ในสนามบาสกว้างๆของโรงเรียนมัธยมปลาย กลุ่มนักเรียนชายเล่นกันสนุกสนานประสาหมู่เพื่อน ริมสนามก็มีสาวๆมานั่งกรี๊ดกร๊าดเหมือนคนไม่มีอะไรจะทำ.. ทุกคนดูมีความสุขยิ้มแย้วแจ่มใส จะต่างก็คนที่นั่งนิ่งๆ เงียบๆ ไม่พูดอะไร อยู่นิ่งๆตรงม้าหินอ่อนริมสนามคนเดียวแบบผมเนี่ยแหละ..
ผมเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่า Alone สุดๆ...ผมชื่อแบงค์ครับ อยู่ ม.5 ตัวสูงใกล้จะ 170 แล้ว ตัวแห้งๆเพราะไม่ค่อยกินอะไร ผิวซีดๆที่ไม่รู้เพราะไม่ค่อยออกแดดหรือมันซีดของมันอยู่แล้ว แล้วก็หน้าตาดูหวานๆเหมือนกับผู้หญิงที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย..
เห็นผมมานั่งคนเดียวเหงาๆแบบนี้ ถ้าถามว่าผมมีเพื่อนมั้ย ผมก็คงตอบว่ามี แต่ถ้าถามถึงเพื่อนสนิทคงตอบให้ไม่ได้.. ผมมักจะมีปัญหากับพวกเขาอยู่เสมอเพราะผมไม่ค่อยมีอารมณ์เฮฮากับใคร คงทำให้มีความสุขร่วมกับพวกเขาไม่ได้เท่าไหร่นัก พูดน้อยแล้วคำพูดยังดูไม่ค่อยเป็นมิตรถึงผมจะไม่ตั้งใจ แต่บางคนจะรู้สึกขัดใจที่ผมเป็นแบบนี้
ก็แค่เรียกไม่หือไม่อือ ถามไม่ตอบหรือตอบส่งๆ ชวนไปไหนไม่ไป นี่ผมผิดเหรอครับ..(หรือว่าผิดเต็มๆ?)
แล้วจนถึงท้ายที่สุด ผมก็โดนตีตัวออกห่าง หรือไม่ก็เป็นผมเองที่ตีตัวออกห่างแล้วเขาก็ไม่สนใจกัน..จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมมักจะเดินไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ค่อยสุมกันเป็นกลุ่มๆแบบคนอื่น
ก็ผมไม่ได้รู้สึกอยากคุย อยากเล่น อยากสนุกไปกับเขาเลยนี่นา..
พอเลิกเรียนผมก็มานั่งอยู่แถวๆสนามบาสแบบนี้แหละ ไม่มีที่จะไปจึงนั่งเป็นหลักเป็นแหล่งแบบนี้ไปเลย นั่งมองผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดกันอย่างบ้าคลั่งกับพวกตัวสูงๆที่เล่บาสกันบ่อยๆอยู่ทุกวี่ทุกวัน
ถ้าผมไปเล่นผมจะสูงมั้ยนะ? เผื่อผู้หญิงจะหันมามองบ้าง..(เพ้อ)
"ระวัง!!!"
ปั๊ก!!..
ลูกกลมๆหนักๆสีส้มๆพุ่งมาจากไหนไม่รู้ตกใส่หัวผมอย่างจัง..ผมนั่งผิดที่ใช่มั้ยเนี่ย
"ขอโทษๆๆๆ นายไม่เป็นไรนะ?" คนๆนึงเดินมาเก็บลูกบาสแล้วนั่งมองผมอยู่ตรงหน้า..คนตัวสูงๆ หน้าตาดีที่คงจะเสปคใครหลายๆคนมองหน้าผมด้วยแววตาเป็นห่วง
สิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนนี้คือ..มันอยู่โรงเรียนเดียวกับผมเหรอวะ
ผมว่าผมไม่เคยเห็นหน้านะ
"ไม่เป็นไร แค่นี้เอง" ผมตอบไปแค่นั้น มือก็ลูบหัวตัวเองอยู่ป้อยๆ รู้สึกมึนๆเล็กน้อย
แล้วคนตรงหน้าก็โยนลูกบาสกลับไปให้เพื่อนแล้วขยับมานั่งลงข้างๆผม มือใหญ่ๆแตะที่หัวผมแล้วลูบเบาๆ
"ทำอะไร?" ผมมองด้วยความสงสัย มันก็ตีหน้ามึนตอบผม
"นวดไง เผื่อจะหายไวๆ"
"ปัญญาอ่อน" ผมตอบส่งๆไปไม่คิดอะไร แต่ก็ต้องร้องด้วยความเจ็บอีกครั้ง
"ก็นายมาว่าเราปัญญาอ่อนทำไมล่ะ!!" มันว่า แล้วมันมีสิทธิไรมาว่าผมกลับล่ะครับนิ?
"นายดิ รู้จักกันมั้ย มาหยิกกันแบบนี้เนี่ย" ผมเถียงกลับ มันพยักหน้าให้แบบยอมๆ
"โอเคๆ เราผิดเองแหละ.. เราชื่อ ฟิว นะ อยู่ห้องเดียวกับนายไง คงจะยังไม่รู้จัก" มัพุดแบบนั้นผมก็รู้สึกฉงนใจ ..ผมว่าผมไม่เคยเห็นหน้านะ หรือผมไม่ได้มองดีๆ?
"เราไม่เห็นเคยเจอนายเลย"
"ก็นายเอาแต่ก้มหน้าอยู่กับโลกส่วนตัวแบบนั้นคงเห็นแหละ เรายิ่งย้ายมาใหม่ด้วย" เป็นตามที่คิดครับ ผมพยักหน้าเข้าใจ.. ก็ผมมันไม่สนโลกอ่าครับ คราวก่อนรู้สึกจะมีแนะนำตัวคนที่พึ่งย้ายมาแต่ผมก็ไม่ได้ฟัง
"เรา แบงค์ นะ" ผมบอก มันก็ยิ้มให้
"อือ นายไม่มีเพื่อนเหรอ? เห็นอยู่คนเดียวตลอดเลย" มันถามผม
"มีดิ..แค่ไม่สนิทน่ะ" ผมตอบแล้วกลับมาก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม
"ฮืม.. ให้เราเป็นเพื่อนสนิทกับนายมั้ยล่ะ" ผมมองหน้ามันด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่ามันพูดถึงอะไร เป็นเพื่อสนิทกับผมเนี่ยนะ??
