ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] 10th I - Only Me ผมเท่านั้นที่จะขย้ำผืนนภานี้ได้

    ลำดับตอนที่ #14 : เอ็นมะแห่งชิม่อนแฟมิลี่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      10
      27 พ.ค. 54

                 ในวันนี้เหล่าผู้พิทักษ์ของซือโนะได้เดินทางเป็นพร้อมกับรุ่นที่ 9 ไปยังงานแสดงตัวของชิม่อนแฟมิลี่ ที่เคยหายสาบสูญไปเป็นเวลานาน และแน่นอนว่างานนี้ซือโนะก็ได้ไปด้วย เพียงแต่....

                “อ้าว คุณเหรอที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวฝาแฝดของซาวาดะ สึนะโยชิ วองโกเล่รุ่นที่ 10 น่ะ แล้วเขาไปไหนซะแล้วล่ะ”

                “อ้อ พอดีว่าตอนนี้ติดธุระไปสัมมนาที่อังกฤษดูเหมือนว่าจะได้ไปพบกับองค์ราชินีของอังกฤษที่นั้นด้วย อ่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ”

                “เฮ้อ...”

                “ทำได้ดีมากนี่นาโคลม ดูท่าคอร์สของมาม่อนจะช่วยเธอได้เยอะเลยนะเนี่ย”

                “ค่ะ ถ้าหากว่าเรื่องแค่นี้จะช่วยปกปิดเรื่องของบอสได้ ฉันก็เต็มใจที่ต้องพยายามทำให้สำเร็จค่ะ”

                ซือโนะ หรือก็คือมายาที่โคลมสร้างขึ้น เพื่อหลอกทุกๆคนว่าซือโนะยังไม่ตาย แต่ยังคงมีชีวิตอยู่ โชคยังดีที่คนที่นำศพของซือโนะไปไหนซักแห่งได้ทิ้งแหวนเอาไว้ให้ เพราะในงานนี้ได้มีการตรวจว่าแหวนเป็นของแท้หรือไม่

                “ทุกท่าน คงมากันครบแล้วสินะ ผมหรือก็คือ เอ็นมะ ชิม่อนแฟมิลี่รุ่นที่ 10 พวกเราได้พบแล้วว่าแหวนของชิม่อนได้ถูกซ่อนเอาไว้ ที่จัดงานในครั้งนี้ก็ไม่ใช่อะไรหรอก แต่เป็นเพราะเราต้องการที่จะวัดดวงกัน ว่า...ระหว่างชิม่อนกับวองโกเล่ใครจะเหนือกว่าใครกันแน่”

                “สกปรกที่สุด....พวกมันวางแผนให้พวกเราต้องไปสู้กับพวกนั้น”

                “แน่นอนว่า ผมได้ตั้งกฏเอาไว้ว่าจะไม่ให้ผู้พิทักษ์ต้องมาสู้กัน แต่...จะให้บอสของแต่ล่ะแก๊งได้ออกมาดวลตัวต่อตัว”

                “แย่ล่ะสิ ดูเหมือนว่าเราจะเจอกับวิกฤตใหญ่เลยนะเนี่ย”

                “อีก 7 วัน เธอต้องมาดวลกับฉัน ซาวาดะ ซือโนะ น้องสาวฝาแฝดของซาวาดะ สึนะโยชิ แน่นอนว่าผมมีบาปของชิม่อนรุ่นที่ 1 อยู่ผมแน่ใจว่าต้องไม่แพ้พวกคุณอย่างแน่นอน”

                “บาป...ท่านรุ่นที่ 9 หรือว่าท่านก็....”

