คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1:แปลกไป...
ท่ามกลางห้องมืดและความเงียบงัน มีเพียงแสงไฟจากโน๊ตบุ๊คซึ่งให้ความสว่าง โดยมีเจ้าของเป็นชายอายุประมาณ 30 ปลายๆกำลังใช้มันอย่างใจจดใจจ่อ ถ้ามองไปรอบๆล่ะก็ จะเห็นกองพะเนินของเอกสารวางอยู่เต็มไปหมดจนไม่เหลือที่ว่างบนโต๊ะเลย บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนบนโต๊ะขาดการใส่ใจในเรื่องความสะอาดแค่ไหน
"กลับบ้านไปนอนดีกว่ามั้งเซบ ถ้านายยังอยู่ที่นี่ต่อล่ะก็ชั้นขอกลับก่อนล่ะ"
คนถูกเรียก หรือ'เซบาสเตียน คาสเทลานอส' หันไปทางต้นเสียง แสงไฟจากโน๊ตบุ๊คส่องให้เห็นคนที่ยืนข้างกายเขา เป็นชายหนุ่มลูกครึ่งคนขาว-เอเชีย อายุประมาณ 30 ต้นๆ ผมดำขลับของเขาถูกเสยขึ้น ใส่แว่น ดูเป็นคนเนี๊ยบๆค่อนข้างต่างจากคนที่นั่งอยู่ เขาชื่อ 'โจเซฟ โอดะ'
"นายกลับไปเหอะ ชั้นจะอยู่ต่อ" เซบาสเตียนกล่าว ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่กับโน๊ตบุ๊คต่อ
"เฮ้อ... ชั้นรู้ว่าเรื่องของเลสลี่ย์น่ะน่าเป็นห่วงเพราะเขาอาจมีตัวอันตรายอย่างรูวิคสิงอยู่ แถมยังหายไปแบบไร้ร่องรอยอย่างนั้นยิ่งน่าเป็นห่วงใหญ่ แต่นายควรจะห่วงสุขภาพตัวเองด้วยนะ"
"คนอย่างชั้นไม่จำเป็นต้องหลับต้องนอนหรอกน่า อดหลับมาสามวันติดยังเคยทำมาแล้วเลย"
"ตามใจนายล่ะกัน ชั้นกลับล่ะ" โจเซฟเดินไปผ่านโต๊ะทำงานหลายตัว ก่อนที่จะได้ใช้มือผลักประตู โจเซฟก็ตะโกนหวังจะบอกอะไรบางอย่างกับคนร่างสูง "อ้อ พรุ่งนี้นายอย่าลืม...." ยังไม่ทันได้พูดจบก็ชะงักเสียก่อน เพราะเมื่อหันมาก็เห็นเซบาสเตียนฟุบหลับคาโต๊ะไปแล้ว
เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วหยิบเสื้อกันหนาวที่พาดอยู่บนเก้าอี้มาคลุมตัวคนร่างสูงเพื่อบรรเทาความหนาวให้
"จริงๆเลยน้า นายเนี่ย"
เขาก้มลงมาดูหน้าคู่หูของเขา เซบาสเตียนกำลังหลับตาพริ้ม
อยู่ๆโจเซฟก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา!!!
หวา~~~~ อะไรกันเนี่ย ความรู้สึกนี้มัน?
โจเซฟรีบวิ่งแล้วผลักประตูออกไปเพื่อมุ่งหน้าไปยังลิฟต์ทันที ก่อนที่เขาจะหน้าแดงไปมากกว่านี้
.
.
.
วันรุ่งขึ้น
"หวาๆๆๆ สายแล้วๆ" ชายหนุ่มร่างเล็กรีบวิ่งขึ้นรถสีดำก่อนจะสตาร์ทรถ ให้ตายเถอะ เขาเป็นแบบนี้มาสามวันแล้วนะเนี่ย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยนอนดึกตื่นสายขนาดนี้เลยแท้ๆ
.
.