"ไม่ต้องก็ได้" ผมพูดแค่นั้น มันกลับฉุดผมให้ลูกขึ้นแล้วดึงให้ตามมันไป
"น่าๆๆ ไปเล่นบาสด้วยกันเถอะ" ผมปฏิเสธ แต่มันก็เซ้าซี้จนผมต้องยอมไปเล่นกับกลุ่มมัน.. ผมก็ได้เล่นกีฬากับกลุ่มเพื่อนเป็นครั้งแรก
.
.
.
"เห้ยแบงค์ ไปกินข้าวกันป่ะมึง" ไอ้ฟิวเรียกผมที่นั่งเงียบอยู่ในห้องเรียนทั้งๆที่ในห้องตอนนี้แทบไม่มีใครอยู่แล้ว เพราะลงไปกินข้าวกันหมด
"กูไม่หิวอะ มึงไปเหอะ" ผมตอบไปแบบนั้น มันก็มองหน้าผมนดหน่อยแล้วพยักหน้าเบาๆอย่างเข้าใจ
"อือ งั้นกูไปละ เดี๋ยวกูมา" ผมโบกมือให้เป็นเชิงรับรู้ มันก็วิ่งออกห้องไป
ตอนนี้ผมกับแบงค์ค่อนข้างสนิทกันครับ อาจเป็นเรื่องปกติของมันเพราะมันเพื่อนเยอะ แต่สำหรับผมที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ มันจึงเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดและคนเดียวของผม.. ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้สนิทกับมันในเมื่อผมเป็นแบบนี้ ค่อนข้างปิดใจตัวเอง แต่มันก็แงะจนผมเปิดใจรับมันเป็นเพื่อนได้ในเวลาไม่นาน
ไอ้ฟิวเพื่อนมันเยอะมากครับ ไม่ว่าคนในห้องผม ห้องข้างๆ ต่างห้อง รุ่นพี่ รุ่นน้องมันรู้จักหมด ผมที่อยู่มานานกว่ามันยังไม่รู้จักใครเท่าไหร่เลย..แต่ถึงเพื่อนมันจะเยอะมันก็ยังเจียดเวลามาอยู่กับผมได้ ผมล่ะซึ้งจริงๆ..
พอมันไม่อยู่กับผม ผมถึงได้เหงาสุดๆไปเลย..
"เอ้า แดกเลยมึง" ตรงหน้าผมเต็มไปด้วขนมปัง ขนมกรุบกรอบ ซาลาเปา หมั่นโถ นมชอคโกแลต นมจืด น้ำผักนำผลไม้ ป๊อกกี้ กองเต็มโต๊ะ..ผมหันไปมองคนซื้ออย่างงงวย
"มึงไม่ไปกินข้าว?" ผมถาม
"ไม่ไป เดี๋ยวเพื่อนกูเหงา" มันว่าแล้วลากเก้าอี้โต๊ะข้างๆมานั่งกับผม..คำพูดมันทำให้ผมแอบบยิ้มนิดๆ ดีใจครับ มีเพื่อนแบบมันเนี่ย..โคตรเทคแคร์เลยจริงๆ
"ขอบใจนะฟิว" ผมพูดแล้วยิ้มให้มัน
"ไม่เป็นไร แดกๆไปอะมึง" มันว่าแล้วก็เอาขนมปังที่มันแกะอกมายัดปาดผม แล้วทำท่าไม่สนใจ.. ผมก็หัวเราะขำ หยิบก้อนขนมฟังอันบะเอ้งออกจากปาก แล้วค่อยๆกินไปทีละคำ..นั่งมองคงที่กำลังเขินตรงหน้ายิ้มๆ
เป๋นเพื่อนที่น่ารักที่สุดเลยมึงอะ..ฟิว
กูจะรักษาความเป็นเพื่อนระหว่างกูกะมึงไว้ให้ดีที่สุดเลย
.
.
.
"แบงค์ กุมีแฟนละนะ" ฟิวลากเก้าอี้มานั่งกับผมแล้วก็นั่งกินขนมด้วยกันเหมือนทุกวัน เมื่อฟังที่มันพูดผมก็รู้สึกชาวาบแล้วก็ใจหวิวๆเล็กน้อย..แฟน?
"ใครวะ?" ผมถาม รู้สึกเสียสั่นๆเล็กน้อย หรือผมอาจจะคิดไปเอง
"ยิมอะ เด็กห้องหก น่ารักดีนะ" มันพูดแล้วทำหน้าเพ้อฝัน เห็นแบบนั้นผมก็ยิ่งรู้สึกหัวใจเต้นช้าลง มือเย็นแถมรู้ึกชาไปทั้งตัว.. ก็แค่เพื่อนมีแฟนเอง ผมเป็นอะไรล่ะเนี่ย??
"ไปคบกันยังไงวะน่ะ นานยังเนี่ย?" ผมทำท่าทางให้ปกติ แล้วถามมันไปเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร
"สองวันก่อนอ่ะ ที่กูไม่ได้บอกเพราะกูยังไม่มั่นใจ" มันพูดแล้วยิ้ม
"อือ..ตอนนี้มั่นใจ??" ผมกลั้นใจถามอีกครั้ง..รู้สึกหมือนมีอะไรมาจุกคอก็ไม่รู้ ผมเป็นอะไรเนี่ย?
"ก็ไม่แน่นะ แต่กูว่าคนนี้โอเคว่ะ" ผมพยักหน้าตอบอย่างเข้าใจแล้วกลับมานั่งนิ่งเหมือนเดิม ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ตัวชาไปหมด..
"เห้ยแบงค์ มึงเป็นอะไร หน้าซีดงี้" มันจับหน้าผมพลิกไปพลิกมามองไปทั่วหน้าผม ผมหลบตามันเล็กน้อย แล้วตอบมันไปเบาๆ
"กูเปล่า.." มันก็ยังไม่ยอมฟังครับ ถามอยู่นั่นแหละว่าผมเป็นอะไร..ผมเองยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นอะไร.. คงตอบมันไปไม่ได้จริงๆ
"แปปนะ" มันพูด มือถือมันสั่นครืดๆอยู่ที่โต๊ะมันที่ห่างโต๊ะผมไปสองโต๊ะ มันเดินไปหยิบขึ้นมาดู ใบหน้าฉายรอยยิ้มสดใสขึ้นมาแล้กดรับ
"ครับ ยิม?" มันกรอกเสียงทุ้มถามปลายสาย แล้วนั่งคุยอยู่ตรงนั้นดูสนุกดี ผมมองแบบนั้นไม่นานก็หันกลับมาก้มหน้าอยูกับโลกของตัวเองอีกครั้ง รู้สึกใจมันหวิวๆ ผมเป็นอะไรไปนะ?
