The Perfect suicide
เมื่อเทพจอมมารนึกสนุกจึงมาป่วนโลก Overlord แทนท่านไอนซ์ เรื่องนี้ไม่กาวมีแต่กามและเลือด (แต่ละตอนลงช้ามากนะครับเพราะมีประมาณ 30,000 ตัวอักษรขึ้นไป)
ผู้เข้าชมรวม
802
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ
พระเอกเก่ง สงคราม ต่างโลก พระเอกเทพ ฮาเร็ม overlord แฟนตาซี ผจญภัย วาย 18+ ยึดอณาจักร ข้ามโลก whatif
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรารู้ว่าโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บางคนได้ยินแล้วก็หัวเราะขบขัน บ้างก็ร้องไห้ แต่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกอยู่เงียบๆในพื้นที่ของตัวเอง ผมจำประโยคหนึ่งในพระคำภีร์ภควัทคีตาของฮินดูได้ พระวิษณุพยายามเกลี่ยกล่อมให้เจ้าชายออกรบ และเพื่อคลายข้อสงสัยของเขา พระองค์จึงแสดงพลังอำนาจให้เขาได้เป็นที่ประจักษ์ แล้วทรงตรัสว่า
บัดนี้ข้าคือความตาย ผู้ทำลายล้างโลกทั้งมวล
- เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ บิดาแห่งระเบิดปรมณู -
༺?“??☠︎︎?“??༻
คำเตือน
ตัวละครบางตัวมีนิสัยที่เลวและโรคจิตและซาดิสต์น่าเกลียดบัดซบเกินจนยากเกินที่จะให้อภัย พูดง่ายๆก็บักคนชั่วนั้นแหละ
ขอย้ำว่านิยายเรื่องนี้ไม่ได้แสดงสันดานของไรต์นะครับ ผมแต่งเล่นๆเพื่อความบันเทิงเท่านั้น !
เรื่องจะมีการก็อปประโยคการสนทนา รวมไปถึงเนื้อหาของอนิเมะนิยายและมังงะมาทำเป็นฟิคบ้างแค่ในช่วงแรกๆกันทั้งดุ้นเลย แต่จะมีการเสริมเติมแต่งเล็กน้อยนะครับ เรียกว่าน้อยของน้อยเลยล่ะในช่วงแรกๆ
สำหรับใครที่เคยอ่านหรือเคยดูมาก่อนก็อาจจะทำให้หายคิดถึงบรรยากศเดิมๆได้บ้างไม่มากก็น้อย
มี 4 ภาค
1. Paradox : สิ้นสุดลงเมื่อถล่มสภาอาร์กแลนด์
2. Termina (ภาคสั้น) : สงครามกลางเมืองในอณาจักรของอาซวาร์ล
3. Odyssey : หลังการตายของเทพจอมมารอาซวาร์ล ได้เกิด Chaos Beast สิ่งมีชีวิตจากต่างมิติออกมาอาระวาด เป็นจังหวะเดียวกันที่หนึ่งในเพื่อนของโมมอนกะที่มีนิสัยคล้ายกันถูกวาร์ปมา และต้องร่วมมือกับเหล่าผู้กล้าเพื่อปราบหายนะในครั้งนี้
4. Ragnarok (ตามความเชื่อของจีน เลข 4 จะออกเสียงคล้ายกับคำว่า 死 ซึ่งแปลว่าตาย) : การกลับมาของอาซวาร์ล และวันพิพากษาโลก
Season 1
Paradox
[ จุดเริ่มต้นของจุดจบ ]
EP
⩇
Supremebeing
1 ĀĘ
(After Explore)
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของขบวนทหารม้ากำลังมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่ง
“นายพลกาเซ็ฟ”
นายพลกาเซ็ฟหันมามองนายทหารคนสนิทที่ควบม้าขนาบข้างก่อนจะหันไปมองทางข้างหน้าต่อ เขากัดฟัน แววตาเคร่งเคลียด
เบื้องหน้าเห็นกลุ่มควันลอยคลุงอยู่
กาเซฟ : “ชิ”
“รองหัวหน้า นำทหารบางส่วนคุ้มกันคนที่เหลือรอดไปยังเอรันเทลซะ” กาเซ็ฟสั่ง
“ท่านนายพลครับ”
“มีอะไร ?”