                “ใช่...ฉันนำมาด้วย แต่ว่าบาปนั้นมันมาเกี่ยวข้องยังไงกันล่ะเนี่ย”

                “โฮะๆๆ เจ้าเนี่ยไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ รุ่นที่ 9 โฮะๆๆ”

                “ทะ...ท่าน Talbot

                “ไง...รุ่นที่ 9 ได้ยินมาว่าบาปของรุ่นที่ 1 ก็อยู่ที่เจ้าน่ะ ฉันขอบอกไว้เลยนะว่า นั้นน่ะเป็นของปลอม ของจริงน่ะมันอยู่ที่ฉัน และที่ฉันมาในครั้งนี้ก็เป็นลางสังหรณ์ของฉัน ว่ามันต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน เอาล่ะ ส่งแหวนของพวกเจ้ามาให้ข้าซะ ถ้าหากยังอยากให้วองโกเล่ชนะ อืม ดีมาก เอ๊ะ เจ้ามัน....มายาไม่ใช่เหรอ”

                “ท่าน Talbot ยังไงก็ช่วยปิดเป็นความลับหน่อยก่อนเถอะ ตอนนี้เรายังไม่มีเวลาอธิบาย ยังก็ตามช่วยด้วยเถอะนะครับ”

                “วางใจได้เลย ดีนะที่แหวนพวกนี้ยังไม่บุบสลาย อ้อ เกือบลืมไปนำสัตว์กล่องมาให้ข้าด้วย แล้วใครเป็นคนดูแลสัตว์กล่องของเจ้าเด็กนั้นล่ะ”

                “อ้อ อยู่ที่ผมครับ พอดีเจ้านั้นชอบเอาไปซ่อนก็เลยหยิบมาเก็บเอาไว้เอง”

                “อืม ดีมาก...งั้นอีกซักชั่วโมงกว่าๆ ข้าจะมาหานะ โฮะๆๆ”

                Talbot ได้จากไปพร้อมกับแหวนและสัตว์กล่องของแต่ล่ะคน ในตอนนี้ทุกคนต่างก็นั่งคิดกันว่า จะทำยังไงที่จะทำให้ต่อกรกับเอ็นมะได้ เพราะซือโนะได้ตายไปแล้ว จึงต้องหาทางแก้ไขเป็นการด่วย และแล้ววันเวลาก็ผ่านไป ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เอ็นมะกับซือโนะต้องดวลกัน และแน่นอนว่าแหวนรูปแบบใหม่ของซือโนะก็เสร็จเป้นแหวนแบบปลอกใส่ตรงนิ้วกลางและมีแหวนวงเล็กมีโซ่พ่วงกับปลอกสวมอยู่ที่นิ้วก้อย

                “เอ้า ซาวาดะ ซือโนะ พร้อมแล้วใช่มั้ยที่เราจะดวลกัน”

                “เอ็นมะคุง เราคงต้องขอสารภาพ คือ...ซาวาดะ ซือโนะ ในตอนนี้เป็นภาพมายา ไม่ได้เป็นร่างจริงหรืออะไรหรอก”

                “ว่ายังไงนะ....ฉันไม่เชื่อหรอก!!

                “โคลมคุง....”

                “ค่ะ...”

                โคลมได้ทำการสลายมายาทำให้รู้ว่าซือโนะที่ทุกคนเห้นนั้นเป็นเพียงแค่ภาพมายาที่โคลมสร้างขึ้น

                “แล้วยัยนั่นหายไปไหน หรือว่า....จะหนีไป...”

                “เจ้าบ้า ท่านซือโนะน่ะ ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะเฟ้ย! เขา...ฮึ๊ยย!

                “ใช่ ซาวาดะ ซือโนะ วองโกเล่รุ่นที่ 10 ได้เสียชีวิตมาเดือนกว่าๆแล้ว...”

                “ว่าไงนะ เป็นไปไม่ได้ ก็ไม่เห็นมีข่าวแว่วมาเลยซักนิด”

                “เป็นไปแล้ว วันนั้นมีคนบ้างคนแอบลอบเข้ามาในห้องประชุม และได้ทำการสังหารซือโนะด้วยการยิง”

                “บ้าน่า....แล้วฉันจะอยู่ไปทำไมล่ะ....”

                ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างของใครบ้างคนออกมา....

                “ท่านรุ่นที่ 9 ผมขอแหวนด้วยครับ ผมมีใครบางคนที่ต้องมอบให้”

                “ใครกันหรืออิเอมิสึ...เดี๋ยว เธอจะไปไหนกัน...”