ผมเคลียขนมไปกองๆไว้ขอบโต๊ะ แล้วก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น การหลับไปไม่ต้องรู้อะไรอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผมแล้ว ตอนนี้ผมมันมีอาการแปลก ไม่รู้ทำไม่ผมถึงเป็นแบบนี้ได้ อยูดีๆก็เป็นแบบนี้ นี่มันใช่ผมเหรอวะ?
ผมก็คง..จะรู้สึกเหงาเฉาๆเองหรอกมั้ง
ก่อนที่ผมทันจะได้หลับ สัมผัสอุ่นๆก็ลูบเบาๆที่แก้มผม ผมสะดุ้งเด้งตัวขึ้นมานั่งหลับตรงเหมือนเดิม ก็เห็นไอ้ฟิวมองมาด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย
"แบงค์ มึงเป็นไรมากป่าววะ บอกกูเหอะ" มันขยับเก้าอี้มานั่งข้างๆตัวผม ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ แล้วก็ฟุบลงกับโต๊ะเหมือนเดิม
"แบงค์ กูเพื่อนมึงนะเว้ย มีไรก็บอกกูสิ" มันเอื้มมือมาจับไหล่ผมเบาๆ ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่เงียบอยู่อย่างนั้น ได้ยินเสียงมันจิ๊ปากอย่างขัดใจเบาๆ แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ไป ผมไม่รู้ว่ามันไปไหน แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรมันออกไป..แต่แล้ว ตัวผมก็ถูกช้อนตัวขึ้นมาจากเก้าอี
"เห้ย ทำห่าไรของมึงวะ!!" ผมโวยวายแล้วก็ดิ้นๆจะให้มันวางผมลง
"กูจะพามึงไปห้องพยาบาลไง เลิกดิ้นซะที" มันว่าแล้วก็อุ้มผมเดินออกห้องมาซะอย่างนั้น
"ปล่อยกู! กูไม่ได้เป็นอะไรเว้ย ไปทำไม" ผมยังเถียง
"กูว่ามึงเป็น"มันพูดแค่นั้นแล้วก็อุ้มผมอยู่อย่างนั้น เดินลงบันไดลงมา เดินเรียบไปกับแนวตึกเพื่อไปห้องพยาบาลที่อยู่ชั้นล่างขวาสุดของตึก ทางที่เดินผ่านไปก็มีแต่คนมองตามเต็มไปหมด..ผมมุดหน้าเข้ากับอกมันด้วยความอาย เกิดมายังไม่เคยมีคนมองขนาดนี้เลยครับ
"ครูครับ เพื่อนผมไม่สบายครับ" เมื่อมาถึงมันก็พาเข้าไปในห้องพยาบาลแล้วเรียกหาครูที่ประจำอยู่ทันที
"เป็นอะไรล่ะ?" ครูเดินมาหาแล้วถามกลับ
"ไม่รู้อ่ะครับ ผมเห็นหน้าเขาซีดๆ" ฟิวอุ้มผมไปวางไว้บนเตียงของห้องพยาบาล แล้วครูก็เชคตัวผมสักพัก แล้วก็หันไปพูดกับฟิว
"ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่นา แต่หน้าซีดแบบนี้ให้นอนพักไปก่อนละกันนะ"
"ครับ" มันพูด..ก็ผมบอกแล้วว่าไม่ได้เป็นไร ไม่ฟังเลย
"ครูจะไปกินข้าวละ ดูแลเพื่อนเองละกันนะ"
"ครับ ได้ครับ" มันรับคำ แล้วครูก็เดินออกไป มันเดินมานั่งตรงเก้าอี้ข้างเตียงแล้วมองผม
"กูก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไร" ผมพูดแล้วหลับตานิ่ง
"ก็อยู่ดีๆมึงก็เป็นแบบนั้น กูก็เป็นห่วงสิวะ!" มันตอบ
"ยิมนัดกูให้ไปหาตอนนี้ด้วยเนี่ย.." มันพูดแบบนั้นแต่ก็ฟุบลงแบบนั้น..ผมใจหวิวๆอีกแล้วครับ รู้สึกมมือเย็นขึ้นมาอีกแล้ว..งงตัวเองจริงๆ
"มึงก็ไปหาแฟนมึงซะสิ" ผมพูดแล้วเหลือบมองมันเล็กน้อย มันเงยหน้ามามองผม
"ไม่ กูไม่ปล่อยมึงไว้คนเดียวหรอก" มันตอบ
"ผู้หญิงคนนั้นโอเคสำหรับมึงไม่ใช่เหรอวะ อย่าไปทำให้เขาหมดใจกะมึงดีกว่าน่า" ผมบอกมัน มันก็ส่ายหน้าอีก มือใหญ่ก็เอื้อมมาคลึงแก้มผมเบาๆ
"ก็จริง แต่กูไม่ทิ้งให้มึงอยู่คนเดียวหรอก" มันพูดแบบนั้น ผมก็ได้แต่มองมันด้วยสายตาไม่เข้าใจ
"กูว่ามึงตัวคนเดียวมามากพอละ กูเป็นเพื่อน กูไม่ให้มึงเหงาแล้ว" มันตอบแบบนั้น ผมก็รู้สึกใจเต้นแปลกๆขึ้นมา.. พึ่งจะเคยมีคนมาพูดแบบนี้ด้วยเป็นครั้งแรกนี่แหละครับ
"ถ้ามันทำให้มึงเสียสิ่งสำคัญไปกูก็ไม่ต้องการหรอกนะ" ผมตีหน้านิ่งมองหน้ามันไป มันกลับยิ้มกลับมาให้ผม มือก็ยังคลึงอยู่ที่แก้มอยู่แบบนั้น
"มึงต่างหากล่ะของสำคัญกู" มันตอบแค่นั้น ผมก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา ผมจึงหลบสายตามันด้วยกานลับมานอนหลับตานิ่ง
"เห้ย แบงค์ มึงไข้ขึ้นละเหรอ หน้าแดงจัง" มันพูดน้ำเสียงกระวนกระวาย แล้วใช้หลังมือแตะหน้าผากผม ผมส่ายหน้าเบาๆ แล้วก็เรียกมัน
"ฟิว"
"หือ?" มันตอบรับ
"กูดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับมึง" ผมพูดไปแต่ก็หลับตาอยู่อย่างนั้น
"กูก็เหมือนกัน" มันตอบ ผมไม่รู้ว่ามันทำสีหน้ายังไง ผมก็ได้แต่คลี่ยิ้มบางๆให้มัน
"เอ้อ แบงค์" ผมปรือตาขึ้นมามองหน้ามันอีกครั้ง
"อยากไปค้างบ้านกูหน่อยมั้ยวะ พ่อแม่กูไปญี่ปุ่น กูอยู่คนเดียว เหงา" มันชวน ผมก็พยักหน้าเบาๆ
"ก็ดีนะ กูอยากไปกลิ้งเล่นบ้านมึงอยู่เหมือนกัน" ผมตอบ ก็ผมไม่เคยไปบ้านมันเลยอ่ะครับ มันก็ไม่เคยมาบ้านผมเหมือนกัน เป็นเพื่อนกันก็ต้องเคยไปซักครั้งสิ
"อือ ดีมาก มานั่งเล่นเกมกับกูก็ได้" มันยิ้มให้
"มึงนอนพักไปเหอะ สักพักเดี๋ยวกูขึ้นไปเรียนสังคมครูอ้อยแล้วกูจะบอกครูให้"
"อือ ใจนะ" ผมตอบแล้วยิ้มให้มันบ้าง
"อือ เดี๋ยวหมดคาบกูจะลงมาปลุกละกัน" มันว่าแล้วก็ลูบหัวผม ผมหลับตาแล้วก็นอนนิ่งๆไปแบบนั้น ฟิวมันก็นั่งเฝ้าผมจนผมหลับไป..