"วันนายมาสายวันประชุมอีกแล้ว!!โจเซฟ!!! ขืนเป็นแบบนี้บ่อยๆนายได้โดนเจ้านายไล่ออกแน่!" คนตัวใหญ่ตะโกนเสียงดังอยู่หน้าห้องประชุมหลังจากกการประชุมเสร็จสิ้น ทำเอาเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆหันมามอง
"ก็...ชั้นนอนไม่หลับนี่นา"
"อะไรทำให้นายนอนไม่หลับล่ะ?! ถ้าฟังไม่ขึ้นชั้นจะถือว่าเป็นข้อแก้ตัวนะ"
"ก็เมื่อคืน... ชั้นคิดถึงเรื่องของคิดแมนอยู่น่ะสิ ไม่รู้ป่านนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไรบ้าง..." ชายหนุ่มหน้าแดงก่ำ ทั้งยังหลบตาฝ่ายตรงข้ามเมื่อพูดถึงคนที่ตนแอบชอบ
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ไม่มีใครติดต่อคิดแมนได้อีกเลย ไม่ว่าจะโจเซฟ เซบาสเตียน หรือเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ไม่มีใครทราบข่าวคราวของเธอทั้งนั้น ราวกับว่าเธอหายตัวไปกับอากาศ ทั้งเซบาสเตียนและโจเซฟต่างก็คาดว่าเธอน่าจะกลับไปในที่ที่เธอทำงานจริงๆแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเท่านั้นเอง
หลังจากที่โจเซฟพูดจบถึงสาเหตุการนอนไม่หลับ สีหน้าของเซบาสเตียนก็แปลกไป โจเซฟเกิดความสงสัย จึงเอ่ยถามว่า "เป็นอะไรของนายน่ะ? เซบ?"
"..." เซบาสเตียนไม่ตอบ ก่อนจะเดินหนีอย่างรวดเร็ว
"อะไรของนาย!! รอชั้นด้วยสิโว้ย!!!"
.
.
.
.
ชายหนุ่มผมสีอ่อนนั่งอยู่บนม้านั่งข้างทางในสวนสาธารณะใจกลางเมือง มีเสียงเด็กๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผู้คนวิ่งออกกำลังกาย เลยม้านั่งที่เขานั่งไปข้างหลังจะมีสวนดอกไม้ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด โดยมี...กลุ่มดอกทานตะวันที่โดดเด่นที่สุด
แม้บ้านของเขาจะไม่ได้อยู่ในใจกลางเมืองแบบนี้ แต่นี่คือสถานที่แห่งความทรงจำของเขา ในตอนเด็กๆ เขากับพี่สาว'ลอร่า'มักจะพากันมาที่นี่อยู่เป็นประจำ เป็นที่ที่เขาเคยวิ่งเล่นอย่างร่าเริง...
เขาเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ เพื่อมุ่งไปหาดอกทานตะวันที่เด่นหรามาแต่ไกล แต่...
"เลสลี่ย์...นั่นเลสรี่ย์หรือเปล่า" มีเสียงหนึ่งเรียกขึ้น คนโดนเรียกหันขวับ ก่อนจะมาเห็นหญิงสาวนางหนึ่งที่หน้าตาและสีผมละม้ายคล้ายคลึงกับเลสลี่ย์มาก อย่าบอกนะว่า...
หญิงสาวรีบวิ่งมากอดชายหนุ่มผมขาว ความอบอุ่นแผ่เข้าร่างคนถูกกอด นี่คือพี่หรือไม่ก็น้องของคนที่เขาสิงร่างอยู่เหรอ?
"ฮือ...เลสลี่ย์ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้เจอนายอีกแล้ว ชั้นเป็นห่วงนายแค่ไหนรู้มั้ย!!!"
หญิงสาวพูดเสียงดังจนคนรอบๆหันมามอง
"..."
"แล้วนายไปโดนอะไรมา ทำไมถึงบาดเจ็บแบบนี้ล่ะ?"
"..."
