เรื่องสั้นเรื่อง....................................................................(ค่อยคิดเมื่อเเต่งเสร็จ)
บทที่หนึ่ง เช้า
เเสงสีทองสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้พวกเครื่องเงินที่อยู่ในตู้ สะท้อนเเสงเป็นประกายระยิบระยับ ผ้าม่านปลิวไหวสะบัดไปมาตามสายลมเอื่อย
ที่พัดเข้ามาพร้อมกับกลิ่นอายเค็มๆ ของทะเลจางๆ เสียงคลื่นกระทบฝั่งกระซิบกระซาบราวกับมีคนพูดคุยกัน บวกกับเสียงนกนางนวลที่กำลังกระพือปีกบินไปมาอยู่ในท้องทะเลยามเย็น
ฉันเอื้อมมือมาจับตรงขอบเตียงเพื่อพยุงตัวขึ้นจากเตียงไม้โอ้กเก่าๆหลังหนึ่ง ซึ่งผุเเละกรอบด้วยฤทธิ์ของอายทะเลที่มากระทบมัน ในขณะที่ฉันพยุงตัว
ลุกขึ้นนั้น ฉันสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนนิ่งบนชายหาด เเต่งตัวสบายๆด้วยเสื้อขาวบางๆกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มือล้วงกระเป๋ากางเกงยืนจ้องมองออกไปในทะเลด้วย
ท่าทางสงบนิ่งอยู่นอกหน้าต่าง
เขาคือไบร์อันพี่ชายฉันเอง เเม่บุญธรรมรักเขามาก เขาอายุมากกว่าฉันห้าปี ออกจะเป็นผู้ชายที่เงียบๆ เเละไม่ค่อยพูดจากับใครซักเท่าไหร่นักเเม้กระทั้งกับฉันเองก็เถอะ
ฉันชื่อ ญาณิน เป็นลูกครึ่งไทย อิตาลี ฉันอายุสิบเก้าอยู่กับพ่อเเม่ที่เป็นทนายในอิตาลี เเต่ตอนนี้พ่อเเละเเม่ของฉันเสียชิวิตเพราะอุบัติเหตุ ฉันเลยย้ายมาอยู่กับเเม่บุญธรรมที่รับฉันมาเลี้ยง
เพราะความสงสาร ที่เกาะเเห่งหนึ่งซึ่งมันไกลจากอิตาลีมากๆ
ที่นี้ไม่มีห้างใหญ่โตโอฬาร มีเพียงซุปเปอร์เล็กๆเเห่งเดียวเท่านั้น มีโรงเรียนเเห่งเดียว ประชากรในเกาะไม่เกินสี่พันคน ไม่มีตัวเมืองหรือสถานที่บันเทิงใดๆ หันไปทางไหนก็เห็น
เเต่ป่าเขตร้อน น้ำสีฟ้าใสเเละชายหาดขาวสะอาดที่สวยงามราวกับทะเลเเถบเคริปเบียน บ้านเเต่ละหลังอยู่ห่างกันราวหนึ่งกิโลเมตร บ้านส่วนใหญ่เป็นสไตล์วินเทจโทนสีน้ำตาล
คนที่นี้เรียกที่เเห่งนี้ว่าบริดเท็นโคป
ฉันเดินออกไปนอกห้อง ขณะที่ฉันเดินออกไปสายตาของฉันจ้องมองไปที่พี่ชายของฉัน ฉันสงสัยว่าเขาจะทำอะไรต่อจากนี้ นอกจากเขาจะยืนกอดอกนิ่งๆ เพียงอย่างเดียว
"ญาณินลูกตื่นยังจ้ะ มาช่วยเเม่จัดโต็ะอาหารหน่อยจ้ะ" เสียงเเม่ตะโกนดังมาจากห้องครัว เธอชื่อติสซี่ เป็นเเม่บุญธรรมของฉันเอง เธอเป็นคนง่ายๆ เข้าใจลูกๆของเธอ
เเต่บางครั้งฉันว่าเธอออกจะทำตัวงี่เง่าเเละ ติสสมชื่อของเธอเหมือนกัน เเต่ยังไงก้เถอะฉันก็รักเธอมากพอๆกับเเม่ของฉัน เพราะเธอคอยช่วยเหลือฉันตลอดตอนที่พ่อเเละเเม่ของฉัน
เพิ่งจะจากฉันไป จนวันนี้เธอก็ยังดูเเลฉันอยู่อย่างดีเหมือนกับพี่ชายของฉัน ชั้นว่านะ จนฉันคิดว่าเธอเป็นเเม่จริงๆของฉันไปเเล้วละ
"ค่ะเเม่" ฉันตอบเธอไป
บทที่สอง โต๊ะอาหาร
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ที่ใจของฉันมันบินออกไปนอกหน้าต่าง ทำให้ฉันนั่งละเมออยู่เป็นเวลานานยิ่งนักเเต่ยังไงก็ต้องขอบใจที่เเม่ของฉันคอยเตือนฉันไว้ไม่งั้น ฉัน