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมนอนอยู่แบบนั้น ก็รู้สึกเหมือนใครมาคลึงแก้มอีกแล้ว..แต่ก็มีคนเดียวที่ชอบทำแบบนี้ ผมปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย ก็เห็นไอ้ฟิวนั่งยิ้มให้อยู่ข้างๆ
"แก้มกูนุ่มไง?" ผมถามมันกวนๆ
"เออ พึ่งรู้เหรอ ถ้าเป็นผู้หญิงนี้กูคงแอบหอมไปซักฟอดใหญ่" มันกวนกลับแล้วก็ทำท่าโน้มหน้าลงมาหาผม ผมก็หัวเราะเบาๆแล้วดันหัวมันออก
"ห่าดิ กูผู้ชายครับ" มันหัวเราะกลับ
"ดีขึ้นยังอะมึง หน้าหายซีดละนี่" ผมพยักหน้า
"ดี ป่ะกลับบ้านกัน" มันชวน ผมก็แปลกใจทันที
"ไม่เรียน?" ผมถาม
"เลิกเรียนละมึง นอนลืมเวลาเลยนะ" มันตอบยิ้มๆ
"เอ้า ไหนบอกหมดคาบครูอ้อยแล้วจะลงมาปลุกกูไง" ผมขมวดคิ้วถามมันไปที
"หมดคาบกูก็ลงมาทุกคาบแหละ แต่เห็นมึงนอนสบายกูก็ไม่อยากปลุก" มันตอบ ผมอยากจะเขกหัวมันไปทีจริงๆ ทำผมเสียเวลาเรียนไปฟรีๆซะได้
"เลิกเรียนแล้วเนี่ย กลับเหอะๆ" มันว่าแล้วก็ฉุดผมลุกจากเตียง มันก็ยื่นกระเป๋าของผมมาให้ ผมรับไว้แล้วเราก็เดินไปลาครูห้องพยาบาลแล้วออกไปเลย
พอเดินไปได้สักพัก ผ่านสนามบาสไอ้ชายเพื่อนไอ้ฟิวก็ตะโกนเรียกมา
"เห้ยฟิว!! วันนี้มึงไม่เล่นบาสหน่อยเหรอวะ"
"ไม่ล่ะ วันนี้กูขี้เกียจโว้ย!!" มันตะโกนกลับแล้วก็ดึงผมให้เดินตามมันไปที่โรงจอดรถ ทุกทีผมนั่งรถประจำทางกลับครับ วันนี้คงได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์มันกลับ
"ให้พามึงกลับไปเก็บของที่บ้านก่อนป่าว?" มันถาม
"อือ กูจะได้บอกแม่ด้วย" ผมบอกแล้วก็นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์มันออกโรงเรียนมา
ที่บ้าน ผมเปิดรั้วเดินเข้าบ้านมา เห็นแม่ยืนรดน้ำดอกไม้อยู่บริเวณสวนหย่อมหน้าบ้าน ผมจึงเดินเข้าไปสวัสดีแล้วก็สวมกอดแม่เหมือนทุกครั้ง
"หวัดดีครับ" ฟิวเดินตามมาแล้วก็ไหว้แม่ผม แม่หันไปมองด้วยแววตาแปลกใจ
"ใครเนี่ยลูก?" แม่หันมาถามผม
"นี่เพื่อนผมครับแม่ ชื่อฟิว" ผมตอบละยิ้มให้แม่
"เพื่อนลูก!!?" แม่ทำท่าตกใจจนเกินหน้าเกินตา
"ทำไมเหรอครับ??" ฟิวถามด้วยความสงสัย แม่ก็หันไปตอบด้วยท่าทางตื่นเต้น
"ก็แม่ไม่เห็นแบงค์เขาพาเพื่อนมาหาเลยนี่จ้ะ ไปประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนก็ไม่เห็นเขาจะไปนั่งจับกลุ่มคุยกับใครเขาเหมือนคนอื่นเลย กลัวว่าลูกคนนี้จะไม่มีเพื่อนซะแล้วสิ" แม่พูดไปยิ้มไป
"เวอร์น่ะแม่" ผมว่า
"จริงๆนะ ลูกดูไม่ค่อยสุงสิงกับใครเลย" แม่ลูบหัวผมเบาๆแล้วยิ้มอ่อนโยนมาให้ ได้ยินเสียงไอ้ฟิวหัวเราะเบาๆอยู่ไม่ไกล
"แม่ วันนี้ผมไปนอนค้างบ้างไอ้ฟิวนะ คึนนึงอ่า" ผมเปลี่ยนเรื่อง แม่ทำหน้าฉงนเล็กน้อยแล้วพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงอนุญาต
"พ่อแม่ผมไปญี่ปุ่นน่ะครับ ไปกันเป็นเดือนผมเลยขอให้แบงค์มาอยู่เป็นเพื่อนสักคืน" ฟิวมันว่า แม่ก็ถึงบางอ้อแล้วก็ถามมันต่อ
"งั้นแม่ฝากแบงค์ไปอยู้ด้วยอาทิตย์นึงเลยได้มั้ยจ้ะ?" แม่ถามไอ้ฟิว มันก็พยักหน้างงๆ
"แม่จะไปไหนเหรอ?" ผมถาม
"แม่จะไปหายายที่ต่างจังหวัดน่ะ ก็ห่วงอยู่ว่าลูกจะอยู่บ้านคนเดียวทั้งอาทิตย์ได้มั้ย แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนคงไม่เป็นไร" ผมพยักหน้าเบาๆ
"ได้ครับไม่มีปัญหาเลย!" ไอ้ฟิวตอบแล้วยิ้มให้แม่ผม แม่ก็ยิ้มตอบ
"ฝากดูแลลูกแม่ด้วยนะจ๊ะพ่อหนุ่ม ขึ้นไปเก็บของกันเถอะจ่ะ" แม่ว่าแล้วก็โบกมือไล่ ผมกลับฟิวจึงเดินเข้าบ้านแล้วก็ขึ้นมาเก็บของบนห้องของผม พวกเสื้อผ้าที่จะหอบไปใช้ทั้งอาทิตย์
"ห้องมึงน่าอยู่จัง" มันพูดก่อนจะกระโดดลงเตียงผมแบบไม่ถงไม่ถามเจ้าของห้องอย่างผมซักคำ
"ก็แค่ห้องแคบๆแหละ" ผมตอบแล้วเปิดตู้เสื้อผ้า รื้อชุดที่จะใช้ออกมา