                “ผมไม่ได้ต้องการที่จะสู้กับคุณ ที่มีตำแหน่งผู้ดูแลนอกแก๊งนะ ออกไปจากสนามนี้ซะ”

                “แน่ใจเหรอเอ็นมะว่านายน่ะอยากจะสู้จริงๆน่ะ”

                “สะ...เสียงนี้นี่มัน....”

                ฟู่ววววว

                “ไง....ทุกคนดูสบายดีนะ”

                “มะ...ไม่จริง ซะ...ซือ...ซือโนะ....ซือโนะยังไม่ตาย”

                ซือโนะในคราบร่างของอิเอมิสึ ดูเหมือนว่าซือโนะจะใช้มายาขั้นสูงในการปลอมตัวเป็นพ่อเข้ามาในงาน

                “ขอบคุณมากเลยนะค่ะ คุณเบียคุรัน ไม่นึกเลยว่าตัวฉันในอนาคตจะจำได้ด้วย....”

                “แหมๆ ซือจังนะเก่งจะตายไป เรื่องแค่เนี่ยจำไม่ได้ก็แย่แล้ว เอาเถอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันขออยู่ซักพักก็แล้วกันนะ”

                “แก...แกเป็นคนยิงท่านซือโนะนี้...แกตาย”

                “หยุดก่อนโกคุเทระคุง แล้วก็ทุกคนด้วย ห้ามทำร้ายเค้าคนนี้เป็นอันขาด เขาเป็นพันธมิตรของวองโกเล่ในโลกสิบปีข้างหน้า เพราะงั้นห้ามทำอะไรเข้าเป้นอันขาด”

                “ซือโนะ นี้มันหมายความว่ายังไงกัน...”

                “ก็ในวันนั้น....”

     

                วันที่ซือโนะจะถูกยิงตาย

                “เธอเป็นใครกัน แล้วเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน”

                “พวกคุณหยุดอยู่แค่นั้นจะดีกว่า ผมแค่มีเรื่องจะคุยกับเด็กคนนี้ซะหน่อย ขอเวลาแค่ครู่เดียวเท่านั้น”

                ซือโนะรู้อยู่แล้วว่าเบียคุรันคนนี้เป็นคนในโลกสิบปีข้างหน้า ก็เลยพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้รุ่นที่ 9 กับดีโน่ทำอะไรพลีพลาม เบียคุรันก็เรียกพูดกับซือโนะด้วยเสียงกระซิบกระซาบว่า

                “ไง ซือจัง ดูเหมือนว่าเวลาจะมาถึงแล้วล่ะ”

                “เวลาอะไรเหรอ หมายความว่ายังไง”

                “ก็ซือจังในอนาคต ฝากให้ผมช่วยน่ะ บอกว่าหากเธอถูกยิงตายก็จะเป็นผลดีในวันข้างหน้า ฉันรู้นะว่าตอนนี้เธอน่ะมีเรื่องวุ่นวายอยู่มากมาย เช่น เดม่อน สเปค เรื่องผู้พิทักษ์เมฆา เธอในอนาคตเลยให้ฉันมาจัดการฆ่าเธอจะได้ ว่าไงดีล่ะ...เหมือนกับว่าได้พักผ่อนน่ะ”

                “ถ้าเป็นยังงั้นฉันก็ตายน่ะสิ...”

                “ไม่หรอก กระสุนเนี่ยเธอในอนาคตเป็นคนออกแบบเอง ชื่อันคือ กระสุนเปรียบเสมือนตาย หรือก็คือเหมือนทำให้ตายแต่ไม่ตายไงล่ะ เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว พร้อมแล้วใช่มั้ย”

                “อือ ยังไงก็แล้วแต่ ฉันเองก็รู้สึกอยากพักผ่อนสุดๆแฮ่ะ”        

                “ดีล่ะ งั้นก็ราตรีสวัสดิ์นะ”

                ปังง!!!!....

                ปึ่งงง! (เสียงประตูถูกพัง)

                “ซือโนะ!!!!!