“คำสั่งขององค์ราชาคือ… ให้ทำการสำรวจพวกกลุ่มคนที่จู่โจมหมู่บ้านแถวชายแดน และจัดการปราบปรามให้หมดครับ”
“ใช่แล้ว”
“แต่ว่าถ้าเจอพวกอัศวินของบาฮารุธจริง ทหารที่สามารถสั่งให้ออกรบได้ก็มีแค่ 50 นายเท่านั้น”
“ก็เพราะเป็นภารกิจลับไง”
“ฝีมือพวกขุนนางซินะครับ ? แม้แต่ในเหล่าเชื้อพระวงศ์เอง ถ้าท่านแม่ทัพได้รับการเชื่อใจมากที่สุดพลาดละก็… คงเป็นเหตุให้เกิดการล้มล้างกษัตริย์เป็นแน่ ความคิดตื้นเขินซะจริง”
“พอแค่นี้เถอะ”
“ท่านแม่ทัพเองก็น่าจะรู้สึกได้นะครับ นี่เป็นกับดักอย่างเห็นได้ชัดครับ ถ้าต้องแบ่งกองกำลังและลดจำนวนทหารที่นี่ละก็… ทุกคนกลับไปที่เอรันเทลกันก่อนเถอะครับหัวหน้า ถึงแม้จะต้องเสียสละหมู่บ้านแถวนี้ไปอีกกี่หมู่บ้านก็ตาม แต่การสูญเสียนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นหัวหน้าไป นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของราชอณาจักรเลยนะครับ”
“ฉันก็แค่เห็นประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ”
“ผมเองก็เช่นกันครับ”
“การอาศัยอยู่ในหมู่บ้านก็เหมือนอยู่ต่อหน้าบานประตูนรกนั่นแหละ การจะโดนมอนสเตอร์จู่โจมก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่หรือไง ?”
“ใช่ครับ”
“เพราะงั้นเลยไม่คาดหวังอะไรอย่างงั้นเหรอ ? ว่าจะมีขุนนางหรือนักผจญภัยฝีมือดีมาช่วยน่ะ ?”
“ถ้าบอกว่าไม่ได้คาดหวังละก็คงเป็นการโกหก”
“แต่ในความจริงก็ไม่มีใครโผล่มาเลย”
“ถ้างั้นพวกเราก็แสดงให้เห็นซะซิ” “พวกเราที่จะปกป้องทุกชีวิตจากอันตราย ผู้แข็งแกร่งที่จะปกป้องคนอ่อนแอ !”
“Gate”
“พี่คะ”
“ตายซะ” อัศวินเลวเงื้อดาบขึ้นเหนือหัวหมายจะฟันร่างของหญิงสาวที่กำลังกอดน้องสาวของตนไว้ให้ตายตกไปตามกัน
“เนมุ” หญิงสาวพูดสั่งเสียต่อน้องสาวก่อนที่ตัวเองจะถูกฆ่า
หนีไปเร็วเอ็นริ ! หนีไป ! รีบไปเร็วเข้า!
เอ็นริ : [ ถ้าไม่ถ่วงเวลาให้เนมุหนีไปได้ละก็… ]
“อ๊ะ” จู่ๆอัศวินก็ชะงักและลดดาบลง
เอ็นริรู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง ความเย็นยะเยือกไหลซ่านไปทั่วกระดูกสันหลัง เธอหันไปมอง เงาตะคุ่มๆบางอย่างค่อยๆก้าวจากประตูมิติบานใหญ่ออกมาช้าๆ ปรากฎร่างยักษ์สองตนเท้าลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย ตนหนึ่งสูง23เมตรคลุมฉลองพระองค์สีเหลืองทองอร่ามคล้ายจักรพรรดิจีนโบราณสลักลวดลายแสนปราณีตด้วยเพชรนิลจินดาระยิบระยับ ส่วมหมวกทรงสูงที่บนกระหม่อมประดับตัวมังกรที่กำลังเลื้อย อีกตนสูง29เมตรใส่เสื้อเกราะทองเหลืองและหมวกราชสีห์มีเขางอกออกมา แปลงขนบนหมวกเกราะสบายออกดุจแผงคอราชสีห์เจ้าป่า
เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายทันตั้งตัว “Grab Heart (Tier 9)” ยักษ์ชุดเหลืองเสกหัวใจขึ้นมาก่อนจะขยี้มันทิ้ง ทำให้อัศวินคนหนึ่งล่มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น
อัศวิน : “ไอ้สัตว์ประหลาด !?”