คงทำจานอาหารตกเเตกเป็นอันเเน่ บนโต๊ะอาหารมีอาหารมากมายมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นอารหารที่พี่ชายของฉันชอบสะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอาหารที่ฉันชอบนะเหรอบอกตามตรง
มันไม่มีหรอก เพราะเมื่อเเม่ฉันถามว่า"อาหารเป็นไงบ้างจ๊ะ"
ฉันก็จะตอบเธอไปว่า"ก็ดีค่ะ อร่อยมากๆเลยค่ะ"
เเละนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ติสซี่เเม่บุณธรรมของฉัน นึกว่าอาหารที่เธอรังสรรค์ขึ้นมาทั้งหมดล้วนถูกปากฉันทั้งนั้น เเม้อาหารบางอย่างทำให้ฉันพะอืดพะอม จนฉันอยากจะอ้วกก็เถอะ
"ไบร์อัน ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างจ๊ะ" ติสซี่เเม่บุณธรรมของฉัน เริ่มเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารหลังจากทุกคนต่างนั่งเงียบมาเป็นเวลานาน
"ก็ดีฮะ" พี่ชายของฉันตอบด้วยคำที่สั้นห้วน เเละหน้าตายไร้อารมณ์
"เหรอจ๊ะ เเม่เพิ่งไปคุยกับครูของลูกมา ครูโดนัลบอกเเม่ว่าลูกทำตัวไม่ค่อยดีเลยเวลาเรียน เเละก็มักจะมีปัญหากับเพื่อนบ่อยๆ นี้มันเป็นเรื่องจริงไม่จ๊ะ"
"ก็....ฮะ" ไบร์อันตอบ
"นี้ลูกเป็นอะไรของลูกนะเดี๋ยวนี้ลูกชอบเก็บตัวไม่พูดไม่จากับใคร ลูกมีปํญหาอะไรลูกปรึกษาเเม่ก็ได้นะ"
"ฮะ"ไบร์อันตอบพี่ชายของฉันตอบด้วยคำที่สั้นห้วน เเละนั่งก้มหน้าอยู่กับจานอาหารของตนเองอีกตามเคย
"เอิ่มคือว่า เเม่ค่ะ" ฉันพยายามจะพูดออกไปบ้างเพื่อคลายความเคลียดบนโต๊ะอาหาร สีหน้าของติสซี่ดูเธอจะรับไม่ได้กับสีหน้าของที่ชายบุณธรรมของฉันที่นั่งนิ่งถามคำตอบคำ
เหมือนกับซอมบี้ยังไงยังงั้นเเต่ก็ไม่เป็นผลเพราะติสซี่เธอได้ระเบิดลงซะก่อนเเล้ว
"นี้ลูกเป็นอะไรของลูกเนี้ย ทำไมอทำตัวเย็นชาอย่างนี้ ไม่เคยสนใจคนรอบข้างเลย ลองดูญาณินบ้างสิ เค้าทั้งเป็นเด็กดี น่ารักเเละชอบเอาอกเอาใจ เเม่ว่าลูกควรปรับปรุงตัว
ให้เหมือนญาณินนะ" เเม่บุณธรรมของฉันพูดตะโคกออกมาพร้อมกับทุบโต๊ะดังปั้งอย่างเเรง ทำเอาฉันนั่งอึ้งไปเลย
"ฮะ" พี่ชายของฉันพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์เหมือนเดิม เเต่คราวนี้ไบร์อันพูดด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก
พร้อมกับลุกขึ้นมองหน้าฉันด้วยเเววตาอาฆาตมาดร้าย อยากจะฆ่าฉันอย่างเเรง เเล้วเดินกระทืบเท้าดังปั้งกลับขึ้นห้องไป
ทิ้งให้ฉันกับติสซี่นั้งกันอยู่สองคนในความเงียบเป็นเวลานาน
"ทำไมมันเเววตาเมื่อกี้มันช่างน่ากลัวอย่างนี้นะ" ฉันคิดในใจ
"เเม่ไม่ไหวเเล้ว ญาณินลูกช่วยเก็บโต๊ะอาหารด้วยนะจ๊ะ เเม่จะไปนอนพักสักหน่อย" เธอพูดออกมาด้วยท่าทางอ่อนล้า เเละเครียดกับการกระทำของลูกชายเต็มทน
"ค่ะ"ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้เธอ
ความคิดเห็น