"ก็ดูอบอุ่นดีออกนะมึง" มันยังพูดต่อ ผมยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้แล้วโยนมันลงข้างเตียง
"กูนอนมาตั้งแต่เด็กไม่เห็นมันน่าอบอุ่นยังไงเลย ลุกขึ้นมาได้แล้ว" ผมพูดแล้วดึงแขนมันขึ้นมา ฉุดมันให้ลุกขึ้นแล้วออกไปกันซักที มันกลับดึงผมคืน ผมถึงกับตกลงไปนอนเป็นเพื่อนมันทันที
"อุ่นยัง" มันว่าแล้วก็กอดผมแบบนั้น ผมเกร็งนิ่ง ใจเต้นไม่เป็นส่ำ อยู่ดีๆมากอดกันแบบนี้ผมก็อึ้งสิครับ
"ตัวมึงกอดสนุกดีว่ะ" มันว่าแล้วก็กอดแน่นกว่าเดิม
"ก..กูร้อนไอ่สัส ปล่อยๆ" ผมแถแล้วก็ดันตัวออกจากอ้อมกอดมัน ลุกจากเตียงแล้วก็หยิบกระเป๋าเดินออกห้องไปโดยไม่ลืมบอกให้มันรีบตมมาจะได้ไปซักที
เราบอกลาแม่อีกครั้งแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาตรงดิ่งไปบ้านมันเลยครับ บ้านมันก็ค่อนข้างใหญ่พอสมควรครับ มีสวนมีโต๊ะไว้นั่งเล่นนอกบ้าน ีสนามบาสอยู่ซีกขวาในส่วนของหน้าบ้านด้วย คงจะชอบเล่นบาสมาก ผมเดินตามมันขึ้นมาบนห้อง ห้องมันกว้างกว่าห้องผมครับ เหมือนเอาห้องผมมาต่อกันสองห้อง เตียงเป็นเตียงคู่สงสัยจะนอนดิ้นจะกลัวตกเตียง มีคอมมีเครื่องเล่นวิดีโอเกมอยู่ครบครัน
"กูว่าห้องมึงนี่กลิ้งสบายเลยว่ะ" ผมพูด มันก็หัวเราะ
"ลงไปกลิ้งตามสบายมึงเลย" แล้วมันก็ดึงกระเป๋าจากมือผมไปเก็บให้ ผมทิ้งตัวลงนอนแผ่ไปกันเตียงกว้าง แอร์เย็นฉ่ำปะทะกับผิวที่โผล่พ้นเสีอผ้าเบาๆทำให้ผมเคลิ้มจะหลับไปอีกทีได้เลย
"สบายมั้ยมึง" มันว่าแล้วก็ทิ้งตัวนอนข้างๆผม
"อือ สบายโคตร" ผมว่าแล้วก็หลับตา มันก็ดึงผมเข้าไปกอด
"กอดทำห่าไรวะ?" ผมผงะเล็กน้อง แล้วถามมันอึ้งๆ
"ตัวมึงนิ่มกอดสนุกดี ก็เป็นหมอนข้างกูทีละกัน" มันว่าแล้วกกอดผมอยู่อย่างนั้น ผมใจเต้นรัวจนกลัวว่ามันอาจจะได้ยินก็ได้ ไม่รู้ทำไมถึงได้ใจเต้นกับมันง่ายนัก
ผมปล่อยให้มันนอนกอดแบบนั้นแล้วหลับตาปล่อยให้เวลาผ่านไป
ตื่นขึ้นมาอีกทีก็สี่ทุ่มแล้วครับ ไม่รู้หลับกันไปนานขนาดนี้ได้ยังไง ตื่นมาก็ได้พอกันไปเปิดตู้เย็นบ้านมันแล้วแงะของที่กินได้ออกมากิน
พอกินเสร็จก็ผลัดกันออาบน้ำแล้วมานั่งเล่นเกมด้วยกันครับ วิดีโอเกมน่ะ
ครืดด..ด
มือถือมันสั่นขึ้น มันยกขึ้นมาดูทำหน้าตื่นๆแล้วก็วางไว้ไม่ยอมกดรับ
"ใครเหรอ?" ผมถาม
"ยิมน่ะ"
"แล้วไม่รับล่ะวะ"
"วันนี้ตอนกลางวันกูไม่ได้ไปตามนัดยิม พอขอโทษไปแล้วยิมก็โอเคแล้วบอกว่าเลิกเรียนจะมาหากูที่สนามห้ามกูไปไหน กูก็ลืม กูว่ากูไม่รับแล้วไปขอโทษยิมพรุ่งนี้ดีกว่าว่ะ" มันตอบท่าทางเลิ่กลั่ก
"ยิ่งมึงไม่รับ ยิมก็ยิ่งโกรธ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก" ผมว่า มันก็ยิ้มแห้งๆมาให้
"กูยอมโดนด่าครั้งเดียวดีกว่าโดนด่าตอนนี้ที แล้วไปงอลพรุ่งนี้ต่ออีกทีอ่ะนะ" มันพูด ผมก็ส่ายหน้าเอือมระอากับมันไปเบาๆ
"ตามใจมึงละกันงั้น"
"เห้ย งอลกูแทนยิมเหรอ อย่าดิ" มันปล่อยเลิกเล่นเกมแล้วหันมาสนใจผม
"ห่าไรมึง?" ผมถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
"ก็มาทำหน้าบึ้งใส่กูไมเล่า ยิมงอลกูได้แต่มึงห้าม!" มันว่าแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอด ผมผงะตกใจเล็กน้อย พยายามดันตัวเองออกแต่อ้อมแขนนี้ช่างแข็งแกร่งซะเหลือเกิน
"เป็นบ้าไรของมึงเนี่ยย" ผมโวย
"กูเปล่า นอนกันเหอะ" มันพูดแค่นั้นแล้วก็ฉุดผมไปนอนกอดบนเตียง ผมรู้สึกงงงวยกับสิ่งที่มันทำเล็กน้อยถึงปานกลาง.. สงสัยแฟนงอลทีถึงกับเป็นบ้า
"นอนดีๆๆหน่อยเห๊อะ มุดซะกูเสียวเลยสัส" ผมพูดเมื่อไอ้ฟิวมันไม่นอนเปล่าดันมามุดแถวๆคอให้สยิวเล่น
"โทษที ตัวมึงหอมดีนะ" ว่าแล้วมันก็กลับมานอนกอดนิ่งๆเหมือนเดิม
ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้มันนอนกอดแล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น
.