    “แหมๆๆ ดูเหมือนว่าจะได้ผลดีนะเนี่ย....”

                “นายเป็นใครกัน....แก แกมาจากแฟมิลี่ไหนกัน”

                “ฉันนะเหรอโกคุจัง จะว่ายังไงดีล่ะ อืม บอกได้เลยว่าฉันแค่มาช่วยให้ซือโนะได้พักผ่อนก็เท่านั้นน่ะ อีกอย่างชื่อของฉันคือเบียคุรัน ฉันคงต้องไปแล้วล่ะนะ บ๊ายบาย”

     

                “หมายความว่าท่านซือโนะยังไม่....”

                “แง้! ซือโนะ อยากเจอนายตั้งนานอ่า ฮึกแง้!!!

                “อะ เอ็นมะ ก็บอกไปแล้วไงล่ะว่าเดี๋ยวก็ได้เจอน่ะ แรมโบ้ปล่อย เอาแขนออกไปจากขาฉันเดี๋ยวนี้นะ อ่ะ หยุดเชียวนะ ห้ามเชียว อยานะ!!!

                ซือโนะถูกเพื่อนๆ และเอ็นมะรุมกอดจนต้องลงไปกองราบกับพื้น ทุกคนดีใจกันเป็นอย่างมากที่ซือโนะยังมีชีวิต แต่จากน้ำเสียงของซือโนะนั่น แต่ก่อนจะดูสดใสแต่ในตอนนี้น้ำเสียงของซือโนะกลับกลายเป็นเสียงที่เย็นชาและแข็งกร้าว

                “แอ๊ก หะ...หายใจไม่ออก”

                “ว้าว เห็นช๊อตเด่นด้วยแฮะเรา ว่ายังงั้นมั้ยว่าสึนะจัง”

                “นั้นสิครับ เบียคุซัง งะ...ไง แฮ่ะๆๆ”

                “อ๊ะ อ่า ซะ...ซาวาดะ สึนะโยชิ!!!

                “หวัดดีทุกคน ทุกคนคงจะสงสัยสินะว่าทำไม เราลองไปคุยกันในห้องดีกว่า เอ็นมะคุงขอห้องๆหนึ่งหน่อยสิ นะ....”

                สึนะ (ในอนาคต) พูดแล้วขยิบตาให้ ซึ่งเอ็นมะก็ปฏิเสธไม่ลง ก็เลยให้อเดลไฮด์หาห้องให้พวกพวกสึนะ

                “เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ดีนะที่วันนี้ไม่มีก้างขวางคอพวกเรา เนอะ...เบียคุซัง”

                “อ่า ใช่แล้วล่ะ”

                “เฮ้ย แกยังไงก็ตามบอกมานะว่า แกมาฆ่าท่านซือโนะทำไมกัน”

                “ว่ายังไงดีล่ะ คือว่า...ฉันไม่อยากให้ตัว เอ๊ย น้องสาวต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ หลายอย่างก็เลย...ให้ดูเหมือนกับว่าได้ตายไปแล้ว อะไรๆก็จะได้เปลี่ยนแล้วก็จะได้พักผ่อนไปในตัวยังไงล่ะ”

                “แล้วพักผ่อนเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะสึนะโยชิคุง ก็ในเมื่อซือโนะต้องนอนอยู่ในโลงเป็นปีเชียวนะ”

                “อ้อ คือว่า....เรื่องนั้น....”

     

                “ไงๆๆ ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้งนะ ซือโนะจ๊างงง”

                “อ่ะ ตัวฉันในอนาคตนี่นา อ้าว แล้ว ยังงี้ทุกคนก็รู้สิว่าฉันยังไม่ตายน่ะ”

                “อ้อ ถ้าเรื่องนั่นไม่ต้องห่วงหรอกนะ เพราะว่า...หมอนี้น่ะ”

                “จะ...จางนีนิซัง!!!