"เอางี้... เรา...กลับบ้านกันนะ!!" หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา
ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนอนนุ่มนิ่มก่อนจะหลับตาลง ตอนเขากลับมา เขาได้รับการต้อนรับกลับจากสมาชิกในครอบครัวของเลสลี่ย์อย่างอบอุ่น ไม่ว่าจะด้วยรอยยิ้ม หรืออ้อมกอดที่อบอุ่นของพวกเขา แม้จะเป็นสิ่งที่รูวิคโหยหามานาน แต่มันไม่ได้ส่งไปถึงจิตใจอันบอบช้ำของเขาเลยสักนิด เพราะสิ่งเหล่านั้นมันเพื่อเลสลี่ย์ เจ้าของร่างนี้ ไม่ใช่เขา
นอกนั้นพวกเขายังถามว่าไปอยู่ไหนมา โดนใครลักพาตัวไปทำร้ายหรือเปล่า แต่กระนั้นรูวิคก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ หรือพูดคุยอะไรกับคนในบ้านหลังนี้เลย ทำให้คนในบ้านเข้าใจว่า สมาชิกในครอบครัวคนนี้อาจโดนทำร้ายจนไม่อยากพูดอะไร
รูวิคค่อยๆลืมตาขึ้น และก็ต้องประหลาดใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เขาไม่ได้อยู่ในห้องนอนแล้ว แถมรูวิคยังอยู่ในร่างจริงของเขาซึ่งถูกคลุมไว้โดยฮู้ดสีขาวหม่นๆตัวใหญ่
สิ่งที่เขาเห็นคือท้องฟ้าในยามราตรีและต้นไม้ซึ่งกิ่งก้านสาขาของมันถูกประดับประดาไปด้วยหิ่งห้อยมากมาย เขารีบลุกขึ้น ก็พบว่าตัวเองอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหิ่งห้อยอยู่เต็มไปหมด ตรงหน้ามีแอ่งน้ำที่เรืองแสงสีฟ้าสวยงามและมีดอกบัวตูมอยู่เต็มสระ
สิ่งที่เขาเห็นมันงดงาม แต่แฝงไปด้วยความเศร้าหมอง นี่เขาอยู่ในความคิดใครหรือปล่าวนะ ถ้าใช่ก็ต้องไม่เป็นของเขาแน่นอน เพราะโลกของเขาเต็มไปด้วยเลือด กลิ่นเหม็นเน่า ความสยดสยอง ความตาย และอีกอย่าง...มันได้สลายไปแล้ว
"ที่นี่เป็นความคิดของผมไงล่ะ"เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง เขาหันไปทางต้นเสียง ก็เห็นชายตัวเล็กผมสีอ่อนกำลังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ เจ้าของร่างที่เขาสิงอยู่นั่นเอง!!!
"นาย..." เขากล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
จริงๆแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาทั้งหมดในตอนนี้รูวิครู้หมดแล้ว ตอนนี้เลสลี่ย์อยู่ในสภาพวิญญาณ ที่เขามาอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องจักเพราะคลื่นสมองของทั้งสองสามารถจูนให้เข้ากันได้ เรียกง่ายๆคือเลสลี่ย์กำลังเข้าฝันเขาอยู่ และที่คนตรงหน้าพูดได้คล่องแคล่วขนาดนี้ก็เพราะนี่เป็นความคิดของเขา เขาจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพียงสิ่งเดียวที่เขาทำไม่ได้ก็คือการยึดร่างคืน แต่ที่รูวิคแปลกใจก็คือ ทำไมคนตรงหน้าดูไม่โกรธหรือเกลียดเขาเลยสักนิด
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ไถ่ถามอะไรคนตรงหน้า เขาก็ถูกคนตัวเล็กจับมือมั่นแล้วพาเดิน
"ดะ...เดี๋ยวสิ!!!" รูวิคสะบัดมือคนตรงหน้าทิ้งด้วยความตกใจ
เลสลี่ย์หยุดนิ่ง ก่อนจะหันมาหาร่างสูงช้าๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
"ผมจะช่วยคุณเองครับ..."
ก่อนที่รูวิคจะสะดุ้งตื่น...
รุ่งเช้าเขาได้กินอาหารร่วมโต๊ะกับครอบครัวของเลสลี่ย์ ทั้งพ่อ แม่ และผู้หญิงที่เขารู้ภายหลังว่าเป็นน้องสาว วันนี้เธอแต่งตัวเป็นสาวออฟฟิสเพื่อจะไปทำงาน บรรยากาศมันดูอบอุ่นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มันช่างเหมือนกับตัวเขาในตอนนั้น ตอนที่เขายังมีสิ่งที่เขาเรียกว่า 'ครอบครัว' ได้อย่างเต็มปากอยู่
เมื่อเขาก้มลงไปดู ก็พบไข่ยัดใส้ ไส้กรอก ขนมปัง และสลัดกองเล็กๆวางอยู่ในจานกระเบื้องใบโต ทำให้ภาพบางอย่างผุดขึ้นในหัว...