ยักษ์ชุดเหลือง : “ทั้งที่ไล่ตามผู้หญิงกับเด็กมาตลอดแท้ๆ แต่คู่ต่อสู้ที่แตกต่างกว่ากลับยอมแพ้อย่างงั้นเชียวเหรอ ? อุตส่าห์มาหาแล้วทั้งที ถึงแกจะไม่เต็มใจตายตายที่นี้แต่ฉันขอทดสอบพลังหน่อยแล้วกัน”
“Dragon Lightning (Tier 5)” ที่ปลายนิ้วของยักษ์ชุดเหลืองถูกจุดด้วยเปลวกระแสไฟฟ้า ทำให้อัศวินเกิดลนลานแล้วรีบวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันการสายฟ้าได้พุ่งเข้ามาช็อตดับอนาถ “อ่อนแอซะจริง ไม่นึกเลยว่าจะตายง่ายดายขนาดนี้” พลางชำเรืองมองหญิงสาวที่ชื่อเอ็นริ
ยักษ์ชุดเหลือง : “Summon”
มีกลุ่มก้อนสีม่วงดำบางอย่างโผล่ขึ้นมาก่อนจะท่วมลงไปที่ร่างของอัศวินที่เสียชีวิต มันชโลมร่างของคนที่ตาย และให้กำเนิดใหม่เป็นเวนดิโก้ อสูรกายผิวซีดเผือดสูง 3 เมตร ที่หัวเป็นมูส ตัวเป็นคน และกลีบเท้ากวาง “เวนดิโก้ฉันขอสั่งให้แกไปกำจัดพวกอัศวินที่บุกโจมตีหมู่บ้านนี้ซะ” เวนดิโก้แผดเสียงร้องคำรามและเริ่มวิ่งจ้ำอ้าวออกไปหาเหยื่ออย่างรวดเร็ว
“ท่านพ่อเราควรทำอย่างไรกับไอ้สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำเช่นนี้ดีขอรับ ?” ยักษ์ในชุดเกราะทองเหลืองถาม สายตาก็จ้องเอ็นริกับน้องสาวเนมุน้องสาวด้วยแววตารังเกียจไปถึงขั้วกระดูกดำ
“ก่อนอื่นศัตรูก็คือเหล่าพวกกระป๋องส่วมเกราะที่อยู่ตรงโน้น”
“รับทราบแล้วขอรับ”
“ดูท่าทางจะได้รับบาดเจ็บนะแม่หนู” อาซวาร์ลยื่นขวดโพชั่นสีแดงไปให้ “ดื่มซะ”
เอ็นริ : “เลือด !?” “จะ ฉันจะดื่มค่ะ เพราะงั้นได้โปรดปล่อยน้องสาวของฉันไปด้วยเถอะค่ะ”
เนมุ : “พี่คะ ไม่ได้นะ”
“เนมุเงียบไปเลยนะ !” เอ็นรอตวาด
“แต่ว่า …”
“ช่างเถอะน่าอยู่เฉยๆเนมุ !”
“ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ !”
