนไพรระดับนี้มักจะมีประสิทธิภาพต่ำ แต่ปลอดภัยสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน
- มูลค่า: 10-50 ซิลเวอร์ต่อหน่วย
ระดับพื้นฐาน (Basic)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่พบได้ง่ายแต่มีคุณสมบัติพิเศษในการฟื้นฟูพลังชีวิตเล็กน้อย หรือบรรเทาอาการป่วยที่ไม่ซับซ้อน เช่น การลดไข้หรือการบรรเทาอาการปวด
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากระดับทั่วไป ยาระดับนี้มักใช้ในการรักษาอาการป่วยที่พบบ่อยในหมู่บ้านหรือชุมชนขนาดเล็ก
- มูลค่า: 50-100 ซิลเวอร์ต่อหน่วย
ระดับธรรมดา (Standard)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่พบในพื้นที่ที่ไม่ธรรมดา เช่น ป่าลึกหรือภูเขา มีพลังเวทมนตร์ในระดับปานกลาง ช่วยในการฟื้นฟูพลังชีวิตที่ลดลงอย่างมาก หรือรักษาอาการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้น
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เหมาะสำหรับรักษาอาการป่วยที่ซับซ้อนหรือการฟื้นฟูพลังชีวิตหลังการต่อสู้
- มูลค่า: 1-100 โกลด์ต่อหน่วย
ระดับกลาง (Intermediate)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่หายากมากขึ้น มีพลังเวทมนตร์สูงขึ้น ใช้ในการสร้างยาที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่รุนแรง หรือฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่ทรงพลังและซับซ้อน ยาที่ทำจากสมุนไพรระดับนี้เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ต้องการฟื้นฟูพลังชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน
- มูลค่า: 100-1000 โกลด์ต่อหน่วย
ระดับสูง (Advanced)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่มีพลังเวทมนตร์สูงมาก หายาก และมักพบในสถานที่ที่เป็นอันตราย มีสรรพคุณในการฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว หรือเพิ่มพลังเวทมนตร์ให้กับผู้ใช้
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ยาระดับนี้เหมาะสำหรับนักเวทหรือนักรบที่ต้องการเพิ่มความสามารถในการต่อสู้หรือฟื้นฟูตัวเองในเวลาจำกัด
- มูลค่า: 1000-5000 โกลด์ต่อหน่วย
ระดับหายาก (Rare)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่หายากและมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาอาการที่ยาระดับอื่นไม่สามารถรักษาได้ หรือฟื้นฟูพลังชีวิตในระดับที่สูงมาก
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ยาที่ป้องกันคำสาป หรือรักษาอาการที่รุนแรงและซับซ้อน ยาระดับนี้มักใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น
- มูลค่า: 5000-10000 โกลด์ต่อหน่วย
ระดับสูงสุด (Supreme)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่มีพลังเวทมนตร์สูงมาก แต่มีความเสี่ยงสูงในการใช้งาน เช่น อาจมีพิษหรือผลข้างเคียงที่รุนแรงหากไม่เตรียมหรือใช้ยาที่ทำจากสมุนไพรนี้อย่างถูกต้อง
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่ทรงพลังและมีความเสี่ยงสูง ยาที่ทำจากสมุนไพรระดับนี้สามารถรักษาอาการร้ายแรงหรือเพิ่มพลังชีวิตได้อย่างมหาศาล แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง
- มูลค่า: 10000 โกลด์ต่อหน่วยขึ้นไป
ระดับศักดิ์สิทธิ์ (Sacred)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับพลังศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเจ้า มีพลังเวทมนตร์ที่ทรงพลังมาก สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตหรือรักษาอาการที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยสมุนไพรทั่วไป
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ เช่น ยาที่สามารถรักษาผู้ป่วยหนักที่อยู่ในภาวะวิกฤต หรือฟื้นฟูพลังชีวิตได้ในทันที ยาระดับนี้มักถูกใช้ในพิธีกรรมสำคัญหรือโดยนักเวทที่มีความเชี่ยวชาญ
- มูลค่า: โกลด์อยู่ที่การประเมินต่อหน่วย
ระดับตำนาน (Legendary)
- คุณสมบัติ: สมุนไพรที่หายากที่สุดในโลก มีพลังเวทมนตร์ที่ทรงพลังที่สุด สามารถรักษาผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตหรือฟื้นฟูพลังชีวิตได้ในระดับที่ไม่มีสมุนไพรใดทำได้
- การใช้งาน: ใช้ในการสร้างยาที่มีพลังสูงสุด ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของผู้ใช้ได้ ยาระดับนี้มักเป็นที่ต้องการของนักเวทและผู้ปกครองที่ต้องการรักษาชีวิตในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