"นี่ๆๆ รูเบ้น ไข่ยัดใส้ของโปรดรูเบ้นไง นี่พี่ทำเองกับมือเลยนะ!!!" เด็กสาวผมยาวสลวยดำขลับเป็นประกายงดงามเดินมายังโต๊ะตัวหนึ่งที่ถูกวางติดกับหน้าต่าง ซึ่งมีเด็กหนุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ เมื่อได้ยินเสียงพี่สาวของตนก็รีบเงยหน้าขึ้นมาทันที
"ไข่เพิ่มพลัง สำหรับการสอบวันพรุ่งนี้!!!" เด็กสาววางจานใบหนึ่งลงบนโต๊ะของเด็กหนุ่ม บนจานมีไข่ยัดไส้สีเหลืองหอมกรุ่นชวนรับประทานวางอยู่ จริงๆเธอแอบพ่อแม่และคนใช้ทำเลยนะเนี่ย
เด็กหนุ่มยิ้มมองพี่สาวตรงหน้า ตอนนี้ผมสีดำขลับของเธอสะท้อนแสงจันทร์ในยามค่ำคืน
"ขอบคุณครับ!!!" เด็กหนุ่มใช้ส้อมจิ้มก้อนสีเหลืองตรงหน้าก่อนจะตักเข้าปากไป
"กินเสร็จแล้วก็นอนซะนะ ถ้าอดหลับอดนอนเดี๋ยวได้หลับคาข้อสอบ ที่นี้ได้ตกฉุดไม่ขึ้นแน่ๆ"
"หมดแล้วอ่ะ" ตอนนี้ตรงหน้าเด็กหนุ่มมีเพียงจานเปล่าๆ ที่มีคราบซอสเล็กน้อย ทำเอาคนตรงหน้าตะลึงเล็กๆ กินหมดเร็วเกินไปแล้ว!!!
"ทีนี้ก็ไปแปรงฟันแล้วก็นอนซะ ราตรีสวัสดิ์..." ก่อนที่ลอร่าจะได้ก้าวเดินหมายจะออกจากห้องนอนของรูเบ้น เด็กหนุ่มรีบลุกโอบเอวพี่สาวเอาไว้
"คืนนี้พี่นอนกับรูเบ้นนะครับ นะครับ!! ไม่งั้นรูเบ้นจะไม่แปรงฟัน!!!" เด็กสาวชะงักครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะบอกว่า "อื้ม... ก็ได้ๆ แต่ไปแปรงฟันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
"คร้าบบบบ"ก่อนที่รูเบ้นจะวิ่งเข้าห้องน้ำที่ติดอยู่กับห้องนอนของเขาไป
.
.
.
"ทำไมนั่งนิ่งอย่างงั้นล่ะเลสลี่ย์" ผู้เป็นน้องสาวพูดขึ้น ทำเอารูวิคสะดุ้งเล็กน้อย
"ทำไมล่ะลูก ไม่ชอบหรือ หืม? นี่น้องแกทำเองกับมือเลยนะ" ผู้เป็นแม่ถามไถ่ ส่วนคนเป็นพ่อก็จ้องเขม็ง
"...ชะ...ชอบมากครับ ผะ..ผมจะกินให้หมดเลย" รูวิคพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือราวกับกำลังกลั้นอะไรบางอย่างไม่ให้หลุดออกมา ท่ามกลางความตะลึงของอีกสามคนตรงหน้า ที่คนที่เอาแต่เงียบตลอดตั้งแต่กลับมาพูดออกมาแล้ว!!!
♥------------------------------♥
เหลือเพียงความรัก ที่ไม่มีเธอแล้ว
คิดถึงเธอมากมายเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันได้พบเจอ
กลับมีเหลือเพียงตัวฉัน กับใจที่มันแทบสลาย
ใช้ชีวิตทุกวันที่มี เพื่อคิดถึงเธอตลอดไป
...ขอขอบคุณ เนื้อเพลงจาก siamzone
เป็นไงบ้างคะตอนแรก กลัวมากอ่ะว่าจะไม่ได้เรื่องTT ติชมหน่อยนะคะ
ปล.ตอนนี้รูวิคยังไม่ s นะคะ เรายังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะให้ s ดีมั้ย หึๆๆๆๆ
ความคิดเห็น