.
.
"ฟิว!!" เสียงเล็กๆแหลมๆของผู้หญิงซักคนดังมาจากทางด้วยหลัง ผมสองคนหันไปมองก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักมองมาทางพวกเราด้วยสายตาเอาเรื่อง
ผมกับไอ้ฟิวพึ่งมาถึงโรงเรียนกันครับ พึ่งเดินออกมาจากโรงจอดรถแล้วกำลังจะเดินไปรอเข้าแถวที่สนามของโรงเรียน แต่ก็โดนผู้หญิงคนนี้เรียกตัวไว้
"เอ่อ..ยิม?" ถ้าเป็นการ์ตูนไอ้ฟิวคงมีเหงื่อตกเม็ดบะเอ้งติดอยู่เต็มหน้าไปแล้ว
"คุยกันหน่อยสิ" แล้วเธอก็เดินไปอีกทาง ฟิมหันมามองหน้าผมเล็กน้อย
"เจอกันที่แถวนะ" มันพูดแค่นั้นแล้วก็เดินตามผู้หญิงคนนั้นไป ใจผมยังกระตูกวูบอยู่เหมือนเดิม ซึ่งผมก็เริ่มปลงๆกับมันไปแล้ว ผมหันกลับมาทางเดิมแล้วเดินไปช้าๆตามทางเดินเส้นเดิม
มันกลับมาเข้าแถวทันครับ กลับมาด้วยสีหน้าปปกติ พอเลิกแถวผมก็อดถามมันไปไม่ได้
"เป็นไงวะ?"
"ดีกันแล้ว" มันตอบแต่สีหน้าเหมือนคนมีอะไรให้คิดหนัก
"ว่าไงมั่ง??" ผมถามต่อ
"ยิมบอกว่าถ้ากูทำแบบนี้อีกจะเลิกน่ะ" มันตอบ
"ก็ดีแล้วไง มึงก็แค่ทำตาม ทำหน้าคิดมากทำไม" ผมส่ายหัวเบาๆแบบเวทนา
"พอกูมาคิดดูอีกที ยิมยังทำให้กูใจเต้นเท่าคนๆนึงไม่ได้เลย กูคบยิมต่อจะดีเหรอวะ" มันเพ้อ
"ทำไมวะ?" ผมที่เดินขนาบข้างมันถึงกับชะงักถามมัน ใจมันกระตุกวูบไปอีกแล้วไม่รู้ทำไม ..มีคนที่มันชอบมากกว่ายิมอีกเหรอเนี่ย?..แล้วผมจะไปคิดทำไมกันล่ะหนิ
"ก็พอยิมพูดแบบนั้น กูก็มาคิดว่าคนที่กูอยากทำให้มีความสุขที่สุดใช่ยิมป่าววะ.." มันเห็นผมยืนนิ่งเลยจับแขนผมดึงได้เดินตามมันมา แล้วพูดเรื่องของมันไป
"..." ผมเงียบฟังมันพูด
"กูว่ากูอาจจะทำร้ายยิมมากกว่าเดิมเพราะกูคบยิมแต่ไม่ได้รักยิมจากใจจริงรึเปล่าวะ.."
"..." ผมก็ยังเงียบฟังมันบ่นต่อ
"กูว่ากูอยู่กับคนนั้นของกูกูมีความสุขมากกว่าอยู่กับยิม กูก็ไม่ไปหายิม บางทีกูน่าจะควรปล่อยยิมไปว่ะ.." มันยิ้มจางๆ
"มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ?" ผมที่เงียบมานานก็อดถามไม่ได้
"เขาอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับกูก็ได้นะ" มันยิ้มเพ้อๆออกมาอีกครั้ง ..ยิ่งมึงดูเพ้อรักแบบนี้กูยิ่งรู้สึกใจหวิวๆว่ะ กูเป็นอะไรวะเนี่ยยย
"ก็ตามใจมึง" เราเดินขึ้นมาถึงห้องเรียนของตัวเอง วางรองเท้าไว้ที่ชั้นวางหน้าห้องแล้วก็เดินเอากระเป๋าเข้าไปวางที่เก้าอี้ ทุกคนจับกลุ่มคุยกันเรื่อยเปื่อยรอเวลาอาจารย์เข้าสอน ไอ้ฟิวเองก็ลากเก้าอี้มานั่งคุยกับผมต่อ
"มึงไม่มีคนที่ชอบบ้างเหรอวะ?" มันถาม
"ถ้าเผลอใจเต้นด้วยบ่อยๆนี่ใช่รึเปล่าล่ะวะ" ผมถามกลับ เพราะผมไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ในชีวิตเลยซักครั้ง มันนี่แหละคนแรกที่มาทำผมแปลกไป
"กูว่าใช่นะ" มันพูด
"เออ งั้นกูก็คงมี" ผมตอบแค่นั้น
"จริง? กูอยากเห็นจัง" มันว่าแล้วก็เอนกายพิงพนักเก้าอี้แลดูสบายอุรา
"ทำไมล่ะวะ?" ผมถามกลับด้วยความแปลกใจ
"ก็มึงแทบไม่สุงสิงใครแบบนี้ ไปชอบได้ยังไงอ่ะสิ กูเลยอยากเห็น" มันพูดยิ้มๆ.. พอดีกูใจเต้นเพราะสุงสิงกับมันคนเดียวเนี่ยหละครับ ไม่ได้ไหนไกลเล๊ย
"ก็ไม่รู้สินะ" ผมตอบกวนตีนไป มันก็บ้องหัวผมทีนึงแล้วหัวเราะชอบใจ ผมกำลังจะเอาคืนแต่ครูเข้ามาซะก่อน มันเลยรีลากสัขารตัวเองกลับไปนั่งที่โต๊ะทันที
"ยิม เราว่าเราคงทำให้ยิมมีความสุขไม่ได้" ไอ้ฟิวพูดเสียงอ่อนกับผู้หญิงตังหน้า ผมยืนหลบอยู่หลังเสาครับ ไอ้คุณเพื่อนมันขอให้มาอยู่ใกล้ๆ ไม่งั้นมันไม่กล้าคุย
"มีคนที่ใช่กว่า?" สาวน้อยพูด ไอ้ฟิวถึงกับผงะ ไม่เว้นแม้แต่ผม..