“เป็นแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแท้ๆ !”ง้าวในมือยักษ์เกราะทองเหลืองสั่นก่อนจะยกขึ้นเหนือหัวหมายจะทิ่มสองพี่น้องให้ตาย
ยักษ์ชุดเหลือง : “เดี๋ยวก่อน ! อย่าใจร้อน ? ซาตานเจ้าจงลดอาวุธลงซะนี้คือคำสั่ง”
“รับทราบขอรับ” ซาตานวางง้าวลงอย่างว่าง่าย
อาซวาร์ลย่อเข่าลงแล้วอธิบายให้เอ็นริฟัง “นี้เป็นยารักษา รีบดื่มเข้าไปเถอะ”
เอ็นริรับคำหยิบมาดื่มจนหมดขวด เพียงชั่วครู่แผลของเธอก็หายเป็นปลิดทิ้ง เด็กสาววัยรุ่นมองดูรอยแผลที่ตอนนี้ได้หายไปแล้วอย่างไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเอง “โกหกน่า ?”
“ความเจ็บปวดหายไปแล้วซินะ ?”
“ค่ะ … ค่ะ”
“พวกเธอรู้จักสิ่งที่เรียกว่าเวทย์มนต์รึเปล่า ?”
“ค่ะ … ค่ะ ฉันรู้จักคนๆหนึ่งเป็นนักปรุงยาที่จะมาหมู่บ้านนี้เป็นบางครั้งอยู่ค่ะ เพื่อนสนิทคนนั้นของฉันก็ใช้เวทย์มนต์ได้เหมือนกันค่ะ”
“งั้นเหรอ !?” “ถ้างั้นก็ค่อยคุยกันง่ายหน่อย” อาซวาร์ลพูดจบก็เสกโดมสีเขียวล้อมรอบเอ็นริกับเนมุไว้สองชั้นคือ Anti-Life Cocoon รังไหมที่ไม่ให้สิ่งมีชีวิตเข้ามาได้ กับ Wall of Protection from Arrows กำแพงที่ลดพลังโจมตีของลูกศร “ฉันร่ายเวทย์มนต์ป้องกันไว้ให้แล้ว โดยปกติถ้าพวกเธออยู่ในนี้ก็จะปลอดภัย และก็ความแน่ใจฉันจะยกเจ้านี้ให้ด้วย” อาซวาร์ลโยนขลุ่ยเขาสัตว์อันใหญ่ไปให้พร้อมอธิบาย “แค่เป่าเจ้านี้ก็จะมีกองทัพก็อบลินโผล่ออกมารับใช้เจ้า ใช้สิ่งนี้ปกป้องตัวเองซะนะ”
“เอ่อคือ … ที่มาช่วยฉัน ต้องขอขอบคุณมากเลยนะคะ”
เนมุ : “ขอบคุณมากคะ”
ยักษ์ชุดเหลือง : “ไม่ต้องคิดมากหรอก”
เอ็นริ : “ว่าแต่ … ช่วยบอกชื่อของคุณท่านให้ทีได้ไหมคะ ?”
“ชื่อขอข้าคือ อาซวาร์ล ! จงจดจำนามนี้เอาไว้ !”
ร่างเอลีอ่อนอัศวินขี้เมาลอยละลิ่วกลางอากาศก่อนล่วงตกกระแทกพื้นเสียงกระดูกดังกร๊อบ ท่ามกลางความหวาดผวาของชาวบ้านที่ถูกทหารจับตัวไว้เพื่อเตรียมสำหรับการประหาร
“โฮก ! ! !” เวนดิโก้คำราม
นายทหารริลิกที่พยายามวิ่งหนีถูกเวนดิโก้ฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ ประเดิมเป็นศพแรก
“หนอย” ทหารอีกคนฟันดาบไปที่ข้อเท้าของเจ้าสัตว์ประหลาดร่างยักษ์แต่คมดาบกลับไม่ระคายผิวของมันเลย แม้แต่จะทิ้งร่องรอย ก่อนเวนดิโก้หันมาตระครุบเขาจนร่างแหลกเละเป็นก้อนเนื้อ และอีกคนที่พยายามวิ่งหนีก็ไม่รอดถูกกรงเล็บมฤตยูจ้วงและควักไส้ออกมาเคี้ยวกินสดๆ “โฮก ! ! !”
“เจ้าปีศาจนั่นมันกำลังเล่นสนุกอยู่เรอะ ?” รองหัวหน้าอัศวินพูด
ทหาร : “พระเจ้า โปรดช่วยคุ้มครองพวกเราด้วย พระเจ้า”
“พวกแก ! ต้านเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นไว้ซะ ! ฉันไม่ใช่คนที่สมควรมาตายในที่แบบนี้” หัวหน้าอัศวินพูด “นี้คือคำสั่ง พวกแกจงถ่วงเวลามันไว้ซะ !”