                “ไงครับ ท่านซือโนะ ผมขออธิบายเลยล่ะกัน บาซูก้าทศวรรษนั่นถูกปรับปรุงขึ้นโดยผม ซึ่งผมได้ดัดแปลงให้มีการส่งเฟคไปแทนร่างจริงครับ”

                “ฟะ...เฟคเหรอค่ะ”

                “ใช่ครับ เฟคคือร่างปลอมยังไงล่ะครับ หรือก็คือถึงแม้ว่าร่างของคุณจะมาอยู่ในโลกอนาคตสิบปีข้างหน้า แต่ก็มีร่างปลอมของคุณนอนในโลงแทนยังไงล่ะครับ แล้วอีกอย่างเรื่องเวลาเนี่ย ผมได้แก้เป้นว่าหากอยากกลับไปเมื่อไรก็ให้ยิงอีกรอบยังไงล่ะครับ”

                “อ้อ เข้าใจแล้ว เฮ้อ แต่ว่า...รู้สึกดีจังเลยน้า ที่ได้พักผ่อนเนี่ย”

                “ใครว่ากันล่ะฟร่ะ ซือโนะ”

                “สะ..เสียงแบบนี้ นี่มัน ระ รีบอร์น!

                “ฮึ ฉันไม่ให้แกนั่งพักอย่างเดียวหรอกนะ ฉันจะลงคอร์สการฝึก งานแบบผู้หญิง เช่น การชงชา มารยาท แล้วก็ต้องหาห้องให้เธออยู่ด้วย”

                “อ้อ งั้นให้ไปอยู่ฝั่งฉันก็แล้วกันนะเจ้าหนู เพราะยังไงสึนะก็ไปอยู่ฝั่งนู้นด้วยนี่นะ”

                แง๊ะ นี้เราคิดถูกงั้นเหรอ ที่มาอยู่ในโลกนี่น่ะ อย่างงี้มันก็เหมือนกับเมื่อก่อนเลยนี่นา แถมยังมีฮิบาริซังอีกด้วย งานนี้ฝึกกันแบบโคตรหินแน่ๆเลย

     

                “สรุปก็คือ ซือโนะในตอนนี้น่ะมีทั้งความพร้อมและความเก่งกาจในการที่จะบริหารแล้วล่ะนะ เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องต่างๆหรอกนะ”

                “จริงเหรอ สึนะ แหม ดีใจจังเลยแฮะ โอ๊ะ ใช่แล้วล่ะนะ ซือโนะหายตัวไปเป็นปี แล้วเรื่องเรียนล่ะจะทำยังไงดีล่ะ”

                “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันทำได้...”

                ซือโนะที่ตอนแรกดูมีรอยยิ้มที่ทะเล้นสดใส แต่ตอนนี้กลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่ออกแนวดีใจเลย เหมือนกับว่าไม่มีความสุขในชีวิตนี้เลยก็ว่าได้ วันเวลาผ่านไป ซือดนะไม่ได้ออกไปจากที่ตั้งบัญชาการของชิม่อนในอิตาลี มีได้ออกไปพูดคุยกับใครหรือออกไปเดินเล่นหรือเดินเที่ยวกับใคร แม้แต่กับฮิบาริก็ไม่ได้สบตาหรือว่าพูดเลยซักคำ

                “อ้อ โกคุเทระ ชิโทปิจังเค้าอยากจะคุยกับนายน่ะ”

                “อ่ะ ครับ....”

                “เอ็นมะคุง ตรงนั้นมันผิดนะ เบียคุซังช่วยสอนทีครับ”

                “ได้สิ ตรงนั่นน่ะน้า....”

                ฮิบาริที่นั่งอยู่บนต้นไม้ได้แต่มองซือโนะจากข้างนอก ซือโนะก็ไม่ได้สังเกตเห็นแม้แต่น้อย แต่ทว่าภายในใจของฮิบาริแก้คำถามอยู่มากมาย แต่คำถามที่ฮิบาริอยากจะถามซือโนะมากที่สุดนั้นคือ...ทำไม ซือโนะถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

                “ชิส์ นี่ฉันต้องให้ไอ้หมอนั่นมาช่วยงั้นเหรอเนี่ย ช่วยไม่ได้”

                ฮิบาริได้คว้ามือถือออกมาเพื่อคุยกับใครบ้างคน ซึ่งดูเหมือนว่าฮิบาริจะไม่ชอบเอามากที่ต้องมาขอร้องคนแบบนี้

                ก๊อก แก๊กๆๆ

                “ฮืม จดหมาย....”