รู้ได้ไงล่ะหว่า.. ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ
"เอ่อ.." ฟิวถึงกับพูดไม่ออก
"ดูจากที่ฟิวทำก็น่าสงสัยแล้ว ไปเหอะ ยิมไม่แคร์หรอก" แล้วเธอก็เดินหนีไปไม่ซักถามอะไรต่ออีกเลย.. เมื่อเธอเดินลับไปแล้วผมก็เผยตัวจากหลังเสาเข้าไปหาเพื่อนทันที
"ดีแล้วล่ะมึง ไม่ต้องยื้อความให้ยาว" ผมพูด มันก็พยักหน้ากลับมาแล้วยิ้มให้
"กูหิวละ กินข้าวกัน!" แล้วมันก็โอบไหล่ผมเดินไปพร้องๆกับมัน
.
.
.
"แบงค์ บอกกูทีว่าพรุ่งนี้วันเสาร์!!!"
"อือ พรุ่งนี้วันเสาร์" ผมตอบตามที่มันขอ มันก็ทำท่าสะดีดสะดิ้นดีใจซะเต็มประดา
"โว้ววว หายเครียดเลยแสรดดดด" มันว่า แล้วก็กระโดดลงไปกลิ้งๆอยู่บนเตียง
ตอนนี้ผมสองคนเอากระเป๋าขึ้นมาโยนไว้บนห้องละครับ หลังจากจัดการเรื่องยิมไปมันก็ดูลัลล้าผิดปกติ กะอีแค่วันสุดท้ายของอาทิตย์ไม่เห็นแม่งดิ้นแบบนี้มาก่อนเลย
"เรื่องคนๆของมึงอะ เอาไงต่อ" ผมเห็นมันลัลล้าเกินหน้าเกินตาก็หมั่งไส้ครับ ดึงเรื่องที่ดูน่าซีเรียสมาข่มแม่งเลย..แต่ดูถ้าจะหนาเกินกว่ารู้สึกเครียดแล้ตอนนี้
"อืมม..มึงว่ากูควรบอกเขามั้ยล่ะ" มันทำหน้าซื่อๆถามผม
"ก็ดีนะ แต่ก็แล้วแต่มึงละกัน" ผมว่าแล้วก็ทิ้งตัวนอนข้างๆมัน แต่แล้วมันก็ลากผมไปกอดแล้วนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเป็นคู่มันซะงั้น
"ห่า สนุกมากไง" ผมด่า มันก็หัวเราะ
"กูอยากบอกไวๆ แต่กูกลัวโดนปฏิเสธว่ะ" มันเริ่มเพ้ออีกครั้ง
"คนอย่างมึงกลัวด้วยเหรอ?" ผมถาม..คือ หน้าตามันก็ดี ตัวก็สูง อะไรๆก็ดูดี ผู้หญิงที่ไหนกล้าปฏิเสธมันลงบ้างล่ะเนี่ย? เป็นผมให้คบแค่ห้านาทียังยอมเลย
แล้วผมกำลังมีความคิมบ้าๆอะไรอยู่ล่ะเนี่ย??
"กลัวเป็นแบบยิมไง.. ชอบเขา เขาก็ชอบคนอื่น" มันยิ้มจางๆ
"เขาปฏิเสธมึงกับมึงปล่อยให้เขาผ่านไปหาคนอื่นมันก็ได้ผลเหมือนกันไม่ใช่เหรอวะ?" ผมว่า มันทำท่าคิด
"อือ ก็จริงของมึงนะ" มันว่าแล้วก็ก้มหน้ามาซุกที่คอผมอีก
"เห้ยๆๆ มุดกูไม่เนี่ย!" รู้สึกใจเต้นแปลกๆแถมหน้าร้อนผ่าว..เล่นอะไรสงสารกูบ้างเด้เห้ย!!
"ฮ่าๆๆ ถ้ากูปล้ำมึงนี่มึงจะโกรธกูมั้ยเนี่ย?" มันหัวเราะแล้วถามผม
"ก็อาจจะ" ผมตอบ แล้วมัยก็เปลี่ยนจากนอนกอดผมมาเป็นคร่อมผมแทน แววตาวาวโรจน์จนผมแอบรู้สึกขนลุกนิดๆ
"ทำไมมึงตอบงั้นวะ กูกดจริงมึงจะทำไง" มันว่าแล้วก็จ้องผมนิ่ง ใบหน้าหล่อเหลาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผมใจสั่นระทึก จ้องมันนิ่ง.. ผมอยากจะเอาเท้ายันมันออกด้วยซ้ำแต่กลับขยับตัวไม่ได้เมื่อจ้องดวงตาคู่นั้น..
"มึงไม่หนีจริงอะ??" ลมหายใจที่รดใบหน้าพาให้ผมรู้สึกวาบหวิว แทนที่จะหนีตามที่มันขู่ผมกลับเลือกที่จะหลับตาลง ไม่ตอบอะไร..เอาเถอะ ผมว่ามันคงแค่อยากแกล้งผมนิดๆหน่อยๆ ไม่กล้าทำจริงหรอก
แล้ว..ผมจะจัดการได้หัวใจที่เต้นรัวแบบนี้ยังไงดี?
ผมคิดอะไรเพลินๆไปได้ไม่นานก็ต้องเบิกตากว้างทันที มองคนที่กดจูบลงมาด้วยความตกใจ สัมผัสหยุ่นๆที่ปากพาลทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ คนตรงหน้าหลับตาลง กดจูบและขยับเรียวปากบดเบียดไปมา มันคร่อมผมไว้แต่มือยังคงมีอิสระ ผมผลักมันออกแต่ดูท่าจะสู้แรงไม่ได้ ไอ้ฟิวปรือตาขึ้นแล้วสบตาผมนิ่ง ดวงตาคู่นั้นทำให้ผมสงบลง ผมหลับตาลงอีกครั้งแล้วปล่อยให้มันกดจูบผมอยู่อย่างนั้น
"..แบงค์" มันเรียกชื่อผมหลังจากที่ถอนปากออกแล้วเปลี่ยนไปซุกไซร้อยู่ที่บริเวณซอกคอผม
"อือ.." ผมตอบเสียงสั่น หายใจเริ่มติดขัด
"กูชอบมึงนะ.." ผมอึ้งกับคำพูดมัน รู้สึกพูดไม่ออก หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว แต่คนข้างบนไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น มันเล้าโลมไปทั่วร่างผม จับผมเปลื้องผ้าแล้วพลิกคว่ำไปกับเตียง
แล้วทำสิ่งที่ทั้งเจ็บปวดแต่ก็หอมหวานจนผมไม่อาจลืมได้ไปตลอดชีวิต..