ทหาร : “ท่านหัวหน้าเบริอุส”
เบริอุสก้าวถอยหลัง สายตาก็เหลือบไปเห็นศพของนายทหารที่ร่างโชกเลือดนอนแน่นิ่งอยู่
เวนดิโก้หันมามองเหยื่อรายใหม่ มันค่อยๆเดินดุ่มๆเข้ามาอย่างเชื่องช้า ปากก็แสยะยิ้มแยกเขี้ยวน่าขนลุก
เบริอุส : “งะ เงิน ! ฉันจะยกให้ 200 เหรียญทองเลย ไม่ซิ 500 เหรียญทองเลย !”
และเวนดิโก้ก็ยืนประชิดตัวเบริอุส
“หนึ่งพันเหรียญทอง” มือปริศนาได้ขว้าหมับเข้าที่ขาของเบริอุส เจ้าของมือปริศนานั้นก็คือร่างของนายทหารรายหนึ่งที่มีใบหน้าสยดสยองเหมือนศากศพ น้ำเสียงแหบแห้ง
“อ่าาา ! ! !” เบริอุสถึงกับตาเหลือก ล่มลงสลบด้วยภาพสยองที่เห็น ไม่ปล่อยให้พลาดโอกาสเวนดิโก้จ้วงกรงเล็บเข้าไปเต็มท้องของเบริอุส เลือดสาดกระเซ็น เจ้าตัวดิ้นทุรนทุรายแสนสาหัส “อ่าาา ! ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย ! รีบทำอะไรสักอย่างเร็วเข้า อั่ก !” กรงเล็บมรณะเสียบซ้ำๆย้ำๆแทงร่างของเบริอุสโดยไม่หยุด เบริอุสดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นอย่างทุกข์ทรมานไม่ยอมตายสักที
เบริอุส : “เงิน เงิน ฉันจะยกให้ เงิน” ในที่สุดเบริอุสก็ขาดใจตาย
เวนดิโก้หันมามองพวกทหาร พลางเลียคราบเลือดที่ริมฝีปาก และแสดงแววตาโรคจิตออกมา
ทหาร : “ไม่นะ ! ไม่นะ ! อย่านะ ! พระเจ้าช่วย อย่าเข้ามา !”
“ใจเย็นไว้” รองหัวหน้าอัศวิน ลอนเดส ดี แคลมป์ ผู้อุทิศตนต่อศาสนา ตะโกนเรียกสติให้ทุกคนอยู่ในควมสงบ “ถอยทัพ ! พอให้สัญญาณก็เรียกทหารม้ากับพลธนูมา คนที่เหลือถ่วงเวลาเอาไว้ เริ่มลงมือได้ !” เขาออกคำสั่งมอเรตต์ กับดาเซ็น
ทหารตั้งกาดเตรียมตั้งรับ เพียงอึดใจเดียวระยะทางของเวนดิโก้ก็ถูกย่นเข้ามาใกล้ทันที คนที่ขวางมันถูกกรงเล็บฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ
“ย่าาา ! ! !” รองหัวหน้าอัศวินไม่หวั่รเกรงความตายเลือกกำดาบพุ่งเข้าใส่เจ้าสัตว์ประหลาด เวนดิโก้สนองให้ด้วยการฟันฉับเข้าที่คอของหัวหน้าอัศวิน ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นขณะที่หัวขาดก็คือดวงอาทิตย์ยามเช้าทอแสงเจิดจ้า หัวของลอนเดสเกลือกกลิ้งไปกองกับพื้น ตาเบิกโพรง ร่างที่ไร้หัวล่มลงไปคลุกฟุ่น เลือดที่คอพุ่งออกมาราวน้ำพุ
“เวนดิโก้ พอแค่นั้นแหละ”
เวนดิโก้หยุดตามคำสั่ง
ปรากฎร่างของยักษ์ใหญ่ทั้งสอง อาซวาร์ลและซาตานที่ส่วมหน้ากาก
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่าน ข้ามีชื่อว่าอาซวาร์ล”
ทหาร : “อาซวาร์ล ?”