                จากฮิบาริเหรอ ชิส์ คนยิ่งงานยุ่งอยู่ด้วย         

                ซือโนะ ช่วยมาพบฉันหน่อย ฉันขอเตือนถ้าหากไม่มาล่ะก็เธอจะถูกฉันขย้ำ

               

                “เอาล่ะ ฮิบาริ ฉันมาแล้ว แล้วมีเรื่องอะไรล่ะ บอกไว้ก่อนนะว่านายในตอนนี้น่ะสู้ฉันไม่ได้หรอกนะ กลับกลายเป็นว่านายน่ะแหละจะเป้นฝฝ่ายถูกขย้ำ”

                “อ้อ ไม่หรอก เพราะว่า แปปเดียวก็เสร็จแล้วล่ะ”

                “โฮ่ หมายถึงมุคุคุงน่ะเหรอ ไม่มีทางหรอกนะ จะบอกให้”

                ปั่กกก

                ซือโนะรู้ว่าในตอนนี้มุคุโร่แอบย่องมาจากด้านหลังก็เลยเอาศอกกระทุ้งเต็มแรงไปที่ท้อง ทำให้มุคุโร่ถึงกับจุกจนต้องลงไปกุมท้องกับพื้น

                “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะทำอะไร แต่ว่าตอนนี้น่ะ ฉันต้องไปทำงานก่อน แล้วก็ยังมีเรื่องอีกหลายอย่างที่ฉันต้องคิด ขอตัวก่อนนะฮิบาริ”

                ซือโนะจากไปโดยไม่มีการที่จะเหลี่ยวแลเลยว่าฮิบาริจะรู้สึกยังไงและมุคุโร่เป็นยังไง

                “หว่า ดูท่ารีบอร์นจังจะเล่นหนักไปนะเนี่ย แหมๆ ความคาวาอี่ของซือจังหายไปเกลี้ยงเลย เฮ้อ...มุคุจังก็โดนอัดอีกตังหาก แย่จัง”

                “แก...บอกมาว่าซือโนะกลายเป็นยังงี้ไปได้ยังไง”

                “เอ๊ เรื่องนี้คงต้องไปถามเจ้าตัวเองแล้วล่ะนะ โอ๊ะ ใช่ๆ เดี๋ยวฉันก็คงต้องกลับที่ที่ของฉันแล้วล่ะนะ เอางี้ฉันจะบอกใบ้ให้ก็แล้วกัน คำใบ้นั่นคือ อนาคต กับ เจ้าหนูของนายน่ะนะ หมายถึงใครกันล่ะที่เป็นคนสอนให้ซือจังต้องเป็นหัวหน้าแก๊งที่ดีน่ะ ไปนะ”

                เบียคุรันบอกสิ่งต่างๆ ให้กับฮิบาริเสร็จ ก็กางปีกสีขาวออกแล้วบินไปตรงไปยังบนภูเขาของนามิโมริ

                “อนาคต...เจ้าหนู หรือว่า....”

               

                ปังงง

                “คุณ...เอาออกมาซะ ผมรู้ว่า...มันอยู่ที่คุณ จะให้ฉันหรือเปล่า”

                “ง่ะ...น...นะ...หน้ากากเหล็ก จะ จะเอาอารายคับ”

                “บาซูก้า....ทศวรรษ”

                “อะ...เอาไปเลยฮับ...”