.
.
.
ผมงัวเงียตื่นมาเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสเบาๆที่คลึงอยู่ข้างแก้ม แสงจ้าทำให้ผมต้องหรี่ตาเพื่อปรับแสงเมื่อลืมตาขึ้น เงามัวๆของอีกคนอยู่ตรงหน้าผม เขานั่งยิ้มแล้วก็คลึงแก้มไปมาอยู่อย่างนั้น
"ตื่นละเหรอ แบงค์" มันพูดเสียงอ่อนแล้วก้มมาจูบผมเบาๆ ผมตื่นมาพร้องกับความเจ็บและปวดหนุบ รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวแปลกๆ คิดว่าอาจจะไม่สบายในไม่ช้านี้ด้วย
"โชคดีที่แม่งเป็นวันเสาร์" ผมบ่นอุบ ไอ้ฟิวหัวเราะเจื่อนๆแล้วทิ้งตัวลงข้างๆ อ้อมแขนกว้างโอบกอดผมเอาไว้ แล้วซุกหน้าลงกับคอของผมเหมือนที่เคยทำ
"กูขอโทษนะแบงค์" มันพูดเบาๆ แปลกที่ผมไม่ได้คิดโกรธอะไรมันเลยซักนิด อยากโกรธแต่มันโกรธไม่ลงจริงๆ แปลกเนอะ..
"มึงพูดจริง?" ผมขมวดคิ้วหันไปถามมัน สีหน้ามันดูหมองลงเล็กน้อย
"กูชอบมึง กูพูดจริง.." มันพูด ผมหลบสายตามัน ไม่กล้าสู้หน้ามันเท่าไหร่
"..." ผมเงียบ เพราะผมอึ้งจนพูดไม่ออก และผมรู้สึก..ใจเต้นโครมครามแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
"มึงเกลียดกูมั้ยแบงค์.." ไอ้ฟิวถามออกมาตรงๆแล้วกอดผมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าผมจะลุกแล้วเดินหนีมันไปทั้งๆอย่างนั้น
"..." ผมยังนิ่งเหมือนเดิม หน้าร้อนผ่าวไปกับความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นในใจ
"มึงคงเกลียดกูแล้ว" มันพูดแค่นั้น ร่างแกร่งดูสั่นเทิ้มเล็กน้อย เหมือนกับอดกลั้นกับบางสิ่งอยู่ ผมไม่รู้ผมควรบอกอะไรมันดี ใจที่เต้นโครมครามนี้จะเป็นคำตอบให้ผมได้มั้ย
ไม่รู้สิ่งที่ผมทำต่อไปนี้จะปลอบใจมันได้มั้ย ผมหันไปจูบมันเบาๆแทนคำตอบ มันเองก็จูบมไปหลายทีแล้วเมื่อคืน คงจะไม่ได้รู้สึกพิเศษเท่าไหร่แล้วล่ะมั้ง
แต่ดูเหมือนผลจะออกมาดีกว่าที่คิดครับ มันยิ้มแล้วกดจูบผมคืน จูบหวานๆที่พลาผมเคลิบเคลิ้มไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมเองไม่รู้ มันถอนปากออกแล้วจูบหน้าผากผมเบาๆ
"รักมึงจริงๆ" มันพูดแล้วก็กอดผมแน่น ผมซุกตัวอยู่กับหน้าอกกว้าง อ้อมกอดของมันทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ บางทีผมก็คงชอบมึงเหมือนกัน
แล้วความเป็นเพื่อนที่อยู่กับมันมาตลอดนี่จะให้ผมทำไง..
"ฟิว.." ผมเรียกมันเสียงเบา
"หือ?"
"มึง..เป็นเพื่อนคนเดียวของกูนะ" เสียงผมสั่นน้อยๆด้วยความสับสน ไอ้ฟิวก็หน้าเศร้าลงนิดๆ
"กูดีใจมากที่เป็นเพื่อนกับมึง กูสัญญากับตัวเองเสมอว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมึง กูเองก็..คงชอบมึง แต่จะให้กูทิ้งความเป็นเพื่อนไปได้ยังไง" ผมพูด ไอ้ฟิวสีหน้าสลดในตอนแรก แต่พอได้ยินคำว่าชอบจากปากผม มันกลับมองผมตาเป็นประกายจนผมแปลกใจ
"เพื่อนแบบที่เป็นมามันก็ต่างจากตอนนี้เพียงครึ่งเดียวนะ" ผมแปลกใจกว่าเดิมกับคำพูดของมัน
"มึงรู้มั้ยแบงค์ กูมองมึงตั้งแต่กูย้ายมาวนแรกแล้ว มึงคงไม่รู้ตัว.. กูอยากใกล้ชิดกับมึงมาก วันนั้นกูถึงได้เสนอตัวว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกับมึง แต่ในใจกู จากที่แค่ชอบมองมึง กูกลับเริ่มหวั่นไหวขึ้นเรื่อยๆ.." ผมอึ้ง.. มันมองผมมาตลอด?? ผมไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ย?
"ถ้ามึงยอมรับกูเป็นเพื่อนหัวใจมึง กูคงมีความสุขนะ" มันยิ้มจางๆ ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี ความรู้สึกต่างๆมันล้นทะลัก ทั้งรู้สึกดีใจ แปลกใจ เสียใจ เสียดาย ตีกันยุ่งเหยิงไปหมด
แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก..
"กูจะยังเป็นเพื่อนกับมึงไปจนกว่ามึงจะพร้อมให้คำตอบกับกูนะ..กูเชื่อว่าคำตอบของมึงคือกู" มันว่าแล้วก็หันมาซุกไซร้แถวหน้าคอผมอีก
"อย่าต่อนะมึง กูยังเจ็บอยู่สัส" ผมทำเสียงเหี้ยมแบบรู้ทัน มันก็หัวเราะ
"ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ยังไงอาทิตย์นี้มึงก็ต้องเป็นของกูทั้งอาทิตย์แหละ" มันพูดแล้วก็ก้มลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ อาทิตย์นี้ผมคงได้เสียชายไปหลายครั้งให้กับผู้ชายคนข้างๆผมนี้
แต่สำหรับผม มันก็คงไม่ได้แย่สักเท่าไหร่หรอกมั้งครับ...
-'End'-
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น