“ข้าจะปล่อยให้ทุกท่าน(ทหาร)กลับไปแบบมีชีวิต แล้วก็จงไปบอกหัวหน้าของทุกท่าน ไว้ว่าถ้ามาก่อความวุ่นวายแถวนี้อีก คราวหน้าจะนำพาความตายไปสู่อณาจักรของพวกท่านด้วย ไปซะ ! แล้วกบอกชื่อของข้าไว้ให้เป็นที่ประจักษ์ด้วย”
พวกทหารเลวทุกคนรวมถึง มอเรตต์และดาเซ็น ต่างโยนอาวุธทิ้งและวิ่งหนีไปทันที เมื่อสัมผัสถึงรัศมีอำมหิตของยักษ์ทั้งสอง
“นี้ท่าน” ผู้ใหญ่บ้านพูด
“หื๊ม ?”
“ท่านคือผู้ใด ?”
“พอดีเห็นว่าหมู่บ้านนี้ถูกโจมตีเข้าพอดี ข้าก็เลยมาช่วย เอาล่ะ พวกท่านทุกคนปลอดภัยแล้ววางใจข้าได้” อาซวาร์ลย่างก้าวเข้าไปใกล้ๆชายแก่ แล้วก็หยุดก่อนจะคิดเรื่องหนึ่งได้ “ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้มาช่วยฟรีๆหรอกนะ ข้าน่ะอยากจะได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมด้วย”
อาซวาร์ลถามถึงประเทศเพื่อนบ้าน และเรื่องหมู่บ้าน เลยรู้ว่าที่แห่งนี้ชื่อ คาร์เน่ ตั้งอยู่ในราชอณาจักรรีเอสทีเซ่ และที่ติดกันก็มีเทือกเขาขนาดใหญ่ทอดยาวเหนือจรดใต้ คือจักรวรรดิบาฮารุธ ทั้งสองดินแดนมีความขัดแย้งกันมาช้านาน เมืองเอรันเทลซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนของบาฮารุธประเทศเพื่อนบ้าน และที่ทุ่งหญ้าใกล้กับเมืองเอรันเทล ดูเหมือนว่าจะมีการต่อสู้กันทุกๆปี ส่วนดินแดนทางใต้ของแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ ก็คือศาสนจักรเสลน เป็นไปได้ว่าการบุกโจมตีของเหล่าทหารในครั้งนี้เป็นการจัดฉากของเสลน เพื่อให้อณาจักรรีเอสทีเซ่ กับ บาฮารุธ ขัดแย้งกันมากขึ้นเหมือนสุมไฟให้โหมกระหน่ำ
“มีอะไรเหรอครับ ?” ผู้ใหญ่บ้านถามอาซวาร์ลที่จู่ๆก็เงียบ
“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ขอฟังข้อมูลอื่นหน่อยได้รึเปล่า ?”
“คะ ครับ เมืองที่ใกล้หมู่บ้านแห่งนี้ที่สุดก็คือเมืองเอรันเทลครับ แถวนี้จะมีก็อบลินกับอ็อคโผล่มา ถึงจะมีมอนสเตอร์มามากมาย แต่เนื่องจากมีนักผจญภัยสัญจรผ่านมาบ่อยๆ ถ้าไปตามถนนเส้นหลักก็คงจะปลอดภัยครับ”
“นักผจญภัย ?”
“เหล่าคนที่จัดการมอนสเตอร์เพื่อแลกกับเงินค่าตอบแทนน่ะครับ ในเอรันเทลเองก็มีกิลด์ของนักผจญภัยที่คอยให้งานพวกเขาอยู่ครับ”
“กิลด์นักผจญภัย ? แล้วเอรันเทลที่ว่ามีประชากรอยู่ประมาณกี่คนเหรอ ?”
“ต้องขอโทษด้วยครับ เราไม่รู้ตัวเลขที่ถูกต้องหรอกครับ”
“งั้นเหรอครับ ?”