                แรมโบ้เอาปืนบาซูก้าออกมาจากหัวแล้วส่งให้ฮิบาริอย่างว่องไว ฮิบาริก็รับมาแล้วเดินตามหาใครบางคน

                “อยู่ไหนกันนะ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ซาวาดะ ซือโนะอยู่ไหน พอจะรู้มั้ย”

                “อ้อ เห็นว่าอยู่ในห้องประชุมนู้นแน่ะ”

                ฮิบาริรู้ถึงที่อยู่กับตรงไปยังห้องประชุม แล้วก็บุกเขาไปทั้งอย่างนั้น

                ปังงง

                “ฮิบารินายคิดจะ...ล้มฉันคนนี้แน่ใจแล้วเหรอ นายก็รู้นี่นา ว่า...นายไม่มีทางที่จะเอาชนะฉันคนนี้ ที่เปลี่ยนไปขนาดนี้ได้น่ะ”

                “ยังไงซะ คุณก็หนีไปไม่พ้นหรอกนะ จะบอกให้”

                แกร๊กกก

                “บาซูก้าทตศวรรษเหรอ คุณยิงฉันไม่ถูกหรอกนะฮิบาริ คอยดูก็แล้วกันว่า...ฉันจะทำให้คุณถึงกับล้มลงไปเลย”

                “เหรอ...งั้น ลองกันกูก็แล้วกัน”

                “ฮึ แปบเดี๋ยวผมก็แตะตัวคุณได้แล้ว อ่า จับได้ซะแล้วเหรอเนี่ย”

                “เสร็จผมล่ะ...”

                ฮิบาริเล็งเอาไว้แต่แรกแล้วว่าจะให้ซือโนะมาแตะตัว เพื่อที่จะได้ไปยังโลกอนาคตด้วยกัน

                กึ้ก...บรึ้มมมม!!!

                “ซือโนะ เจ้าฮิบาริจะพาซือโนะไปโลกอนาคตทำไมกันนะ...”

                ตุ้บบบบ!

                ฮิบาริหล่นลงมา แต่ก็ยังยืนอยู่ได้ ไม่มีการที่จะล้มลงเลยแม้แต่น้อย ส่วนซือโนะหากเป็นเมื่อก่อนคงจะล้มไปไม่เป็นท่า แต่ในตอนนี้กลับสามารถยืนอย่างมั่นคงไม่มีท่าทีว่าจะล้มลงไปเลยแม้แต่น้อย

                “ซือ...โนะ อะไรกัน มันไม่น่าที่จะ...”

                ปั่กกก

                ฮิบาริใช้ทอนฟาฟาดไปที่ท้ายทอยของซือโนะ ทำให้ต้องสลบไป ต่อหน้าเพื่อนๆในอนาคตทุกๆคน รวมถึงแรมโบ้ ที่อายุได้ 16 ปี

                “นายจะทำอะไรห๊ะ ฮิบาริ ถึงได้มาอาละวาดกันห่ะ”

                “แรมโบ้ นาย...ออกไปซะ ผมรู้ว่า ยังไงนายก็สู้ผมไม่ได้”

                แรมโบ้จำต้องยอมเชื่อฟังเพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางที่จะสู้ชนะได้ และดึงตัวเรียวเฮออกไปด้วยกัน

                “ฮิบาริ แก...บังอาจทำร้ายท่านซือโนะได้นะ แกตายด้วยมือฉันแน่”

                พลั่วกกก

                “คุณเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว”

                “ฮิบาริ นายจะอะไรยังไงก็ได้ แต่ว่า...มาทำกับโกคุเทระยังเงี้ย ฉันคงจะยอมให้นายไม่ได้หรอกนะ”

                “โฮ่ ดูเก่งขึ้นนี่นา ยามาโมโตะ ทาเคชิ แต่ว่า...ไม่มีทางหรอกนะที่จะชนะผมน่ะ”

                ฮิบาริดึงตัวของโกคุเทระคิดแล้วเงื้อทอนฟาเตรียมซัดไปอีกซักรอบสองรอบ ทำให้ยามาโมโตะไม่มีทางเลือก เลยต้องทิ้งอาวุธแล้วก็ถูกฮิบาริซัดจนเจ็บ ถึงขนาดลุกไม่ขึ้น ในตอนนี้เหลือเพียงแค่รีบอร์นเพียงคนเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×