- มูลค่า: โกลด์อยู่ที่การประเมินต่อหน่วย
การแบ่งระดับยาเวทรออกเป็น 8 ระดับ:
ระดับ 1: ยาเวทพื้นฐาน (Basic Potion)
- คุณสมบัติ: ใช้รักษาอาการบาดเจ็บที่รุนแรง, ถอนพิษเบื้องต้น, และฟื้นฟูพลังเวทได้เล็กน้อย
- มูลค่า: 1-10 โกลด์ต่อขวด สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 2: ยาเวทฟื้นฟูกลาง (Intermediate Healing Potion)
- คุณสมบัติ: รักษาบาดแผลลึก, ถอนพิษปานกลาง, และเพิ่มพลังเวทในระดับปานกลาง
- มูลค่า: 10-1000 โกลด์ต่อขวด สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 3: ยาเวทเพิ่มพลังเวท (Mana Boost Potion)
- คุณสมบัติ: เพิ่มพลังเวททันที, ช่วยฟื้นฟูเวทมนตร์ที่ใช้ไป, และเสริมสร้างพลังเวทในระดับต้น
- มูลค่า: 1000-5000 โกลด์ต่อขวด สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 4: ยาเวทขั้นสูง (Advanced Potion)
- คุณสมบัติ: รักษาบาดแผลที่รุนแรง, ถอนพิษซับซ้อน, และยกระดับพลังเวทสูงขึ้น
- มูลค่า: 5000-25000 โกลด์ต่อขวด สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 5: ยาเสริมพลัง (Power Infusion Potion)
- คุณสมบัติ: เพิ่มพลังเวทในระดับสูง, ฟื้นฟูพลังเวทที่หมดไป และเสริมสร้างพลังเวทให้แข็งแกร่ง
- มูลค่า: โกลด์อยู่ที่การประเมินผลของยาและความหายากต่อหน่วย สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 6: ยาเวทสูงสุด (Supreme Potion)
- คุณสมบัติ: รักษาอาการบาดเจ็บหนัก, ถอนพิษร้ายแรง, และเพิ่มพลังเวทในระดับสูงมาก
- มูลค่า: โกลด์อยู่ที่การประเมินผลของยาและความหายากต่อหน่วย สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 7: ยาศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Potion)
- คุณสมบัติ: รักษาทุกอาการบาดเจ็บ, ถอนพิษรุนแรง, และเพิ่มพลังเวทให้สูงสุด
- มูลค่า: โกลด์อยู่ที่การประเมินผลของยาและความหายากต่อหน่วย สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับ 8: ยาตำนาน (Legendary Potion)
- คุณสมบัติ: ฟื้นฟูร่างกายจากอาการใกล้ตาย, ถอนพิษในระดับสูงสุด, และยกระดับพลังเวทให้เกินขีดจำกัด
- มูลค่า: โกลด์อยู่ที่การประเมินผลของยาและความหายากต่อหน่วย สามารถใช้ผลึกเวทมนตร์แลกได้ตามมูลค่า
ระดับของสัตว์อสูรและอสูรภูติ
- สัตว์อสูรระดับต่ำ (Lesser Beast)
- ลักษณะ: สัตว์อสูรในระดับนี้มักมีขนาดเล็กและพลังเวทจำกัด พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่พบได้ทั่วไปในป่าเวทมนตร์หรือที่ที่มีพลังเวทอ่อน ๆ
- ตัวอย่าง: แมงมุมเวท, นกเวทเล็ก
- สัตว์อสูรระดับกลาง (Intermediate Beast)
- ลักษณะ: สัตว์อสูรระดับนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นและเริ่มมีความสามารถในการใช้พลังเวทในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น พวกมันเป็นอันตรายมากขึ้นแต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต
- ตัวอย่าง: หมาป่าเวท, กวางเขาเวท
- สัตว์อสูรระดับสูง (Advanced Beast)
- ลักษณะ: สัตว์อสูรระดับนี้มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมาก มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ที่ซับซ้อนและทรงพลัง
- ตัวอย่าง: เสือเวท, มังกรน้อย
- สัตว์อสูรระดับหายาก (Rare Beast)
- ลักษณะ: สัตว์อสูรในระดับนี้พบได้ยากมาก พวกมันมักจะมีพลังเวทที่ไม่ธรรมดาและมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติหรือพลังโบราณ
- ตัวอย่าง: นกฟินิกซ์, ยูนิคอร์น, กริฟฟอน
- สัตว์อสูรภูติ (Spectral Beast)
- ลักษณะ: สัตว์อสูรที่มีความเชื่อมโยงกับโลกแห่งวิญญาณและพลังเวทมนตร์ พวกมันมักปรากฏตัวในรูปของภูติหรือวิญญาณที่มีพลังพิเศษและมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
- ตัวอย่าง: วิญญาณนักรบ, ภูติแห่งพายุ, วิญญาณแห่งดินแดน
- สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ (Divine Beast)
- ลักษณะ: สัตว์อสูรที่มีพลังเชื่อมโยงกับพลังแห่งสวรรค์หรือเทพเจ้าโดยตรง มักมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สูงมากและมักถูกบูชาในพิธีกรรมสำคัญ
ทวีปเอลดราเวียร์ (Eldravir)
อาณาจักรเอลดอร่า (Eldora): อาณาจักรเอลดอร่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในทวีปเอลดราเวียร์ มีภูมิประเทศที่หลากหลาย เช่น ป่าเขียวขจี ภูเขาที่สูงชัน และแม่น้ำที่ไหลผ่านทั่วอาณาจักร ความเข้มข้นของพลังเวทมนตร์ในดินแดนนี้สูงมาก ทำให้อาณาจักรเอลดอร่าเป็นศูนย์กลางของเวทมนตร์ธรรมชาติที่มีความเข้มข้น เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางการศึกษาศาสตร์เวทมนตร์