ชาวบ้านยืนไว้อาลัยต่อหลุมศพของคนที่เพิ่งเสียชีวิต บรรยกาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
อาซวาร์ล : “เท่านี้ก็ทำเรื่องที่ควรจะทำเสร็จหมดแล้ว … ซาตานเจ้ากับข้ากลับกันเถอะ”
“ทราบแล้วขอรับ”
“เอายังไงดีละครับ ? คุณผู้ใหญ่บ้านบ้าน ? ไม่มีวิธีดีๆ เลยเหรอ ?”
ผู้ใหญ่บ้าน : “เอ่อ ?”
อาซวาร์ล : “มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ ? คุณผู้ใหญ่บ้าน”
“อ้อ ท่านอาซวาร์ล”
“ความจริงแล้วดูเหมือนว่าพวกอัศวินกำลังใกล้เข้ามาน่ะครับ”
“อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วล่ะ ช่วยรีบกันรวบรวมชาวบ้านที่เหลือไปยังบ้านของคุณผู้ใหญ่บ้านที คุณหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ที่ลานกว้างกับข้า”
“คะ ครับ”
ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้าน และ อาซวาร์ล ยืนอยู่ลานกว้างหมู่บ้านก็มีกองทหารเดินเข้ามา
นายกองหยุดม้า แล้วกล่าวทักทายอาซวาร์ล “ฉันคือหัวหน้านักรบแห่งราชอณาจักร รีเอสทีเซ่ มีนามว่า กาเซ็ฟ สโตรนอฟ เพื่อจะปราบปรามพวกอัศวินบาฮารุธที่อาระวาดอยู่แถวชายแดน จึงได้ตรวจตราตามหมู่บ้านตามคำบัญชาขององค์ราชา”
ผู้ใหญ่บ้าน : “แม่ทัพแห่งวังหลวง ?”
“คุณคงเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านแห่งนี้ซินะ ? แล้วคนที่อยู่ด้านข้างคือใครกัน ? ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม ?” กาเซ็ฟมองอาซวาร์ลที่ตอนนี้ลดขนาดตัวจนเหลือเพียง ประมาณ 190 เซนติเมตร ส่วนซาตาน 350 เซนติเมตร
ผู้ใหญ่บ้าน : “ท่านผู้นี้คือ…”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ยินดีที่ได้รู้จักท่านแม่ทัพแห่งวังหลวง ข้ามีนามว่า อาซวาร์ล เนื่องจากเห็นว่าหมู่บ้านแห่งนี้ถูกโจมตี ข้าก็เลยมาช่วยไว้”
“หือ ?” กาเซ็ฟ สโตรนอฟ ลงจากหลังม้าทันทีและเดินเข้าหาอาซวาร์ล “การที่มาช่วยหมู่บ้านนี้เอาไว้ รู้สึกซาบซึ้งจนหาที่เปรียบมิได้เลย”
นายทหาร : “ท่านแม่ทัพ พบกองกำลังไม่ทราบที่มา กำลังปิดล้อมหมู่บ้านและกำลังใกล้เข้ามาแล้วครับ”
“ว่ายังไงนะ !?”
เบริอุสมนุษย์ธรรมดาที่มีผมสีบลอนด์นัยน์ตาสีเทา ส่วมเกราะเต็มแผ่นและแนบดาบไว้ที่ลำตัว
Full Name : แดริส โครโนส บีเยา เกลดีเอ ซิอาซวารุซ เอลี นามอว์กูรีลาเล ดาลีออน แอช วีซ โนปาซมา แจดอลล์ ไลคาเมกอน อูนี-ดาลีออน แอช เอมบาซมา โตลีอ็อก เลทตีลเลอ กีบา แอช ซันไดรซีส (เทพกษัตริย์อาซวาร์ลแห่งกาลเวลา ผู้มีเรือนผมสีทองสง่า พระนามแรกของท่าน ผู้ดำรงนิรันด์ ราชันแห่งโลก นรก สวรรค์ และจักรวาลแห่งความไม่รู้ ผู้ปกครองแห่งเอกภพทั้งปวง ผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์ บิดาแห่งเหล่ามังกร)
ตาเป็นต้อหินมัวหม่อง ผิวเทาซีดซึ่งแตกพล่านและแห้งกรัง ด้วยรูปร่างที่ผอมกะหร่องจนหนังหุ่มกระดูกสภาพเหมือนโครงกระดูกเดินได้ ติ่งหูยาวย้อยลงมาถึงปลายคาง เวลาพูดจะใช้แมลงที่หลอมรวมกับกล่องเสียงเอาไว้สื่อสารแทน ดูจากพื้นฐานร่างกายแล้วเหมือนคนอายุหมื่นปี
- (-Race-) - << : >> ST.Paramat Chaos Breaker PRIME Arahant God
** เซนต์ปรมาตมัน เคออสเบรคเกอร์ ไพร์ม อรหันต์ก็อด **
Sense of Justice : -500 (Merciful) ????
- (-LVL-) - << : >> ????+
- (-Job Class-) - << : >> EXTRA UNIQUE NIRVANA World Champion <<( ( (( SIGMA+ )) ) )>>
Personal Color : Golden Yellow
Personal Weapon : ดาบคาตานะที่มีโซ่พันที่ท้ายด้ามจับซึ่งมีไว้เพื่อพันอาวุธเข้ากับมือไม่ให้มันหลุดออก
Katana / Lenght : 1,463.13 cm.
Weight : 1,145.45 kg. (น้ำหนักสมัยหนุ่ม : 13,734.4 kg.)
* เนื่องจากเป็นโรคกระดูกพรุนทำให้สูญเสียมวลกระดูกไปกว่า 10%
* 1,145.45 kg. เท่ากับชายฉกรรจ์ สูง 6 feet (182.88 cm.) น้ำหนัก 89.7 : 12.7 คน
Full Name : เปรีชีซ ซาตานนุซ ปาซาบาเร (ซาตานผู้มีความซื่อสัตย์โชติชวญดุจเปลวเพลิง)
ผมแดง ตาขาวสีดำ ตาดำสีแดง หน้าไหม้เกรียมและหยาบกร้านผิวสีดำม่วง ฟันเหมือนกอริลล่าสีเหลืองแหลมคม
(Race) < : > ST.Paramat Chaos Breaker PRIME Arahant Angel
Sense of Justice : -500 (Extreme Evil)
(LVL) : ????
(Job Class) < : > UNIQUE NIRVANA World Champion <<( ( (( SIGMA )) ) )>>
Personal Color : Red
Personal Weapon : Chinese Halberd
Weight : 56,598.1 kg.
Sense of Justice : 100 (Neutral Good)
Job Classes
Fighter
Mercenary
Champion
Separated into (4) categories of Spells
(11th) Level of Tier Magic
⚔︎ Adventurer Rank
✉︎ มีนักผจญภัยหลายคนทีเดียวที่ใฝ่ฝันถึงการผจญภัยในอุดมคติ แต่หลายครั้งก็ต้องพบกับความสูญเสียระหว่างทาง หรือพังทลายลงเมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริง |
⚠︎ Danger Level
No. | LVL | RANK |
1. | 30+ | Hero |
2. | 35+ | National Threat |
3. | 46+ | Ancient Dragon |
4. | 60+ | Evil Gods |
5. | 80+ | World Threat |
6. | 100+ | Supreme being |
$ Currency
Exchange rate | Copper | Silver | Gold | Platinum |
1 (Coin)Copper | 1 | 0.077 | 0.00077 | 0.000077 |
1 (Coin)Silver | 13 | 1 | 0.01 | 0.001 |
1 (Coin)Gold | 13,00 | 100 | 1 | 0.1 |
1 (Coin)Platinum | 13,000 | 1,000 | 10 | 1 |
✉︎ เพียงแค่สามเหรียญทอง ก็เพียงพอแล้วที่จะเลี้ยงปากท้องของครอบครัวปกติได้ตลอดทั้งเดือน | ||||
✉︎ 30,000 เหรียญทอง = 300,000 เยน |
ผลงานอื่นๆ ของ แฟนเฟ็ค ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ แฟนเฟ็ค
ความคิดเห็น