อาณาจักรซิลวานา (Sylvana): อาณาจักรซิลวานาตั้งอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแห่งธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนที่นี่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาและปกป้อง ชาวซิลวานามีการบูชาเทพเจ้าป่าและใช้พลังเวทมนตร์ในการฟื้นฟูและเสริมสร้างชีวิต ที่นี่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทว่ามีพลังอันแข็งแกร่งในการรักษา
อาณาจักรสกายเครสต์ (Skycrest): อาณาจักรสกายเครสต์ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าเหนือทวีปเอลดราเวียร์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะดินแดนแห่งเวทมนตร์ลมและการบิน ชาวสกายเครสต์สามารถควบคุมลมและพลังของท้องฟ้าได้ ที่นี่มีแม่น้ำที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่เสริมสร้างความสามารถในการร่ายเวทให้กับผู้คน
อาณาจักรฟรอสต์ฮาร์ท (Frostheart): อาณาจักรฟรอสต์ฮาร์ทตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปในเทือกเขาน้ำแข็ง สถานที่ที่เย็นยะเยือกตลอดทั้งปี ชาวฟรอสต์ฮาร์ทมีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์น้ำแข็งและหิมะ พวกเขาอาศัยอยู่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งและทะเลสาบที่ถูกแช่แข็งด้วยพลังเวทมนตร์
ทวีปดราโคเนียร์ (Draconir)
อาณาจักรน็อกซ์ทูม (Noxtome): อาณาจักรน็อกซ์ทูมตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยเงามืดและปราสาทที่ถูกทิ้งร้าง สถานที่นี้เต็มไปด้วยความลึกลับและพลังเวทมนตร์ที่เชื่อมโยงกับความมืดและวิญญาณ ที่นี่เป็นดินแดนของผู้ที่แสวงหาความรู้ในศาสตร์มืดและเวทมนตร์ที่ถูกลืมไปตามกาลเวลา
อาณาจักรไฟร์เวน (Firen): อาณาจักรไฟร์เวนเป็นดินแดนแห่งเปลวไฟและความร้อนแรง ภูมิประเทศของที่นี่ประกอบด้วยภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ตลอดเวลา ชาวไฟร์เวนมีความเชี่ยวชาญในการควบคุมไฟและใช้พลังของมันในการสร้างอาวุธและเกราะที่ทรงพลัง
อาณาจักรมิดแลนด์ (Midland): อาณาจักรมิดแลนด์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่เชื่อมต่อกับมิติอื่น ๆ มีพอร์ทัลที่เชื่อมโยงกับโลกอื่นและแหล่งพลังงานที่สามารถใช้ในการเสริมสร้างเวทมนตร์ พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งพลังงานที่สำคัญและเป็นที่ต้องการของผู้มีพลังสูง
ทวีปเทอร์รามีร์ (Terramir)
อาณาจักรแอสทาร่า (Astara): อาณาจักรแอสทาร่าตั้งอยู่ในทะเลทรายที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยความลึกลับ ผู้คนที่นี่มีความสามารถในการใช้พลังเวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและรักษาชีวิต ในใจกลางทะเลทรายมีโอเอซิสที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต ที่ซึ่งชาวแอสทาร่าใช้ในการรักษาผู้คนและสร้างสรรพสิ่งใหม่ ๆ
อาณาจักรซีฟาลิส (Seafallis): อาณาจักรซีฟาลิสตั้งอยู่ในมหาสมุทรลึกลับ ผืนน้ำที่นี่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์และสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยถูกค้นพบ ที่นี่เป็นแหล่งที่ซ่อนสมบัติและความลับของเวทมนตร์ที่รอการค้นพบ ผู้คนที่นี่มีความสามารถในการควบคุมพลังแห่งมหาสมุทรและการเดินทางข้ามน้ำ
อาณาจักรดาร์คโฮล์ม (Darkholm): อาณาจักรดาร์คโฮล์มตั้งอยู่ในดินแดนใต้พิภพของทวีปเทอร์รามีร์ ถ้ำลึกและอันตรายที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์มืดและสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเคยพบเห็น ชาวดาร์คโฮล์มมีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์ที่เชื่อมโยงกับเงามืดและความลึกลับของโลกใต้ดิน
"ข้อมูลทั้งหมดนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางและอ้างอิงในการสร้างโลกและเรื่องราวในนิยาย ซึ่งอาจถูกปรับเปลี่ยนในบางส่วนของเนื้อเรื่องหรือขยายตามความเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาของตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามความสมเหตุสมผลของเหตุการณ์และการเล่าเรื่องในนิยาย.."
ลงชื่อ:: เจ้ามอม
"นิยายเรื่องแรกนะขอรับ ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย"
ความคิดเห็น